เอกสารประกอบการติว O-NET วิชา ชวี วทิ ยา ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ................................................................................ โดย คณุ ครชู นนกิ านต์ ทิมแกว้ ตำแหน่ง ครู กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรียนศรีณรงคพ์ ิทยาลัย สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษาเขต 33
เซลลข์ องสิ่งมีชีวิต เซลลโ์ พรคารโิ อต (Prokaryote) เซลล์ยูคาริโอต (Eukaryote) โครงสร้างของเซลล์ 1
การลำเลียงสารผา่ นเซลล์ ผา่ นเยือ่ หมุ้ เซลล์ การสรา้ งถงุ จากเยื่อหุ้มเซลล์ (สารขนาดเล็ก) (สารขนาดใหญ่) แบบไม่ใช้พลงั งาน แบบใชพ้ ลงั งาน การลำเลยี งสารเขา้ การลำเลยี งสารออก (เอนโดไซโทซิส) (เอกโซไซโทซสิ ) การแพร่แบบธรรมดา ออสโมซิส การแพร่แบบฟาซิ ิลเทต การลำเ ีลยงแบบใ ้ชพ ัลงงาน (แบบแอค ีทฟทรานสปอร์ต) ฟาโกไซโทซิส (การกินของเซล ์ล) พิโนไซโทซิส (การ ื่ดมของเซล ์ล) การนำสารเ ้ขา ู่สเซล ์ล โดยอา ัศย ัตวรับ เอกโซไซโทซิส การออสโมซิส (Osmosis) การแพร่ของน้ำผ่านเยอ่ื เลอื กผ่านจากบรเิ วณที่มีน้ำมาก (เข้มข้นน้อย) ไปบริเวณทีน่ ้ำนอ้ ย (เข้มข้นมาก) Note! ขอ้ สอบชอบถามว่าผลที่เกิดขนึ้ เมอ่ื แชเ่ ซลลใ์ นสารละลาย Hypertonic, Hypotonic และ Isotonic - สารละลายไฮเพอรโ์ ทนคิ (Hypertonic): สารละลายทีม่ ีความเข้มข้นมากกว่าในเซลล์ เชน่ น้ำทะเล น้ำเชือ่ มหรือน้ำเกลือท่ีมีความเขม้ ข้นมากๆ *** เมื่อเซลลแ์ ช่อยู่ในสารละลายนี้ นำ้ จะออสโมซิสออก เซลลจ์ ะเหี่ยว - สารละลายไฮโพโทนิค (Hypotonic): สารละลายท่ีมีความเข้มข้นนอ้ ยกวา่ ในเซลล์ *** เมื่อเซลลแ์ ชอ่ ยูใ่ น สารละลายนี้ นำ้ จะออสโมซิสเข้าเซลล์ เซลล์จะเต่ง - สารละลายไอโซโทนิค (Isotonic): สารละลายทีม่ คี วามเขม้ ข้นเท่ากบั ภายในเซลล์ เช่น สารละลาย NaCl เขม้ ข้น 0.85% *** เมอื่ เซลล์แช่อยใู่ นสารละลายน้ี นำ้ จะออสโมซสิ เข้าและออกเท่ากัน เซลล์จะคงรปู รา่ งปกติ 2
ไบโอม (ชีวนเิ วศ) ไบโอมบนบก 1. ปา่ เขตรอ้ น, ปา่ ดิบชน้ื , ปา่ ฝนเขตร้อน: ป่าในเขตรอ้ นชื้น พบบริเวณเส้นศูนย์สตู ร และเปน็ ปา่ ท่ีมคี วาม หลากหลายทางชวี ภาพมากท่ีสดุ Note! ไบโอมท่ีไม่พบในประเทศไทย *** 2. ปา่ เขตอบอุน่ 3. ปา่ สน: ต้นสนเป็นพืชเด่น อากาศหนาว 4. ทงุ่ หญ้าเขตร้อน (สะวนั นา): เป็นทุ่งหญา้ กวา้ งๆ มีต้นไมเ้ ป็นหยอ่ มๆ ช่วงหน้ารอ้ นหญ้าจะแห้งๆ 5. ทงุ่ หญ้าเขตอบอนุ่ : เป็นทุ่งหญ้าโลง่ ๆ อากาศหนาว แทบไมพ่ บตน้ ไมใ้ หญเ่ ลย 6. ทะเลทราย: เปน็ เขตแหง้ แลง้ กลางวนั ร้อน กลางคืนหนาวจัด 7. ทุนดรา: พบบรเิ วณแถบข้ัวโลก หนาวมาก ฝนตกน้อย มีน้ำแขง็ ปกคลุมเกือบทั้งปี การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ บทบาทของสิง่ มีชวี ิตในระบบนเิ วศ 1. ผผู้ ลติ 2. ผ้บู รโิ ภค 3. ผยู้ ่อยสลาย สายใยอาหาร กฎ 10 เปอรเ์ ซ็น 3
ความสมั พันธ์ของสิง่ มีชีวิตในระบบนิเวศ + -0 รปู แบบความสมั พันธ์ สัญลกั ษณ์ ตวั อย่าง พง่ึ พาอาศัย ได้รบั ประโยชน์ร่วมกนั องิ อาศัย, เก้ือกูล ลา่ เหย่ือ ปรสิต แก่งแยง่ แข่งขัน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ 1) แบบปฐมภมู ิ 2) แบบทตุ ิยภูมิ 4
ใช้แลว้ ไมห่ มดสน้ิ ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ใช้แลว้ หมดไป ใชแ้ ลว้ เกิดทดแทนได้ เช้ือเพลงิ หลักท่ีมนษุ ยใ์ ชอ้ ยใู่ นปัจจุบนั คอื การใชท้ รัพยากรอยา่ งย่งั ยืนดว้ ย หลัก 5R 1) Reduce 2) Reuse 3) Recycle 4) Repair 5) Reject การตรวจวดั คุณภาพนำ้ - ค่า BOD - ค่า DO ปรากฏการณเ์ รอื นกระจก การทำลายชั้นโอโซน เกิดจากการที่ชน้ั บรรยากาศของโลกสะสมความร้อน ช้ันโอโซน ชว่ ยปอ้ งกนั รงั สี UV จากแสงอาทิตยไ์ ด้ เอาไวม้ ากเกิน โดยมสี าเหตมุ าจากแก๊สเรือนกระจกตา่ งๆ แตแ่ ก๊ส O3 ถกู ทำลายไดโ้ ดยสาร CFC - คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) - มีเทน (CH4) - ไนตรสั ออกไซด์ (N2O) บางหนังสือใช้คำวา่ ออกไซดข์ องไนโตรเจน 5
การรักษาดุลยภาพของน้ำและเกลือแร่ของปลา การรักษาสมดุลของน้ำในคน การรักษาสมดลุ ของอุณหภูมิในคน 6
การแบง่ เซลล์ แบบไมโทซิส แบบไมโอซสิ หลกั การใช้กลอ้ งจลุ ทรรศน์ 7
สารชวี โมเลกลุ สารชวี โมเลกุล ความเป็นพอลเิ มอร์ คารโ์ บไฮเดรต หนว่ ยยอ่ ย โปรตนี ระบบภมู ิคมุ้ กัน ลพิ ดิ กรดนวิ คลอี กิ การสรา้ งภมู ิคุ้มกัน 8
ลายพมิ พ์ DNA O-net 59: ในการตรวจดีเอ็นเอของพ่อและลกู ของเขา 4 คน ไดล้ ายพิมพ์ ดเี อ็นเอ ชอ่ งหมายเลข 1, 2, 3, 4 และ 5 ดังนี้ ความแปรผนั แบบไม่ตอ่ เนอ่ื ง ความแปรผันทางพันธกุ รรม ความแปรผันแบบต่อเนือ่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ - ความหลากหลายทางพนั ธุกรรม *** กลไกที่ก่อให้เกดิ ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม - ความหลากหลายทางสปชี ีส์ - ความหลากหลายทางระบบนเิ วศ ***** BIOLOGY O-NET ***** 9
ข้อสอบเก่า O-net 1) ออร์แกแนลล์ใดทีพ่ บเฉพาะภายในเซลล์ของสัตวเ์ ทา่ น้ัน (O-net 58) 1. ไมโทคอนเดรยี 2. แวคิวโอล 3. ไลโซโซม 4. เซนทริโอล 5. ผนังเซลล์ 2) การนำเซลลก์ ระพุ้งแก้มมาทำสไลดพ์ ร้อมกบั หยดสารละลายกลูโคส 20% ลงไปจำนวน 1 หยด เม่อื ดภู ายใตก้ ล้อง จุลทรรศน์ ลักษณะของเซลล์จะเปน็ เช่นไร เพราะเหตใุ ด (O-net 57) 1. เซลลจ์ ะเหยี่ วลง เพราะสารละลายกลูโคส เป็นสารละลายไฮโพโทนกิ 2. เซลล์จะเหี่ยวลง เพราะสารละลายกลโู คส เปน็ สารละลายไฮเพอรโ์ ทนกิ 3. เซลล์ไม่เปลยี่ นแปลง เพราะสารละลายกลูโคส เป็นสารละลายไอโซโทนิก 4. เซลลจ์ ะเตง่ ขน้ึ เพราะสารละลายกลูโคส เปน็ สารละลายไฮโพโทนิก 5. เซลลจ์ ะเต่งขึน้ เพราะสารละลายกลโู คส เป็นสารละลายไฮเพอร์โทนกิ 3) ลกั ษณะชวี นิเวศหรือไบโอมแบบใด ทพ่ี บวา่ พืชชนิดตา่ งๆ ได้เกิดววิ ฒั นาการไปสสู่ ปีชีส์ใหมม่ ากท่ีสุด (O-net 58) 1. ไบโอมปา่ ดบิ ช้ืน 2. ไบโอมทนุ ดรา 3. ไบโอมทะเลทราย 4. ไบโอมปา่ สน 5. ไบโอมสะวนั นา 4) ชวี นิเวศหรือไบโอมแบบใดท่ไี ม่พบในประเทศไทย (O-net 58) 1. ไบโอมปา่ ดบิ ชื้น 2. ไบโอมทุง่ หญ้าในเขตอบอ่นุ 3. ไบโอมปา่ สน 4. ไบโอมแหลง่ นำ้ จดื 5. ไบโอมแหลง่ นำ้ เค็ม 5) ในการศกึ ษาระบบนเิ วศในท้องถนิ่ ขอ้ ใดจบั ค่ผู ิดระหว่างเครือ่ งมือและสิง่ ทีต่ รวจวัด (O-net 58) 1. เทอรโมมิเตอร์ วัดอุณหภมู ิ 2. เซคิดิสก์ วัดระดับความลึกของนำ้ 3. ถุงลากแพลงกต์ อน เก็บตัวอยา่ งแพลงก์ตอนในน้ำ 4. กระดาษยนู เิ วอร์ซัลอนิ ดเิ คเตอร์ วดั ความเปน็ กรด-เบส 5. เดนซิโอมเิ ตอร์ วดั ความหนาแน่นของเรือนบอดไม้ 6) ข้อใดเรียงลำดบั ของพชื ทน่ี ่าจะพบเม่อื ทำการเผาไร่ขา้ วโพดแลว้ ปล่อยให้รกร้าง ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (O-net 58) 1. ขา้ วโพด – หญ้า – แห้วกระเทยี ม – ไม้พมุ่ – ไมต้ น้ 2. ขา้ วโพด – แหว้ กระเทยี ม – ไม้ต้น – ไมพ้ ่มุ – หญ้า 3. ขา้ วโพด – ไม้ตน้ – ไมพ้ มุ่ – แห้วกระเทียม – หญ้า 4. ข้าวโพด – หญ้า – ไม้พุ่ม – ไม้ตน้ – แห้วกระเทยี ม 5. ข้าวโพด – แหว้ กระเทียม – หญ้า – ไม้พุม่ – ไมต้ ้น 7) ขอ้ ใดเรียงลำดับของกลุ่มพืชทเี่ กดิ ขนึ้ ทดแทนกันในการเปลย่ี นแปลงแทนทีแ่ บบปฐมภูมิ ซ่งึ เกิดขึน้ ในชวี นเิ วศ ปา่ ฝนเขตร้อนช้ืนไดถ้ กู ต้อง(O-net 59) 1. ไม้พุม่ ==>ไม้ใหญ่ ==>พชื จำพวกหญ้า 2. ไม้พ่มุ ==> พชื จำพวกหญ้า ==> ไม้ใหญ่ 3. ไม้ใหญ่ ==> ไม้พุ่ม ==> พืชจำพวกหญา้ 4. พืชจำพวกหญา้ ==> ไม้พ่มุ ==> ไม้ใหญ่ 5. พชื จำพวกหญ้า==> ไม้ใหญ่ ==> ไม้พุ่ม 10
8) เหตุการณ์ใดมโี อกาสทำให้เกิดการเปล่ยี นแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิได้มากทส่ี ุด (O-net 59) 1. การเกิดไฟปา่ 2. ภเู ขาไฟระเบิด 3. การทำไร่เลอ่ื นลอย 4. การเกดิ คลน่ื ยกั ษส์ นึ ามิ 5. การถางปา่ และโค่นต้นไม้ 9) ข้อใดทร่ี ะบปุ ระเภทของทรัพยากรธรรมชาติไม่ถกู ตอ้ ง (O-net 58) 1. แร่-ทรพั ยากรธรรมชาติทีใ่ ช้แล้วหมดไป 2. แสงแดด–ทรัพยากรธรรมชาตทิ ี่ใชไ้ ม่หมดสน้ิ 3. สตั วป์ า่ -ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ีใ่ ช้แลว้ หมดไป 4. ป่าไม้–ทรพั ยากรธรรมชาติท่ใี ชแ้ ล้วเกดิ ทดแทนได้ 5. น้ำมัน – ทรัพยากรธรรมชาตทิ ี่ใช้แลว้ หมดไป 10) ขอ้ ใดจัดเปน็ ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ไ่ี มม่ ีชีวติ ซง่ึ อยู่ในสถานะของแขง็ และเปน็ ทรพั ยากรธรรมชาติ ประเภทที่ สามารถฟื้นฟูหรือสรา้ งทดแทนได้ (O-net 59) 1. ดนิ 2. แร่ 3. ปา่ ไม้ 4. แสงแดด 5. ถุงพลาสติก 11) ข้อใดไม่สามารถนำกลบั มาผลติ ใช้ใหม่ (recycle) ได้ (O-net 58) 1. ท่อเหล็ก 2. ขวดพลาสตกิ 3. จานแกว้ 4. กระดาษสมุด 5. ใบตองห่อขนม 12) ถา้ งูกินกบในสระ พลงั งานของลำดบั ขั้นอาหารในกบจะถูกถา่ ยทอดไปยังงูได้ประมาณรอ้ ยละเทา่ ใด (O-net 59) 1. 1 2. 10 3. 20 4. 90 5. 100 13) ปัจจยั ใดไม่ทำให้สิ่งมีชวี ิตเสีย่ งต่อการสูญพนั ธ์ุ (O-net 59) 1. ภัยพบิ ัติ 2. การลดลงของประชากร 3. การอพยพท่ีเกดิ ข้ึนตามธรรมชาติ 4. การสญู เสยี ถิ่นท่ีอย่อู าศยั ตามธรรมชาติ 5. การขาดความหลากหลายทางพันธกุ รรม 14) อวยั วะใดทีป่ ลาไม่ไดใ้ ช้ ในการรักษาดุลยภาพของน้ำและแรธ่ าตุในร่างกาย (O-net 58) 1. เหงอื ก 2. รูจมกู 3. ผิวหนงั 4. ไต 5. ทวารหนกั 15) นกั ท่องเทีย่ วชาวไทยไปเท่ยี วประเทศอนิ เดยี ในช่วงทม่ี ีอากาศรอ้ นจัด ร่างกายของเขาจะเกิดการเปลยี่ นแปลง ดงั ต่อไปนี้ ยกเว้น ขอ้ ใด (O-net 58) 1. สมองส่วนไฮโพทาลามัสไปกระตนุ้ รา่ งกาย 2. หลอดเลอื ดท่ีผิวหนังขยายตัว 3. กล้ามเนอ้ื ที่ยดึ โคนเสน้ ขนคลายตัว 4. ตอ่ มเหงอ่ื เพิ่มการหลั่งเหงอ่ื 5. อตั ราการเผาผลาญสารอาหารเพม่ิ ขน้ึ 16) การปลูกพืชในพนื้ ท่แี ลง้ ที่ได้รับแสงแดดจัด มีอุณหภูมิสูง ควรเลือกปลูกพชื ท่มี ีลักษณะใด (O-net 59) 1. มีอัตราการคายน้ำสงู 2. มีจำนวนปากใบมากเฉพาะที่ผวิ ดา้ นบน 3. มจี ำนวนใบมากและมรี ูปากใบเปิดกว้าง 4. มีจำนวนปากใบนอ้ ยและรูปากใบเปดิ ไม่เต็มท่ี 5. มีจำนวนปากใบมากที่ผิวทั้งดา้ นบนและด้านล่าง 11
17) ขอ้ ใดถกู ตอ้ งเกีย่ วกบั การรกั ษาดลุ ยภาพของน้ำและเกลอื แร่ของปลาทะเล (O-net 59) 1. ปลาไม่กนิ น้ำทะเล 2. ปลาขับเกลือออกทางต่อมนาซลั 3. ปลาขับปัสสาวะทีเ่ จอื จางออกเปน็ ปริมาณมาก 4. น้ำทะเลเป็นไฮโพโทนคิ ตอ่ ของเหลวในรา่ งกายปลา 5. ปลามีเกล็ดป้องกนั ไมใ่ ห้แร่ธาตุจากน้ำทะเลซึมเขา้ สรู่ า่ งกาย 18) เมอ่ื คนอยู่ในบรเิ วณทมี่ อี ากาศหนาวมาก ถึงแม้จะใสเ่ ส้ือกนั หนาวแลว้ ยังรู้สึกหนาว บางครง้ั หนาวจนสั่น ข้อใดคอื การตอบสนองของรา่ งกายตอ่ อากาศหนาว (O-net 59) 1. อัตราการหายใจลดลง 2. ตอ่ มเหงอ่ื ขบั เหงอื่ ออกมากข้นึ 3. อตั ราเมทาบอลิซึมของรา่ งกายเพิม่ ข้ึน 4. หลอดเลอื ดบรเิ วณผิวหนังขยายตวั มากขึ้น 5. ตอ่ มใต้สมองหลัง่ ฮอรโ์ มนเอนดอร์ฟินมากขนึ้ 19) ขอ้ ใดจบั ค่รู ะหว่างอวยั วะในระบบภมู ิคุ้มกันและหนา้ ที่ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง (O-net 58) 1. ตอ่ มนำ้ เหลอื ง ทำหนา้ ที่ผลิตเซลลเ์ มด็ เลือดแดง 2. ตบั ทำหนา้ ท่ีสร้างและทำลายเกล็ดเลอื ด 3. ไขกระดูก ทำหน้าที่สร้างเกล็ดเลือด 4. มา้ ม ทำหน้าที่ทำลายเซลล์เม็ดเลอื ดขาว 5. ตอ่ มไทมัส ทำหน้าที่ทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง 20) เด็กคนหนงึ่ ถูกสนุ ขั กดั ผู้ปกครองไม่แนใ่ จวา่ เป็นสนุ ขั บา้ หรอื ไม่ เพ่อื ความปลอดภยั จงึ พาไปรบั การฉดี เซรุม่ พษิ สุนขั บา้ ทโ่ี รงพยาบาล เซรุม่ ทเ่ี ดก็ ได้รบั คือขอ้ ใด (O-net 59) 1. แอนตเิ จนซ่ึงเปน็ ภมู ิคุม้ กนั แบบรับมา 2. แอนตเิ จนซ่ึงเป็นภมู ิคุ้มกันแบบกอ่ เอง 3. แอนตบิ อดซี ง่ึ เป็นภมู คิ ้มุ กนั แบบรับมา 4. แอนติบอดซี ึ่งเป็นภูมคิ ุ้มกนั แบบก่อเอง 5. วคั ซีนพิษสุนขั บ้าซึง่ เป็นภมู ิคุ้มกนั แบบกอ่ เอง 21) ถ้าพ่อมหี ม่เู ลือด A แมม่ ีหม่เู ลือด B และลกู คนแรกมหี มเู่ ลือด O ลูกคนตอ่ มาจะมโี อกาสมีหมู่เลือดใด (O-net 59) 1. A หรอื B 2. A หรอื AB 3. B หรอื AB 4. A B หรือ AB 5. A B AB หรือ O 22) โครโมโซมท่เี ห็นเป็นเสน้ หนาขณะแบ่งเซลล์ เกิดจากการขดตัวของโครงสรา้ งในขอ้ ใดจงึ จะถกู ต้องที่สดุ (O-net 59) 1. โปรตนี 2. ดีเอน็ เอ 3. โครมาติน 4. โครมาทิด 5. สารพันธกุ รรม 23) เซลล์ในรปู มีการแบง่ เซลลแ์ บบไมโอซีสในระยะใด (O-net 58) 1. เมตาเฟส I 2. แอนนาเฟส I 3. อินเตอร์เฟส II 4. เมตาเฟส II 5. แอนนาเฟส II 12
ข้อสอบ O-net 60 13
14
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: