Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

nee

Published by neecdd28, 2020-04-29 02:30:41

Description: nee

Search

Read the Text Version

แบบบันทึกองค์ความรรู้ ายบคุ คล นางรชั นี เจะหะ นกั วชิ าการพฒั นาชุมชนชานาญการ สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอระแงะ

แบบบนั ทกึ องค์ความรรู้ ายบคุ คล ๑. ช่ือองคค์ วามรู้ กระบวนการขับเคลื่อนกจิ กรรมครวั เรือนสมั มาชีพโดยนาองคค์ วามรจู้ ากผู้นาปราชญ์ชุมชน ๒. ชอื่ เจ้าของความรู้ นางรชั นี เจะหะ ตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชมุ ชนชานาญการ สังกัด สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอระแงะ จังหวดั นราธวิ าส ๓. หมวดองค์วามร้ทู ี่บง่ ช้ี (ตามแนวทางการจัดการความรู้ของหนว่ ยงาน) องค์ความรหู้ มวดที่ 1 สร้างสรรค์ชมุ ชนพงึ่ ตนเองได้ 4. ทีม่ าและความสาคัญในการจัดทาองค์ความรู้ ปัจจบุ ันน้ี สถานการณ์ที่เกี่ยวขอ้ งกับการประกอบอาชพี ของประชาชนภาคการเกษตรใน ชุมชนมีภาวะ ความเส่ียงของอาชีพภาคเกษตรกรรมท่ีเกิดจากการประกอบอาชีพแบบดังเดิม เช่น ปลูกพืชเชิงเด่ียว โรคพืช ราคาผลผลติ ต่า การไม่มีอาชีพหรือรายได้เสริม หลังฤดูการ ผลิตและยังมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มอาชีพค่อนข้าง น้อย สว่ นกลุ่มอาชพี ท่มี ีอยยู่ ังไมไ่ ดร้ บั การ ส่งเสริม และพฒั นาอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ประชาชนต้องเคล่ือนย้าย ไปประกอบอาชีพในเมือง และมีส่วนราชการท่ีมีสถานท่ีหรือศูนย์ฝึกอบรมซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์ฝึก อาชีพ/แหล่ง เรียนรู้การประกอบอาชีพได้ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าที่ควร ประกอบกับมีปราชญ์ชุมชนด้าน อาชีพที่เชี่ยวชาญและประสบผลสาเร็จในการประกอบอาชีพด้านต่าง ๆ อยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชนแต่มีส่วนน้อยที่ สามารถถา่ ยทอดใหค้ นอน่ื นาไปทาตามให้สาเรจ็ ได้ ดงั นนั้ ดว้ ยเหตปุ จั จัยดงั กลา่ วข้างตน้ การดาเนินการในปี 2562 นี้ จึงมุ่งเน้นที่การ ยกระดับเศรษฐกิจ ฐานรากน่ันคือ “รายได้” ท่ีต้องท้าให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มข้ึน โดยการสร้าง อาชีพจึงเป็นที่มาของ “สัมมาชีพ ชุมชน” ซึ่งกาหนดแผนการสร้างสัมมาชีพชุมชนบนหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่มีเป้าหมาย คือ ประชาชนได้รับการพัฒนาอาชีพและมรี ายไดข้ องครัวเรือนในหมู่บ้าน ให้ชาวบ้านสอนชาวบ้านในส่ิงที่เขาอยาก ทา ฝึกปฏิบัติจริงให้สามารถนาไปเป็นอาชีพได้ เพราะข้อเท็จจริงในทุกพื้นที่จะมีคนเก่งในแต่ละอาชีพอยู่แล้ว เช่น ทานาได้ผลผลิตสูง ทาสวน และ การแปรรูปอ่ืนๆ ซึ่งจะคัดเลือกและจัดเวทีฝึกทักษะการสอนการ เพื่อ นาเสนอให้กบั คนเกง่ เหล่านี้ ยกใหเ้ ปน็ “วทิ ยากรสมั มาชีพชุมชน” 5. รปู แบบ กระบวนการ หรือลาดับขัน้ ตอน ๑) ศกึ ษาและทาความเขา้ ใจในแนวทางการดาเนนิ กจิ กรรมโครงการสง่ เสรมิ การสรา้ งสัมมาชีพชมุ ชน ๒) ประสานความร่วมมือผู้นาชุมชน ปราชญ์ชุมชน และประธานกลุ่มองค์การในชุมชน ตลอดจน บูรณาการความรว่ มมือกบั หนว่ ยงานภาคีในพน้ื ท่ีเป้าหมาย ๓) จัดเวทปี ระชุมชีแ้ จงสรา้ งความเขา้ ใจให้กับกล่มุ เป้าหมายที่เขา้ ร่วมโครงการและผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้อง ในการขับเคลื่อนการดาเนินงาน เพอ่ื ร่วมกันกาหนดแนวทางและเป้าหมายการดาเนนิ งาน ๔) สนับสนุนกจิ กรรมถา่ ยทอดองค์ความรู้ของปราชญช์ มุ ชน และครัวเรือนเป้าหมายผ่านกระบวนการ ถ่ายทอดและแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ เพอื่ ใหท้ ัง้ ปราชญ์และครัวเรือนสัมมาชพี มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกับอาชีพและ สามารถนาไปปฏบิ ัติเปน็ อาชพี ไดจ้ ริง ๕) ศึกษาการดาเนินงานส่งเสริมการพัฒนาอาชีพจากกลุ่ม หรือหมู่บ้านท่ีประสบความสาเร็จในการสร้าง งานสรา้ งอาชีพ เพอื่ เปน็ ต้นแบบในการนาร่องและปรบั ใชก้ บั ใหเ้ หมาะสมกับชมุ ชน

2. ๖) ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมสาธิตอาชีพตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมายซึ่งอาชีพที่ กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจในการฝึกอบรม ๗) สนับสนุนกระบวนการบริหารจัดการดาเนินงานสัมมาชีพในรูปแบบกลุ่มอาชีพ เพื่อให้เกิดการ พัฒนาอยา่ งตอ่ เนือ่ งและยง่ั ยนื 6. เทคนิคในการปฏบิ ตั งิ าน ๑) การกระต้นุ ความคิด ใหก้ ลุ่มเป้าหมายครัวเรือนสัมมาชีพให้เกิดการเข้าใจที่ชัดเจน ภายใต้การน้อม นาเอาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่การปฏบิ ัติ จนเปน็ วิถีชวี ติ ๒) คน้ หาและสร้างผู้นากลุ่มโดยการคัดเลือกปราชญ์ชุมชนในพ้ืนท่ีเป้าหมาย และเป็นผู้ท่ีมีองค์ความรู้ ให้เหมาะสมกบั บรบิ ทของชมุ ชน และสามารถถา่ ยทอดความรู้ใหก้ ับครวั เรือนสมั มาชีพได้อย่างมีประสิทธภิ าพ 3) การให้ความร่วมมือและการมีสว่ นรว่ มของประชาชน ผู้นา กลุม่ องค์กรตา่ งๆในชุมชน 4) การน้อมนาเอาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใหเ้ หมาะสม - ขอ้ พึงระวงั (ถ้ามี) ความต้องการและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายครัวเรือนสัมมาชีพต้องเกิดจากความต้องการ ของกล่มุ ถา้ หากเกิดความตอ้ งการทไี่ ม่ตรงกัน จาเป็นอย่างย่งิ ทกี่ ลมุ่ เปา้ หมายตอ้ งหาข้อสรปุ ให้ได้ 7. ปัญหาท่ีพบและแนวทางการแก้ไขปัญหา งบประมาณสนับสนุนปัจจัยการผลิตครัวเรือนสัมมาชีพไม่เพียงพอต่อการขยายผลผลิต เห็นควรเพิ่ม งบประมาณสนบั สนนุ ในปตี ่อไป 8. ประโยชน์ขององค์ความรู้ คนในหมู่บ้านบ้านเจะ๊ เก ตาบลบาโงสะโต ชว่ ยเหลือพึง่ พาอาศัยกนั แบบชาวบ้านสอนชาวบ้าน เกิดการ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ซ่ึงขยายผลไปสู่การรวมกลุ่มและจัดตั้งกลุ่มอาชีพที่ เข้มแข็งยั่งยืนกอ่ ใหเ้ กดิ ผลิตภณั ฑช์ มุ ชน (OTOP) ตอ่ ไป ************************************


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook