การออกแบบการจัดการเรียนรอู งิ มาตรฐานการเรยี นรู กลุม สาระการเรียนรู วทิ ยาศาสตร วชิ า วิทยาศาสตร รหสั วิชา ว13101 ระดบั ช้ัน ประถมศกึ ษาปท่ี 3 โดย ชอ่ื นางอมลสิริ คาํ ฟู ตําแหนง พนักงานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห 31 จังหวดั เชยี งใหม สํานกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ผังมโนทัศน รายวชิ าวทิ ยาศาสตร รหสั วชิ า ว 13101 ระดับชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 3 หนวยที่ 3 (18 ช่ัวโมง) หนวยที่ 2 (12 ชั่วโมง) การถา ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม สิง่ แวดลอ มและ ทรัพยากรธรรมชาติ รายวิชาวิทยาศาสตร ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 3 จาํ นวน 80 ชั่วโมง หนวยท่ี 3 (16 ชัว่ โมง) หนว ยที่ 3 (18 ช่วั โมง) สมบตั ิของสารและการ การเคล่อื นทีข่ อง พลังงานไฟฟา เปล่ยี นแปลง หนว ยที่ 5 (15 ชัว่ โมง) หนว ยท่ี 6 (3 ช่วั โมง) รอบรูเร่อื งโลก ดวงอาทติ ย
คาํ อธบิ ายรายวชิ า รายวิชา วทิ ยาศาสตร กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1-2 รหัสวิชา ว 13101 เวลา 80 ชว่ั โมง/ป ศึกษาวเิ คราะหล ักษณะตางๆของส่งิ มีชวี ิต เปรียบเทียบและระบุลกั ษณะที่คลา ยคลึงกันของพอ แมก ับ ลกู การถา ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม การปรบั ตัวของส่ิงมีชวี ิตใหเ ขากับสภาพแวดลอมเพ่ือความอยูรอด และการดํารงพันธุ สิ่งแวดลอมในทองถ่ิน ความสัมพนั ธข องส่ิงมีชวี ติ กับสิ่งแวดลอ ม ทรัพยากรธรรมชาติและ การใชทรพั ยากรธรรมชาติในทองถ่นิ ปญหาสง่ิ แวดลอ มทเี่ กิดจากการใชทรัพยากรธรรมชาติ การดูแลและใช ทรพั ยากรธรรมชาติอยางประหยดั และคมุ คา ชนดิ และสมบัตขิ องวัสดุที่เปนสว นประกอบของของเลน ของ ใช การเปลีย่ นแปลงทเี่ กิดข้ึนกับวัสดุ เมอื่ ถูกแรงกระทําหรือทําใหร อนขึ้นหรือเย็นลง ประโยชนแ ละอันตราย อันเกดิ ข้นึ จากการเปล่ยี นแปลงของวัสดุ แรงทีก่ ระทาํ ตอวัตถุ แรงโนม ถว งหรือแรงดึงดูดของโลกกระทําตอ วตั ถุ พลงั งานธรรมชาตทิ ีใ่ ชผ ลิตไฟฟา ความสําคัญของพลังงานไฟฟาและวธิ ีการใชไฟฟาอยา งประหยัดและ ปลอดภัย สมบตั ทิ างกายภาพของนํา้ จากแหลงน้าํ ในทองถิน่ สวนประกอบและความสําคญั ของอากาศ การ เคล่อื นที่ของอากาศ การขนึ้ – ตกของดวงอาทติ ยแ ละดวงจันทร การเกดิ กลางวัน กลางคืน การกาํ เนิดทศิ โดยใชก ารสืบเสาะหาความรูดวยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร การสาํ รวจตรวจสอบ การสืบคน ขอมลู การอธิบาย และการอภิปราย เพอ่ื ใหเกิดความรูค วามคิด ความเขาใจ สามารถส่อื สารส่ิงท่ีเรยี นรู มี ความสามารถในการตดั สินใจเห็นคุณคาของการนําความรไู ปใชป ระโยชนในชวี ิตประจําวนั มจี ิต วิทยาศาสตร จรยิ ธรรม คุณธรรมและคานิยมทเ่ี หมาะสม รหัสตัวชีว้ ดั ว.1.2 ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4 ว.2.1 ป.3/1 ว.2.2 ป.3/2, ป.3/3 ว.3.1 ป.3/1, ป.3/2 ว.3.2 ป.3/1, ป.3/2 ว.4.1 ป.3/1, ป.3/2, ว.5.1 ป.3/1, ป.3/2 ว.6.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ว.7.1 ป.3/1 ว.8.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6,ป.3/7, ป.3/8 รวมท้งั หมด 26 ตัวชี้วดั
การจดั ทาํ โครง รายวิชา วิทยาศาสตร ชั้นประถม ท่ี ชอื่ หนวย รหสั มฐ. ตวั ชวี้ ัด การถายทอด ลกั ษณะทาง ว 1.2 ป.3/2 เปรียบเทยี บและระบุลกั ษณะท่ี - สงิ่ ม พนั ธุกรรม คลายคลึงกนั ของพอแมกบั ลูก กบั พอ - ลักษ 1 ว 1.2 ป.3/3 อธิบายลักษณะท่คี ลายคลึงกนั การถา ของพอ แมกับลูกวาเปน การถายทอดลักษณะ - มนษุ ทางพันธกุ รรม และนําความรูไปใชประโยชน พนั ธุก และส ว 1.2 ป.3/4 สบื คนขอ มลู และอภิปราย - สง่ิ ม เกีย่ วกบั สง่ิ มีชีวิตบางชนดิ ท่ีสูญพนั ธุไปแลว เปลี่ยน และที่ดาํ รงพันธุม าจนถงึ ปจ จุบนั - สิง่ ม เปลีย่ น พันธตุ
งสรางรายวิชา มศกึ ษาปท ี่ 3 จํานวน 80 ชัว่ โมง สาระสาํ คญั เวลา น้ําหนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) K P A รวม มีชีวิตทุกชนดิ จะมลี กั ษณะภายนอกที่ปรากคลา ยคลึง อแมของสิ่งมีชวี ิตชนิดนนั้ ษณะภายนอกทีค่ ลา ยคลึงกันของพอแมกับลูกเปน ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม ษยนําความรูท่ีไดเกี่ยวกับการถายทอดลักษณะทาง กรรมมาใชประโยชน ในการพฒั นาสายพนั ธุของพชื 18 10 4 1 15 สัตว มีชีวติ ท่ีไมส ามารถปรบั ตัวใหเขา กับสภาพแวดลอมที่ นแปลงไปได กจ็ ะสูญพันธไุ ปในทสี่ ดุ มีชีวิตท่สี ามารถปรบั ตัวเขากับสภาพแวดลอ ม ที่ นแปลงไปได จะสามารถอยรู อดและดาํ รง ตอไป
ท่ี ชอื่ หนวย รหัส มฐ. ตวั ชี้วัด ว 2.1 ป.3/1 สาํ รวจสิง่ แวดลอ มในทอ งถ่นิ ของ - สงิ่ แ ตนและอธิบายความสัมพนั ธของสิง่ มชี ีวิตกับ และส สิ่งแวดลอม - สิ่งม ดวยก สัตวป 1 ส่ิงแวดลอมและ ว 2.2 ป3/2ระบุการใชทรัพยากร ธรรมชาติ - มนษุ ทรพั ยากรธรรมชาติ ทีก่ อใหเ กดิ ปญหาส่ิงแวดลอม ในทอ งถ่ิน ตอกา อยา งม ในทองถ่ิน - มนษุ ว 2.2 ป3/3 อภปิ รายและนาํ เสนอการใช ทรพั ย ทรัพยากรธรรมชาติ อยางประหยดั คมุ คา การใช และมสี ว นรว มในการปฏิบัติ
สาระสาํ คัญ เวลา นํา้ หนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวม แวดลอ มหมายถึง ส่งิ ทอี่ ยูรอบๆ ตวั เรามีทง้ั สิง่ มชี ีวติ สง่ิ ไมม ีชวี ติ มีชีวติ มคี วามสมั พนั ธก บั สิ่งแวดลอ มท้ังกับสง่ิ มชี วี ติ กนั และกบั ส่ิงไมมชี ีวติ - ดิน หนิ นาํ้ อากาศ ปาไม ปา และแรจัดเปน ทรัพยากร ธรรมชาตทิ ่มี ีความสําคญั ษยใชทรัพยากรธรรมชาติในทอ งถ่นิ เพอ่ื ประโยชน 12 10 4 1 15 ารดํารงชวี ติ - มนุษยน าํ ทรัพยากรธรรมชาติมาใช มากมายจึงสง ผลกระทบตอส่งิ แวดลอมในทองถ่ิน ษยต อ งชวยกันดูแลและรูจักใช ยากรธรรมชาติอยา งประหยดั และคมุ คา เพื่อใหม ี ชไ ดนานและย่งั ยืน
ท่ี ช่ือหนวย รหสั มฐ. ตวั ช้ีวัด ว3.1 ป3/1 จาํ แนกชนดิ และสมบตั ขิ องวัสดุที่ - ของเล เปนสวนประกอบของของเลน ของใช จากวัสด ว๓.๑ ป๓/๒อธิบายการใชป ระโยชนของวสั ดุ - วัสดุแ แตละชนดิ ตา งกัน - เม่ือม ว3.1 ป3/1 ทดลองและอธิบายผลของการ ตลอดจน สมบัตแิ ละการ เปลย่ี นแปลงท่เี กดิ ข้นึ กบั วสั ดุ เมื่อถูกแรง การเปล เปล่ียนแปลงของ 3 กระทาํ หรือทาํ ใหรอนขึ้นหรือทําใหเ ย็นลง - การเป เกดิ อนั ต สาร ว3.2 ป3/2 อภปิ รายประโยชนแ ละอนั ตราย - การออ ทอี่ าจเกดิ ข้ึน เนื่องจากการเปล่ียนแปลงของ เคล่ือนท วัสดุ เคล่ือนท เคลอ่ื นท - วัตถุตก ของโลก
สาระสาํ คัญ เวลา น้าํ หนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวม ลนของใชอาจมีสวนประกอบหลายสวน และอาจทํา ดุหลายชนิดซึง่ มสี มบัตแิ ตกตา งกนั แตละชนิดมีสมบัติแตกตางกันจึงใชประโยชนได มีแรงมากระทํา เชน การบีบ บิด ทุบ ดัด ดึง นการทําใหร อนขน้ึ หรอื ทําใหเย็นลงจะทําใหวัสดุเกิด ลี่ยนแปลงรปู รางลักษณะหรอื มีสมบัติแตกตางไปจากเดมิ ปล่ยี นแปลงของวสั ดอุ าจนํามาใชประโยชนหรือทําให 16 10 4 1 15 ตรายได อกแรงกระทาํ ตอวัตถุแลวทาํ ใหว ัตถเุ ปล่ียนแปลงการ ที่ โดยวัตถุท่ีหยุดนิ่งจะเคลื่อนที่และวัตถุที่กําลัง ท่ีจะเคล่ือนท่ีเร็วข้ึนหรือเคล่ือนท่ีชาลงหรือหยุด ทีห่ รอื เปลี่ยนทศิ ทาง กสูพ้ืนโลกเสมอเนื่องจากแรงโนมถวงหรือแรงดึงดูด กกระทําตอวัตถุ และแรงนค้ี ือน้ําหนักของวัตถุ
ที่ ชอ่ื หนวย รหสั มฐ. ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู - การอ เคลื่อ 4 การเคลอ่ื นที่ของ ว 4.1 ป3/1 ทดลองและอธิบายผลของการ เคลื่อ พลงั งานไฟฟา ออกแรงที่กระทาํ ตอวัตถุ เคล่ือน ว 4.1 ป3/2 ทดลองการตกของวัตถุสูพ นื้ โลก - วัตถ และอธบิ ายแรงทโี่ ลกดึงดูดวัตถุ ของโล ว5.1 ป3/3 บอกแหลงพลงั งานธรรมชาติทีใ่ ช - การผ ผลิตไฟฟา บางแ ธรรมช ลม ว 5.1 ป3/2 อธิบายความสาํ คญั ของพลงั งาน -พลังง ไฟฟา และ เสนอวธิ ีการใชไฟฟาอยางประหยดั แหลง และปลอดภัย ปดไฟ เลอื กใ
สาระสาํ คญั เวลา นาํ้ หนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) KP A รวม ออกแรงกระทําตอวัตถุแลวทําใหวัตถุเปล่ียนแปลงการ อนท่ี โดยวัตถุท่ีหยุดน่ิงจะเคล่ือนท่ีและวัตถุท่ีกําลัง อนที่จะเคล่ือนท่ีเร็วข้ึนหรือเคล่ือนท่ีชาลงหรือหยุด นทีห่ รอื เปล่ียนทิศทาง ถุตกสูพื้นโลกเสมอเน่ืองจากแรงโนมถวงหรือแรงดึงดูด ลกกระทาํ ตอวตั ถุ และแรงน้ีคือน้ําหนกั ของวตั ถุ ผลิตไฟฟาใชพลังงานจากแหลงพลังงานธรรมชาติ ซ่ึง 15 แหลงเปนแหลงพลังงานที่มีจํากัด เชน น้ํามัน แกส 18 10 4 1 ชาติ บางแหลงเปนแหลงพลังงานที่หมุนเวียน เชน นํ้า งานไฟฟามีความสําคัญตอชีวิตประจําวัน เชน เปน งกําเนิดแสงสวาง จึงตองใชไฟฟาอยางประหยัด เชน ฟเม่ือไมใชงาน รวมท้ังใชไฟฟาอยางปลอดภัย เชน ใชอปุ กรณตา ง ๆ ทม่ี ีมาตรฐาน
ที่ ชอ่ื หนวย รหัส มฐ. ตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรู 5 รอบรูเรื่องโลก ว 6.1 ป3/3 สาํ รวจและอธบิ ายสมบัตทิ าง -น้าํ พบ กายภาพของน้ําจากแหลง นา้ํ ในทองถิ่น และนํา บางอย ความรูไปใชป ระโยชน รกั ษาร -คุณภ -น้ําเป การบร ว 6.1 ป3/2 สบื คน ขอมลู และอภปิ ราย - อา สวนประกอบของอากาศและความสาํ คญั ของ ออกซ อากาศ ไอนํ้า - อาก ตอ งใช อื่นๆ อ ว 6.1 ป3/3 ทดลองอธบิ ายการเคลอ่ื นท่ีของ - อากา อากาศท่มี ผี ลจากความแตกตางของอุณหภมู ิ อุณหภ ลม - โลกห
สาระสาํ คัญ เวลา น้ําหนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) KP A รวม บไดท ง้ั ที่เปน ของเหลว ของแข็งและแกส น้ําละลายสาร ยา งได นํ้าเปลยี่ นแปลงรูปรางตามภาชนะท่ีบรรจุ และ าระดับในแนวราบ ภาพของน้ําพิจารณาจาก สี กลิ่น ความโปรงใสของนา้ํ ปนทรัพยากรธรรมชาติที่มีความจําเปนตอชีวิต ท้ังใน ริโภค อุปโภค จงึ ตองใชอ ยางประหยดั ก า ศ ปร ะ ก อ บด วย แก สไ น โ ต ร เ จน แก ส 15 831 15 ซเิ จน แกส คารบอนไดออกไซดแ ละ แกส อ่ืน ๆ รวมทั้ง และฝนุ ละออง กาศมีความสําคัญตอการดํารงชีวิต ส่ิงมีชีวิตทุกชนิด ชอ ากาศในการหายใจ และอากาศยังมีประโยชนในดาน อีกมากมาย กาศจะเคลื่อนจากบรเิ วณทีม่ ีอณุ หภูมติ าํ่ ไปยังบริเวณที่มี ภูมิสูงกวา โดยอากาศท่ีเคล่ือนท่ีในแนวราบทําใหเกิด หมนุ รอบตวั เองทาํ ใหเ กิดปรากฏการณต อไปน้ี
ท่ี ช่ือหนวย รหสั มฐ. ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู 6 ดวงอาทิตย ว 7.1 ป3/1 สังเกต และอธบิ ายการขนึ้ ตกของ -ปราก ดวงอาทติ ย ดวงจนั ทร การเกิดกลางวัน -เกิดก กลางคนื และการกําหนดทิศ เ ป น เ แสงอา วดั ผลกลางภาค วดั ผลปลายภาค รวมทั้งสิ้น
สาระสําคญั เวลา น้ําหนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) K P A รวม กฏการณข ึ้นตกของดวงอาทิตยแ ละดวงจันทร กลางวันและกลางคืนโดยดานที่หันรับแสงอาทิตย 3 2 1- 3 เ วล า ก ลา งวั น แล ะ ด าน ต ร งข า ม ท่ี ไ ม ไ ด รั บ าทิตยเปน เวลากลางคนื - - 80 5 55 15 5 55 15 65 20 15 100
มาตรฐานและตัวช้วี ดั การวิเคราะหม าต วิชา วิทยาศาสตร รหัสวิชา ว13101 ชื่อ ชน้ั ประถมศ รอู ะไร ทําอะไร ว 1.2 ป.3/2 รูอะไร เปรยี บเทียบและระบุ - สง่ิ มีชวี ิตทกุ ชนดิ จะมลี กั ษณะภายนอกท่ีปรากคลา ยคลงึ กับพอ ลักษณะทคี่ ลา ยคลึงกนั ของพอ แมกับลกู ของส่งิ มีชวี ติ ชนิดนน้ั - ลักษณะภายนอกทค่ี ลายคลึงกนั ของพอแม ว 1.2 ป.3/3 อธบิ าย ลูกเปน การถายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม ลกั ษณะท่ีคลา ยคลึงกนั - มนุษยน าํ ความรทู ่ีไดเ ก่ยี วกับการถายทอดลักษณะทางพันธกุ รร ของพอแมกับลูกวาเปน ใชประโยชน ในการพัฒนาสายพันธุข องพชื และสตั ว การถา ยทอดลกั ษณะ - สง่ิ มชี วี ิตท่ีไมสามารถปรับตัวใหเ ขา กบั สภาพแวดลอมทเี่ ปลีย่ น ทางพันธุกรรม และนํา ไปได กจ็ ะสูญพันธุไ ปในทส่ี ดุ ความรไู ปใชประโยชน ว 1.2 ป.3/4 สบื คน - สงิ่ มีชวี ติ ที่สามารถปรบั ตัวเขากับสภาพแวดลอม ทเ่ี ปล่ียนแปล ขอมูลและอภิปราย เกย่ี วกับสงิ่ มชี ีวติ บาง จะสามารถอยรู อดและดํารงพันธตุ อ ไป ชนิดทีส่ ูญพันธไุ ปแลว และท่ดี ํารงพันธมุ า ทาํ อะไร จนถึงปจจุบัน - ศกึ ษาเปรียบเทียบและระบุลกั ษณะท่คี ลา ยคลงึ กนั ของพอแมก - อธบิ ายลกั ษณะท่ีคลา ยคลึงกันของพอแมกับลกู วาเปน การถาย ลกั ษณะทางพันธุกรรม และนําความรไู ปใชประโยชน - สืบคนขอมลู และอภิปรายเก่ียวกับส่ิงมีชวี ิตบางชนดิ ท่สี ูญพันธุไ และทีด่ าํ รงพนั ธุม าจนถงึ ปจ จุบนั
ตรฐานและตัวชว้ี ัด อหนวย การถา ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม ศกึ ษาปท ่ี 3 ภาระงาน/ช้นิ งาน สมรรถนะสาํ คัญ คณุ ลักษณะ คุณลกั ษณะ ของวิชา อันพงึ ประสงค 1. ศึกษาใบความรู 1. ความสามารถใน 1. ความ 1. ใฝเ รียนรู อแม 2. ทาํ ใบกจิ กรรม การสื่อสาร กระตือรือรน 2. มุง ม่ันในการ แมก ับ 3. นาํ เสนอผลงาน 2. ความสามารถใน 2. ความสนใจ ทาํ งาน และตั้งคําถามใหม การคิด 3. กระบวนงาน 3. มวี ินัย รมมา จากผลการสงั เกต 3. ความสามารถใน กลมุ การแกปญหา นแปลง ลงไปได กับลูก ยทอด ไปแลว
การวิเคราะหมาต วิชา วทิ ยาศาสตร ชื่อหนวย ส่ิงแวด ชั้นประถมศ มาตรฐานและตัวช้ีวัด รอู ะไร ทําอะไร ภาร มาตรฐาน ว 2.2 เขา ใจ รูอ ะไร 1. ศ ความสําคญั ของทรัพยากร ธรรมชาติ การใชท รพั ยากร สิ่งแวดลอม หมายถึง ส่ิงท่ีอยูรอบ ๆ ตัว 2. ท ธรรมชาติในระดับทองถ่นิ ประเทศ และโลกนาํ ความรู เรามีท้ังสิ่งที่มีชีวิตและส่ิงไมมีชีวิต ส่ิงมีชีวิต 3. น ไปใชในในการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติ และ จะมีความสัมพันธกันกับสิ่งแวดลอม ทั้งกับ และ ส่ิงแวดลอ มในทองถนิ่ อยาง ย่ังยืน สิง่ มชี วี ติ ดวยกนั และกบั ส่งิ ไมมีชีวติ จากผ มฐ ว 2.2 ป.3/1สาํ รวจ ทรพั ยากรธรรมชาติ และ ทําอะไร อภปิ รายการใชทรัพยากร ธรรมชาตใิ นทองถน่ิ ตงั้ คาํ ถาม สงั เกต วางแผนและสาํ รวจ สิ่งแวดลอ มในทองถ่นิ ของตนเอง บนั ทกึ ขอมูล อภปิ รายและสรุปผลการสาํ รวจ ต้งั คําถาม ใหมจากผลการสาํ รวจ และอธบิ าย ความสัมพันธข องสงิ่ มชี วี ิตกับสง่ิ แวดลอมใน ทอ งถ่นิ ของตนเอง นาํ เสนอขอมลู โดยการ จดั ทําแผนผงั มโนทัศน
ตรฐานและตัวชวี้ ดั ดลอมและทรัพยากรธรรมชาตใิ นทองถน่ิ ศึกษาปท ี่ 3 ระงาน/ชิน้ งาน สมรรถนะสาํ คญั คณุ ลกั ษณะของวิชา คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค ศกึ ษาใบความรู 1. ความสามารถใน 1. ความกระตือรือรน 1. ใฝเรยี นรู ทําใบกิจกรรม การสอ่ื สาร นาํ เสนอผลงาน 2. ความสามารถใน 2. ความสนใจ 2. มุงมั่นในการ ะตงั้ คําถามใหม การแกปญหา ผลการสังเกต ทาํ งาน 3. มวี ินัย
มาตรฐานและตัวช้วี ดั รอู ะไร ทาํ อะไร ภาระงาน/ชิน้ ง มาตรฐาน ว 2.2 เขาใจ รอู ะไร 1. ศึกษาใบความร ความสาํ คัญของทรพั ยากร ธรรมชาติ การใชท รัพยากร ดิน หนิ นา้ํ อากาศ ปาไม 2. ทําใบกจิ กรรม ธรรมชาติในระดบั ทองถิ่น ประเทศ และโลกนําความรูไป สัตวปา และ แร จัดเปน 3. นาํ เสนอผลงาน ใชในในการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมใน ทรัพยากรธรรมชาติท่ีมี ต้งั คําถามใหมจากผ ทอ งถนิ่ อยา งยั่งยนื มฐ ว 2.2 ป.3/2 ระบกุ ารใช ความสาํ คัญตอการดํารงชีวิต สังเกต ทรัพยากรธรรมชาติที่กอใหเ กิด ปญหาสงิ่ แวดลอ ม ในทองถ่นิ ของมนษุ ย ใช ทรัพยากรธรรมชาติในทองถ่นิ เพือ่ ประโยชนตอการดํารงชวี ติ ทาํ อะไร ตง้ั คาํ ถาม วางแผน สงั เกต สาํ รวจและจดั กลุม ชนดิ ของ ทรัพยากรธรรมชาติท่สี ําคัญ ใน ทอ งถิ่น รวบรวมขอ มลู และ บนั ทกึ ผลการสาํ รวจ อภิปราย แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั การใชป ระโยชนของ ทรัพยากรธรรมชาติ นาํ เสนอ ดวยวาจา
งาน สมรรถนะสําคัญ คุณลักษณะของวิชา คุณลกั ษณะ อันพึงประสงค รู 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน 1. ใฝเ รียนรู สือ่ สาร 2. ความสนใจ 2. มุงม่นั ในการทาํ งาน 3. มวี ินยั นและ 2. ความสามารถในการ ผลการ แกปญหา
มาตรฐานและตวั ชี้วดั รูอะไร ทําอะไร ภาระงาน/ชิน้ มาตรฐาน ว 2.2 เขาใจ รูอะไร 1. ศกึ ษาใบความร ความสาํ คัญของทรัพยากร มนุษยตองชวยกันดูแลและรูจัก 2. ทําใบกจิ กรรม ธรรมชาติ การใชทรพั ยากร ใชทรัพยากรธรรมชาติอยาง 3. นาํ เสนอผลงาน ธรรมชาตใิ นระดบั ทองถน่ิ ประหยัดและคุมคา เพื่อใหมี คาํ ถามใหมจ ากผล ประเทศ และโลกนําความรู การใชไ ดน านและยัง่ ยืน ไปใชใ นในการจัดการ ทรพั ยากรธรรมชาติ และ ทําอะไร สง่ิ แวดลอ มในทองถ่นิ อยา ง ตั้งคําถาม วางแผนการสืบคน ย่งั ยืน สืบคนขอมูล บันทึกขอมู ล มฐ ว 2.2 ป.3/3 อภปิ ราย อ ภิ ป ร า ย แ ส ด ง ค วา ม คิ ด เ ห็ น และนาํ เสนอการใช รวบรวมขอมูลจากกลุม สรุป ทรพั ยากรธรรมชาติ อยาง แ ล ะ กํ า ห น ด แ น วท า ง ก า ร ใ ช ประหยดั คมุ คา และมีสว น ทรั พยากรธรรมชาติ อย าง รวมในการปฏิบตั ิ ประหยดั คมุ คา และยั่งยืนและ นาํ เสนอผลงาน
นงาน สมรรถนะสําคัญ คณุ ลักษณะของวิชา คณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค รู 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน 1. ใฝเรยี นรู สื่อสาร 2. ความสนใจ 2. มงุ ม่นั ในการทํางาน 3. มีวนิ ัย นและตัง้ 2. ความสามารถในการ ลการสังเกต แกป ญ หา
การวิเคราะหม าต วิชา วิทยาศาสตร รหัส ว13101 ชื่อหน ชน้ั ประถมศ มาตรฐานและตัวชีว้ ัด รอู ะไร ทําอะไร ภาระ ว3.1 ป3/1 จําแนกชนิดและ รอู ะไร 1. ศกึ ษา สมบตั ิของวัสดุท่เี ปน สวนประกอบของของเลน - ของเลนของใชอาจมสี วนประกอบหลาย 2. ทาํ ใบ ของใช ว3.1 ป3/2 อธิบายการใช สวน และอาจทําจากวัสดุหลายชนิดซ่ึงมี 3. นาํ เส ประโยชนของวัสดแุ ตละชนิด สมบตั แิ ตกตางกัน ว3.2 ป3/3 ทดลองและ - วัสดแุ ตละชนิดมีสมบัติแตกตางกันจึงใช ตงั้ คาํ ถา อธิบายผลของการ ประโยชนไ ดต า งกัน การสังเก เปลีย่ นแปลงทีเ่ กิดขึ้นกบั วัสดุ เมื่อถูกแรงกระทํา หรอื ทําให - เมื่อมีแรงมากระทํา เชน การบีบ บิด รอ นขนึ้ หรอื ทาํ ใหเย็นลง ว3.2 ป3/2 อภิปราย ทุบ ดัด ดึง ตลอดจนการทําใหรอนข้ึน ประโยชนและอนั ตรายท่อี าจ เกิดข้ึน เน่ืองจากการ หรือทําใหเย็นลงจะทําใหวัสดุเกิดการ เปล่ยี นแปลงของวัสดุ เปล่ียนแปลงรูปรางลักษณะหรือมีสมบัติ แตกตางไปจากเดมิ - การเปล่ียนแปลงของวัสดุอาจนํามาใช ประโยชนหรอื ทําใหเกิดอนั ตรายได - การออกแรงกระทําตอวัตถุแลวทําให วัตถุเปล่ียนแปลงการเคลื่อนที่ โดยวัตถุท่ี หยุดน่ิงจะ เคลื่อนท่ีและ วัตถุที่กําลัง เคลื่อนที่จะเคลื่อนที่เร็วขึ้นหรือเคล่ือนที่ ชา ลงหรือหยุดเคล่ือนทีห่ รือเปลี่ยนทศิ ทาง
ตรฐานและตัวช้ีวัด นว ย สมบัติและการเปลีย่ นแปลงของสาร ศึกษาปที่ 3 ะงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสาํ คัญ คุณลักษณะของวิชา คุณลกั ษณะ อันพึงประสงค าใบความรู 1. ความสามารถใน 1. ความกระตือรือรน 1. ใฝเ รียนรู บกิจกรรม การสือ่ สาร สนอผลงานและ 2. ความสามารถใน 2. ความสนใจ 2. มงุ มนั่ ในการทาํ งาน ามใหมจ ากผล การแกป ญหา กต 3. มีวินัย
- วัตถุตกสูพ้ืนโลกเสมอเนื่องจากแรงโนม ถวงหรือแรงดึงดูดของโลกกระทําตอวัตถุ และแรงน้คี อื น้าํ หนักของวตั ถุ ทําอะไร - จาํ แนกชนดิ และสมบัติของวัสดุทเี่ ปน สวนประกอบของของเลน ของใช - อธิบายการใชประโยชนของวัสดุ - ทดลองและอธิบายผลของการ เปลี่ยนแปลงท่ีเกดิ ขนึ้ กับวสั ดุ ประโยชน และอนั ตรายทอ่ี าจเกิดขน้ึ เนอ่ื งจากการ เปลย่ี นแปลงของวัสดุ
การวเิ คราะหม าต วิชา วทิ ยาศาสตร รหัสวิชา ว13101 ช ชนั้ ประถมศ มาตรฐานและตวั ช้ีวัด รูอ ะไร ทาํ อะไร ว4.1 ป3/1 ทดลองและ รูอ ะไร อธิบายผลของการออกแรงท่ี - การออกแรงกระทําตอวัตถุแลวทําใหวัตถุ กระทาํ ตอ วตั ถุ เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนท่ี โดยวัตถุท่ีหยุดน่ิงจะ ว4.1 ป3/2 ทดลองการตก เคลื่อนท่ีและวัตถุที่กําลังเคล่ือนท่ีจะเคลื่อนที่เร็วขึ้น ของวัตถสุ ูพื้นโลก และอธบิ าย หรือเคล่ือนที่ชาลงหรือหยุดเคลื่อนที่หรือเปลี่ยน แรงทีโ่ ลกดึงดูดวัตถุ ทิศทาง ว4.1 ป3/1 บอกแหลง - วัตถุตกสูพ้ืนโลกเสมอเนื่องจากแรงโนมถวงหรือแรง พลังงานธรรมชาติทใี่ ชผ ลิต ดึงดูดของโลกกระทําตอวัตถุ และแรงนี้คือน้ําหนัก ไฟฟา ของวัตถุ ว5.1 ป3/2 อธบิ าย - การผลิตไฟฟาใชพลังงานจากแหลงพลังงาน ความสาํ คญั ของพลังงาน ธรรมชาติ ซ่ึงบางแหลงเปนแหลงพลังงานที่มีจํากัด ไฟฟาและ เสนอวธิ ีการใช เชน นํ้ามัน แกสธรรมชาติ บางแหลงเปนแหลง ไฟฟาอยางประหยัดและ พลังงานท่หี มุนเวียน เชน นํ้า ลม ปลอดภยั -พลังงานไฟฟามีความสําคัญตอชีวิตประจําวัน เชน เปนแหลงกําเนิดแสงสวาง จึงตองใชไฟฟาอยาง ประหยัด เชน ปดไฟเมื่อไมใชงาน รวมท้ังใชไฟฟา อยางปลอดภัย เชน เลือกใชอุปกรณตาง ๆ ท่ีมี มาตรฐาน
ตรฐานและตัวช้วี ัด ชอ่ื หนว ย การเคลอ่ื นท่ขี องพลงั งานไฟฟา ศกึ ษาปท ี่ 3 ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสําคัญ คณุ ลกั ษณะของวิชา คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค 1. ศึกษาใบความรู 1. ความสามารถใน 1. ความกระตือรือรน 1. ใฝเรยี นรู 2. ทําใบกิจกรรม 2. มุงม่นั ในการ 3. ทดลอง การสอื่ สาร 2. ความสนใจ ทํางาน 4. นาํ เสนอผลงาน 3. มีวนิ ยั และตง้ั คําถามใหม 2. ความสามารถใน จากผลการสงั เกต การแกป ญหา
ทาํ อะไร - ทดลองและอธบิ ายผลของการออกแรงท่ีกระทาํ ตอ วตั ถุ การตกของวัตถสุ ูพ้ืนโลก และอธบิ ายแรงท่ี โลกดงึ ดูดวตั ถุ - บอกแหลงพลังงานธรรมชาตทิ ใี่ ชผลติ ไฟฟา - อธบิ ายความสาํ คญั ของพลังงานไฟฟาและ เสนอ วธิ กี ารใชไฟฟา อยางประหยัดและปลอดภยั
การวเิ คราะหมาต วชิ า วิทยาศาสตร รหสั ว 13 ชัน้ ประถมศ มาตรฐานและตัวชว้ี ดั รอู ะไร ทําอะไร ว6.1 ป3/1 สํารวจและ รอู ะไร อธบิ ายสมบัตทิ างกายภาพ - น้าํ พบไดท ัง้ ท่ีเปนของเหลว ของแขง็ และแกส นาํ้ ของนาํ้ จากแหลงนํา้ ใน ละลายสารบางอยา งได นํา้ เปลี่ยนแปลงรปู รางตาม ทองถน่ิ และนาํ ความรูไปใช ภาชนะทบ่ี รรจุ และรกั ษาระดับในแนวราบ ประโยชน - คุณภาพของน้าํ พิจารณาจาก สี กลิ่น ความ ว6.1 ป3/2 สบื คน ขอ มลู และ โปรง ใสของนํ้า อภิปรายสว นประกอบของ - นาํ้ เปนทรพั ยากรธรรมชาติที่มคี วามจําเปนตอชวี ติ อากาศและความสาํ คัญของ ทงั้ ในการบริโภค อุปโภค จึงตองใชอยา งประหยัด อากาศ - อากาศประกอบดวย แกสไนโตรเจน แกส ว6.1 ป3/3 ทดลองอธบิ าย ออกซเิ จน แกส คารบ อนไดออกไซดและ แกส อน่ื ๆ การเคลือ่ นทีข่ องอากาศทม่ี ี รวมทัง้ ไอนาํ้ และฝุนละออง ผลจากความแตกตางของ - อากาศมีความสําคญั ตอการดํารงชวี ติ สิง่ มีชวี ิตทุก อณุ หภมู ิ ชนิดตองใชอากาศในการหายใจ และอากาศยังมี ว7.1 ป3/3 สงั เกต และ ประโยชนในดา นอ่ืนๆ อกี มากมาย อธิบายการขึน้ ตกของดวง - อากาศจะเคลื่อนจากบริเวณที่มอี ุณหภูมิต่ําไปยัง อาทติ ย ดวงจนั ทร การเกิด บริเวณทีม่ ีอณุ หภูมิสงู กวา โดยอากาศท่ีเคลื่อนทใ่ี น กลางวันกลางคืน และการ แนวราบทําใหเกดิ ลม กําหนดทิศ - โลกหมนุ รอบตัวเองทําใหเ กดิ ปรากฏการณต อไปนี้
ตรฐานและตัวช้ีวัด 3101 ชื่อหนว ย รอบรูเร่อื งโลก ศึกษาปที่ 3 ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะสําคญั คณุ ลกั ษณะของวิชา คุณลักษณะ อันพึงประสงค 1. ศึกษาใบความรู 2. ทาํ ใบกจิ กรรม 1. ความสามารถใน 1. ความกระตือรือรน 1. ใฝเ รียนรู 3. ทดลอง 4. นาํ เสนอผลงาน การสอ่ื สาร 2. ความสนใจ 2. มงุ มนั่ ในการ และตั้งคําถามใหม จากผลการสงั เกต 2. ความสามารถใน ทาํ งาน การแกปญหา 3. มีวินัย
ทําอะไร - สํารวจและอธบิ ายสมบตั ทิ างกายภาพของน้ําจาก แหลงนาํ้ ในทองถนิ่ และนาํ ความรูไปใชป ระโยชน - สบื คนขอมลู และอภิปรายสวนประกอบของ อากาศและความสําคัญของอากาศ - ทดลองอธิบายการเคลื่อนที่ของอากาศที่มีผลจาก ความแตกตางของอุณหภูมิ - อธิบายการข้ึนตกของดวงอาทิตย ดวงจนั ทร การเกดิ กลางวันกลางคืน และการกาํ หนดทศิ
การวัดและกา วิชา วิทยาศาสตร ช่ือหนวย กา ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 3 เปาหมาย ภาระงาน/ชนิ้ งาน สาระสําคญั - ใบงาน - ตร - สงั ส่ิงมีชวี ติ ทุกชนิดจะมีลกั ษณะภายนอกท่ีปราก - แบบทดสอบ กลุม คลายคลึงกับพอแมของสงิ่ มชี วี ิตชนดิ นัน้ ลกั ษณะ - นาํ เสนองาน ภายนอกที่คลายคลึงกันของพอแมกับลกู เปนการ ถายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ซ่ึงมนษุ ยน ําความรู ทไี่ ดเ กย่ี วกับการถายทอดลักษณะทางพันธกุ รรมมา ใชป ระโยชน ในการพฒั นาสายพนั ธขุ องพืชและสัตว สง่ิ มชี วี ติ ทีไ่ มสามารถปรับตัวใหเขากบั สภาพแวดลอม ท่เี ปลี่ยนแปลงไปได ก็จะสญู พันธุไปในท่สี ุด สงิ่ มีชวี ติ ทส่ี ามารถปรบั ตวั เขา กบั สภาพแวดลอม ที่ เปลี่ยนแปลงไปได จะสามารถอยรู อดและดํารงพนั ธุ ตอไป
ารประเมินผล ารถายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม 3 (จํานวน 15 ชั่วโมง) วธิ วี ดั เครอ่ื งมือวดั เกณฑก ารใหค ะแนน คะแนน รวจใบงาน - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง งเกตกระบวนงาน - แบบประเมนิ กระบวนงาน - การนาํ เสนอ ม การนาํ เสนองาน กลมุ การนําเสนอ - กระบวนงานกลุม 18 คะแนน ผานรอยละ 70 ขึน้ ไป
การวัดและกา วชิ า วิทยาศาสตร ชอ่ื หนวย สม ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 3 เปา หมาย ภาระงาน/ช้ินงาน สาระสําคัญ - ใบงาน - ตร - สงั ส่ิงแวดลอมหมายถงึ ส่งิ ที่อยูรอบๆ ตวั เรามีทง้ั - แบบทดสอบ กลุม สง่ิ มชี วี ติ และสิ่งไมมชี วี ิต ส่งิ มชี ีวติ มคี วามสมั พันธก บั - นาํ เสนองาน สงิ่ แวดลอ มทง้ั กบั สิ่งมชี วี ิตดวยกันและกับ สงิ่ ไมม ชี วี ิต- ดิน หนิ นํา้ อากาศ ปาไม สัตวปา และแรจ ัดเปน ทรัพยากร ธรรมชาตทิ ี่มีความสําคัญ มนุษยใชท รัพยากรธรรมชาตใิ นทอ งถิน่ เพอื่ ประโยชนตอการดํารงชีวติ - มนุษยนํา ทรพั ยากรธรรมชาติมาใชอยา งมากมายจงึ สงผล กระทบตอ ส่งิ แวดลอมในทองถน่ิ มนษุ ยต องชวยกนั ดูแลและรจู กั ใช ทรพั ยากรธรรมชาติอยา ง ประหยัดและคมุ คา เพ่ือใหมีการใชไ ดนานและ ยงั่ ยืน
ารประเมินผล มบตั แิ ละการเปลีย่ นแปลงของสาร 3 (จํานวน 12 ช่ัวโมง) วิธวี ัด เครื่องมอื วัด เกณฑก ารใหคะแนน คะแนน รวจใบงาน - แบบประเมินใบงาน - การทดลอง งเกตกระบวนงาน - แบบประเมนิ กระบวนงาน - การนาํ เสนอ ม การนําเสนองาน กลมุ การนาํ เสนอ - กระบวนงานกลมุ 18 คะแนน ผา นรอยละ 70 ขึน้ ไป
การวัดและกา วชิ า วทิ ยาศาสตร ช่ือหนว ย ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี 3 เปา หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน สาระสําคัญ - ใบงาน - ตร - สัง ก า ร อ อ ก แร ง ก ร ะ ทํ า ต อ วั ต ถุ แ ล วทํ า ให วั ต ถุ กลมุ เปลย่ี นแปลงการเคลื่อนที่ โดยวัตถทุ หี่ ยุดนิ่งจะเคล่ือนท่ี และวัตถุท่ีกําลังเคล่ือนที่จะเคล่ือนที่เร็วขึ้นหรือ เคล่ือนทชี่ า ลงหรอื หยุดเคลื่อนท่ีหรือเปล่ยี นทศิ ทาง วัตถุตกสูพ้ืนโลกเสมอเน่ืองจากแรงโนมถวงหรือแรง ดึงดดู ของโลกกระทําตอวัตถุ และแรงน้ีคือนํ้าหนักของ วัตถุ การผลิตไฟฟาใชพลังงานจากแหลงพลังงาน ธรรมชาติ ซึ่งบางแหลงเปน แหลงพลังงานท่ีมีจํากัด เชน น้ํามัน แกสธรรมชาติ บางแหลงเปนแหลงพลังงานที่ หมุนเวียน เชน นํ้า ลม พลังงานไฟฟามีความสําคัญตอชีวิตประจําวัน เชน เปนแหลงกําเนิดแสงสวาง จึงตองใชไฟฟาอยาง ประหยัด เชน ปดไฟเมื่อไมใชงาน รวมท้ังใชไฟฟา อยางปลอดภัย เชน เลือกใชอุปกรณตาง ๆ ที่มี มาตรฐาน
ารประเมนิ ผล การเคล่ือนท่ีของพลังงานไฟฟา 3 (จํานวน 18 ช่ัวโมง) วธิ วี ดั เครื่องมือวัด เกณฑก ารใหค ะแนน คะแนน รวจใบงาน - แบบประเมินใบงาน - การทดลอง งเกตกระบวนงาน - แบบประเมินกระบวนงาน - การนาํ เสนอ ม กลุม - กระบวนงานกลุม 18 คะแนน ผานรอ ยละ 70 ขน้ึ ไป
การวัดและกา วิชา วิทยาศาสตร ช่ือหนว ย ช้นั ประถมศึกษาปที่ 3 เปาหมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน สาระสําคญั - ใบงาน - ตร - ตร นํ้าพบไดท้ังท่ีเปนของเหลว ของแข็งและแกส น้ํา - แบบทดสอบ - สัง กลมุ ละลายสารบางอยางได น้ําเปลี่ยนแปลงรูปรางตาม - ทดลอง ภาชนะทบ่ี รรจุ และรักษาระดบั ในแนวราบ - นาํ เสนองาน คุณภาพของน้ําพิจารณาจาก สี กลิ่น ความโปรงใส ของน้ํา นํ้าเปนทรัพยากรธรรมชาติที่มีความจําเปนตอ ชวี ติ ทัง้ ในการบรโิ ภค อปุ โภค จงึ ตอ งใชอ ยา งประหยัด อากาศประกอบดวย แกสไนโตรเจน แกส ออกซิเจน แกสคารบอนไดออกไซดและ แกส อื่น ๆ รวมท้ังไอน้ํา และฝนุ ละออง อากาศมีความสําคัญตอการดํารงชีวิต สิ่งมีชีวิตทุก ชนิดตองใชอากาศในการหายใจ และอากาศยังมี ประโยชนในดานอืน่ ๆ อีกมากมาย อากาศจะเคลื่อนจากบริเวณท่ีมีอุณหภูมิต่ําไปยัง บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกวา โดยอากาศท่ีเคลื่อนที่ใน แนวราบทําใหเกดิ ลม โลกหมุนรอบตวั เองทาํ ใหเ กดิ ปรากฏการณต อ ไปน้ี
ารประเมนิ ผล การเคล่อื นท่ีของพลังงานไฟฟา 3 (จาํ นวน 18 ชั่วโมง) วธิ ีวดั เครื่องมอื วัด เกณฑก ารใหค ะแนน คะแนน รวจใบงาน - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง รวจผลการทดลอง - แบบประเมนิ กระบวนงาน - การนําเสนอ งเกตกระบวนงาน กลุม - กระบวนงานกลุม ม การนาํ เสนองาน - การนําเสนองาน 15 คะแนน ผานรอ ยละ 70 ขน้ึ ไป
การวัดและกา วิชา วิทยาศาสตร ช่ือหนว ย ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 3 เปาหมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน - ตร - สัง สาระสําคญั - ใบงาน กลมุ ปรากฏการณข ึน้ ตกของดวงอาทติ ยแ ละดวงจันทร - แบบทดสอบ การเกิดกลางวันและกลางคนื โดยดานทหี่ นั รับ - นาํ เสนองาน แสงอาทติ ยเปน เวลากลางวันและดา นตรงขา มท่ีไมไ ด รบั แสงอาทติ ยเ ปนเวลากลางคืน
ารประเมนิ ผล การเคล่อื นที่ของพลังงานไฟฟา 3 (จํานวน 18 ช่ัวโมง) วิธีวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑก ารใหค ะแนน คะแนน รวจใบงาน - แบบประเมินใบงาน - การนําเสนอ งเกตกระบวนงาน - แบบประเมนิ กระบวนงาน - กระบวนงานกลุม 3 คะแนนผาน ม การนาํ เสนองาน กลมุ รอ ยละ 70 - การนาํ เสนองาน ขึน้ ไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: