การเออกอสกาแรบบ
ความหมายของการออกแบบ การรู้จักวางแผนจัดตั้งขั้นตอนและรู้จักเลือกใช้ วัสดุวิธีการเพื่อทำตามที่ต้องการ โดยสอดคล้อง กับลักษณะรูปแบบและคุณสมบัติของวัสดุแต่ละ ชนิด ตามความคิดสร้างสรรค์ เช่น การทำโต๊ะขึ้นมา สักหนึ่งตัวจะต้องวางแผนไว้เป็นขั้นตอนโดยเริ่ม จากการเลือกวัสดุที่ใช้ทำโต๊ะวัสดุในการยึดต่อ ระหว่างจุดต่างๆ รู้ถึงวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ งาน ความแข็งแรง การรองรับน้ำหนัก สีสันควรใช้ สีอะไรจึงจะออกมาสวย เป็นต้น
การออกแบบ แบ่งออก 3 ข้อ 1. ความสวยงาม 2. มีประโยชน์ใช้สอยที่ดี 3. มีแนวความคิดในการออก แบบที่ดี
องค์ประกอบของการออกแบบ 1. จุด (Dot) เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการออกแบบ เพราะจุดเป็นต้น กำเนิดของเส้นและน้ำหนักของภาพ จะนำจุดมาใช้ออกแบบสามารถใช้ได้ 3 ลักษณะ ดังนี้ 1. วางตำแหน่งของจุดลักษณะกระจาย มักใช้ในการออกแบบแนวนอน 2.วางตำแหน่งของจุดลักษณะเน้นช่องจังหวะ เป็นการวางจุด โดยให้พักเป็น ระยะ 3. วางตำแหน่งของจุดลักษณะเป็นกลุ่ม
2. เส้น (Line) เส้นเกิดจากการเดินทางหรือต่อเนื่องของจุดในลักษณะ ทิศทางเดียวกันในการออกแบบเส้นอาจทำให้เกิดลากพู่กัน การขูดขีดด้วยดินสอ ปากกา เส้นในงานออกแบบประกอบด้วยเน้นหลักที่สำคัญ ได้แก่ 1.เส้นแนวนอน (Horizontal Line) 2. เส้นตั้ง (Vertical Line) 3. เส้นเฉียง (Diagonal Line) 4.เส้นโค้ง (Curve Line) 5.เส้นซิกแซก (Zigzag Line) 6.เส้นคลื่น (Wave Line)
3. รูปร่างและรูปทรง (Shape & Form) รูปร่างและรูปทรงเกิดจากเส้นที่เดิน ทางครบวงจรในการออกแบบมักจะ กล่าวถึงรูปร่างและรูปทรงควบคู่กันไป จำแนกได้จำแนกได้เป็น 3 ประเภท 1. รูปเรขาคณิต 2. รูปธรรมชาติ 3. รูปอิสระ
แสงและเงา (Light & Shade) เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ดูรู้สึกต่อ ลักษณะ 3 มิติของรูปทรงได้ ชัดเจนยิ่งขึ้น ในการออกแบบก ราฟฟิค ซึ่งกระทำบนวัสดุ 2 มิติผู้ ออกแบบสามารถใช้แสงเงาเพื่อ เน้นความลึกหรือมิติที่สามได้
ช่องว่าง (Space) การกำหนดช่องว่างในตัววัตถุหรือ ตัวรูป (Positive Space) และช่อง ว่างรอบตัววัตถุหรือพื้น (Negative Space) ผู้ออกแบบควรพิจารณา ถึงความสัมพันธ์ต่อเนื่องระหว่าง รูปและพื้นที่ให้มีความเหมาะสม ทัดเทียมกัน
สี (Color) สีเป็นองค์ประกอบที่มี อิทธิพลต่อแล้วรู้สึกและการรับ รู้เป็นอย่างยิ่งจำเป็นต้องเลือก สีให้เหมาะสมกับจุดมุ่งหมาย ของงาน
ลักษณะพื้นผิว (Texture) ความรู้สึกในการจำและความเรียบหรือ ความขรุขระของผิววัตถุจากการสัมผัส ทางสายตาลักษณะพื้นผิวที่มีความแตก ต่างกันย่อมเร้าให้ผู้ดูเกิดความสนใจและ ความแปลกตาไม่น่าเบื่อนาย
หส่กวลัานกรปกอราอระ กกจัแอดบบวบาในง 1. การเน้นจุดแห่งความสนใจ (Emphasis) 2. ความสมดุล (Balance) 3. ความมีความมีเอกภาพ (Unity) 4. จังหวะ (Rhythm) 5. ความกลมกลืน (Harmon) 6. ความขัดแย้ง (Contrast) 7. สัดส่วน (Proportion) 8. ความเรียบง่าย (Simplicity)
หลักการออกแบบที่ดี ควรออกแบบที่มีลักษณะเหมาะสมตรงกับความมุ่งหมายตาม ประโยชน์ใช้สอย ควรออกแบบที่มีลักษณะง่ายมีจำนวนผลิตผลตามความต้องการของ สังคมและมีกระบวนการผลิตไม่ยุ่งยาก ควรจะมีสัดส่วนที่ดีมีความกลมกลืนกันทั้งส่วนรวม มีความเหมาะสมกับวัตถุและวิธีการมีคุณภาพมีวิธีการใช้งานสะดวก ควรมีลักษณะของการตบแต่งอย่างพอดีไม่รกรุงรัง ควรมีโครงสร้างที่เหมาะสมกลมกลืนกับวัฒนธรรมและความต้องการ ของสังคม
หนอ้อาทกี่แแลบะบปดร้วะโยยเช ทนค์ขโนอโงลกยีาร คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบมีหน้าที่สำคัญ 2 ประการ ประการที่ 1 คืออำนวยความสะดวกในการเขียนแบบ (Drafting) ของชิ้นงานที่ต้องการบนจอภาพ ประการที่ 2 ของคอมพิวเตอร์ในการออกแบบได้แก่การ จำลอง(Simulation)สภาพการทำงานจริงของ สภาพการทำงาน จริงของชิ้นงานที่ได้ออกแบบไว้ในสภาวะต่างๆเพื่อศึกษาราย ละเอียดของชิ้นงานและวิเคราะห์หาประสิทธิภาพและคุณภาพ ของชิ้นงานนั้น
1 เพิ่มประสิทธิภาพในการ ประโยชน์ของการ ออกแบบ ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย 2 เพิ่มคุณภาพของงาน ในการอ อกแบบ ออกแบบ 3 ลดต้นทุนการออกแบบ และการผลิต 4 เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล ต่างๆในการออกแบบ
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: