Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Flower1

Flower1

Published by nathee.nakub, 2018-12-15 11:30:05

Description: Flower1

Search

Read the Text Version

ราชพฤกษ์

ราชพฤกษ์ ราชพฤกษ์ หรือ คูน ลมแล้ง ชัยพฤกษ์ (ช่ือวิทยาศาสตร์: Cassiafistula) เป็นไม้ดอกในตระกูล Fabaceae เป็นพืชพ้ืนเมืองของเอเชียใ ต้ ตั้ ง แ ต่ ท า ง ต อ น ใ ต้ ข อ ง ป า กี ส ถ า น ไ ป จ น ถึ ง อิ น เ ดี ย ศ รีลังกา พม่า และ ไทย นอกจากน้ีดอกราชพฤกษ์ยังเป็นดอกไม้ประจาชาติไทยอกี ดว้ ย

ลักษณะ ราชพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูง 10-20 เมตร ดอกข้ึนเป็นช่อยาว 20-40 เซนติเมตร แต่ละดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-7เซนติเมตร มีกลีบดอกสีเหลืองขนาดเท่ากัน 5 กลีบ ผลยาว 30-62เซนติเมตร และกว้าง 1.5-2.5 เซนติเมตร มีกล่ินฉุน และมีเมล็ดท่ีมีพิษเปน็ จานวนมากเก่ียวกับชื่อ ช่ือของราชพฤกษ์นั้นมีการเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถ่ินซึง่ ส่วนใหญ่จะเรยี กราชพฤกษว์ ่า คนู เนอื่ งจากจางา่ ยกวา่ (แตม่ กั จะเขียนผิดเป็น คูณ) ทางภาคเหนือเรียกว่า ลมแล้ง ทางภาคใต้เรียกว่า ราชพฤกษ์ ลักเกลือ หรือ ลักเคย ชาวกะเหร่ียงและในกาญจนบุรีเรียกว่า กุเพย

ความเชื่อ ตน้ ราชพฤกษ์เป็นต้นไม้มงคลนิยมใช้ประกอบพธี ที ี่สาคญั เชน่ พธี ีเสาไมห้ ลกั เมือง เปน็ สว่ นประกอบในการทาคฑาจอมพล และ ยอดธงชยัเฉลมิ พลของกองทหาร ทาพิธีปลกู บ้าน ฯลฯคนไทยในสมยั โบราณเช่อื ว่า ควรปลกู ตน้ ราชพฤกษท์ างทิศตะวันตกเฉยี งใตข้ องทีอ่ ยูอ่ าศัย เพอื่ ให้ผู้ทอ่ี ยูอ่ าศยั ในบา้ นเรอื นมคี วามเจริญรุ่งเรืองเปน็ ทวคี ูณ ซง่ึ ความเปน็ จรงิ คอื ทิศดังกลา่ วจะไดร้ บั แดดจดัตลอดชว่ งบ่าย จึงควรปลกู ต้นไมใ้ หญเ่ พื่อให้ลดความรอ้ นและทาให้ประหยัดพลังงานมากขนึ้ [3] คนไทยในสมยั โบราณยงั มคี วามเชื่อว่าบา้ นใดปลูกตน้ ราชพฤกษ์ไว้ประจาบ้านจะช่วยให้มเี กียรตมิ ศี กั ดศ์ิ รี ด้วยคนไทยสว่ นใหญ่ยอมรบั ว่าต้นราชพฤกษ์เปน็ ตน้ ไมท้ ม่ี ีคุณค่าสงู และยังเป็นสัญลกั ษณป์ ระจาชาติไทยอีกด้วย นอกจากนม้ี ีความเช่ือว่า ใบของตน้ ราชพฤกษเ์ ป็นส่ิงศักดิ์สิทธิ์เพราะในพิธีทางไสยศาสตรใ์ หใ้ บทานา้ พทุ ธมนตส์ ะเดาะเคราะห์ได้ผลดีดงั น้นั จึงถือว่าตน้ ราชพฤกษเ์ ป็นไม้มงคลนาม

ปีป

ปีบ ปีบ (ชื่อวทิ ยาศาสตร์: Millingtonia hortensis) เป็นไมย้ นื ตน้สูงประมาณ 15 เมตร มีดอกรูปแตรสีขาวหอมอ่อน ๆ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับปีบยังมีชื่อพ้ืนเมืองอ่ืนอีกคือ เต็กตองโพ่ (กะเหรี่ยงกาญจนบุร)ี

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ดอกปีบ ปีบเป็นไม้ยืนต้นขนาดก ล า ง ถึ ง ข น า ด ใ ห ญ่ มี ค ว า มสูงประมาณ 10-20 เมตรผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มทรงกระบอก กิ่งก้านมักจะย้อยลง เปลือกสีน้าตาลแตกเป็นร่องลึกตามยาวลาต้นอ ย่า ง ไ ม่เ ป็น ร ะ เ บี ย บ ใ บประกอบแบบขนนก 2-3 ชั้นเรียงเวียน ช่อแขนงด้านข้างมี 3-5 คู่ ปลายค่ี เรียงตรงข้าม ใบย่อยแขนงละ 2-4 คู่เรียงตรงขา้ ม ใบรปู ไขห่ รอื รปูไข่แกมใบหอก กว้าง 2-3 ซม. ยาว 4-8 ซม. ปลายแหลม โคนใบมนขอบใบหยักมนหรือเวา้ เปน็ คล่นื เลก็ นอ้ ย ดอกมีสีขาวหรือชมพู มีกล่ินหอม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกซ้อนตามปลายก่ิง ช่อดอกขนาดใหญ่ ยาว 10-35 ซม. มีขน กลีบเล้ียงมีขนาดเล็ก โคนติดกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยก 5 แฉก ปลายมนกว้างม้วนลง เป็นหลอดยาวปลาย 4 แฉก มี 1 กลีบท่ีปลายเป็น 2 แฉก ดอกบานเต็มท่ีกว้าง 3.5-4 ซม. ผลแห้งแตก เป็นฝักแบนและตรง สีน้าตาล หัวท้ายแหลม กวา้ ง 1.5-2.3 ซม. ยาว 25-30 ซม. เมลด็ แบนมปี กี บาง

ประโยชน์ ดอกตากแห้งนามาม้วนเป็นบหุ รี่สูบ รกั ษารดิ สีดวงจมูก และมสี ารhispidulin มีฤทธใ์ิ นการขยายหลอดลมรักษาอาการหอบหืด[2] สารสกดัจากใบทส่ี กัดดว้ ยเอทานอลสามารถยับยงั้ การเจรญิ ของคะนา้ ได้

กล้วยไม้

กล้วยไม้ กลว้ ยไม้ หรอื เออื้ ง เปน็ พืชดอกทีม่ ีความหลากหลายมากทส่ี ุดกลุ่มหนึ่งโดยมปี ระมาณ 899 สกุล และมีประมาณ 27,000 ชนิดท่ีมีการยอมรับ[2][3]คิดเปน็ 6–11% ของพืชมีเมล็ด[4] มกี ารค้นพบราวๆ 800 ชนิดทุกๆปี มสี กุลใหญ่ๆคือ Bulbophyllum (2,000 ชนิด), Epidendrum (1,500 ชนิด),Dendrobium (1,400 ชนิด) และ En:Pleurothallis (1,000 ชนิด) สายพันธ์ุของกล้วยไม้ที่ขึ้นและเตบิ โตในป่าเรยี กว่า กลว้ ยไม้ปา่ กลว้ ยไม้จัดอยูใ่ นกลุ่มพชื ใบเล้ียงเด่ียว อยูใ่ นวงศก์ ล้วยไม้(En:Orchidaceae) สามารถแบ่งตามลักษณะการเติบโตได้ดังนี้ กล้วยไม้อากาศ (En:Epiphyte) คอื กล้วยไม้ท่เี กาะหรอื องิ อาศัยอยู่บนตน้ ไม้อ่นื โดยมรี ากเกาะอยูก่ บั กิง่ ไม้หรือลาตน้กลว้ ยไม้ดนิ (Terrestrial) คอื กลว้ ยไม้ทข่ี ้นึ อยู่ตามพน้ื ดนิ ท่ีปกคลมุ ด้วยอนิ ทรีย์วตั ถุ

ประวัติกล้วยไม้ กล้วยไม้เป็นพืชใบเลี้ยงเด่ียว ในวงศ์ Orchidaceae เป็นไม้ตัดดอกยอดนิยม เน่ืองจากมีลักษณะดอกและสีสันลวดลายสวยงาม เป็นไม้ตัดดอกท่ีมีอายุการใช้งานได้นาน กล้วยไม้เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสาคัญของไทย เพราะเป็นไม้ส่งออกขายต่างประเทศทารายได้เข้า ประเทศปีละหลายร้อยล้านบาท มีการปลูกเลี้ยงอย่างครบวงจร ต้ังแต่การผสมเกสรเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือ เลี้ยงลูกกล้วยไม้ เลี้ยงต้นกล้วยไม้จน กระท่ังให้ดอกตดั ดอกบรรจหุ ีบหอ่ และสง่ ออกเอง

อัญชัน

อัญชัน อญั ชนั (ช่ือวทิ ยาศาสตร์: Clitoria ternatea L.) เปน็ ไมเ้ ถา ลาต้นมีขนนมุ่ มีถนิ่ กาเนิดในอเมริกาใต้ ปลกู ไดท้ วั่ ไปในเขตร้อน มชี ่อื พ้ืนเมอื งอ่นือีกคือแดงชนั (เชยี งใหม่) และเอ้ืองชัน,เองชัญ (เหนือ) เม่อื ค้ันออกมาจะได้เป็นสฟี ้า

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ อัญชันเป็นไม้เล้ือยเน้ืออ่อน อายุสั้น ใช้ยอดเลื้อยพัน ลาต้นมีขนปกคลมุ ใบประกอบแบบขนนก เรียงตรงขา้ มยาว 6-12 เซนติเมตร มีใบยอ่ ยรูปไข่ 5-7 ใบ กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ผิวใบดา้ นลา่ งมขี นหนาปกคลมุ ดอกสขี าว ฟา้ และม่วง ดอกออกเดย่ี ว ๆ รปู ทรงคล้ายฝาหอยเชลล์ออกเป็นคู่ตามซอกใบ กลีบดอก 5 กลีบ ดอกบานเต็มที่ยาว 2.5-3.5เซนติเมตรกลีบคลุมรูปกลม ปลายเว้าเป็นแอ่ง ตรงกลางมีสีเหลือง มีท้ังดอกซ้อนและดอกลา ดอกช้ันเดียวกลีบขั้นนอกมีขนาดใหญ่กลางกลีบสีเหลือง ส่วนกลีบช้ันในขนาดเล็กแต่ดอกซ้อนกลีบดอกมีขนาดเทา่ กัน ซ้อนเวียนเป็นเกลียว[2] ออกดอกเกือบตลอดปี ผลแห้งแตก เป็นฝักแบนกว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 5-8 เซนติเมตร เมล็ดรูปไต สีดา มี 5-10เมลด็

สรรพคุณ ดอก ใช้ปลูกผมทาให้ผมดกดา เงางามมากขึ้น เพราะดอกอัญชันมีสารที “แอนโทไซยานิน” (Anthocyanin) ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหติ ทาให้เลือดไปเล้ยี งสว่ นตา่ งๆ ได้ดีมากข้ึน ดอก นามาคั้นนาใชห้ ุงขา้ วไดด้ ้วย ชว่ ยใหข้ ้าวที่หงุ มสี ีสนั ทสี่ วยงาม เมลด็ เป็นยาระบาย[4] ราก บารุงตาแก้ตาฟาง ถูฟันแก้ปวดฟัน ตาแฉะ และปรุงเป็นยาขับปสั สาวะ นารากมาถกู ับน้าฝนใชห้ ยอดหูและหยอดตา[5] นาไปวดั ค่าความเป็นกรดเนือ่ งจากดอกอัญชนั มสี ารแอนโทไซยานนิ

ลั่นทม ลั่นทม หรือ ลีลาวดี เป็นไม้ดอกยืนต้นในวงศ์ตีนเป็ด หรือ วงศ์ไม้ลั่นทม(Plumeria) มีหลายชนิดด้วยกัน บางคนมีความเชื่อว่า ไม่ควรปลูกต้นลั่นทมในบ้านเพราะมีความเชื่อว่า เน่ืองจากมีชื่อเป็นอัปมงคล คือไปพ้องกับคาว่า 'ระทม'ซ่ึงแปลว่า เศร้าโศก ทุกข์ใจ นิยมปลูกกันแพร่หลายอย่างมาก ช่ือพ้ืนเมืองอ่ืน ๆได้แก่ จาปา, จาปาลาว และจาปาขอม เป็นต้น (สาหรับชื่อภาษาอังกฤษ ได้แก่Frangipani, Plumeria, Temple Tree, Graveyard Tree) ต้นลีลาวดีเป็นพืชนิยมปลูกเพราะดอกมีสีสันหลากหลาย สวยงาม ได้แก่ขาว เหลืองอ่อน แดง ชมพู สีขาวขุ่น ฯลฯ บางดอกมีมากกว่า 1 สี อาจมีมากถงึ หลายสีในดอกเดียว ดอกลีลาวดียังเป็นดอกไม้ประจาชาติของประเทศลาว โดยเรียกว่า \"ดอกจาปา\" และพบได้มากบริเวณทางข้ึนพระธาตุที่เมืองหลวงพระบาง สาหรับในประเทศไทยน้นั มกั พบต้นลัน่ ทมตามธรรมชาติทางภาคเหนือเปน็ ส่วนใหญ่

ชื่อพ้ืนเมือง รู้จกั กันอย่างแพรห่ ลายในปัจจุบันในช่อื ลลี าวดี, โดยบางแหลง่ งดใช้ชื่อ ล่ันทม ตามความเชื่อ, บางแหล่งรู้จักกันในชื่อ จาปา เน่ืองจากเป็นดอกไม้ประจาชาติของลาวและประเทศไทยมีดินแดนติดกับลาว, หรือรู้จักในชอื่ จาปาลาว และจาปาขอม ซ่ึงช่ือที่ใชใ้ นปจั จุบนั และรู้จักกนั ทั่วไปจะอยู่ลาดบั แรกสดุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook