รายงาน การป้องกนั และระงบั อคั คภี ัยในสถานประกอบการ จดั ทาโดย 1. น.ส.เขมจิรา ช่างพานิช 624466004 2. นายธนวฒั น์ ธูปแก้ว 624466010 3. น.ส.จิราภรณ์ บุตนก 624466020 4. นายอภิรักษ์ อม่ิ เฮง 624466036 5. นายอาชา พง่ึ พรหม 624466039 6. น.ส.พฤกษชาติ เกดิ แสงดวง 624466047 7. น.ส.รัชนก เกดิ ปุย 624466049 หมู่เรียน 62/84 เสนอ อาจารย์ จุฑามาส ศรีชมภู รายงานนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของวชิ า 3653409 การจดั การความปลอดภัยและสุขอนามัยในองค์การ คณะวทิ ยาการจดั การ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐมประจาภาคการศึกษาที่ 2/6564
คานา รายงานเร่ืองน้ีเป็ นส่วนหน่ึงของรายวิชา 3653409 การจดั การความปลอดภยั และ สุขอนามยั ในองคก์ ารโดยมีจุดประสงคเ์ พ่ือใชใ้ นการศึกษาขอ้ มูลการป้องกนั และระงบั อคั คีภยั ในสถานประกอบการ โดยนาเอาขอ้ มูลและการจดั การสถานการณ์อคั คีภยั เพื่อ การปฏิบตั ิที่ถูกตอ้ งเมื่อเกิดเหตุอคั คีภยั ผูเ้ ขียนจึงไดน้ าเอา ปัจจยั และผลกระทบต่อ ความเส่ียง การจดั การก่อนเกิดภยั การจดั การขณะเกิดภยั การจดั การหลงั เกิดภยั มารวม ไวใ้ นรายงานเล่มน้ี ทางคณะผูจ้ ดั ทาหวงั ว่า รายงานเล่มน้ีจะเป็ นประโยชน์ต่อนักศึกษาที่ศึกษา วชิ าการจดั การความปลอดภยั และสุขอนามยั ในองคก์ าร หากขอ้ มูลส่วนใดผดิ พลาดไป ทางคณะผจู้ ดั ทาจึงขออภยั ณ ที่น้ีดว้ ย
สารบัญ หน้า การป้องกนั และระงบั อคั คภี ัยในสถานประกอบการ 1 ปัจจยั และผลกระทบต่อความเส่ียง 1 ประเภทอาคารและความเส่ียงดา้ นอคั คีภยั 1 การจดั การสถานการณ์อคั คีภยั 2 การจดั การก่อนเกิดภยั 3 การจดั การขณะเกิดภยั 3 การจดั การหลงั เกิดภยั 4 ประเภทของไฟ 5 ประเภทของสารดบั เพลิง 8 อา้ งอิง
การป้องกันและระงบั อคั คีภัยในสถานประกอบการตอ้ งตระหนักถึงความเสียหายของการเกิด อคั คีภยั ที่เกิดข้ึน โดยมีการนากรณีเหตุการณ์ต่าง ๆ มาแสดงใหเ้ ห็นว่า แต่ละกรณีมีสาเหตุเกิดจากอะไร และ ส่งผลกระทบอะไรบา้ ง เช่น อคั คีภยั ในโรงงานส่งผลกระทบต่อการผลิตและความเช่ือมนั่ ของลูกคา้ เป็นตน้ เมื่อรับรู้ถึงปัจจยั และผลกระทบต่อความเส่ียงอคั คีภยั และเกิดการตระหนกั ข้ึน ก็ตอ้ งมีการลงมือปฏิบตั ิ โดย การที่จะลงมือปฏิบตั ิไดน้ ้นั ตอ้ งมีความรู้ที่ถูกตอ้ ง ไดแ้ ก่ มาตรฐานระบบความปลอดภยั ดา้ นอคั คีภยั ท่ีใชเ้ ป็น แนวทางในการวางระบบอคั คีภยั และเม่ือเห็นความสาคญั ก็จะมีการกระตุน้ ความร่วมมือให้มีการป้องกนั อคั คีภยั โดยไม่ใช่การบงั คบั แต่เป็นการสร้างความร่วมมือซ่ึงเม่ือเกิดอคั คีภยั แลว้ มูลค่าความเสียหายท่ีจะเกิด เทียบกบั มูลค่าการลงทุนระบบการป้องกนั อคั คีภยั น้นั คุม้ ค่ากว่ามากและผปู้ ฏิบตั ิงานในสถานประกอบการ น้ันก็จะเกิดความมนั่ ใจในสถานประกอบกิจการของตนเอง ทาให้เกิดความร่วมมือท่ีจะเรียนรู้ ฝึ กฝน ทดสอบ หรือปฏิบตั ิงานต่าง ๆ ไดด้ ว้ ยความเตม็ ใจและเกิดเป็นทศั นคติท่ีดีภายในองคก์ ร ปัจจยั และผลกระทบต่อความเสี่ยงอคั คภี ยั การเปล่ียนแปลงปรับเปลี่ยนรูปแบบการใชอ้ าคาร ท้งั การดดั แปลงอาคาร การปรับปรุงพ้ืนที่ การเปล่ียน กิจกรรมการใชอ้ าคาร และการเปลี่ยนแปลงดา้ นวสั ดุ เป็นปัจจยั หน่ึงที่อาจส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงในการ เกิดอคั คีภยั ได้ หากไม่มีการประเมินความเสี่ยงและทดสอบระบบอคั คีภยั ก่อนวา่ สามารถใชไ้ ดใ้ นบริบทที่มี การเปลี่ยนแปลงน้ีไดห้ รือไม่ ซ่ึงถา้ ไม่ไดค้ วรมีการปรับเปล่ียนแนวทางการจดั การอคั คีภยั ท่ีเหมาะสม ส่วน ปัจจยั ดา้ นอื่น ๆ ท่ีส่งผลต่อการเกิดอคั คีภยั เช่น ความไม่มีความรู้เรื่องอคั คีภยั ความไม่รู้ขอ้ กาหนดของ กฎหมาย มีระบบอคั คีภยั ที่ไม่เหมาะสม และละเลยในการดูแลและทดสอบระบบป้องกนั อคั คีภยั เป็นตน้ ประเภทอาคารและความเส่ียงด้านอคั คภี ยั อาคารแต่ละประเภทมีการใชว้ สั ดุก่อสร้างท่ีแตกต่างกนั มีลกั ษณะการใชง้ านที่ต่างกนั และความเสี่ยงของ อาคารเก่ากบั อาคารใหม่ ก็มีความเสี่ยงแตกต่างกนั โดยท่ีความเสี่ยงของอคั คีภยั น้ันไม่มีทางเป็ นศูนย์ แต่ ระบบความปลอดภยั จะเป็นตวั ช่วยป้องกนั การเกิดเหตุได้
การจัดการสถานการณ์อคั คภี ัย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท 1. การจดั การก่อนเกิดภยั 2. การจดั การขณะเกิดภยั 3. การจดั การหลงั เกิดภยั การจัดการก่อนเกดิ ภัย 1.การรณรงคป์ ้องกนั อคั คีภยั เป็นแผนเพอื่ ป้องกนั การเกิดอคั คีภยั ในสถานประกอบการ โดยเป็นการสร้างความสนใจ และส่งเสริมในเร่ืองการป้องกนั อคั คีภยั ใหเ้ กิดข้ึนในทุกระดบั ของ พนกั งาน ในแผนการรณรงค์ป้องกันอัคคีภัยควรกาหนดผู้รับผิดชอบ ระยะเวลาดาเนินการ และ งบประมาณใหช้ ดั เจน ตวั อยา่ งหวั ขอ้ ท่ีจะทาการรณรงคป์ ้องกนั อคั คีภยั เช่น - ๕ ส. - การลดการสูบบุหร่ี - การจดั นิทรรศการ - จดั ทาโปสเตอร์ - การใชส้ ื่อต่าง ๆ 2.การอบรมใหค้ วามรู้กบั พนกั งานท้งั ในเชิงป้องกนั และการปฏิบตั ิเม่ือเกิดเหตุ ซ่ึงการเกิดอคั คีภยั ภายในสถานประกอบการ ยอ่ มนามาซ่ึงความสูญเสียต่อธุรกิจการคา้ ท้งั ทางตรงและทางออ้ ม ไม่ วา่ จะเป็นทรัพยส์ ินเสียหาย การผลิต การบริการหยดุ ชะงกั เสียโอกาสการขาย หรืออาจถึงข้นั มีผู้
ท่ีไดร้ ับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตดงั น้ันในการป้องกนั และลดความเสี่ยงดา้ นการ เกิดอคั คีภยั จึงจาเป็ นตอ้ งจัดให้มีแผนการอบรม โดยกาหนดผูร้ ับผิดชอบ ระยะเวลาดาเนินการ และงบประมาณใหช้ ดั เจน ตวั อยา่ งของหลกั สูตรที่ตอ้ งจดั ทาในแผนการอบรม - การจดั ฝึกอบรมการดบั เพลิงข้นั ตน้ ใหก้ บั พนกั งาน - การฝึกซอ้ มดบั เพลิงและฝึกซอ้ มอพยพหนีไฟ ตวั อยา่ งของหลกั สูตรที่ควรจดั ทาในแผนการอบรม - การปฐมพยาบาล - การผายปอดและนวดหวั ใจ 3.แผนการฝึกซอ้ มแผนป้องกนั และระงบั อคั คีภยั แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1.การฝึกซอ้ มเชิงอภิปราย เนน้ การหารือ อภิปรายแผน มาตรการ วธิ ีปฏิบตั ิ เนน้ ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ นโยบายของหน่วยงาน ไม่มีการเคล่ือนยา้ ยทรัพยากรใดๆ 2.การฝึกซอ้ มเชิงปฏิบตั ิการ มีการเคล่ือนยา้ ย ระดมทรัพยากร และบุคลากร มีความซบั ซอ้ น นาแผนนโยบาย และมาตรการไปสู่การปฏิบตั ิจริง พฒั นาประสิทธิภาพของบุคลากร ทีมงาน
การจัดการขณะเกดิ ภัย แผนการอพยพหนีไฟ เม่ือเพลิงไหมข้ ้นั ลุกลาม ใหด้ าเนินการ ดงั น้ี (1).กาหนดใหม้ ี “จุดนดั พบ” หรือ “จุดรวมพล” ท่ีปลอดภยั สาหรับการอพยพเจา้ หนา้ ที่หนีไฟใน หน่วยงาน (2) บุคคลที่มีหนา้ ท่ีตามที่ไดร้ ับมอบหมายปฏิบตั ิหนา้ ที่ทนั ที เช่น ผทู้ ี่ทาหนา้ ท่ีขนยา้ ยทรัพยส์ ิน และเอกสารสาคญั ต่างๆ ใหร้ ีบอพยพหนีไฟ เป็นตน้ (3) ผนู้ าทางหนีไฟ จะเป็ นผนู้ าทางอพยพหนีไฟไปตามทางออกท่ีกาหนดไวเ้ ป็ นจุดนดั พบหรือ จุดรวมพล ห้ามหนีข้ึนขา้ งบนหากอาคารที่ต้งั ไม่มีดาดฟ้า และไม่ควรผ่านดา้ นที่เกิดเพลิงไหม้ หากมีกลุ่มควนั ใหค้ ลานต่า (4) ผมู้ ีหนา้ ที่ตรวจสอบ ให้ตรวจสอบยอดพร้อมรายงานต่อผูบ้ งั คบั บญั ชา หากพบวา่ ยงั อพยพ หนีไฟออกมาไม่ครบตามจานวนจริง จะไดท้ าการคน้ หาเพอื่ ช่วยชีวติ ต่อไป (5) หน่วยปฐมพยาบาลทาการปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ ในกรณีมีผูเ้ ป็นลมบาดเจบ็ หรือหมดสติให้ รีบนาส่งแพทย์ พยาบาลโดยเร็ว (6) ควบคุมไม่ใหใ้ ครกลบั เขา้ ไปในอาคารท่ีเกิดเพลิงไหมเ้ กบ็ ส่ิงของส่วนตวั อีก แผนการดบั เพลิง • การแจ้งเหตุ กรณีเกิดเหตุในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ รายละเอียดขอ้ มูลการ ติดต่อสื่อสาร ผงั การปฏิบตั ิหนา้ ท่ี • การดบั เพลิงข้นั ตอน ผพู้ บเหตุการณ4คนแรกทาการดบั เพลิงข้นั ตอนดว้ ยถงั ดบั เพลิงแบบมือถือ และหากเป็นนอกเวลาราชการ ตอ้ งรู้ตาแหน่งที่ต้งั เมนสวิทซ์ตดั ตอนทางไฟฟ้า (Cut-out) ควรรีบ ตดั ไฟลงก่อน รีบแจง้ เหตุท่ีผอู้ ยเู่ วรยามหรือหน่วยรักษาความปลอดภยั เพ่ือช่วยกนั ดบั เพลิง กรณี ไม่สามารถควบคุมเพลิงไดใ้ หร้ ีบปิ ดหนา้ ต่างประตู ในบริเวณท่ีเกิดเหตุโดยเร็วท่ีสุด ส่งสัญญาณ แจง้ เหตุเพลิงไหมท้ ี่ใกลท้ ่ีสุด แลว้ แจง้ รายงานต่อผบู้ ญั ชาการเหตุการณ์
การจัดการหลงั เกดิ ภัย 1) แผนการบรรเทาทุกข์ ปฏิบตั ิต่อเน่ืองจากข้นั ตอนปฏิบตั ิเม่ือเกิดเหตุ ดงั น้ี • ประสานงานหน่วยงานอื่นท่ีเกี่ยวขอ้ ง เช่น โรงพยาบาล • สารวจ ประเมินความเสียหาย และรายงานสถานการณ์เพลิงไหม้ • การรายงานตวั ของเจา้ หนา้ ท่ีทุกฝ่ าย และกาหนดจุดนดั พบหรือจุดรวมพลของบุคลากร 2) แผนการฟ้ื นฟบู ูรณะ • ใหค้ วามช่วยเหลือและปฏิรูปฟ้ื นฟบู ูรณะข้นั ตอน โดยการจดั ต้งั “หน่วยบรรเทาทุกข”์ ร่วมกบั “หน่วยระงบั ภยั ” • ปฐมพยาบาลผบู้ าดเจบ็ และผปู้ ่ วยจากเหตุเพลิงไหม้ และดาเนินการนาสองอยา่ งถูกตอ้ ง • ขนยา้ ยผปู้ ระสบภยั และทรัพยส์ ินไปยงั ท่ีปลอดภยั • สารวจความเสียหายและความตอ้ งการดา้ นต่าง ๆ •ปฏิบตั ิการประชาสมั พนั ธ์เพอื่ เสริมสร้างขวญั และกาลงั ใจของเจา้ หนา้ ที่ใหก้ ลบั คืนสู่สภาพปกติ โดยเร็ว • ปรับปรุงซ่อมแซมแกไ้ ขความเสียหายใหก้ ลบั คืนสู่สภาพปกติ • รักษาความสงบเรียบร้อยของพ้ืนท่ีเกิดเหต
ประเภทของไฟ 1. Class A เป็นเช้ือเพลิงพ้ืนฐานทวั่ ๆ ไปท่ีเป็นของแขง็ จาพวก ไม้ กระดาษ เส้ือผา้ พลาสติก ยาง ฯลฯ เม่ือเผาไหมแ้ ลว้ จะเหลือเถา้ ถ่าน วิธีการดบั ไฟ : สามารถดบั ไดด้ ว้ ยการทาให้เยน็ ลง หรือการชุบน้า หรือสารเคมีแห้งชนิดต่าง ๆ ได้ 2. Class B เป็นเช้ือเพลิงที่เป็นของเหลวไวไฟ ของเหลวติดไฟ และเช้ือเพลิงที่มีสถานะเป็นก๊าซ ไดแ้ ก่ น้ามนั เบนซิน โพรเพน และแอลกอฮอล์ เม่ือเผาไหมแ้ ลว้ จะไม่เหลือเถา้ ถ่าน วธิ ีการดบั ไฟ : สามารถดบั ดว้ ยการปกคลุม ทาใหค้ ุกรุ่น หรือการใชส้ ารทาลายการเกิดปฏิกิริยา 3. Class C เป็นไฟท่ีมีกระแสไฟฟ้า รวมอยกู่ บั เช้ือเพลิง เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นไฟประเภทเดียว ท่ีไม่เก่ียวกบั ชนิดเช้ือเพลิงโดยตรง แต่ใชก้ ระแสไฟฟ้าท่ีอยใู่ นเช้ือเพลิงเป็นเกณฑใ์ นการจาแนก วิธีการดบั ไฟ : สามารถดบั ไฟโดยตดั กระแสไฟฟ้า (ใชส้ ารดบั เพลิงท่ีไม่นาไฟฟ้า และไม่ทา อนั ตรายกบั ผทู้ าการดบั เพลิง และหา้ มใชน้ ้าฉีดเดด็ ขาด) 4. Class D เป็นเช้ือเพลิงในกลุ่มโลหะเกิดการติดไฟ เช่น แมกนีเซียม เช้ือเพลิงประเภทน้ีจะติด ไฟยาก แต่เมื่อเกิดการลุกไหมข้ ้ึนแลว้ จะทาใหเ้ กิดเพลิงไหมท้ ่ีมีความรุนแรงมาก วธิ ีการดบั ไฟ : สามารถดบั ดว้ ยสารเคมีแหง้ ชนิดพิเศษที่สามารถปกคลมุ และทนต่อความร้อนสูง และหา้ มใชน้ ้าฉีดเดด็ ขาด 5. Class K เป็นเช้ือเพลิงน้ามนั ทาอาหาร น้ามนั พชื น้ามนั จากสตั ว์ และไขมนั วิธีการดบั ไฟ : สามารถดบั ดว้ ยการทาใหอ้ บั อากาศ หากไม่สามารถทาได้ ใหใ้ ชน้ ้ายาโฟมหรือท รายในการดบั ไฟ เครื่องดบั เพลิงที่เหมาะ คือชนิดน้าผสมสารโพแทสเซียมอะซิเตท และหา้ มใช้ น้าฉีดเดด็ ขาด
ประเภทของสารดับเพลงิ 1. ผงเคมีแหง้ ไม่เป็นอนั ตรายต่อมนุษย์ หรือส่ิงมีชีวิตทุกประเภท เหมาะสาหรับใชใ้ นที่โล่งแจง้ บา้ น อาคารขนาดใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม โรงเรียน ใชด้ บั ไฟประเภท A B C แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ไดแ้ ก่ 1. ผงโซเดียมไบคาร์บอเนต + ก๊าซไนโตรเจน 2. ผงโพแทสเซียมอะซิเตท 2. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็ นก๊าซเฉื่อย ไม่ช่วยในการลุกไหม้ ไม่มีสี ไม่มีรส ไม่มีกล่ิน ไม่มี พิษ หนกั กว่าอากาศ 1.5 เท่า ฉีดออกมาแลว้ ไม่เหลือกากไว้ เก็บไดน้ าน ไม่เสื่อมสภาพ เหมาะ สาหรับภายในอาคาร ดบั ไฟท่ีเกิดจากแก๊ส น้ามนั และไฟฟ้า ใชด้ บั ไฟประเภท A B C
3. น้ายาเหลวระเหย ถงั สีเขียว บรรจุน้ายาดบั เพลิงชนิด BF 2000 ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ติดไฟ เหมาะสาหรับในห้อง คอมพิวเตอร์ ห้องซอฟแวร์ ห้องไฟฟ้า อาคาร สานักงาน รถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม ท่ีพกั อาศยั ใชด้ บั ไฟประเภท A B C ถงั สีฟ้า เหมาะสาหรับในบา้ น ดบั ไฟที่เกิดจากน้ามนั ทอดในครัวเรือนได้ เม่ือใช้งานแลว้ ฉีด สารเคมีไม่หมด สามารถนามาใชต้ ่อจนหมดได้ 4. น้ายาโฟม บรรจุน้ายาโฟมในถงั สแตนเลส แรงดนั สูง ฉีดพน่ ออกมาเป็นฟอง คลุมผวิ เช้ือเพลิง ทาให้อบั อากาศ และลดความร้อน เหมาะสาหรับบา้ นพกั อาศยั ปั๊มน้ามนั ร้านขายสี ใชด้ บั ไฟ ประเภท A B
5. น้า สะสมแรงดนั ใชด้ บั ไฟประเภท A
อ้างองิ https://www.tosh.or.th/index.php/blog/item/759-2020-07-24-08-43-59 https://www.tosh.or.th/index.php/blog/item/472-2019-02-06-07-14-12
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: