Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนหลักสูตรต้านทุจริต วิชาลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ นายธนวรรธน์ ศรีสาเนตร

แผนการสอนหลักสูตรต้านทุจริต วิชาลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ นายธนวรรธน์ ศรีสาเนตร

Published by khunthanawut.srisanat, 2022-09-14 07:25:17

Description: แผนการสอนหลักสูตรต้านทุจริต วิชาลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ นายธนวรรธน์ ศรีสาเนตร

Search

Read the Text Version

๗. ภาคผนวก แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานของผูเ้ รยี นเป็นรายบุคคล พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรับ ทำงาน หมายเหตุ ที่ ความสนใจ ความ คำถาม ฟังคนอนื่ ตามทไ่ี ด้รับ มอบหมาย ช่อื -สกุล คดิ เห็น ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ รวม เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรมดงั น้ี ดมี าก = ๔ สนใจฟัง ไมห่ ลับ ไม่พูดคุยในชน้ั มีคำถามท่ดี ี ตอบคำถามถกู ต้อง ทำงานส่งครบตรงเวลา ดี = ๓ การแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ ๗๐% ปานกลาง = ๒ การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ ๕๐% ปรบั ปรงุ = ๑ เขา้ ชั้นเรียน แต่การแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงเวลา ลงชื่อ…………………………...........…….ผู้ประเมนิ (นายธนวรรธน์ ศรีสาเนตร) …………/…………/………..

แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ สมาชิกในกลุ่ม กลมุ่ .......................................................................................................... ๑. ...................................................................... ๒. ...................................................................... ๓. ...................................................................... ๔. ...................................................................... ๕. ...................................................................... ๖. ...................................................................... คำช้แี จง ให้ลกู เสอื -เนตรนารีใส่เครือ่ งหมาย ✓ ในชอ่ งทตี่ รงกับความเปน็ จริง พฤติกรรมทสี่ ังเกต คะแนน ๑ ๓๒ ๑. มสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ ๒. มีความกระตือรอื ร้นในการทำงาน ๓. รับผิดชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย ๔. มีขั้นตอนในการทำงานอย่างเปน็ ระบบ ๕. ใชเ้ วลาในการทำงานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ทำเปน็ ประจำ ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมทีท่ ำเป็นบางครั้ง ให้ ๒ คะแนน พฤตกิ รรมทท่ี ำน้อยครัง้ ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๓ - ๑๕ ดี ๘ - ๑๒ ๕-๗ ปานกลาง ปรับปรงุ

ใบงาน เร่ือง รูส้ กึ อยา่ งไรกบั ภาพต่อไปนี้ ช่ือ....................................................สกุล....................................................ช้ัน................เลขท่.ี ......... โรงเรียน ........................................................................................... คำช้แี จง ใหล้ ูกเสือ-เนตรนารีดภู าพและวเิ คราะห์ว่าภาพดังกลา่ วเกิดผลเสียอยา่ งไร มีวิธีการแก้ไขอยา่ งไร ผลเสีย คอื .............................................................................................. .............................................................................................. .............................................................................................. วธิ กี ารแก้ไข .............................................................................................. .............................................................................................. .............................................................................................. ผลเสีย คอื .............................................................................................. .............................................................................................. .............................................................................................. วิธีการแกไ้ ข .............................................................................................. .............................................................................................. .............................................................................................. ผลเสีย คือ .............................................................................................. .............................................................................................. .............................................................................................. วิธกี ารแกไ้ ข .............................................................................................. .............................................................................................. ..............................................................................................

หน่วยที่ ๓ STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ รติ

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่ ๓ ช่ือหน่วย STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทจุ รติ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ เรอื่ ง การประกอบอาชพี โดยใชว้ สั ดุท้องถน่ิ ตามหลัก STRONG : กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน จติ พอเพยี ง ต้านทุจรติ รายวชิ า ลกู เสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้น มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ - ๓ เวลา ๑๐ ชวั่ โมง ครผู สู้ อน นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร โรงเรยี นวดั แหลมฉบัง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ STRONG : จิตพอเพยี งต้านทุจริต ๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนเป็นผทู้ ่ี STRONG : จติ พอเพียงต้านทุจรติ ๑.๓ ตระหนักและเห็นความสำคัญของการต่อต้าน และปอ้ งกนั การทุจรติ 1. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ เลอื กใชว้ ัสดทุ ้องถ่นิ อปุ กรณ์ และเคร่อื งมอื ทเี่ หมาะสมกบั งาน และประหยัดตามหลัก STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ ริต ๒.๒ ลกู เสอื -เนตรนารีตระหนักถึงแนวทางการประกอบอาชีพโดยใช้วัสดุทอ้ งถิน่ ตามหลัก STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทจุ ริต ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ การประกอบอาชีพโดยใช้วัสดุท้องถ่ินการประกอบอาชีพโดยใชว้ สั ดุท้องถิน่ ตามหลัก STRONG : จติ พอเพยี งต้านทุจรติ ๑) การทำน้ำยาล้างจาน ๒) การนวดแผนโบราณ ๓) การซ่อมรถจักรยาน ๔) การปุย๋ ชีวภาพ ๕) การให้บริการโฮมสเตย์ 4. ข้นั ตอนการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ ๑ - ๒ ๑) ครแู บ่งลูกเสือ-เนตรนารีออกเปน็ กลมุ่ จำนวน ๕ กลุม่ ศกึ ษาใบความรู้ “กรณีของ พล.ต.ท.พงศ์พฒั น์ ฉายาพันธ์ุ” ให้ช่วยกันเขียนแสดงความคิดถึงส่ิงที่เกิดข้ึนสะท้อนปัญหาในหลายด้านของสังคมไทยลงในใบงานท่ี ๑ เร่ือง จิตพอเพียงต้านการทุจริต จากนั้นลูกเสือ-เนตรนารีตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอครูเปิดคลิปวิดีโอ “ชีวิต พอเพียง ตามรอยพ่อ” ให้ลูกเสือ-เนตรนารีดูจากนั้นให้ลูกเสือ-เนตรนารีเขียนแสดงความรู้ถึงวิธีการใช้ชีวิตแบบ พอเพียงว่าควรทำอะไรบา้ ง จากนั้นให้ลกู เสอื -เนตรนารีออกมาพดู หนา้ ชั้นเรยี น ๒) ครูและลูกเสือ-เนตรนารีช่วยกันสรุปข้อคิดท่ีได้จากการอ่านข่าว และลูกเสือ-เนตรนารีสามารถ แยกแยะพฤติกรรมทแ่ี สดงถึงความทจุ รติ ๓) ครูเปิดคลิปวีดีโอ “ชีวิตพอเพียง ตามรอยพ่อ” ให้ลูกเสือ-เนตรนารีดูจากน้ันให้ลูกเสือ-เนตรนารี เขยี นแสดงความรู้ถึงวิธีการใชช้ ีวติ แบบพอเพียงว่าควรทำอะไรบา้ ง จากน้ันให้ลูกเสอื -เนตรนารีออกมาพดู หนา้ ช้นั เรียน

๔) ครูอธิบายความหมายของความพอเพียง พอประมาณ มีเหตุผล การเดินสายกลางตาม แนวพระราช ดำรัส ๕) ครูเชื่อมโยงความพอเพียงการประกอบอาชีพโดยใช้วัสดุท้องถ่ินตามหลักหลัก STRONG : จิต พอเพียงต้านทุจรติ โดยกำหนด ๕ กลุ่มอาชีพ ได้แก่ ๑) การทำน้ำยาล้างจาน ๒) การนวดแผนโบราณ ๓) การซ่อม รถจักรยาน ๔) การทำปยุ๋ ชีวภาพ และ ๕) การใหบ้ รกิ ารโฮมสเตย์ โดยให้แต่ละกลุม่ ระดมความคดิ ลงในกระดาษ ๖) ลกู เสอื -เนตรนารีแบ่งกลมุ่ รบั ผดิ ชอบตามหัวข้อการใช้วสั ดุท้องถิ่นการประกอบอาชีพการทำ นำ้ ยาลา้ งจาน จำนวน ๕ กลมุ่ ๗) ให้ลูกเสือ-เนตรนารีแตล่ ะกลุ่มระดมความคิดลงในกระดาษชารต์ ตามหลัก STRONG : จิตพอเพียง ต้านทุจรติ ๘) ครูใหล้ ูกเสอื -เนตรนารีออกมานำเสนอหนา้ ชัน้ เรียนพร้อมทั้งใหข้ ้อเสนอแนะ ชว่ั โมงท่ี ๓ - ๔ ๑) ลูกเสอื -เนตรนารีแบง่ กลุ่มรับผิดชอบตามหวั ข้อการใช้วสั ดุทอ้ งถ่ินการประกอบอาชีพการนวดแผน โบราณ จำนวน ๕ กลุม่ ๒) ให้ลูกเสอื -เนตรนารีแต่ละกลุ่มระดมความคิดลงในกระดาษชารต์ ตามหลกั STRONG : จิตพอเพียง ต้านทจุ รติ ๓) ครใู หล้ ูกเสือ-เนตรนารีออกมานำเสนอหน้าชนั้ เรียนพรอ้ มทง้ั ใหข้ ้อเสนอแนะ ชั่วโมงท่ี ๕ - ๖ ๑) ลูกเสอื -เนตรนารีแบ่งกลมุ่ รับผิดชอบตามหัวข้อการใชว้ ัสดทุ ้องถิ่น การประกอบอาชีพการซ่อม รถจักรยาน จำนวน ๕ กลมุ่ ๒) ให้ลูกเสือ-เนตรนารีแต่ละกลมุ่ ระดมความคดิ ลงในกระดาษชารต์ ตามหลัก STRONG : จิตพอเพยี ง ตา้ นทจุ ริต ๓) ครูให้ลูกเสือ-เนตรนารีออกมานำเสนอหน้าช้ันเรียนพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะ ชัว่ โมงที่ ๗ - ๘ ๑) ลูกเสือ-เนตรนารีแบ่งกลุ่มรบั ผดิ ชอบตามหัวข้อการใชว้ สั ดทุ อ้ งถ่นิ การประกอบอาชีพการทำปุ๋ย ชวี ภาพจำนวน ๕ กลุ่ม ๒) ให้ลกู เสือ-เนตรนารีแต่ละกลุม่ ระดมความคดิ ลงในกระดาษชารต์ ตามหลัก STRONG : จติ พอเพยี ง ต่อตา้ นทุจรติ ๓) ครใู ห้ลูกเสือ-เนตรนารีออกมานำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี นพร้อมทั้งใหข้ ้อเสนอแนะ ชว่ั โมงที่ ๙ - ๑๐ ๑) ลูกเสอื -เนตรนารีแบง่ กลุ่มรับผดิ ชอบตามหวั ข้อการใช้วสั ดุทอ้ งถนิ่ การประกอบอาชีพการใหบ้ ริการ โฮมสเตย์ จำนวน ๕ กลุ่ม ๒) ให้ลูกเสอื -เนตรนารีแต่ละกลุ่มระดมความคดิ ลงในกระดาษชารต์ ตามหลัก STRONG : จิตพอเพียง ต้านทจุ รติ ๓) ครูใหล้ กู เสือ-เนตรนารีออกมานำเสนอหนา้ ชน้ั เรียนพร้อมท้ังใหข้ ้อเสนอแนะ

๔.๒ สอื่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑) ใบความรู้ เรื่อง ข่าวการทุจรติ “พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพนั ธุ์” ๒) ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง จิตพอพียงตา้ นทุจริต ๓) คลปิ วิดโี อ “ชีวติ พอเพียงตามรอยพ่อ” (สำนกั ขา่ วไทย อสมท.) 5. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านของลูกเสอื -เนตรนารีแต่ละกลุ่ม ๒) ตรวจผลงานบันทกึ การวเิ คราะห์ข่าว ของแต่ละกลุ่ม ๓) สังเกตพฤตกิ รรมการนำเสนอผลงานของแตล่ ะกลุ่ม ๔) ตรวจใบงานสรุปผลพฤตกิ รรมการทุจริตโดยไมพ่ อเพียง ๕) การแต่งคำขวญั ๕.๒ เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานของลูกเสือ-เนตรนารีในการเข้าร่วมกลมุ่ ๒) แบบบนั ทกึ การใหค้ ะแนนการวิเคราะห์ข่าว ของแต่ละกลุ่ม ๓) แบบประเมนิ การนำเสนอผลงานของแต่ละกลุม่ ๔) แบบประเมนิ การแต่งคำขวัญ ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน ๑) เกณฑ์การประเมนิ กจิ กรรม ๒) เกณฑก์ ารประเมินกิจกรรมวิธนี ำเสนอผลงานของแต่ละกลมุ่ ๖. บันทึกหลงั สอน ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................... ...................................................................... ................................................................................................................................. .................................... ลงชอ่ื ................................................ ครูผู้สอน (นายธนวรรธน์ ศรีสาเนตร) ................/.................../............. ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ......................................................................................................................................................................... ................ ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเพ็ญแข เสริมศร)ี ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดแหลมฉบงั

๗. ภาคผนวก ใบความรู้ เร่ือง ข่าว การทุจรติ “พลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ” ศาลแพ่ง พิพากษาส่ังริบทรัพย์กว่า ๑,๐๐๐ รายการ รวม ๒๕ ล้านบาทเศษ \"พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ\" อดีต ผบช.ก. ตกเป็นของแผน่ ดิน ศาลแพ่ง รัชดา อ่านคำพิพากษา ในคดีที่ พนักงานอัยการ ย่ืนคำร้องขอให้ศาลมีคำส่ังริบทรัพย์สิน พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ อดีต ผบช.ก. รวม ๑,๐๑๔ รายการ มูลค่ากว่า ๒๕ ล้านบาท พร้อมดอกเบ้ีย ให้ตกเป็นของ แผน่ ดิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒ กรณสี ืบเน่ืองจาก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กบั พวกมี พฤติการณ์กระทำผิดเก่ียวกับตำแหน่งหน้าที่ราชการและความผิดเก่ียวกับ การพนัน โดยขณะดำรงตำแหน่งเป็น ผบช.ก. ได้รว่ มกับ พวกเรียกร้องเงินจากข้าราชการตำรวจที่ขอแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งสำคัญ รายละ ๓,๐๐๐,๐๐๐ - ๕,๐๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เม่ือได้รับแต่งต้ังแล้วต้องนำเงินส่งให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นรายเดือนๆ ละ ๑๐,๐๐๐ - ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท นอกจากน้ี พล.ต.ท.พงศพ์ ัฒน์ กับพวก ร่วมกันเรียกรบั ผลประโยชน์จากผู้ประกอบธุรกิจค้านำ้ มันเถอ่ื นทางน้ำ เป็นเงินเดือนละ ๒,๐๐๐,๐๐๐ - ๕,๐๐๐,๐๐๐ ล้านบาท และยังร่วมกับพวกเช่าสถานบริการอาบอบนวดโคลอนเซ่ เพอื่ เปดิ บ่อนการพนันถัว่ ครอบ ตอ่ มา พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกศาลพิพากษาลงโทษในคดีอาญา ในหลายข้อหา โดยอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาล แพ่ง มีคำสั่งยึดทรัพย์ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ จำนวน ๑,๐๑๔ รายการ พร้อมดอกเบี้ยให้ตกเป็น ของแผ่นดิน ซ่ึงไม่มีผู้ใด คัดค้าน ศาลพิเคราะห์แล้ว เหน็ ว่า พล.ต.ท.พงศพ์ ัฒน์ รับราชการตำรวจ มีรายไดจ้ ากเงินเดือนทางราชการ อีกทงั้ ไม่ มีหลกั ฐานมาแสดงวา่ มีรายได้พิเศษ อยา่ งอนื่ แตก่ ลับมีทรัพย์สินต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก โดยทรัพย์สนิ ๑,๐๑๔ รายการ มีมูลค่าถึง ๒๕ ล้านบาท เศษ โดยไม่สามารถแสดงถึงการได้มาโดยชอบของทรัพย์สินดังกล่าวได้ จึงรับฟังได้ว่าทรัพย์สินตามรายการข้างต้น เป็นทรพั ย์สินท่เี กีย่ วขอ้ งกบั การกระทำความผดิ จึงมีคำสั่งให้ทรพั ย์สนิ ดังกลา่ วตกเป็นของแผ่นดนิ

ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง จติ พอเพียงตา้ นการทจุ ริต ************************************************************************************************* พฤติกรรมท่ีทุจรติ โดย ไมม่ ีความพอเพียง

ประเมิน แบบบนั ทกึ พฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม กลมุ่ ที่ (ชื่อกลุ่ม) .......................................................................................................... สมาชกิ ในกลุ่ม ๑. ...................................................................... ๒. ...................................................................... ๓. ...................................................................... ๔. ...................................................................... ๕. ...................................................................... คำชแี้ จง ให้นักเรียนใส่เคร่อื งหมาย ✓ ในช่องที่ตรงกับความเป็นจริง พฤตกิ รรมทส่ี ังเกต ๓ คะแนน ๑ ๒ ๑. มคี วามสามัคคีและมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น ๒. มคี วามกระตือรือรน้ ในการทำงาน ๓. รบั ผดิ ชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ๔. มขี น้ั ตอนในการทำงานอยา่ งเป็นระบบ ๕. ใช้เวลาในการทำงานอย่างเหมาะสม ๖. ความซื่อสตั ยส์ ุจริต ในการทำงานดว้ ยตนเอง รวม เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมท่ีทำเป็นประจำให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมท่ีทำเป็นบางครั้งให้ ๒ คะแนน พฤตกิ รรมที่ทำนอ้ ยครัง้ ให้ ๑ คะแนน

เกณฑก์ ารให้คะแนนผลงาน รายการประเมิน คะแนน ๑. ผลงานตรงกบั ๔๓๒ ๑ จุดประสงค์ ท่ีกำหนด ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานไม่ กับจุดประสงค์ กับจุดประสงค์ กับจดุ ประสงค์ สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์ ๒. ผลงานมคี วาม ทุกประเด็น เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น ถูกต้องสมบูรณ์ เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนื้อหาสาระของผลงานไม่ ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถูกต้องเป็น ถกู ต้องเปน็ ส่วนใหญ่ ๓. ผลงานมี ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเด็น ความคิด ผลงานมีความคดิ ผลงานมีความคดิ ผลงานมีความ ผลงานไมน่ ่าสนใจไม่มี สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ แตย่ งั น่าสนใจ แตย่ ังไม่มี ความคิดสรา้ งสรรค์แปลก แปลกใหม่ ไม่เป็นระบบ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ใหม่ ๔. ผลงานมีความ และเปน็ ระบบ แปลกใหม่ เป็นระเบียบ ผลงานมีความเป็น ผลงานสว่ นใหญ่ มี ผลงานมีความเป็น ผลงานสว่ นใหญ่ไม่เปน็ ระเบยี บ แสดงออก ความเป็นระเบียบ ระเบยี บ แต่มีข้อ ระเบียบและ ๕. ผลงานเสร็จ ถึงความประณตี แตย่ งั มีข้อบกพร่อง บกพร่องบางสว่ น มีข้อบกพร่อง ตามเวลาท่ี เล็กน้อย กำหนด ส่งผลงานตามเวลา สง่ ผลงานชา้ กวา่ สง่ ผลงานช้ากวา่ สง่ ผลงานช้ากว่าเวลาที่ ทกี่ ำหนด เวลาทก่ี ำหนด เวลาท่ีกำหนด กำหนด ๑ - ๒ วนั ๓ - ๕ วนั เกิน ๕ วนั ขึน้ ไป เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ๑๗ – ๒๐ ดีมาก ๑๓ – ๑๖ ดี ๙ – ๑๒ พอใช้ ๕–๘ ปรับปรงุ

แบบประเมินการนำเสนองาน หัวข้อ ความ การเตรยี ม ตอบข้อ ชัดเจน ม-คี วาม ความพร้อม สงสยั ได้ ในการ ตอบข้องสัย พอพียง นำเสนอ ไดต้ รง ตรง สามารถ ประเด็น ไม่ทุจริต ขอ้ ชอื่ / กลุ่ม ประเด็น มองเหน็ ได้ ผ้นู ำเสนองาน ชัดเจน ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ คะแนน๙-๑๐ ระดบั คณุ ภาพ ๔ หมายถงึ ดมี าก คะแนน๗-๘ ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี คะแนน๕-๖ ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ น ต้งั แต่ระดบั คณุ ภาพพอใช้ขน้ึ ไป สรปุ ผ่าน ไม่ผ่าน

หน่วยท่ี ๔ พลเมอื งกบั ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี ๓ ชื่อหน่วย พลเมอื งกับความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ เรือ่ ง องค์ประกอบของการศึกษาความเป็นพลเมือง กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน รายวชิ า ลูกเสือสามัญรนุ่ ใหญ่ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ - ๓ เวลา ๓ ชว่ั โมง ครูผสู้ อน นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร โรงเรยี นวัดแหลมฉบงั ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สงั คม ๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ที่พลเมืองและมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม ๑.๓ ตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกนั การทุจริต ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ ลกู เสือ-เนตรนารีอธิบายองคป์ ระกอบของการศึกษาความเปน็ พลเมือง ๒.๒ ลูกเสอื -เนตรนารีบอกวธิ กี ารปฏิบตั ติ นตามสทิ ธิ เสรภี าพ และหน้าท่ีที่รบั ผดิ ชอบของตนเองและผอู้ ่ืนได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) องคป์ ระกอบของการศกึ ษาความเปน็ พลเมือง - ความรบั ผิดชอบทางสังคม - ความเกีย่ วพันกับชุมชน ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๓) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๓.๓ คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ / ค่านยิ ม ความมวี นิ ัย ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ ๑ – ๒ ๑) ครูชแี้ จงจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ให้ลูกเสือ-เนตรนารีทราบ ๒) ลกู เสือ-เนตรนารีแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ ๕-๖ คน (ตามความเหมาะสม) ๓) มอบหมายใหส้ มาชิกภายในกลมุ่ คดั เลือก ประธาน รองประธาน เลขานุการฯ ตามกระบวนการกลุ่ม ๔) แต่ละกลุ่มตงั้ ชื่อกลมุ่ โดยครสู งั เกตกระบวนการกลมุ่ ในประเด็นการยอมรบั ฟังความคิดเห็นของสมาชิก ภายในกลุ่ม ๕) เมื่อได้ชอื่ กลุ่มแตล่ ะกลุ่มนำเสนอ ช่ือกล่มุ ทลี ะกลุ่มจนครบ

๖) ครู ลูกเสอื -เนตรนารี ร่วมกันสนทนา อภิปรายกระบวนการทีไ่ ด้มาซ่งึ ช่ือกล่มุ แต่ละกล่มุ โดยครชู ้แี นะให้ ลูกเสอื -เนตรนารีพบว่าการยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของสมาชกิ ภายในกล่มุ จากนนั้ สืบคน้ เกีย่ วกบั องค์ประกอบของ การศึกษาความเป็นพลเมืองในประเด็นความรบั ผดิ ชอบทางสงั คมและความเกย่ี วพันกับชมุ ชน โดยเขียนสรปุ ความรลู้ ง ในกระดาษชาร์ต ชั่วโมงที่ ๓ ๑) สนทนาอภปิ รายเก่ียวกับ “ความรบั ผดิ ชอบทางสังคมและความเก่ยี วพันกับชุมชน” ๒) ครตู ิดกระดาษชาร์ต หนา้ ชั้นเรียน เพ่อื แสดงผลงานของลกู เสือ-เนตรนารี ๓) สนทนาอภปิ รายสรุป องคป์ ระกอบของการศึกษาความเป็นพลเมอื ง พร้อมทงั้ เช่ือมโยงการนำความรไู้ ป ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวันเรื่อง ความรบั ผิดชอบทางสงั คมและความเกยี่ วพันกับชมุ ชน ๔.๒ สือ่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ กระดาษชาร์ต ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ - การสงั เกต ๕.๒ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมิน - แบบประเมนิ การทำงานกลุม่ ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ - ผเู้ รียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ การทำงานกลุม่ ๑๗ คะแนน ขนึ้ ไป

๖. บันทกึ หลังสอน ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................... ..................................................................................... ลงชือ่ ................................................ ครูผสู้ อน (นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร) ................../.................../............. ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรือผู้ที่ได้รบั มอบหมาย .................................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................... ................................................................. ลงช่อื ....................................................... (นางสาวเพญ็ แข เสรมิ ศร)ี ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวัดแหลมฉบัง

๗. ภาคผนวก แบบประเมินการทำงานเป็นกลุ่ม กลมุ่ ที่……………....ช้ัน………………………...เรื่อง……………………………..……………………………............... ผูป้ ระเมนิ ครูผสู้ อน ลูกเสือ-เนตรนารี อนื่ ๆ คำชี้แจง เมอ่ื ผู้ประเมินอ่านข้อความแตล่ ะข้อแลว้ ให้ตอบในเรือ่ งที่ตรงกับการปฏบิ ัตขิ องลูกเสอื -เนตรนารีมากท่สี ุดคือ - ไม่ปฏบิ ัตเิ ลยใหใ้ ส่ ✓เคร่ืองหมายลงในช่องคะแนน ๑ - ปฏิบัตเิ พยี งเล็กน้อยใหใ้ ส่ ✓เครอื่ งหมายลงในชอ่ งคะแนน ๒ - ปฏบิ ัตเิ ปน็ คร้ังคราวใหใ้ ส่เคร่อื งหมาย ✓ลงในชอ่ งคะแนน ๓ - ปฏบิ ตั ิบอ่ ยๆใหใ้ ส่เคร่อื งหมาย ✓ลงในช่องคะแนน ๔ - ปฏิบัตเิ ป็นประจำให้ใส่เครื่องหมาย ✓ลงในชอ่ งคะแนน ๕ พฤตกิ รรมทีต่ ้องประเมนิ ๕ ๔๓ ๒ ๑ ๑. การวางแผนการทำงานรว่ มกัน ๒. การแบง่ หน้าที่รบั ผิดชอบในกลมุ่ ๓. การให้ความร่วมมอื ของสมาชิก ๔. การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อื่นและการแสดงความ คิดเหน็ ๕. การแกป้ ญั หาภายในกลุ่ม รวม เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน ๑๗ คะแนนขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ผ่าน ลงชือ่ ……….......……........…………..……..ผู้ประเมิน (นายธนวรรธน์ ศรีสาเนตร) ................./.................../.............

แบบประเมนิ ผลการสนทนา กลุ่มที่…………….....ช้นั ……………………… เรอื่ ง……………………………..………………………….................….. ผ้ปู ระเมิน ครผู สู้ อน ลูกเสอื -เนตรนารี อืน่ ๆ ที่ รายการประเมนิ คะแนนทไ่ี ด้ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ เนอ้ื หา (๔ คะแนน) คะแนน ๔ มีครบทุกข้อ ๑. เนอื้ หาครบถ้วนสมบูรณ์ คะแนน ๓ มี ๓ ข้อ ขาด ๑ ข้อ ๒. เนอื้ หาถกู ต้อง คะแนน ๒ มี ๒ ข้อ ขาด ๒ ข้อ ๓. เนอื้ หาต่อเนื่อง คะแนน ๑มี ๑ ข้อ ขาด ๓ ข้อ ๔. มีการคน้ คว้าเพ่ิมเตมิ ๒ กระบวนการทำงาน (๒ คะแนน) คะแนน ๒ มีครบทุกข้อ ๑. มกี ารวางแผนอย่างเปน็ ระบบ คะแนน ๑ มี ไมค่ รบ ๔ ข้อ ๒.การปฏบิ ตั ิตามแผน คะแนน ๐ ไม่ปรากฏ ๓. ติดตามประเมนิ ผล กระบวนการทำงานทช่ี ัดเจน ๔. การปรบั ปรงุ พัฒนางาน ๓ การนำเสนอ (๒ คะแนน) คะแนน ๒ มีครบทุกข้อ ๑. การใช้สำนวนภาษาดถี กู ต้อง คะแนน ๑.๕ มี ๓ ข้อ ขาด ๑ ขอ้ ๒. การสะกดและไวยากรณ์ถูกต้อง คะแนน ๑ มี ๒ ข้อ ขาด ๒ ข้อ ๓. รูปแบบน่าสนใจ คะแนน ๐.๕ มี ๑ ขอ้ ขาด ๓ ขอ้ ๔. ความสวยงาม ๔ คณุ ธรรม (๒ คะแนน) คะแนน ๒ มีครบทุกขอ้ ๑. ตรงต่อเวลา คะแนน ๑.๕ มี ๓ ขอ้ ขาด ๑ ข้อ ๒. ซ่ือสัตย์ คะแนน ๑ มี ๒ ข้อ ขาด ๒ ข้อ ๓. ความกระตือรือรน้ คะแนน ๐.๕ มี ๑ ข้อ ขาด ๓ ข้อ ๔. ความมีน้ำใจ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน รวม เฉลี่ย ลงชอื่ ……………………………..……..................ผูป้ ระเมิน (นายธนวรรธน์ ศรีสาเนตร) ................./.................../.............

แบบสังเกตให้คะแนนพฤตกิ รรมการแสดงบทบาทสมมติของลูกเสือ-เนตรนารีแตล่ ะกลุ่ม คำชีแ้ จง ครูใหค้ ะแนนการตรวจผลงานลกู เสือ-เนตรนารีแล้วใส่เคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดับคะแนน รายการประเมิน รวม ๑๖ ลำดบั ท่ี ช่อื – สกลุ รปู แบบการ ภาษา เนื้อหา เวลา คะแนน นำเสนอ ๑๒๓๔๑๒๓๔๑๒๓๔๑๒๓๔ รวม ลงช่ือ…………......…………………..……..ผปู้ ระเมนิ (นายธนวรรธน์ ศรีสาเนตร) เกณฑก์ ารตดั สนิ ........../..................../............. คะแนน ๑๔ – ๑๖ คะแนน หมายถึง ดีเย่ียม คะแนน ๑๐ – ๑๓ คะแนน หมายถึง ดี คะแนน ๕– ๙ คะแนน หมายถงึ ผ่าน คะแนน ๑– ๔ คะแนน หมายถงึ ไม่ผา่ น

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๓ ชื่อหน่วย พลเมอื งกับความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื ง การเปน็ พลเมืองดี กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน รายวชิ า ลูกเสือสามัญรนุ่ ใหญ่ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ - ๓ เวลา ๓ ชัว่ โมง ครูผสู้ อน นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร โรงเรยี นวัดแหลมฉบัง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สงั คม ๑.๒ ปฏิบัตติ นตามหนา้ ท่พี ลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ๑.๓ ตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการตอ่ ต้านและป้องกันการทจุ รติ ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ บอกความหมายของ คำวา่ การเปน็ พลเมืองดี ๒.๒ ลูกเสือ-เนตรนารีมคี วามตระหนักในการปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมืองดี ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) การเป็นพลเมืองดี ๑.๑ การมงุ่ เนน้ ความรับผดิ ชอบระดบั บุคคล ๑.๒ การมสี ว่ นรว่ ม ๑.๓ ความยตุ ธิ รรม ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กิด) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร (อ่าน ฟงั พดู เขียน) ๒) ความสามารถในการคดิ (วิเคราะห์ จัดกลุ่ม สรุป) ๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ / คา่ นยิ ม ๑) มีวินัย ๒) มคี วามรบั ผดิ ชอบ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรียนรู้ ชว่ั โมง ๑ - ๒ ๑) ครูซกั ถามลูกเสอื -เนตรนารีถึงระเบยี บ กฎ กตกิ า ในการเขา้ ไปใชบ้ ริการห้องสมุดโรงเรียนว่ามีข้อห้าม อะไรบา้ งให้ลูกเสอื -เนตรนารีช่วยกนั ตอบและแสดงความคิดเหน็ เช่น - แต่งกายสภุ าพ - นำกระเปา๋ หรือสง่ิ ของไปไวท้ ่ีชั้นวางกระเป๋า - หา้ มนำอาหารหรือเคร่ืองดื่ม ขนมเขา้ มารับประทานในห้องสมุด - ห้ามพูดคยุ เสยี งดัง - ฯลฯ

๒) ครูอธิบายถึงความหมายของระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ข้อบังคับ และความเป็นพลเมืองดี ท่ีมุ่งเน้นความรับผิดชอบ การมีส่วนร่วม และความยุติธรรมทุกสถานที่หรือการเล่นกีฬาต่างๆ ต้องมี กฏ กติกา มี ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ เช่น คำว่ากติกา หมายถึง ส่ิงที่บุคคลหรือคณะสร้างข้ึน เพื่อให้เป็นแบบ แผนปฏิบัติ ในเรอ่ื งใดเรอื่ งหนง่ึ โดยได้รบั การยอมรับในสงั คม พรอ้ มทั้งแจก ใบความรู้ เรื่อง การเปน็ พลเมืองดี ๓) ครูแบ่งกลุ่มลูกเสือ-เนตรนารีศึกษาใบความรู้ เร่ือง ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย พลเมืองดีท่ีมุ่งเน้น ความรบั ผดิ ชอบ และเขียนสรุปลงในใบงานเร่อื ง ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย พลเมอื งดีทม่ี ุ่งเนน้ ความรับผดิ ชอบ ชั่วโมง ๓ ๔) ครูเปิดคลิปวิดีโอ เร่ือง ระเบียบ กฎ กติกา ให้ลูกเสือ-เนตรนารีดู จากนั้นแต่ละกลุ่ม เขียนแสดงความ คิดเห็นบทบาทหน้าที่ของตัวละครแตล่ ะคนเป็นไป ตาม ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย อย่างไร โดยเขียนลงในใบงานที่ ๒ ส่งครตู รวจ ๕) ตวั แทนกลุม่ ออกมาอภิปรายจากการแสดงความคิดเห็น ลกู เสือ-เนตรนารีชว่ ยกันเสนอแนะ ๖) ครแู ละลูกเสือ-เนตรนารีชว่ ยกันสรปุ วิธีการปฏิบตั ติ ามกฎ ระเบยี บ กติกา กฎหมาย เพือ่ นำไปใชใ้ น การปฏบิ ัติตนได้ถูกต้องในชีวิตประจำวนั ๔.๒ ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ ๑) คลปิ วดิ ีโอ “กฎ ระเบียบ กตกิ า” http://www.youtube.com/watch?v=jcRJim_e๙Sw ๒) ใบความรู้ เรื่อง ระเบียบ กฎ กตกิ า ๓) ใบความรู้ เรอ่ื ง บทบาทหนา้ ที่ของเยาวชนที่มตี ่อสงั คมและประเทศชาติ ๔) ใบงาน เร่ือง ระเบยี บ กฎ กติกา ๕) ใบงานที่ ๒ เร่ือง บทบาทหนา้ ที่ ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) สังเกตกระบวนการทำงานกลมุ่ ๒) การนำเสนอผลงาน ๓) ตรวจผลงาน ๕.๒ เคร่ืองมอื ท่ีใชใ้ นการประเมิน ๑) แบบสังเกตกระบวนการทำงานกล่มุ ๒) แบบบนั ทึกผลการนำเสนอผลงาน ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ ลูกเสอื -เนตรนารีผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ในระดับดีขน้ึ ไป

๖. บันทึกหลงั สอน ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................... ...................................................................... ..................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ................................................ ครผู ูส้ อน (นายธนวรรธน์ ศรีสาเนตร) ................../.................../............. ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษาหรือผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ............................................. .................................................................................................... ........................................ ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................... ................................................................. ลงชอื่ ....................................................... (นางสาวเพญ็ แข เสรมิ ศร)ี ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั แหลมฉบัง

๗. ภาคผนวก ใบความรู้ เร่ือง ระเบียบ กฎ กติกา ระเบยี บ หมายถงึ แบบแผนที่วางไวเ้ ป็นแนวปฏบิ ัติหรอื ดำเนนิ การ เช่น ระเบียบวนิ ยั ระเบยี บขอ้ บงั คับ ต้อง ปฏิบตั ติ ามระเบียบ \" ระเบียบวินัย\" คือ คุณสมบัตทิ ี่สำคัญในการดำเนินชีวิตความสามารถของบุคคลในการควบคุมอารมณ์ และ พฤติกรรมของตนเองให้เป็นไปตามที่มุ่งหวัง โดยเกิดจากการสำนึกซ่ึงต้องไม่กระทำการใดๆ อันเป็นผลทำให้เกิด ความยุ่งยากแก่ตนเองในอนาคต หากแต่ต้องเป็นส่ิงที่ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง แก่ตนเองและผู้อ่ืนโดยไม่ขัด ตอ่ ระเบียบของสังคมและไมข่ ัดต่อสิทธิของผู้อ่ืน ความมีวนิ ัยในตนเองสามารถควบคุมตนเองให้ปฏิบัติตนตามระเบียบ ข้อตกลงของสังคมส่วนรวมด้วยความสมัครใจของผู้ปฏิบัติเอง เพื่อความสงบสุขในชีวิตและความเป็นระเบียบ เรียบรอ้ ยของสังคม การอยรู่ ่วมกันเปน็ หม่เู หลา่ ถา้ ขาดระเบียบวนิ ัยต่างคนตา่ งทำตามอำเภอใจ ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้น ยิ่งมาก คนก็ย่งิ มากเร่ือง ไมม่ คี วามสงบสขุ การงานที่ทำก็จะเสียผล

“กฎ” ตามความหมายโดยทั่วไป หมายถึง จดไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน ตรา คำบังคับ หรือข้อกำหนดหรือข้อบัญญัติท่ี บังคับให้ต้องมีการปฏิบัติตามส่วน“กฎ” ตามความหมายของกฎหมายปกครองหมายความถึง พระราช กฤษฎกี า กฎกระทรวง ประกาศกระทรวงข้อบญั ญัติท้องถิ่น ระเบยี บ ข้อบังคับ หรือบทบัญญตั ิอน่ื ที่มีผลบงั คบั เป็น การทว่ั ไปโดยไมม่ ุ่งหมายให้ใช้บงั คบั แก่กรณีใดหรอื บุคคลใดเป็น การเฉพาะในทางปฏบิ ัติไม่ค่อยมปี ญั หามากนักในการ วินจิ ฉัยว่าอะไรเป็น “กฎ” ในสว่ นท่ีเปน็ พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ข้อบญั ญัติท้องถน่ิ ประกาศกระทรวง แตม่ ี ประกาศ ระเบยี บ ข้อบงั คับ หรือบทบัญญัติบางฉบบั ท่ีอาจทำให้ฝ่ายปกครองและประชาชนเข้าใจสบั สนวา่ เป็น “กฎ” หรือ “คำสงั่ ทางปกครอง” เนือ่ งจากบทนยิ ามได้ให้ความหมายของคำว่า “กฎ” หมายความรวมถึงบทบัญญัติอนื่ ที่มี ผลบงั คบั เป็นการทวั่ ไปโดยไม่มงุ่ หมายให้ใช้บงั คับแก่กรณีใดหรอื บคุ คลใดเป็นการเฉพาะ อกี ด้วย “กฎ (Law) หมายถึง ทฤษฎีท่ีสามารถอธิบายปรากฏการณในธรรมชาติได้อย่างกว้างขวางเป็นเวลานาน จนเป็นที่ยอมรับสามารถทดสอบผลได้เหมือนเดิมทุกๆ ครั้ง โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เพราะเป็นความจริงที่ไม เปล่ียนแปลงการวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผลเมืองและเป็นประเทศ ในทำนองเดียวกับสัตว์ที่รวมกันอยู่เป็นฝูงแต่ ถึงแมว้ ่าคนหรอื เปน็ สตั ว์ กตกิ า ในทางสงั คมวิทยาแตใ่ นทางจริยศาสตรค์ นมขี อ้ แตกตา่ งจากสตั ว์ในดา้ นหลัก คอื ใบความรทู้ ี่ ๓ เร่ือง มาร้จู กั กติกากนั เถอะ กติกา ในทางสังคมวิทยาถือว่าคนเปน็ สตั วส์ ังคม (Social Animal) คือรวมกนั อยูเ่ ป็นกลมุ่ เปน็ ชุมชน เปน็ ๑. ทางด้านร่างกาย คนมโี ครงสร้างร่างกายสงู ขึน้ ในแนวดงิ่ ของโลกส่วนสัตวม์ โี ครงสรา้ งรา่ งกายยาวไปตาม แนวนอนขนานกบั พ้ืนโลกหรือถา้ จะพูดตามนัยแห่งคำสอนในพระพุทธศาสนาว่า ดิรัจฉาน หรือเดรัจฉาน แปลวา่ ไป ทางขวาง ซึ่งเป็นทม่ี าของคำด่าคนช่วั คนเลวว่าเปน็ คนขวางโลก อนั หมายถึงเป็นสตั ว์นั่นเอง ๒. ทางด้านจิตใจ คนใช้เหตผุ ล หลกั การ คุณธรรม และจริยธรรม ควบคุมพฤติกรรมที่แสดงออกทางกายและ วาจาสว่ นสัตวม์ เี พียงสัญชาตญาณเทา่ นนั้ ควบคุมพฤติกรรม ดว้ ยเหตุที่คนต่างจากสัตว์ในทางด้านจิตใจนเี้ อง ทำให้ สังคมของคนมีการพัฒนาเจริญรงุ่ เรืองในทกุ ดา้ นเมื่อกาลเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างย่งิ ในการกำหนดกติกาขนึ้ มาเพ่ือ ควบคมุ พฤติกรรมผูค้ นในสงั คมใหอ้ ยู่รวมกันอย่างสงบสุขกตกิ าทางสงั คมของคนในยคุ ต้นเริม่ จากการมคี วามเชื่อ รว่ มกัน หรือที่เรยี กวา่ ลทั ธิ และความเชอ่ื ในยคุ แรกได้แก่ความเชือ่ เกี่ยวกับวญิ ญาณประจำธรรมชาติ ภูเขา ตน้ ไม้ หรือแม้กระท่ังสัตว์บางชนิด ความเชื่อในลกั ษณะนนี้ ักวิชาการดา้ นศาสนาเรียกว่า วิญญาณนิยม และความเชื่อในเร่ือง ทรงเจ้าเขา้ ผีก็จัดอยูใ่ นประเภทเดยี วกันน้ี กติกา แปลว่า ข้อความที่ได้ทำความตกลงกนั แลว้ หมายถึง กฎเกณฑห์ รือข้อตกลงทบี่ คุ คลต้ังแต่ ๒ ฝ่ายข้นึ ไป กำหนดขนึ้ เป็นหลักปฏิบตั ิ เชน่ ในการเล่นกีฬา หรือการเลน่ เกมต่างๆ มีกติกาทีผ่ ้เู ล่นต้องปฏิบตั ิตามทั้งในการเลน่ การแพช้ นะ การปรบั การลงโทษ เป็นตน้ ผู้ทีแ่ พ้ก็ต้องยอมรับความพา่ ยแพ้ อาจถูกลงโทษ หรือถูกปรบั ตามกติกาท่ี

ตกลงกนั แลว้ เช่น นกั ฟตุ บอลทีท่ ำให้คู่ตอ่ สู้เจ็บ ไมว่ ่าจะโดยต้ังใจหรอื ไมต่ ้งั ใจกต็ าม จะต้องถกู ลงโทษได้ใบเหลือง หรือ ใบแดงซ่ึงทำใหต้ ้องออกจากการเลน่ คนเชยี ร์ฟุตบอลที่ฝ่ายของตนแพแ้ ล้วไมย่ อมแพ้จดั ว่าเปน็ คนที่ไมป่ ฏบิ ตั ิตามกติกา คนทีไ่ มป่ ฏบิ ัตติ ามกติกาจะถูกสงั คมประณามวา่ เป็นอนั ธพาล เปน็ คนเกเรกติกาเปน็ ข้อตกลงทชี่ ่วยให้คนในสังคมทำ กิจกรรมรว่ มกนั ได้อย่างเปน็ ระเบียบเรียบร้อย และทำให้ทุกคนอยูร่ ่วมกันได้อยา่ งสันตสิ ขุ ทมี่ า : บทวทิ ยุรายการ “รู้ รัก ภาษาไทย” ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสยี งแหง่ ประเทศไทย เม่ือวันท่ี ๖ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๓

กฎหมาย คอื อะไร กฎหมาย เป็นกฎเกณฑ์ ข้อบังคับที่ใช้ควบคุมความประพฤติของมนุษย์ในสังคม กฎหมาย มีลักษณะเป็น คำส่ัง ข้อห้าม ท่ีมาจากผู้มีอำนาจสูงสุดในสังคมใช้บังคับได้ท่ัวไป ใครฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษหรือสภาพบังคับอย่างใด อยา่ งหนึ่ง ระบบกฎหมายในปัจจุบันแบ่งออกเป็น ๔ ระบบ ได้แก่ ระบบกฎหมาย ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ระบบ กฎหมายลายลักษณอ์ ักษร ระบบกฎหมายสงั คมนิยม และระบบกฎหมายศาสนา กฎหมายแต่ละระบบย่อมมีทมี่ าแต่ง ต่างกันการแบ่งประเภทของกฎหมายอาจแบ่งได้หลายลักษณะ ข้ึนอยู่กับว่าจะยึดอะไรเป็นหลักเกณฑ์ในการแบ่ง มนุษยจ์ ำเป็นตอ้ งมกี ฎหมายเปน็ กฎเกณฑใ์ นการอยูร่ ว่ มกัน เพอื่ ให้สังคม เกดิ ความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ยและสงบสุข มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เพ่ือให้สังคมเป็นระเบียบเรยี บร้อยสงบสุข กฎเกณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ เรยี กว่า บรรทัดฐาน ทางสงั คม (Social Norms) ประกอบด้วย ๑. วิถีชาวบ้าน (Folkways) เป็นกฎเกณ ฑ์ความประพฤติที่อยู่ในรูปของประเพณี นิยมที่สมาชิก ในสังคมปฏิบัติสืบต่อกันมา ถ้าใครไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกติฉินนินทาว่าร้าย เช่น การแต่งกาย กิริยามารยาททางสังคม ในโอกาสตา่ ง ๆ เป็นตน้ ๒. จารีต (Mores) เปน็ กฎเกณฑ์ความประพฤติทยี่ ึดหลักความดีความชวั่ กฎเกณฑ์ทางศาสนา เป็นเร่อื งของ ความรูส้ กึ ว่าสง่ิ ใดผิดส่ิงใดถูก หากใครละเมิดฝ่าฝนื จะไดร้ ับการตอ่ ต้านจากสมาชิกในสังคมอยา่ งจรงิ จัง อาจถูกกีดกัน ออกจากสังคม หรอื ไมม่ ีใครคบคา้ สมาคมด้วย เช่น การลักเลก็ ขโมยน้อย การเนรคณุ บิดามารดา หรอื ผู้มีพระคุณ เป็นตน้ ๓. กฎหมาย (Laws) เป็นกฎเกณฑ์ความประพฤติที่มีการบัญญัติไว้อย่างชัดเจน แน่นอน ว่ากระทำอย่างไร เป็นความผดิ ฐานใด จะไดร้ ับอยา่ งไร เช่น ผู้ใดฆ่าผูอ้ ่นื ตอ้ งระวางโทษประหารชวี ติ เป็นตน้ กฎเกณฑข์ องความประพฤติท้ังสามประการดงั กล่าว สองประการแรกไมไ่ ด้มีการบัญญัติไว้อย่างชดั เจน การ ลงโทษผ้ลู ะเมิดฝา่ ฝนื ก็ไม่รุนแรง ประการท่ีสาม กฎหมายจึงเปน็ สง่ิ ทีส่ ำคัญทส่ี ดุ ใชไ้ ดผ้ ลมากท่สี ดุ ในการควบคุมความ ประพฤตขิ องมนุษย์ดงั นัน้ สังคมมนษุ ย์ทุกสงั คมจึงจำเป็นต้องมีกฎหมาย เปน็ กฎเกณฑ์ในการอยู่รว่ มกนั ดงั คำกลา่ วท่ีวา่ “ทใ่ี ดมสี ังคมท่ีน่ันมกี ฎหมาย” กฎหมาย หมายถึง คำส่ังหรือข้อบังคับของรัฐ ซึ่งบัญญัติข้ึนเพื่อใช้ควบคุมความประพฤติของบุคคลซึ่งอยู่ใน รฐั หรือในประเทศของตนหากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ประพฤติปฏิบัติตาม ก็จะมีความผิดและถูกลงโทษหรือได้รับผลเสียหายน้ัน ด้วย

ใบงานท่ี ๑ เร่ือง ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมาย คำช้แี จง ให้ลกู เสอื -เนตรนารีเขยี นสรุปเป็นผังความคดิ จากการศึกษาใบความรู้ เรื่อง ระเบยี บ กฎ กติกา ใบงานที่ ๒

ใบงานที่ ๒ เร่อื ง บทบาทหน้าท่ี คำช้ีแจง ให้ลกู เสือ-เนตรนารีสรปุ แสดงความคดิ เห็นบทบาทหน้าท่ีของตวั ละคร

บทบาทและหน้าที่ของเยาวชนทมี่ ีต่อสังคมและประเทศชาติ บทบาทและหน้าทขี่ องเยาวชนทม่ี ตี ่อสังคมและประเทศชาติ สมาชกิ ทุกคนในสังคมย่อมต้องมบี ทบาทหน้าท่ี ตามสถานภาพของตน ซงึ่ บทบาทและหนา้ ที่ของสมาชิกแต่ละคนจะมคี วามแตกต่างกันไป แต่ในหลักใหญ่ และ รายละเอยี ดจะเหมือนกัน ถ้าสมาชกิ ทกุ คนในสังคมได้ปฏบิ ัติตามบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างถูกต้อง กจ็ ะไดช้ ื่อว่า เปน็ “พลเมืองทด่ี ีของสงั คมและประเทศชาติ” และยังส่งผลใหป้ ระเทศชาติพัฒนาอย่างย่ังยืน ดังนน้ั สมาชิกในสงั คม ทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนที่ถือว่าเป็นอนาคตของชาติจึงจำเปน็ อย่างย่ิงทจ่ี ะต้องเรยี นรู้และปฏิบตั ติ ามบทบาทหนา้ ท่ี ของตน เพ่อื ช่วยนำพาประเทศใหพ้ ฒั นาสบื ไป เยาวชนกบั การเป็นสมาชกิ ท่ีดีของสังคมและประเทศชาติ เยาวชน หมายถึง คนหนุ่มสาวท่ีมีพลังอันสำคัญที่จะสามารถช่วยกันเสริมสร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อ การพัฒนาประเทศชาติในอนาคต ดังนั้น เยาวชนทด่ี ีควรตระหนักในคุณค่าของตนเองและร่วมมือร่วมใจ สามัคคี และ เสยี สละเพอื่ ส่วนรวม ลกั ษณะของเยาวชนท่ดี ี เยาวชนทดี่ ีควรจะเป็นผู้ทมี่ คี ณุ ธรรม จริยธรรม กล่าวคือ จะต้องมีธรรมะในการดำเนินชวี ิต ไดแ้ ก่ ๑. การเสียสละต่อส่วนรวม เป็นคุณธรรมท่ีช่วยในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า เพราะถ้า สมาชิกในสังคมเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมและยอมเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนจะทำให้สังคมพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และมน่ั คง ๒. การมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นคุณธรรมท่ีช่วยให้ คนในสังคมอยู่ร่วมกัน ได้อย่างสงบสุข เพราะถ้าสมาชิกในสังคมยึดม่ันในระเบียบวินัย รู้และเข้าใจสิทธิของตนเอง ไม่ละเมิดสิทธิ ของผู้อ่ืนและต้ังใจปฏิบัติหน้าท่ีของตนเองให้ดีที่สุด สังคมนั้นก็จะมีแต่ความสุข เช่น ข้าราชการที่บริการประชาชน อยา่ งท่ดี ีที่สดุ ก็ยอมทำให้เปน็ ทป่ี ระทับใจรักใคร่ของประชาชนผ้มู ารบั บรกิ าร ๓. ความซอื่ สัตย์สุจริต เป็นคุณธรรมที่มีความสำคญั เพราะหากสมาชิอกในสังคมยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุตริต เช่น ไม่ลักทรัพย์ ไม่เบียดเบียนทรัพย์สินของผู้อ่ืนหรือของประเทศชาติมาเป็นของตน รวมทั้งผู้นำประเทศมีความ ซื่อสัตย์สุจรติ ๔. ความสามัคคี ความรักใคร่กลมเกลียวปรองดองและร่วมมือกันทำงานเพ่ือประโยชน์ส่วนรวม จะทำให้สังคมท่ีเข็มแข็ง แต่หากคนในสังคมเกิดความแตกแยกท้ังทางความคิดและการปฏิบัติตนในการ อย่รู ว่ มกนั จะทำให้สังคมออ่ นแอและล่มสลายในท่สี ดุ ๕. ความละอายและเกรงกลัวในการทำชั่ว ถ้าสมาชิกในสังคมมีหิริโอตัปปะ มีความเกรงกลัวและละอายใน การทำชั่ว สังคมก็จะอยู่อย่างสงบสุข เช่น นักการเมืองจะต้องมีมีความซื่อสัตย์สุจริตไม่โกงกิน ไม่เห็นแก่ประโยชน์ พวกพ้อง โดยต้องเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคญั ประเทศชาติกจ็ ะสามารถพัฒนาไปได้อย่างม่ันคง ความสำคญั ของการเป็นเยาวชนทด่ี ี การเป็นเยาวชนท่ดี มี ีความสำคัญตอ่ ตนเองและประเทศชาติ ดังน้ี

๑. ความสำคญั ต่อตนเอง เยาวชนทด่ี ีต้องเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ในการดำเนนิ ชวี ิต คิดดี ทำดี เพื่อตนเอง และเพ่ือส่วนรวม ปฏิบัติตนตามหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมาย จะทำให้มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตท่ีดี สร้างสัมพันธภาพที่ดี ระหวา่ งกันและกนั เป็นทร่ี ักของคนรอบข้าง ๒. ความสำคัญต่อส่วนรวม เม่ือเยาวชนได้รับการปลูกฝังให้เป็นเยาวชนท่ีดีแล้ว ก็จะเป็นพลเมืองที่ดีใน อนาคตและถ้าประเทศชาติมีพลเมืองท่ีดี มีความรับผิดชอบปฏิบัติตามกฎระเบียบ กติกาของสังคมและนำหลัก ประชาธิปไตยมาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดบทบาทหน้าท่ีของตน ก็ย่อมทำให้การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นไปอย่าง สงบสขุ ๓. ความสำคัญต่อประเทศชาติ เมื่อสงั คมมีเยาวชนที่ดีและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมทางสังคมยอ่ มเปน็ พื้นฐานทำ ให้เกิดพลเมืองดีในอนาคตและเม่ือสังคมมีพลเมืองท่ีดี ย่อมนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป อยา่ งรวดเร็ว การปฏบิ ัตติ นเป็นเยาวชนที่ดตี ามสถานภาพท่ดี ตี ามสถานภาพและบทบาท ๑. เยาวชนกับการเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว เยาวชนในสถานภาพของการเป็นบุตร ควรมีบทบาทหน้าท่ี ดงั น้ี ๑.๑ เคารพเชื่อฟังบดิ ามารดา ๑.๒ ช่วยเหลือบิดา มารดา ในทกุ โอกาสทท่ี ำได้ ๑.๓ ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั ไมฟ่ มุ่ เฟอื ย สรุ ยุ่ สรุ า่ ย ๑.๔ มีความรักใคร่ปรองดองในหมูพ่ นี่ ้อง ๑.๕ ตัง้ ใจศึกษาเลา่ เรียน ๑.๖ ประพฤติตนใหส้ มกับเป็นผดู้ ำรงวงศ์ตระกูล ๒. เยาวชนกับการเปน็ สมาชิกทีด่ ีของโรงเรียน เยาวชนในฐานะลกู เสอื -เนตรนารีควรมีบทบาทหน้าท่ี ดงั นี้ ๒.๑ รับผิดชอบในหนา้ ทีข่ องลกู เสอื -เนตรนารี คือ ต้งั ใจเลา่ เรยี น ประพฤติตนเป็นคนดี ๒.๒ เช่ือฟังคำส่ังสอนอบรมของครอู าจารย์ ๒.๓ กตัญญรู ูค้ ณุ ของครูอาจารย์ ๒.๔ รักใครป่ รองดองกันในหมู่เพอื่ นลูกเสอื -เนตรนารี ๒.๕ ส่งเสริมเพอ่ื นในทางทถี่ ูกท่ีควร ๓. เยาวชนกับการเป็นสมาชิกท่ีดีของชุมชน ชุมชน คือ สังคมขนาดเล็ก เช่น หมู่บ้านหรือกลุ่มคน โดย เยาวชนเป็นสว่ นหนึ่งของชมุ ชนทีต่ นอาศยั อยู่ จงึ ตอ้ งมีบทบาทหน้าทีต่ ่อชมุ ชน ดังน้ี ๓.๑ รกั ษาสุขลักษณะของชุมชน เช่น การทิ้งขยะให้เปน็ ที่ ชว่ ยกำจดั ส่ิงปฏิกลู ตา่ งๆ เป็นตน้ ๓.๒ อนุรกั ษส์ ่ิงแวดลอ้ มในชุมชน เชน่ ไม่ขีดเขียนทำลายโบราณวตั ถใุ นชุมชน ชว่ ยกนั ดูแล สาธารณสมบัติ ๔. เยาวชนกบั การเปน็ สมาชิกที่ดีของประเทศชาติ ๔.๑ เข้ารับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน ๑๒ ปี ๔.๒ ปฏบิ ัติตนตามกฎหมาย ๔.๓ ใช้สิทธิในการเลอื กตั้ง ๔.๔ ใช้ทรัพยากรอย่างคมุ้ ค่า ๔.๕ สบื ทอดประเพณีวัฒนธรรมอนั ดีงามของไทย

๔.๖ ช่วยเหลือกจิ กรรมต่างๆ ที่ทางราชการจดั ขน้ึ ๔.๗ ประกอบอาชีพสจุ รติ ด้วยความขยันหมนั่ เพยี ร ๔.๘ ประหยัดอดอออม แบบประเมนิ การทำงานเปน็ กลมุ่ กลุม่ ท่ี……………..ช้ัน……………………...…เร่ือง………............……………………..……………....………………. ผปู้ ระเมิน ครผู ้สู อน ลกู เสือ-เนตรนารี อ่นื ๆ คำชแี้ จง เมือ่ ผูป้ ระเมินอา่ นข้อความแต่ละข้อแลว้ ให้ตอบในเร่อื งทีต่ รงกับการปฏิบัตขิ องลูกเสือ-เนตรนารีมากทสี่ ดุ คือ - ไม่ปฏิบัตเิ ลยใหใ้ ส่เครื่องหมาย ✓ลงในชอ่ งคะแนน ๑ - ปฏิบตั เิ พยี งเลก็ น้อยใหใ้ ส่เคร่ืองหมาย ✓ลงในช่องคะแนน ๒ - ปฏบิ ตั เิ ป็นคร้งั คราวใหใ้ ส่เครอ่ื งหมาย ✓ลงในช่องคะแนน ๓ - ปฏบิ ัติบ่อยๆ ให้ใส่เครื่องหมาย ✓ลงในชอ่ งคะแนน ๔ - ปฏบิ ัติเป็นประจำใหใ้ ส่เครือ่ งหมาย ✓ ลงในช่องคะแนน ๕ พฤตกิ รรมท่ีต้องประเมิน ๕ ๔๓ ๒ ๑ ๑. การวางแผนการทำงานร่วมกนั ๒. การแบง่ หนา้ ทร่ี ับผิดชอบในกลมุ่ ๓. การให้ความรว่ มมือของสมาชกิ ๔. การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อน่ื และการแสดงความ คดิ เหน็ ๕. การแก้ปญั หาภายในกลุ่ม รวม เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนน ๑๗ คะแนนขึ้นไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน ลงช่ือ……………………………..……..ผู้ประเมนิ (นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร) ................../.................../.............

แบบการประเมินผลการนำเสนองาน เรอื่ ง ……………………………………. ที่ รายการประเมนิ ผู้ประเมิน รวม เกณฑ์การประเมนิ ตนเอง เพอื่ น ครู ๑ เน้ือหา (๔ คะแนน) คะแนน ๔ : มคี รบทุกขอ้ 1. เน้อื หาครบถว้ นสมบรู ณ์ คะแนน ๓ : มี ๓ ขอ้ ขาด ๑ ขอ้ 2. เน้อื หาถูกตอ้ ง คะแนน ๒ : มี ๒ ขอ้ ขาด ๒ ขอ้ 3. เน้อื หาตอ่ เน่ือง คะแนน ๑ : มี ๑ ขอ้ ขาด ๓ ขอ้ 4. มีการคน้ ควา้ เพม่ิ เติม คะแนน ๒ : มีครบทุกข้อ ๒ กระบวนการทำงาน คะแนน ๑ : มีไม่ครบ ๔ ขอ้ (๒ คะแนน) คะแนน ๐ : ไม่ปรากฏกระบวน 1. มีการวางแผนอย่างเป็น ระบบ การทำงานท่ีชดั เจน 2. การปฏิบัติตามแผน 3. ตดิ ตามประเมินผล คะแนน ๒ : มีครบทกุ ข้อ 4. การปรับปรุงพัฒนางาน คะแนน ๑.๕ : มี ๓ ข้อ ขาด ๑ ขอ้ คะแนน ๑ : มี ๒ ขอ้ ขาด ๒ ขอ้ ๓ การนำเสนอ (๒ คะแนน) คะแนน ๐.๕ : มี ๑ ข้อ ขาด ๓ ข้อ 1. การใชส้ ำนวนภาษาดี ถกู ต้อง คะแนน ๒ : มีครบทกุ ข้อ 2. การสะกดคำและ คะแนน ๑.๕ : มี ๓ ขอ้ ขาด ๑ ข้อ ไวยากรณ์ถกู ต้อง คะแนน ๑ : มี ๒ ข้อ ขาด ๒ ขอ้ 3. รูปแบบน่าสนใจ คะแนน ๐.๕ : มี ๑ ขอ้ ขาด ๓ ขอ้ ๔. ความสวยงาม คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ๔ คุณธรรม (๒ คะแนน) 1. ตรงตอ่ เวลา 2. ซอ่ื สัตย์ 3. ความกระตือรือร้น 4. ความมีนำ้ ใจ รวม เฉลีย่ ลงชื่อผปู้ ระเมิน…………………………….. ตนเอง ลงช่อื ผปู้ ระเมนิ …………………………….. เพอื่ น ลงช่ือผู้ประเมนิ …………………………….. ครู

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๓ ชอ่ื หน่วย พลเมอื งกับความรับผดิ ชอบต่อสังคม แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรื่อง สรา้ งสำนกึ ความเป็นพลเมอื งต่อประเทศ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น รายวชิ า ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้น มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ - ๓ เวลา 4 ช่วั โมง ครผู ู้สอน นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร โรงเรยี นวัดแหลมฉบงั ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับพลเมืองและมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม ๑.๒ ปฏบิ ัติตนตามหนา้ ที่พลเมอื งและมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม ๑.๓ ตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อต้านและป้องกันการทจุ ริต ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ ลกู เสอื -เนตรนารีบอกความหมายของคำว่าสร้างสำนึกความเป็นพลเมืองต่อประเทศ ๒.๒ ลูกเสอื -เนตรนารีระบุพฤตกิ รรมที่มีต่อการสรา้ งสำนึกความเป็นพลเมืองต่อประเทศ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ - สร้างสำนกึ ความเป็นพลเมืองต่อประเทศ ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กดิ ) ๑) ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ / คิดอย่างมีวิจารณญาณ - ทักษะกระบวนการคดิ เชิงสรา้ งสรรค์ ๓.๓ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ / คา่ นิยม ๑) รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ๒) มีวนิ ัย ๓) มุ่งมน่ั ในการทำงาน ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรยี นรู้ ชั่วโมง ๑ - ๒ ๑) ครูต้ังประเด็นคำถามลูกเสือ-เนตรนารีช่วยกันตอบถึงหน้าที่รับผิดชอบของลูกเสือ-เนตรนารีท่ีมีต่อ โรงเรียน บา้ น และสงั คมชมุ ชนโดยมีประเดน็ คำถาม เชน่ ลกู เสือ-เนตรนารมี ีหน้าทีใ่ ดบ้าง ตอ่ ตนและผู้อ่นื ขณะอยู่บ้าน โรงเรียน และสังคม ๒) ครูและลูกเสือ-เนตรนารีอภิปรายเพื่อหาความหมายของความรับผิดชอบ ต่อตนเองและผู้อ่ืน เพ่ือ เช่อื มโยงความรแู้ ก่ลกู เสอื -เนตรนารีในประเด็นสร้างสำนึกความเปน็ พลเมืองต่อประเทศ ๓) ครลู ูกเสือ-เนตรนารีแตล่ ะคนเขียนบทบาทความรบั ผิดชอบ โดยแบ่งเป็นงานในโรงเรยี น ชมุ ชน และ ประเทศ โดยเขียนลงในกระดาษทคี่ รแู จกใหแ้ ล้วสง่ ครู

๔) ครูแจกใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง ความรับผิดชอบโดยให้ลูกเสือ-เนตรนารีออกไปศึกษาในประเด็นปัญหาต่างๆ ของชมุ ชนท่อี ยู่รอบๆโรงเรียนหรอื ในหมบู่ ้านของลูกเสือ-เนตรนารี และปญั หาสงั คมในระดับประเทศ ชัว่ โมง ๓ – ๔ ๕) แบ่งกลุ่มกลุ่มละ ๔ – ๕ คน โดยใช้กระบวนการกลุ่มจะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่จะยอมรับความ แตกต่าง เคารพสิทธิและรู้จักการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทำงานร่วมกับผู้อื่น วิเคราะห์ปัญหา หาสาเหตุ และเสนอ วิธกี ารแกป้ ญั หาลงในกระดาษชาร์ตที่แจกให้กล่มุ ละ ๑ แผ่นจากทไ่ี ด้ลงพ้ืนที่ โดยครคู อยดูแนะนำและใหค้ ำปรกึ ษา ๖) ลูกเสอื -เนตรนารีแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงาน ๗) ครูสรุปเพ่ิมเติมถึงการทำงานโดยใช้กระบวนการกลุ่มจะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่จะยอมรับความ แตกต่าง เคารพสิทธิและรู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น สำหรับการลงมือปฏิบัติจะทำให้เกิดจิตสำนึกที่จะเป็นส่วนหน่ึง ของสงั คม และพฒั นาไปสู่การสร้างสำนึกความเป็นพลเมืองทีร่ ่วมกันรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม ชมุ ชน และประเทศ 4.2สอ่ื การเรยี นรู้ / แหลง่ เรยี นรู้ ๑) ใบงานท่ี ๑ เร่ือง ความรับผิดชอบ ๒) กระดาษชาร์ต ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมิน ๑) สงั เกตกระบวนการทำงานกล่มุ ๒) การนำเสนอผลงาน ๓) ตรวจผลงาน ๔) ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๕.๒ เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบสังเกตกระบวนการทำงานกล่มุ ๒) แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน ลกู เสือ-เนตรนารีได้คะแนนในระดบั ดีขึ้นไปถอื ว่า ผา่ น

๖. บันทกึ หลงั สอน .................................................................................................................................................................................. ....... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................... ................................................................. ลงชอื่ ................................................ ครผู สู้ อน (นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร) ................../.................../............. ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................... ...................................................................... .................................................................................................... ................................................................. ลงชอ่ื ....................................................... (นางสาวเพ็ญแข เสริมศร)ี ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั แหลมฉบัง

๗. ภาคผนวก ใบงานที่ ๑ เรอื่ ง ความรับผิดชอบ คำชแี้ จง ให้ลูกเสือ-เนตรนารีใช้เวลาวา่ งในวันเสาร์ – อาทติ ย์ ออกไปสมั ผสั กับปญั หาต่างๆ ของชุมชนทอ่ี ยู่รอบๆ โรงเรียนหรอื ในชุมชนหมู่บ้านของตนเอง โดยต้ังคำถามว่าพบเห็นปญั หาอะไรบ้าง ปัญหาต่าง ๆ ของชุมชนรอบ ๆ โรงเรยี น ปัญหาสงั คมในระดบั ประเทศ หรือในหมู่บา้ นของลกู เสือ-เนตรนารี

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ “มีวนิ ัย” คำชี้แจง ใส่เคร่อื งหมาย ✓ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ความเปน็ จริงตามเกณฑ์การประเมิน ปฏบิ ัติตามข้อตกลง ตรงต่อเวลาในการ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ ข้อบังคบั ของครอบ ในชีวติ ประจำวนั รวม ผลการประเมนิ เลขที่ ชื่อ – สกลุ ครอบ โรงเรยี นและ และรบั ผิดชอบใน คะแนน สังคม ไม่ละเมดิ สิทธิ การทำงาน ของผู้อื่น ๓ ๒ ๑ ๐ ๓ ๒๑ ๐ ผา่ น ไมผ่ า่ น รวม ลงชอ่ื ........................................... ครผู ู้ประเมนิ (นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร) ............../..................../...............

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ “มงุ่ มนั่ ในการทำงาน” ชอื่ ลูกเสือ-เนตรนารี...................................................... ช้ัน...................ภาคเรียนท่ี.........ปกี ารศึกษา................ คำชี้แจง การบนั ทกึ ใหใ้ ส่เคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤตกิ รรมท่ีเกดิ ขนึ้ จริง ท่ี พฤติกรรม ระดบั การปฏบิ ัติ ไม่ทำเลย/ เป็นประจำ บางครงั้ นอ้ ยคร้งั ไมช่ ดั เจน ๑. ตั้งใจเอาใจใส่และมคี วามเพียรพยายามในการเรียนรู้ ๒. สนใจเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ (๓) (๒) (๑) (๐) ๓. ศึกษาคน้ คว้าหาความรู้จากหนงั สือ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ สื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ แหล่งเรยี นรทู้ ง้ั ภายในและ ภายนอกโรงเรียน และเลือกใชส้ อื่ ได้อยา่ งเหมาะสม ๔. สามารถบันทึกสรปุ ความรวู้ เิ คราะห์ ข้อมูลจากส่งิ ที่ เรียนรู้สรุปเป็น องค์ความรู้ ๕. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดว้ ยวิธกี ารต่างๆ และนำไปใชใ้ น ชีวติ ประจำวนั รวมคะแนน / ระดับคุณภาพ ผู้ประเมิน  ครู  พอ่ แม่ / ผ้ปู กครอง  ตนเอง  เพื่อน ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ (นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร) ............./..................../............... เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารตดั สิน ดีเยี่ยม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๓ - ๑๕ คะแนน และไม่มีผล การประเมินข้อใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ ๒ คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๙ - ๑๒ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมิน ข้อใดขอ้ หนึ่งตำ่ กว่า ๐ คะแนน ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๕ - ๘ คะแนน และไม่มผี ลการประเมิน ขอ้ ใดขอ้ หน่ึงต่ำกว่า ๐ คะแนน ไมผ่ ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๐ - ๔ คะแนน