อาหารนานาชาติ วัฒนธรรมเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี ง ใต
“อาหาร” เปนปจ จัยสีท่ ส่ี ําคัญในการดาํ รงชวี ติ ของมนุษย แตเม่ือมองใหลกึ ลงไปแลว “อาหาร” เปนมากกวาสิง่ ที่ชวยใหมนุษยด าํ รงอยไู ด ในสงั คมหนงึ่ ๆ ท่ี ประกอบไปดว ยผคู นหลากหลายเชื้อชาติ ภาษา ท้ังท่ีเปนคนพนื้ ถ่ินและผูท่ีอพยพเขา มากต็ าม พวกเขาตา งมีอัตลักษณของตนเองและเกิดการรวมกลมุ กันอันนาํ มาซ่ึงอตั ลักษณข องชาตพิ ันธตุ นเอง เมอื่ รวมกลุม กนั สรางสรรคอ ตั ลกั ษณต นเองจึงเกดิ “วฒั นธรรมอาหาร” ขึน้ ซ่ึงมนี กั วชิ าการใหความหมายไววา “วฒั นธรรมอาหาร” หมายถึง อาหารท่ีมนษุ ยบรโิ ภคในโลกนม้ี ีหลากหลายชนิด แตละประเทศมอี าหารทเี่ ปน เอกลกั ษณของตน มวี ธิ กี ารประกอบอาหารแตก ตา งกันไป ทง้ั การเผา การตม การผัด การเจยี ว การนึ่ง การตุนและการอบ รวมทง้ั มวี ิธีการปรุงอาหารที่แตกตางกนั ออกไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่ได รบั การสืบทอดแตโบราณกาล (นงลกั ษณ หงษคาํ , 2557, หนา 7) สว น ประหยดั สายวิเชียร ใหค วามหมายวา “วฒั นธรรมอาหาร” หมายถึง ธรรมเนยี ม วธิ กี ารและประเพณตี า งๆ ซ่งึ เก่ยี วขอ งกับอาหารที่คนในชุมชนหน่ึง หรือสงั คมหน่งึ ยึดถอื สืบตอกนั มาในเรอ่ื งท่เี กย่ี วของกบั อาหารทุกขนั้ ตอน วฒั นธรรมอาหารของสงิ คโปร แสดงใหเห็นถึงความหลากหลายการผสมผสานกนั ระหวางคนตา งเช้อื ชาติ เชน จนี มลายแู ละอนิ เดยี รวมทง้ั ประชากรกลุม อนื่ ๆ ท่ีอพยพโยกยา ยถิ่นฐานจากทีต่ างๆ ทว่ั โลกมายังสิงคโปร คนอินเดีย คนมลายู ทเ่ี ขา มาอยูในสงิ คโปรมาหลายชั่วอายคุ นนาํ เครอื่ งปรุงประเภทเครือ่ งเทศที่ เผด็ รอนขา มาเปนสว นประกอบสาํ คัญในอาหารของชาวสงิ คโปร ในขณะทคี่ นจนี หลากหลายกลุมไดนาํ วิธีการปรุงอาหารบวกกบั การใชศาสตรแ ละศิลปในการ ปรุงอาหารท่ยี อดเยย่ี ม
สิงคโปรเ ปนประเทศท่ีขึน้ ช่ือเรื่องความสะอาด เขาคอ ยๆ จัดระเบยี บบรรดารานคา หาบเรแ ผงลอยต้ังแตค ริสตทศวรรษ 1950 ชว งเวลานน้ั อตุ สาหกรรมโรงงาน สงิ คโปรกําลงั เตบิ โต ทางการจึงใหพ อ คา แมค าที่โดนจัดระเบยี บไปทํางานโรงงานแทน ขณะเดยี วกันทางการสรา งศูนยอ าหารหรือท่ีเรียกวา ฮอวเ กอร เซน็ เตอร (Hawker Centre) เพือ่ รองรบั บรรดาพอ คาแมข ายในเวลาตอ มา บรรดารานหาบเรแผงลอยตางๆ ถกู โยกยายใหไ ปรวมตวั และขายกันตามศนู ยอาหาร ยา รานคา แผงลอยและรถเขน็ ขายอาหารตามขางถนนทีอ่ ยูคูกับเมอื งสิงคโปรมายาวนาน เปน ประวตั ิศาสตรห นา หนึ่งของสังคมสงิ คโปรท่ีแสดงใหเ หน็ รูปแบบ ของสงั คม และวิถกี ารพฒั นาเศรษฐกจิ ท่เี ปน เอกลกั ษณของเกาะเลก็ ๆ ปจ จุบันสงิ คโปรโดดเดน อยางมากในการพยายามชเู อกลกั ษณความเปน สงิ คโปรบ น พ้นื ฐานของความหลากหลายทางวัฒนธรรมและผูคน อาหารเปน เรื่องหนึง่ ทสี่ ิงคโปรห ยิบยกขึน้ มานธรุ กจิ ใตต ึกคอนโดมเิ นยี ม โฉมหนา หาบเรแ ผงลอยใน สงิ คโปรจ ึงเปลีย่ นไปอยางส้ินเชงิ
อาหารของสิงคโปรม หี ลากหลาย แยกออกตามกลมุ ชาติพนั ธุในประเทศสงิ คโปรไ ดดังน้ี 1. อาหารจนี อิทธพิ ลของอาหารจนี นั้นมมี าก เพราะชาวจนี ในสิงคโปรนั้นมจี ํานวนมากท่สี ุด มี ทงั้ ชาวฮกเกยี้ น แตจ๋วิ กวางตุง จนี แคะและไหหลํา อาหารฮกเกีย้ น เชน หมีฮ่ กเกยี้ น อาหารแตจว๋ิ เชน ปผู ัด ปลาน่งึ อาหารกวางตุง เชน ติ่มซํา โจก อาหารจนี แคะ เชน ยง โตวฝู อาหารไหหลาํ เชน ขาวมนั ไก สว นบะกุดเตน ้นั กม็ ีหลายแบบทั้งแบบแตจว๋ิ กวางตุง และแบบฮกเก้ยี น แบบแตจ ิว๋ เหน็ จะเปน ท่นี ยิ มมากทสี่ ุดในสงิ คโปร คือเปนแบบนา้ํ ใส เผ็ดรอนดวยพริกไทยและกระเทยี ม
2 บะกตุ เต บะ-กุด-เต เปนภาษาจีนฮกเกีย้ น สามคาํ น้แี ปลวา เนื้อสตั ว กระดูก นาํ้ ชาหรือนา้ํ ตม สมนุ ไพรตามลําดับ ใชซ่โี ครงหมตู ดิ เนื้อ ตนุ ในนาํ้ ซุปท่เี ขมขน ดวยเครื่องเทศหลากชนิด ท้ัง อบเชย กานพลู พรกิ ไทยขาว เกาก้ี โปยก๊ัก กินกบั ขาวสวยรอ นๆ มีนํ้าจ้ิมซีอิว๊ ทแ่ี ตง แตม ดวยพรกิ แดงหน่ั ฝอยนา กิน บะกตุ เตตํารับชาวจนี แตจิว๋ ก็มี แตน้าํ ซปุ จะเขม ขนนอ ยกวา ไหหลํา ใสเครื่องนอยมเี พยี งกระทยี ม พริกไทยเมา น้าํ ซุบจึงใสกวา
3 ชาแควทาว คือกว ยเตีย๋ วผัดธรรมดาๆ วากนั วากอ นทีจ่ ะเปน ของข้นึ ช่อื ของสงิ คโปรท ่ตี อ งลิ้มลอง เม นูน้ีเปน ของกินในหมคู นยากคนจน ตอ มาเม่ือเปนจานเด็ดของคนมีฐานะกเ็ ติมเครอ่ื งเครา เขาไปมากมาย ชาแควทาวหรือกว ยเตีย๋ วผดั นี้ใชเ สนกวยเตีย๋ วแบนๆ ทีท่ าํ จากแปงขาวเจา ผัดกับกระเทยี มเจียว ใสก ุง กุนเชียง ปลาหมกึ ตไี ขลงไป แลวตามดว ยผกั กวางตงุ ปรุงรส ดว ยนํา้ ปลา ซอี วิ๊ หวาน เติมรสเผ็ดดว ยน้ําพรกิ แซมบอลทีค่ นสิงคโปรค นุ เคย ถาจะใหห อม ชวนกินกวานน้ั เติมนํ้าซุปจากอาหารทะเลลงไป
ยงโตวฝุ ตนตาํ รบั ของเย็นตาโฟ เดิมเปน อาหารของชาวจนี แคะ“ยงโตวฝ ุ” (Yong dou fu) หรือจนี กลางวา “เหนี่ยงโตว ฝุ” (Niang dou fu) อนั หมายถงึ เตาหยู ดั ไส เตาหยู ดั ไสของคนจีนแคะนั้นดัดแปลงไปทําอาหารไดหลายอยาง ทเ่ี ราคุนเคยกนั คอื “กว ยเตีย๋ วแคะ” ท่ีมี เตาหยู ดั ไสห มผู สมกบั เนื้อปลา คําวา “ยงโตวฝู” น้ใี ชเ รียกอาหารท่ที ําจากเตาหยู ัดไสอ ยางหนึ่ง โดยมีเตาหหู ลายๆ แบบ ท้ังเตาหูขาว เตาหทู อด หน่ั เปน สามเหลย่ี มหรอื สเี่ หลีย่ มเอามายดั ไสเนือ้ ปลาบดและหมสู ับเปนหลกั สวนเคร่อื งยัดไสของสิงคโปร นยิ มใชเน้อื ปลา อนิ ทรบี ดแบบเดียวกบั ลูกชิน้ ปลา ไมม หี มูสับหรือเครื่องอ่นื เครอื่ งน้ีนอกจากเอามายดั ในเตาหแู ลวยงั นํามายัดไสใ นผัก ดว ย เชน มะระ พรกิ ชีฟ้ า พริกหวาน กระเจีย๊ บมอญและมะเขือมวง เตา หูและผักยัดไสน้จี ะเอาไปนง่ึ ใหส กุ แลวทอดพอ ผวิ ตงึ กินกับนา้ํ จ้มิ เตาเจย้ี ว หรอื กินแบบนา้ํ เปน เกาเหลาหรือจะใสเ สน หม่ดี ว ยก็ได เมอ่ื ไดเตาหูและผักยัดไสแ ลว เครือ่ งประกอบอยา งอนื่ ก็มีลกู ชิน้ ปลา ฮอ่ื กวย ลูกชิ้นกุง ปอู ัด ฟองเตาหู นํ้าซุปน้ันจะใชน ํา้ สตอกไกห รอื ปลาก็ได ตกั เครอ่ื งและนาํ้ ซปุ รอนๆ ราด กินกับนํ้าจิ้มเตาเจี้ยว ซง่ึ ทําจากเตาเจ้ยี วบด กระเทียม หัวหอมแดง ขิง ซอสพริก และนํา้ มะนาว หรือกนิ กบั นํ้าจิ้มแดงที่ทําจากซอสมะเขือเทศ ซอสพริก กระเทียม นาํ้ มะนาว นาํ้ ตาล เกลือ แลว ใสแปง ขาวโพดเพ่ือใหขน
ชิล่แี ครบ ปผู ัดพรกิ “ชลิ แ่ี ครบ” (Chilli crab) ปูผัดพรกิ เปน อาหารท่ขี น้ึ ชอื่ อีกอยา งหน่ึงของสงิ คโปร ปูผดั พริกสิงคโปรจะใชปศู รลี ังกา ซอสผัดจะประกอบไปดวยซอสมะเขอื เทศ ซอสพรกิ ซอี ๊วิ ขาว น้าํ ตาล นาํ้ สม สายชู เกลอื น้ํามันงา โดยผสมเครอ่ื งปรงุ เหลาน้ีเขา ดวยกนั อกี สว นหนง่ึ คือเครื่องผัดอันประกอบไปดว ยกระเทยี ม หอมแดง ขงิ สบั หรือตํารอไว เมอื่ พรอ มแลว ก็ ตง้ั กระทะเหล็กใสน าํ้ มนั ใสป ูลงไปผดั ปด ฝาอบไวสักพกั ใหป ูสุก เม่ือกะดองปูเปลี่ยนเปนสแี ดงใหตักข้ึนมาพกั ไว ใน กระทะใบเดิมใสเ คร่อื งผัดท่เี ตรยี มไวลงไปผดั จนหอมจึงใสซ อสผัดลงไป เติมน้าํ สตอ กตม ใหเ ดอื ดและละลายแปง ขา วโพดใสลงไป นาํ ปูกลับลงไปผดั อกี รอบใหเขา กับซอส แลวตไี ขใสล งไปคนเรว็ ๆ ใหเขา กัน แลวตกั ใสจาน ปผู ัด พรกิ นจ้ี ะมีรสเค็ม หวาน เปรีย้ ว เผ็ด เรยี กวาครบรส มีนํ้าขน ๆ จ้ิมกับหมั่นโถวทอดหรือจะเอานํา้ มาราดขา วก็เขากันดี
อาหารอินเดยี เปนช่อื เรียกโดยรวมของอาหารในอนทุ วปี อนิ เดยี ซ่งึ มลี กั ษณะรวมกนั คือใชเครือ่ งเทศ สมนุ ไพรและผกั หรอื ผลไมม าก มีทง้ั พชื ผักทีป่ ลกู ในประเทศอนิ เดียและจากท่อี ่นื ๆ นยิ มกนิ อาหารมงั สวิรัติในสังคมชาวอนิ เดยี แตละ ครอบครวั จะเลือกสรรและพฒั นาเทคนคิ การทําอาหารทาํ ใหมคี วามแตกตา งกนั ไปในแตล ะภมู ิภาค สะทอนใหเห็นถึง ความหลากหลายทางดานประชากรในอนิ เดีย
ความเช่ือของชาวฮนิ ดแู ละวฒั นธรรมมบี ทบาทตอววิ ัฒนาการของอาหารอินเดยี . แตใ นภาพรวม อาหารทว่ั ประเทศ อนิ เดียพฒั นามาจากปฏิสมั พนั ธทางวัฒนธรรมทง้ั จากชาวมองโกลและยโุ รปทาํ ใหไดอาหารทีเ่ ปน เอกลักษณของตนเอง การคาเครอื่ งเทศระหวางอนิ เดียและยโุ รปเปนตวั เรงหลกั สาํ หรับการคนพบอินเดียของชาวยโุ รปยคุ อาณานิคมไดทําให เกดิ การผสมผสานระหวา งอาหารยุโรปกับอาหารอินเดยี เพิ่มความยืดหยุนทําใหเกิดความหลากหลายมากขน้ึ อาหาร อนิ เดียมอี ทิ ธพิ ลตอ อาหารท่ัวโลกโดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉยี งใตและหมูเกาะแคริบเบียนเครอื่ งปรุงทีโ่ ดเดน ของ อาหารอินเดยี ไดแก ขาว, อัตตะ (atta) (แปง สาลีโฮลวีท) และเมล็ดถั่วหลายชนิด ท่สี าํ คัญไดแก masoor (สวนใหญเปน เมด็ ถัว่ เลนทลิ สแี ดง) channa (ถว่ั เขียวเบงกอล) toor urad และถว่ั เขียว เมลด็ ถั่วอาจรับประทานท้ังเมด็ แบบเปนซีก หรือ ทําเปนแปง
แกงแบบอินเดียสว นใหญป รุงดว ยน้าํ มันพืช ในภาคเหนอื และตะวนั ตกของอินเดียนยิ มนํ้ามนั ถวั่ ลิสงสําหรับการทาํ อาหาร ในขณะทใ่ี นภาคตะวันออกของอนิ เดียมีการใชนํ้ามันมัสตารดมาก น้าํ มนั มะพรา วใชกันอยา งแพรหลายตามแนวชายฝง ตะวนั ตกโดยเฉพาะอยางยงิ่ ในรัฐเกรละ นํา้ มันงานิยมท่ัวไปในภาคใต ในปจจบุ นั นา้ํ มนั เมลด็ ทานตะวนั และนา้ํ มนั ถั่วเหลืองไดร บั ความนยิ มท่วั ไปในอนิ เดียเนยเทียมหรอื ท่เี รยี กวา ghee Vanaspati เปน ทนี่ ยิ มมากขนึ้ ฆีหรือแบบดง้ั เดมิ กําลังใชง านนอยลง เครอื่ งเทศท่สี าํ คญั และใชบ อ ยในอาหารอินเดียมีพริกขี้หนู เมลด็ มัสตารดสดี ํา (rai) ย่ีหรา (jeera) ขมน้ิ ชนั (haldi, manjal) เมล็ดฟน ูกรกี (methi) ขงิ (adrak, inji) ผักชี (dhania) และกระเทียม (lehsun,poondu) เคร่ืองเทศผสมทน่ี ยิ มคือ การัม มะสะลา garam masala ผงท่ีมักจะมเี คร่ืองเทศแหงหาอยา งหรอื มากกวา โดยเฉพาะ กระวาน อบเชย และกานพลู Goda masala เปนเคร่อื งเทศผสมท่คี ลา ยกันเปน ทน่ี ิยมในรฐั มหาราษฏระ ใบไมท ใี่ ชโดยท่วั ไปคอื ใบกระวาน ใบผกั ชี ใบ ฟน ูกรีก และใบสะระแหน พบในอาหารอนิ เดยี ใต อาหารหวานนิยมปรงุ รสดวยกระวาน, หญา ฝรัน่ ลูกจนั ทนเ ทศและกลิ่น กุหลาบ
อาหารในแตละทองถิน่ อินเดียเปนประเทศทม่ี คี วามหลากหลายทางวฒั นธรรมในแตละภมู ิภาค ซ่งึ มีอาหารจานพิเศษเปนเอกลักษณของตน เอง ความแตกตา งอาจจะมาจากวัฒนธรรมทองถน่ิ และภมู ิศาสตรวา อยใู กลกับทะเลทะเลทราย หรอื ภเู ขา รวมทง้ั สถานะ ทางเศรษฐกจิ อาหารอนิ เดียนย้ี ังข้ึนตามฤดกู าลอีกดว ยสาํ หรบั สวนผสมที่เปน ของสด โดยอนิ เดยี ทางตอนเหนอื จะนยิ มบริโภคโรตี อนิ เดยี ทางตอนใตจ ะนยิ มบรโิ ภคขาว โดยขาวท่ีนิยมกนั มากทีส่ ดุ ใน อินเดยี คือ ขา วบาสมาติ (basmati) ซึง่ เปน ขาวท่ีมีลักษณะเม็ดเรียวยาว
จาปาตี (Chapati) เปนแปงแผน แบนที่ทําจากขา วสาลี เปนอาหารหลกั ทีร่ ับประทานกบั กบั ขา วอื่นๆ ไมว าจะเปนแกงถว่ั แกงเผ็ด ผัดผัก คนทางเหนือของอนิ เดียนยิ มรับประทานกนั แตท างใตก ลับนิยมทานขา วเปน หลักมากกวา
ดาล (Dal) อาหารประเภทแกงหรอื ซปุ ทท่ี ําจากถว่ั ชนิดหนึ่ง มักจะตมใหเหลวๆ เละๆ แตม ี โปรตีนสงู เปนมอ้ื หลักประจําทกุ มื้อ ทานคกู บั จาปาตี และอาจมีผดั ผักรว มดว ยอีกอยาง
แกงเผด็ (Curries) แกงเผ็ดท่ัวไปท่ใี สม สั ซาลา มหี ลากหลายรปู แบบ มกั นิยมทานเปน อาหาร หลกั เกือบทกุ ม้อื มีทั้งมังสวริ ัติ และเตมิ เนอ้ื สตั วห ลากหลายอยาง
ซมั บาร (Sambar) เปนดาลประเภทหนงึ่ รบั ประทานกบั อดิ ลี หรือโดซา หรือรบั ประทานกับขาวเปนอาหารเท่ยี งหรืออาหารคํา่ ซมั บาร (Sambar) เปนดาลประเภทหน่ึงรับประทานกับอดิ ลี หรือโดซา หรือรบั ประทานกบั ขาวเปน อาหารเทย่ี งหรอื อาหารคํ่า
โดซา (Dosas) อาหารยอดนิยมของทางใตเชนกัน นิยมรับประทาน เปน อาหารเชา รูปรา งคลา ยแพนเค็กท่ีทําจากขา ว บางกส็ อดไส มนั ฝรั่ง
ราซัม (Rasam) เปนดาลประเภทหนึ่งนยิ มมากทางใต เปน ซุปท่คี อ นขางเคม็ เผ็ด แตอ รอ ย
อาหารอนิ เดีย มีสว นประกอบหลักๆคือใชเ ครอ่ื งเทศ สมนุ ไพร ผักและผลไมม าก มีทั้งพืชผักที่ ปลูกเองในประเทศอนิ เดีย และจากประเทศอื่นๆ ในสงั คมชาวอนิ เดียนิยมกนิ อาหารมงั สวริ ตั ิ เปน สว นใหญ แตละครอบครวั จะมกี ารเลอื กสรรและพฒั นาเทคนคิ การทาํ อาหาร ทําใหอาหาร มคี วามแตกตา งกันไปในแตล ะภูมภิ าค สะทอ นใหเหน็ ถงึ ความหลากหลายทางดานประชากร ในประเทศอนิ เดยี วิวฒั นาการของอาหารอนิ เดยี อาหารท่วั ของอนิ เดยี สวนใหญพัฒนามาจากการมปี ฏิสมั พัน ธทางวฒั นธรรม ทงั้ จากชาวมองโกลและยุโรป ทาํ ใหไ ดอาหารทเ่ี ปนเอกลกั ษณของตนเอง รวมถึงการคาขายเครือ่ งเทศระหวา งอินเดียกบั ยโุ รป นัน่ ก็เปน ตัวเรงหลกั ในการผสมผสาน ระหวา งอาหารยโุ รปกับอาหารอนิ เดยี เพม่ิ ความยืดหยุนทาํ ใหเ กดิ ความหลากหลายของ อาหารมากข้นึ ซึ่งอาหารอนิ เดียมีอทิ ธิพลตอ อาหารท่ัวโลก โดยเฉพาะเอเชยี ตะวันออกเฉียง ใตและหมูเกาะแคริบเบยี น
นางสาววรญั ญ หนงู ามแขม ปวส1/10 เลขท่ี5
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: