1.7 แผนวิทยาศาสตร์ ป.5 หน่วยที่ 1-5

วิเคราะหวา พืชใบเลยี้ งเดี่ยวมีลักษณะ อยางไร 6. ครูตรวจสอบความถูกตองและ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ในสว นท่ีแตกตาง 7. ครตู รวจสอบผลนกั เรยี นจาก การทาํ ใบงานที่ 4.4 และจากการ วิเคราะหลักษณะของพชื ใบเลี้ยงเด่ียว ขนั้ สรปุ 1. นกั เรียนตอบคาํ ถามกระตนุ ความคิด

วช-ร 05 แผนการจดั การเรยี นรู ช่ือหนวยการเรียนรูท ี่ 4 เรอ่ื ง ความหลากหลายของพืช แผนการสอนที่ 5 เรื่อง พชื ใบเลี้ยงคู รายวชิ า วิทยาศาสตร ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี 5 รหสั วิชา ว15101 ครูผูส อน นางอมลสริ ิ คําฟู ตาํ แหนง พนักงานราชการ เวลาทีใ่ ช 4 ช่วั โมง ตัวชี้วดั / ความรู ภาระงาน/ การวดั และ กิจกรรมการเรียนรู สือ่ /แหลง ผลการ ช้นิ งาน ประเมินผล เรยี นรู เรยี นรู ว1.2 ป5/4 พืชใบ 1. ใบงานท่ี 1. ตรวจใบงานท่ี ขั้นนําเขา สบู ทเรียน 1. ใบความรู ระบลุ กั ษณะ เลย้ี งคู เปน 4.5 เรื่อง 4.5 เรอ่ื ง พืชใบ 1. ครสู มุ นกั เรยี น 2-3 คน อธบิ าย 2. ใบงานที่ ของพชื ดอก พืชท่ีมีใบ พชื ใบเลี้ยงคู เลี้ยงคู ลักษณะของพชื ใบเลยี้ งเดีย่ ว 4.5 เร่อื ง พชื ทเ่ี ปนพืชใบ เลย้ี งงอก 2. สงั เกต 2. ครูถามนกั เรียนวา นักเรียนคิดวา ใบเลี้ยงคู เล้ียงเดี่ยว ออกมาจาก พฤติกรรมการ พืชใบเลี้ยงคจู ะมีลักษณะของใบเหมอื น 3. แบบ และพชื ใบ เมลด็ 2 ใบ มี ทาํ งานกลมุ พืชใบเล้ียงเดี่ยวหรอื ไม ประเมินการ เลีย้ งคู โดย ลกั ษณะใบ 3. ประเมินการ นาํ เสนอ ใชลกั ษณะ กวาง และอยู นาํ เสนอผลงาน ข้นั สอน ผลงาน ภายนอก ในแนวนอน 4.ประเมินการ 1. นักเรียนแตล ะคนศกึ ษาความรู 4. แบบ เปนเกณฑ เสนใบเรียง ทํางานกลมุ เร่ือง พืชใบเลีย้ งคู จากใบความรู แลว ประเมินการ ตัวเปน รา งแห 5. ประเมินการ บันทึกความรูท่ไี ดจ ากการศึกษาลงใน ทํางานกลมุ ทํางานรายบคุ คล สมุด 5. แบบ 2. นักเรยี นแตละคนสํารวจพืชใบ ประเมินการ เล้ยี งคทู ี่พบในทองถ่นิ แลว ทาํ งาน บนั ทึกขอมลู ลงในใบงานท่ี 4.5 เร่ือง พชื รายบคุ คล ใบเล้ียงคู 3. นกั เรยี นแตละคนจับคูกบั เพื่อน แลวผลดั กนั เลา ความรูท ไี่ ดจาก การศึกษาและแลกเปลย่ี นใบงานท่ี 4.5 กบั เพื่อนทเ่ี ปน คู เพื่อชว ยกนั ตรวจสอบ ความถูกตอ ง 4. ครสู ุมนักเรยี น 5-6 คน นาํ เสนอ ใบงานท่ี 4.5 หนาชัน้ เรียน เพอ่ื นคน อื่นๆ รวมกันเสนอแนะเพ่มิ เติมในสว นที่ แตกตา ง 5. นักเรยี นตอบคําถามกระตุน ความคดิ ดังนี้ นกั เรียนคดิ วา ใบเลยี้ งมี ความสําคญั อยา งไร (ใบเลย้ี งทาํ หนาท่ี สะสมอาหารสําหรบั การเจรญิ เตบิ โตของ ตนออ น)

ขน้ั สรุป 1. ครูใหนกั เรียนที่มเี ลขทีล่ งทาย ดว ย 3 สรปุ ความรเู กี่ยวกับลักษณะของ พชื ใบเลี้ยงคหู นา ชนั้ เรยี น 2. ครตู รวจสอบความถกู ตอ ง และ อธิบายเพม่ิ เตมิ ในสวนที่บกพรอง

แผนการจัดการเรยี นรู วช-ร 05 ชื่อหนวยการเรยี นรทู ่ี 4 เรื่อง ความหลากหลายของพืช แผนการสอนท่ี 6 เรือ่ ง ความแตกตางของพืชใบเลีย้ งเดยี่ วและ พืชใบเลี้ยงคู รายวชิ า วิทยาศาสตร ชัน้ ประถมศึกษาปที่ 5 รหัสวชิ า ว15101 ครูผูสอน นางอมลสริ ิ คําฟู ตาํ แหนง พนักงานราชการ เวลาทใ่ี ช 3 ชั่วโมง ตัวชวี้ ดั / ความรู ภาระงาน/ การวดั และ กจิ กรรมการเรยี นรู สื่อ/แหลง ผลการ ชน้ิ งาน ประเมินผล เรยี นรู เรียนรู ว1.2 ป5/4 การ 1. ใบงานที่ 1. ตรวจใบงานที่ ข้นั นาํ เขา สูบ ทเรยี น 1. ใบความรู ระบุลักษณะ จําแนกพชื ใบ 4.6 เรอื่ ง 4.6 เรอื่ ง พชื ใบ 1. ครูสมุ นกั เรยี น 2 คน อธิบาย 2. ใบงานท่ี ของพชื ดอก เลีย้ งเดี่ยว พชื ใบเลี้ยง เลี้ยงเด่ยี วและพชื ลกั ษณะของพืชดอกทีเ่ ปนพืช ใบเล้ยี ง 4.6 เรื่อง พชื ที่เปน พืชใบ และพืชใบ เดยี่ วและพชื ใบเลี้ยงคู เดี่ยวและพืชใบเล้ยี งคู พรอมยกตัวอยา ง ใบเลย้ี งเดีย่ ว เลย้ี งเด่ยี ว เลยี้ งคู ใบเลีย้ งคู 2. สงั เกตและ พชื ประกอบ และพชื ใบเล้ียง และพืชใบ สามารถ ประเมิน คู เลย้ี งคู โดย จําแนกได พฤติกรรมการ ขั้นสอน 3. แบบ ใชล ักษณะ โดยการ ทํางานกลุม 1. ครแู จกตน พชื ใหน ักเรียนแตละ ประเมินการ ภายนอก สงั เกต 3.แบบประเมิน กลมุ (กลมุ เดิมจากแผนการจัดการเรยี นรู นาํ เสนอ เปนเกณฑ ลกั ษณะของ การนําเสนอ ที่ 1) กลมุ ละ 2 ตน ผลงาน ราก ลําตน ผลงาน 2. นักเรยี นแตล ะกลุมชว ยกันสงั เกต 4. แบบ และใบที่ 4. ประเมนิ ลักษณะของราก ลาํ ตน และใบของพืช ประเมนิ แตกตางกัน พฤติกรรมการ ทง้ั 2 ตน วา มลี กั ษณะอยางไร พฤติกรรมการ ทํางานกลมุ 3. ครสู ุมนกั เรยี น 5-6 กลุม อธิบาย ทาํ งานกลมุ 5. ประเมิน ผลการสังเกตลักษณะของราก ลาํ ตน 5. แบบ พฤติกรรมการ และใบของพชื ทง้ั 2 ตน ท่หี นาชัน้ เรยี น ประเมิน ทาํ งานรายบุคคล 4. เพ่อื นกลมุ อน่ื ชว ยแสดงความ พฤติกรรมการ คิดเห็นเพ่ิมเติมในสวนท่แี ตกตาง ทาํ งาน 5. นกั เรียนรว มกนั สรปุ วา พชื ท้ัง 2 รายบคุ คล ตน พชื ตนใดเปนพืชใบเลย้ี งเดยี่ วและพืช ตนใดเปน พืชใบเล้ียงคู พรอมกับบอก ลกั ษณะท่ีใชในการจาํ แนก ครูตรวจสอบ ความถกู ตอ ง 6. สมาชกิ แตล ะกลมุ ชว ยกนั ทาํ ใบ งานท่ี 4.6 เรอ่ื ง พืชใบเลี้ยงเด่ียวและพชื ใบเลยี้ งคู ข้นั สรปุ 1. นกั เรียน 5-6 กลมุ นาํ เสนอใบ งานท่ี 4.6 หนาชัน้ เรยี น จากนัน้ ครูและ นักเรียนรว มกนั เฉลยคําตอบในใบงาน

2. นกั เรียนตอบคําถามกระตนุ ความคิด ดงั น้ี การจาํ แนกพืชใบเล้ยี งเดยี่ วและ พชื ใบเล้ยี งคู นอกจากใชจ าํ นวนใบเลี้ยง เสน ใบ ลาํ ตน และระบบรากเปนเกณฑ แลว ยงั สามารถใชลกั ษณะใดจาํ แนกได อกี บาง (เชน การเจริญเติบโตของลําตน ชุดของกลบี ดอก เปนตน )

วช-ร 05 แผนการจดั การเรียนรู ชือ่ หนวยการเรียนรูท ่ี 5 เร่ือง ความหลากหลายของสัตว แผนการสอนท่ี 1 เรอ่ื ง กระดูกสนั หลังของสัตว รายวิชา วิทยาศาสตร ช้ัน ประถมศึกษาปที่ 5 รหสั วิชา ว15101 ครผู ูสอน นางอมลสริ ิ คําฟู ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช 3 ชั่วโมง ตัวชวี้ ดั / ความรู ภาระงาน/ การวดั และ กจิ กรรมการเรียนรู ส่ือ/แหลง ผลการ ชน้ิ งาน ประเมินผล เรยี นรู เรียนรู ว1.2 ป5/5 การ 1. 1. ตรวจ ขั้นนําเขาสูบ ทเรียน 1. ใบความรู จําแนกสตั ว จาํ แนกสัตว แบบทดสอบ แบบทดสอบกอน 1. ครูใหนักเรียนชว ยกนั ยกตัวอยา ง 2. ใบงานที่ ออกเปน เปน กลมุ โดย กอ นเรยี น เรียน หนว ยการ สัตวทพี่ บในบริเวณทองถ่นิ คนละ 1 5.1 เรื่อง กลมุ โดยใช ใชลักษณะ 2. ใบงานท่ี เรยี นรทู ่ี 5 ชนดิ แลว ถามนกั เรียนวา ถาเราจะ กระดูกสันหลัง ลกั ษณะ ภายนอก 5.1 เร่ือง 2. ตรวจใบงานที่ จาํ แนกสัตวอ อกเปน กลุม นกั เรียนจะ ของสตั ว ภายในบาง และลกั ษณะ กระดูกสันหลัง 5.1 เร่อื ง กระดกู จาํ แนกไดอยา งไร และใชเกณฑใดใน 3. ใบงานที่ ลักษณะ ภายในบาง ของสัตว สนั หลังของสตั ว การจําแนก 5.2 เรอ่ื ง สตั ว และ ลักษณะของ 3. ใบงานที่ 3. ตรวจใบงานท่ี 2. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมใหนักเรียนฟง มกี ระดูกสนั ลักษณะ สตั วเ ปน 5.2 เรอ่ื ง สัตว 5.2 เรือ่ ง สตั วมี วา นกั วิทยาศาสตรไ ดจําแนกสตั ว หลงั และสตั ว ภายนอก เกณฑ มีกระดูกสัน กระดูกสนั หลัง ออกเปนกลุม โดยใชลกั ษณะภายนอก ไมม ีกระดูกสัน เปน เกณฑ แบงออกได หลังและสัตว และสตั วไ มม ี และลักษณะภายในบางลกั ษณะเปน หลงั เปนสตั วมี ไมม ีกระดูกสนั กระดูกสนั หลัง เกณฑ ทําใหส ามารถแบงสัตวออกได 4. บัตรภาพ กระดูกสนั หลัง 4. ประเมนิ เปน 2 ประเภท คือ สตั วมีกระดูกสัน 5. แบบ หลงั และ พฤติกรรมการ หลัง และสัตวไมม ีกระดูก สนั หลัง ประเมนิ สัตวไมมี ทาํ งานรายบคุ คล พฤติกรรมการ กระดูกสนั 5. สงั เกตความมี ขั้นสอน ทํางานกลุม หลัง วนิ ัย ใฝเรยี นรู 1. ครอู ธิบายความหมายของคาํ วา 6. แบบ และมงุ ม่นั ในการ กระดูกสันหลัง ใหน กั เรยี นฟง เพือ่ ให ประเมนิ ทาํ งาน นกั เรียนเกิดความเขา ใจที่ถูกตอง พฤติกรรมการ 2. ครแู บงนักเรยี นเปน กลุม กลุมละ ทํางาน 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ รายบุคคล เกง ปานกลางคอนขางเกง ปานกลาง คอ นขางออน และออน แลว ใหแตละ กลมุ ชวยกันทาํ ใบงานท่ี 5.1 เรื่อง กระดูกสนั หลงั ของสตั ว 3. เมอ่ื สมาชิกแตล ะกลมุ ทําใบงานที่ 5.1 เสรจ็ แลว ใหน ําคาํ ตอบในใบงานมา อภิปรายรวมกันภายในกลุมและชวยกัน ตรวจสอบความถูกตอง 4. ตัวแทนกลมุ นาํ เสนอใบงานที่ 5.1 หนา ชัน้ เรียน แลวใหเพอ่ื นกลุมอนื่ ชว ย

แสดงความคดิ เห็นเพิ่มเตมิ ในสวนท่ี แตกตา ง 5. นักเรียนแตละกลมุ ชวยกัน เปรยี บเทียบวา สัตวม ีกระดูก สนั หลงั และสัตวไมม ีกระดูกสันหลงั มี ลักษณะแตกตา งกันอยางไร 6. นักเรยี นตอบคาํ ถามกระตนุ ความคิด ดงั น้ี ชา งเปน สัตวม ีกระดูกสันหลงั ถา ชางไมม ีกระดูกสันหลงั ผลจะเปน อยา งไร (พจิ ารณาตามคาํ ตอบของ นักเรยี น โดยใหอยใู น ดลุ ยพินิจของ ครูผสู อน) 7. นกั เรียนแตล ะกลมุ ชวยกนั ทาํ ใบ งานท่ี 5.2 เรอื่ ง สตั วมีกระดูกสันหลงั และสัตวไมม ีกระดูกสันหลงั 8. ครแู ละนกั เรียนรว มกันเฉลย คาํ ตอบในใบงานที่ 5.2 ขั้นสรปุ 1. นักเรียนรวมกันสรุปความรู เกี่ยวกบั ลักษณะของสตั วม ีกระดกู สนั หลังและสัตวไมมีกระดูกสันหลงั ครู ตรวจสอบความถูกตอ ง

วช-ร 05 แผนการจดั การเรียนรู ชือ่ หนวยการเรียนรทู ี่ 5 เรอื่ ง ความหลากหลายของสตั ว แผนการสอนท่ี 2 เรอ่ื ง ปลา รายวิชา วิทยาศาสตร ชนั้ ประถมศึกษาปที่ 5 รหสั วชิ า ว15101 ครูผูส อน นางอมลสริ ิ คาํ ฟู ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาทใี่ ช 3 ชว่ั โมง ตวั ชว้ี ดั / ความรู ภาระงาน/ การวัดและ กิจกรรมการเรียนรู สอื่ /แหลง ผลการ ชิ้นงาน ประเมินผล เรยี นรู เรยี นรู ปลาเปน 1. ใบงานที่ 1. ตรวจใบงานที่ ขั้นนาํ เขา สูบทเรียน 1. ใบความรู ว1.2 ป5/5 สตั วท ม่ี ี 5.3 เร่อื ง จาํ แนกสัตว กระดูกสัน ลักษณะ 5.3 เรอ่ื ง ลกั ษณะ 1. ครเู ปด วดิ โี อสารคดีเกยี่ วกบั ปลา 2. ใบงานท่ี ออกเปน หลัง ซ่งึ สาํ คญั ของ กลุม โดยใช แกนกลางของ ปลา สําคญั ของปลา ใหนักเรียนดู แลวใหน กั เรยี นชวยกัน 5.3 เร่อื ง ลักษณะ ลําตวั ปลามี ภายในบาง กระดูกท่ตี อ 2. สังเกต บอกวา ในสารคดนี ั้นมีปลาอะไรบา ง ลกั ษณะสําคัญ ลักษณะ กันเปนขอๆ และ อยภู ายใน พฤติกรรมการ 2. ครูจดช่ือปลาทนี่ ักเรียนบอกบน ของปลา ลกั ษณะ รา งกาย ภายนอก ทํางานรายบคุ คล กระดาน แลวใหน ักเรียนอธบิ ายวา ปลา 4. แบบ เปน เกณฑ 3. สงั เกตความมี ที่นักเรียนเห็นแตล ะชนิดนนั้ มีลกั ษณะ ประเมิน วนิ ัย ใฝเ รียนรู อยา งไรบาง พฤติกรรมการ และมงุ ม่นั ในการ ทํางานกลมุ ทาํ งาน ขัน้ สอน 5. แบบ 4. ประเมิน 1. ครอู ธบิ ายใหน ักเรียนฟงวา ปลา ประเมนิ พฤติกรรมการ เปนสตั วน าํ้ มที ้งั ที่อาศยั อยใู นนํ้าจืดและ พฤติกรรมการ ทาํ งานกลุม น้ําเค็ม ซ่ึงปลาจะเคล่ือนที่ไดทกุ ทิศทาง ทํางาน 5. ประเมิน การเคลือ่ นท่ีของปลาจะเกิดจากการ รายบุคคล พฤติกรรมการ ทํางานของกลามเนอื้ รวมทัง้ การพัด 4. บัตรภาพ ทาํ งานรายบุคคล โบกไปมาของครบี ที่อยตู ามสวนตางๆ ของรา งกาย 2. นกั เรียนกลมุ เดิม (จากแผนการ จดั การเรียนรูท่ี 1) รว มกันศกึ ษาความรู เรื่อง สัตวม กี ระดูกสันหลงั ประเภทปลา จากใบความรู 3. นักเรียนตอบคําถามกระตนุ ความคดิ 4. สมาชกิ ในกลุมจบั คูกันเปน 2 คู ใหแ ตล ะคชู ว ยกนั ทาํ ใบงานท่ี 5.3 เรื่อง ลกั ษณะสาํ คัญของปลา 5. สมาชิกแตละคูกลบั กลุมเดมิ (4 คน) แลว ผลดั กันอธบิ ายคําตอบในใบ งานท่ี 5.3 ใหสมาชกิ อกี คูห นึง่ ภายใน กลุมฟง และชว ยกนั เพิ่มเตมิ ในสวนท่ี แตกตา ง

6. ครูสุมนกั เรียน 5-6 กลมุ นาํ เสนอใบงานท่ี 5.3 หนาช้นั เรียน ครู ตรวจสอบความถูกตอ งและเสนอแนะ เพมิ่ เติมในสวนที่ ขน้ั สรปุ 1. ครแู ละนกั เรียนรว มกนั สรปุ ความรเู กยี่ วกับลักษณะสําคัญ ของสัตว มกี ระดูกสันหลังประเภทปลา

วช-ร 05 แผนการจัดการเรียนรู ชอ่ื หนวยการเรยี นรทู ่ี 5 เร่ือง ความหลากหลายของสตั ว แผนการสอนท่ี 3 เรือ่ ง สัตวสะเทนิ บก รายวิชา วิทยาศาสตร ชัน้ ประถมศกึ ษาปท่ี 5 รหัสวิชา ว15101 ครูผูสอน นางอมลสริ ิ คําฟู ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาทใ่ี ช 3 ชัว่ โมง ตวั ชี้วัด/ ความรู ภาระงาน/ การวดั และ กิจกรรมการเรยี นรู ส่ือ/แหลง ผลการ ช้นิ งาน ประเมนิ ผล เรยี นรู เรยี นรู ว1.2 ป5/5 สัตว 1. ใบงานที่ 1. ตรวจใบงานท่ี ขัน้ นําเขา สบู ทเรยี น 1. ใบความรู จําแนกสตั ว สะเทินนาํ้ 5.4 เร่อื ง 5.4 เรือ่ ง ลักษณะ 1. ครูใหนกั เรยี นชว ยกนั บอกช่ือ 2. ใบงานท่ี ออกเปน สะเทนิ บก ลกั ษณะ สาํ คัญของสตั ว สตั วสะเทนิ นํ้าสะเทินบกท่ีรูจัก เพื่อ 5.4 เร่ือง กลุม โดยใช เปน สตั วมี สําคัญของ สะเทนิ นํา้ สะเทิน ประเมินความรูเ บ้ืองตน ของนักเรียน ลักษณะสาํ คัญ ลักษณะ กระดูกสนั สัตวส ะเทิน บก 2. ครูนาํ ภาพสตั วม าใหน ักเรียนดู ของสัตว ภายในบาง หลัง ซ่งึ นาํ้ สะเทินบก 2. สังเกตและ แลว ใหนกั เรยี นชวยกันบอกวา สัตวใน สะเทินนาํ้ ลักษณะ แกนกลางของ ประเมิน ภาพใดบางทเี่ ปน สัตวส ะเทินนํ้าสะเทนิ สะเทนิ บก และลกั ษณะ ลําตัวมี พฤติกรรมการ บก 3. แบบ ภายนอก กระดูกทต่ี อ ทาํ งานรายบุคคล 3. ครอู ธบิ ายใหน ักเรียนฟงวา สัตว ประเมนิ การ เปนเกณฑ กนั เปน ขอๆ 3. สงั เกตและ สะเทนิ น้ําสะเทินบกจะออกไขในนาํ้ ทํางาน อยภู ายใน ประเมิน เมอื่ ตัวออนฟก ออกจากไขแลว จะอาศัย รายบคุ คล รางกาย พฤติกรรมการ อยใู นนาํ้ ชวงระยะเวลาหนง่ึ เม่ือโตเปน 4. แบบ ทาํ งานกลุม ตวั เตม็ วัยจะขนึ้ มาอาศยั อยูบนบก มัก ประเมินการ 4. สงั เกตความมี อาศัยอยบู ริเวณที่ชื้นแฉะ ทาํ งานกลมุ วนิ ยั ใฝเรยี นรู 5. บัตรภาพ และมุงมนั่ ในการ ขน้ั สอน ทํางาน 1. นกั เรียนกลุม เดิม (จากแผนการ จัดการเรียนรูท ่ี 1) รวมกนั ศึกษาความรู เร่อื ง สัตวมีกระดกู สันหลงั ประเภทสัตว สะเทินน้าํ สะเทินบก จากใบความรู 2. นักเรยี นตอบคําถามกระตนุ ความคดิ เพราะเหตุใดสตั วสะเทินน้ํา สะเทินบกจึงมักอาศยั อยใู นบรเิ วณทช่ี ้ืน แฉะ (เพราะสตั วสะเทินนา้ํ สะเทินบก เชน กบ คางคก อง่ึ อาง หายใจดว ย ปอดและผวิ หนงั ถา ผวิ หนงั แหง จะมี ผลตอการหายใจ ดงั นนั้ สัตวประเภทนี้ จึงตอ งอาศัยอยใู นบริเวณทีช่ ้ืนแฉะ) 3. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ ใหนักเรยี นฟง วา สตั วส ะเทินนา้ํ สะเทนิ บกจะขุดรเู พือ่

จําศลี เมื่อถงึ ฤดูแลง (ในชว งระหวางฤดู หนาวถึงฤดูรอ น) เพ่ือหนีความแหงแลง ไมใ หผ วิ หนงั แหง ถา หากผวิ หนังแหง สตั วส ะเทินนํา้ สะเทินบกจะตายเพราะ หายใจไมออก เนือ่ งจากแกสออกซิเจน จากอากาศตองละลายไปกบั นํ้าเมือกที่ ผิวหนงั แลว จึงแพรเ ขา สูกระแสเลอื ด 4. สมาชิกแตล ะคนในกลุมทําใบ งานที่ 5.4 เรอื่ ง ลกั ษณะสาํ คัญของสตั ว สะเทนิ นา้ํ สะเทนิ บก 5. สมาชิกแตละคนกลับกลมุ เดิม (4 คน) แลว ผลัดกนั อธิบายคําตอบในใบ งานที่ 5.4 ใหสมาชกิ คนอ่นื ๆ ในกลมุ ฟง ทลี ะคนแบบเลา เร่ืองรอบวง เพอ่ื ชว ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอง 6. ครสู ุมนกั เรยี น 5-6 กลุม นาํ เสนอใบงานท่ี 5.4 หนา ชั้นเรียน ครู ตรวจสอบความถูกตองและเสนอแนะ เพิม่ เติมในสวนที่บกพรอง ขัน้ สรปุ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรุป ความรูเ กี่ยวกบั ลักษณะสําคญั ของสตั ว มีกระดูกสนั หลงั ประเภทสตั วสะเทนิ น้ํา สะเทนิ บก

วช-ร 05 แผนการจดั การเรียนรู ช่อื หนวยการเรียนรทู ี่ 5 เรอื่ ง ความหลากหลายของสัตว แผนการสอนท่ี 4 เรื่อง สัตวเ ลอื้ ยคลาน รายวชิ า วิทยาศาสตร ช้ัน ประถมศกึ ษาปที่ 5 รหสั วชิ า ว15101 ครผู ูสอน นางอมลสริ ิ คําฟู ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาที่ใช 3 ช่วั โมง ตัวช้ีวดั / ความรู ภาระงาน/ การวัดและ กิจกรรมการเรียนรู สื่อ/แหลงเรยี นรู ผลการ ช้ินงาน ประเมินผล เรยี นรู ว1.2 ป5/5 1. ใบงานท่ี 5.5 1. ตรวจใบงานที่ ขน้ั นําเขาสูบทเรียน 1. ใบความรู จําแนก สัตวเ ล้อื ยคลาน เรื่อง ลกั ษณะ 5.5 เรือ่ ง ลกั ษณะ 1. ครูใหน กั เรยี นยกตัวอยาง 2. ใบงานท่ี 5.5 สตั ว เปน สตั วม ี สําคัญของ สาํ คัญของ สตั วเลอ้ื ยคลาน คนละ 1 ชนดิ เรือ่ ง ลกั ษณะ ออกเปน กระดูกสนั หลงั สตั วเ ลื้อยคลาน สตั วเ ล้อื ยคลาน 2. ครูขออาสาสมคั รนักเรียน สําคัญของ กลมุ โดย ซ่ึงทแ่ี กนกลาง 3. สงั เกตและ 1 คน อธิบายเหตุผลวา ทําไม สัตวเ ลือ้ ยคลาน ใชลกั ษณะ ของลําตวั มี ประเมินพฤติกรรม สัตวท ก่ี ลา วมา จึงจดั เปน 3. แบบประเมนิ ภายในบาง กระดูกทตี่ อกัน การทาํ งานกลุม สตั วเ ลือ้ ยคลาน พฤติกรรมการ ลักษณะ เปน ขอๆ อยู 4. สังเกตและ ทาํ งานกลุม และ ภายในรา งกาย ประเมินพฤติกรรม ข้ันสอน 4. แบบประเมนิ ลักษณะ การทํางาน 1. นักเรียนกลมุ เดมิ (จาก พฤติกรรมการ ภายนอก รายบุคคล แผนการจัดการเรียนรูที่ 1) ทํางาน เปน เกณฑ 3. สงั เกตความมี รวมกันศกึ ษาความรเู ร่ือง สัตวมี รายบคุ คล วนิ ัย ใฝเรยี นรู กระดูกสนั หลังประเภท 5. บัตรภาพ และมุงมั่นในการ สัตวเ ล้อื ยคลาน จากใบความรู ทํางาน 2. นกั เรียนแตละกลมุ ชว ยกนั ทําใบงานท่ี 5.5 เรอ่ื ง ลกั ษณะ สําคญั ของสตั วเล้อื ยคลาน โดย แบงหนาท่กี ัน ดังนี้ - สมาชิกคนท่ี 1 หาภาพ และติดภาพใหส มั พนั ธกับหวั ขอท่ี กําหนด - สมาชิกคนท่ี 2 ฟง ข้นั ตอน รวบรวมขอมลู หา แนวทางเสนอแนะในการตอบ คําถาม - สมาชิกคนที่ 3 เขียน ลักษณะสําคญั ของสตั วท ี่กําหนด - สมาชกิ คนที่ 4 ตรวจสอบความถูกตอ งและเขียน เพ่ิมเติมใหค ําตอบมีความสมบรู ณ 3. สมาชิกแตล ะคนในกลุม

หมนุ เวียนเปลย่ี นหนา ทใ่ี นการ เขยี นอธิบายลกั ษณะสําคญั ของ สัตวเลอ้ื ยคลาน จนครบทงั้ 4 ชนดิ 4. เมอื่ นกั เรียนแตละกลุมทํา ใบงานท่ี 5.5 เสรจ็ แลว ใหสง ตวั แทนกลุมนําเสนอใบงานที่หนา ชนั้ เรียน แลว ใหเพอื่ น กลุม อ่ืน ชว ยแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เติมใน สว นท่ีแตกตา ง ครูตรวจสอบ ความถกู ตอง 5. นกั เรยี นตอบคําถาม กระตนุ ความคดิ เตาและจระเข เปนสตั วเ ลื้อย คลายเหมือนกนั แตเมื่อ พิจารณาลักษณะสําคญั ของสตั ว ทั้งสองชนิด จะมีความแตกตา ง กนั อยา งไร (พจิ ารณาตามคําตอบของ นกั เรยี น โดยใหอ ยูใน ดลุ ยพินจิ ของครูผสู อน) ข้ันสรุป 1. ครแู ละนักเรยี นรว มกัน สรปุ ความรเู กีย่ วกับลกั ษณะ สําคัญ ของสตั วม กี ระดกู สนั หลงั ประเภทสัตวเ ลอื้ ยคลาน

วช-ร 05 แผนการจัดการเรยี นรู ช่ือหนวยการเรียนรทู ่ี 5 เรอ่ื ง ความหลากหลายของสัตว แผนการสอนที่ 5 เร่ือง สตั วปก รายวิชา วิทยาศาสตร ชั้น ประถมศึกษาปท่ี 5 รหสั วชิ า ว15101 ครูผูสอน นางอมลสิริ คาํ ฟู ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาที่ใช 3 ชัว่ โมง ตัวชว้ี ัด/ ความรู ภาระงาน/ การวดั และ กจิ กรรมการเรยี นรู ส่ือ/แหลง ผลการ ชิน้ งาน ประเมินผล เรยี นรู เรียนรู ว1.2 ป5/5 สตั วป ก 1. ใบงานท่ี 1. ตรวจใบงานท่ี ขนั้ นําเขา สูบทเรยี น 1. ใบความรู จําแนกสตั ว ทุกชนิด 5.6 เร่ือง 5.6 เรอ่ื ง ลักษณะ 1. ครูถามนกั เรยี นวา ถา พูดถงึ สัตว 2. ใบงานท่ี ออกเปน จัดเปน สัตว ลักษณะ สําคัญของสตั วป ก ปก นักเรียนจะนึกถึงสัตวชนิดใด บาง 5.6 เรอ่ื ง กลมุ โดยใช ท่ีมกี ระดกู สาํ คญั ของ 2. สังเกต แลว ใหน กั เรยี นชวยกันยกตัวอยา งสัตว ลกั ษณะสําคญั ลักษณะ สนั หลัง มีทงั้ สตั วปก พฤติกรรมการ ปก ที่พบในทองถ่ินของนกั เรยี น ของสัตวปก ภายในบาง ชนดิ ทบี่ ินได ทาํ งานรายบุคคล 3. แบบ ลักษณะ และบนิ ไมไ ด 3. สงั เกตความมี ขน้ั สอน ประเมนิ และลกั ษณะ วินัย ใฝเรยี นรู 1. ครอู ธิบายใหน กั เรยี นฟงวา สตั ว พฤติกรรมการ ภายนอก และมงุ มั่นในการ ปก มีหลายชนิด มีทง้ั ชนิดท่บี ินไดและบิน ทาํ งานกลุม เปนเกณฑ ทาํ งาน ไมได 4. แบบประเมนิ 2. นกั เรียนแตละคนศึกษาความรู พฤติกรรมการ เรื่อง สตั วม ีกระดูกสนั หลังประเภทสตั ว ทํางานกลุม ปก จากใบความรู /หอ งสมุด และ แหลง ขอ มูลสารสนเทศ แลวบนั ทึก ความรูที่ไดจ ากการศึกษาลงในสมดุ 3. นักเรยี นแตละคนทําใบงานที่ 5.6 เรือ่ ง ลกั ษณะสําคญั ของสัตวปก 4. นกั เรยี นแตละคนกลบั กลมุ เดมิ (จากแผนการจดั การเรียนรู ที่ 1) แลว ผลดั กันอธบิ ายความรทู ี่ไดจ าก การศกึ ษาและคาํ ตอบในใบงานที่ 5.6 ให สมาชกิ คนอ่ืนๆ ในกลมุ ฟงทลี ะคนและ ชว ยกันตรวจสอบความถกู ตอ งของ คาํ ตอบในใบงาน 5. ครสู ุม นกั เรียน 5-6 กลมุ นําเสนอ ใบงานท่ี 5.6 หนาชัน้ เรยี น ครูตรวจสอบ ความถกู ตองและเสนอแนะเพิ่มเตมิ ใน สวนที่บกพรอ ง

ขนั้ สรุป 1. ครใู หนกั เรยี นแตล ะกลุมรวมกัน แสดงความคดิ เห็นวา การที่ สัตวป ก แต ละชนิดมลี ักษณะของปากแตกตางกนั เปน เพราะอะไร 2. ครเู ฉลยคาํ ตอบใหนกั เรยี นฟงวา เพราะลักษณะการกนิ อาหารของสตั วปก แตล ะชนดิ แตกตา งกัน เชน นกกระทงุ มี ปากที่ใหญ เพือ่ ไวสําหรับชอ นปลาในน้าํ มาเปน อาหาร เปนตน 3. ครูตรวจสอบผลนักเรยี นจากการ ทําใบงานท่ี 5.6 4.นักเรียนตอบคาํ ถามกระตนุ ความคิด

วช-ร 05 แผนการจัดการเรยี นรู ชือ่ หนวยการเรยี นรูท ่ี 5 เรื่อง ความหลากหลายของสตั ว แผนการสอนท6่ี เรือ่ ง สตั วเ ล้ียงลกู ดวยนํ้านม รายวิชา วิทยาศาสตร ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ 5 รหสั วชิ า ว15101 ครูผูส อน นางอมลสริ ิ คําฟู ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาทใ่ี ช 3 ช่ัวโมง ตัวชีว้ ดั / ความรู ภาระงาน/ การวดั และ กจิ กรรมการเรียนรู สอื่ /แหลง ผลการ ช้นิ งาน ประเมนิ ผล เรียนรู เรยี นรู สัตวเ ลยี้ ง 1. ใบงานที่ 1. ตรวจใบงานที่ ข้ันนําเขา สูบ ทเรยี น 1. ใบความรู ว1.2 ป5/5 ลูกดว ย 5.7 เรื่อง จาํ แนกสัตว น้าํ นมทุก การจัดกลมุ 5.7 เร่ือง การจดั 1. ครูนําภาพสตั วม าใหนกั เรยี นดู แลว 2. ใบงานที่ ออกเปน ชนิด จัดเปน สัตวท เ่ี ลยี้ ง กลุม โดยใช สตั วท ่ีมี ลกู ดวย กลุมสตั วท ่ีเล้ียงลกู ใหน กั เรียนชว ยกนั ตอบวา สตั วใ นภาพเปน 5.7 เรือ่ ง การ ลกั ษณะ กระดูกสัน นํา้ นม ภายในบาง หลัง ตัวเมยี ดวยน้ํานม สัตวประเภทใด จัดกลุมสตั วท ี่ ลักษณะ จะมตี อม และ นาํ้ นมไว 2. สังเกต 2. ครูเฉลยคําตอบโดยเชือ่ มโยงใหเ ปน เล้ียงลูกดวย ลักษณะ สําหรบั เลีย้ ง ภายนอก ลูกออน พฤติกรรมการ สตั วเ ลย้ี งลกู ดวยนา้ํ นม แลว สุมนกั เรยี น 1 นาํ้ นม เปน เกณฑ ทาํ งานกลมุ คน อธบิ ายลักษณะของสตั วเ ลี้ยงลกู ดว ย 3. บัตรภาพ 3. สังเกตความมี นํา้ นมท่หี นา ช้นั เรยี น เชน ออกลกู เปนตัว 4. แบบ วินยั ใฝเรียนรู สัตวเ ลยี้ งลกู ดว ยน้าํ นมสวนใหญจ ะอาศยั ประเมินการ และมงุ มน่ั ในการ อยบู นบก เปน ตน ทํางานกลมุ ทาํ งาน ข้ันสอน 1. ครูใหน ักเรียนศึกษาความรูเรือ่ ง สตั วมีกระดูกสันหลงั ประเภทสัตวเลย้ี งลูก ดวยนํ้านม จากใบความรู 2. ครแู ละนกั เรียนรวมกันอภปิ รายวา สตั วเลีย้ งลกู ดวยนํ้านม มลี กั ษณะสาํ คัญ ทแี่ ตกตา งจากสตั วมีกระดูกสันหลัง ประเภทอืน่ อยางไร 3. นกั เรียนตอบคําถามกระตุน ความคดิ เพราะเหตุใด นักวทิ ยาศาสตรจงึ ไม จัดโลมาเปน สัตวจ าํ พวกปลา (เพราะโลมา มลี กั ษณะแตกตา งจากปลา เชน โลมา หายใจดวยปอด และมีตอมนํ้านมสาํ หรับ เลีย้ งลกู สว นสัตวประเภทปลาหายใจดว ย เหงอื กและไมม ีตอมน้าํ นม เปนตน) 4. นักเรียนแตล ะคนทาํ ใบงานที่ 5.7 เรื่อง การจดั กลมุ สตั วท ี่เลี้ยงลูกดวยนา้ํ นม 5. นักเรียนแตล ะคนจับคูกบั เพื่อนแลว ผลัดกนั อธบิ ายคาํ ตอบในใบงานที่ 5.7

ของตนเองใหเพื่อนทีเ่ ปนคฟู ง และชว ยกนั ตรวจสอบความถูกตอง 6. ครสู ุมนกั เรยี น 5-6 คน นาํ เสนอใบ งานท่ี 5.7 หนาชน้ั เรยี น แลวใหเพ่ือนที่ เหลือชวยกันแสดงความคดิ เห็นเพิม่ เติมใน สว นท่แี ตกตา ง ข้ันสรปุ 1. นกั เรยี นชว ยกนั สรปุ ลักษณะสาํ คัญ ของสัตวมีกระดูกสนั หลังประเภทสัตวเ ลี้ยง ลกู ดวยนาํ้ นม ครตู รวจสอบความถูกตอง

วช-ร 05 แผนการจดั การเรียนรู ชอ่ื หนวยการเรยี นรูท่ี 5 เร่อื ง ความหลากหลายของสัตว แผนการสอนท่ี 7 เร่อื ง สัตวไมมกี ระดกู สนั หลัง (1) รายวชิ า วิทยาศาสตร ชัน้ ประถมศกึ ษาปท่ี 5 รหัสวิชา ว15101 ครูผสู อน นางอมลสริ ิ คําฟู ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาท่ีใช 3 ชวั่ โมง ตัวช้ีวัด/ ความรู ภาระงาน/ การวดั และ กจิ กรรมการเรียนรู สือ่ /แหลง ผลการ ช้นิ งาน ประเมินผล เรียนรู เรยี นรู ว1.2 ป5/5 1. ใบงานท่ี 1. ตรวจใบงานท่ี ขัน้ นาํ เขา สบู ทเรียน 1. ใบความรู จาํ แนกสตั ว นกั วิทยาศาสตร 5.8 เรอ่ื ง 5.8 เรือ่ ง สตั วไม 1. ครูนําภาพสตั ว มาใหนกั เรียนดู 2. ใบงานท่ี ออกเปน จาํ แนกประเภท สัตวไ มมี มกี ระดูกสันหลงั แลว ใหนกั เรียนชว ยกันวเิ คราะหวา 5.8 เร่ือง สตั ว กลุม โดยใช ของสัตวไมมี กระดูกสัน (1) สตั วใ นภาพทง้ั หมดเปนสตั วม ีกระดูก ไมมีกระดูกสัน ลักษณะ กระดูกสนั หลัง หลงั (1) 2. ประเมนิ สนั หลังหรือสัตว ไมม ีกระดูกสันหลัง หลัง (1) ภายในบาง ตามลักษณะ พฤติกรรมการ สงั เกตจากอะไร 3. บตั รภาพ ลักษณะ ภายนอกและ ทาํ งานรายบคุ คล ข้นั สอน 4. แบบ และ ลกั ษณะภายใน 3. สงั เกตความมี 1. นักเรยี นกลุมเดิม (จากแผนการ ประเมนิ ลกั ษณะ บางลักษณะ วินัย ใฝเ รยี นรู จัดการเรียนรูท ่ี 1) เรยี กวา กลุมบาน พฤติกรรมการ ภายนอก และมงุ มน่ั ในการ ใหส มาชกิ แตละคนในกลมุ เลอื ก ทํางาน เปนเกณฑ ทํางาน หมายเลขประจาํ ตวั ต้งั แตห มายเลข รายบุคคล 4. แบบสงั เกต 1-4 พฤติกรรมการ 2. สมาชิกทีม่ หี มายเลขเดียวกันมา ทาํ งานกลุม รวมกันเปน กลมุ ใหม เรยี กวา กลมุ ผเู ชี่ยวชาญ แลว รว มกันศกึ ษาความรู เรอ่ื ง สตั วไ มมีกระดูกสันหลัง จากใบ ความรูตามหัวขอท่ีกาํ หนด ดังน้ี - กลมุ หมายเลข 1 ศึกษา ความรูเร่อื ง ฟองนํา้ - กลุมหมายเลข 2 ศึกษา ความรูเร่ือง สัตวท ม่ี ลี ําตัวกลวงหรอื ลําตัวมโี พรง - กลมุ หมายเลข 3 ศึกษา ความรเู ร่ือง หนอนและพยาธิ - กลมุ หมายเลข 4 ศึกษา ความรเู รือ่ ง สตั วท ีม่ ีลาํ ตวั เปน ปลอง 3. สมาชิกกลมุ ผเู ชี่ยวชาญรวมกัน อภปิ รายความรทู ี่ไดจากการศึกษา แลว รว มกนั สรุปสาระสําคัญบันทึกลง ในแบบบนั ทึกการอา น 4. สมาชิกกลมุ ผูเชี่ยวชาญแยก

ยา ยกนั กลับเขาสกู ลมุ บาน แลวใหแ ต ละหมายเลขผลดั กนั เลา ความรูท ี่ได จากการศึกษาใหสมาชิกหมายเลขอืน่ ๆ ในกลมุ บานฟง โดยเรียงลาํ ดบั หมายเลขหรอื ตามความสมัครใจก็ได 5. นักเรียนตอบคําถามกระตนุ ความคดิ 6. สมาชิกแตล ะกลุมชวยกนั ทาํ ใบ งานที่ 5.8 เรอื่ ง สัตวไ มม ีกระดกู สนั หลัง (1) 7. ครูคัดเลอื กตวั แทนกลุม 5-6 กลุม นาํ เสนอใบงานที่ 5.8 หนา ช้นั เรยี น เสรจ็ แลว ครูและนกั เรยี น รวมกันเฉลยคาํ ตอบใน ใบงาน ขนั้ สรปุ 1. นกั เรยี นและครูรวมกันสรปุ ความรูเกี่ยวกบั ลักษณะสําคัญของสัตว ไมม ีกระดูกสนั หลัง

วช-ร 05 แผนการจัดการเรยี นรู ช่อื หนวยการเรียนรทู ี่ 5 เรอ่ื ง ความหลากหลายของสัตว แผนการสอนท่ี 8 เร่ือง สัตวไมม กี ระดูกสันหลงั (8) รายวชิ า วิทยาศาสตร ช้ัน ประถมศกึ ษาปท่ี 5 รหสั วิชา ว15101 ครผู สู อน นางอมลสริ ิ คําฟู ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาท่ีใช 3 ช่วั โมง ตัวช้ีวดั / ความรู ภาระงาน/ การวัดและ กิจกรรมการเรยี นรู สือ่ /แหลง ผลการ ชน้ิ งาน ประเมนิ ผล เรียนรู เรยี นรู ว1.2 ป5/5 1. ใบงานที่ 1. ตรวจใบงานที่ ขน้ั นําเขา สบู ทเรยี น 1. ใบความรู จําแนกสตั ว นักวทิ ยาศาสตร 5.9 เรือ่ ง 5.9 เร่ือง สตั วไ ม 1. ครูใหน ักเรยี นชวยกนั บอก 2. ใบงานท่ี ออกเปน จาํ แนกประเภท สตั วไมมี มกี ระดูกสนั หลงั ลักษณะสาํ คัญของฟองนํ้า แมงกะพรุน 5.9 เรอ่ื ง สัตว กลุม โดยใช ของสตั วไมมี กระดูกสัน (2) และพยาธใิ บไม แลวถามนักเรียนวา ไมมีกระดูกสนั ลักษณะ กระดูกสนั หลงั หลงั (2) 2. สังเกต นอกจากสตั วจาํ พวกนี้แลว ยงั มีสัตว หลัง (2) ภายในบาง ตามลกั ษณะ พฤติกรรมการ จาํ พวกใดอีกบางทีจ่ ัดเปน สัตวไมม ี 3. บัตรภาพ ลกั ษณะ ภายนอกและ ทํางานรายบคุ คล กระดูก สนั หลงั 4. แบบ และ ลกั ษณะภายใน 3. สงั เกตความมี ขน้ั สอน ประเมนิ ลักษณะ บางลักษณะ วินยั ใฝเรียนรู 1. นักเรยี นกลมุ เดมิ (จากแผนการ พฤติกรรมการ ภายนอก และมุง มนั่ ในการ จดั การเรียนรูท่ี 1) รว มกนั ศกึ ษา ทํางานกลมุ เปน เกณฑ ทาํ งาน ความรูเร่ือง สตั วไมม กี ระดูกสันหลัง 5. แบบ 4. แบบสงั เกต จากใบความรตู ามประเดน็ ท่ีกําหนด ประเมิน พฤติกรรมการ ดงั น้ี พฤติกรรมการ ทาํ งานกลมุ 1) สัตวท ะเลผวิ ขรุขระ ทํางาน 5.แบบประเมิน 2) หอยและหมึกทะเล รายบคุ คล การนําเสนอ 3) สตั วท ีม่ ขี าเปนขอ ผลงาน 2. สมาชกิ แตละกลุม นาํ ความรทู ่ี ไดจ ากการศึกษามาอภปิ รายรวมกัน ภายในกลมุ และชวยกันสรุปลักษณะ สําคญั ของสตั ว ไมม ีกระดูกสันหลงั แต ละชนิด 3. สมาชกิ ในกลุม ชว ยกนั สบื คน ขอ มลู เก่ียวกับสตั วไมมกี ระดูกสันหลัง ตามประเด็นที่กําหนด แลว บันทกึ ลงใน ใบงานที่ 5.9 เร่อื ง สัตวไ มมีกระดกู สนั หลงั (2) 4. ตวั แทนกลุมนําเสนอใบงานที่ 5.9 หนา ช้นั เรยี น แลวใหเพ่ือนกลมุ อน่ื ชว ยแสดงความคดิ เห็นเพิม่ เติมในสวน ทีแ่ ตกตาง 5. นักเรยี นแตละกลมุ รวมกัน

แสดงความคดิ เหน็ วา สตั วไ มมีกระดูก สันหลังมลี ักษณะแตกตา งจากสัตวม ี กระดูกสันหลงั อยา งไรบา ง 6. นักเรียนตอบคําถามกระตุน ความคิด นอกจากกระดกู สันหลังของ สตั วท น่ี าํ มาใชเ ปนเกณฑใ นการจําแนก สตั วแลว ยงั สามารถใชเ กณฑใดไดอ ีก บา ง ยกตัวอยาง (พจิ ารณาตามคําตอบ ของนักเรยี น โดยใหอยูใ น ดุลยพนิ ิจ ของครูผูส อน) **ครูมอบหมายใหน กั เรยี นแตละกลุม ชว ยกนั สํารวจสัตวในบริเวณทอ งถิ่น แลว บันทึกขอมลู โดยใหครอบคลมุ ประเด็นตามทีก่ าํ หนด ดังนี้ 1) การจําแนกสัตวอ อกเปน กลุม 2) การจาํ แนกประเภทของ สตั วมกี ระดูกสันหลัง 3) การจาํ แนกประเภทของ สตั วไ มมกี ระดูกสันหลัง ***นกั เรยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว ยการเรียนรูท่ี 6 ขั้นสรปุ 1. นกั เรยี นรว มกนั สรุปความรู เก่ียวกบั ลกั ษณะสาํ คญั ของสตั ว ไมม ี กระดูกสนั หลัง ครตู รวจสอบความ ถูกตอง 2. นักเรยี นแตล ะกลมุ ชวยกนั ทาํ แบบฝกกจิ กรรมและกิจกรรมรวบยอด ที่ 2.3 จากแบบวัดฯ เสร็จแลวนาํ สง ครู