โปรแกรมคอมพิวเตอร์ คือ คำสัง่ คอมพิวเตอรช์ ุดหนึ่งๆ ท่ีเขียนขึ้นเป็ นภำษำ คอมพิวเตอรภ์ ำษำใดภำษำหนึ่ง เช่น ภำษำซี (C) ภำษำปำสกำล (PASCAL) ภำษำโคบอล (COBOL) ภำษำเบสิก (BASIC) หรือภำษำแอสเซมบลี (Assembly) หรือภำษำอ่ืนๆ \"โปรแกรม\" นี้ อำจจะเรียกเป็ นชื่ออ่ืนได้ เช่น ซอฟต์แวร์ (Software) หรือแอปพลิเคชัน (Application) โปรแกรมนัน้ แบ่งได้หลำยประเภทดงั นี้ 2
ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ 1 (System Software) 2 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ (Application Software) ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ 3 (System Software) 3
USER Application Operating System (OS) Hardware 4
ภ ำ ษ ำ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์มี ก ำ ร พ ัฒ น ำ หรือมีวิวฒั นำกำรมำโดยลำดบั จะสำมำรถ แบ่งออกเป็นยคุ ของภำษำ (Generation) ซึ่ง ในยุคหลังๆ จะมีกำรพัฒนำภำษำให้มี ควำมสะดวกในกำรอ่ำนและเขียนง่ำยขึ้น กว่ำภำษำในยุคแรกๆ เนื่ องจำกจะมี โครงสร้ำงภำษำใกล้เคียงกบั ภำษำองั กฤษ หรอื ภำษำท่ีมนุษยเ์ ข้ำใจได้ 5
ภำษำเคร่อื ง 1 2 ภำษำแอสเซมบลี (Machine Language) (Assembly Language) ภำษำธรรมชำติ 5 (National Language) ภำษำระดบั สงู มำก 4 3 ภำษำระดบั สงู (Very high-level Language) (High-level Language) 6
ภำษำเคร่อื ง (Machine Language) เป็นภำษำที่มนุษยเ์ ข้ำใจได้ยำก เพรำะใช้เลขฐำนสอง แทนข้อมูล (คือ 0 และ 1) แทนลกั ษณะของกำรปิ ด (Off) และเปิ ด (On) และคำสงั่ ต่ำงๆ ทงั้ หมด จะเป็นภำษำที่ขึ้นอย่กู บั ชนิ ดของเครื่องคอมพิวเตอรห์ รือหน่วยประมวลผลท่ีใช้ คือ แต่ละเครื่องกจ็ ะมีรปู แบบของคำสงั่ เฉพำะของตนเอง ซ่ึงนักเขียนโปรแกรม ในอดีตต้องรู้จกั วิธีที่จะรวมตวั เลขเพ่ือแทนคำสงั่ ต่ำงๆ เป็ นภำษำท่ีมีควำม ย่งุ ยำกในกำรพฒั นำมำก ภำษำชนิดนี้ ได้แก่ ภำษำแอสเซมบลี ภำษำแอสเซมบลี (Assembly Language) เป็ นภำษำที่มีกำรใช้ตัวอกั ษรในภำษำองั กฤษมำแทนคำสงั่ ท่ีเป็ น เลขฐำนสอง (0,1) และเรียกอกั ษรสญั ลกั ษณ์ที่เป็นคำสงั่ นี้ว่ำสญั ลกั ษณ์ข้อควำม (mnemonic codes) เพ่ือให้ง่ำยต่อกำรเขียนและกำรจดจำมำกกว่ำภำษำเครื่อง ภำษำแอสเซมบลียงั จดั เป็น ภำษำระดบั ตำ่ (Low - level language) มีกำรนำ สญั ลกั ษณ์มำใช้ในกำรเขียนโปรแกรม 7
ภำษำระดบั สงู (High-level Language) เป็นภำษำร่นุ ท่ี 3 (3rd Generation Language หรือ 3GLs) เป็ นภำษำท่ีสร้ำงขึ้นมำเพื่อให้สำมำรถเขียนและอ่ำนโปรแกรมได้ ง่ำยขึ้น เน่ืองจำกมีลกั ษณะเหมือนภำษำองั กฤษ และที่สำคญั คือ ผ้เู ขียนโปรแกรมไม่จำเป็ นต้องมีควำมร้เู ก่ียวกบั ระบบฮำรด์ แวรแ์ ต่ อย่ำงใด ภำษำ ตวั แปลภำษำ ภำษำ ระดบั สงู (Compiler/Interpreter) คอมพิวเตอร์ 8
ภำษำระดบั สงู มำก (Very high-level Language) เป็ นภำษำร่นุ ที่ 4 (4GLs : Fourth-Generation Language) ลกั ษณะของภำษำเป็ นภำษำธรรมชำติ คล้ำยกบั ภำษำพดู ของมนุษย์ จะช่วยในเร่ืองของกำรสร้ำงแบบฟอรม์ บนหน้ำจอ เพ่ือจดั กำรเกี่ยวกบั ข้อมลู รวมไปถึงกำรออกรำยงำน ซึ่งมีกำรจดั กำรที่ง่ำยมำกไม่ย่งุ ยำก เหมือนภำษำรนุ่ ที่ 3 ตวั อย่ำงของภำษำในร่นุ ที่ 4 ได้แก่ Informix-4GL, Focus, Sybase, InGres เป็นต้น เป็นภำษำแบบ Nonprocedural กำรเขียนโปรแกรมระดบั สงู มำก 4GLs 9
ภำษำธรรมชำติ (National Language) เป็ นภำษำในยุคท่ี 5 ที่มีรูปแบบเป็ นแบบ Nonprocedural ภำษำธรรมชำตินี้สร้ำงขึน้ มำจำกเทคโนโลยีผ้เู ช่ียวชำญทำงด้ำนระบบ (Expert System) ซ่ึงเป็นงำนท่ีอย่ใู นสำขำปัญญำประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ในกำรท่ีพยำยำมทำให้คอมพิวเตอร์ เปรียบเสมือนกบั เป็ นผ้เู ช่ียวชำญคนหน่ึงท่ีสำมำรถ คิดและตดั สินใจได้เช่นเดียวกบั มนุษย์ คอมพิวเตอร์ สำมำรถตอบคำถำมของมนุษยไ์ ด้อย่ำงถกู ต้อง พรอ้ มทงั้ มีข้อแนะนำต่ำงๆ เพื่อช่วยในกำรตดั สินใจ ของมนุษย์ได้ด้วย ระบบผ้เู ช่ียวชำญนี้จะใช้กบั งำนเฉพำะด้ำนใดด้ำนหนึ่ง 10
ข้อมลู เป็นองคป์ ระกอบท่ีสำคญั อย่ำงหน่ึงในระบบคอมพิวเตอร์ เป็น สิ่งท่ีต้องป้อนเข้ำไปในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยผ้พู ฒั นำโปรแกรมจำเป็ นต้อง ร้จู กั ข้อมูลและควำมสำคญั ของข้อมูลแต่ละประเภทท่ีนำมำใช้ในกำรเขียน โปรแกรม ข้อมลู ที่สำมำรถนำมำใช้กบั คอมพิวเตอรไ์ ด้มี 5 ประเภท คือ ข้อมลู ตวั เลข ข้อมลู ตวั อกั ษร ข้อมลู เสียง (Numeric Data) (Text Data) (Audio Data) ข้อมลู ภำพ ข้อมลู ภำพ (Images Data) เคล่ือนไหว (Video Data) 11
บิต (Bit) 1 คือ ข้อมลู ท่ีมีขนำดเลก็ ท่ีสดุ เป็นข้อมลู ท่ีเครอ่ื งคอมพิวเตอรส์ ำมำรถเข้ำใจและ นำไปใช้งำนได้ ซึ่งได้แก่ เลข 0 หรือเลข 1 เท่ำนัน้ 2 ไบต์ (Byte) คือ เป็นกำรนำบิตหลำยๆ บิตมำเรียงต่อรวมกนั เพ่ือกำหนดค่ำได้มำกขึน้ เช่น 3 บิต มำต่อเรียงกนั จะทำให้เกิดสถำนะที่ต่ำงกนั คือ 000, 001, 010, 100, 011, 010 และ 111 กจ็ ะได้เป็ น8 สถำนะ เม่ือนำบิตมำเรียงต่อรวมกนั เป็น 8 บิต เรียกว่ำ ไบต์ มี 256 สถำนะ และกำหนดเป็นโครงสร้ำงข้อมูลที่มีขนำดเลก็ ที่สุดท่ีใช้งำน ได้ มีค่ำตงั้ แต่ 0 – 255 (00000000 – 11111111) เช่น 0, 1 ถึง 9, A, B ถึง Z และ เครื่องหมำยต่ำงๆ ซ่ึง 1 ไบตจ์ ะเท่ำกบั 8 บิต หรอื ตวั อกั ขระ 1 ตวั เป็นต้น 12
3 ฟิ ลด์ (Field) คือ ไบต์ หรืออกั ขระตงั้ แต่ 1 ตวั ขึน้ ไปรวมกนั เป็นฟิ ลด์ เช่น เลข ประจำตวั ชื่อนักเรียน นำมสกลุ ท่ีอยู่ เป็นต้น เรคคอรด์ (Record) คือ ฟิ ลดต์ งั้ แต่ 1 ฟิ ลดข์ ึน้ ไป ท่ีมีควำมสมั พนั ธเ์ กี่ยวข้อง 4 รวมกนั เป็นเรคคอรด์ เช่น ชื่อนักเรียน นำมสกลุ ท่ีอยู่ ห้องเรียน ครปู ระจำชนั้ เลขประจำตวั นักเรียน ข้อมลู ของนักเรียน 1 คน เป็น 1 เรคคอรด์ ไฟล์ (Files) หรือแฟ้มข้อมลู คือเรคคอรด์ หลำยๆ เรคคอรด์ รวมกนั ซ่ึงเป็นเร่ือง 5 เดียวกนั เช่น ข้อมลู ประวตั ิของนักเรียนแต่ละคนรวมกนั ทงั้ หมดเป็นไฟลห์ รือ แฟ้มข้อมลู เก่ียวกบั ประวตั ินักเรียนของโรงเรียน เป็นต้น ฐำนข้อมลู (Database) กำรเกบ็ รวบรวมไฟลข์ ้อมลู หลำยๆ ไฟลท์ ่ีเก่ียวข้องกนั 6 มำรวมเข้ำด้วยกนั เช่น ไฟลข์ ้อมลู ของนักเรียนท่ีเรียนในแผนกต่ำงๆ ขอ้ มลู ครผู สู้ อน ข้อมลู วิชำท่ีเรียน ข้อมลู ผลกำรเรียน มำรวมกนั เป็นฐำนข้อมลู ของ โรงเรียน เป็นต้น 13
14
กำรเขียนโปรแกรม ด้วยภำษำคอมพิวเตอร์ (Programming) 123 กำรวิเครำะหป์ ัญหำ กำรออกแบบ กำรทดสอบ (Problem Analysis) โปรแกรม (Design) กำรทำเอกสำร ประกอบโปรแกรม 4 และแก้ไข โปรแกรม (Documentation) (Testing) กำรบำรงุ รกั ษำโปรแกรม 5 (Maintenance) 6 15
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: