Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ IS2

เอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ IS2

Published by สุกันยา ชื่นรส, 2020-02-23 16:52:59

Description: เอกสารประกอบการสอนอิเล็กทรอนิกส์ IS2

Search

Read the Text Version

E-Book S2I เอกสารประกอบการสอน รายวิชาการส่อื สารและการนาเสนอ (IS2) ครูผสู้ อน นางสาวสกุ ันยา ชืน่ รส

คาอธบิ ายรายวิชา รายวิชาการสื่อสารและการนาเสนอ IS2 (Communication and Presentation) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 รหสั วชิ า I20202 จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษา เรียบเรียง และถ่ายทอดความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบจาก ข้อมูลองค์ความรู้จากการศึกษาค้นคว้าในรายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ ความรู้ (Research and Knowledge Formation) โดยเขียนโครงรา่ ง บทนา เนื้อ เร่ือง สรุป ในรูปของรายงานเชิง ความยาว 2,500 คา มีการอ้างอิงแหล่งความรู้ท่ี เช่ือถือได้อย่างหลากหลาย เรียบเรียงและถ่ายทอด ความคิดอย่างชัดเจนเป็นระบบ มีการนาเสนอในรปู แบบเดี่ยว (Oral Individual Presentation) หรือกลุ่ม (Oral Panel Presentation) โดยใช้สื่อประกอบท่ีหลากหลาย และมีการเผยแพรผ่ ลงานสู่ สาธารณะ เพอ่ื ให้เกิดทักษะ ในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ และทักษะการสื่อสาร ท่ีมีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดส่ิงท่ี เรียนรู้ให้เป็นประโยชนแ์ ก่สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. วางโครงร่างการเขยี นตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวธิ ีการ เขยี นโครงร่าง 2. เขียนรายงานการศกึ ษาค้นควา้ เชงิ วชิ าการภาษาไทย ความยาว 2,500 คา 3. นาเสนอขอ้ คน้ พบ ข้อสรปุ จากประเด็นที่เลอื กในรูปแบบเดี่ยว (Oral Individual Presentation) หรอื กล่มุ (Oral Panel Presentation) 4. ใชอ้ ปุ กรณใ์ นการนาเสนอได้อย่างเหมาะสม 5. เผยแพรผ่ ลงานสสู่ าธารณะ 6. เห็นประโยชน์และคณุ ค่าในการสรา้ งสรรค์งาน

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 หลกั การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ

ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกับแบบสอบถาม ความหมายของแบบสอบถาม แบบสอบถาม หมายถึง ชุดของข้อความหรือข้อคาถามที่ สร้างขึ้นมาเพื่อสอบถามความคิดเห็นความต้องการ ความสนใจ เจตคติ ของผตู้ อบทม่ี ีตอ่ สง่ิ ทีผ่ สู้ ร้างตอ้ งการทราบ รูปแบบของแบบสอบถาม แบบสอบถามแบบ แบบสอบถามแบบ ปลายเปดิ ปลายปิด 1. แบบสอบถามแบบปลายเปิด ผู้ตอบสามารถเขียนตอบหรือแสดง ความคดิ เห็นได้อย่างอิสระด้วยคาพูดของตนเองคล้ายกับข้อสอบแบบอัตนัย หรอื ข้อเขียน 2. แบบสอบถามแบบปลายปิด เป็นแบบสอบถามที่มีตัวเลือกให้ เลือก จะคล้ายกบั ขอ้ สอบปรนยั หรอื ข้อกา

หลกั การสรา้ งแบบสอบถาม 1 • สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงคข์ องรายงาน 2 • ใชภ้ าษาทีเ่ ข้าใจง่าย เหมาะสมกบั ผู้ตอบ 3 • ใช้ขอ้ ความทส่ี ั้น กะทดั รัด ไดใ้ จความ 4 • ไมค่ วรใช้คาย่อ 5 • ไมช่ นี้ าการตอบให้เป็นไปแนวทางใดแนวทางหนึง่ • หลกี เล่ยี งคาถามท่ที าให้ผู้ตอบเกิดความลาบากใจ 6 ในการตอบ • คาตอบท่ีมีให้เลอื กตอ้ งชดั เจนและครอบคลุม 7 คาตอบทเี่ ปน็ ไปได้ 8 • หลกี เลย่ี งคาทีส่ ่ือความหมายหลายอย่าง ครผู ู้สอน นางสาวสกุ ันยา ช่นื รส

สว่ นประกอบของแบบสอบถาม เป็นหวั เรือ่ ง เป็นระบถุ ึงวัตถุประสงค์ หรอื ชือ่ เร่อื งรายงาน ที่ให้ตอบแบบสอบถาม วิธีการตอบแบบสอบถาม ส่วนหวั เรอ่ื ง 1 คาชแ้ี จง 2 สว่ นคาถามที่ผูท้ ารายงานตัง้ ข้นึ อาจประกอบดว้ ย 3 ตอน ได้แก่ ตอนท่ี 1 ข้อมูลทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 คาถาม ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ โครงสร้างของแบบสอบถาม 3

ขัน้ ตอนการสรา้ งแบบสอบถาม 1. กาหนดวตั ถุประสงค์ 2. ระบุเน้ือหาหรือประเดน็ หลกั ทจี่ ะถาม 3. กาหนดประเภทของคาถาม 4. รา่ งแบบสอบถาม 5. ตรวจสอบข้อคาถาม 6. ใหค้ รูผู้สอนตรวจสอบเน้ือหา และภาษาที่ใช้ 7. ปรบั ปรงุ แก้ไข 8. ดาเนนิ การแจกแบบสอบถาม ครผู ้สู อน นางสาวสกุ นั ยา ช่นื รส

ตวั อยา่ งแบบสอบถาม

สถติ ิและการวเิ คราะห์ข้อมลู ความหมายของสถิติ ค่าตัวเลขที่เกิดจากการคานวณมาจากกลุ่มตัวอย่างหรือ ตวั เลขแทนปริมาณจานวนข้อมูล หรอื ขอ้ เท็จจรงิ ของสิง่ ต่าง ๆ และยัง หมายรวมถึงระเบียบวิธีการสถิติอันประกอบไปด้วยข้ันตอน 4 ข้ันตอนทใ่ี ช้ในการศกึ ษา ไดแ้ ก่ การเก็บ การนาเสนอ รวบรวม ขอ้ มูล ขอ้ มูล การ การตี วิเคราะห์ ข้อมลู ความหมาย ของข้อมูล ครผู ู้สอน นางสาวสุกนั ยา ช่นื รส

ความหมายของสถติ ิเบื้องตน้ สถิติเบ้ืองต้น ข้อมูลสถิติหรือข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริง ของเร่ืองใดเรื่องหน่ึงท่ีเราสนใจจะศึกษา ซ่ึงอาจจะเป็นตัวเลขหรือ ข้อความก็ได้ วธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล การสมั ภาษณ์ การทดลอง การแจก แบบสอบถาม วธิ กี ารเกบ็ รวบรวม ข้อมลู การสงั เกต การสอบถามทาง โทรศัพท์

ความหมายของการวิเคราะห์ขอ้ มลู การวิเคราะห์ หมายถึง การแยกแยะทางความคิด หรอื ทางวัตถขุ องสง่ิ ใดสิ่งหนงึ่ หรอื เรื่องใดเร่ืองหนึง่ การวเิ คราะหข์ อ้ มูล 1. ร้อยละ 2. ค่าเฉลีย่ (x ) 3. สว่ นเบีย่ งเบน มาตรฐาน (S.D.) ครผู ูส้ อน นางสาวสุกันยา ช่ืนรส

ขน้ั ตอนในการวิเคราะหข์ ้อมูล 1. จดั หรอื แยกประเภทข้อมูล 2. ทาการวิเคราะห์ขอ้ มลู โดยเลอื กใชเ้ ทคนคิ ต่าง ๆ ใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของข้อมูล 3. นาเสนอขอ้ มลู ในรูปแบบตาราง 4. สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน เป็นต้น การเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล 3. นาเสนอใน 1. การบรรยาย ลักษณะแผนภมู ิ รูปแบบกราฟฟกิ เช่น แผนภมู แิ ท่ง ภาพ ฯลฯ 2. นาเสนอในรปู ความสมั พันธก์ ันหรือ ตาราง

การแปลความหมายของขอ้ มลู และค่าร้อยละ การแปลความหมายของข้อมูล การแปลความหมายของข้อมูล หมายถึง การอธิบายผล ของการวิเคราะห์ข้อมูลสรุปผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล ให้เก่ียว โยงกับวัตถปุ ระสงค์ของการทารายงาน ความหมายของร้อยละ หรือเปอร์เซ็นต์ ร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ เป็นอัตราส่วนแสดงการ เปรียบเทียบปริมาณใดปริมาณหนึ่งต่อ 100 ใช้สัญลักษณ์เป็น % แทนคาว่า รอ้ ยละ สตู รรอ้ ยละ ครูผสู้ อน นางสาวสุกนั ยา ชน่ื รส

ตัวอย่าง 1. กมล แจกแบบสอบถาม เร่ือง การศึกษาการปลูกกระบองเพชร ให้เพื่อนในห้องท้ังหมด จานวน 32 คน มีเพื่อนนักเรียนชายตอบ แบบสอบถาม จานวน 7 คน และนักเรียนหญิง จานวน 25 คน จงหา คา่ รอ้ ยละ ดงั นี้ 1.1 จงหาค่าร้อยละของนักเรยี นชาย ทตี่ อบแบบสอบถาม วิธีทา นกั เรยี นทง้ั หมด 32 คน นกั เรยี นชาย 7 คน แทนคา่ รอ้ ยละ = จานวนคาตอบ X 100 จำนวนผตู้ อบทงั้ หมด =7 32 ตอบ จานวนนกั เรยี นชายทตี่ อบแบบสอบถาม ร้อยละ 21.88 1.2 จงหาค่าคา่ ร้อยละของนกั เรียนหญิง ทตี่ อบแบบสอบถาม วิธีทา นกั เรียนทง้ั หมด 32 คน นกั เรยี นหญงิ 25 คน แทนคา่ รอ้ ยละ = จานวนคาตอบ จานวนผ้ตู อบทั้งหมด = 25 X 100 = 78.12 32 ตอบ จานวนนกั เรยี นชายทตี่ อบแบบสอบถาม รอ้ ยละ 78.12

2. จากตารางจงหาค่ารอ้ ยละ ตารางท่ี 1 ความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความชน่ื ชอบกระบองเพชร 3) นอ้ ย ครูผูส้ อน นางสาวสุกนั ยา ช่นื รส

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 การสรา้ งงานเอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word

ความรพู้ นื้ ฐานการใช้ Microsoft Word แนะนาโปรแกรม โปรแกรม Microsoft Word เป็นโปรแกรมสาหรบั สร้าง และจดั การกับเอกสารทกุ รปู แบบ การเรยี กใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word 2013 ครูผู้สอน นางสาวสกุ นั ยา ช่นื รส

การพิมพ์และการแกไ้ ขขอ้ ความ การเลือกข้อความ การลบข้อความ

การจดั รปู แบบเอกสาร การจัดรูปแบบตวั อกั ษร ตัวอักษรหรือข้อความในหนังสือ หรือเอกสารล้วนมี รูปแบบตัวอักษรที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าจะนาไปใช้กับ งานด้านใด ซ่งึ วธิ กี ารจดั รปู แบบตวั อักษรนนั้ สามารถทาไดด้ ังน้ี 1. คลิกเลอื กคลุมข้อความที่ตอ้ งการจดั รูปแบบ 2. คลิกเลือกรูปแบบการจัดรูปแบบตัวอักษรตาม ต้องการจากแท็บHome เครื่องมอื การจัดรูปแบบตวั อักษร ครูผสู้ อน นางสาวสกุ นั ยา ชื่นรส

เครอ่ื งมือการจดั ตาแหน่งขอ้ ความ การเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งบรรทดั

การสร้างตาราง การลบตาราง 1. คลิกวาง Mouse pointer ไว้ ณ เซลล์ใดๆ ของตาราง 2. คลกิ เลอื ก แท็บ Layout 3. คลิกเลอื ก Delete เลอื กคาสง่ั Delete Table ครูผสู้ อน นางสาวสกุ นั ยา ช่นื รส

การแทรกตาราง เลอื กแทรกตามความตอ้ งการ การรวมเซลล์ คาส่ังต่างๆ

การใชง้ านกราฟิกในเอกสาร การวาดรูปทรงอิสระ เครื่องมือการจัดรปู แบบวัตถุ ใช้สาหรบั แทรกวตั ถุ ใช้สาหรับปรับแตง่ สี/รปู แบบเงา / รูปทรงสามมติ ิใหก้ ับวัตถุ ครผู สู้ อน นางสาวสุกันยา ช่นื รส

ใช้สาหรับกาหนดลกั ษณะข้อความ ตัวอักษรศลิ ป์ ใชส้ าหรบั กาหนดทิศทางของขอ้ ความในวตั ถุ ใชส้ าหรบั จัดเรียงวตั ถุ/ปรบั รปู แบบวตั ถุ ใช้สาหรบั ปรับขนาดของวัตถุ การแทรก Smart Art

การสร้างอกั ษรศลิ ป์ ครผู ู้สอน นางสาวสุกนั ยา ชื่นรส

การตง้ั ค่ากระดาษ และการพิมพ์เอกสารทางเครื่องพิมพ์ การกาหนดขนาดระยะขอบ (Margins) และตาแหนง่ ของ ขอ้ มลู ในกระดาษ ระยะหา่ งของขอบกระดาษ - ขอบด้านบน และขอบด้านซ้าย 1.5 นิว้ หรอื 3.81 ซม. - ขอบดา้ นล่าง และขอบด้านขวา 1 นิว้ หรือ 2.54 ซม. 1 2

การแสดงเอกสารกอ่ นพิมพ์และการพิมพ์เอกสารออกทาง เคร่อื งพิมพ์ การตัง้ ค่าเพิ่มเตมิ (Setting) Print All Pages = กาหนดการพมิ พ์ Print one Sided = เลือกพมิ พด์ ้าน Collated = เรยี งชุด Portrait Orientation = กาหนดแนวการวางกระดาษ A4 = เลอื กขนาดกระดาษ Custom Margins = กาหนดระยะกระดาษ 1 Page per Sheet = เลอื กรปู แบบการพมิ พ์ ครูผสู้ อน นางสาวสุกันยา ช่นื รส



หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 ความรเู้ บื้องตน้ เก่ยี วกับการสอ่ื สาร และการนาเสนอผลงาน ครูผสู้ อน นางสาวสกุ นั ยา ชื่นรส

แนวคดิ เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั การส่ือสาร และการนาเสนอ ความหมายของการส่อื สารและการนาเสนอ การส่อื สาร หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดข่าวสาร ความ ต้องการจากผู้ส่งสารโดยผ่านส่ือต่าง ๆ ท่ีอาจเป็นการพูด การเขียน สัญลักษณ์อ่ืนใด การนาเสนอ หมายถึง วธิ ีการนาเสนองาน หรือผลงานหรือ ข้อมูล เพื่อให้ผ่านการพิจารณาแก่ผู้รับฟัง ผู้รับข่าวสารข้อมูล เพื่อให้ บรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ ทีผ่ ู้นาเสนอกาหนดไว้ ดังน้ัน การสื่อสารและการนาเสนอ จึงเป็นกระบวนการ ถ่ายทอดข่าวสาร ความรู้สึกนึกคิด ความคิดเห็น หรือประสบการณ์ ต่างๆ ด้วยการนาเสนอด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งแก่ผู้ฟัง เพื่อเป็นการ ถ่ายทอดความร้ไู ปยังผู้ฟัง ความสาคญั ของการสอ่ื สารและการนาเสนอ 1. การสอ่ื สารเปน็ ปัจจยั สาคญั ในการดารงชีวติ ของมนษุ ย์ 2. การสื่อสารก่อให้เกดิ การประสานสัมพนั ธก์ ัน ระหว่างบุคคลและสังคม 3. การสอ่ื สารเปน็ ปจั จยั สาคัญในการพฒั นาความ เจรญิ กา้ วหนา้ ท้งั ตัวบคุ คลและสังคม

วัตถปุ ระสงคข์ องการสื่อสาร เพอ่ื แจ้งให้ บอกกลา่ วหรอื ช้ีแจงขา่ วสาร เรื่องราว เหตกุ ารณ์ หรอื สิ่งอ่ืนใดให้ผู้รบั สาร ทราบ ได้รบั ทราบ เพ่อื สอนหรือ ถา่ ยทอดวิชาความรู้ หรอื เรอ่ื งรำวเชิงวิชำกำร เพ่อื ใหผ้ รู้ บั ให้การศึกษา สำรไดม้ ีโอกำสพฒั นำควำมรูใ้ หเ้ พ่มิ พนู ย่ิงขนึ้ เพื่อสรา้ งความ สรา้ งความบนั เทงิ ไมว่ ่าจะอยู่ในรูปของการ พอใจหรอื ใหค้ วาม พดู การเขยี น หรอื การแสดงกริ ยิ าตา่ ง ๆ บันเทงิ เพอ่ื เสนอหรือ ให้ผรู้ ับสารมีความคดิ คล้อยตามหรอื ชกั จงู ใจ ยอมปฏบิ ัตติ ามการเสนอแนะของตน เพอ่ื เรียนรู้ การแสวงหาความรู้ เพอ่ื กระทา หรอื ตดั สินใจ ครผู สู้ อน นางสาวสุกนั ยา ช่ืนรส

องค์ประกอบของการสือ่ สาร 1. ผสู้ ่งสาร หมายถึง บุคคล กลุ่มบุคคล หรือ หน่วยงานท่ีทา หน้าท่ีในการส่งสาร อาจจะอยู่ในรูปของสัญลักษณ์ท่ีมนุษย์สร้างขึ้น แทนความคิด ได้แก่ ภาษาและอากัปกิริยาต่าง ๆ เพ่ือส่ือสาร ความคิด ความรสู้ ึก ขา่ วสาร เชน่ ผพู้ ูด ผเู้ ขียน เป็นตน้ 2. สาร หมายถึง เรื่องราวที่มีความหมาย หรือส่งิ ต่าง ๆท่ีอาจ อยูใ่ นรูปของข้อมูล ความรู้ ความคิด ความตอ้ งการ อารมณ์ ฯลฯ 3. สือ่ หรอื ช่องทาง หมายถึง สง่ิ ที่เป็นพาหนะของสาร ทาหน้าทน่ี าสารจากผู้ส่งสารไปยังผู้รบั สาร 4. ผรู้ ับสาร หมายถึง บุคคล กลุม่ บคุ คล หรือมวลชนที่รับ เรื่องราวข่าวสาร จากผสู้ ง่ สารและแสดงปฏกิ ิรยิ าตอบกลับ (Feedback) ต่อผสู้ ่งสาร

อุปสรรคในการสอ่ื สาร อุปสรรคในการส่ือสาร หมายถึง สิ่งที่ทาให้การสื่อสารไม่บรรลุ ตามวตั ถปุ ระสงค์ ของผู้สือ่ สารและผู้รับสาร • อุปสรรค • อุปสรรค • อปุ สรรค • อุปสรรค ทเี่ กิดจาก ทเี่ กดิ จากสาร ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากสอ่ื ที่เกิดจาก ผู้สง่ สาร หรือชอ่ งทาง ผู้รบั สาร ครผู สู้ อน นางสาวสุกันยา ช่ืนรส

ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกับการนาเสนอผลงาน ความหมายของการนาเสนอขอ้ มลู การนาเสนอข้อมูล หมายถึง การนาข้อมูลและ รายละเอียดตา่ งๆทเ่ี ก็บรวบรวม มาจัดใหเ้ ป็นระเบียบ เพ่ือนาเสนอ ข้อมูลจากผู้นาเสนอไปยังผู้ฟัง ให้เกิดความเข้าใจในเรื่องที่นาเสนอ โดยใช้เทคนิคและสอ่ื ต่างๆ ในการนาเสนอขอ้ มลู จดุ ม่งุ หมายในการนาเสนอ 1. เพ่ือใหผ้ รู้ บั สำรรบั ทรำบควำมคิดเหน็ หรอื ควำมตอ้ งกำร 2. เพ่ือใหผ้ รู้ บั สำรพิจำรณำเรอ่ื งใดเร่อื งหนง่ึ 3. เพ่ือใหผ้ รู้ บั สำรไดร้ บั ควำมรูจ้ ำกขอ้ มลู ท่ีนำเสนอ 4. เพ่ือใหผ้ รู้ บั สำรเกิดควำมเขำ้ ใจท่ีถกู ตอ้ ง ดังนั้น จุดมุ่งหมายในการนาเสนองาน เพ่ือเป็นการเผยแพร่ ข้อมลู ข่าวสารท่ีไดจ้ ากการศกึ ษาค้นคว้า จากการทางาน แล้วนามา ถ่ายทอดให้แก่เพ่ือนๆ คุณครู ผู้ฟัง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ มีการอภปิ รายรว่ มกนั ทาใหน้ ักเรียนเกดิ การเรยี นรมู้ ากยงิ่ ขน้ึ

ประเภทของการนาเสนอ 1. การนาเสนอเฉพาะกลุ่ม เป็นการนาเสนอข้อมูลต่าง ๆ ต่อผู้ท่ี มีหน้าท่ีเก่ียวข้องหรือผู้ท่ีได้รับเชิญให้เข้าร่วมรับทราบข้อมูล ในการ นาเสนอ 2. การนาเสนอทั่วไปในที่สาธารณะ เป็นการนาเสนอข้อมูล ต่าง ๆ ท่ีเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมฟังการนาเสนอได้ มีการ เปดิ โอกาสให้ผู้ฟัง ได้ซักถามเพิ่มเตมิ หรอื แสดงความคดิ เหน็ ได้อีกดว้ ย องค์ประกอบในการนาเสนอ • ผู้นาเสนอ เปน็ ผู้ทม่ี บี ทบาทสาคัญทีส่ ดุ ในการนาเสนอ ผนู้ าเสนอจะต้องเป็นคน 1. ถา่ ยทอดขอ้ มูลดว้ ยวิธกี ารตา่ ง ๆใหผ้ ฟู้ งั เขา้ ใจ 2. • ผู้รบั ขอ้ มลู หรอื ผู้ฟัง 3. • งาน เป็นส่งิ ทีผ่ ูน้ าเสนอต้องการถา่ ยทอดให้แก่ผ้รู บั ขอ้ มลู ผา่ นสือ่ 4. • สื่อ เป็นเคร่ืองมอื สาคญั ท่จี ะนาข้อมลู ตา่ ง ๆ ไปยงั ผรู้ บั ข้อมลู 5. • โพรโตคอล เป็นวธิ ีการท่ีผูน้ าเสนอใชถ้ า่ ยทอดงานใหแ้ ก่ผู้รบั ข้อมูล ครผู สู้ อน นางสาวสุกนั ยา ช่ืนรส

ลกั ษณะของการนาเสนอทด่ี ี หลกั การนาเสนองานที่ดี 1. เลือกรปู แบบการนาเสนอทเ่ี หมาะสม 2. เนือ้ หาท่นี าเสนอมวี ัตถุประสงค์ทชี่ ดั เจน 3. มรี ปู แบบในการนาเสนอท่ีดี เหมาะสมและเข้าใจง่าย 4. เนอ้ื หาการนาเสนอทีด่ ี 5. ใหข้ ้อเสนอที่ดี ดงั นนั้ หลักการนาเสนอท่ีดี นักเรยี นจะตอ้ งมีการศึกษาคน้ คว้าท่ี ดี มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับงานของนักเรียน เนอื้ หาทน่ี ามาเสนอจะตอ้ งเปน็ ขอ้ มลู ทช่ี ัดเจนกะทัดรดั คุณสมบัติผู้นาเสนองานทดี่ ี 1. มีบคุ ลิกท่ีดี 2. มีความรู้ความเขา้ ใจในเน้อื หา 3. มจี ติ วิทยาทด่ี ี 4. มคี วามสามารถในการใช้อปุ กรณใ์ นการนาเสนอ

สื่อประกอบการนาเสนอ การเลือกใช้สื่อประกอบการนาเสนอผลงาน 1. ชว่ ยดงึ ดดู ความสนใจ 2. ชว่ ยใหเ้ ข้าใจเรอ่ื งท่ีนาเสนอได้ง่ายขึ้น 3. ชว่ ยรกั ษาระดบั ความสนใจและสรา้ งความพึงพอใจใหผ้ ู้ฟัง ประเภทของส่อื ประกอบการนาเสนอ 1. การนาเสนอด้วย Powerpoint 2. แผ่นพับ 3. กระดาษชาร์ท 4. สือ่ อ่ืนๆ เช่น วีดิโอ เอกสารประกอบ การสาธิต ฟิวเจอรบ์ อร์ด เปน็ ตน้ ครผู ้สู อน นางสาวสุกนั ยา ช่นื รส



หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 ICT กับการนาเสนอผลงงาน สู่สาธารณะชน

ความรู้เบ้อื งต้นเกย่ี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology : IT) หรอื เทคโนโลยีสำรสนเทศ และกำรส่ือสำร กค็ อื เทคโนโลยีสองดำ้ นหลกั ๆ ท่ีประกอบดว้ ยเทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีส่อื สำรโทรคมนำคมท่ีผนวกเขำ้ ดว้ ยกนั ระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ หมายถึง ระบบท่ีอำศยั เทคโนโลยีคอมพิวเตอรเ์ ขำ้ มำจดั กำรกบั ขอ้ มลู ใน องคก์ ร เพอ่ี ให้บรรลุเปา้ หมายทีต่ อ้ งการอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ประกอบด้วย บุคลากร ฮารด์ แวร์ ซอรฟ์ แวร์ เครือขา่ ยการสื่อสารและทรพั ยากรดา้ นข้อมลู สาหรับจัดเก็บ รวบรวม ปรบั เปลี่ยน และเผยแพรส่ ารสนเทศเพ่อื การนามาใชป้ ระโยชน์ในองค์กร เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั การพฒั นาประเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาดา้ นเศรษฐกจิ เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการพฒั นาด้านดา้ นสังคม เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการพัฒนาดา้ นศกึ ษา เทคโนโลยีสารสนเทศกบั การพัฒนาด้านสาธารณสุข เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการพัฒนาด้านสิ่งแวดลอ้ ม

เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพฒั นาดา้ นศึกษา 1. การใช้คอมพิวเตอรช์ ่วยสอน 2. การศึกษาทางไกล ซึ่งจัดได้หลายรูปแบบ เช่น การใช้วิทยุ โทรทศั น์ 3. เครือข่ายการศึกษา ซ่ึงเป็นการนาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมา ใช้ 4. การใช้งานในห้องสมุด เป็นการประยุกต์ใช้ในการสืบค้น ขอ้ มลู หนังสอื วารสาร หรอื บทคัดยอ่ วทิ ยานพิ นธ์ ผลงานการวจิ ยั 5. การใช้งานในห้องปฏิบัติการ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์เพ่ือ การจาลองสถานการณ์ เปน็ ตน้ โทษของเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. การแพร่ภาพอนาจารบนเครือข่าย การล่อลวง เกมส์ ออนไลน์ เป็นตน้ 2. สนิ้ เปลอื งทรพั ยากร เช่น น้ามัน แก็ส และถ่านหนิ จน กระทง้ั นา้ 3. เปลี่ยนสังคมชาวบา้ น ใหก้ ลายเปน็ วตั ถนุ ยิ ม 4. ทาใหม้ นุษย์ขาดการออกกาลงั กาย 5. ทาให้เกิดปัญหาการว่างงาน เพราะใช้แรงงาน เคร่อื งจักรแทนแรงงานคน ครูผู้สอน นางสาวสุกันยา ชืน่ รส

จริยธรรมและความปลอดภยั ความหมายของจรยิ ธรรม จรยิ ธรรม หมายถึง แบบแผนความประพฤติหรอื ความมีสามัญ สานึกต่อสังคมในทางท่ีดี โดยไมม่ ีกฎเกณฑ์ตายตัว ขึ้นอยู่กบั กลมุ่ สังคมหรอื การยอมรับในสังคมนนั้ ๆ จรยิ ธรรมกับสงั คมยคุ สารสนเทศ 1. ความเป็นสว่ นตัว หมายถงึ สิทธิสว่ นตวั ของบุคคล 2. ความถูกต้องแม่นยา สารสนเทศที่นาเสนอ ควรเป็นข้อมูลท่ี มีการกล่นั กรองและตรวจสอบ ความถกู ต้องและสามารถนาเอาไปใช้ประโยชน์ได้โดยไม่ส่งผลกระทบ กบั ผ้ใู ช้งาน 3. ความเป็นเจ้าของ การลอกเลียนแบบ ทาซ้าหรือละเมิด ลิขสิทธิ์ โดยเจ้าของผลงานได้รบั ผลกระทบทงั้ โดยตรงและโดยอ้อม 4. การเข้าถึงข้อมูล ผู้ท่ีทาหน้าท่ีดูแลระบบ จะเป็นผทู้ ่ีกาหนด สิทธ์ิในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ แต่ละคนบางแห่งอาจให้บริการ เฉพาะสมาชิกเท่าน้นั

กฎหมายทางคอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คือ พระราชบัญญัติท่วี ่าดว้ ยการ กระทาผดิ เกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ เรือ่ งท่คี วรรู้เกยี่ วกบั พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 1. ฝากร้าน Facebook และ Instagram ปรับ 200,000 บาท เนอ่ื งจากถอื วา่ เป็นการกระทาท่เี ขา้ ขา่ ย Spam 2. ส่งอีเมลขายของ ปรบั 200,000 บาท เวน้ แต่วา่ ลกู ค้า ยนิ ยอมให้ Email ในขน้ั ตอนการลงทะเบยี น ซ่ึงคณุ ก็ต้องระบไุ วด้ ว้ ยวา่ การลงทะเบียนครง้ั นี้ ทางรา้ นจะ สง่ ข้อมูลเพอื่ อัพเดทสนิ ค้าและ โปรโมชนั่ ตา่ งๆ 3. โพสตด์ ่าผู้อ่ืน ปรบั 200,000 บาท จาคุกไม่เกนิ 3 ปี เปน็ กฎหมายทางอาญา หากไมม่ ขี อ้ มูลจรงิ ถกู ตัดต่อ ผ้ทู ่ถี กู กลา่ วหาสามารถเอาผดิ ผ้ทู ่ีโพสตไ์ ด้ 4. ส่ง SMS โฆษณา โดยผู้รบั ไมไ่ ดย้ ินยอม ปรบั 200,000 บาท เช่นเดียวกนั กบั การสง่ อีเมล การส่งโดยท่ผี ู้รับไมไ่ ด้ยนิ ยอมก็ถือว่า เป็น Spam ครผู ู้สอน นางสาวสุกนั ยา ชน่ื รส

5. ใครเปน็ แอดมนิ เพจ หากเจอลูกเพจมาคอมเมนท์ หรือโพสตอ์ ะไรท่ผี ิด พ.ร.บ. ให้รีบลบทันที แลว้ จะถอื วา่ พ้นผดิ 6. ห้ามละเมิดลขิ สทิ ธ์ิผูอ้ นื่ ท้งั ข้อความ เพลง วดี โี อ รูปภาพไม่เพียงแตจ่ ะโดนทาง Facebook บลอ็ กเทา่ นนั้ ถา้ เจ้าของลขิ สทิ ธ์ิมาเจอเขา้ อาจโดนฟ้องได้ 7. ไม่โพสตส์ งิ่ ลามก อนาจาร 8. กด Like โพสตท์ ม่ี คี วามผิด แตถ่ ้าเนอ้ื หานนั้ มี ความผิด มผี ลกระทบต่อสงั คม เศรษฐกจิ รวมถงึ ความมน่ั คง แล้วยงั จงใจทจ่ี ะกดไลค์ ถือว่ามเี จตนาในเนื้อหานนั้ ๆ 9. กด Shareโพสตท์ ีม่ ีความผิด เพราะการ Share ถือ ว่าเป็นเผยแพร่ ซง่ึ ถ้าเผยแพร่เนื้อหาทผ่ี ดิ ก็จะมคี วามผดิ ตาม ไปด้วย 10. ส่งรูปแชร์ของผู้อ่นื ไม่ผิด ถา้ ไม่เอาไปหารายได้ตอ่ แชร์รูปเช่น สวสั ดี อวยพร ไม่ผดิ ตราบใดท่ีไมเ่ อามันไปใช้ใน เชงิ พาณิชย์เพอ่ื หารายได้

กรณศี ึกษา: การทาผดิ ตาม พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ เขา้ ข่ายความผดิ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ ม.14 (2) ผู้ใดกระทา ความผิดท่ีระบไุ วด้ ังต่อไปน้ี ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ ห้าปีหรือปรับ ไมเ่ กนิ หน่ึงแสนบาท หรอื ท้ังจาท้ังปรบั (2) นาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอรซ์ ่ึงข้อมูลคอมพวิ เตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความม่ันคง ปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความม่ันคงในทาง เศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพ้ืนฐานอันเป็นประโยชน์ สาธารณะของประเทศ หรือกอ่ ให้เกดิ ความตน่ื ตระหนกแกป่ ระชาชน\" ครูผ้สู อน นางสาวสุกันยา ชื่นรส


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook