แบบรายงานการใช้สื่อ - นวัตกรรม ความน่าจะเป็น นางสาวเรณู คุณเอนก

แบบรายงาน การใชส อ่ื – นวตั กรรมการเรยี นการสอน 1. หลกั การและเหตผุ ล การจัดทำสื่อถอื วาเปนอปุ กรณการเรียนการสอนชนิดหนึ่งท่ีมคี วามสำคัญมาก เพราะสามารถทำให นกั เรยี นเรียนรแู ละศกึ ษาคนควา ไดดวยตนเอง ซึ่งสอ่ื การเรยี นการสอนประเภทชดุ การเรียนคณติ ศาสตร เร่ือง ความนาจะเปน โดยใชรูปแบบ DEASI ผูจัดทำจัดทำขึ้น เพื่อสรางและพัฒนาแบบฝกเสริมทักษะพื้นฐาน คณิตศาสตร เพ่ือแกป ญหาการเรยี นคณิตศาสตรใหก บั นกั เรียนที่ไดคะแนนจากการทดสอบความรพู น้ื ฐานไมถึง เกณฑซึ่งไมถึงรอยละ 50 เพื่อพัฒนาความสามารถเรือ่ งความสัมพันธและฟงกชัน และเพื่อใชเปนสื่อเผยแพร การจัดกิจกรรมการเรียนรูคณิตศาสตร โดยนักเรียนสามารถเรียนรูไดดวยตนเอง เนื้อหาเขาใจงาย ทำให นกั เรียนเกิดความสนใจอยากเรยี นวิชาคณิตศาสตรม ากยิ่งขนึ้ ซงึ่ เปน การกระตนุ ใหน กั เรียนมเี จตคติที่ดีตอวิชา คณิตศาสตรอีกทางหนงึ่ 2. สภาพปญ หา เน่ืองจากในปจจุบันนักเรียนมปี ญ หาในดานการเรียนรวู ชิ าคณติ ศาสตรเ ปนอยา งมาก ซ่งึ ผลทีต่ ามมาก็ คือนักเรียนที่จบหลักสูตรมัธยมศึกษาศึกษามีความรูในวิชาคณิตศาสตรไมเหมาะสมกับระดับชั้น ผูเรียนมี ทัศนคติที่ไมดีตอวิชาคณิตศาสตร ทำใหเกิดปญหาในการเรียนในระดับที่สูงขึ้นซึ่งเปนการลมเหลวใน กระบวนการจัดการเรียนรูเปนอยางมาก เพราะวชิ าคณิตศาสตรถือวาเปนเปนเครื่องมือสำคญั ในการดำรงชีวิต ประจำวันของคนเรา ดวยเหตุนค้ี รผู สู อนจงึ มพี ยายามมงุ มน่ั ทจ่ี ะแกปญหาการเรียนการสอนวชิ าคณติ ศาสตร ดวยการสราง ชุดการเรียน เพื่อเปนเสริมทักษะ เปนการกระตุนใหผูเรียนเกิดกระบวนการคิดสรางสรรคผลงานดวยตนเอง ใหก บั ผเู รยี น เปลี่ยนแปลงทัศนคติของผูเรยี นเก่ียวกบั คณิตศาสตรเนน ใหเหน็ ความสำคัญของวิชาน้ี และเพิ่ม ศักยภาพการเรียนรูวิชาคณิตศาสตรใหกับผูเรียนเพื่อใชเปนหนึ่งในยุทศาสตรการพัฒนาการเรียนรูวิชา คณิตศาสตรใหม ีประสทิ ธภิ าพยิ่งข้นึ 2.1 นักเรียน - นักเรียนมีความสามารถในการเรียนรไู ดค อนขางชา และมีความรูไมเ หมาะสมกับระดับชน้ั - นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนต่ำ 2.2 ครู - เวลาในการสอนจำกัด

3. การพฒั นา 3.1 การพฒั นาบคุ ลากร สื่อการเรียนการสอนประเภทแบบฝกทักษะคณิตศาสตร ชุดการเรียนคณิตศาสตร เรื่อง ความ นาจะเปน โดยใชรูปแบบ DEASI จดั เปน การสอนท่ีดชี ุดหนงึ่ และสามารถใชใ นการพัฒนาการเรียนการสอนได ทำใหน ักเรยี นเกดิ ทกั ษะ มคี วามรเู ขาใจในบทเรียนยิ่งขึ้น 3.2 พฒั นางาน พฒั นาชุดการเรียนคณติ ศาสตร เร่ือง ความนาจะเปน โดยใชรปู แบบ DEASI จะเปนส่อื การสอน ที่ศึกษาไดงาย และสามารถสรางความเขา ใจใหกบั นักเรียนได 4. ผลทคี่ าดวา จะไดร บั 4.1 นักเรียนมีเขา ใจ เรอื่ ง ความนา จะเปน 4.2 นักเรียนสามารถเรยี นรไู ดดว ยตนเองจากศกึ ษาขอ มลู และเกดิ การสรา งองคความรูได 4.3 นกั เรียนมเี จตคตทิ ด่ี ีตอ การเรียนคณติ ศาสตร 4.4 บรรยากาศในการเรยี นนา สนใจและเกดิ เปนสงั คมแหงการเรยี นรู

รายละเอยี ดเกย่ี วกบั การใชส อ่ื นวตั กรรมการเรยี นการสอน โรงเรยี นวงั จนั ทรว ทิ ยา ภาคเรยี นที่ 2 ปก ารศกึ ษา 2565 1. ชอ่ื ผลงาน ชดุ การเรียนคณิตศาสตร เรอ่ื ง ความนาจะเปน โดยใชรปู แบบ DEASI 2. รายวชิ า คณติ ศาสสตร รหัสวชิ า ค 23102 ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 3. ประเภทสอื่ นวตั กรรม ชดุ การเรยี นคณติ ศาสตร 4. ผผู ลติ นางสาวเรณู คณุ เอนก 5. วตั ถปุ ระสงค 5.1 เพอ่ื ใหน กั เรยี นมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 5.2 เพ่อื ใหนักเรยี นรกั และมีเจตคติทด่ี ตี อ วิชาคณิตศาสตร 6. วธิ กี ารจดั ทำสอ่ื นวตั กรรม 6.1 วสั ดุ / อปุ กรณ 6.1.1 กระดาษ 6.1.2 เคร่อื งปรน้ิ เตอร 6.2 ลำดับขน้ั ตอนการทำ 6.2.1 ศึกษาเนือ้ หา 6.2.2 ออกแบบการผลิตสื่อ 6.2.3 จดั พิมพ 6.2.4 ทดลองใช 6.2.5 แกไ ข ปรับปรุง 6.2.6 ใชป ระกอบการเรียนการสอน 6.3 วธิ กี ารใชส อื่ 6.3.1 นกั เรียนทำแบบทดสอบกอนเรยี น 6.3.2 นกั เรยี นศกึ ษาเนอื้ หาบทเรียน เรื่อง การบวก – ลบ จำนวนเตม็ 6.3.3 นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น เพ่ือดูความกา วหนา ในการเรียนรูข องนักเรียน 7. ระยะเวลาการจดั ทำ 7 มถิ นุ ายน - 11 มถิ นุ ายน 2564 8. คาใชจ า ย - 9. วนั เดอื นปก ารนำเสนอสอ่ื นวตั กรรมประกอบการสอน 14 มิถนุ ายน - 18 มิถุนายน 2564

10. สรปุ ผล – ประโยชนจ ากการนำไปใช 10.1 นักเรียนมผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนสงู ข้ึน 10.2 นักเรียนมีเจตคติทด่ี ีตอ วชิ าคณติ ศาสตร 11. ขอ เสนอแนะ 11.1 ควรทำสื่อประกอบการเรียนการสอนในเนื้อหาอืน่ ๆ 11.2 ควรทำสอ่ื การเรยี นการสอนใหหลากหลาย ลงชือ่ ………………………………..……ผูผลิต (นางสาวเรณู คุณเอนก) ลงชื่อ............................……………..หวั หนา กลมุ สาระฯ คณิตศาสตร (นางสมจติ ต มาฆะสทิ ธ)์ิ ลงช่ือ………………………….…………รองผอู ำนวยการกลมุ งานบริหารวิชาการ (นางสมชั ญา ผุดผอ ง)

แบบสรปุ การประเมนิ สอื่ การสอน โรงเรยี นวงั จนั ทรว ทิ ยา สอื่ การสอนชดุ การเรยี นคณติ ศาสตร เรอื่ ง ความนา จะเปน โดยใชร ปู แบบ DEASI วชิ า คณติ ศาสตรพ น้ื ฐาน รหสั วชิ า ค 23102 *************************************** จำนวนผูประเมิน ครู 2 คน นักเรียน 33 คน มาก ระดบั ความคดิ เหน็ ทสี่ ดุ มาก ปานกลาง นอย ควร ท่ี รายการประเมนิ (4) (3) (2) ปรบั ปรงุ X S.D. 1 เปนส่ือทส่ี อดคลองกับเน้อื หาและวดั ผล (5) (1) ไดตรงจุดประสงค 28 3 2 0 0 4.53 0.72 2 รปู แบบนาสนใจ เราใจ สวยงาม ชัดเจน 30 1 2 0 0 4.67 0.70 28 3 2 0 0 4.53 0.72 3 นกั เรียนมสี ว นรวมในการใชส ือ่ 4 เปน สื่อทีท่ ำใหนกั เรยี นสนใจและเขา ใจ 25 5 3 0 0 4.27 0.77 บทเรียนดขี ้นึ 24 9 0 0 0 4.40 0.49 5 ส่อื การเรยี นการสอนสงผลใหนักเรียนมี ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนสูงขน้ึ สรปุ ผลการประเมนิ 1. เปน สอ่ื ที่สอดคลองกบั เน้ือหาและวัดผลไดต รงจุดประสงค 2. รูปแบบนาสนใจ เราใจ สวยงาม ชัดเจน 3. นักเรียนมสี ว นรวมในการใชส่อื ขอ ควรปรบั ปรงุ /พฒั นา 1. นักเรียนบางคนไมเ ขา ใจเนอื้ หา 2. การทำกิจกรรมการเรียนการสอนนอกเวลาและใหนกั เรียนศึกษาเองนักเรยี นไมไ ดทำเอง แตลอก เพอื่ นมาสง

บทสรปุ สอ่ื นวตั กรรมการเรยี นรู 1. ชอื่ ผลงาน แบบฝกทกั ษะคณิตศาสตร เร่ือง การบวก - ลบ จำนวนเต็ม ชอ่ื ผผู ลติ นางสาวเรณู คณุ เอนก ช่อื สถานศกึ ษา โรงเรียนวังจันทรว ทิ ยา 2. ความเปน มาและความสำคญั ของปญ หา เนือ่ งจากในปจ จบุ นั นักเรยี นมีปญหาในดานการเรียนรวู ิชาคณติ ศาสตรเปน อยา งมาก ซง่ึ ผลทีตามมา ก็คือนักเรียนที่จบหลักสูตรมัธยมศึกษาศึกษามีความรูในวิชาคณิตศาสตรไมเหมาะสมกับระดับชั้น ผูเรียนมี ทัศนคติที่ไมดีตอวิชาคณิตศาสตร ทำใหเกิดปญหาในการเรียนในระดับที่สูงขึ้นซึ่งเปนการลมเหลวใน กระบวนการจัดการเรียนรูเ ปนอยางมาก เพราะวชิ าคณิตศาสตรถอื วาเปน เปนเคร่ืองมอื สำคญั ในการดำรงชีวิต ประจำวนั ของคนเรา ดวยเหตุนี้ครผู ูสอนจงึ มพี ยายามมุงมั่นที่จะแกปญหาการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร ดวยการ สรางแบบฝกทักษะคณิตศาสตร เพื่อเปนการเสริมทักษะในเรื่อง การบวก – ลบ จำนวนเต็ม ใหกับผูเรียน เปล่ยี นแปลงทัศนคติของผูเรียนเกี่ยวกับคณติ ศาสตรเนนใหเ หน็ ความสำคญั ของวิชาน้ี และเพิ่มศักยภาพการ เรียนรูวิชาคณิตศาสตรใหกับผูเรียนเพื่อใชเปนหนึ่งในยุทศาสตรการพัฒนาการเรียนรูวิชาคณิตศาสตรใหมี ประสทิ ธภิ าพย่งิ ข้นึ 3. วตั ถปุ ระสงค 3.1 เพอื่ ใหนักเรยี นมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นสูงข้ึน 3.2 เพือ่ ใหนกั เรยี นรกั และมีเจตคตทิ ่ดี ีตอวชิ าคณิตศาสตร 4. วธิ ีดำเนนิ การ 4.1 ศึกษาเนอื้ หา 4.2 ออกแบบการผลิตส่อื 4.3 จัดพมิ พ 4.4 ทดลองใช 4.5 แกไข ปรบั ปรงุ 4.6 ใชประกอบการเรียนการสอน 4.7 สรุปผลการประเมนิ ส่ือเพอื่ พฒั นาและปรบั ปรุง 5. ผลการดำเนนิ การ แบบฝก ทกั ษะคณติ ศาสตร เร่ือง การบวก – ลบ จำนวนเต็ม เปนสื่อทีส่ อดคลองกับเน้อื หาและวัดผล ไดต รงจุดประสงค รูปแบบนา สนใจ เรา ใจ สวยงาม ชัดเจน และนกั เรียนมสี วนรวมในการใชส ื่อ สง ผลให นักเรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนและมเี จตคติท่ีดีตอวิชาคณติ ศาสตรสงู ขึ้น

6. การนำไปใชป ระโยชน 6.1 พัฒนาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี นใหส ูงขึ้น 6.2 พฒั นาการจัดการเรยี นการสอนที่หลากหลายสงผลใหนักเรยี นมเี จตคติท่ดี ี ตอวิชาคณิตศาสตร 7. ขอ เสนอแนะ 7.1 ควรทำสือ่ ประกอบการเรยี นการสอนใหเนือ้ หาอ่ืน ๆ 7.2 ควรทำสอื่ การเรียนการสอนใหหลากหลาย



















โรงเรยี นวังจันทรว์ ิทยา 316 หมู่ 1 ต.ชมุ แสง อ.วังจันทร์ จ. ระยอง 21210 โทร- 0-3866-6188 www.wangchan.ac.th