1
1 แบบเสนอผลงาน (Best Practice) ชอ่ื ผลงาน การจดั กระบวนการเรียนรกู้ ารทอผ้าลายสกอ๊ ต ช่ือผ้เู สนอผลงาน นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล กศน.อาเภอขนุ หาญ กศน.ตาบลภูฝูาย โทรศัพท์ มอื ถือ ๐๙๓-๕๒๙๘๖๔๖ E-mail srisanat๑๐๐@gmail.com รายละเอียดผลงาน ๑. ความเป็นมา/ความสาคัญของผลงานหรือนวตั กรรมที่นาเสนอ จากการสารวจข้อมลู ชมุ ชน ตาบลภูฝูาย พบวา่ ประชาชนในหมู่บ้านมีความสนในการทอผ้าฝาู ย ลายสกอ๊ ต เพ่อื ใชป้ ระกอบเป็นอาชพี เสริมจากเวลาว่างทาการเกษตร เส้นใยฝูาย (cotton) คือเส้นใยเก่สาแก่ชนิดหน่ึงซ่ึงใช้ในการทอผ้ามาแต่สมัยโบราณ ส่ิงท่ีบ่งบอกให้รู้ว่ามนุษย์มี การปลูกฝูายและปั่นฝูายเป็นเส้นด้ายมานานแล้ว คือหลักฐานทางโบราณคดี ซ่ึงขุดพบในซากปรักหักพังอายุประมาณ ๓,๐๐๐ปี กอ่ นครสิ ตกาลท่ีแหลง่ โบราณคดโี มฮนั โจดาโร (Mohenjodaro) ซง่ึ อยู่ในบริเวณแหล่งอารยธรรม ลุ่มน้าสินธุใน เขตประเทศปากีสถานปจั จบุ นั เตรียมฝูายเขา้ สู่กระบวนการผลิตส่วนการทอผ้าฝูายในประเทศไทยนั้น คงมีข้ึนหลังการทอ ผ้าจากปุานกัญชา สันนิษฐานว่าการปลูกฝูายในไทยรับเอาพันธ์ุและวิธีการมาจากประเทศอินเดีย และหลังจากพบว่าผ้า ทอจากฝาู ยมีเน้ือนุ่ม สวมใส่สบายและย้อมติดสีดีกว่าผ้าปุานกัญชา อีกทั้งขั้นตอนและกระบวนการแยกและเตรียมฝูายก็ ไมย่ งุ่ ยาก ใช้เวลานอ้ ยกว่าการเตรยี มปาุ นกัญชามาก ชาวไทยจึงค่อย ๆ ใช้ปาุ นกญั ชาลดลงตามลาดบั จากสภาพและขอ้ มูลดงั กล่าว กศน.ตาบลภฝู าู ย เหน็ ความจาเป็นทจ่ี ะส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนได้ชว่ ยเหลือตนเอง ภายในครอบครัว ภายในชุมชน เป็นการลดค่าใชจ้ า่ ย และเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว ชมุ ชน จงึ จดั ใหม้ ีหลกั สูตรการทอ ผา้ ฝาู ยลายสก๊อต ในตาบลภูฝูาย อาเภอขุนหาญ จงั หวดั ศรีสะเกษ ข้ึน ๒.จุดประสงค์และเป้าหมาย ของการดาเนินงาน จดุ ประสงค์ ๑. เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนมีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับการทอผา้ ฝูายลายสก๊อต ๒. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นเกิดทักษะความชานาญในการทอผา้ ฝูายลายสกอ๊ ต ทีม่ ีคณุ ภาพสงู ๓. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นสามารถนาความรูแ้ ละทักษะที่ไดร้ ับไปประกอบอาชีพและมรี ายได้เพม่ิ ขึน้ ๔. เพ่ือให้สมาชกิ ในกลุ่มใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์
2 เปา้ หมาย ด้านปริมาณ จานวน ๑๕ คน ๑. ประชาชนท่วั ไปในอาเภอขนุ หาญ จานวน ๑๕ คน ดา้ นคณุ ภาพ ๑. รอ้ ยละ ๘๐ ของประชาชน กลมุ่ เปาู หมายได้ฝึกอบรมเรอ่ื งการทอผา้ ลายสก๊อต สู้การพัฒนาอาชพี หตั กรรมและส่งทอและนาไปประยกุ ต์ในชวี ติ ประจาวันได้ ผลท่ีคาดว่าจะได้รบั ๑. กลมุ่ เปูาหมายเข้ารว่ มการจัดกระบวนการเรยี นรู้มีความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การทอผา้ ลายสก๊อต ตัวชว้ี ดั ผลผลิต (Out put ) - ผู้รบั บรกิ าร รอ้ ยละ ๘๐ ของประชาชนทเี่ ขา้ ร่วมโครงการมีความร้คู วามสามารถในการทอผา้ ลายสก๊อต ตวั ชว้ี ดั ผลลพั ธ์ (Out come ) - ผู้รับบรกิ าร ท่เี ขา้ ร่วมการจัดกระบวนการเรียนรู้การทอผ้าลายสกอ๊ ต สู่การพฒั นาอาชีพในชุมชน เข้าใจอย่างมปี ระสิทธิภาพ
3 วิธีการดาเนนิ การ ท่ี กิจกรรมหลกั วตั ถปุ ระสงค์ กลมุ่ เปา้ หมาย เปา้ หมาย พน้ื ทีด่ าเนนิ การ กศน.อาเภอขุนหาญ ๑ วางแผนการ เพอ่ื สร้างแบบแผนการ -ผูอ้ านวยการ มีกรอบแนวทาง -ข้าราชการ ในการดาเนินโครงการมี ปฏิบตั งิ าน ดาเนนิ งาน และเขียน -ครอู าสาฯ ผรู้ ับผิดชอบโครงการ โครงการ ครู กศน.ตาบล อนมุ ัตโิ ครงการ ๒ นาเสนอ ขออนุมตั ิโครงการ โครงการได้รบั การอนมุ ตั ิ กศน.อาเภอขนุ หาญ โครงการ ๓ ประสานงาน เพอื่ เตรียมความพรอ้ มในการ - ผู้รับผดิ ชอบ เพื่อความพร้อม กศน.อาเภอขนุ หาญ กบั หน่วยงาน จัดกจิ กรรม โครงการและหนว่ ยงานที่ ในการเตรยี มการ ที่เก่ียวข้อง เกี่ยวข้องดว้ ย ดาเนินงานโครงการใหม้ ี ประสิทธิภาพ ๔ ดาเนนิ การ เพ่อื ฝึกอบรมใหเ้ กดิ - นกั ศกึ ษา ๑๕ คน บ้านกุดนาแกว้ ใต้ ฝึกอบรมให้ กระบวนการเรยี นรู้การทอ - ผู้รับผิดชอบโครงการ หมู่ ๗ ตาบลภูฝูาย ประชาชน อาเภอขุนหาญ ทราบและ จังหวัดศรีสะเกษ ไดเ้ รยี นรู้ถึง แนว ๕ สรุปผลการ เพ่อื ใหท้ ราบความพึงพอใจ ประเมินผลโครงการ มสี รุปรายงานโครงการ กศน.อาเภอขนุ หาญ ดาเนินงาน ของผู้เข้ารว่ มโครงการ นาผล เพือ่ นาผลไปพัฒนาต่อไป ทไ่ี ด้ไปพฒั นาในโครงการอ่นื
4 ผ้รู บั ผดิ ชอบ นายธนวรรธน์ ศรสี าเนตร ครู กศน.ตาบล หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง/เครอื ข่าย - เกษตรอาเภอขนุ หาญ - หน่วยงานภาครัฐและเอกชน - กานนั ผ้ใู หญ่บ้าน - โครงการจัดการเรียนรู้การดาเนินตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง - กระบวนการผลติ ผลงานา หรือขัน้ ตอนการดาเนินงาน ๑. วางแผนการปฏิบัติงาน ๒. นาเสนอโครงการ ๓. ประสานงาน กับหนว่ ยงานทีเ่ กยี่ วข้อง ๔. ดาเนนิ การฝกึ อบรมให้ประชาชนทราบและไดเ้ รียนรูถ้ งึ แนวทางเกษตรธรรมชาตแิ ละใหป้ ระชาชนได้ ลองปฏิบตั ิจริงและนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ๕. วิเคราะห์ข้อมูลและสรปุ ผลการดาเนินงาน ตัวชี้วดั ผลการดาเนนิ งาน เกณฑ์ ผล เป้าหมายการบรรลุ ร้อยละ ๑๐๐ บรรลุ ไมบ่ รรลุ ๑.เพ่อื เกิดกระบวนการเรยี นรู้ รอ้ ยละ ๘๐ ของผู้เข้ารับการอบรม บรรลุ การทอผ้าลายสกอ๊ ต มคี วามรู้ ความเขา้ ใจระดับดมี ากขนึ้ ไป ๒.เพื่อให้เกิดแกนนาด้านการ รอ้ ยละ ๘๐ ของผู้เขา้ รับการอบรม รอ้ ยละ ๑๐๐ บรรลุ ทอผา้ ลายสก๊อต มีความพึงพอใจระดบั มาก-มากขึ้นไป ๓.ความพงึ พอใจ ร้อยละ ๘๐ ของผเู้ ข้ารบั การอบรม รอ้ ยละ ๑๐๐ บรรลุ มีความพึงพอใจระดบั มาก-มากขนึ้ ไป การประเมินการจดั กระบวนการเรียนร้กู ารทอผา้ ลายสก๊อตสกู่ ารพัฒนาอาชพี ในชุมชน มีผลการดาเนิน กจิ กรรมบรรลตุ ามวัตถุประสงค์ ๕.ปจั จยั ความสาเรจ็ การจดั ฝกึ อบรมในลักษณะโครงการและสาธติ และให้ผูเ้ ขา้ ร่วมได้ลงมือปฏบิ ัติจรงิ ไดร้ บั ประสบการณ์จริง จะช่วยทาใหอ้ งคค์ วามรู้ในการทอผ้าลายสก๊อต กลุม่ มคี วามพร้อมและเคยได้รับรางวลั มากมาย
5 ๖. บทเรียนทไี่ ดร้ บั (lesson learned) - เทคนคิ วิธีการและกระบวนการทอผา้ ฝาู ยลายสกอ๊ ตให้ได้คุณภาพ - การความคมุ คุณภาพชิ้นงานผา้ ฝาู ยลายสก็อตท่ีผ่านการทอแล้ว ๗. การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวลั ที่ได้รบั เผยแพรใ่ นโซเซยี ลมีเดีย (Social Media) facebook Fanpag กศน.ตาบลภูฝ้าย
6 ๘.ข้อเสนอแนะ ศึกษาความต้องการลวดลายท่ีลูกคา้ ท่ีตอ้ งการเพอื่ นามาทอให้ไดส้ นิ คา้ ที่ตรงความต้องการ จะทาใหก้ ารขาย สินค้าผ้าฝูายลายสก๊อต ได้งา่ ย - ควรมีการอบรมเพม่ิ ส่งเสรมิ การเรยี นรู้อย่างต่อเน่ือง - สรา้ งความประทบั ใจในความตง้ั ใจให้ผู้ซือ้ สนิ คา้ ผา้ ฝูายลายสกอ๊ ต
7 ภาคผนวก
8 มาตรฐานและรางวลั ทไ่ี ด้รบั - ๑.ไดร้ ับคัดเลือกจาก กลุ่มตาบลภูฝา้ ย สนิ คา้ หน่ึงตาบล หนึ่งผลติ ภณั ฑ์ - ๒.เป็นสินคา้ ผลิตภัณฑ์คณุ ภาพ ของ กศน.อาเภอขนุ หาญ ที่มคี ณุ ภาพ - แบรนดโ์ ลโก้สนิ คา้ อัตลักษณ์ (เอกลักษณ)์ /จดุ เดน่ ชองผลิตภัณฑ์ - ลวดลายบนผนื ผา้ - การสะท้อนถึงความประณตี บรรจงในการทอ ในการเก็บลาย - การสะท้อนถึงวัฒนธรรมการแต่งกายของสตรีในถิ่นนน้ั - สามารถนาไปประยุกตห์ รอื แปรรปู ผลิตภณั ฑ์อื่นๆ ทเ่ี หมาะสมได้อย่าง สวยงาม แปลกตา ๑.เนอ้ื ผ้าแน่นหนาและสวยงามคงทน ๒.ใช้ได้ตามงามประเพณตี ่างๆ
9 ความสัมพนั ธก์ ับชุมชน ๑.ชุมชนเกิดความสามัคคี รว่ มแรงรว่ มใจในการทางาน ๒.สรา้ งรายไดใ้ ห้ชุมชน กระบวนการผลติ วตั ถดุ บิ และส่วนประกอบ ๑. ดา้ ย ๒. หลอดด้าย ๓. อัก เหลา ๔. ฟมื ๕. ก่ี กระสวย ขน้ั ตอนในการทอผ้า ๑. สบื เสน้ ดา้ ยยนื เขา้ กบั แกนมว้ นดา้ ยยนื และรอ้ ยปลายดา้ ยแต่ละเส้นเข้าในตะกอแตล่ ะชุด และฟันหวี ดึงปลายเส้นด้ายยืนทั้งหมดม้วนเขา้ กบั แกนมว้ นผา้ อีกดา้ นหนง่ึ ปรบั ความตึงหย่อนให้พอเหมาะ กรอด้ายเข้ากระสวยเพ่ือ ใช้เปน็ ด้ายพงุ่ ๒. เรม่ิ การทอโดยกดเครื่องแยกหมตู่ ะกอ เส้นด้ายยนื ชดุ ท่ี๑ จะถกู แยกออกและเกิดชอ่ งวา่ ง สอดกระสวย ด้ายพุ่งผา่ น สลบั ตะกอชดุ ที่ ๑ ยกตะกอชุดที่ ๒ สอดกระสวยด้ายพุง่ กลบั ทาสลบั กนั ไปเร่อื ยๆ ๓. การกระทบฟนั หวี (ฟมื ) เมอ่ื สอดกระสวยด้ายพุ่งกลบั กจ็ ะกระทบฟนั หวี เพอื่ ใหด้ า้ ยพงุ่ แนบตดิ กนั ได้เนื้อผา้ ที่แนน่ หนา ๖. การเกบ็ หรือม้วนผา้ เมอื่ ทอผา้ ได้พอประมาณแล้วก็จะม้วนเก็บในแกนมว้ นผา้ โดยผอ่ นแกนด้ายยนื ให้ คลายออกและปรบั ความตึงหยอ่ นใหมใ่ ห้ พอเหมาะ
10 การทอผา้ พน้ื เปน็ การใช้หลักการทอผ้าเบ้อื งตน้ ท่ีนาเอาดา้ ยเส้นยนื และด้ายเส้นพุ่งมาขัดกัน เพ่ือให้เกิดเป็นผืนผ้า โดยด้ายเส้น พงุ่ และเสน้ ยนื อาจเป็นด้ายสีเดยี วกนั หรอื ต่างสีกัน หรือนาเอาเส้นด้ายที่เป็นดิ้นเงินหรือด้ินทองมาทอควบด้าย เพ่ือให้ผ้า มีความมันระยับ สวยงามยิ่งขึ้น เทคนิคพเิ ศษทีใ่ ช้ในการทอผ้า การขิด หมายถึง กรรมวิธีในการทอผ้าเพ่ือให้เกิดลวดลายต่างๆ ขึ้นมาโดยวิธีการ เพิ่มเส้นด้ายพุ่งพิเศษใน ระหว่างการทอ เพื่อให้เกดิ ลวดลายทโ่ี ดดเดน่ กว่าสีพนื้ วิธีการคือ ใช้ไม้เข่ียหรือสะกิด เพ่ือช้อนเส้นด้ายยืนข้ึน แล้วสอดเส้นด้ายพุ่งไปตาม แนวท่ีถูกจัดช้อน จังหวะการ สอดเสน้ ดา้ ยพุ่งนีเ่ อง ทท่ี าใหเ้ กดิ เปน็ ลวดลายตา่ ง ๆ ข้นั ตอนการผลติ ๑. คดั เลือกเส้นดา้ ยท่จี ะทอ คัดเลือกสี ๒. คดั เลอื กเครอื ท่ีมีลวดลายทตี่ อ้ งการ ๓. หูก ๑ ได้ประมาณ ๑๕–๒๐ ผืน แลว้ แต่เครือใหญ่เครือเลก็ และใช้ระยะ ในการทอผ้าแต่ละเครือ ประมาณ ๑๕–๒๐ วนั เทคนิค / เคลด็ ลบั ในการผลิต – คดั และตรวจสอบเสน้ ดา้ ยทีจ่ ะทาการทอ – การให้สีท่กี ลมกลนื และลงตัว – การทอต้องเรียบและแน่น
11 วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทอผา้ ๑. ฝูาย ฝูายที่ย้อมสาเร็จ ๒. กที่ อผ้า การทอผ้าฝูายของกลุ่มบ้านกุดนาแก้วใต้ ปัจจุบัน ส่วนใหญ่ เป็นการทอผ้าฝูาย เวลาทอต้องใช้คน ๒ ชว่ ยกันพงุ่ กระสวยไปมา สว่ นกข่ี นาดที่สอง เป็นก่ขี นาดเล็กซึง่ ใช้แรงงานของคนทอเพยี งคนเดยี ว กี่ทอผ้า เคร่ืองทอผ้าพ้ืนเมืองท่ีเรียกว่า กี่ หรือหูกทอผ้า กี่ แต่ละหลังมีส่วน ประกอบหลายอย่าง ซ่ึงมีส่วน เช่ือมโยงกันทง้ั หมดในขณะทอผ้า สว่ นประกอบตา่ ง ๆ ดังกลา่ วได้แก่ ฟืม ทาจากต้นไม้ยาวพอสมควรตามขนาดของก่ี มีด้ามสาหรับจับเพ่ือใช้ดึง ให้ฟืมดันฝูายเส้นพุ่งให้ติดกันแน่น เป็นผืนเขาฟืม มีลักษณะเป็นท่อนกลม ๆ ยาว ๆ ทาจากวัสดุหลายชนิด เช่น ไม้ไผ่ ท่อพลาสติกหรืออลูมิเนียม จานวน ของเขาฟมื จะ ขน้ึ อยกู่ ับจานวนตะกอ ถ้าผ้าทที่ อมี ๒ ตะกอ จะใช้เขาฟืม ๒ เขา ถ้าผ้าท่ีทอมี ๔ ตะกอ จะมีเขาฟืม ๔ เขา เขาฟืมจะอยู่ด้านหลงั ของฟืมต่อกับไม้เหยียบด้านล่างใช้เชือกโยง กับเขาฟืม ซ่ึงต่อเน่ืองกับไม้หาบฟืมด้านบน เขาฟืมมีไว้ สาหรับสลับด้ายเส้นยืน เพ่ือสอดกระสวยด้ายเส้นพุ่งเข้าไปก่อนการตอกด้วยฟืมไม้เหยียบ ตะกอทาจากไม้ไผ่ หรือไม้สัก ขนาดกว้างประมาณ ๒-๓ น้ิว ความยาวประมาณ ๒-๓ ฟุต สาหรับให้ ผู้ทอเหยียบในขณะท่ีทอเพื่อสลับเส้นฝูาย ไม้ เหยยี บน้จี ะอย่ดู ้านลา่ งของกี่ เม่ือเหยยี บ ไมแ้ ลว้ จะชว่ ยยกเส้นฝาู ยขึ้นลงเป็นลายขัดกัน จานวนของไม้เหยียบจะข้ึนอยู่กับ จานวนเขาฟืมท่ีกาหนดลวดลายท่ีจะทอ ซงึ่ เรียกวา่ ลาย ๒ ตะกอ ลาย ๔ ตะกอเขี้ยวหมา หรือฟันปลา ทาจากไม้จริง ส่วน ใหญเ่ ปน็ ไมส้ ัก เล่อื ยเปน็ ซี่ ๆ คล้ายฟนั ของเลื่อย ใชส้ าหรับแยกฝูายเสน้ ยืนไมใ่ ห้พันกนั และงา่ ยต่อการคลี่ฝูาย ออกเป็นผืน ไม้หาบเขาและไม้หาบฟืม ทาจากไม้ไผ่หรือไม้ สักขนาดใหญ่ พาดขวางอยู่บนคานของกี่ในแนวเดียวกับเขา และฟืม โดย ใชเ้ ชอื กผูกโยงกบั เขาและฟมื เพอ่ื ยดึ กบั กี่ให้มคี วามแข็งแรง เน่อื งจากการทอใช้แรงในการดึงเขาขึ้นลงและดึงหรือตอกฟืม เข้าออก ในแนวนอน ในอดตี หลงั จากการทอผา้ แลว้ เสร็จในแต่ละวัน เจ้าของผลงานต้องนาผ้า ท่ีอยู่ระหว่างการทอพร้อม อุปกรณ์การทอจากกี่ทอผ้าท้ังชุดขึ้นไปเก็บบนเรือน เพ่ือปูองกันการสูญหายจากการขโมยผ้า โดยใช้วิธีถอดอุปกรณ์การ ทอท้ังหมดจาก ก่ีทอผ้า รวมกันไว้เป็นชุด หาบไว้บนไหล่แล้วเดินเข้าเรือน จึงเป็นช่ือเรียกของไม้หาบเขา หาบฟืมมะล้อ เปน็ อปุ กรณท์ ี่ใชส้ าหรับกระตกุ และดนั กระสวยให้พงุ่ ไปมาซึ่งประกอบ ด้วยไม้โยกข้ึนลง ซ่ึงติดอยู่กับคานที่พาดขวางบนก่ี ไม่โยกมีการถ่วง ๒ ข้าง มีแกน ของไหมล้อซึ่งใช้เป็นท่ีจับสาหรับกระตุกไม้โยกข้ึนลง โดยผู้อยู่ข้างที่ผู้ทอมีความถนัด หัว นกเดิมใช้ไม้เพราะเหล็กหายาก ปัจจุบันใช้รอกซึ่งหาได้ง่าย มีความทนทาน แต่ละ กี่จะใช้หัวนก๒อัน ผูกไว้โยงกับ ด้านซา้ ยขวาของเขาฟืมท้ังสองอัน และคล้องกับไม้หาบ ฟืมด้านบน มีความสัมพันธ์กับไม้เหยียบ คือเม่ือเหยียบไม้เพื่อลด เขาฟืมอันหนึ่งลง เชือก ที่คล้องผ่านรอกหรือหัวนกจะดึงลงพร้อมกับการยกเขาฟืมอีกอันหน่ึงข้ึน เพ่ือให้เกิด ช่องว่าง ระหว่างด้ายเส้นพุ่งที่สลับกัน สาหรับพุ่งกระสวยผ่านเข้าไปได้กระสวยและหลอดไม้กระสวยเป็นอุปกรณ์ ลักษณะยาวรี เจาะเป็นช่องตรงกลางเพ่ือใส่หลอดไม้พันฝูายเจาะรูด้านข้าง ขนาดให้ เส้นฝูายลอดผ่านได้ปลายของกระสวยทั้งสองข้าง อาจมนหรอื แหลมตามลกั ษณะการ ใช้งาน ถา้ หัวมน เอาไว้ช้าสาหรับกี่กระตุกส่วนหัวแหลมไว้สาหรับพุ่งด้วยมือในขณะท่ี ทอ ผู้ทอจะพุ่งกระสวยไป-มา เพ่ือให้เส้นฝูายท่ีพุ่งไป มา ไปขัดกับฝูายท่ีเป็นเส้นยืน หลอดไม้ ใช้สาหรับพันฝูายเส้นพุ่ง ในขณะใช้งานจะนาไปเสียบกับกระสวย หลอดไม้ทาจาก ปล้องไม้ไผ่บงซ่ึงมีความหนาและทนกว่าไม้ไผ่ทั่วไป มีรูทะลุ ตลอดปล้องสาหรับเสยี บ เหลก็ เพื่อยดึ กับกระสวยไม้สะปาู น สาหรับพนั เนื้อผา้ ทีท่ อเสร็จแล้ว
12 เฟือขอ มีลักษณะเป็นโครงส่ีเหล่ียมผืนผ้า อาจทาจากไม้หรือเหล็กก็ได้ โดยปลายทั้งสองข้างตามแนวนอนมีด้ามเล็กๆยึดติดอยู่เป็นระยะ เปน็ อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการ เรยี งดา้ ยเส้นยนื ตามความยาวทีต่ อ้ งการการทอผา้ เพยี นปันด้าย เพยี นปันด้ายเข้าหลอดหรอื กงปันหลอดดา้ ย ปจั จบุ ันทาจากซีแ่ ละวงล้อรถจกั รยานใชส้ าหรับกรอ เสน้ ฝูายที่เปน็ เส้นพุง่ ใส่หลอดไม้ไผ่ท่จี ะนาไปใส่ ในกระสวย บนั ไดลิง บันไดลงิ ในอดีตมีลักษณะเปน็ เถาวัลย์ ทมี่ ลี กั ษณะโค้งงอเหมือนบันได ปัจจบุ นั บันไดลิงหายาก จงึ เปลีย่ นมาใช้ไมต้ อกตะปูห่างกันประมาณ ๓ น้ิว โดยดดั ตะปู ใหโ้ คง้ งอสาหรับเกย่ี วเสน้ ฝูายไว้ และยังคงใช้ชอื่ เรยี กดังเช่นอดีต การย้อมฝาู ย ข้ันตอนการทอผา้ ฝ้าย ซึง่ มี ๖ ขนั้ ตอน คือ บนั ไดลงิ บนั ไดลงิ ป่ันดา้ ย ๑. นาฝูายเป็นใจมาคลี่ออกใส่กงกว๊าง เพื่อนาไปพันใส่บ่าหลุกกวักฝูาย แล้ว นามาเข็นหรือป่ันใส่กระป๋องหรือ หลอดไม้ขนาดใหญ่ การป่ันฝูายใส่กระป๋อง ถ้าต้องการ เส้นฝูายที่มีเส้นใหญ่ อาจจะปั่นคร้ังละ ๒-๓ ใจ ให้เส้นฝูายมา รวมกนั ๒. นากระปอ๋ งทมี่ เี สน้ ฝูายพันอยูไ่ ปเรยี งตามลาดบั สีของเส้นฝูายเส้นยืนตามลวดลายที่จะทอ โดยนามาเรียงคร้ัง ละประมาณ ๔๐ กระป๋อง จะได้เส้นฝูายยืน คร้ังละ ๔๐ เส้น แล้วนาแต่ละเส้นไปคล้องกับบันไดลิง เพื่อไม้ให้เส้นฝูายพัน กันและขน้ึ เฟือขอต่อไป ๓. นาฝาู ยเสน้ พงุ่ จากบนั ไดลงิ มาขึ้นเฟือขอซึง่ เฟือขอจะทาหน้าที่สาหรับเรียงฝูายเส้นยืนตามความยาวที่ต้องการ และทาการสลบั เส้นยืนสาหรับใช้กับตะกอเสน้ ข้นึ เส้นลงดา้ นลา่ งของเฟอื ขอเมอื่ สน้ิ สดุ การเรียงเสน้ ฝาู ยจะนาแต่ละเส้นมา มว้ นเพ่ือใหเ้ กิดลกั ษณะของการสลับเสน้ สาหรับการทอยกเป็นเสน้ ข้ึนเส้นลงทด่ี า้ นล่าง ขาวของเฟือขอ ๔. นากลุม่ ฝูายเส้นยืนจากเฟือขอมาข้ึนก่ี แล้วคล่ีฝูายเส้นยืนตามท่ีได้กาหนดไว้โดยใช้เข้ียวหมาหรือฟันปลาเป็น ตวั ชว่ ยในการสางเส้นฝูายแต่ละกลุ่มเส้นออกจากกัน เส้นด้ายในการทอลายหนึ่ง เพ่ือแยกเส้นด้ายในการนาไปสืบฝูายกับ เขาฟมื ๕. หากทอลายเดิมท่ีเคยทอมา ก็จะนาฝูายเส้นยืนใหม่มาต่อกับเศษผ้าฝูายหรือเชิงชายที่ตัดมาจากการทอคร้ัง ก่อนที่เรียกว่า “เครือ” เม่ือทอผ้าเสร็จแล้วช่างทอจะตัดผ้าที่ทอแล้วออกจากก่ี โดยคงเหลือเศษผ้าฝูายหรือเชิงชายจาก การทอให้ติดอยู่กับตะกอและฟืม เพ่ือเป็นต้นแบบของลาย หากจะมีการทอลายนั้นในคร้ังต่อไป เพ่ือให้การสืบต่อลายทา
13 ได้งา่ ยข้นึ งา่ ยขึ้น เพราะถ้าไม่ เก็บไว้การเริ่มต้นขึ้นลายใหม่ จะมีความยากลาบากมาก ดังน้ันช่างทอจึงต้องเก็บลายไว้ทุก เครือเนอื่ งจากเสน้ ยืนมคี วามยาวมาก ก่อนทอหรือเม่ือทอไปได้สักระยะหน่ึง เส้นยืนอาจจะพันกันได้ดังน้ันจึงต้องคอยคลี่ จัดเสน้ ยนื ออกไม่ใหพ้ นั กัน ๖. หลงั จากการสืบลายแลว้ สามารถเริ่มกระบวนการทอไดโ้ ดยการเหยียบไม้เหยียบเพ่ือยกเขาฟืมข้ึนลง แล้วพุ่ง กระสวยสอดเข้าไปในช่องว่างระหวา่ งเส้นยืนให้เส้นพุ่งพุ่งไปขัดกับเส้นยืน และใช้ฟืมดันให้เส้นพุ่งอัดเรียงกันแน่น แล้วใช้ เท้าเหยียบไม้เหยียบให้ตะกอเส้นยืนสลับขึ้นลง และพุ่งกระสวยกลับไปกลับมาขัดกับเส้นยืน หลังจากท่ีพุ่งเส้นพุ่งไป มา และใช้ฟืมดนั ใหเ้ ส้นพงุ่ แนน่ หลายๆ คร้ัง ก็จะได้ผา้ ทอเปน็ ผืน แล้วนาไปแปรรูปเป็นผลิตภณั ฑต์ ่างๆ ต่อไป
14 กล่มุ ผู้ผลติ ผู้ประกอบการ กลมุ่ ทอผา้ ลายสก๊อต ทอี่ ยู่ บ้านกุดนาแกว้ ใต้ หมู่ ๗ ตาบลภฝู ้าย อาเภอขนุ หาญ จังหวัดศรสี ะเกษ แหลง่ จาหน่ายผลิตภัณฑ์ ๑. กศน.อาเภอขุนหาญ ตาบลสิ อาเภอขุนหาญ จงั หวดั ศรสี ะเกษ ๒. รา้ นค้าชุมชนบ้านกุดนาแกว้ หมู่ ๗ และหมู่ ๓ ตาบลภูฝูาย อาเภอขนุ หาญ จัวหวัดศรีสะเกษ ๓. เพจ Face book : ผา้ ฝูายลายสก๊อต กศน.ตาบลภฝู ูาย - OOCC Product ๔. Face book : ครูเตียง ธนวรรธน์ ๕. Line@ : Phu Fai sub district / @๖๒๒bsvqi ๖. งานเทศกาลดอกลาดวนบาน สบื สานประเพณสี เ่ี ผา่ ไทยศรีสะเกษ ประจาปี ๒๕๖๔ ๗. ออกงานตา่ งๆ และ ตลาดอาเภอขุนหาญ ๒. ออกรา้ นในงานตา่ งๆ ออกร้านงานเทศกาลดอกลาดวนบานสบื สานประเพณี สเ่ี ผา่ ไท ศรีสะเกษ ๒๕๖๔ ในระหวา่ งวนั ท่ี ๑๗ - ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๔ ๓. ตลาดทั่วไป จาหนา่ ยทร่ี ้านค้าชุนชนหมู่บา้ นกุดนาแกว้ ใต้ Facebook และ Line
15
16
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: