Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Blockchain

Blockchain

Published by ch.aunchalee, 2021-06-09 11:32:37

Description: Blockchain

Search

Read the Text Version

Blockchain อาจจะเปน็ คาทเี่ พ่อื นหลายๆคนยงั ไม่คอ่ ยคุ้นหมู ากนัก หรอื บางคนอาจได้ ยินมาบา้ ง ตามงานอบรมตา่ งๆ หรอื เคยเปดิ ผา่ นตาตามเวบ็ ไซต์ และเวบ็ บอรด์ แต่ไม่รู้แน่ ชดั วา่ มันคืออะไร ในบทความนี้เราจะมาใหค้ วามกระจ่างกบั ความหมายของ Blockchain กนั คะ่ Blockchain แท้จริงแลว้ คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการทาธรุ กรรมโดยไม่ต้องผ่านบคุ คลทส่ี าม หรือไม่ตอ้ งผา่ นคนกลาง ด้วยแนวคิดทว่ี า่ การทาธุรกรรมการเงนิ ทไี่ มต่ อ้ งผา่ นคนกลางนน้ั จะมคี วามนา่ เชอ่ื ถือไดม้ ากกวา่ ซง่ึ การใช้ Blockchain น้นั จะทาให้การทาธรุ กจิ ออนไลนต์ ่างๆเปน็ ไปได้อยา่ ง สะดวกสบายมากขึน้ โดย Blockchain ก็เปรยี บเสมือนการเก็บข้อมลู แบบหน่งึ ซ่ึง สามารถแชรไ์ ปไดเ้ ป็นหว่ งโซ่ หรอื Chain โดยทที่ ราบได้วา่ ใครเปน็ เจา้ ของของขอ้ มลู นน้ั ๆคะ่ ดงั นั้นเม่อื ขอ้ มลู ถกู บนั ทกึ ไวใ้ น Blockchain แล้วจงึ ยากตอ่ การเปลี่ยนแปลง หรอื ถกู แกไ้ ข

โดย Blockchain ถูกนามาใช้อยา่ งกวา้ งขวางในการจดั การสกุลเงนิ Bitcoin หรือสกลุ เงินในโลกดิจิตอลอน่ื ๆโดยผู้คนสว่ นใหญ่จะเรยี กกนั สน้ั ๆ ว่า คริปโต ซึ่งยอ่ มาจาก Cryptocurrency น้นั เอง นอกจาก Bitcoin แล้วยงั มคี ริปโตอ่นื ๆเชน่ Ethereum, Ripple และ Zcash ทเ่ี ป็นที่รูจ้ ักกนั อยา่ งแพรห่ ลาย โดยคริปโตน้ันไดร้ บั ความนิยมอย่าง มากในช่วงไม่ก่ปี ีท่ีผา่ นมานเ้ี พราะดว้ ยความนา่ เช่อื ถอื ในเรือ่ งความปลอดภยั ทสี่ ูง ผ้ใู ช้บริการสามารถทจี่ ะโอนเงนิ ครปิ โต จากกระเป๋าสตางคเ์ ก็บครปิ โต เชน่ กระเปา๋ สตางคอ์ อนไลน์ แต่การเก็บครปิ โตไวบ้ นเว็บน้ันมคี วามเสยี่ งต่อการโดนแฮ็กได้งา่ ย ซ่ึงเรา ก็เคยเห็นข่าวการแฮก็ Bitcoin ถึง 25,000 เหรียญมาแล้วในปี 2011 บนเวบ็ Mt. Gox ซงึ่ ความสญู เสยี ครงั้ นั้นเม่ือคดิ เปน็ เงินแลว้ อยู่ทป่ี ระมาณ 350 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั จึงทา ใหเ้ หล่านักเทรดทั่วโลกต่างวิตกกังวล โดยไมก่ ป่ี ีหลงั จากอบุ ตั กิ ารณ์ครงั้ น้ันแล้ว กม็ ี บรษิ ัทใหมๆ่ เชน่ บรษิ ัท Ledger ของประเทศฝร่งั เศษ และ บริษัท TREZOR ของ ประเทศเชโกสโลวาเกยี เร่ิมคิดค้นและผลติ กระเปา๋ เกบ็ บิทคอยน์ ในรปู แบบของ กระเป๋า hardware ทมี่ องเผนิ ๆแลว้ ไม่ตา่ งจาก USB หรอื flash drive ปกติทวั่ ๆไปมาก นัก แตส่ ามารถเก็บเงินดจิ ิตอลได้อยา่ งปลอดภยั กว่าบนเว็บไซตห์ รอื ในคอมพิวเตอร์เป็น อยา่ งมาก โดยกระเป๋าBitcoin ท่ไี ด้รับความนิยมอยา่ งมากจากชาวครปิ โตทวั่ โลกน้ันคอื Ledger Nano S, Ledger Blue, Trezor และ KeepKey ซ่งึ เป็นส่ิงทีส่ าคญั มากในยคุ Fintech และ eCommerce

จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งผู้คนทั่วทุกมุมโลกสามารถทาธุรกรรมผ่านการเชื่อมโยง ทางออนไลน์ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ?” ปัจจุบันเทคโนโลยี Blockchain กาลังถูกจับตามองและพูดถึงอย่างแพร่หลาย เน่ืองจากเป็นระบบการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลแบบไม่รวมศูนย์ (Decentralized) มีการ จัดเรียงกันเป็น Blocks ตามลาดับธุรกรรมท่ีเกิดขึ้นแล้วผูกกันเป็นเครือข่ายภายใต้กฎ กติกาซึ่งเป็นท่ียอมรับร่วมกัน โดยทาสาเนาท่ีได้รับการลงรหัส (Encryption) และ กระจายต่อไปยังเครือข่ายของผู้ใช้งาน Blockchain ที่จะช่วยป้องกันการลบหรือการ แก้ไขข้อมูลโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซ่ึงระบบน้ีจะช่วยขจัดปัญหาการบังคับใช้สัญญาท่ี ไม่เสมอภาคและปัญหาการคอร์รัปชั่นได้ Institute for The Future (IFTF) ประเทศสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่า ในอีก 10 ปี ข้างหน้ารูปแบบการให้บริการท่ีมีลักษณะคล้ายกับ Blockchain จะถูกนามาใช้อย่าง แพร่หลายมากย่ิงขึ้น ซ่ึงอาจส่งผลให้เกิดการปรับปรุงโครงสร้างทางกฎหมาย กฎระเบียบ ของสัญญา และการให้บริการงานของภาครัฐได้ โดย Blockchain อาจส่งผลกระทบต่อการทาธุรกรรมในหลายมิติ ดังนี้

1. ช่วยให้การขับเคล่ือนทางเศรษฐกิจสะดวกมากย่ิงขึ้น โดยจะช่วยลดความจาเป็นท่ี หน่วยงานกลางจะต้องมาดูแลธุรกรรมของคู่สัญญา รวมท้ังยังช่วยลดความจาเป็นใน การเจรจาต่อรองในสินค้าท่ีมีความอ่อนไหวสูง เช่น ไฟฟ้า เงินตรา ข้อมูลบุคคล เป็น ต้น ทั้งนี้ สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin จะกลายเป็นสกุลเงินที่ถูกนามาใช้อย่างแพร่หลายใน ระบบการเงินของโลก โดยไม่ต้องผ่านบริการหักบัญชีของรัฐบาลหรือสถาบันการเงิน ซ่ึงจะช่วยตอบสนองการเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของ Gig Economy หรือระบบ เศรษฐกิจแบบเสรี ท่ีเป็นระบบเศรษฐกิจท่ีถูกขับเคลื่อนโดยผู้ทางานระยะสั้น เช่น ผู้ ทางานอิสระ ผู้ใช้บริการ และบริษัทท่ีเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างผู้ทางานและผู้ใช้บริการ ปัจจุบันในประเทศจีนและออสเตรเลีย ใช้ Blockchain เพ่ือติดตามสินค้าที่จัดส่ง ระหว่างประเทศ และประเทศไทยเอง ธุรกิจการเงินและธนาคารพาณิชย์ก็เร่ิมนา เทคโนโลยี Blockchain มาทดลองใช้ เช่น ธนาคารกรุงเทพ จากัด (มหาชน) ร่วมมือ กับผู้เชี่ยวชาญด้าน FinTech พัฒนารูปแบบการให้บริการทางการเงิน และธนาคาร ไทยพาณิชย์ จากัด (มหาชน) ร่วมมือกับบริษัทในเครือค้นคว้านวัตกรรมทางการเงิน ใหม่ ๆ ทั้งยังมีแผนลงทุนใน Ripple ซ่ึงเป็นนวัตกรรมการชาระเงินข้ามพรมแดนที่เพิ่ม ความโปร่งใส รวมถึงลดระยะเวลาและขั้นตอนการทาธุรกรรมทางการเงินระหว่าง ประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ระบบเศรษฐกิจเงา (Shadow Economies) ท่ีอาจดาเนินธุรกิจแบบไม่ ถูกกฎหมายก็สร้างเทคโนโลยีแบบเดียวกันเพ่ือก่ออาชญากรรมหลอกลวงเงินของผู้คน ในเครือข่าย ซ่ึงเป็นการยากที่จะควบคุมระบบธุรกิจเหล่านี้ 2. เพ่ิมพยานหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม เน่ืองจากโครงสร้างของ Blockchain มีความโปร่งใสและแก้ไขข้อมูลได้ยาก ทาให้สามารถใช้เป็นข้อเท็จจริงในกระบวนการ ยุติธรรมได้ โดย Blockchain จะช่วยเก็บข้อมูล เช่น ข้อมูลเฉพาะบุคคล ผลการ เลือกตั้ง สัญญาทางการเมือง เป็นต้น และ Blockchain จะส่งสาเนาข้อมูลและ กระจายออกไปยังเครือข่าย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่สามารถถูกลบหรือปรับเปล่ียนได้

นอกจากน้ี Blockchain ยังสามารถช่วยรับรองเอกสาร โดยระบบจะอนุญาตให้ทุกคน ตรวจสอบว่าข้อมูลที่ตนถือครองไม่ถูกเปล่ียนแปลงจากต้นฉบับ ตัวอย่างเช่น โครงการ Edublocks ท่ีผู้ใช้งานจะได้รับ Block ในทุกหนึ่งชั่วโมงท่ีมีการเรียนรู้ ทั้งจากในและ นอกสถาบันการศึกษา หรือแม้กระทั่งจากการอ่านหนังสือ โดยในแต่ละ Block ที่ ผู้ใช้งานมี จะสามารถนาไปสอนผู้ใช้งานคนอื่นในเครือข่าย และได้รับเงินค่าจ้างสอน นอกจากน้ีองค์กรต่าง ๆ ยังสามารถเข้ามาดูข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน และจ้างงานจาก Block ที่ผู้ใช้งานมีความถนัดในด้านที่เหมาะสมกับตาแหน่ง ซ่ึงองค์กรมีความต้องการ อีกด้วย ประเทศไทยเร่ิมนาเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2561 โดยธนาคาร พาณิชย์ในไทย 14 แห่ง ร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจและองค์กรธุรกิจใหญ่ 7 แห่ง ริเริ่ม โครงการบริการหนังสือค้าประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบ Blockchain เป็นคร้ังแรก ซึ่งคาดว่าจะลดกระบวนการทาเอกสารต่าง ๆ และเปล่ียนเป็นรูปแบบดิจิทัล 100% โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 3 เท่า ท้ังยังเช่ือถือได้ ปลอดภัย มีความคล่องตัวสูง และสามารถทาธุรกรรมและตรวจสอบสถานะได้ตลอด 24 ช่ัวโมง อาทิ ธนาคารกสิกร ไทย จากัด (มหาชน) ร่วมมือกับ IBM นาเทคโนโลยี Blockchain มาใช้รับรองเอกสาร เช่น หนังสือคา้ ประกัน (Letter of Guarantee) เพ่ือสร้างความน่าเชื่อถือ ลดความ เสี่ยง และสามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว นอกจากน้ี บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จากัด ก็ได้ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ พัฒนาระบบให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถใช้งานแพลตฟอร์ม Blockchain กลางในการรับส่งข้อมูลและคาขอหนังสือคา้ ประกัน เพ่ือช่วยลดข้ันตอนที่ยุ่งยากในการทาเอกสาร ประหยัดเวลาดาเนินการ และ ช่วยลดต้นทุน บนพื้นฐานของความถูกต้อง แม่นยา และโปร่งใส 3. ช่วยให้คู่สัญญาทางานร่วมกันได้สะดวกยิ่งข้ึน ผ่านการทาธุรกรรมภายใต้ Smart Contract ซึ่งข้อตกลงของสัญญาต่าง ๆ จะถูกจัดเก็บไว้ในรูปแบบของ Code ใน เครือข่ายของ Blockchain เมื่อมีคาส่ังที่ตรงตามเง่ือนไขข้อตกลงที่วางไว้ ระบบจะ ดาเนินการทาธุรกรรมต่างๆ ตามข้อตกลงโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ คู่สัญญาจะต้องลงนามใน Smart Contract เพื่อให้มีผลบังคับใช้ โดยระบบ Blockchain จะทาหน้าที่เสมือน บุคคลท่ีสามที่คอยรายงานสถานะล่าสุดของข้อตกลงให้กับคู่สัญญา เช่น โครงการ

Hermicity ที่ใช้ ระบบ Blockchain ในการทาธุรกรรมซื้อขายสินค้าผ่านสกุลเงิน ดิจิทัล Ethereum และขนส่งสินค้าด้วยโดรน โดยไม่ผ่านผู้ให้บริการของรัฐหรือสถาบัน การเงิน ในอนาคต Smart Contract จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั้งในโลกของความเป็นจริง และโลกดิจิทัล โดยจะปรับเปล่ียนและเก่ียวข้องกับการทาธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแบ่งปันผลประโยชน์ สิทธิการเข้าถึงข้อมูล ทรัพย์สินทางปัญญา และภาระผูกพัน ท้ังนี้ ต้องไม่ลืมด้วยว่า Smart Contract ก็ยังมีข้อจากัด เพราะเป็นระบบที่แทบจะไม่ เปิดโอกาสให้คู่สัญญาสามารถขอยกเลิกสัญญาดิจิทัลที่ลงนามไว้แล้วได้ IFTF ได้นาเสนอกลยุทธ์ในการทา Blockchain มาประยุกต์ใช้ให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ดังนี้ 1. เรียนรู้ ท่ีจะสร้างตรรกะของสัญญาท่ีคนหรือระบบ Blockchain สามารถตีความ ไปในทิศทางเดียวกัน ในขณะเดียวกันก็ต้องเปิดโอกาสให้ผู้อ่ืนที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง สามารถนาเสนอมุมมองสาคัญ ๆ เพ่ือที่จะแก้ไขข้อพิพาทต่าง ๆ ได้ด้วย 2. กาหนด ขอบเขตของความเป็นส่วนตัว มีความโปร่งใส และไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงได้ เพื่อป้องกันการหลีกเล่ียงความรับผิดชอบของคู่สัญญา หากเกิดกรณี พิพาท 3. พัฒนา รูปแบบการควบคุมสัญญาให้มีความยืดหยุ่น เพ่ือให้ผู้ร่วมสัญญาเข้าร่วมได้ โดยง่าย และยังสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ร่วม สัญญาและผู้ใช้งานทุกคนในเครือข่าย ซ่ึงการสร้างกติกาให้ทุกฝ่ายมีการแลกเปลี่ยน ข้อมูลและความต้องการในการใช้งานระหว่างกันจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการ แลกเปลี่ยนข้อมูลภายใต้ระบบที่มีความน่าเชื่อถือสูง ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน Blockchain อาจยังไม่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในวงการธุรกิจไทย แต่คาดว่า ในอนาคต Blockchain จะส่งผลกระทบต่อหลาย ๆ อุตสาหกรรม ซึ่งหาก เราประยุกต์ใช้ได้ก่อนก็จะได้เปรียบคนอื่น แล้วคุณล่ะพร้อมที่จะนา Blockchain มาเป็นส่วนหน่ึงขององค์กรแล้วหรือยัง ? ที่มา: Institute for The Future (IFTF)




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook