หลักการเขียนโปรแกรม-06

ไลบรารีฟังกช์ นั (Library Function) เป็นฟังกช์ นั ท่ีผ้ผู ลิตตวั แปรภาษาซี สร้างขึน้ แล้วเกบ็ ไว้ในแฟ้มไลบรารีของภาษาซี ผใู้ ช้จะสามารถเรียกใช้ฟังกช์ นั ประเภทนี้ได้โดยใช้คาสงั่ #include #include<library-file-name> 113

การเรยี กใช้ฟังกช์ นั getchar( ) เพื่อรบั ขอ้ มลู ทางแป้นพิมพ์ 1 ตวั อกั ขระ #include<stdio.h> #include<conio.h> main( ) { char c ; | | c = getchar( ) | | } 114

ไลบรารีฟังกช์ นั ที่ใช้งานบอ่ ยๆ ได้แก่ 1 ฟังกช์ นั ที่ใช้กบั ตวั อกั ขระและข้อความ ฟังกช์ นั ในกล่มุ นี้จะอย่ใู นแฟ้ม string.h และ ctype.h 2 ฟังกช์ นั เพื่อการคานวณ ฟังกช์ นั ท่ีใช้ในการคานวณจะอย่ใู นแฟ้ม math.h 3 ฟังกช์ นั อื่นๆ ฟังกช์ นั ในกล่มุ นี้จะอย่ใู นแฟ้ม string.h และ ctype.h 115

ภาษาซียงั อนุญาตให้ผ้เู ขียนโปรแกรมสามารถสร้างฟังก์ชนั ขึ้นใช้งาน ได้เอง (User Defined Function) โดยฟังกช์ นั ที่สร้างขึน้ เองนี้อาจจะรวมอย่ใู น โปรแกรมหลกั หรืออาจแยกไปอย่คู นละแฟ้มกไ็ ด้ ทาให้สามารถแบ่งโปรแกรม ท่ีมีขนาดใหญ่ออกเป็นส่วนๆ คล้ายกบั การสรา้ งโปรแกรมย่อยในภาษาอ่ืนๆ ซึ่งจะมีความสมบูรณ์ในตวั เอง จึงสามารถเขียนโปรแกรมภาษาซีเป็ นโมดูล (Module) ได้ ทาให้สามารถนากลุ่มคาสงั่ ใดๆ ที่ต้องการให้ทางานซา้ กนั หลาย ท่ีในโปรแกรมมาเขียนเป็ นฟังกช์ นั เพื่อเรียกใช้งานได้เม่ือต้องการ นอกจากนี้ ยงั สามารถรบั หรือส่งค่า หรือเรียกใช้กนั เองระหว่างฟังก์ชนั ก็ได้ การเขียน ฟังกช์ นั ขึ้น ใช้งานเองจึงทาให้เราไม่ต้องเขียนโปรแกรมที่มีคาสงั่ ซา้ กนั หลาย ครงั้ รปู แบบการเรียกใช้ฟังกช์ นั ดงั นี้ 116

117

type function-name(agr1, arg2,---argn) type arg1; type arg2; { local-variable; | | | statement; | | | return(value); } 118

ฟังกช์ นั ที่ไม่มีการส่งค่ากนั ระหว่างฟังกช์ นั ฟังกช์ นั ที่มีการส่งค่ากนั ระหว่างฟังกช์ นั ฟังกช์ นั ที่มีการส่งค่ากลบั 119

ตวั แปรที่ใช้ในฟังกช์ นั ของภาษาซีมี 4 ชนิด ได้แก่ 1 ตวั แปรชนิด Automatic 2 ตวั แปรชนิด External 3 ตวั แปรชนิด Static 4 ตวั แปรชนิดเรจิสเตอร์ (Register) 120