Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปัญหาปรัชญา

ปัญหาปรัชญา

Description: ปัญหาปรัชญา 2564

Search

Read the Text Version

-๒๓๘- ภายในจิต ทำให้เห็นว่าคัมภีร์ธรรมบทนั้นเร่ิมต้นด้วยการวิเคราะห์ถึงเงื่อนไขของ พฤติกรรมมนุษย์ซึ่งค้นหาความจริงสูงสุดเช่นเดียวกับลักษณะของตัวตนหรืออาตมัน โดยอาศัยประสบการณ์ทางใจเป็นแหล่งค้นหาผ่านความคิดของเรา ส่วนจุดมุ่งหมาย น้ันแสดงให้เห็นส่ิงท่ีตรงข้ามบนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการกระทำตามหน้าท่ีกับ กฎเกณฑ์ความเป็นจริงท่ีไม่ขึ้นกับตัวตนของเรา๔๐๒ โดยลักษณะความขัดแย้งทาง ศีลธรรมนั้นมี ๒ แบบคือ ก. ขัดแย้งกับตัวเอง คือ และ ข. ขัดแย้งกับสังคม กรณีเร่อื ง นายมาลาการ๔๐๓ ต้องการจะบูชาพระพุทธเจ้าดว้ ยดอกไม้ แต่เผอญิ ว่าดอกไมน้ ี้จะตอ้ ง นำไปมอบใหพ้ ระราชา เขาจึงคิดในใจ เปน็ การขัดแย้งกับตัวเองวา่ \"ดอกไม้เหล่าน้ีเป็น ดอกไม้สำหรับบำรุงพระราชา พระราชาเม่ือไมท่ รงได้ดอกไมเ้ หล่านี้พงึ ใหจ้ องจำเราบ้าง พึงให้ฆ่าเราบ้าง พึงขับไล่เสียจากแว่นแคว้นบ้าง เราจะทำอย่างไรหนอแล\" ต่อมาก็ ยอมสละชีวิตตนเพื่อบูชาพระศาสดา พอบูชาเสร็จก็มาบอกกับภริยา ภริยาเป็นหญิง อันธพาล ไมเ่ ลอ่ื มใสด่าเขาต่างๆ นานา แลว้ ทงิ้ เขาไป เป็นความขัดแย้งกับสังคม เพราะ ถือว่านายมาลาการไม่ได้ทำหน้าท่ีของตนท่ีต้องนำดอกไม้ไปมอบให้พระราชา ขณะเดียวกันไม่ได้ทำหน้าที่ของสามีท่ีต้องคำนึงด้วยว่าไม่ว่าตนเองทำอะไรก็ต้องนึกถึง ผลท่จี ะตามมาแกภ่ รยิ าดว้ ย การท่ีภริยาท้ิงไปจึงเป็นเหตุผลท่ีฟังได้ในทางโลก แต่ในธรรมบทจบด้วย การที่พระราชาไม่กร้ิวแถมยังมอบสมบัติให้ในฐานะท่ีพระราชาก็เล่ือมใสพระพุทธเจ้า เลยเลื่อมใสนายมาลาการไปด้วย คำถามคือว่า ถ้าพระราชาไม่เล่ือมใส นิทานธรรม บทเรือ่ งน้ีจะจบด้วยการทน่ี ายมาลาการได้ผลแห่งความดีน้ันหรือไม่ หรอื เป็นอย่างไร? และการทภี่ ริยาทิ้งเขาไปอาจถกู ยกย่องว่าทำถูกต้องก็ได้ ฉะนั้น ลักษณะที่เช่ือมโยงเร่ืองเล่าน้ีจึงผสมกันระหว่างข้อเท็จจริงทาง สงั คมกบั ข้อเท็จจรงิ ทางศลี ธรรม แงห่ นึ่งวถิ ีชวี ิตของปุถชุ นนั้นอธิบายขอ้ เทจ็ จรงิ (fact) โดยระบุความดีและช่ัวผ่านการปฏิบัติท่ีถูกต้องตามหน้าที่เป็นหลัก แต่ในวิถีชีวิตแบบ ๔๐๒ David J.Kalupahana, A Path of Morals Dhammapada, p.88. ๔๐๓ อา่ นรายละเอยี ดใน ขุ.ธ.อ. (ไทย) ๑/๒/๒/๒๐๕-๒๑๐.

-๒๓๙- อริยบุคคลอาศัยความเป็นจริง (Reality) เป็นหลัก ซึ่งในคัมภีร์ธรรมบทนั้นเน้นไปท่ี ศีลธรรมแบบพระอริยบุคคลซึ่งมีความดีที่ชัดเจนและตายตัวอยู่แล้ว เพราะการที่ คนเราจะตัดสินใจทำบางอยา่ งท่ีแตกต่างออกไปจากนีจ้ ึงดูเป็นการไม่สอดคล้องกับหลัก ความดีหรือศีลธรรมดังกล่าว คนๆ น้ันจะถูกมองว่าเป็นคนอันธพาลหรือคนชั่วทันที ขณะที่คนทำตามแบบนี้จะถือว่าเป็นบัณฑิต โดยทั้งหมดพิจารณาบนฐานของความมี ตัวตนแบบคนดีท่ีต้ังอยู่บนกุศลและคนช่ัวท่ีต้ังอยู่บนอกุศลตามแนวทางแห่งความเป็น จรงิ เท่าน้ัน ๒) การวิเคราะห์มโนคติทางสงั คมที่ปรากฎในคัมภีร์ธรรมบท ก า ร วิเคราะห์งานวรรณกรรมน้ันเราเชื่อมโยงกับลักษณะทางสังคมในแต่ละยุคสมัย และ เมอื่ พิจารณาจากทฤษฎีอภิมหาเรื่องเล่าจะพบแนวคิดเชิงมโนคติที่สำคัญในนทิ านธรรม บทดงั น้ี ก) มโนคติเร่ืองกรรม ในคัมภีร์ธรรมบทจะพบว่ามีการโต้แย้งปัญหาเชิง หลกั กรรมเป็นหลกั ซงึ่ หลกั ดงั กล่าวปรากฎในพระไตรปิฎกวา่ เปน็ หลักอจินไตย ไม่ควร คิด๔๐๔ ฉะน้ัน การอธิบายนี้สนับสนุนในเรื่องหลักกรรมและผลกรรมอันเป็นเรื่อง ยงุ่ ยากและซับซ้อน กรณีเรื่องนางปตปิ ูชิกา มีนางเทพธดิ าคนหน่ึงจุติมาเกดิ แล้วจดจำ ได้ว่าตนเองเป็นภริยาของมาลาภารีเทพบุตร นางทำบุญพร้อมต้ังจิตปรารถนาว่า ส่วน แห่งบญุ น้ี จงเปน็ ปัจจัยเพ่ือประโยชน์แกอ่ นั บงั เกิดในสำนกั สามีของเรา ในวันหนง่ึ นาง ถวายทาน ทำการบชู า ฟงั ธรรม รกั ษาสิกขาบท ในเวลาเปน็ ที่สุดแห่งวัน กท็ ำกาละ ดว้ ยโรคชนดิ ใดชนิดหน่ึง ซ่ึงบังเกดิ ข้ึนในขณะน้นั แล้วบังเกิดในสำนักสามเี ตมิ ของตน พอเทพบุตรถามว่าหายไปไหนมา นางจึงบอกว่าไปจุติ เทพบุตรจึงเกิดความสงั เวชเป็น อันมากพอทราบว่า พวกมนุษย์ถือเอาอายุประมาณ ๑๐๐ ปีเกิดแล้วประมาทนอน หลบั อยู่ เมอ่ื ไรหนอจึงจกั พ้นจากทุกข์ได้ หลังจากนางปตปิ ูชิกาเสยี ชีวิตกเ็ กดิ คำถามขึ้น ในหมู่ภิกษุปุถุชนว่า \"นางปติปูชิกาไปเกิดที่ไหน\" พระพุทธเจ้าจึงทรงตรัสว่า \"ภิกษุ ทั้งหลาย นางปรารถนาถึงสามีคือมาลาภารีเทพบุตร ในดาวดึงสพิภพ นางเคล่ือนจาก ๔๐๔ อง.ฺ จตุ. (ไทย) ๒๑/๗๗/๗๙.

-๒๔๐- ที่ประดับดอกไม้ของสามีน้ันแล้ว ไปบังเกิดในสำนักของสามีนั้นนั่นแลอีก\" และตรัส สอนว่า \"มัจจุผู้ทำซึ่งท่ีสุดกระทำนระผู้มีใจข้องในอารมณ์ต่างๆ เลือกเก็บดอกไม้อยู่ เทียว ผูไ้ มอ่ ่ิมในกามทง้ั หลายนน่ั แลส่อู ำนาจ\"๔๐๕ ลักษณะการเวียนว่ายตายเกิดน้ีเช่ือมโยงกับลักษณะคำสอนเรื่องกรรม และผลกรรมเป็นคำถามทางปรัชญาเช่นเดียวกับเรื่องโลกที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงตอบ แต่ในคัมภีร์ธรรมบทกลับมีการโต้แย้งเร่ืองกรรมและผลกรรมอย่างกว้างขวาง เพราะ เร่ืองเวียนว่ายตายเกิดเป็นปัญหาท่ีคนในสมัยนั้นให้ความสนใจ และอีกแง่หน่ึงเป็นฐาน สำคัญท่ีจะทำให้คนนับถือศาสนาหรือไม่ ฉะนั้น การดำเนินเรื่องเล่าในคัมภีร์ธรรมบท โดยอาศัยพระพทุ ธเจา้ ผูเ้ ปน็ สพั พัญญคู ือร้แู จ้งทุกอยา่ งเปน็ ผ้ไู ขข้อข้องใจจะยิง่ ชว่ ยทำให้ เกิดศรัทธามากยง่ิ ขนึ้ ตามคำอธิบายเรอื่ งศรัทธา ๔ คอื (๑) กัมมสัทธา เชื่อกรรม กฎแห่งกรรม กรรมมีอยู่จริง คือ เช่ือว่าเมื่อทำ อะไรโดยมีเจตนา คือ จงใจทำท้ังรู้ ย่อมเป็นกรรม คือ เป็นความช่ัวความดีมีขึ้นในตน เปน็ เหตุปัจจัยก่อใหเ้ กดิ ผลดีผลร้ายสืบเน่อื งต่อไป การกระทำไมว่ ่างเปล่าและเชือ่ วา่ ผล ทตี่ ้องการจะสำเรจ็ ไดด้ ้วยการกระทำ มใิ ช่ดว้ ยอ้อนวอนหรือนอนคอยโชค เป็นตน้ (๒) วิปากสัทธา เช่ือวิบาก ผลของกรรม ผลของกรรมมีจริง คือ เชื่อว่า กรรมที่ทำแลว้ ต้องมผี ล และผลตอ้ งมีเหตุ ผลดเี กดิ จากกรรมดี ผลช่วั เกดิ จากกรรมชว่ั (๓) กมั มัสสกตาสัทธา เชอื่ ความท่สี ัตวม์ กี รรมเปน็ ของตน เชอ่ื ว่าแต่ละคน เป็นเจา้ ของ จะตอ้ งรับผิดชอบเสวยวิบากเปน็ ไปตามกรรมของตน (๔) ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า, ม่ันใจในองค์พระ ตถาคต ว่าทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธะ ตรัสธรรม บัญญัติวินัยไว้ด้วยดี ทรงเป็นผู้นำ ทางท่ีแสดงให้เห็นว่า มนุษย์คือเราทุกคนนี้ หากฝึกตนด้วยดี ก็สามารถเข้าถึงภูมิธรรม สงู สุด บริสทุ ธ์ิหลุดพ้นได้ ดังท่ีพระองคไ์ ดท้ รงบำเพ็ญไว้เป็นแบบอย่าง ข้อที่มาในบาลีพระไตรปิฎกคือข้อ ๔ ข้อเดียวเท่าน้ัน แต่ก็รวมเอาอีก ๓ ขอ้ เข้าไว้ทั้งหมดแล้ว๔๐๖ ๔๐๕ อา่ นรายละเอยี ดใน ข.ุ ธ.อ. (ไทย) ๑/๒/๒/๔๓-๔๗.

-๒๔๑- ข) มโนคติเร่ืองชีวิตประเสริฐ (Noble life) เป็นชีวิตท่ีมีศีลธรรมแบบ สมบูรณ์ ไม่มีความโลภอยากได้ของใคร ไม่มีความพยาบาทเบียดเบียนกัน และไม่มี ความเห็นผิดอีกต่อไป กรณีเรื่องพระติสสเถระ๔๐๗ พระเถระได้เข้าไปในบ้านของนาย ช่างเจียรไนอัญมณี ตอนนั้นช่างกำลังน่ังห่ันเนื้ออยู่พอดี สักพักก็มีคนมามอบแก้วมณี ให้พร้อมกับแจ้งว่าเป็นคำส่ังของพระเจ้าปเสนทโิ กศลให้ชา่ งดว้ ยเจยี รไนแล้วสง่ กลับคืน มา ชา่ งก็เอามือท่ีเปื้อนเลือดนั้นหยิบแก้วแล้ววางลงบนเขียงก่อนจะเดินออกไปล้างมือ พอดีกับท่ีนกกะเรียนที่เลี้ยงไว้ได้กินเลือดจึงกลืนกินแก้วมณีลงท้องไป พอนายช่างมา ไม่เจอก็ถามลูกและภริยาก็ไม่มีใครเอาไปก็เหลือเพียงพระเถระ แต่พระเถระก็ปฏิเสธ ด้วยความกลวั ราชภัยจึงก้าวโทษพระเถระ และลงมอื ทรมานพระเถระดว้ ยการเอาเชอื ก มากพันรอบศีรษะ ขันด้วยท่อนไม้ จนจนเลือดออกทางหู จมูกพระเถระ ท่านเจ็บปวด มากจนล้มไปกับพื้น นกกะเรียนได้กินจึงมาด่ืมเลือด นายช่างเห็นจึงเตะนกจนตาย พระเถระพอเห็นจึงถามว่านกตายหรอื ยงั นายช่างก็ตอบว่าตายแล้ว พระเถระจึงบอก ความจรงิ ว่า “นกน้ันกลนื แก้วมณีไป แต่ถา้ นกนี้ยงั ไม่ตาย แม้เราจะตายก็ไม่บอก” นาย ช่างจึงแหวะท้องนกออกก็พบกับแก้วมณีจริงตามคำพระเถระ เขาจึงขอขมาโทษพระ เถระ ส่วนพระเถระกจ็ ากมาก่อนจะเสียชวี ติ ฉะนั้น การเป็นพระอรหันตจ์ ึงเป็นผู้มชี ีวิต ท่มี ศี ีลธรรมสมบูรณ์แมห้ ากจะตายก็ไม่ล่วงละเมิดทำผดิ อีก ฉะนั้น มโนคติเร่ืองชีวิตประเสริฐคือชีวิตแบบพรหมจรรย์ โดยวิถีชีวิต แบบนี้อธิบายไว้ในมหาโควินทสูตรว่าด้วยเรื่องวิถีการประพฤติพรหมจรรย์น้ันไม่ว่าจะ เป็นปุถุชนหรือพระอริยบุคคลล้วนต้องดำเนินชีวิตด้วยหลักพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา กับอริยมรรค๔๐๘ จึงชื่อว่ามีชีวิตท่ีประเสริฐ ซ่ึงเน้ือหาใน คัมภีรธ์ รรมบทน้นั ได้วางมโนคติเร่ืองน้ีไว้อย่างแยบยลเพื่อให้ผู้คนที่ใช้ชีวิตแบบฆราวาส หรือพระภกิ ษไุ ดม้ กี ารดำเนนิ ชวี ิตและแกป้ ัญหาดว้ ยหลักธรรม ๔๐๖ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต), พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับ ประมวล ธรรม, พิมพค์ รง้ั ท่ี ๓๑, (กรงุ เทพมหานคร : ผลธิ ัมม,์ ๒๕๕๘), หนา้ ๑๔๐. ๔๐๗ ข.ุ ธ.อ. (ไทย) ๑/๒/๓/๕๐-๕๓. ๔๐๘ อา่ นรายละเอยี ดใน ที.ม. (ไทย) ๑๐/๓๑๙/๒๔๗.

-๒๔๒- สรุป การวเิ คราะห์เรื่องเลา่ ในคัมภีรธ์ รรมบทประกอบไปด้วยเน้ือหาสำคัญ ๒ ส่วนคือ ก) โครงเรือ่ งเล่า ประกอบด้วยเนื้อหาประกอบด้วยข้อความที่กระชับและ วางรูปแบบของบทสนทนา คำสอนทั้งหมดอาศัยแนวคิดเร่ืองจิตเป็นพ้ืนฐาน และ ความขัดแย้งทางศีลธรรม โดยโครงเร่ืองเล่านั้นจะพบว่ามีอยู่ทุกเรอ่ื งในคัมภีรธ์ รรมบท และใชค้ วามขัดแยง้ เปน็ ตัวดำเนนิ เรื่อง โดยมีบทสรุปคือจิตจะไดร้ ับการพัฒนาใหส้ ูงข้ึน ด้วยธรรมะ และด้วยรูปแบบการเล่าเรื่องที่มีโครงเรื่องชัดเจนทำให้เร่ืองเล่าในคัมภีร์ ธรรมบทมีรูปแบบของการวางเรื่องแบบนิทาน คือ มีการเล่าว่าใคร ทำอะไร ท่ีไหน และปัญหาท่ีเกิดขึ้นน้ันสัมพันธ์การตัดสินใจทางศีลธรรมบางอย่าง โดยต้องอาศัยคน แนะนำคือพระพุทธเจ้า ก่อนจะจบด้วยคติธรรม หรือคำคมในรูปแบบของคาถา และที่ ไม่ทิ้งคือผลที่เกิดข้ึนจากการฟังธรรม ซึ่งปรากฏกลายเป็นโครงสร้างสำคัญไม่ว่าจะอยู่ ในคัมภีร์หลักคือพระไตรปิฎก และในคัมภีร์ธรรมบทก็นำมาประกอบไว้ เพื่อช้ีผลของ เร่ืองเล่านน้ั จะเกิดผลของการปฏิบัตติ ามศีลธรรมนั้นเสมอ ข) มโนคติของเรื่องเล่า ประกอบด้วยมโนคติเร่ืองกรรม และมโนคติเรอื่ ง ชีวิตประเสริฐ โดยกรรมน้ันเป็นฐานของความเช่ือในยุคน้ัน การท่ีพระพุทธเจ้าอธิบาย ย่อมทำให้เกิดความน่าเช่ือถือมากท่ีสุด และกฎของการดำเนินชีวิตที่มีประเสริฐใน พระพุทธศาสนาถูกวางไวเ้ ป็นเน้ือหาหลักท่ีทำให้เราเห็นรปู แบบศีลธรรมสากลท่ีเราเอง ต้องไม่มีกิเลสเป็นเคร่ืองดำเนินชีวิต และด้วยแนวคิดแบบอภิมหาเรื่องเล่าที่พยายาม นำเสนอแนวคิดใดแนวคิดหนึ่งไว้เป็นหลักเหนอื ความคิดอ่ืนอาจจะทำให้เกิดข้อถกเถียง ได้ไม่มีท่ีส้ินสุดโดยเฉพาะเรื่องกรรม และเร่ืองวิถีชีวิตที่ล้วนแตกต่างกันไป แต่ด้วย ลักษณะเรื่องเล่าในคัมภีร์ธรรมบทนั้นเป็นการขยายหลักบางอย่างที่ยากให้ง่ายข้ึนด้วย เรื่องเล่า และใช้ตัวอย่างประกอบเพื่อสร้างการรับรู้วิถีชีวิตท่ีเป็นอุดมคติ ไม่สามารถ นำเสนอเน้ือหาเหล่านั้นได้โดยตรง เช่น ปฏิจจสมุปบาท, กรรม และนิพพาน เป็นต้น และแนวคิดเหล่าน้ีพระพุทธเจ้าก็ทรงแนะว่าเป็นสิ่งที่รู้ยาก และไม่อาจขบคิดได้ด้วย ทฤษฎี แต่อย่าลืมว่าเราอาจใช้วิธีการเรื่องเล่าเพ่ือสอนธรรมแก่คนเหล่านี้ได้ เช่นเดียวกับการท่ีเด็กจะเรียนรู้ธรรมะที่ลึกซ้ึงได้ก็ควรจะเริ่มต้นด้วยของเล่นก่อน และ

-๒๔๓- ของเล่นนั้นก็ควรเป็นสิ่งที่จับต้องได้ การสอนธรรมในคัมภีร์ธรรมบทจึงอา จมี วัตถุประสงค์ในการสร้างศรัทธาและความเห็นท่ีถูกต้องชอบธรรมตามหลักสัมมาทิฏฐิ และการปลกู ฝังวิถชี วี ติ ทว่ี างเป็นกรอบไวเ้ พอ่ื เดนิ ทางไปสู่จุดหมายอกี ทหี นึ่ง ฉะน้ัน อภิ มหาเรื่องเล่าในคัมภีร์ธรรมบทที่โยงถึงเร่ืองกรรมและชีวิตพรหมจรรย์จึงอาจทำให้เข้า ในธรรมะอกี มากมายภายในเน้อื หานนั้ ได้อยา่ งชัดเจนยงิ่ ขึน้ ไปด้วย

-๒๔๔-

-๒๔๕- บรรณานุกรม จวงจ่ือ. จวงจื่อ ฉบับสมบูรณ์. แปลโดย สุรัติ ปรีชาธรรม. กรุงเทพมหานคร : โอ เพน่ บุ๊กส์, ๒๕๕๖. เจษฎา ทองรุ่งโรจน์. พจนานุกรมองั กฤษ-ไทย ปรชั ญา. กรงุ เทพมหานคร: แสงดาว, ๒๕๕๗. ชารล์ ส์ ดาร์วิน. กำเนดิ สปีชสี ์ (The Origin of Spicies). แปลโดย ดร.นำชัย ชวี วิวรรธนแ์ ละคณะ. พิมพ์คร้ังท๒ี่ . กรงุ เทพมหานคร : สารคด,ี ๒๕๕๘. ซ.ี อี.เอม็ .โจด. ปรชั ญา (Philosophy). แปลโดย วทิ ย์ วิศทเวทย์. พมิ พค์ ร้ังที่ ๓. กรงุ เทพมหานคร: โครงการตำราสงั คมศาสตร์และมนษุ ยศาสตร์ สมาคม สงั คมศาสตรแ์ ห่งประเทศไทย, ๒๕๒๑. ดร.ธเิ รนทรโมฮนั ทัตตะ. ปรชั ญาอินเดยี . แปลโดย สน่ัน ไชยานกุ ุล. พมิ พ์ครัง้ ท่ี ๒. กรุงเทพมหานคร : มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๑๙. ศ.ดร.เค.เอ็น.ชยติลเลเก. พุทธญาณวทิ ยา. แปลโดย ดร.สมหวงั แกว้ สุฟอง. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๕๖. ประทุม องั กรู โรหิต. การศกึ ษาเชิงวิเคราะหค์ วามคดิ ของวติ ต์เกนสไตน์ เกยี่ วกับ ความหมายของปรัชญา.วทิ ยานิพนธอ์ กั ษรศาสตรม์ หาบัณฑิต แผนกวิชา ปรัชญา จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ๒๕๑๙. ปรชี า ช้างขวญั ยนื . ปรชั ญากับวถิ ชี วี ิต. กรงุ เทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการ การอดุ มศึกษา, ๒๕๔๙. เปลโต. โสกราตสี . แปลโดย ส.ศวิ รักษ์. พมิ พ์ครงั้ ท่ี ๘.กรุงเทพมหานคร : ศยาม, ๒๕๕๓. พระมหาขวัญชยั กติ ฺติเมธี (เหมประไพ). \"การศึกษาเชงิ วิพากย์ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง ภาษากับความเป็นจริงในพทุ ธปรชั ญาเถรวาท\". วทิ ยานิพนธ์พทุ ธศาสตร ดุษฎบี ณั ฑิต. บณั ฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ,

-๒๔๖- ๒๕๕๗. พระราชวรมนุ ี (ประยรู ธมมฺ จิตโฺ ต). ปรัชญากรกี : บ่อเกิดภูมปิ ญั ญาตะวันตก. พมิ พ์ ครง้ั ที่ ๓. กรงุ เทพมหานคร : ศยาม,๒๕๔๐. พระพรหมคณุ าภรณ์ (ป.อ.ปยุตโฺ ต). การพัฒนาทย่ี ่ังยืน. พมิ พค์ ร้ังท่ี ๖. กรงุ เทพมหานคร : สหธรรมิก, ๒๕๕๐. ........................ พจนานุกรมพทุ ธศาสน์ ฉบบั ประมวลศัพท์. พิมพค์ ร้งั ที่ ๑๕. กรงุ เทพมหานคร : สหธรรมกิ ,๒๕๕๓. พระพุทธโฆษาจารย์. วิสทุ ธิมรรค ภาค ๒ ตอน ๑. แปลโดย คณะกรรมการแผนก ตำรามหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย. พมิ พค์ ร้ังที่ ๑๐. กรงุ เทพมหานคร : มหา มกฎุ ราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๘. พระมหาสมปอง จนฺทวํโส (ยงุ รัมย)์ . \"ธรรมชาตขิ องมนุษย์ในพุทธปรัชญาเถรวาทกบั ปรชั ญาของอริสโตเติล\" . วทิ ยานิพนธ์พทุ ธศาสตรม์ หาบัณฑติ . บณั ฑติ วิทยาลัย : มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย , ๒๕๔๘. พทุ ธทาสภกิ ขุ. ตวั กู ของกู. พมิ พ์ครัง้ ท่ี ๒. กรุงเทพมหานคร : สขุ ภาพใจ, ๒๕๔๘. ................... พระเจ้าในภาษาธรรมของพุทธบรษิ ัท. กรุงเทพมหานคร : ดวงตะวัน, ๒๕๕๓. ................... ปฏจิ จสมปุ บาท จากพระโอษฐ์. พิมพค์ รัง้ ท่ี ๘. กรุงเทพมหานคร : สขุ ภาพใจ, ๒๕๕๔. พพิ ฒั น์ สยุ ะ. สุวิชญาจารย์ : รวมบทความทางวชิ าการเพื่อเป็นเกียรตแิ ด่ ผูช้ ่วย ศาสตราจารย์เอมอร นริ ญั ราช และอาจารยเ์ ชษฐา พวงหัตถ์ในวาระ อายคุ รบ ๖๐ ปี. นครปฐม : ภาควชิ าปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร, ๒๕๕๕. มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปฎิ กภาษาไทย ฉบบั มหาจุฬาลงกรณราช วทิ ยาลัย. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๙. มหามกุฏราชวทิ ยาลัย. พระไตรปฎิ กพร้อมอรรถกถา แปล ชดุ ๙๑ เลม่ .

-๒๔๗- กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพม์ หามกุฏราชวทิ ยาลัย, ๒๕๒๗. มิลินทปัญหา. มลิ ินทปญั หา. แปลโดยมหามกฏุ ราชวิทยาลัย. พมิ พค์ รั้งท่ี ๒. กรงุ เทพมหานคร : มหามกฏุ ราชวิทยาลัย, ๒๕๔๓. เมิ่งจื่อ. คมั ภรี ์เมิ่งจือ่ . แปลโดย ปกรณ์ ลมิ ปนุสรณ์. กรงุ เทพมหานคร : โอเพ่น โซไซต,ี้ ๒๕๕๘. ราชบัณฑติ ยสถาน. พจนานกุ รมศัพท์ปรชั ญา อังกฤษ-ไทย ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน. พมิ พ์คร้ังที่ ๓. กรงุ เทพมหานคร : ราชบัณฑติ ยสถาน,๒๕๔๓. เหลาจือ๊ . วิถแี หง่ เต๋า. แปลและเรียบเรยี งโดย พจนา จนั ทรสันติ. พมิ พ์ครงั้ ที่ ๑๕. กรุงเทพมหานคร : เคล็ดไทย, ๒๕๔๔. สมภาร พรมทา. พุทธศาสนานกิ ายเซน : การศกึ ษาเชิงวิเคราะห์. พิมพ์ครงั้ ท่ี ๓. กรงุ เทพมหานคร : จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๔๖. .................. กนิ : มุมมองของพุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย, ๒๕๔๗. .................. พุทธปรัชญา : มนษุ ย์ สงั คม และปัญหาจริยธรรม. พิมพ์คร้งั ที่ ๒. กรงุ เทพมหานคร : ศยาม,๒๕๔๘. สวุ รรณา สถาอานันท์. หลนุ อี่ว์ : ขงจื่อสนทนา.กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั , ๒๕๕๑. .................. กระแสธารปรชั ญาจนี :ข้อโตแ้ ย้งเร่อื ง ธรรมชาติ อำนาจ และจารีต. พิมพ์ครั้งท่ี ๔. กรงุ เทพมหานคร:สำนกั พมิ พส์ ยามปรทิ ศั น์, พ.ศ. ๒๕๕๖. อดิศักดิ์ ทองบุญ. ปรัชญาอนิ เดยี ร่วมสมัย. พมิ พค์ รั้งที่ ๓. กรุงเทพมหานคร : ราชบัณฑติ ยสถาน, ๒๕๔๕. อมรา ศรสี ชุ าติ. \"อุปนษิ ัท : อภิปรัชญาท่สี อดคล้องกันและที่สอดคล้องกบั ทฤษฎี วิทยาศาสตรเ์ ร่อื งกำเนดิ และการส้ินสุดของจกั รวาล โลก สรรพสงิ่ และ ชวี ติ \". วิทยานพิ นธ์ศิลปศาสตร์มหาบัณฑติ . บณั ฑิตวิทยาลัย : มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร, ๒๕๔๑. A.J.Ayer. Language, Truth and Logic. USA : Penguin,1946.

-๒๔๘- Arthur L.Herman. The Problem of Evil and Indian Thought. 2nd Edition. Delhi : Motilal Banarsidass Publishers,1993. Basant Kumar Lal. Contemporary Indian Philosophy. 9th Reprints. Delhi: Motilal Banarsidass Publishers,2013. Bijayananda Kar. The Philosophy of Lokayata : A Review and Reconstruction. Delhi: Motilal Banarsidass Publishers,2013. Bimal Krishna Matilal. Logic, Language and Reality : Indian Philosophy and Contemporary Issues. 2nd edition. Delhi: Motilal Banarsidass Publishers Private Limited,2008. Charles Taliaferro, Paul Draper and Philip L. Quinn. A Companion to Philosophy of Religion. Second Edition. Oxford : Blackwell Publishing Ltd,2010. Chakravarthi Ram-Prasad. Eastern Philosophy. London : Weidenfeld & Nicolson, 2005. Christopher Shields. The Blackwell Guide to Ancient Philosophy. Oxford : Blackwell Publishing Ltd.,2003. D.Z.Philips. Death and Immortality. London : Macmillan,1970. David J. Kalupahana. The Buddha's Philosophy of Language. Sri Lanka: A Sarvodaya Vishva Lekha Publication, 1999. ................ A Path of Morals Dhammapada.Dehiwala : Buddhist Cultural Centre , 2008 Georgios Anagnostopoulos. A Companion to Aristotle. Oxford : Blackwell Publishing Ltd.,2009. Gregory Castle. The Blackwell Guide to Literary Theory. Oxford : Blackwell Publishing Ltd.,2007. John R.Burr and Milton Goldinger. Philosophy and Contemporary

-๒๔๙- Issues. Ninth Edition. New Delhi: Private Limited., 2008. Hubert L. Dreyfus, Mark A. Wrathall. A Companion to Phenomenology and Existentialism. Oxford : Blackwell Publishing Ltd.,2006. Karl H. Potter. Presupposition of India's Philosophy. Delhi : Motilal Banarsidass Publishers,2002. K.N.Jayatilleke. Early Buddhist Theory of Knowledge. Delhi : George Allen & Unwin Ltd.,2004. Micheal B. Wikinson and Hugh N. Cambell. Philosophy of Religion : An Introduction. New York : Continuum, 2010. Michael Devitt and Richard Hanley. The Blackwell Guide to the Philosophy of Language. UK : Blackwell Publishing Ltd,2006. N.N.Bhattacharyya. Jain Philosophy : Historical Outline. 2nd revised. New Delhi : Munshiram Manoharlal Publishers Pvt.Ltd.,1999. P.T.Raju. Introduction to Comparative Philosophy. Delhi : Motilal Banarsidass Publishers,2007. Piotr Balcerowicz & Marek Mejor. Essay in Indian Philosophy, Religion and Literature. Delhi : Motilal Banarsidass,2004. Ramakrishna Puligandla. Fundamentals of Indian Philosophy. Fourth impression. New Delhi : D.K.Printworld Ltd.,2008. Ram Nath Sharma. Problems of Philosophy. Second Revised Edited. Meerut : Kedar Nath Ram Nath & Co. Raja Ram Dravid. The Problem of Universals in Indian Philosophy. 2nd revised, Delhi : Motilal Banarsidass Publishers, 2001. Robert Audi. The Cambridge Dictionary of Philosophy. Second Edition. New York : Cambridge University Press,1999. S.K.Mohanty. Persons, Mind and Value. New Delhi : Decent Books,1999.

-๒๕๐- Sri Aurobindo. The Life Divine. India : Pondicherry,2005. Swami Vivekananda. Jnana Yoga. 4th edition. Mayavati, Almora : Advaita ashrama, 1930. ............. Complete Work of Swami Vivekananda. Mayavati, Almora : Advaita ashrama, 1963. William R. Schroeder. Continental Philosophy : A Critical Approach. UK: Blackwell Publishing Ltd.,2005. St. Thomas Aquinas. The Summa Theologica. tr. by Fathers of the English Dominican Province. online http://www.microbookstudio.com.

-๒๕๑- ภาคผนวก

-๒๕๒-

-๒๕๓-

-๒๕๔-

-๒๕๕-

-๒๕๖-

-๒๕๗- ประวัตผิ เู้ ขียน ชอื่ -นามสกุล ภาษาไทย : พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี (เหมประไพ) ป.ธ.๙,ดร. วนั /เดือน/ปีเกิด : วนั จันทร์ ที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๘ ภมู ิลำเนา : จงั หวดั อ่างทอง ประวตั ิการศึกษา : - พ.ศ. ๒๕๔๒ สำเร็จ พุทธศาสตรบัณ ฑิต สาขาปรัชญ า จาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย กรุงเทพมหานคร (สว่ นกลาง) - พ.ศ.๒๕๔๘ สำเร็จ พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาปรัชญา จาก มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั กรงุ เทพมหานคร (สว่ นกลาง) - พ.ศ.๒๕๕๐ สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค จากสำนักเรียนวัด บพติ รพิมุข วรวิหาร กรุงเทพมหานคร - พ.ศ.๒๕๕๙ สำเร็จ พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาปรัชญา จาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย ปี ๒๕๕๗ (ส่วนกลาง) ประวตั ิการทำงาน - อาจารย์บรรยายพิเศษบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลยั - อาจารย์วิทยาลัยสงฆพ์ ทุ ธปัญญาศรที วารวดี เกียรติคณุ : รางวลั ผ้ทู ำคณุ ประโยชน์ (เสมาธรรมจักร) ประเภทส่งเสริมการศกึ ษา พระพุทธศาสนา สาขาการแตง่ หนังสอื ทางพระพทุ ธศาสนา สงั กัด : คณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สถานที่ทำงาน : ภาควชิ าศาสนาและปรชั ญา คณะพุทธศาสตร์ อาคารเรยี นรวม มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวงั นอ้ ย จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๑๓๑๗๐ ทีอ่ ยู่ปจั จบุ นั : วดั บพติ รพมิ ุขวรวหิ าร ถนนจักรวรรดิ เขตสมั พันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๐๐


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook