Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่3 การจัดทำระบบเครื่องเสียง

บทที่3 การจัดทำระบบเครื่องเสียง

Published by Pinkaw Aiemsai, 2019-11-16 03:28:06

Description: EBook3

Search

Read the Text Version

ระบบเสียง ระบบเสียง หมายถงึ การนำอปุ กรณ์เครื่องเสียงต่างๆ มาตอ่ เช่ือมกันให้ทำงานอย่างเปน็ ระบบ จงึ เปน็ การ รวบรวมอปุ กรณเ์ กี่ยวกบั เสียงทมี่ ีความสมั พนั ธก์ นั มาจัดใหเ้ กิด ความสมดลุ ในการเชือ่ มตอ่ เพือ่ ใหเ้ กิด ประสิทธภิ าพสงู สดุ ระบบเสยี ง ถอื เป็นระบบท่ีต้องอาศยั ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์เก่ยี ว กับเสียง มาประยุกต์ใชใ้ น การสร้างระบบเพอื่ ตอบสนองการใชง้ านด้านเสยี งโดยเฉพาะ และ อาจมีการใชง้ านรว่ มกับระบบภาพและ แสง ตอ้ งมีการรวมระบบ เข้าดว้ ยกันเปน็ ระบบภาพและเสียง หรือท่ีผู้ใช้สอื่ เรียกวา่ มัลติมเี ดีย และ บางครัง้ อาจรวมระบบควบคมุ แสง เข้ามาดว้ ยโดยเรยี กรวมกนั ว่า AVL ระบบขยายพลังเสียง เรยี กกันอีกแบบว่าระบบ PA ซึ่งย่อมาจากคำว่า Puplic Address ประกอบไป ดว้ ยอุปกรณ์หลักในระบบ คือ ภาครับสัญญาณเสียงขาเขา้ (Audio signal inputs) จาก ไมโครโฟน เคร่ือง เลน่ แผน่ CD และ แหล่งกำเนดิ สัญญาณเสียงอืน่ ๆ มาผสมและปรบั แตง่ ใหเ้ ข้ากันท่ี Audio Mixer ซ่งึ อาจ รวมเคร่ืองประมวลสัญญาณเสียง อยู่ด้วยกนั หรือพว่ งต่อเพม่ิ เติมเข้ามาในระบบ เมอ่ื ได้สญั ญาณเสียงท่ี รวมกนั มาและปรบั แตง่ ตามความตอ้ งการแล้ว จงึ ส่งออกไปทภ่ี าคสญั ญาณเสียงขาออก Audio Signal Outputs และนำสญั ญาณเสียงไปขยายด้วยเครื่องขยายเสยี ง Amplifiers เพื่อขับลำโพง Loundspeakers ให้ เปล่งเสยี งตามทผี่ ู้ออกแบบระบบเสียงน้ันกำหนดพน้ื ทีก่ ารกระจายเสียงและคณุ ลกั ษณะของเสยี งไว้ ระบบขยายพลงั เสียง มีจดุ ประสงคห์ ลกั คือให้คนได้ยนิ ดงั ชัดเจนข้ึน หรือไดย้ ินเสียงโดยทวั่ ถงึ กัน ทำใหเ้ สยี งดังข้นึ เพื่อเหตผุ ลด้านศิลป เพอ่ื ให้คนสนใจหรือตืน่ เต้นในพลงั เสยี งทเี่ หนือธรรมชาติ ทำให้คน สามารถได้ยินเสยี งในบรเิ วณท่ตี ้องควบคมุ จากระยะไกล คือ การส่งสัญญาณเสียงไปขยายให้คนในอีก พนื้ ทห่ี นง่ึ ได้ยินพร้อมกนั กับพน้ื ท่ี กิจกรรมทีเ่ กิดขนึ้ จริง

ระบบเสยี งทางเดยี ว Mono System ◼ เปน็ \"ระบบเสียง“แบบงา่ ยท่สี ุด ใชแ้ หลง่ ข้อมูลในการบันทึกน้อยที่สุดเปน็ ระบบเสียงท่ไี มไ่ ดแ้ ยก ทิศทางของเสยี งไว้ Mono (1 channel ) ◼ คำวา่ MONO น้ีมคี วามหมายว่าอะไร หลายคนคงจะเคยเห็น วทิ ยุทีม่ ลี ำโพงเดยี ว หรือ gramophone เช่น วทิ ยสุ มัยก่อน หลักการของ Mono คอื ส่งสญั ญาณเสยี งออกมาที่ลำโพงตวั หลัง และตวั เดียว ระบบเสียงทางเดียว Mono System เปน็ ระบบทมี่ ีการเดนิ ทางของคลืน่ ไฟฟ้า (ทแ่ี ปลงมาจากคลื่นเสยี ง) เพียงทางเดียวแมว้ ่า แหล่งกำเนดิ เสียงจะมีมากกว่าหนง่ึ แห่งก็ตาม โดยทคี่ ลื่นเสียงจะถูกแปลงให้เปน็ คลื่นไฟฟ้าเข้าส่เู ครือ่ ง ขยายเสยี งท่มี ีวงจงเพยี งชุดเดียว แลว้ ถูกแปลงกลับให้กลายเป็นคล่ืนเสียงอกี ครง้ั หน่ึงออกสลู่ ำโพง ซง่ึ คุณภาพของเสียงที่ออกสู่ลำโพงไมว่ ่ากต่ี วั ก็ตาม จะมีคุณภาพเสยี งทเ่ี ท่ากนั ทกุ ประการ ตวั อยา่ งเครอ่ื ง เสียงท่ีมรี ะบบเสยี งโมโน เช่น เคร่ืองรบั โทรทัศน์ เคร่ืองเล่นแผน่ เสียงขนาดเล็ก เปน็ ต้น ◼ ภาคบันทึกประกอบไปด้วย ◼ ไมค์ 1 ไมค์ ◼ แหล่งบันทกึ 1 ช่องสญั ญาณ

◼ ภาคนำเสนอไปด้วย ◼ แหลง่ บันทกึ 1 ช่องสัญญาณ ◼ เครื่องขยาย 1 ช่อง ◼ ลำโพง 1-2 ตัว ระบบเสยี งสองทิศทาง Stereo System ◼ สเตอริโอ เป็นคำทไี่ ด้ยนิ กนั อย่างกว้างขวาง เป็นการบันทึกเสียงแบบ สองช่องเสียง เสมือนเราไป ยนื อยู่ หนา้ เวที โดยใช้หูของเรา 2 ข้าง ◼ ระบบเสยี งแบบนี้ ถอื ไดว้ า่ เป็นระบบเสยี งมาตรฐานหรือต่ำสดุ ในการบันทึกเพื่อใช้งาน ระบบเสียงสเตอริโอ (Stereo) เปน็ ระบบทม่ี คี ล่ืนเสียงมาจากสองทิศทางผา่ นเคร่อื งขยายเสยี งท่มี ีวงจร การทำงาน 2 ชุด แล้วเข้าสู่ลำโพง 2 ตัว ซงึ่ สามารถแบ่งประเภทของระบบสเตอริโอ ได้หลายประเภท คอื ระบบสเตอรโิ อสองทิศทาง ระบบสเตอรโิ อสามทิศทาง หรอื ระบบสเตอริโอหลายทศิ ทาง เป็นตน้ ใน การบันทึกเสยี งในระบบสเตอริโอ จะมไี มโครโฟน 2 ตวั หรอื มากกวา่ เพ่ือรับเสยี งจากแหลา่ งกำเนดิ เสยี ง ซ่ึงจะทำใหเ้ กิดผลทางเสยี งออกมาทางลำโพง ท่ีเหมือนกับการฟังจากแหล่งกำเนิดเสยี งจริง Stereo (2 channel ) เสยี งแบบ Stereo นจ้ี ะมีความแตกต่างจาก Mono มากพอสมควรทเี ดยี ว โดยในการจัดวางลำโพงน้ัน จะต้องจดั วางลำโพงทง้ั 2 ตัว โดยที่ตัวหนงึ่ อยู่ทางซ้าย และอกี ตัวหนึง่ อยทู่ างขวาของผู้ฟัง โดยเสียงแบบ Stereo นีเ้ ราจะสามารถบอกสถานท่ขี องตำแหนง่ ของเสยี งได้

◼ ภาคบันทึกประกอบไปด้วย ◼ ไมค์ 2 ไมค์ ◼ แหล่งบนั ทกึ 2 ช่องสัญญาณ ◼ ภาคนำเสนอไปด้วย ◼ แหล่งบันทกึ 2 ชอ่ งสญั ญาณ ◼ เครอื่ งขยาย 2 ช่อง ◼ ลำโพง 2 ตัว ซ้ายและขวา Speaker 2.1 channel ลำโพงแบบ 2.1 แชนแนลนี้เป็นลำโพงทีไ่ ดม้ ีการพฒั นามาจากลำโพงแบบ 2 แชนแนล คือจะมีการเพม่ิ ลำโพงซับวูเฟอรเ์ ขา้ มาอีกตัว ซึ่งสามารถเพมิ่ พลงั เสียงเบสขน้ึ มา ทำให้มีเสียงทีด่ ีย่งิ ขึน้ ซง่ึ ในปัจจุบนั ลำโพง แบบนี้เปน็ ลำโพงที่ได้รับความนิยมสูง เนือ่ งจากเปน็ ลำโพงทีม่ รี าคาไม่แพงมากนัก และสามารถให้เสยี งที่ดี สามารถติดตงั้ ได้ง่าย

ระบบเสยี งรอบทิศทาง Quadraphonic System ◼ เป็นระบบเสยี งท่ีพัฒนามา เพื่อให้บนั ทึกได้อยา่ งรอบด้านเสมือน เราไปนัง่ อยู่กลาง วงดนตรี ระบบเสยี งรอบทิศทาง Quadraphonic System ◼ ภาคบันทึกประกอบไปด้วย ◼ ไมค์ 4 ไมค์ ◼ แหลง่ บนั ทกึ 4 ช่องสัญญาณ ◼ ภาคนำเสนอไปด้วย ◼ แหลง่ บนั ทึก 4 ชอ่ งสญั ญาณ ◼ เครอื่ งขยาย 4 ช่อง ◼ ลำโพง 4 ตัว หน้าซา้ ยและขวา หลงั ซ้ายและขวา

4 Point Surround ( 4.1 channel) ลำโพงแบบนี้จะประกอบไปดว้ ยลำโพงมากถงึ 4 ตัว และ subwoofer อีก 1 ตวั เรียกอกี อย่างวา่ เปน็ ลำโพงแบบ 4.1 ซ่ึงลำโพงแบบน้ีต้องใช้คู่กบั ซาวนด์การ์ดที่เป็นแบบ 4.1 ด้วย ซ่งึ เปน็ ระบบท่ีใช้กันมากใน ปจั จุบันนี้ โดยลำโพง 4 ตวั นี้จะจดั อยู่ในตำแหน่งที่ ตา่ งกันคือ หน้าซา้ ย,หน้าขวา,หลงั ซ้าย,หลังขวา และ subwoofer โดยที่ลำโพง Subwoofer นจ้ี ะไมน่ บั เป็น ลำโพงท่ี 5 เพราะเปน็ ลำโพง ทม่ี คี วามถีต่ ่ำ จงึ นบั แค่ .1 ระบบเสียงรอบทิศทาง ◼ \"ระบบเสยี ง\" รอบทิศทาง เป็นการสรา้ งสภาพแวดล้อมของเสยี งโดยใช้อุปกรณ์ทางอิเลคทรอนกิ ส์ ◼ เป็นกระบวนการทค่ี ล้ายกับการทำงานของ ระบบสเตอรโิ อ ◼ ใช้อุปกรณ์ช่วยในการ สร้างสภาพแวดลอ้ มให้เสมือน รอบทศิ ทาง ◼ ภาคบันทึกประกอบไปด้วย ◼ ไมค์ 2 ไมค์ ◼ แหลง่ บันทึก 2 ช่องสัญญาณ

◼ ใช้อปุ กรณช์ ว่ ยในการ สร้างสภาพแวดลอ้ มให้เสมือน รอบทิศทาง ◼ ภาคนำเสนอไปด้วย ◼ แหล่งบันทึก 2 ช่องสญั ญาณ ◼ เครอ่ื งขยาย 2 ช่อง ◼ ตัวหน่วงเสยี ง ◼ ลำโพง 5 ตัว หน้าซ้ายและขวา กลาง หลงั ซา้ ยและขวา

ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 5.1 System ◼ \"ระบบเสยี ง\" AC 3 5.1 Channel Destop Theater 5.1 (6 channel) ◼ โดยลำโพงแบบ 5.1 น้ีจะใหญก่ วา่ ลำโพงแบบ 4.1 ขนึ้ มาอีกหน่อย ที่แตกต่างกค็ ือ จะเพื่ม ช่องสัญญาณ ข้นึ มาอกี 2 Channel ให้กับลำโพงตัวกลางท่ีเพ่ืมเขา้ มาและ subwoofer ลำโพงแบบนี้ จะ support Dolby Digital และ DTS (Digital Theater Systems) Surround systems Speaker 6.1 channel ◼ ลำโพงแบบ 6.1 นี้ กจ็ ะมีขนาดทใี่ หญ่กวา่ ลำโพงแบบ 5.1 ท่บี อกมาข้างต้น มชี อ่ งสัญญาณท่ีเพิ่ม เขา้ มาอกี ลำโพงแตล่ ะตัวจะมกี ารจดั วางที่แตกต่างกัน แลว้ การให้เสียงกม็ ีความแตกตา่ งกันด้วย ◼ ลำโพงแบบน้ีเรมิ่ เป็นทีน่ ิยมมากขึ้นในตอนนี้ สามารถให้เสยี งทีไ่ พเราะ มีคุณภาพเสยี งทดี่ ี

ระบบเสยี งรอบทิศทางแบบ 7.1 System (8 channel) ลำโพงแบบนเ้ี ป็นลำโพงทีห่ รูท่สี ุดในบรรดาลำโพงที่บอกมาขา้ งตน้ และกำลงั เปน็ ที่นยิ มในปจั จุบนั นี้ มี ความแตกตา่ งจาก 5.1 ก็คือจะเพิม่ ลำโพงตรง กลางซ้าย, กลางขวา มาอีก 2 ตัว โดยโหมดนี้ ตอ้ งใช้ควบคู่ ไปกบั ซาวนด์การ์ดทเ่ี ป็นแบบ 7.1 ระบบเสียง Sound System ◼ อุปกรณม์ ลั ติมีเดียต่างๆ น้ัน ไม่วา่ จะเป็น ลำโพง (Speaker) หรือซาวนดก์ าร์ด (Sound Card) นัน้ ได้ มีการพัฒนาอย่างไมห่ ยดุ ย้งั จนมบี างคนถงึ กบั ตามไม่ ทันเทคโนโลยีใหมๆ่ ทมี่ าพร้อมกบั อุปกรณ์ พวกนี้ แต่สิ่งหนง่ึ ท่พี ัฒนาข้นึ อยา่ งต่อเนื่อง คือ ระบบเสยี งท่ีมาพร้อมกบั อปุ กรณ์เหล่าน้ี ระบบเสียง Dolby Digital ◼ เป็นอกี หนง่ึ ในระบบเสยี งคณุ ภาพเสยี งของ Dolby เทคโนโลยขี อง ระบบน้ีคอื กระบวนการสร้าง ระบบเสียงแบบ เซอราวนด์ที่ให้คณุ ภาพเสยี งในรูปแบบของสัญญาณดจิ ิตอลท่ีมคี ุณภาพ และ รองรบั ช่องสญั ญาณเสยี งท่มี ากถึง 5.1 ชอ่ งสัญญาณเสียง โดยมาจากช่องสญั ญาณเสียงทางซ้าย เซ็นเตอร์ ขวา เซอราวนด์--ซ้าย เซอราวนด์ขวาและซบั วเู ฟอร์ท่ใี หค้ วามถ่ีตำ่ ◼ ซง่ึ ระบบ Dolby Digital น้ี เป็นมาตรฐานของระบบเสยี งท่ีได้จากระบบ DVD มีเสยี งท่ีแยกจากกนั อยา่ งเหน็ ได้ชัดและมีการกระจายของเสยี งท่ีดี ระบบเสยี งแบบนีส้ ามารถรับฟงั ไดจ้ ากเคร่อื งเล่น DVD, เคร่ืองเลน่ วิดีโอ, Microsoft Xbox Game Consoles, Digital TV หรือการเช่ือมต่อร่วม กับ อุปกรณ์ตา่ งๆ ท่ีผา่ นสายส่งข้อมูลแบบดจิ ิตอล เปน็ ต้น

ระบบพ้ืนฐานของดีทีเอส ดีทเี อส เปน็ ระบบที่มีความทันสมัย และมีความผดิ พลาดนอ้ ยท่ีสุด ใช้การบีบอัดข้อมูลในระบบดิจติ อล ถา่ ยทอดเสียง โดยใช้ช่องเสียง 5.1 แชนแนล ( ซ้าย , กลาง , ขวา , เซอรร์ าวนดห์ ลงั ซา้ ย ขวา และซบั วูฟ เฟอร์ ) บันทกึ ในระบบ มัลติแทรค็ ลงใน CD - ROM เพ่อื เล่นพร้อมกับการฉายภาพยนตร์ การใช้ CD - ROM แยกต่างหาก ทำใหไ้ ด้คุณภาพเสียงทด่ี ี จำลองเหตุการณไ์ ดเ้ สมอื นจรงิ สามารถปรบั แตง่ เสียงขณะ ทำการมกิ ซ์ ( mixing ) ได้โดยง่าย และบันทึกภาษาต่าง ๆ ได้อยา่ งสะดวกง่ายดาย ไมท่ ำให้คุณภาพของ ภาพตอ้ งเสยี ไป เพราะดีทีเอส ใช้ระบบเสียงทีแ่ ยกออกมาต่างหาก จงึ เปน็ ท่ีนิยมกนั อย่างแพร่หลาย SONY DYNAMIC DIGITAL SOUND (SDDS) ระบบเสยี ง SDDS น้ี ประกอบดว้ ยสัญญาณเสียง 8 ช่องเสียง (หรอื 7.1) โดยเน้นหนกั ทีล่ ำโพงชุดหน้า ในการสรา้ งมิตเิ สียง ตามที่ภาพปรากฎบนจอ สำหรับ โรงหนังขนาดใหญ่ ประกอบด้วยชอ่ งเสียงหนา้ 5 ช่อง (Left,Center-Left, Center, Center-Right, Right) และหลงั 2 ชอ่ ง (Surround-Left, Surround Right) กับ อกี 1ช่องเสยี งสำหรบั Sub-Woofer


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook