Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book

E-book

Published by st37208, 2019-09-12 01:07:34

Description: E-book

Search

Read the Text Version

คานา หน้า สารบญั ก ประวัติสว่ นตัว ข เน้ือหา 1-3 4-8 บรรณานุกรม ค

วัดศรีโพธชิ์ ยั (แสงภา) ก่อสรา้ งขึ้นราว 400 ปี ผา่ นมา การแห่ต้นดอกไม้ นั้น เริม่ มกี ารแห่มา ตั้งแต่ก่อสร้างวดั แล้วเสร็จเปน็ ต้นมา จวบจนถงึ ปัจจุบันนับเป็นเวลากว่า 400 ปี แลว้ โดยแรกเรมิ่ เดมิ ทีน้นั เกิดจาก ความเชอื่ ว่าการนาดอกไมม้ าบชู าพระ ในวัน สงกรานต์ ซง่ึ ชาวไทยถอื วา่ เป็นวนั ขนึ้ ปใี หม่ น้นั การบชู าพระรตั นตรยั ด้วยดอกไมถ้ ือวา่ เปน็ สงิ่ อนั เป็นมงคล เร่ิมจากการเก็บดอกไม้ ที่มีดอกไม้สดทจี่ ากเปน็ ดอก ก็กลายมาเปน็ ช่อ และพัฒนามาเป็นพานพมุ่ พานบายศรีขนาดเลก็ และขนาดใหญ่ ล และไดพ้ ฒั นาไปจนถงึ การทาโครงสร้างด้วยไม้ ไผ่ เป็นพานพุ่มขนาดเลก็ ใชม้ อื ถอื ทาคนเดยี ว ต่อมาก็เริม่ ใหญ่ขึ้นตอ้ งใช้คนหาม 4 คน

ชาวบา้ นมคี วามเชอื่ ว่า การท่ีได้นาดอกไม้มาบูชาพระ รัตนตรยั นนั้ จะทาให้อยู่ดมี สี ขุ ฝนตกตอ้ งตามฤดกู าล ให้ เรือสวนไรน่ าอุดมสมบูรณ์ บ้านเมอื งมคี วามร่มเยน็ เปน็ สขุ ปราศจากโรค ภยั ไข้ เจบ็ วัว ควาย สัตวเ์ ลยี้ งตา่ งๆ ขยายดอกออกผลสมบูรณ์ เกิดเป็นศิริมงคลแกท่ งั้ ตนเอง ญาติๆ และชาวบา้ นคนอนื่ ๆ เทศกาลแหต่ น้ ดอกไมม้ กี ารแห่ทุกปี เร่ิมจากวนั สรงน้า พระพทุ ธรปู (ช่วงวนั สงกรานต์) เรม่ิ จากวันท่ี 13 เมษายน โดยหลักปฏิบัติแต่ปัจจุบันนจ้ี ะเรม่ิ แห่ต้งั แต่ วันท่ี 14-15-16 เมษายน ติดต่อกัน และจะมีการแหต่ ้น ดอกไม้ทกุ คืนวนั พระ ตลอดเดือนเมษายน ของทกุ ปี การ แห่ตน้ ดอกไม้ของชาวตาบลแสงภา ต้องแหต่ อนกลางคนื ราว 1 ท่มุ - 3 ทุ่ม และตอ้ งมาแห่ท่วี ัดรอบพระอโุ บสถ เทา่ นนั้

สว่ นประกอบหลกั ท้งั 9 อย่าง 1.คาน (ฐานรากใชห้ าม) 2. ขาธนู (สว่ นยึดคาน) 3. ง่าม (เสาของตน้ ดอกไม)้ 4. พ่ง (ตัวรัดมมุ ขนาด) 5. ดวด (สว่ นรดั ลาต้น) 6. แกนกลาง (แกนค้ายัน) 7. ลก้ี (ระแนงสานลาต้น) 8. คนั กลอ่ ง (ส่วนประกอบสาหรบั ร้อยมาลัย) 9. แมงมุม (ส่วนประกอบยอดสงู สุด) ทาต้นดอกไม้ นน้ั จะตอ้ งให้แล้วเสร็จภายในวนั เดยี ว เร่มิ จากตอน เชา้ มดื ชาวบา้ นจะรว่ มกนั ไปตดั ไมไ้ ผ่ที่มีอย่ตู ามหวั ไรป่ ลายนา หรอื บน ภูเขา และนากลบั มาในหมู่บา้ น หลงั จากน้ันชาวบา้ นจะช่วยกนั ประกอบโครงของต้นดอกไม้ เรยี กว่า ฝา่ ยทาต้น สว่ นอีกฝ่ายกจ็ ะหาเกบ็ ดอกไมท้ ีม่ ีตามฤดูกาล รอบๆ บริเวณหมู่บา้ นหรือชมุ ชน แตจ่ ะต้องเปน็ ดอกไม้สดเท่านนั้ จะไมน่ ิยมนาดอกไม้เทียมหรอื ดอกไม้ประดิษฐ์ มาประดับทาต้น ดอกไม้

ก่อนท่จี ะถงึ เวลาแห่ทางวัดจะตกี ลองหลวง (กลองเพล) เพือ่ เปน็ สัญญาณให้คนในชุมชนรู้ว่าใกลเ้ วลาทีจ่ ะถงึ กาหนดแหแ่ ลว้ ทุกคนจะไปรวมกนั ท่วี ัด โดยแบ่งหนา้ ท่ี ออกเปน็ 3 ฝ่าย โดยฝา่ ยที่ 1 เรียกว่า \"ฝ่ายหามต้น ดอกไม\"้ ฝ่ายท่ี 2 เรียกว่า \"ฝ่ายตกี ลอง ฆอ้ ง ฉิง่ ฉาบ แคน พณิ \" และ ฝ่ายที่ 3 เรียกวา่ \"ฝา่ ยแหต่ น้ ดอกไมน้ าหน้า\" โดยจะมีขบวนกลองใหจ้ ังหวะ และตามดว้ ยผู้แห่





7




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook