วิจยั ในชั้นเรยี น เรื่อง การพฒั นาทักษะการคดิ วเิ คราะห์ โดยใช้สถานการณ์จำลอง ของนักเรียน ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 โดย นางอมลสริ ิ คำฟู ครผู ู้ชว่ ย โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31อำเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชียงใหม่ สงั กัดสำนกั บรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ
บทที่ 1 ความเปน็ มาและความสำคัญของปญั หา ปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกท้ังยัง เปน็ ยคุ ข้อมลู ขา่ วสาร ดงั นั้น การเรียนรจู้ งึ เกดิ ขนึ้ ได้ตลอดเวลา ทั้งทางดี และทางไมด่ ีการเรียนรู้ทางดีกอ่ ใหเ้ กิด ประโยชน์ แต่การเรียนรู้ท่ีไม่ดีทำให้เกิดโทษเป็นภัยต่อตนเอง ชุมชน และสังคม จากความเจริญก้าวหน้าท่ี เป็นไปอย่างรวดเร็ว พบว่าเยาวชนของประเทศที่เติบโต และเป็นกำลังสำคัญต่อไปภายภาคหน้ากำลังเผชิญ ปัญหาความยุ่งยากซับซ้อน สับสน คิดไม่เป็น ทำไม่ได้ แก้ปัญหาไม่ถูกวิธี และไม่มีวิธีการในการคิดวิเคราะห์ สถานการณ์ต่างๆ ในชวี ิตประจำวนั เพ่อื ให้เกิดประโยชนใ์ นการดำเนนิ ชวี ติ ในแต่ละวนั จึงทำให้เกิดปญั หาตา่ งๆตามมาเช่น การคิดไม่เปน็ แกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ไม่ได้ วเิ คราะห์สถานการณ์ไม่ ออก การเอาตวั รอดจากสถานการณ์ต่างๆ ก่อให้เกดิ ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด จงึ เปน็ ประเดน็ ท่ีสำคัญ อย่างยิ่ง ที่จะต้องเรง่ สร้างสมรรถนะการคิดวเิ คราะหข์ องประชากรของประเทศให้มคี ุณภาพ โดยเฉพาะอยา่ ง ย่ิงเยาวชนของชาติ ซง่ึ เป็นกำลังสำคญั ในการนำพาประเทศให้อยู่ในสงั คม โลกได้อยา่ งภาคภูมิและสมศกั ด์ิศรี (สุปราณี,2547:บทนำ)ดังนั้นทกั ษะการคิดจึงเปน็ ลกั ษณะพเิ ศษทสี่ ำคญั ของการกำจดั ปัญหา โดยเฉพาะอยา่ ง ยิ่งในระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐานเพราะการคิดเป็นกลไกลสำคญั ท่ใี ช้ในการเรียนรชู้ ว่ ยในการแยกแยะส่งิ ดีและ ไม่ดี จากสถานการณต์ า่ งๆ ที่สามารถพบไดใ้ นชีวติ ประจำวนั ชว่ ยให้บุคคลสามารถดำรงชีวติ อยไู่ ดอ้ ย่างปกติ สุข(กองการวจิ ัยทางการศึกษา,2542:บทนำ) จากแนวคดิ ดงั กลา่ วขา้ งตน้ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้จงึ เป็นเร่อื งท่ีสำคัญท่สี ่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ให้มที กั ษะในการคดิ โดยเฉพาะการคดิ วเิ คราะห์ ซ่ึงประกอบไปดว้ ยการจำแนก การเปรียบเทยี บ การจัด หมวดหมู่ การประเมินคา่ การตัดสินใจ และอธิบายสาเหตุการตดั สินใจชว่ ยให้ผู้เรยี นแยกแยะข้อมูลท่ีมี ประโยชน์และไม่มปี ระโยชน์ ประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู ท่ีผา่ นเข้ามาในชีวิตประจำวันได้ (กระทรวงศกึ ษาธกิ าร,2546:10) จากการประเมินทักษะการคดิ วเิ คราะห์ของนักเรยี นในรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ปี การศกึ ษาท่ผี า่ นมา พบวา่ นกั เรยี นมีทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์อยู่ในระดับพอใช้ ซ่ึงนกั เรียนไม่สามารถนำความรู้ ไปประยุคใชเ้ พ่ือแกป้ ัญหาจากสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ครผู ู้สอนจึงมีความสนใจทีจ่ ะพฒั นากจิ กรรมการเรียนรู้ ของนักเรยี นโดยสร้างสถานการณ์จำลองใหน้ ักเรียนแก้ปัญหา โดยใชท้ ักษะการคิดวเิ คราะหแ์ ละสร้างพน้ื ฐาน สำหรบั การคดิ ในระดับที่สูงขึ้นไป จุดประสงค์ 1. เพือ่ ศึกษาทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 รายวิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้ สถานการณ์จำลอง 2. เปรียบเทยี บ ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ของนักเรียน ชัน้ ป.4 กอ่ น และหลงั ใชส้ ถานการ จำลอง 3. เพื่อพัฒนาทกั ษะการคิดวิเคราะห์รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4
ขอบเขตงานวจิ ยั ในการศึกษาวิจยั ในครง้ั นี้เป็นการเพ่ิมทกั ษะการคิดวเิ คราะหใ์ หน้ ักเรียนโดยใชส้ ถานการจำลอง ซ่งึ กล่มุ ตัวอย่างทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา คอื นักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จำนวน12 คน ประโยชน์ 1. ได้เพม่ิ พนู ทักษะการคิดวิเคราะห์ใหน้ กั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ โดยใช้ สถานการณจ์ ำลอง 2. นักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 12 คนมีพัฒนาการดา้ นทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ทีด่ ีขน้ึ ประชากรและตัวอย่าง ประชากร นกั เรยี นระดบั ประถมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จำนวน 77 คน กลุ่มตวั อยา่ ง นักเรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 12 คน เครอ่ื งมอื ที่ใช้ 1. แบบวดั ผลกอ่ นเรียน 2. แบบวัดผลหลังเรยี น 3. แบบสังเกตพฤตกิ รรม การวิเคราะหข์ ้อมลู การหาค่าเฉลีย่ (X)
บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ัยที่เก่ียวขอ้ ง การวจิ ยั เรื่องการพฒั นาทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ โดยใชส้ ถานการณจ์ ำลอง ของนกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปี ท่ี 4 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 วธิ ีสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง 1. วิธีสอนโดยการใชส้ ถานการณ์ จำลอง (Simulation ) วธิ ีการสอน เป็นขนั้ ตอนทผ่ี ู้สอนดำเนนิ การเพอื่ ให้ผูเ้ รยี นได้เกิดการเรียนร้ตู าม วัตถปุ ระสงค์ทกี่ ำหนด ไว้ วธิ ีสอนโดยการใช้สถานการณ์ จำลอง (Simulation) หมายถงึ การสรา้ งสถานการณ์ขนึ้ มาใหใ้ กลเ้ คียงกบั สภาพความเปน็ จริง ที่ผ้เู รียน อาจประสบในภายหลงั การเรียนดว้ ยสถานการณจ์ าลองนี้จะชว่ ยให้เกดิ การถ่าย โยงความร้ทู ่ีดีและไดผ้ ลมากท่ีสดุ ผเู้ รยี นจะไดค้ ดิ แกป้ ัญหาจากสถานการณจ์ าลองทำให้เกดิ การเรียนรู้ และ สามารถนาไปใชแ้ ก้ปัญหาในชวี ติ จริงได้การใช้ สถานการณ์จาลองได้ใช้มานานแลว้ ในวงการณท์ หารและ วทิ ยาศาสตรด์ ังตวั อยา่ งสถานการณจ์ าลองทม่ี ี ช่อื เสยี งมาก ไดแ้ ก่การฝึก“The Link Trainer” เพอื่ ฝึกบินใน สงครามโลกครงั้ ที่ 2 การฝึก นักบนิ อวกาศในสภาพแวดล้อมท่เี สมือนกับอยใู่ นยานอวกาศและบนดวงจนั ทร์ ก็ เป็นสถานการณจ์ ำลองที่ ได้ผลเป็นอยา่ งยง่ิ ในโรงเรียนมธั ยมศกึ ษาในสหรัฐอเมริกาก็จดั การสอนขบั รถยนต์ โดยการสร้างสถานการณ์ จำลองขน้ึ เพ่ือช่วยใหน้ กั เรียนเป็นจำนวนมากสามารถเรียนขับรถในชั้นเรียนได้ (สจุ ริต เพียรชอบ 2531: 251) วธิ ีสอนโดยการใช้สถานการณ์ จำลอง (Simulation) สถานการณจ์ ำลองมี เง่อื นไขท่ีจำเป็น 2 ประการ คือ 1.1. ผเู้ รยี นถกู มอบหมายใหแ้ สดงบทบาทเฉพาะเจาะจง แสดงภายใต้สถานการณ์ที่ไดว้ างรูปแบบ หรือ กติกาไว้อยา่ งดี 1.2. ผเู้ รียนจะต้องเผชิญหน้ากบั สภาพจาลองของชวี ติ จรงิ ซึ่งจะต้องแสดงปฏิกริ ิยาตอบโต้อย่างจริงใจ จงึ กลา่ วได้ว่าการสร้างสถานการณ์จาลองท่ีเน้นกระบวนการและบรรยากาศ ทั้งหมดของการแสดง เน้นการ จำลองสถานการณจ์ ริงมาไว้ในห้องเรียน แต่บทบาทสมมุติ นัน้ เนน้ ที่การแสดงออกและความรสู้ กึ ของผู้แสดง แตล่ ะคน 2. ความมุ่งหมาย 2.1 เพ่ือฝกึ การคดิ วิจยั แกป้ ัญหา การควบคมุ สถานการณ์ การตัดสนิ ใจในสถานการณ์ ทผ่ี ูเ้ รยี นอาจ ได้พบในชีวติ จริง 2.2 เพอ่ื ฝึกการทำงานกลมุ่ การสรา้ งความสัมพันธ์กบั สมาชกิ กลมุ่ การยอมรบั ความคิดเหน็ ของ ผอู้ น่ื การมวี ินยั ในตัวเอง ฯลฯ 2.3 เพ่อื ฝกึ ความกล้าของผู้เรยี นให้กลา้ คิด กล้าทำ กลา้ แสดงออก เพ่ือนำไปสกู่ ารตัดสินใจท่ีดีใน การ แก้ปญั หาในสถานการณ์จำลองนนั้
3. ข้นั การสอน กำหนดโครงสรา้ งของสถานการณ์จำลองซึ่งประกอบดว้ ยส่ิงตอ่ ไปน้ี 1) กำหนดจุดประสงค์ของสถานการณ์จำลอง 2) กำหนดบทบาทของผู้ร่วมกจิ กรรมแต่ละคน 3) เตรยี มขอ้ มลู ข่าวสารทีจ่ าเปน็ และเน้ือหา 4) กำหนดสถานการณต์ า่ งๆ ใหเ้ ห็นเหมอื นจรงิ ในสังคม 5) ลำดบั ข้ันเหตุการณ์ เวลา และปญั หาจากสถานการณ์ 6) จบสถานการณ์สรปุ อภิปราย ขอ้ ดีและข้อจำกัดของการสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง 1. ชว่ ยให้ผู้เรยี นได้มองเห็นสถานการณด์ ว้ ยตนเอง บางสถานการณ์ที่เปน็ นามธรรมกส็ ามารถ เข้าใจและทำใหเ้ ป็นจริงขนึ้ มาได้ 2. ชว่ ยใหผ้ ู้เรียนตื่นตวั กระตือรอื ร้น ให้ความร่วมมือและกลา้ แสดงความคิดเหน็ 3. ชว่ ยใหเ้ กิดความร่วมมือโดยไม่คิดถงึ การแข่งขัน 4. ชว่ ยให้ผู้เรยี นไดฝ้ ึกการแก้ปัญหา แมจ้ ะผดิ พลาดก็ไม่ทำให้เกิดผลเสียหายข้ึน ข้อดี ความหมาย นกั วิชาการหลายท่านไดใ้ ห้ความหมายของวธิ ีสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง ไว้คลา้ ยคลึงกันดงั น้ี ทิศนา แขมมณี (2550 : 370) กลา่ ววา่ วธิ สี อนโดยใชส้ ถานการณ์จำลอง คือกระบวนการท่ีผู้สอนใช้ ในการช่วยให้ผู้เรยี นเกิดการเรียนรู้ตามวตั ถปุ ระสงค์ที่กำหนด โดยใหผ้ ู้เรยี นลงไปเล่นในสถานการณ์ท่ีมบี ทบาท ขอ้ มูล และกติกาการเลน่ ทส่ี ะท้อนความเปน็ จริง และมีปฏิสมั พันธก์ บั สิ่งต่างๆ ทีอ่ ยู่ในสถานการณน์ ้ัน โดยใช้ ข้อมลู ที่มสี ภาพคลา้ ยกบั ข้อมูลในความเป็นจริง ในการตดั สินใจและแกป้ ญั หาตา่ งๆ ซ่ึงการตดั สนิ ใจนนั้ จะสง่ ผล ถึงผูเ้ ลน่ ในลักษณะเดยี วกนั กับท่ีเกดิ ขึ้นในสถานการณจ์ รงิ เสรมิ ศรี ลักษณศิริ (2540 : 370) อธิบายว่า การใช้ สถานการณจ์ ำลอง เปน็ วธิ สี อนที่ผู้สอนสร้างสถานการณ์ทเ่ี ปน็ ปญั หา เพือ่ ฝึกใหผ้ เู้ รียนตัดสนิ ในแก้ปัญหาโดยใช้ ความคิดอยา่ งอสิ ระ และมสี ่วนรว่ มหรือบทบาทในสถานการณน์ ัน้ ๆ ราวกบั เป็นส่ิงท่เี กดิ ขึ้นกับตัวเขาเอง ซ่งึ นบั ว่าเปน็ วิธีสอนท่ผี ู้เรยี นได้มีสว่ นรว่ มในการเรียนการสอนเปน็ อยา่ งมาก ระววี รรณ วฒุ ปิ ระสทิ ธิ์ (2530 : 76) กลา่ ววา่ การสร้างสถานการณ์จำลอง คือ การจัดสภาพแวดลอ้ ม เลยี นแบบของจริง ให้ใกล้เคยี งสภาพความเปน็ จริงมากท่ีสดุ และให้ผู้เรียนไดฝ้ ึกการคิดแก้ปญั หาและตดั สินใจ จากสภาพการณ์ท่ีเขากำลงั เผชญิ อยนู่ น้ั ไสว ฟกั ขาว (2544 : 122) กลา่ ววา่ วิธสี อนโดยใช้สถานการณ์จำลองเปน็ การจัดการเรยี นการสอนที่ พยายามให้ผ้เู รียนได้เรียนรูจ้ ากสถานการณท์ ี่มีความใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด โดยการสร้างสถานการณ์ จำลองข้นึ ในห้องเรยี นแลว้ ให้ผเู้ รยี นแสดงบทบาทของตนเองตามสถานการณน์ ้ันๆ จากความหมายของการสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลองทง้ั หมดท่นี กั วชิ าการได้กลา่ วมา สรปุ ไดว้ ่า การ สอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง หมายถงึ กระบวนการทผี่ สู้ อนใช้ชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การเรยี นรู้ตามวัตถุประสงค์ที่ กำหนด โดยผูส้ อนจดั สถานการณข์ ึน้ เลยี นแบบของจรงิ โดยกระตุน้ ให้ผเู้ รยี นไดเ้ รียนรโู้ ดยการแกป้ ัญหา ไดใ้ ช้ ทักษะกระบวนการคดิ และการตัดสินใจจากสถานการณน์ ัน้ ๆ โดยใหผ้ เู้ รียนมสี ว่ นรว่ มในบทบาทหรอื ใน สถานการณน์ ้นั ๆ ใหม้ ากทส่ี ดุ
ความมุ่งหมายของวิธีสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง สถานการณ์จำลองเปน็ เหตกุ ารณท์ ่ีถกู สรา้ งข้ึนมาเพือ่ เลียนแบบสถานการณ์จรงิ ทั้งนเี้ พือ่ ให้ผเู้ รียนได้ ฝกึ ฝนใหเ้ กดิ ความรู้และทักษะท่เี กิดจากการได้ปฏิบตั หิ รือเผชิญในสถานการณจ์ ำลองน้ันๆ ดังรายละเอยี ดท่ี นักการศึกษาท่านให้ขอ้ คิดเห็นไว้ ดังนี้ ชาญชัย ยมดิษฐ์ (2548 : 223-224) ได้กล่าวถงึ ความมุ่งหมายของการใชว้ ิธีสอนนี้คือ มุง่ ฝกึ ใหผ้ ้เู รยี นรูจ้ ัก การใช้ทักษะต่างๆ ท่ีได้เรียนภาคทฤษฎีไปแล้วกอ่ นเข้าสู่สถานการณ์จริง เพราะในสถานการณจ์ รงิ อาจมปี ัญหา ดา้ นผลกระทบต่อชีวิตและทรพั ย์สินในกรณีทเ่ี กิดผิดพลาด นอกจากนย้ี งั เปน็ การฝกึ การตัดสินใจแก้ปญั หา ตา่ งๆ ทเ่ี กิดจากสถานการณ์ การกล้าแสดงออกอันจะเปน็ การเตรยี มพร้อมสำหรบั การเข้าส่สู ถานการณ์จริง ตอ่ ไป ทิศนา แขมมณี (2550 : 370) กลา่ ววา่ วิธสี อนโดยใช้สถานการณ์จำลอง เป็นวิธีการท่มี งุ่ ช่วยให้ผเู้ รียน ไดเ้ รยี นรูส้ ภาพความเป็นจรงิ และเกิดความเข้าใจในสถานการณ์หรือเรื่องทม่ี ีตวั แปรจำนวนมากทีมี ความสมั พันธก์ ันอย่างซับซอ้ น เสรมิ ศรี ลักษณศิริ (2540 : 271) กลา่ วว่า การสอนแบบสถานการณ์จำลอง มีจุดมุ่งหมาย คือ 1. เพ่ือให้ผเู้ รียนไดพ้ บและร้จู ักแกป้ ัญหาในปจั จบุ ันและที่อาจเกิดขน้ึ ในอนาคตได้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 2. เพ่ือให้ผู้เรียนรู้จกั หดั คดิ สามารถนำเหตุผลมาอภปิ ราย เพ่ือใชป้ ระกอบการตดั สนิ แก้ปัญหา 3. เพ่ือให้ผูเ้ รยี นไดพ้ ัฒนาในการทำงานเปน็ กลุ่ม รจู้ กั วพิ ากษ์วิจารณ์ อดทนต่อการถูกวิจารณ์ มี วนิ ัยในตนเอง ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน สำนกึ ในสทิ ธขิ องตนเองและผู้อื่น 4. เพ่ือเปน็ การเปลยี่ นกิจกรรมการสอนจากการสอนจากการยึดผูส้ อนเปน็ ศูนยก์ ลางมาเป็นการ สอนที่ยึดผู้เรยี นเป็นศูนย์กลาง และ อนิ ทริ า บุณยาทร (2542 : 102) อธิบายวา่ ความมุ่งหมายของการสอน โดยใช้สถานการณจ์ ำลอง ประกอบด้วย 1. เพ่ือฝกึ การคิดวนิ ิจฉัยแก้ปญั หา การควบคมุ สถานการณ์ การตดั สินใจในสถาน การณ์ท่ีผเู้ รียนอาจต้องพบในชวี ติ จรงิ 2. เพ่ือฝกึ การทำงานเปน็ กลมุ่ สรา้ งความสัมพันธก์ ับสมาชิกในกลุ่ม การยอมรบั ความคดิ เห็นของ ผู้อื่น การมวี นิ ยั ในตนเอง 3. เพ่อื ฝกึ ความกล้าของผ้เู รียน ให้กล้าคิด กลา้ ทำ กลา้ แสดงออก เพ่ือนำไปสกู่ ารตดั สินใจที่ดใี น การแก้ปัญหาตอ่ ไปในอนาคต สรปุ ไดว้ ่า การสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง เปน็ การสอนที่มงุ่ ใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รยี นรจู้ ากสภาพคล้าย ความเป็นจริง มจี ดุ มุ่งหมายที่สำคญั ดงั น้ี คือ 1. ให้ผู้เรียนรจู้ ักการใช้ทกั ษะต่างๆ ท่ีไดเ้ รยี นภาคทฤษฎีไปแล้วก่อนเขา้ สูส่ ถานการณ์จริง 2. ม่งุ ฝกึ การคิดวนิ ิจฉยั แกป้ ัญหา การควบคุมสถานการณ์ การตัดสนิ ใจในสถานการณ์ท่ีผู้เรยี นอาจ ต้องพบในชวี ิตจริง 3. มุ่งฝกึ การใช้ทักษะด้านต่างๆ ท่ีสำคญั เชน่ กระบวนการคิด การมีสว่ นรว่ มในการเรียน เป็นต้น 4. มุง่ ใหผ้ ูเ้ รียนเรยี นรู้จากสถานการณค์ ล้ายความเปน็ จริง 5. ม่งุ ใหผ้ เู้ รยี นได้พบและรูจ้ ักแก้ปญั หาในปัจจุบนั และที่อาจเกิดข้ึนในอนาคตได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ
6. มงุ่ ใหผ้ ้เู รียนคิดแกป้ ญั หาทีเ่ กิดขนึ้ ได้ กลา้ คิดกล้าทำมากย่งิ ข้ึน และเตรียมความพร้อมสำหรบั การเขา้ ส่สู ถานการณจ์ ริง 7. มุ่งให้ผูเ้ รยี นรจู้ กั ทำงานเป็นกล่มุ ยอมรบั การวิพากษ์วิจารณ์ และฝึกความอดทน องคป์ ระกอบสำคัญของวธิ ีสอนโดยใชส้ ถานการณ์จำลอง ทิศนา แขมมณี (2550:370) กล่าวถงึ การสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง มีองคป์ ระกอบที่สำคญั ดังน้ี 1. มีผสู้ อนและผ้เู รียน 2. มีสถานการณ์ ข้อมลู บทบาทและกติกา ท่สี ะท้อนความเปน็ จรงิ 3. ผู้เล่นในสถานการณ์มีปฏสิ มั พันธก์ ันหรือมีปฏสิ มั พันธก์ บั ปจั จัยตา่ งๆ ในสถานการณ์นัน้ 4. ผ้เู ล่นหรือผู้สวมบทบาทมีการใช้ขอ้ มูลท่ใี ห้ในการตัดสินใจ 5. การตัดสินใจสง่ ผลตอ่ ผูเ้ ลน่ ในลกั ษณะเดียวกนั กบั ทเ่ี กดิ ข้ึนในสถานการณ์จรงิ 6. มีการอภิปรายเกยี่ วกบั สถานการณ์ ข้อมูล และกตกิ าของสถานการณ์ วธิ กี ารเลน่ พฤติกรรม การเลน่ และผลการเลน่ เพื่อการเรียนรู้ 7. มีผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น กระบวนการในการสรา้ งสถานการณจ์ ำลอง ไสว ฟกั ขาว (2544 : 122) กล่าวถงึ กระบวนการสรา้ งสถานการณ์จำลอง จะตอ้ งประกอบไปดว้ ย 1. กำหนดวตั ถุประสงค์ของการเรยี นรู้ 2. คดั เลือกสถานการณ์ทจ่ี ะนำมาใช้ในกิจกรรมการเรียน 3. กำหนดโครงสร้างของสถานการณซ์ งึ่ ประกอบดว้ ย · - การจดั สถานการณใ์ ห้เหมือนจรงิ · - บทบาทของผู้รว่ มกิจกรรม · - ลำดบั ขนั้ ตอนของสถานการณแ์ ละปญั หาจากสถานการณ์ · - การอภปิ รายและสรปุ หลังการใชส้ ถานการณจ์ ำลอง นอกจากน้ี วิธกี ารเสนอสถานการณจ์ ำลอง การเสนอสถานการณจ์ ำลองอาจทำได้ดังต่อไปนี้ (เสรมิ ศรี ลักษณศริ ,ิ 2540 : 272) 1. เล่าให้ฟังถงึ สถานการณ์ที่เกดิ ขน้ึ 2. ให้ดูวดี โี อหรอื ภาพยนตรเ์ ก่ียวกบั สถานการณท์ ีเ่ กดิ ขึ้น 3. ใหด้ ภู าพซ่ึงลำดบั ตามเหตุการณ์หรือดูภาพแล้วเล่าประกอบ 4. ใหด้ จู ากสถานทท่ี ต่ี กแต่งใหเ้ หมือนสถานท่ีจรงิ และมผี แู้ สดงบทบาทด้วย 5. ให้ดจู ากเกมจำลองสถานการณ์หรือให้ดจู ากการแสดงบทบาทสมมตุ หิ รือจากการแสดงนาฏการ ขั้นตอนของวธิ สี อนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง ทศิ นา แขมมณี (2550 : 371-372) ได้แนะนำไวว้ า่ ขน้ั ตอนของวิธีสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง มี 1) การเตรยี มการ 2) การนำเสนอสถานการณจ์ ำลอง 3) การเลอื กบทบาท 4) การเล่นในสถานการณ์ จำลอง และ5) การอภปิ ราย
ไสว ฟกั ขาว(2544 : 122) ได้เสนอขั้นตอนการสอนโดยใชส้ ถานการณจ์ ำลอง ไว้4ขนั้ ตอน ดังนี้ คือ ขัน้ ท่ี 1 : ขัน้ ปฐมนเิ ทศ ขั้นที่ 2 : ขั้นแสดงบทบาทตามสถานการณ์ ข้นั ที่ 3 : ขน้ั อภิปราย ขน้ั ที่ 4 : ข้ันสรปุ และประเมินผล ชาญชยั ยมดิษฐ์ (2548 : 224) กล่าววา่ ข้ันตอนการสอนโดยใชส้ ถานการณ์จำลอง มี 3 ข้นั ตอน ดงั นี้ 1. ขน้ั เตรียม 2. ขัน้ สอน 3. ข้นั สรปุ อภิปรายผล อินทิรา บณุ ยาทร (2542 : 102-103) กล่าวว่า ขนั้ ตอนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง ต้อง ประกอบไปดว้ ย 3 ขน้ั ตอน ดังน้ี 1. ขน้ั เตรยี มการสอน 1.1 กำหนดจดุ ประสงค์ 1.2 กำหนดสถานการณ์จำลอง 2. ขนั้ ตอนดำเนนิ การสอน 1.1 ผูส้ อนเสนอสถานการณจ์ ำลองโดยอาจใช้วิธีตอ่ ไปนี้ 1.2 ผู้เรยี นศกึ ษาปญั หาและหาแนวทางทจี่ ะแก้ปัญหา อาจแบ่งเป็นกล่มุ ย่อยร่วมกนั แสดง ความคิดเห็น 1.3 ผูเ้ รยี นเสนอแนวทางแก้ปัญหา 3. ขนั้ ตอนอภิปรายและสรุปผล เสริมศรี ลกั ษณศิริ (2540 : 271) อธิบายขัน้ ตอนของการสอนแบบใชส้ ถานการณ์จำลอง จะต้อง ประกอบไปด้วย 1. ข้นั นำ 2. ขน้ั การเข้าร่วม 3. ขน้ั แสดง 4. ขน้ั อภิปราย 5. ขัน้ สรุปและประเมินผล จากทน่ี กั วิชาการไดก้ ำหนดขนั้ ตอนของวิธสี อนโดยใชส้ ถานการณจ์ ำลอง สรปุ ไดว้ ่ามขี ้ันตอนที่ สำคัญ คอื ข้นั เตรียมการสอน โดยผู้สอนกำหนดวัตถุประสงค์ กำหนดสถานการณ์ เตรียมอุปกรณส์ ำหรบั ผเู้ รียน รวมถงึ กำหนดกฎเกณฑแ์ ละกติกาใหพ้ ร้อม ขน้ั ดำเนินการสอน เปน็ ข้นั ที่ผ้สู อนเริ่มเสนอสถานการณ์ ใหก้ บั ผู้เรยี น โดยผสู้ อนจะต้องใหค้ ำแนะนำแกผ่ ูเ้ รียนให้เข้าใจถงึ สถานการณต์ า่ งๆ ได้มากท่ีสุดและขน้ั อภปิ ราย และสรปุ ผล ผ้เู รยี นและผสู้ อนรว่ มกนั สรุปและอภปิ รายบทเรียน หลังจากจบการจำลองสถานการณ์ 1. ขน้ั เตรยี มการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง มีนกั วิชาการได้ กลา่ วถึง ข้ันเตรยี มการสอนโดยใช้ สถานการณ์จำลองไว้คล้ายคลึงกนั ดงั นี้ ทศิ นา แขมมณี (2550 : 371-372) กล่าวว่า การเตรยี มการ ผู้สอนเตรียมสถานการณ์จำลองที่ จะใช้สอน โดยอาจสร้างขนึ้ เองเพ่ือใหส้ อดคล้องกับวัตถปุ ระสงคโ์ ดยตรง ซง่ึ ถ้าจะสรา้ งขน้ึ เอง ผสู้ รา้ งจะต้องมี
ความรู้ความเข้าใจในการสร้าง รวมทงั้ มปี ระสบการณ์ในสถานการณ์น้ันในความเปน็ จริงหรอื ผู้สอนอาจเลือก สถานการณจ์ ำลองที่มผี ู้สรา้ งไว้แลว้ หากตรงกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการสถานการณ์จำลองทว่ี างจำหน่ายมี จำนวนไม่น้อย ผสู้ อนสามารถศกึ ษาได้จากรายการและคำอธิบายซ่ึงจะบอกวัตถปุ ระสงค์และลักษณะของ สถานการณ์จำลองไว้ สถานการณจ์ ำลองโดยท่วั ไปมอี ยู่ 2 ลักษณะ คอื เปน็ สถานการณ์จำลองแท้ กบั สถานการณ์จำลองแบบเกม หรอื ทีเ่ รยี กวา่ เกมจำลองสถานการณ์ สถานการณจ์ ำลองแท้ จะเป็นสถานการณ์ การเลน่ ท่ีใหผ้ ้เู รียนได้เลน่ เพ่ือเรียนรู้ความจริง เช่น ผ้สู อนอาจจำลองสถานการณ์น้นั ในการตดั สินใจใน เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ส่วนเกมจำลองสถานการณ์ มีลักษณะเปน็ เกมการเล่น แต่เกมการเลน่ น้ีมลี ักษณะทสี่ ะท้อน ความเป็นจรงิ ในขณะทเ่ี กมธรรมดาทว่ั ๆ ไป อาจจะไม่ได้สะท้อนความเปน็ จริงอะไรเกมจำลองสถานการณ์นมี้ ี อยู่ 2 ประเภทคอื เป็นเกมจำลองสถานการณ์แบบไม่มีการแข่งขัน เชน่ เกมจำลองสถานการณ์การเลอื กต้งั เกมจำลองสถานการณก์ ารเลือกอาชีพ และเกม จำลองสถานการณ์การเลอื กตง้ั เกมจำลองสถานการณ์การ เลือกอาชีพ และเกมจำลองสถานการณ์แบบมีการแข่งขนั เชน่ เกมจำลองสถานการณ์มลภาวะเปน็ พษิ เกม จำลองสถานการณก์ ารคา้ ขาย เปน็ ต้น เมอ่ื มสี ถานการณจ์ ำลองแล้ว ผู้สอนจะต้องศึกษาและทำความเขา้ ใจในสถานการณ์จำลองนั้น และ ควรลงเลน่ ดว้ ยตนเอง เพ่ือจะไดท้ ราบถงึ อุปสรรคข้อขดั ข้องต่างๆ ในการเล่น จะได้จัดเตรียมการป้องกันหรือ แก้ไขไว้ให้พร้อม เพื่อช่วยใหก้ ารเลน่ เปน็ ไปอยา่ งสะดวกและราบรน่ื ตอ่ จากน้ันจึงจดั เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ในการ เลน่ ไวใ้ ห้พร้อม รวมทง้ั การจดั สถานทเ่ี ลน่ ใหเ้ อ้ืออำนวยตอ่ การเล่น อนิ ทิรา บณุ ยาทร (2542 : 102) กลา่ ววา่ ขนั้ เตรยี มการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง มี รายละเอียด ดงั นี้ 1. กำหนดจดุ ประสงค์ ผู้สอนต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า มงุ่ หมายให้ผู้เรยี นเปล่ียนพฤติกรรม หรือ เกิดการเรยี นรู้อะไรบา้ ง การกำหนดจุดประสงค์ที่ชดั เจนจะช่วยให้การสร้างสถานการณ์จำลองง่ายข้ึน 2. กำหนดสถานการณจ์ ำลอง ผ้สู อนตอ้ งพจิ ารณาเลอื กสถานการณท์ ่เี ปน็ จรงิ ในสังคมมาดัดแปลง ใหเ้ หมาะสมกับการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน และต้องเปน็ สถานการณ์ท่ีเปิดโอกาสใหผ้ ้เู รียนไดค้ ดิ วเิ คราะห์ วนิ ิจฉยั ตดั สนิ ใจทใี่ กล้เคียงกบั ความเปน็ จรงิ ท่ีเป็นการก่อให้เกิดการเรียนรู้และทกั ษะทต่ี ้องการ 3. กำหนดโครงสร้างของสถานการณจ์ ำลอง ซึ่งประกอบดว้ ยสิ่งต่อไปน้ี 3.1 กำหนดจดุ ประสงคข์ องสถานการณจ์ ำลอง 3.2 กำหนดบทบาทของผ้รู ว่ มกิจกรรมแต่ละคน 3.3 เตรียมข้อมูล เนื้อหา 3.4 กำหนดสถานการณ์ต่างๆ ให้เหมือนจริงในสังคม 3.5 ลำดับขน้ั ของเหตุการณ์ เวลา และปัญหาจากสถานการณ์ 4. กำหนดและจดั เตรียมอปุ กรณต์ า่ งๆ ทจ่ี ะใชใ้ ห้พรอ้ ม เสรมิ ศรี ลกั ษณศิริ (2540 : 271) อธบิ ายขนั้ ตอนแรกของการสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง จะตอ้ งประกอบไปดว้ ย ขัน้ นำ ซ่ึงผ้สู อนเสนอสถานการณ์ที่จะนำมาซึ่งปญั หาแนะนำผเู้ รียนให้รจู้ ักหลักเกณฑ์ พืน้ ฐานและขอ้ มลู ทีจ่ ำเป็นแก่การปฏิบตั ิ แนะนำวธิ กี ารเรียน วัตถุประสงค์ วิธีแสดง เตรียมอุปกรณ์ และ เคร่อื งมือตา่ งๆ ท่จี ำเป็น และต่อมาเป็น ข้ันการเข้ารว่ ม โดยแบ่งผเู้ รียนเปน็ กลุ่มย่อย กำหนดบทบาท คดั เลือก ผแู้ สดงบอกกตกิ า วิธกี ารแสดงและการใหค้ ะแนน
สรปุ ไดว้ า่ ข้นั ตอนการเตรียมการสอนโดยใชส้ ถานการณ์จำลองนน้ั ผ้สู อนควรเริม่ จากการกำหนด วัตถปุ ระสงค์ กำหนดสถานการณ์ เตรียมอปุ กรณเ์ คร่ืองมือตา่ งๆ ที่จำเปน็ สำหรับผ้เู รยี น รวมถึงกำหนด บทบาท กฎเกณฑ์และกตกิ าใหพ้ ร้อม เพอื่ ใหผ้ ทู้ ่ีเข้าร่วมในกิจกรรมได้ทราบและบรรลจุ ดุ ม่งุ หมายของการ เรยี นรู้ 2. ขั้นดำเนินการสอน ทิศนา แขมมณี (2550 : 372) ในขณะท่ีผเู้ รยี นกำลงั เล่นในสถานการณจ์ ำลองนั้น ผูส้ อนควร ตดิ ตามอย่างใกลช้ ิด เพือ่ สงั เกตพฤติกรรมการเล่นของผ้เู รยี น และจดบันทึกข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ตอ่ การ เรียนร้ขู องผู้เรียนไว้ นอกจากน้ันตอ้ งคอยดูแลให้การเลน่ ดำเนนิ ไปอยา่ งไม่ติดขดั ให้คำปรึกษาตามความจำเป็น รวมทั้งชว่ ยแก้ปัญหาตา่ งๆ ที่อาจเกดิ ขึน้ อินทิรา บณุ ยาทร (2542 : 102) กล่าวถึง ขั้นดำเนนิ การสอนโดยใชส้ ถานการณ์จำลอง ไว้ ดังนี้ 1. ผสู้ อนเสนอสถานการณจ์ ำลองโดยอาจใช้วธิ ีต่อไปนี้ 1.1 เลา่ ให้ฟังถึงสถานการณ์ท่ีเกดิ ขึ้น 1.2 ใหด้ ูรูปภาพแล้วเลา่ ประกอบ 1.3 ใหด้ ภู าพยนตรส์ ถานการณ์ที่เกดิ ขึน้ 1.4 ใหด้ จู ากฉากทจ่ี ดั ไว้ และมีผ้แู สดงบทบาทประกอบ 2. ผู้เรยี นศึกษาปญั หาและหาแนวทางที่จะแก้ปญั หา อาจแบง่ เปน็ กลุ่มยอ่ ยร่วมกันแสดงความ คิดเหน็ 3. ผู้เรยี นเสนอแนวทางแก้ปญั หา เสรมิ ศรี ลักษณศริ ิ (2540 : 271) อธบิ าย ขน้ั ดำเนนิ การสอนของการสอนแบบใช้สถานการณ์ จำลองว่า ผูเ้ รยี นเร่ิมแสดงตามข้อตกลง ผสู้ อนมีหนา้ ทแ่ี นะนำและดแู ลให้การแสดงดำเนินไปตามวัตถุประสงค์ ผู้สอนอาจสังเกตแล้วบนั ทกึ พฤติกรรมผ้เู รยี นเปน็ รายบุคคล เพอ่ื นำมาวิเคราะหส์ ำหรบั การแก้ไขพฤติกรรม บางอยา่ งทไ่ี มพ่ ึงประสงค์ตอ่ ไป 3. ข้ันตอนอภปิ รายและสรปุ ผล ทิศนา แขมมณี (2550 : 371-372) กลา่ วว่า เนือ่ งจากการสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลองเป็นการ สอนที่มุง่ ชว่ ยผูเ้ รียนใหม้ ีความเขา้ ใจเก่ียวกับความเปน็ จริงที่สถานการณ์น้นั จำลองขึน้ มา ดังนั้นการอภปิ รายจึง ควรมุ่งประเดน็ ไปที่การเรียนรู้ความเปน็ จรงิ ว่า ในความเป็นจรงิ สถานการณ์เปน็ อยา่ งไร และอะไรเป็นปัจจยั ท่ี มอี ิทธิพลตอ่ สถานการณน์ นั้ ๆ ซึ่งผูเ้ รยี นมกั ไดเ้ รียนรู้จากการเลน่ ของตนในสถานการณ์นั้น จึงทำใหเ้ กดิ ความ เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เม่อื ไดเ้ รียนรูค้ วามเปน็ จริงแล้ว การอภปิ รายอาจขยายต่อไปวา่ เราควรจะใหส้ ถานการณน์ ัน้ คงอยู่ หรอื เปลยี่ นแปลงเป็นอยา่ งไร และจะทำอยา่ งไรจึงจะทำให้เกิดการเปลีย่ นแปลงขน้ึ ได้ อนิ ทิรา บณุ ยาทร (2542 : 103) กลา่ วถึง ขนั้ ตอนอภปิ รายและสรปุ ผลของการสอนโดยใช้ สถานการณจ์ ำลองไว้วา่ ข้ันอภปิ รายและสรปุ ผลเป็นขนั้ ตอนจะต้องร่วมกันอภปิ รายโดยพยายามคน้ หาว่าอะไร เกดิ ข้นึ หรอื ทำไมจงึ เกิดสภาพนน้ั การอภปิ รายจะชว่ ยผู้สอนในการประเมินผลวา่ การจัดกิจกรรมคร้งั น้ีสำเร็จ ผลตามวัตถปุ ระสงคห์ รือล้มเหลว หรือมจี ุดบกพร่องท่ีต้องแก้ไขปรับปรุง เพื่อจะใชส้ ถานการณ์จำลองน้ันซำ้ อีก ทีส่ ำคญั ท่ีสุดในการสอน เพราะทกุ ฝ่าย เสริมศรี ลักษณศริ ิ (2540 : 273) อธิบายขนั้ ตอนอภปิ รายและสรปุ ผลของการสอนแบบใช้ สถานการณจ์ ำลองไว้ว่า ผู้สอนและผู้เรียนช่วยกนั สรุปเหตุการณ์ความคิดเห็น เปรยี บเทยี บประสบการณ์ท่ี ผ้เู รยี นได้รบั จากสถานการณจ์ ำลองกบั สถานการณท์ ีเ่ ปน็ จริง เช่อื มโยงกจิ กรรมทีป่ ฏบิ ตั ไิ ปสเู่ น้ือหาวิชาทเ่ี รียน
ตลอดจนสรุปวธิ กี ารทีจ่ ะนำไปใช้ในสถานการณจ์ รงิ นอกจากนย้ี งั มีการประเมินผลบทเรียนพรอ้ มทง้ั เสนอแนะ การปรับปรงุ บทเรียนต่อไป จดุ เดน่ ของการสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง มนี กั วิชาการหลายท่านได้เสนอแนะถงึ จุดเดน่ ของการสอนโดยใชส้ ถานการณ์จำลอง ไวด้ ังน้ี อนิ ทิรา บณุ ยาทร (2542 : 103) กลา่ ววา่ การสอนโดยใชส้ ถานการณจ์ ำลองมจี ุดเดน่ ดังนี้ 1. เปน็ วิธที ี่ดึงดดู ความสนใจ จูงในให้เกดิ ความพยายาม และเกิดความสนกุ สนานในการเรียน 2. ฝกึ ผเู้ รยี นใหเ้ คารพในกฎ กตกิ า การมนี ้ำใจเปน็ นกั กีฬา การทำงานเปน็ กลุม่ 3. ผูเ้ รยี นได้เรียนรู้ดว้ ยการปฏบิ ัติ เรียนรกู้ ารตัดสินใจ เรยี นรูว้ ธิ กี ารแก้ปัญหา นบั เปน็ วิธีเรียนทไ่ี ด้ ความรูแ้ บบคงทน 4. ผเู้ รียนมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมอยา่ งจรงิ จัง 5. เปน็ วธิ ีท่ีมีประสทิ ธิภาพมากสำหรับผ้เู รียนที่มแี รงจูงใจตำ่ เสรมิ ศรี ลักษณศิริ (2540 : 272) กลา่ ววา่ จดุ เด่นของการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง ประกอบดว้ ย 1. เปน็ การถ่ายทอดความรู้อยา่ งมรี ะบบ 2. เปล่ียนบทบาทของครจู ากผสู้ อนมาเป็นเพยี งผู้แนะแนวทาง 3. เปน็ ประโยชนต์ ่อการใชเ้ ปน็ แนวทางในการตดั สนิ ปัญหาอืน่ ๆ ต่อไป 4. ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ ผชิญปญั หามากมายในระยะเวลาอนั จำกัด 5. ส่งเสริมการแสดงออกทางทา่ ทางประกอบการแสดงและการพูด 6. ชว่ ยพฒั นาความรสู้ ึกและทัศนคตขิ องผเู้ รยี นทีม่ ีต่อผู้อ่ืน 7. ชว่ ยพฒั นาทักษะในการแก้ปญั หาและการตัดสนิ ใจ 8. ช่วยให้ปัญหาท่ียุ่งยากเป็นปัญหาท่ีง่ายขน้ึ การตดั สินปัญหาแมจ้ ะผิดพลาดก็ไม่ทำใหเ้ กดิ ผล เสียหาย 9. ช่วยให้ผู้เรยี นได้พบกับสภาพการณ์กอ่ นทจี่ ะเกดิ ในชีวติ จรงิ และทุกคนมีสว่ นรว่ มในการเรยี น 10. ชว่ ยใหผ้ เู้ รียนตน่ื ตัว ใหค้ วามรว่ มมือโดยไมค่ ิดถึงการแข่งขัน และกล้าแสดงความคิดเห็น 11. ชว่ ยให้ผู้เรยี นเกดิ แรงจูงใจในการเรียน ทำให้เกดิ ความสนุกสนานร่าเริง ชาญชยั ยมดิษฐ์ (2548 : 224-225) อธิบายว่า จดุ เด่นของการสอนโดยใชส้ ถานการณ์จำลอง มี ดังนี้ 1. ทำให้เขา้ ใจสถานการณ์จริงได้ก่อนปฏิบัตงิ านจริง 2. สง่ เสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรค์และการกลา้ แสดงออกของผเู้ รยี น 3. ฝึกการปฏิบัตงิ านร่วมกนั ระหวา่ งผู้เรียนกับผู้เรียน และผู้เรียนกับผู้สอน 4. ช่วยนำสถานการณท์ ี่มีข้อจำกดั ในการปฏิบัตจิ ริงมาฝกึ ได้ก่อนใชท้ ักษะข้ันสงู ในสถานการณ์จรงิ ตอ่ ไป
ทศิ นา แขมมณี (2550 : 373) กลา่ วว่า จุดเด่นของการสอนโดยใชส้ ถานการณจ์ ำลอง มดี งั น้ี 1. เป็นวิธสี อนทชี่ ว่ ยให้ผู้เรียนไดเ้ รียนรูเ้ ร่อื งทม่ี ีความสมั พันธซ์ ับซ้อนได้อย่างเข้าใจ เกิดความ เข้าใจ เนื่องจากไดม้ ีประสบการณ์ทเี่ หน็ ประจักษ์ชดั ด้วยตนเอง 2. เปน็ วธิ ีสอนทผ่ี เู้ รยี นมสี ว่ นร่วมในการเรยี นรู้สงู มาก ผู้เรยี นได้เรียนอย่าง สนกุ สนาน การเรยี นรมู้ คี วามหมายต่อตวั ผ้เู รียน 3. เปน็ วธิ ีสอนที่ผเู้ รียนมีโอกาสได้ฝกึ ทักษะกระบวนการต่างๆ จำนวนมาก เช่น กระบวนการปฏสิ มั พนั ธ์กับผู้อน่ื กระบวนการสื่อสาร กระบวนการตัดสนิ ใจ กระบวนการแกป้ ัญหา และ กระบวนการคิด เป็นตน้ จากการทนี่ กั วชิ าการ สรุปจดุ เดน่ ของการสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลอง ไดด้ ังน้ี 1. เปน็ การสอนท่ีดึงดูดความสนใจของผ้เู รยี น เกิดความสนกุ สนาน 2. สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนทำงานกลุ่ม ซ่ึงตอ้ งเคารพในกติกาการเรยี น 3. สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม 4. สง่ เสริมการแสดงออก และท่าทางการพดู 5. พัฒนาทกั ษะการแก้ปัญหา กล้าตัดสนิ ใจ 6. เปน็ การเรยี นท่ที ำใหผ้ ูเ้ รยี นตื่นตัว กล้าแสดงความคิดเห็น 7. ทำให้ผเู้ รียนเกิดความเข้าใจไดง้ า่ ย ประจักษด์ ว้ ยตนเอง ข้อจำกัดของการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง ทศิ นา แขมมณี (2550 : 373) กล่าวถึง ขอ้ จำกัดของวธิ สี อนโดยใชส้ ถานการณ์จำลอง ไว้ ดังน้ี 1. เปน็ วิธสี อนทต่ี อ้ งใชค้ ่าใชจ้ า่ ยสูง เพราะต้องมีวัสดอุ ปุ กรณ์ และข้อมูลสำหรบั ผู้เล่น ทกุ คน และสถานการณ์จำลองบางเร่อื งมรี าคาแพง 2. เป็นวิธสี อนท่ีใชเ้ วลามาก เพราะต้องให้เวลาแกผ่ เู้ ล่นในการเล่นและการอภิปราย 3. เป็นวธิ สี อนทต่ี อ้ งใช้เวลาในการเตรยี มการมาก ผูส้ อนต้องศึกษารายละเอยี ด และลองเล่นดว้ ย ตนเอง และในกรณที ี่ต้องสรา้ งสถานการณ์เอง ยงิ่ ต้องใชเ้ วลาเพม่ิ ขนึ้ 4. เปน็ วิธสี อนทต่ี ้องพึ่งสถานการณจ์ ำลอง ถ้าไมม่ ีสถานการณ์จำลองทตี่ รงกบั วัตถปุ ระสงค์หรือความต้องการ ผสู้ อนต้องสรา้ งข้ึนเอง ถ้าผู้สอนไม่มคี วามรู้ความเข้าใจในการสรา้ งสถานการณ์ เพียงพอ กจ็ ะไมส่ ามารถสรา้ งได้ 5. เปน็ วิธีสอนที่เปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นได้เล่นและแสดงออกอยา่ งหลากหลาย จงึ เปน็ การยากสำหรับผสู้ อนในการนำการอภปิ รายให้ไปสกู่ ารเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ อนิ ทิรา บณุ ยาทร (2542:103) กล่าวว่าการสอนโดยใชส้ ถานการณ์จำลองมีขอ้ จำกัดดงั น้ี 1. สถานการณ์จำลองไมใ่ ชส่ ถานการณ์จรงิ จงึ เปน็ สถานการณ์ท่งี ่ายกวา่ สถานการณ์จริง 2. ผู้สอนต้องใช้เวลาในการเตรียมสร้างสถานการณ์ และมักจะได้ผลไม่คมุ้ ทุน ผสู้ อนจงึ ไมน่ ยิ มทำ 3. ถา้ มคี วามซบั ซ้อนผเู้ รยี นจะสับสน ถา้ ง่ายไปผู้เรียนก็เบ่อื หน่าย 4. ไม่สามารถปรับให้เขา้ กบั ความต้องการเฉพาะของแตล่ ะบุคคล
เสริมศรี ลกั ษณศริ ิ (2540 : 272) กล่าวถึง ข้อจำกัดของการสอนโดยใชส้ ถานการณจ์ ำลอง ประกอบไปด้วย 1. การแสดงความรู้สกึ เกี่ยวกับสถานการณจ์ ริงๆ โดยใช้สถานการณ์จำลอง เป็นการยกท่ีจะทำ ให้ใกลเ้ คยี งกับความเปน็ จรงิ 2. บางครัง้ การแสดงไปกระทบกระเทือนใจผู้เรยี นบางคน ทำให้ผู้เรียนไม่กลา้ แสดง ความรสู้ กึ ท่แี ทจ้ ริงจากข้อ 2 อาจทำให้การเรียนการสอนไมบ่ รรลตุ ามที่คาดหวังไว้ ชาญชัย ยมดษิ ฐ์ (2548 : 224-225) อธบิ ายว่า ขอ้ จำกัดของวธิ กี ารสอนโดยใชส้ ถานการณจ์ ำลอง มีดังน้ี 1. ต้องใชเ้ วลามากในการเตรยี ม 2. สน้ิ เปลืองคา่ ใช้จา่ ยมาก 3. ตอ้ งอาศัยความสามารถและการตัดสนิ ใจของผู้สอนทมี่ ที ักษะและประสบการณ์ 4. ถ้าควบคุมไม่ดีจะไมไ่ ดผ้ ลตามบทเรียนท่ีต้องการ จากการท่นี ักวิชาการได้กล่าวถึงข้อจำกัดของการสอนโดยใช้สถานการณจ์ ำลองไว้ สรปุ ประเดน็ ท่ี นา่ สนใจได้ ดงั นี้ 1. ค่าใชจ้ ่าย ตอ้ งใช้เวลาในการสร้างสถานการณ์ จงึ มักไดผ้ ลไม่คุม้ ทุน 2. ถ้าเป็นสถานการณท์ ีซ่ ับซ้อนจะทำใหผ้ ู้เรยี นสบั สน แตถ่ า้ งา่ ยเกดิ ไปผูเ้ รียนกเ็ บอื่ หน่าย 3. ถ้าผ้สู อนไม่สามารถคุ้มสถานการณไ์ ดจ้ ะทำใหไ้ มไ่ ด้ผลตามตอ้ งการ 4. ผู้สอนจะตอ้ งใชเ้ วลาในการเตรยี มตัวมาก 5. เป็นการสอนท่ยี ากสำหรับผ้สู อนที่จะนำการอภปิ รายไปสู่การเรยี นไดต้ ามวตั ถุประสงค์
บทที่ 3 วธิ กี ารดำเนนิ การวิจัย งานวิจัยครงั้ น้ี ผู้วิจยั ดำเนินการตามลำดับข้ันตอน ดงั นี้ 1. กลมุ่ เปา้ หมาย กลมุ่ เปา้ หมายงานวจิ ยั เร่ือง การพัฒนาทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโนยี โดยใช้สถานการณ์จำลอง โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ผู้วจิ ยั ใช้ กลุ่มเปา้ หมาย คือ นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จำนวน 12 คน 1. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู 2. การดำเนินการวจิ ยั 3. วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมลู 4. การวเิ คราะหข์ ้อมลู เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูล 1. แผนการจัดการเรียนรู้วิชา วิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้เรื่อง ปรากฏการณ์ ลมฟ้า อากาศ ใช้ เทคนิคการสอนโดยสถานการณจ์ ำลอง เรอ่ื ง การเกิดเมฆ หมอก และ ฝน 2. แบบทดสอบหลงั เรยี น โดยเทยี บกับเกณฑ์ ร้อยละ 50 จำนวน 10 ขอ้ 3. แบบบนั ทกึ การสงั เกตการณ์จดั กิจกรรมการเรียนการสอน ดำเนินการวิจัยตามขั้นตอนการวจิ ัยเชงิ ปฏบิ ัติการ ดังน้ี ขน้ั ที่ 1 วางแผนการ ปฏิบัติ (Planning) เริ่มด้วยการสำรวจปัญหาระหว่างครู ระบุปัญหาท่ีจะทำการ แก้ไข และพัฒนา หาแนวทางแกไ้ ข พร้อมสร้างเครอ่ื งมือวิจัย ขั้นที่ 2 ลงมือปฏิบัติตามแผน ( Action) นำแผนที่กำหนดซึ่งควรยืดหยุ่นและปรับได้ไปปฏิบัติ ถ้ามี ปัญหาอุปสรรคขณะปฏิบตั กิ ็ทำการปรบั ปรงุ แผน ขั้นท่ี 3 สังเกตการณ์ปฏิบัติ ( Observation) โดยสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นท้ังกระบวนการ และผลทีเ่ กิดขนึ้ โดยใช้เครือ่ งมือในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ข้ันที่ 4 สะท้อนผลการปฏิบัติ ( Reflection) เป็นการวิพากษ์สภาพที่เกิดข้ึนในชั้นเรียน ส่ิงที่ ดำเนินการ / ข้อค้นพบ ดีหรือไม่ดีอย่างไร หาคำอธิบายต่อส่ิงที่ค้นพบ นำข้อค้นพบไปใช้ประโยชน์ หรือ ปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติ ทำการปรับแผนการปฏิบัติ และปฏิบัติจนครบทุกแผน เม่ือปฏิบัติการเสร็จสิ้น แล้วจงึ ทำการทดสอบผลการเรียนรู้ของนกั ศกึ ษา
การเก็บรวบรวมข้อมลู การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ในการวจิ ัยคร้ังน้ี ผ้วู ิจยั ได้กำหนดข้นั ตอนในการเกบ็ ข้อมูลดังนี้ 1. เตรยี มเครื่องมือท่ใี ช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 2. ข้ันตอนการสอนโดยใช้การเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง ซ่ึงใช้ แผนการจัดกิจกรรมการ เรยี นรู้ 2 แผน การจัดการเรียนรู้ 3. วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ผู้วจิ ัยไปเก็บด้วยตนเอง โดยการใช้สถานการณจ์ ำลองสอน และสอนตาม แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ และประเมินผลการเรยี นรู้ ตามเกณฑ์ทก่ี ำหนดไว้ ในแผนการจัดการเรยี นรู้ การวิเคราะหข์ อ้ มลู 1. ขอ้ มูลเชิงคุณภาพ ใช้การวเิ คราะหแ์ บบอปุ นัย (Analytic Induction) โดยการแยกข้อมลู อย่าง เปน็ ระบบ ตคี วามหมาย เช่ือมโยงความสมั พนั ธ์ และสร้างขอ้ สรปุ จากข้อมูลตา่ ง ๆ ที่รวบรวมได้ 2. ข้อมลู เชิงปริมาณ ใช้การแจกแจงความถี่ หาคา่ ร้อยละ หาคา่ เฉลี่ย x
ภาคผนวก
ภาพประกอบกจิ กรรม
ภาพประกอบกจิ กรรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: