Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงเรียนบ้านนานวนการงานอาชีพ

หลักสูตรโรงเรียนบ้านนานวนการงานอาชีพ

Published by โรงเรียน บ้านนานวน, 2020-09-24 11:04:47

Description: หลักสูตรโรงเรียนบ้านนานวนการงานอาชีพ

Search

Read the Text Version

45 โครงสร้างรายวิชาการงานอาชีพ ง 21102 การงานอาชีพ2 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี ชั้น มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 จานวน 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ ลาดับ ชื่อ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก (ชั่วโมง) คะแนน ท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ การเรียนรู้ / ตัวช้ีวดั 10 50 1 การแปรรูปอาหาร ง 1.1 ม.2/1 ม.2/2 - วิธีการแปรรูปอาหาร ม.2/3 - การแปรรูปอาหารผลิตภัณฑ์ 8 30 เกษตร 70 2 เรียนรู้สูอ่ าชพี ง 2.1 ม.2/1 ม.2/2 - การประกอบอาชพี 1 10 ม.2/3 - ขนมพื้นบา้ น 1 20 - ช่างตดั ผม 20 100 - ชา่ งเสริมสวย คะแนนระหวา่ งเรยี น คะแนนสอบระหว่างภาค คะแนนสอบปลายภาคเรยี น รวม *** หมายเหตุ : โรงเรียนกาหนดหน่วยการเรียนรูต้ ามบรบิ ทและความต้องการของโรงเรียนโดยใหส้ อดคลอ้ ง กับตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลางหรอื สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ ทก่ี าหนดไว้

มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลางและท้องถิ่น สาระที่ 1 การดารงชีวติ และครอบครัว มาตรฐาน ง 1.1 เขา้ ใจการทางาน มคี วามคิดสรา้ งสรา้ งสรรค์ มที ักษะกระบวนการทางาน ทักษะการ จดั การ ทกั ษะกระบวนการแก้ปญั หา ทักษะการทางานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหา ความรู้ มีคุณธรรมและลักษณะนสิ ัยในการทางาน มจี ิตสานกึ ในการใช้พลังงาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มเพอ่ื การดารงชีวติ และครอบครวั ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น ม.2 1. ใชท้ ักษะการแสวงหา  ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ความรูเ้ พอ่ื พัฒนาการ ประกอบด้วยการศึกษา ค้นคว้า ทางาน รวบรวม สังเกต สารวจ และบนั ทึก เพอื่ ใช้ในการพฒั นาการทางาน เช่น - การจัดและตกแต่งบ้าน - การดูแลรักษาและตกแตง่ สวน - การจดั การผลผลิต 2. ใชท้ ักษะกระบวนการ  ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหาในการ แก้ปญั หาในการทางาน ทางาน มขี ้ันตอน คือ การสงั เกต วิเคราะห์ สร้างทางเลือก และประเมนิ ทางเลอื ก เชน่ - การเตรยี ม ประกอบ จัดตกแต่ง และบรกิ ารเคร่อื งด่มื - การเล้ยี งสัตว์ - การประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแต่ง จากวสั ดุในโรงเรียน หรอื ท้องถิน่ - การติดต่อสื่อสารและใช้บรกิ ารกบั หนว่ ยงานต่าง ๆ

47 ชั้น ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น 3. มจี ติ สานกึ ในการ  การมจี ิตสานกึ และใช้ทรพั ยากร ทางานและใช้ทรัพยากร อย่างประหยดั ในการปฏบิ ัตงิ านอยา่ ง และคมุ้ ค่าเป็นคุณธรรมในการทางาน ประหยดั และคุ้มค่า สาระที่ 2 การอาชีพ มาตรฐาน ง 2.1 เขา้ ใจ มีทกั ษะทีจ่ าเป็นมปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้เทคโนโลยเี พอ่ื พัฒนาอาชพี มีคุณธรรมและมเี จตคติทด่ี ตี ่ออาชีพ ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่ ม.2 1. อธบิ ายการเสรมิ สร้าง  การจัดประสบการณอ์ าชีพ ประสบการณอ์ าชพี - สถานการณ์แรงงาน - ประกาศรับสมัครงาน - ความรคู้ วามสามารถของตนเอง - ผลตอบแทน 2. ระบุการเตรียมตัวเขา้ ส่อู าชีพ  การเตรยี มตัวเข้าสอู่ าชพี - การหางาน - คณุ สมบตั ิทจ่ี าเป็น 3. มีทกั ษะพน้ื ฐานทจ่ี าเปน็  ทักษะท่ีจาเป็นต่อการประกอบ สาหรับการประกอบอาชีพท่ี อาชีพ สนใจ - ทักษะกระบวนการทางาน - ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา - ทักษะการทางานร่วมกัน - ทักษะการแสวงหาความรู้ - ทักษะการจัดการ

ง 22101 การงานอาชีพ 3 คาอธิบายรายวิชา ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี จานวน 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษา วิเคราะห์ สารวจ และแสวงหาความรู้ เพ่ือพัฒนาการทางาน โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหา มี ความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการ ทางานร่วมกัน ทักษะการแสวงหาความรู้ ศกึ ษา สารวจ วเิ คราะห์ การจัดประสบการณ์อาชีพ การเตรียมตวั เขา้ สอู่ าชีพ และมีทกั ษะที่จาเป็นต่อ งานอาชีพฝึกปฏิบัติทักษะที่จาเป็นต่อการประกอบอาชีพ ด้วยทักษะกระบวนการทางาน การแก้ปัญหา การ ทางานรว่ มกนั ตลอดจนการแสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ มีคุณธรรม มเี จตคติท่ดี ตี ่ออาชีพ มจี ิตสานึกในการใช้พลงั งานทัพยากร และสง่ิ แวดล้อมอยา่ งประหยัด และค่มุ ค่า เพื่อการดารงชวี ติ และครอบครัว ในการประกอบอาชพี เพอื่ ใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการ ดารงชีวิต ครอบครัว และการทางาน สามารถอย่รู ว่ มกันในสังคมอยา่ งมีความสุข รหัสตวั ช้ีวดั (รายป)ี ง 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ง 2.1 ม.1/1 ม1/2 ม.1/3 รวมทงั้ สน้ิ 2 มาตรฐาน 6 ตวั ชีว้ ดั

ง 22102 การงานอาชีพ4 49 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 คาอธิบายรายวชิ า กลุ่มสาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี จานวน 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษา วิเคราะห์ สารวจ และแสวงหาความรู้ เพ่ือพัฒนาการทางาน โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหา มี ความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการ ทางานรว่ มกัน ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ศกึ ษา สารวจ วเิ คราะห์ การจดั ประสบการณ์อาชพี การเตรียมตัวเข้าสอู่ าชพี และมีทักษะท่ีจาเป็นต่อ งานอาชีพ ฝึกปฏิบัติทักษะท่ีจาเป็นต่อการประกอบอาชีพ ด้วยทักษะกระบวนการทางาน การแก้ปัญหา การ ทางานร่วมกนั ตลอดจนการแสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรูต้ า่ งๆ มีคุณธรรม มีเจตคตทิ ด่ี ีต่ออาชพี มจี ิตสานึกในการใช้พลงั งานทพั ยากร และส่งิ แวดล้อมอยา่ งประหยัด และคุ่มค่า เพ่อื การดารงชีวติ และครอบครวั ในการประกอบอาชีพ เพือ่ ใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ มที ักษะในการ ดารงชีวติ ครอบครัว และการทางาน สามารถอยู่ร่วมกนั ในสังคมอยา่ งมีความสุข รหัสตัวชี้วัด (รายป)ี ง 1.1 ม 2/1, ม 2/2, ม 2/3 ง 2.1, ม 2/1, ม 2/2, ม 2/3 รวมทั้งสน้ิ 2 มาตรฐาน 6 ตวั ชี้วดั

โครงสร้างรายวชิ าการงานอาชพี ง 22101 การงานอาชพี 3 กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 จานวน 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต ลาดบั ช่อื มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั (ช่ัวโมง) คะแนน ท่ี หน่วยการเรยี นรู้ การเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั 1 บ้านและชีวติ ง 1.1 ม.1/1 ม.1/2 - ความสมั พนั ธ์ของสมาชิก 5 25 7 30 ความเป็นอยใู่ นบา้ น ม.1/3 ในบ้าน 6 25 ง 2.1 ม.1/1 ม.1/2 - การดูแลรักษาบา้ น ม.1/3 - การจัดตกแตง่ บา้ นและ บรเิ วณบ้าน 2 ผ้าและเครือ่ ง ง 1.1 ม.1/1 ม.1/2 - การเลอื กใช้ ดูแลรักษาเสอื้ ผ้า แต่งกาย ม.1/3 และเคร่อื งแต่งกาย ง 2.1 ม.1/1 ม.1/2 - การซอ่ มแซม ตกแตง่ และ ม.1/3 ดดั แปลงเสื้อผา้ - อปุ กรณ์ เครือ่ งมอื เครอื่ งใชใ้ น การตดั เยบ็ - การตัดเย็บเส้อื ผ้าและของใช้ ภายในบ้าน 3 อาหารและ ง 1.1 ม.1/1 ม.1/2 - การทาน้าสมนุ ไพร เครอื่ งดืม่ ในท้องถนิ่ ม.1/3 - การทาอาหารในท้องถน่ิ คะแนนระหว่างเรียน 70 คะแนนสอบระหว่างภาค 1 10 คะแนนสอบปลายภาคเรียน 1 20 20 100 รวม *** หมายเหตุ : โรงเรยี นกาหนดหน่วยการเรียนรตู้ ามบรบิ ทและความต้องการของโรงเรียนโดยให้สอดคลอ้ ง กบั ตัวชีว้ ัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลางหรอื สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่นท่กี าหนดไว้

51 โครงสร้างรายวชิ าการงานอาชีพ ง 22102 การงานอาชพี 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ ลาดบั ชอื่ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั (ชว่ั โมง) คะแนน ท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ การเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวดั 10 25 1 ประสบการณ์อาชีพ ง 1.1 ม.1/1 ม.1/2 -การคน้ หาความสามารถของ 20 30 ม.1/3 ตนเอง 7 25 ง 2.1 ม.1/1 ม.1/2 -การเสรมิ สร้างประสบการณ์ ม.1/3 อาชพี -การเตรยี มตวั เขา้ สู่อาชีพ 2 เศษวสั ดุสรา้ งสรรค์ ง 1.1 ม.1/1 ม.1/2 -เศษวสั ดใุ นโรงเรยี น ม.1/3 -การออกแบบงานประดิษฐ์ ง 2.1 ม.1/1 ม.1/2 -การประดิษฐ์ของใช้จากเศษ ม.1/3 วัสดใุ นโรงเรียน -การประดิษฐ์ของตกแตง่ จาก เศษวัสดุในโรงเรียน 3 ความรูพ้ ืน้ ฐาน ง 1.1 ม.1/1 ม.1/2 - องคป์ ระกอบของการเขียน การสรา้ งสิง่ ของ ม.1/3 แบบ เคร่อื งใช้ ง 2.1 ม.1/1 ม.1/2 - การออกแบบ ม.1/3 - การเขยี นแบบ คะแนนระหวา่ งภาคเรียน 70 คะแนนสอบระหว่างภาค 1 10 คะแนนสอบปลายภาคเรยี น 1 20 20 100 รวม *** หมายเหตุ : โรงเรียนกาหนดหนว่ ยการเรียนร้ตู ามบริบทและความต้องการของโรงเรยี นโดยใหส้ อดคล้อง กับตัวชีว้ ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลางหรือสาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ ทกี่ าหนดไว้

มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลางและท้องถิน่ สาระท่ี 1 การดารงชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน ง 1.1 เขา้ ใจการทางาน มคี วามคิดสรา้ งสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการ จัดการ ทกั ษะกระบวนการแก้ปญั หา ทกั ษะการทางานร่วมกัน และทกั ษะการแสวงหา ความรู้ มคี ณุ ธรรมและลกั ษณะนสิ ยั ในการทางาน มีจติ สานกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ มเพ่อื การดารงชีวติ และครอบครัว ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ ท้องถน่ิ ม.3 1. อภิปรายขั้นตอนการ  ขนั้ ตอนการทางานท่มี ปี ระสิทธิภาพเป็นการ ทางานทมี่ ปี ระสิทธิภาพ ปฏบิ ตั ติ ามกระบวนการทางานโดยการทา ตามลาดับข้ันตอนมคี วามสามารถทางานสาเร็จตาม เป้าหมายท่วี างไว้ เชน่ - การซกั ตาก พบั เก็บ เส้ือผา้ ทตี่ อ้ งการ การ ดูแลอยา่ งประณตี - การสร้างช้นิ งาน หรือ ผลงาน 2. ใช้ทักษะในการทางาน  ทักษะการทางานร่วมกัน เปน็ การสร้างให้ผูเ้ รียน ร่วมกนั อยา่ งมีคุณธรรม สามารถทางานและอยูร่ ่วมกันไดอ้ ยา่ งมีความสขุ และมี คุณธรรม เชน่ - การเตรียม ประกอบ อาหารประเภทสารบั - การประดษิ ฐบ์ รรจภุ ณั ฑ์จากวัสดุธรรมชาติ 3. อภิปรายการทางานโดยใช้  ทักษะการจัดการเปน็ การจัดระบบงานและระบบคน ทกั ษะ เพอื่ ให้ทางานสาเรจ็ ตามเปา้ หมายอย่างมีประสทิ ธภิ าพ การจัดการเพือ่ การประหยัด เชน่ พลังงาน - ธรุ กจิ ประเภทตา่ งๆ ทรัพยากร และส่ิงแวดล้อม - การขยายพันธพุ์ ชื - การตดิ ตง้ั / ประกอบผลิตภัณฑท์ ่ใี ชใ้ นบ้าน

53 สาระที่ 2 การอาชพี มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจ มีทักษะทจี่ าเปน็ มปี ระสบการณ์ เหน็ แนวทางในงานอาชพี ใช้เทคโนโลยเี พือ่ พัฒนาอาชีพ มีคุณธรรมและมเี จตคติทดี่ ตี ่ออาชีพ ชนั้ ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ ม.3 1. อภิปรายการหางานดว้ ยวิธี ทีห่ ลากหลาย  การหางานหรอื ตาแหนง่ ทวี่ า่ ง - สอ่ื สง่ิ พมิ พ์ - ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ 2. วิเคราะหแ์ นวทางเข้าสู่  แนวทางเขา้ สู่อาชีพ อาชพี - คณุ สมบตั ิท่จี าเปน็ - ความมนั่ คง - การประเมินทางเลือก 3. ประเมนิ ทางเลอื กในการ  การประเมินทางเลอื กอาชีพ ประกอบอาชพี ที่สอดคลอ้ งกบั - แนวทางการประเมิน ความรู้ความถนัดและความ - รปู แบบการประเมนิ สนใจของตนเอง - เกณฑ์การประเมนิ

คาอธิบายรายวิชา ง 23101 การงานอาชพี 5 กล่มุ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษา วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปข้ันตอนการทางาน การซัก ตาก พับ เก็บ เส้ือผ้าท่ีต้องการ การ ดูแลอย่างประณีต การสร้างช้ินงานหรือผลงาน การทางานร่วมกันในการเตรียม ประกอบ อาหารประเภท สารับ การประดิษฐ์บรรจภุ ณั ฑ์จากวสั ดธุ รรมชาติ การจดั การในด้านธุรกจิ ประเภทตา่ งๆ การขยายพันธ์ุพชื การ ตดิ ต้ัง/ประกอบผลติ ภณั ฑท์ ่ีใช้ในบา้ น โดยใชว้ ิธกี ารทางงานเยบ็ ปกั ถกั จักสาน และงานปลกู พืชในท้องถิน่ ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายระดับของเทคโนโลยี แบ่งตามระดับความรูท้ ี่ใช้เป็น 3 ระดับ คือ ระดับ พื้นบา้ นหรือพื้นฐานระดบั กลาง และระดบั สูง การสรา้ งสิง่ ของเครอื่ งใช้หรอื วิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยี จะทาให้ผู้เรียนทางานอย่างเป็นระบบ สามารถย้อนกลับมาแก้ไขได้ง่าย ภาพฉาย เป็นภาพแสดงรายละเอียด ของชิ้นงาน ประกอบด้วยภาพดา้ นหน้า ดา้ นขา้ ง ด้านบน แลดงขนาดและหน่วยวดั เพื่อนาไปสรา้ งชนิ้ งาน ใชก้ ระบวนการสืบคน้ กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการพัฒนาคา่ นยิ ม กระบวนการทางานเกลุ่ม และกระบวนการแก้ปัญหา เพ่ือให้เกิด ความรู้ ความเข้าใจ ความคิด การใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่าง ประหยัด ใช้ทักษะในการทางานร่วมกันอย่างมีคุณธรรม และทางานอย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง นาภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ เขา้ มาประยกุ ตใ์ ช้ในการดารงชีวติ อยใู่ นสังคมร่วมกันอยา่ งมีความสขุ รหสั ตวั ชี้วัด (รายป)ี ง 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ง 2.1 ม.1/1 ม1/2 ม.1/3 รวมทัง้ สน้ิ 1 มาตรฐาน 6 ตวั ช้วี ดั

55 คาอธบิ ายรายวชิ า ง 23102 การงานอาชพี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต ศึกษา วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปข้ันตอนการทางาน การซัก ตาก พับ เก็บ เสื้อผ้าที่ต้องการ การ ดูแลอย่างประณีต การสร้างชิ้นงานหรือผลงาน การทางานร่วมกันในการเตรียม ประกอบ อาหารประเภท สารบั การประดษิ ฐบ์ รรจภุ ัณฑ์จากวสั ดุธรรมชาติ การจดั การในดา้ นธรุ กจิ ประเภทต่างๆ การขยายพนั ธุ์พชื การ ติดตั้งหรือประกอบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้าน โดยใช้วิธีการทางงานเย็บ ปัก ถัก จักสาน และงานปลูกพืช ในทอ้ งถ่นิ ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายระดับของเทคโนโลยี แบ่งตามระดับความรูท้ ี่ใช้เป็น 3 ระดับ คือ ระดับ พน้ื บา้ นหรอื พน้ื ฐานระดับกลาง และระดบั สงู การสรา้ งสงิ่ ของเครื่องใชห้ รือวธิ กี ารตามกระบวนการเทคโนโลยี จะทาให้ผู้เรียนทางานอย่างเป็นระบบ สามารถย้อนกลับมาแก้ไขได้ง่าย ภาพฉาย เป็นภาพแสดงรายละเอียด ของชน้ิ งาน ประกอบดว้ ยภาพดา้ นหน้า ดา้ นข้าง ดา้ นบน แลดงขนาดและหนว่ ยวดั เพอื่ นาไปสรา้ งชิน้ งาน ใชก้ ระบวนการสืบค้น กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการพัฒนาค่านิยม กระบวนการทางานเกลมุ่ และกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อให้เกิด ความรู้ ความเข้าใจ ความคิด การใช้ทรัพยากรส่ิงแวดล้อมอย่าง ประหยัด ใช้ทักษะในการทางานร่วมกันอย่างมีคุณธรรม และทางานอย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง นาภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ เข้ามาประยุกตใ์ ช้ในการดารงชีวิตอยู่ในสงั คมร่วมกันอยา่ งมคี วามสุข รหสั ตัวชี้วัด (รายปี) ง 1.1 ม 3/1, ม 3/2, ม3/3 ง 2.1 ม 3/1 , ม 3/2 ม.3/3 รวมทั้งส้นิ 2 มาตรฐาน 6 ตวั ชว้ี ัด

โครงสรา้ งรายวชิ าการงานอาชีพ ง 23101 การงานอาชพี 5 กลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 จานวน 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต ลาดบั ช่อื มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก (ชัว่ โมง) คะแนน ท่ี หนว่ ยการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ /ตวั ช้ีวดั 4 10 1 การจัดการดแู ล ง 1.1 ม 2/1 ม 2/2 - ทักษะการจดั การดูแลเสอื้ ผ้า รกั ษาเสอื้ ผา้ ม 2/3 - การซกั ผา้ และตากผ้า 10 60 - การดูแลรกั ษาเส้อื ผ้า 2 อาหารประเภท ง 1.1 ม 2/1 ม 2/2 - การจดั เกบ็ เสื้อผ้า สารบั ม 2/3 - อาหารประเภทสารบั - อาหารประเภทสารบั ในท้องถน่ิ - การประกอบอาหาร ประเภทสารบั ในท้องถนิ่ - การประกอบอาหารสารับ คาวหวาน 3 ภมู ปิ ญั ญาไทย ง 1.1 ม 2/1 ม 2/2 - เคร่ืองจกั สานในครวั เรือน 4 10 ม 2/3 70 คะแนนระหวา่ งภาคเรยี น 1 10 คะแนนสอบระหวา่ งภาค 1 20 คะแนนสอบปลายภาคเรยี น 20 100 รวม ***หมายเหตุ : โรงเรียนกาหนดหน่วยการเรียนรู้ตามบริบทและความต้องการของโรงเรียนโดยใหส้ อดคล้อง กับตวั ช้วี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางหรือสาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่ ทีก่ าหนดไว้

57 โครงสรา้ งรายวชิ าการงานอาชีพ ง 23102 การงานอาชีพ6 กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 จานวน 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต ลาดบั ชื่อ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั ท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ การเรียนรู้ / ตวั ชี้วัด (ชว่ั โมง) คะแนน 1 การสรา้ งสรรค์ ง 2.1 ม 2/1 ม 2/2 - บทบาทหนา้ ทขี่ องบรรจุภัณฑ์ 8 40 บรรจุภัณฑ์ ม 2/3 - ประเภทของบรรจุภัณฑ์ - การเลอื กใชบ้ รรจุภณั ฑ์ - การสรา้ งสรรคบ์ รรจภุ ัณฑ์ กระดาษ - การออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ จากไม้ - การสร้างสรรคบ์ รรจุภัณฑ์ จากธรรมชาติ 2 งานอาชีพ ง 2.1 ม 2/1 ม 2/2 - คุณสมบัติที่จาเปน็ ในงานอาชพี 10 40 ม 2/3 - การหางานจากส่ือ ส่ิงพมิ พ์ - การหางานส่อื อิเล็กทรอนิกส์ - แนวทางการประกอบอาชีพ - อาชพี เกษตร - การทาเกษตรแบบพอเพยี ง - ความมน่ั คงของอาชีพ - การประเมนิ ทางเลอื กอาชีพ - อาชีพในท้องถิ่น คะแนนระหว่างภาคเรยี น 70 คะแนนสอบระหวา่ งภาค 1 10 คะแนนสอบปลายภาคเรยี น 1 20 รวม 20 100 ***หมายเหตุ : โรงเรียนกาหนดหน่วยการเรียนร้ตู ามบรบิ ทและความตอ้ งการของโรงเรยี นโดยให้สอดคล้อง กบั ตัวชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลางหรือสาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่ ทีก่ าหนดไว้

คาอธิบายรายวิชา (เพมิ่ เติม) โครงสร้างรายวิชาการงานอาชพี

59 คาอธิบายรายวิชา ง23210 วิชา ช่างรอ้ ยมาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ………………………………………………………………………………………………………. ศึกษา วเิ คราะห์ ประวตั แิ ละความสาคญั ของการร้อยมาลัย การใช้ การบารงุ รกั ษาวัสดุอุปกรณใ์ น การร้อยมาลยั ส่วนประกอบของมาลัย และทักษะในการร้อยมาลยั แบบต่างๆ โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการทักษะ 9 ขนั้ ทักษะกระบวนการความคดิ รวบยอด ทักษะ กระบวนการปฏบิ ัติ เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะเกย่ี วกับการร้อยมาลยั เหน็ แนวทางในการ ประกอบอาชีพ มเี จตคติที่ดตี ่อการประกอบอาชีพและมีคณุ ธรรม ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายประวตั แิ ละความสาคญั ของมาลยั 2. บอกและเลอื กใช้วสั ดอุ ุปกรณใ์ นการรอ้ ยมาลัยไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. บอกส่วนประกอบของมาลยั ได้ 4. ปฏิบตั กิ ารร้อยมาลัยซกี มาลยั กลม มาลัยต้มุ มาลยั ตวั สัตว์ อบุ ะ และตกแตง่ ตวั มาลัยได้ โครงสร้างหนว่ ยการเรยี นรรู้ ายวชิ าช่างร้อยมาลัย รหสั วชิ า ง23210 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เวลาเรียน 40 ชวั่ โมงตอ่ ภาคเรยี น ลาดับท่ี ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ เวลา (ชัว่ โมง) 1 สวยดว้ ยมาลัย 2 ฉลาดเลือกฉลาดใช้ 4 3 มาลยั สวยด้วยมือ 4 4 การประดิษฐ์มาลัย 4 5 การทดสอบและประเมนิ ผล 26 2

คาอธบิ ายรายวิชา ง23213 วิชา ช่างประดษิ ฐ์ของใชจ้ ากเศษวัสดุ กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง ………………………………………………………………………………………………………. ศกึ ษาคน้ ควา้ เกย่ี วกบั การจัดและตกแต่งบ้าน การดูแลรกั ษาและตกแต่งสวน การตกแต่งเส้ือผา้ ด้วย วิธกี ารเตรียม ประกอบ จดั ตกแตง่ และบรกิ ารเครื่องดม่ื การเลีย้ งสัตวเ์ ศรษฐกิจ การออกแบบและเทคโนโลยี การสร้างช้นิ งานที่มีคุณภาพ การประดิษฐข์ องใชแ้ ละของตกแตง่ จากวัสดใุ นโรงเรียน การตดิ ต่อสอ่ื สารและ การใช้บรกิ ารกับหน่วยงานตา่ งๆความรพู้ ืน้ ฐานดา้ นกลไกล การควบคมุ ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนกิ สภ์ าพฉายความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการออกแบบแนวทางการเสรมิ สร้างประสบการณอ์ าชพี การค้นหาความสามารถของตนเองหรอื เตรยี มตัวเขา้ สอู่ าชพี โดยใชท้ ักษะการแสวงหาความรปู้ ระกอบดว้ ยการศึกษา คน้ ควา้ รวบรวม สงั เกตุ สารวจ และบันทึกเพอ่ื พฒั นาการทางาน ใชท้ ักษะในกระบวนการแก้ปัญหาเป็นหลักในการฝึกปฏบิ ตั กิ ารทางานตา่ งๆ รวมท้งั การอภิปรายและการอธิบายความรู้เกีย่ วกับการเสรมิ สร้างประสบการณ์อาชีพ เพ่ือใหผ้ ู้เรียนใฝเ่ รียนรู้ ขยนั รับผิดชอบ มงุ่ มั่นในการทางานเลอื กใชว้ ิธีการสื่อสารท่ีมีประสทิ ธภิ าพ มีจติ สาธารณะ มจี ิตสานกึ ในการใช้ทรัพยากรอยา่ งประหยัดและคมุ้ คา่ ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวัง 1. นักเรียนสามารถบอกความหมายความสาคัญของการจัดตกแตง่ บ้านได้ 2. นกั เรยี นสามารถบอกความสาคัญและดูแลรักษาตกแตง่ สวนได้ 3. นกั เรียนสามารถบอกความสาคญั ของการตกแตง่ เส้ือผ้าบอกวัสดุอุปกรณแ์ ละปักผา้ ดว้ ยมอื ได้ 4. นกั เรยี นสามารถเตรียมวสั ดอุ ุปกรณ์ ประกอบ จัด ตกแตง่ เคร่ืองดมื่ ได้ 5. นักเรียนสามารถเลย้ี งสัตว์เศรษฐกิจท่ีมีความสาคัญต่อการดารงชวี ิตของมนุษยไ์ ด้ 6. นักเรยี นสามารถอธิบายขน้ั ตอนกระบวนการเทคโนโลยแี ละเลือกใช้เทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรคต์ ่อชีวิต สังคม สงิ่ แวดล้อมและมีการจดั เทคโนโลยีดว้ ยการลดการใช้ทรัพยากรและเลือกใช้เทคโนโลยีทไี่ ม่มีผลกระทบ ตอ่ สิง่ แวดล้อมได้ 7. นักเรยี นสามารถสรา้ งสิง่ ของเครื่องใชแ้ ละออกแบบโดยถา่ ยทอดความคิดเป็นภาพ 3 มิตไิ ด้ 8. นักเรยี นสามารถประดษิ ฐ์ของใช้ตกแตง่ จากวัสดใุ นโรงเรียนหรอื ทอ้ งถน่ิ ได้ 9. นักเรยี นสามารถตดิ ต่อสือ่ สารใช้บรกิ ารกบั หน่วยงานตา่ งๆ ได้ 10. นกั เรียนอธบิ ายการสรา้ งเสรมิ ประสบการณอ์ าชีพมีทกั ษะพื้นฐานทจ่ี าเป็นสาหรบั การประกอบอาชพี ท่ี สนใจและเตรยี มตัวเข้าสอู่ าชพี ได้

61 คาอธิบายรายวิชา ง23210 วิชา งานแกะสลกั ผกั ผลไม้ กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง ………………………………………………………………………………………………………. ศึกษาทฤษฎีความรใู้ นเชงิ บรู ณาการเกี่ยวกับประวัติความเปน็ มา และศิลปวฒั นธรรมเก่ียวกับการ แกะสลกั ผกั ผลไม้ การเลอื กใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์ในการแกะสลกั และการบารุงรกั ษา หลักการเลือกซอ้ื ผัก ผลไม้เพอ่ื นามาใช้ในการแกะสลกั มุ่งพฒั นาส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนปฏบิ ัติงานการแกะสลกั ผักผลไม้ การจัดตกแตง่ อาหารประเภทตา่ ง ๆ ได้แก่ อาหารประเภทเครือ่ งจิ้ม อาหารจานเดียว แกะสลักผลไม้เพอื่ รับประทาน ในโอกาสต่าง ๆ การกาหนดราคาค่าบริการ การทาบัญชีรายรับ รายจ่ายสามารถผลิตและนาเสนอ ผลงานการปฏิบตั ิงานจริงอย่างสรา้ งสรรคด์ ้วยการใช้เทคโนโลยี มีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา มีความ ซื่อสตั ย์ และมีเจตคตทิ ่ตี ่องานอาชพี ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายประวัติความเป็นมา ศิลปวัฒนธรรม เกยี่ วกับการแกะสลักผกั ผลไม้ได้ 2. เลอื กใชว้ สั ดุอุปกรณ์ในการแกะสลักผักผลไมไ้ ด้ถกู ตอ้ งและเหมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน 3. เลือกซอ้ื ผัก ผลไม้ เพ่ือนามาใชใ้ นการแกะสลกั ได้อย่างเหมาะสมกบั ลักษณะของงาน 4. สามารถกาหนดราคาค่าบริการ ทาบญั ชีรายรบั – รายจา่ ยได้ถูกตอ้ ง 5. ปฏบิ ัตงิ านการแกะสลกั ผกั รปู แบบต่าง ๆไดอ้ ย่างน้อย 5-6 แบบ 6. ปฏิบัติงานการแกะสลักผลไมร้ ปู แบบต่าง ๆได้อย่างนอ้ ย 5-6 แบบ รวมท้ังสิน้ 6 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชา ง23210 วิชา งานใบตอง กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง ………………………………………………………………………………………………………. ศกึ ษาเกี่ยวกบั ศิลปะและวฒั นธรรมทเ่ี ก่ยี วข้องกับงานใบตอง การเลอื กดอกไม้ ใบไมท้ ่ใี ช้ในงาน ใบตอง ต่าง ๆ การใชแ้ ละบารุงรกั ษาอุปกรณ์ การบรรจุ สาหรบั จาหนา่ ย ปฏิบัตงิ าน เตรียมวัสดุอุปกรณ์ การพบั กลบี ใบตองแบบตา่ ง ๆ ประดิษฐ์กระทงลอย กระทงดอกไมธ้ ปู เทยี นแพ กรวยเกลี้ยง กรวยจีบ ถาดใบตอง ตวั ตะขาบ นมสาว บายศรี คานวณค่าใช้จ่าย กาหนดราคาคา่ บรกิ าร จัดจาหน่าย จดบนั ทกึ การทางาน ทาบญั ชีรายรบั -รายจา่ ย และประเมนิ ผล เพือ่ ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจ และมที กั ษะเกย่ี วกบั งานใบตอง สรา้ งผลงานอยา่ งมีความคิดสร้างสรรค์ มี ทักษะการจดั การ ทักษะการทางานรว่ มกบั ผู้อ่ืน มีคณุ ธรรมและลกั ษณะนิสยั ในการทางาน ใช้พลังงาน ทรัพยากร ในการทางานอยา่ งคุ้มค่าและยงั่ ยืน เพือ่ การอนรุ กั ษ์ส่ิงแวดล้อม มีวินยั ซือ่ สัตย์ ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมัน่ ใน การทางาน ผลการเรียนรู้ ๑. วเิ คราะห์ประวัติความเป็นมา คุณค่า การเตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นงานใบตอง ๒. อธิบายวิธีการเลอื กใบตองและการเช็ด การฉีกใบตอง ๓. ปฏิบัติการฝกึ พับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ ได้อย่างประณีต สวยงาม ๔. ปฏบิ ตั กิ ารประดษิ ฐ์ถาดใบตองได้อย่างประณตี สวยงาม ๕. ปฏบิ ตั กิ ารประดษิ ฐก์ ระทงลอยได้อย่างประณีต สวยงาม ๖. ฝึกปฏิบัติการประดิษฐบ์ ายศรีได้อย่างสวยงาม ประณีต ๗. ฝึกปฏิบตั ิการประดษิ ฐซ์ องใสด่ อกไมไ้ ดอ้ ยา่ งประณตี สวยงาม ๘. ฝกึ ประดษิ ฐพ์ านดอกไม้ใบตองไดอ้ ย่างสวยงาม ๙. ฝกึ ประดษิ ฐพ์ านขนั หมากไดอ้ ยา่ งสวยงาม ๑๐. ปฏิบัตกิ ารประดษิ ฐก์ ระเชา้ ผลไม้ดว้ ยวัสดจุ ากธรรมชาตไิ ดอ้ ย่างสวยงามและประหยดั ๑๑. ปฏิบตั ิการหอ่ ขนม อาหาร ด้วยใบตอง ไดถ้ ูกตอ้ งประณีต สวยงาม ๑๒. ทางานดว้ ยความรบั ผิดชอบ ขยนั ซอ่ื สตั ย์ ประหยัด อดออม มุง่ มั่น อดทน โดยใช้ ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มในการทางานอย่างคุม้ คา่

63 คาอธิบายรายวชิ า ง23210 วิชา งานถนอมอาหาร กล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง ………………………………………………………………………………………………………. ศกึ ษาความสาคัญและหลกั การถนอมอาหาร การเลอื กอาหาร ภาชนะ อปุ กรณแ์ ละ เคร่อื งใช้ เทคนิคและวธิ กี ารถนอมอาหาร ความสาคญั ของสารปรงุ แตง่ อาหาร ชนดิ คุณสมบัติและปริมาณ ทใ่ี ช้ การเกบ็ รกั ษา การสงวนคุณคา่ ทางโภชนาการ ใช้ทักษะกระบวนการทางาน การจัดการ วิเคราะหข์ ้นั ตอนการทางาน ปฏิบตั ิฝกึ ทักษะงานถนอม อาหารตามฤดกู าลของท้องถ่ินตามกรรมวธิ ีต่างๆ เช่นฝกึ ปฏิบตั ิการถนอมอาหารโดยวธิ กี ารตากได้ ฝกึ ปฏบิ ัติการถนอมอาหารโดยวิธกี ารดองได้ ฝกึ ปฏิบตั ิการถนอมอาหารโดยวิธีการใชน้ ้าตาลได้ ฝึกปฏบิ ัติการ ถนอมอาหารโดยใชป้ รุงแตง่ ได้ รมควัน หมกั ดอง ใช้อุณหภมู ิสูง ใชส้ ารเคมปี รงุ แตง่ อาหาร บรรจแุ ละเกบ็ อาหารที่ถนอมแลว้ ใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั โภชนาการ และสุขลักษณะ คานวณค่าใช้จา่ ย กาหนดราคา จดั นิทรรศการจาหนา่ ย จดบันทกึ การปฏบิ ัตงิ าน ทาบญั ชรี ายรบั -รายจ่ายและประเมนิ ผล จดั การเรยี นรูโ้ ดยฝกึ ปฏิบตั จิ ริง เพอื่ ให้ผเู้ รียนเกดิ ทักษะในการวิเคราะหง์ าน วางแผนการดาเนนิ งาน การเลือกใชก้ ารจัดเตรยี มวัสดุ ฝกึ ทกั ษะปฏิบตั ิงาน มที ักษะการจดั การทางานเป็นระบบ การนาความรู้ ทกั ษะ กระบวนการในการเรยี นร้ไู ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ มีเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การประกอบอาชพี สจุ ริต ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายความสาคัญและหลกั การถนอมอาหารได้ ๒. เลือกอาหาร ภาชนะ อุปกรณ์และเคร่อื งใช้ในการถนอมอาหารไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๓. สบื ค้น สรุปรายงานเทคนคิ และวิธีการถนอมอาหารได้ ๔. อธิบายวธิ ีการถนอมอาหารในทอ้ งถนิ่ ได้ ๕. ฝกึ ปฏิบตั กิ ารถนอมอาหารโดยวิธกี ารตากได้ ๖. ฝึกปฏบิ ัตกิ ารถนอมอาหารโดยวธิ กี ารหมกั ดองได้ ๗. ฝึกปฏบิ ัตกิ ารถนอมอาหารโดยวธิ กี ารใชน้ ้าตาลได้ ๘. ฝกึ ปฏิบตั ิการถนอมอาหารโดยใชป้ รุงแต่งได้ ๙. ฝึกปฏิบัติการถนอมอาหารโดยใชก้ ารรมควนั ได้ ๑๐. เกบ็ รกั ษา บรรจอุ าหารท่ถี นอมแล้วได้ถูกตอ้ งตามหลักโภชนาการและสุขลักษณะ ๑๑. คานวณค่าใช้จ่าย กาหนดราคา จัดจาหนา่ ย จดบนั ทกึ การปฏบิ ัตงิ าน ทาบัญชรี ายรับ-รายจา่ ย และประเมนิ ผลและจดั นิทรรศการแสดงผลงาน ๑๒. ใชก้ ระบวนการกล่มุ ทางาน การเตรยี มสถานท่ี การตกแตง่ สถานทีก่ ารประชาสมั พันธ์ การ นาเสนอชิน้ งาน จดั นทิ รรศการและจาหน่าย ดว้ ยความเสียสละความรบั ผดิ ชอบ รวมผลการเรียนรจู้ านวน ๑๒ ข้อ

แนวการจัดการเรียนรู้ หลักการจดั การเรยี นรู้ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 มาตรา 24 (2) และ (3) ได้ระบุแนวทางการ จัดการเรยี นรู้ โดยเน้นการฝึกทักษะกระบวนการคิด ฝกึ ทักษะการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองจากแหลง่ เรียนรู้ท่ี หลากหลาย ดงั นั้น เพ่ือใหก้ ารจัดการเรยี นรู้สอดคล้องกบั นโยบายดงั กล่าวน้ี จงึ ยึดแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่ เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ (Child Centered) เน้นการเรียนรจู้ ากการปฏิบัตจิ รงิ และเน้นการเรยี นร้แู บบบรู ณาการ ท่ีผสมผสานเชื่อมโยงสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ มีทักษะที่จาเป็นต่อการดารงชีวิต และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง สามารถนาความร้เู ก่ียวกบั การดารงชวี ิต การอาชพี มาประยุกตใ์ ชใ้ นการทางานอย่างมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ เหน็ แนวทางการประกอบอาชีพ รักการทางาน มีเจตคติท่ีดีต่อการทางาน สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่าง พอเพียง ท่ีสอดคล้องกับชีวิตจริงเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาในองค์กรเป็นธรรมชาติสอดคล้องกบั สภาพและ ปัญหาท่ีเกดิ ในวิถชี วี ิตของนักเรยี น กระบวนการเรยี นรู้ ฝึกฝนทักษะการทางาน มุ่งเน้นการทางานในชีวิตประจาวัน เพ่ือช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม ที่ว่าด้วยงานบ้าน งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ งานธุรกิจ และงานอื่นๆ ฝึกวิธีการทางานด้วย ตนเอง ตั้งแต่การวิเคราะห์งาน การวางแผนทางาน การปฏิบัติงาน และการประเมินผลการทางาน ทั้งทางาน เป็นรายบุคคลและทางานเป็นกลุ่ม เพ่ือให้เด็กสามารถทางานได้บรรลุเป้าหมาย และสามารถทางานร่วมกับ ผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ ด้วยการร้จู กั บทบาทหนา้ ทภ่ี ายในกล่มุ มีทักษะในการฟงั -พูด มีคุณธรรมในการทางาน ร่วมกัน สามารถสรุปผลและนาเสนอรายงาน ดงั ตัวอยา่ งกจิ กรรมต่อไปนี้ การทางานเพ่ือช่วยเหลือตนเอง มุ่งเน้นการฝึกทางานอย่างสม่าเสมอ ทางานให้เกิดผลอยา่ ง เป็นขั้นตอนตามกระบวน การทางาน ด้วยความสะอาด รอบคอบ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คานึงถึงความปลอดภัยในการทางาน และเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับประเภทและลักษณะ ของงาน เร่ิมจากการแต่งกาย การเก็บของใช้ การหยิบจับและใช้ของใช้ส่วนตัว การจัด เตรียม อุปกรณ์การเรียน การทาความสะอาดรองเท้า กระเป๋านักเรียน การทาความสะอาดห้องเรียน การจดั โต๊ะ ตู้ ชน้ั ในหอ้ ง เรียน การทางานเพื่อชว่ ยเหลือครอบครัว เน้นบทบาท หน้าที่ ความรบั ผิดชอบงานบ้านของสมาชิก ในบ้าน การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และสร้างลักษณะนิสัยท่ีดีในการทางาน มีความ กระตือรือร้น ตรงเวลา สามารถจัดสรรเวลาต่างๆให้สมดุลได้ ได้แก่ การจัด วาง เก็บเสื้อผ้า/ รองเท้า การเลอื กใช้เสอ้ื ผ้า การช่วยครอบครวั เตรยี ม ประกอบอาหาร การลา้ งจาน การปัดกวาด เช็ดถบู ้านเรอื น เปน็ ต้น

65 สร้างนิสัยการเป็นผู้ผลิต ผู้สร้างสรรค์ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้แสวงหาข้อมูลความรู้ต่างๆ ด้วยการศึกษา ค้นคว้า การรวบ รวม การสังเกต การสารวจ และการบันทึก จัดลาดับความคิดหรือจินตนาการอย่างเป็น ขั้นตอน นาไปสู่การวางแผน เกิดความคิด หาวิธีการแก้ปัญหา รู้จักสังเกต วิเคราะห์ สร้างทางเลือก และ ประเมนิ ทางเลือก เพอื่ อธิบายและส่ือสารให้ผู้อ่ืนเข้า ใจ เปน็ การเรยี นรเู้ พ่ือพัฒนาความสามารถของผู้เรียนใน การแก้ปัญหาและสนองความต้องการอย่างสร้างสรรค์ โดยนาความ รู้มาใช้กับกระบวนการเทคโนโลยี สร้าง ส่ิงของเคร่ืองใช้ วิธีการ หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการดารงชีวิตและกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ โดยคานึงถึง ผลกระทบต่อสังคม สิง่ แวดลอ้ ม และเศรษฐกิจ ดังตัวอย่างกิจกรรมต่อไปนี้ การศึกษาส่ิงของเครื่องใช้ในชวี ิตประจาวัน ท่ถี กู สร้างมาให้มีรปู รา่ งแตกต่างกนั ตามหนา้ ที่ใช้ สอย และฝกึ ฝนการใช้ให้ถูกวิธี ปลอดภยั ตอ่ การทางาน จนสามารถปฏบิ ัตงิ านไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว รวดเรว็ และถูกต้อง เช่น แปรงสฟี นั หมอ้ หุงข้าว กรร ไกร ปากกา ดนิ สอ ฯลฯ การสร้างของเล่นหรือของใช้อย่างเป็นข้ันตอน ตั้งแต่กาหนดปัญหาหรือความต้องการ รวบรวมข้อมูล ออกแบบ ถ่ายทอดความคิดเป็นภาพร่าง 2 มิติ 3 มิติ ก่อนลงมือสร้างและ ประเมินผล รวมถึงการนาส่ิงของกลับมาใช้ซ้า ลดการใช้ทรัพยากรหรือเลือกใช้เทคโนโลยีท่ีไม่มี ผลกระทบกับส่ิงแวดล้อม รวมถึงการสร้างเอกสารเพื่อใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน เช่น บัตร อวยพร รายงาน นทิ านประกอบภาพ เป็นต้น นาเสนอข้อมูลหลากหลายวิธี หลากหลายลักษณะ เช่น นาเสนอหน้าช้ันเรียน จัดทาเอกสาร รายงาน ป้ายประกาศ สื่อคอมพวิ เตอร์ ฯลฯ จัดประสบการณ์ในอาชีพต่างๆ ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ได้เห็น ได้ฝึกปฏิบัติกิจกรรมที่เก่ียวกับอาชีพท่ี ตนเองถนัดและสน ใจ เพื่อให้ผู้เรยี นมที กั ษะการทางานอาชพี เหน็ คุณค่าของงานอาชีพสุจริต และเห็นแนวทาง ในการประกอบอาชีพ เช่น การจัดนิทรรศการ บทบาทสมมติ ฯลฯ อันจะนาไปสู่การรู้จักตนเองด้านความรู้ ความสามารถ ทัศนคติ ศักยภาพ วิสัยทัศน์ แนว โน้มด้านอาชีพที่ต้องการของตลาดแรงงาน ท่ีเหมาะสมกับ ความสนใจ ความถนดั และทักษะทางดา้ นอาชีพก่อนตดั สินใจเลือกอาชพี การออกแบบการเรยี นรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญได้เปลี่ยนแปลงบทบาทของครูจากการเป็นผู้ชี้นาผู้ ถ่ายทอดความรไู้ ปเป็นผู้ชว่ ยเหลอื อานวยความสะดวกและสง่ เสรมิ สนับสนนุ นกั เรียนโดยใช้วธิ กี ารต่างๆอย่าง หลากหลายรูปแบบเพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการสร้างสรรค์ความรู้ และนาความรู้ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ นาเสนอทฤษฎีและเทคนคิ วธิ ีการเรยี นการสอนต่างๆมาเป็นแนวทางในการจดั การเรียนรู้ เช่น การจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain Based Learning - BBL) ที่เป็นวิธีการจัดการ เรียนรู้ที่อิงผลวิจัยทางประสาทวิทยา ซึ่งได้เสนอแนะไว้ว่าได้ตามธรรมชาตินั้นสมองเรียนรู้ได้อย่างไร โดยได้ กล่าวถึงสร้างที่แท้จริงของสมองและการทางานของสมองมนุษย์ที่มีการปรับเปล่ียนไปตามข้ันตอนของการ พัฒนา ซง่ึ สามารถนามาใชเ้ ป็นกรอบคดิ ของการสรา้ งสรรค์การจัดการเรยี นรู้ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ

การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (Problem Based Learning - PBL) เป็นวิธีการจัดการ เรียนรู้ท่ีใช้ปัญหาท่ีเกิดขึ้นเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ โดยให้นักเรียนร่วมกัน แก้ปัญหาภายใต้การแนะนาของผู้สอน ให้นักเรียนช่วยกันต้ังคาถามและช่วยกันค้นหาคาตอบ โดยอาจใช้ ความรู้เดิมมาแก้ปัญหา หรือศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติมสาหรับการแก้ปัญหา นาข้อมูลท่ีได้จากการค้นคว้ามาสรุป เป็นข้อมูลในการเก็บปัญหา แล้วช่วยกันประเมินการแก้ปัญหาเพ่ือใช้ในการเก็บปัญหาคร้ังต่อไป สาหรับ ขน้ั ตอนการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้แบบพหุปญั ญา (Multiple Intelligences) เป็นการพัฒนาองค์รวมของนกั เรียน ทั้งสมองด้านซา้ ยและสมองด้านขวา บนพน้ื ฐานความสามารถและสติปญั ญาท่ีแตกต่างกนั ของแต่ละบุคคล มุง่ หมายจะให้นักเรียนสามารถแก้ปัญหาหรือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆภา ยใต้ความหลากหลายของวัฒนธรรมหรือ สภาพแวดล้อม การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative learning) เป็นจากการจัดสถานการณ์และ บรรยากาศให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ร่วมกันฝึกให้นักเรียนท่ีมีลักษณะทางสติปัญญาและความร่วมมือกัน ทางานเป็นกลมุ่ รว่ มกนั ศึกษาค้นควา้ การจดั การเรียนรู้แบบใช้หมวกความคิด 6 ใบ (Six thinking Hats) ให้นกั เรียนฝกึ ตั้งคาถามและ ตอบคาถามทีใ่ ชค้ วามคิดในลกั ษณะต่างๆโดยสามารถอธิบายเหตุผลประกอบหรือวิเคราะห์วจิ ารณไ์ ด้ การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการแก้ปัญหา(Problem Solving ) เป็นการฝึกให้นักเรียนเรียนรู้ จากการแก้ปัญหาที่เกิดข้ึน โดยการทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา ดาเนินการแก้ปัญหา และ ตรวจสอบหรอื มองยอ้ นหลงั การจดั การเรยี นรแู้ บบโครงงาน (Project Work) ซง่ึ เปน็ วิธีการจัดการเรียนร้รู ูปแบบหนง่ึ ท่ีสง่ เสริม ให้นักเรียนเรยี นร้ดู ้วยตนเองจากการลงมือปฏิบัติ โดยใช้กระบวนการแสวงหาความรู้หรือค้นคว้าหาคาตอบใน สิ่งท่ผี เู้ รียนอยากรูห้ รอื สงสยั ดว้ ยวธิ ีการต่างกันอยา่ งหลากหลาย การจัดการเรยี นรทู้ ีเ่ น้นการปฏบิ ัต(ิ Active learning) ให้นักเรยี นได้ทดลองทาดว้ ยตนเอง เพอื่ จะได้ เรยี นรู้ขั้นตอนของงาน รจู้ กั วธิ ีแกป้ ญั หาในการทางาน การจัดการเรียนรู้แบบสร้างผังความคิด (Concept Mapping) เป็นการสอนด้วยวิธีการจัดกลุ่ม ความคิดรวบยอด เพ่ือให้เห็นความสัมพันธ์กันระหว่างความคิดหลักและความคิดรองลงไป โดยนาเสนอเป็น ภาพหรอื เป็นผงั การจัดการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experience learning) เป็นการจัดกิจกรรมหรือจัด ประสบการณใ์ หน้ ักเรยี นเกิดการเรยี นรจู้ ากการปฏิบตั ิ เรยี กกระตนุ้ ให้นกั เรียนพฒั นาทกั ษะใหมๆ่ เจตคตใิ หม่ๆ หรอื วธิ กี ารคดิ ใหม่ๆ การเรียนรู้โดยการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) เป็นการจัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้แสดง บทบาทในสถานการณ์ที่สมมุติข้ึน โดยอาจกาหนดให้แสดงบทบาทสมมติท่ีเป็นพฤติกรรมของบุคคลอ่ืน หรือ แสดงพฤติกรรมในบทบาทของตนเองในสถานการณ์ต่างๆ

67 การจัดการเรียนรโู้ ดยใช้กิจกรรมสะเต็มศึกษา (STEM Education) เปน็ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ท่ีบรู ณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตรเ์ ขา้ ดว้ ยกัน เพ่ือให้นกั เรยี นได้วางตวั เอง คิดค้น วิเคราะห์ ออกแบบ สร้างชิ้นงานและปรับปรุงแกไ้ ข เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้แบบบูรณาการ นาความรู้ไป ประยุกต์ใชใ้ นการแก้ปญั หา และการสรา้ งชิ้นงานทเี่ ป็นประโยชนต์ ่อการดารงชีวติ การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ เพือ่ ปรบั ปรุงกระบวนการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ ใหถ้ อื ปฏิบัติดังนี้ 1. แจ้งให้นักเรียนทราบมาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ วิธีการวดั และประเมินผล เกณฑ์การผา่ น มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ โดยกาหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลเป็น รอ้ ยละ เปน็ รายวิชา รายป/ี ภาค ดังน้ี การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรขู้ องแต่ละสาระกาหนดสัดส่วนของการวัดและประเมนิ ผลการ เรียนร้ดู ังนี้ 1.1 การวดั และประเมนิ ระหวา่ งเรียน เป็นการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องผู้เรยี นทเี่ กดิ ข้ึน ระหวา่ งการกรรมการเรียนการสอนซง่ึ ประกอบด้วยสัดสว่ นของ 1.1.1 คะแนนของตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ 1.1.2 คะแนนของการวัดและประเมินผลงานผ้เู รียน 1.1.3 คะแนนของพฤตกิ รรมผเู้ รียน 1.1.4 คะแนนการปฏิบัติอ่ืนๆที่ผสู้ อนกาหนด 1.2 การวัดและประเมินผลปลายปี/ปลายภาค เป็นการวัดและประเมินผลจากการตรวจสอบภาพ ปฏิบัติหรอื ภาคความร้ขู องผูเ้ รยี นของแตล่ ะรายวิชาทีก่ าหนดระยะเวลาไวช้ ัดเจนตามตารางการวดั และประเมิน ฝา่ ยวิชาการกาหนด 1.3 การกาหนดสัดสว่ นคะแนนระหว่างเรยี นกบั ปลายป/ี ปลายภาคเป็น 80 : 20 2. แจ้งให้นักเรียนทราบคุณลักษณะพึงประสงค์ของโรงเรยี น วิธีการประเมินผลและเกณฑ์การตัดสนิ โดยนกั เรียนมีพฤตกิ รรมในแต่ละคุณลกั ษณะอันพ่งึ ประสงค์ทีก่ าหนด และผา่ นการประเมนิ อยา่ งตอ่ เนือ่ งท้ังใน และนอกหอ้ งเรยี นและมผี ลการประเมินในระดับ “ดเี ย่ยี ม” “ดี” และ “ผา่ น” ดังน้ี ดีเยีย่ ม หมายถงึ ผู้เรยี นมีคณุ ลกั ษณะในการปฏิบตั ิจนเป็นนิสยั และนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั เพ่ือ ประโยชนส์ ขุ ของตนเองและชุมชน ดี หมายถงึ ผ้เู รียนมีคุณลักษณะในการปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑเ์ พื่อใหเ้ ปน็ ที่ยอมรบั ของสังคม ผา่ น หมายถึง ผเู้ รยี นรับรแู้ ละปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑ์เง่ือนไขที่กาหนด

3. แจ้งให้นักเรียนทราบมาตรฐานการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน วิธีการประเมินและเกณฑ์การ ตัดสินโดยนักเรียนมีมาตรฐานการอ่านคิดวิเคราะห์ผ่านการประเมินอย่างต่อเน่ือง และหรือ การประเมิน ปลายปี/ภาค และมีผลการประเมนิ ในระดบั “ดเี ยี่ยม” “ด”ี และ “ผา่ น” ดงั นี้ ดีเย่ียม หมายถึง มีผลงานทแี่ สดงถงึ ความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น ทีม่ ี คณุ ภาพดีเลิศอยู่เสมอ ดี หมายถึง มผี ลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ทม่ี ีคณุ ภาพ เปน็ ที่ยอมรบั ผ่าน หมายถงึ มผี ลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น ท่ีมี ข้อบกพรอ่ งบางประการ 4. กอ่ นการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ครผู ู้สอนจะตอ้ งประเมนิ ผลก่อนเรยี น เพ่ือตรวจสอบความรู้ พ้ืนฐานและทักษะเบื้องต้นของผู้เรียนโดยก่อนจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนครูผู้สอนจะต้องตรวจสอบความรู้ ทกั ษะและความรูต้ ่างๆ ของผเู้ รียนที่เปน็ พื้นฐานของเร่อื งใหมๆ่ ดว้ ยวธิ กี ารทีห่ ลากหลายและเหมาะสม 5. ระหว่างจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ให้ผู้สอนประเมินผลการเรยี นของนักเรยี นเป็นระยะๆ เพื่อ ตรวจสอบพัฒนาการของนักเรยี นว่าบรรลุผลมาตรฐาน / ตัวช้ีวัด / ผลการเรียนรู้ ตามท่ีกาหนดไว้ในแผนการ จัดการเรียนรู้ เม่ือมีนักเรียนไม่ผ่านการประเมินให้ครูจัดกิจกรรมสอนซ่อมเสริมหรือพัฒนาอยา่ งต่อเน่ืองและ ประเมนิ จนกว่าจะผา่ นเกณฑก์ ารประเมินตามทีโ่ รงเรยี นกาหนด 6. ใช้ตัวเลขแสดงผลการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ โดยนาผลการประเมินระหว่างเรียนรวมกับคะแนน ประเมินปลายป/ี ภาค ตามสัดสว่ นท่ีโรงเรยี นกาหนด แล้วนามาเปลยี่ นเปน็ ระดบั ผลการเรียนโดยใช้ตวั เลขแสดง ระดบั ผลการเรียน 8 ระดับคอื “4” “3.5” “3” “2.5” “2” “1.5” “1” “0” ดงั น้ี ระดบั ผลการเรยี น ความหมาย ช่วงคะแนน 4 ดีเยยี่ ม 80 - 100 3.5 ดมี าก 75 - 79 3 ดี 70 – 74 2.5 คอ่ นขา้ งดี 65 - 69 2 ปานกลาง 60 – 64 1.5 พอใช้ 55 - 59 1 50 – 54 0 ผ่านเกณฑ์ขัน้ ตา่ 0 - 49 ต่ากวา่ เกณฑ์ 7. ให้ใช้คาว่า “ดีเยี่ยม” “ดี” และ “ผ่าน” ในการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ การประเมนิ ความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน สาหรบั การประเมนิ ในแตล่ ะรายวชิ า

69 ส่ือและแหลง่ เรยี นรู้ ในการจัดการเรียนรู้ทุกรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ผู้สอนและ ผู้เรียนสามารถศกึ ษาหาความรู้ หรือเรียนรู้จากแหล่งเรยี นรูด้ งั น้ี 1. ห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมุดกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี หรือห้องสมุด หนว่ ยงานอ่ืน ๆ 2. แหลง่ วิทยาการทง้ั ภาครฐั และเอกชน ซง่ึ ใหบ้ รกิ ารความรู้ในเรอื่ งตา่ ง ๆ 3. ภูมิปัญญาท้องงถิ่น ปราชญ์ชาวบ้านท่ีมีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ ประสบ ความสาเรจ็ ในงาน อาชีพท่ีมอี ยู่ในชุมชนท้องถ่ิน ผนู้ าชมุ ชน ฯลฯ 4. สถานประกอบการต่าง ๆ สถานประกอบการวิชาชีพอิสระ โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม หน่วยงานวจิ ัยในท้องถ่ิน ซ่งึ ให้บรกิ ารความรู้ ฝกึ อบรมเกี่ยวกบั งานและวชิ าชพี ต่าง ๆ ท่ีมอี ยูใ่ นชุมชนท้องถน่ิ 5. ส่ือสิง่ พิมพต์ า่ ง ๆ เชน่ แผ่นพับ วารสาร หนงั สืออา้ งอิง หนังสอื พิมพ์ ฯลฯ 6. ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เช่น อทุ ยานแหง่ ชาติ สวนสัตว์ พพิ ธิ ภณั ฑ์ สวนพฤกษศาสตร์ พิพธิ ภัณฑพ์ ชื 7. สอ่ื อเี ลก็ ทรอนกิ ส์ เชน่ อินเทอร์เน็ต ซีดี – รอม วซี ีดี วดี ีทัศน์ CAI Online ฯลฯ

ภาคผนวก

71 ภาคผนวก ก อภธิ านศพั ท์

อภิธานศัพท์ สาระท่ี 1 การดารงชีวติ และครอบครวั กระบวนการกลุม่ กระบวนการในการทางานกลุ่ม มีข้นั ตอน ดงั นี้ การเลอื กหนา้ กลุ่ม การกาหนดเป้าหมาย หรอื วตั ถุประสงค์ของงาน วางแผนการทางาน แบ่งงานตามความสามารถของแต่ละบุคคล ปฏิบัติ ตามบทบาทหนา้ ที่ ประเมนิ ผล และปรับปรุงการทางาน การดารงชวี ติ เปน็ การทางานในชีวติ ประจาวนั เอช่วยเหลอื ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และสงั คมท่วี ่าดว้ ย งานบา้ น งานเกษตร งานชา่ ง งานประดษิ ฐ์ งานธรุ กิจ และงานอืน่ ๆ การทางานเพื่อการดารงชีวิต เป็นการทางานทจ่ี าเป็นเกย่ี วกับความเป็นอย่ใู นชีวิตประจาวนั ช่วยเหลอื ตนเอง ครอบครัว และสงั คมไดใ้ นสภาพเศรษฐกิจพอเพียง ไมท่ าลายส่ิงแวดล้อม เนน้ การปฏิบตั จิ รงิ จนเกิดความมนั่ ใจ และภูมิใจในผลสาเร็จของงาน เพือ่ ให้คน้ พบความสามารถ ความถนดั และความสนใจของตนเอง ทางานบรรลุเปา้ หมาย ทางานถกู วิธี ทางานเปน็ ขัน้ ตอน ทางานเปน็ ระบบ มีความคดิ สรา้ งสรรค์ มปี ระสทิ ธภิ าพ รักษาสงิ่ แวดลอ้ ม ฯลฯ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา เปน็ กระบวนการที่ตอ้ งการให้ผเู้ รียนได้เกดิ ความคิดหาวธิ ีการแกป้ ญั หาอย่างมขี ั้นตอน การสังเกต การวิเคราะห์ การสรา้ งทางเลอื ก และการประเมินทางเลอื ก ทกั ษะการจัดการ ความพยายามของบคุ คลที่จะจัดระบบงาน (ทางานเป็นรายบคุ คล) และจัดระบบคน (ทางานเป็นกลมุ่ ) เพือ่ ใหท้ างานสาเร็จตามเป้าหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ทกั ษะกระบวนการทางาน การลงมือทางานดว้ ยตนเอง โดยมงุ่ เน้นการฝึกวิธกี ารทางานอย่างส่าเสมอ ทงั้ การทางาน เปน็ รายบคุ คล และการทางานเปน็ กลุ่ม เพอ่ื ให้สามารถทางานได้บรรลุเป้าหมายไดแ้ ก่การวเิ คราะห์ งาน การวางแผนในการทางาน การปฏิบตั งิ านและการประเมินผลการทางาน ทักษะการทางานร่วมกนั

73 การทางานเปน็ กลมุ่ สามารทุ กงานร่วมกับผู้อนื่ ได้อย่างมคี วามสขุ โดยมุง่ เนน้ ใหผ้ เู้ รียนได้ ทางานอย่างมกี ระยวนการตามขน้ั ตอนการทางาน และฝกึ หลกั การทางานกลมุ่ โดยรู้จักบทบาท หนา้ ทีภ่ ายในกลุ่ม มีทักษะในการฟงั พูด มีคุณธรรมในการทางานร่วมกนั สรุปผลและนาเสนอรายงาน ทกั ษะการแสวงหาความรู้ วธิ ีการและภารกิจทม่ี ุ่งเนน้ ใหผ้ เู้ รียนได้แสวงหาข้อมูลความรู้ต่างๆเกีย่ วกับเรอื่ งหรือเนอ้ื หา น้นั ๆไดแ้ ก่ การศึกษาคน้ ควา้ การรวบรวม การสังเกต การสารวจ แลละการบันทึก สาระที่ 2 การอาชพี การจาลองอาชีพ เป็นการจดั กิจกรรมเพอ่ื การเรียนรูเ้ ก่ยี วกับอาชพี ทส่ี ถานศึกษาจดั ทาให้เสมอื นจริงเพื่อให้ ผู้เรียน มีทักษะการทางานอาชีพ เห็นคุณค่าของงานอาชัพสจุ รติ และเหน็ แนวทางในการประกอบ อาชีพเชน่ การจัดนทิ รรศการ บทบาทสมมุติ ฯลฯ การประเมนิ ทางเลือกอาชีพ เป็นการรูจ้ ักตนเองด้านความรู้ ความสามารถ ทศั นคติ ศกั ยภาพ วิสยั ทศั น์ แนวโนม้ ด้าน อาชีพที่ต้องการของตลาดแรงงาน ทเี่ หมาะสมกับความสนใจ ความถนัด และทักษะทางดา้ นอาชีพ การอาชพี เปน็ สาระทเี่ กี่ยวขอ้ งกับทกั ษะที่จาเป็นทจ่ี าเป็นต่ออาชีพ เห็นความสาคญั ของคุณธรรม จริยธรรมและเจตคติทด่ี ตี อ่ อาชพี ใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสม เหน็ คุณคา่ ของอาชพี สจุ รติ และเห็น แนวทางในการประกอบอาชพี ทกั ษะทจ่ี าเปน็ ตอ่ อาชพี ประกอบดว้ ย ทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทักษาการทางานร่วมกัน และทักษาการแสวงหาความรู้

ภาคผนวก ข คาสัง่ โรงเรียนบ้านนานวน เร่ือง แต่งต้งั คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สตู รและงานวชิ าการสถานศกึ ษาข้นั พื้นฐาน

75 คาสง่ั โรงเรียนบ้านนานวน ท่ี 20 / ๒๕๖๓ เร่อื ง แตง่ ตัง้ คณะกรรมการบริหารหลกั สตู รและงานวชิ าการสถานศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ********************************* เพื่อใหก้ ารบรหิ ารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาขน้ั พนื้ ฐานเป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ สอดคลอ้ งกบั พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวด ๔ มาตรา ๒๗ ท่ีกาหนดให้ สถานศึกษาขัน้ พื้นฐานมหี นา้ ที่จดั ทาสาระของหลักสตู รเพ่ือความเป็นไทย ความเป็นพลเมอื งทด่ี ีของชาติ การ ดารงชีวิต และการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพ่อื การศกึ ษาต่อ ในส่วนที่เก่ียวกบั สภาพของปัญหาในชุมชน และ สงั คม ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์เพื่อเปน็ สมาชิกท่ีดีของครอบครัว ชมุ ชน สังคมและ ประเทศชาติและสอดคลอ้ งกบั ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ดว้ ยคณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและงาน วชิ าการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พ.ศ.๒๕๔๔ อาศยั อานาจตามมาตรา ๓๗ แหง่ พระราชบัญญัตริ ะเบียบบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. ๒๕๔๖ และท่แี กไ้ ขเพม่ิ เติม จึงแตง่ ตัง้ คณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตร และงานวิชาการสถานศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน โรงเรยี นบา้ นนานวนปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ดงั น้ี ๑. นายปณธิ าร ห้าวหาญ ผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านนานวน ประธานกรรมการ ๒. นางสาวณัฐปภัสร์ แขมคา หวั หนา้ การเรยี นรู้ปฐมวัย กรรมการ ๓. นางบุญญา บุตรสวน หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย กรรมการ ๔. นางรชั นี บญุ เหลอื ง หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ กรรมการ ๔. นางสาวจนั ทยิ า ปราณีกิจ หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ กรรมการ ๕. นายบรรดิษฐ์ เล่ือนเพช็ ร หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา กรรมการ ๖. นายสวาด บุญสรรค์ หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาพลศึกษา กรรมการ ๗. นายบรรดิษฐ์ เลอื่ นเพ็ชร หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กรรมการ ๘. นางสาวกิติยา ราชบุรี หวั หนา้ กลมุ่ สาระการงานอาชพี และเทคโนโลยี กรรมการ ๙. นางเกศศนิ ี ย่างสุข หัวหน้ากลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ กรรมการ ๑๐. นางเกศศนิ ี ย่างสขุ หวั หนา้ งานแนะแนว กรรมการ ๑๑. นายสวาด บญุ สรรค์ หัวหนา้ งานกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน กรรมการ ๑๒. นางสาวจุฑามาศ พมิ พ์ลา หัวหนา้ งานวัดและประเมินผล กรรมการ ๑๓. นางสาวจนั ทิยา ปราณกี ิจ หวั หน้าฝา่ ยวชิ าการ กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการดาเนินการ มหี น้าท่แี ละดาเนนิ การจัดการตามขนั้ ตอนทกี่ าหนด ดังนี้ ๑. วางแผนการดาเนนิ งานวชิ าการ กาหนดสาระรายละเอยี ดของหลักสูตรระดับสถานศึกษาและแนว ทางการจัดสัดส่วนสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ และสภาพเศรษฐกิจ สงั คม ศลิ ปวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาท้องถ่ิน

๒. จัดทาคู่มือการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการของสถานศึกษา นิเทศ กากับ ติดตาม ให้ คาปรึกษา เกยี่ วกบั การพัฒนาหลกั สูตร การจดั กระบวนการเรียนรู้ การวดั และประเมินผลและการแนะแนวให้ สอดคลอ้ งและเปน็ ไปตามหลกั สตู รการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน ๓. ส่งเสริมและสนับสนนุ การพฒั นาบุคลากรเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร การจดั กระบวน การเรยี นรู้ การวัด และประเมินผลและการแนะแนวใหเ้ ป็นไปตามจุดหมายและแนวทางการดาเนนิ การของหลักสูตร ๔. ประสานความร่วมมือจากบุคคล หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ และชุมชน เพื่อให้การใช้หลักสูตร เป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและมีคณุ ภาพ ๕. ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและการใช้หลักสูตรแก่นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้เก่ียวข้องและนา ข้อมลู ปอ้ นกลบั จากฝ่ายต่าง ๆ มาพิจารณาเพอื่ ปรบั ปรงุ และพัฒนาหลกั สูตรของสถานศกึ ษา ๖. ส่งเสรมิ สนับสนนุ การวจิ ัยเกีย่ วกับการพัฒนาหลักสตู ร และกระบวนการเรียนรู้ ๗. ติดตามผลการเรียนของนักเรยี นเป็นรายบุคคล ระดับช้ัน และช่วงช้ัน ระดับวิชา กลุ่มวิชา ในแต่ ละปกี ารศกึ ษา เพือ่ ปรบั ปรุงแก้ไข และพัฒนาการดาเนินงานดา้ นต่าง ๆ ของสถานศกึ ษา ๘. ตรวจสอบทบทวน ประเมินมาตรฐาน การปฏิบัติงานของครู และการบริหารหลักสูตรระดับ สถานศึกษาในรอบปีที่ผ่านมา แล้ว ใช้ผลการประเมิน เพื่อวางแผนพัฒนาการปฏิบัติงานของครูและการ บรหิ ารหลักสูตรปีการศกึ ษาตอ่ ไป ๙. รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการบริหารหลักสูตรของสถานศึกษา โดยเน้นผลการพัฒนา คุณภาพนักเรียนต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน คณะกรรมการบริหารหลักสูตรระดับเหนือ สถานศึกษา สาธารณชน และผเู้ กี่ยวข้อง ๑๐. ใหด้ าเนนิ การประชมุ คณะกรรมการอย่างน้อยภาคเรียนละ ๒ คร้ัง ท้ังนี้ให้ผู้ได้รับการแต่งต้ังปฏิบัติหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุตาม วัตถุประสงค์ทต่ี ัง้ ไว้ ตัง้ แตบ่ ดั นี้เป็นตน้ ไป ส่งั ณ วันที่ ๒ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ (ลงชื่อ) (นายปณธิ าร ห้าวหาญ) ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านนานวน