12 Principles of Multimedia Learning

ด้านท่ี 3 ดา้ นการพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชพี 3.1-3.2 12 หลักการของการเรยี นรมู้ ลั ติมเี ดีย (12 Principles of Multimedia Learning) เรยี บเรยี งโดย นายสมนึก แสนปวน ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหแ์ ม่ฮ่องสอน

12 Principles 1. ทฤษฎีการเรยี นร้มู ลั ติมเี ดีย เป็นทฤษฎอี งค์ความรขู้ องการเรยี นรทู้ ่ีได้รับความนยิ ม จากงานของ Richard E. Mayer และคนอ่ืนๆ การเรียนรูม้ ลั ติมีเดียจะเกดิ ขึน้ เมื่อเราสรา้ งจิตหรือเข้ารหัสเป็นตวั แทนจาก คาพดู และภาพ ทฤษฎกี ารเรยี นรู้มลั ตมิ ีเดยี ท่มี สี ว่ นใหญ่ถกู กาหนดโดยทฤษฎอี งค์ความรู้ของเมเยอร์ การเรียนรู้ มัลตมิ เี ดียโดยทว่ั ไปทฤษฎีทพี่ ยายามท่ีจะแก้ไขปัญหา วธิ ีการ โครงสร้างของการเรียนการสอนมลั ติมีเดยี เพือ่ ใหป้ ระสทิ ธิภาพมากขนึ้ กลวธิ ีทางความรู้ท่จี ะชว่ ยใหผ้ ู้คนได้เรยี นร้ไู ด้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพมากขึน้ ได้แก่ ทฤษฎหี น่วยความจาของ Baddeley ,ทฤษฎรี หัสคู่ของ Paivio และ ทฤษฎีโหลดองค์ความรู้ของ Sweller ทฤษฎตี ่างๆส่วนเป็นสง่ิ หนงึ่ ทีส่ นับสนุน ทฤษฎีการเรยี นร้โู ดยรวมของมัลตมิ ีเดยี ทฤษฎกี ารเรียนรมู้ ลั ติมเี ดีย จงึ สามารถสรปุ ว่ามีองคป์ ระกอบดังตอ่ ไปนี้ 1. โครงสร้าง DualChannel จะมีชอ่ งทางที่มองเห็นและการไดย้ นิ 2. หนว่ ยความจามกี ารประมวลผลท่ีจากัด 3. หนว่ ยความจาประกอบด้วยสามสว่ น (ประสาทสัมผสั ,การทางาน,ระยะยาว) 4. กระบวนการประมวลผลความรู้ ไดแ้ ก่ การเลือก การจดั ระเบียบ บรู ณาการ และการเช่อื มโยง ภาพที่ 1 DualChannel ชอ่ งทางทม่ี องเหน็ และการได้ยนิ และหนว่ ยความจาสามส่วน ทฤษฎีเหตุผลและหลกั ฐานทใ่ี ช้สาหรบั การเรียนการสอนมัลติมเี ดียจึงสง่ิ ทีส่ าคัญ การพิจารณาการ ดาเนนิ การทางทฤษฎีท่ีกลา่ วถงึ จึงเปน็ สิง่ ดี สอดคล้องกบั แนวโน้มในปจั จุบันและทศิ ทางในอนาคต ในการออกแบบงานนาเสนอ PowerPoint, หรอื การพัฒนาหลักสูตรออนไลน์ หรือ ใชว้ ธิ กี าร ห้องเรียนกลบั ด้าน เราอาจพิจารณาวธิ ีการท่ีนกั เรยี นจะมสี ว่ นรว่ มกับสอ่ื ที่เราผลิตข้นึ โดยไม่ต้องมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ กบั ครผู ู้สอนเหมือนแตเ่ ดิม ซง่ึ อาจใชแ้ นวทาง 12 หลักการในการออกแบบการเรียนรูม้ ัลติมีเดียของ Richard E. Mayer เป็นทิศทางในการผลิตสอื่ ไดด้ งั นี้

12 Principles 2. ขอ้ 1 Coherence Principle (หลกั การลดการกลมุ่ กอ้ น) ผ้เู รยี นจะเรยี นไดด้ ีข้ึนเมอ่ื ตดั /ลด ภาพ ขอ้ ความ หรอื เสียงท่ไี มจ่ าเป็นออกไป ไมถ่ กู ต้อง รปู ภาพไม่เก่ยี วข้องมากเกินความจาเป็น ถกู ตอ้ ง เนน้ /ตดั เฉพาะรปู ภาพท่ตี ้องการ

12 Principles 3. ขอ้ 2 Signaling Principle (หลักการเน้นความสาคญั ของเรื่อง) ผู้เรียนจะเรยี นไดด้ ีข้นึ เมอ่ื เน้นหัวเรอื่ งท่ีสาคัญและภาพเท่าที่จาเปน็ ตอ้ งการ เพอ่ื บอกเปน็ แนวทาง/ทิศทางการเรยี นรู้ ไมถ่ กู ตอ้ ง : ไม่มีหวั ขอ้ ทีส่ าคัญของเร่ือง หัวเร่ืองทีส่ าคัญ ถกู ต้อง เนน้ หัวขอ้ ท่ีสาคัญ

12 Principles 4. ขอ้ 3 Redundancy Principle (หลักการลดความซาซอ้ น) ผเู้ รยี นจะเรยี นได้ดีขน้ึ เม่อื มีการเล่าเรอ่ื ง/หรือสอนประกอบภาพ มากกว่าทจ่ี ะมีการเลา่ เรอ่ื ง/หรอื สอนประกอบภาพและข้อความปรมิ าณมากบนจอภาพเพม่ิ อีกช่องทางหน่งึ ไม่ถกู ตอ้ ง สอนประกอบภาพและโดยอ่านข้อความบนจอภาพตามปริมาณมาก ถกู ตอ้ ง ตัดขอ้ ความ สอนประกอบภาพและโดยเลา่ เรื่องราวตามหัวข้อเท่านนั้

12 Principles 5. ข้อ 4 Spatial Contiguity Principle (หลกั การความใกลช้ ิด) ผูเ้ รียนจะเรยี นได้ดขี ึ้นเมื่อ ข้อความและภาพท่ีตอ้ งการนาเสนออยู่ใกลก้ นั มากกว่าทีจ่ ะอยู่ ไกลกันหรอื คนละหน้าหรือในหน้าจอถัดไป ไม่ถูกต้อง ขอ้ ความอยูไ่ กลจากภาพทีต่ อ้ งการนาเสนอ ถูกต้อง ข้อความตรงภาพทต่ี ้องการนาเสนอ

12 Principles 6. ขอ้ 5 Temporal Contiguity Principle (หลกั การการปรากฏตอ่ เน่ือง) ผูเ้ รียนจะเรียนไดด้ ีขนึ้ เม่อื ข้อความและภาพท่ีต้องการนาเสนอ แสดงผลพร้อมๆกนั อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ไม่ถกู ตอ้ ง แสดงขอ้ ความตรงภาพทต่ี ้องการนาเสนอเพียงครั้งแรกครั้งเดียว Slide 1 Slide 2 Slide 3 Slide 4 ถกู ต้อง ภาพทตี่ อ้ งการนาเสนอและการเล่าเรื่องปรากฏไปพร้อมกันทีละขน้ั ตอน

12 Principles 7. ขอ้ 6 Segmenting Principle (หลกั การแบง่ ส่วนยอ่ ย) ผเู้ รียนจะเรยี นได้ดีกวา่ เดมิ จากมลั ตมิ ีเดยี ทม่ี ีการแบ่งเน้อื หาออกเป็นส่วนยอ่ ย มากกว่าที่ จะเรียนเปน็ เน้อื หาใหญ่เนอ้ื หาเดยี ว ไมถ่ กู ตอ้ ง เนือ้ หาการนาเสนอเนอื้ หาปริมาณมากไปในครง้ั เดียว ถกู ต้อง แบ่งเน้ือหาออกเปน็ ส่วนยอ่ ยนาเสนอคร้งั ละ1เร่อื ง

12 Principles 8. ขอ้ 7 Pre-training Principle (หลักการผังมโนภาพ) ผู้เรียนจะเรยี นไดด้ ีกวา่ เดมิ จากมลั ติมีเดียทมี่ ีการนาหรือระบุช่อื ของรายละเอยี ดต่างๆ ใน รปู แบบผงั มโนภาพ ก่อนการเรยี น นาเสนอเนื้อหาคร้ังละ1เรื่อง ปริมาณเนื้อหาท้งั หมด ไมถ่ ูกตอ้ ง เน้อื หาการนาเสนอคร้ังละ1เรอื่ งตามปรมิ าณเนอ้ื หา แต่ไม่มีการชน้ี ากอ่ น ถูกต้อง แสดงให้เห็นผังมโนภาพของเน้ือหาก่อนทาการเรยี น

12 Principles 9. ข้อ 8 Modality Principle (หลักการกริยา) ผู้เรยี นจะเรยี นไดด้ ีจากภาพพร้อมกับการเลา่ เรื่อง มากกวา่ อนิเมช่ันและข้อความทป่ี รากฏ บนจอภาพ ขอ้ ความบรรยายประกอบ ไมถ่ ูกตอ้ ง ผูเ้ รยี นศกึ ษาจากภาพเคลือ่ นไหวและขอ้ ความที่ปรากฏบนจอภาพ ถกู ต้อง ครเู ล่าเรอ่ื ง/สอนพรอ้ มกับรปู ภาพหรือภาพเคล่อื นไหว

12 Principles 10. ขอ้ 9 Multimedia Principle (หลกั การมลั ตมิ เี ดยี ) ผูเ้ รยี นจะเรยี นได้ดีจากภาพพรอ้ มกับคาพูด มากกว่าคาพดู เพียงอยา่ งเดียว ลักษณะของ Tyrannosaurus มีลกั ษณะ ดังน้ี 1....2....3..ฯลฯ ไม่ถกู ตอ้ ง บรรยายโดยใช้เพยี งคาพูดเพยี งอย่างเดียว ลกั ษณะของ Tyrannosaurus มลี กั ษณะ ดงั น้ี 1....2....3..ฯลฯ ถูกตอ้ ง ภาพพรอ้ มกับคาพูด

12 Principles 11. ขอ้ 10 Personalization Principle (หลกั การภาษาสนทนา) ผ้เู รยี นจะเรยี นได้ดีกว่าเดิมจากมัลตมิ เี ดียท่มี ีการใชค้ าพดู ในลักษณะของการสนทนา มากกวา่ เป็นภาษาที่เป็นทางการ ไมถ่ กู ต้อง ใช้ภาษาท่เี ป็นทางการ ถกู ตอ้ ง ใช้คาพูดในลกั ษณะของการสนทนา

12 Principles 12. ขอ้ 11 Voice Principle (หลักการนาเสียง) ผู้เรยี นจะเรยี นได้ดีกว่าเดิมจากมลั ตมิ เี ดียที่มีการเลา่ เรือ่ งโดยใชน้ ้าเสยี งทเ่ี ปน็ ธรรมชาติ/ เปน็ มิตร มากกว่านา้ เสยี งเรยี บๆ/แข็งกร้าว ไม่ถูกต้อง ใช้นา้ เสยี งทเ่ี รยี บๆ/แข็งกรา้ ว ถกู ต้อง ใชน้ า้ เสยี งท่เี ปน็ ธรรมชาติ/เป็นมิตร

12 Principles 13. ขอ้ 12 Image Principle (หลกั การภาพถา่ ย) ผู้เรยี นจะเรียนได้ดีกวา่ เดมิ จากมลั ตมิ เี ดยี เมื่อไม่มภี าพผู้พดู บนจอภาพ ไม่ถกู ต้อง มีภาพผู้พดู ซอ้ นบนจอภาพ ถูกต้อง ไมม่ ภี าพผู้พดู ซอ้ นบนจอภาพ

12 Principles 14. เอกสารอ้างอิง ________________. Cognitive Theory of Multimedia Learning Mayer. [ระบบออนไลน์]. แหล่งท่ีมา http://www.learning-theories.com/cognitive-theory-of-multimedia-learning-mayer.html (11 กรกฎาคม 2563) ________________. Richard_E._Mayer [ระบบออนไลน]์ . แหล่งท่ีมา http://en.wikipedia.org/wiki/Richard_E._Mayer (11 กรกฎาคม 2563) Stephen D. Sorden. The Cognitive Theory of Multimedia Learning [ระบบออนไลน]์ . แหลง่ ทีม่ า http://sorden.com/portfolio/sorden_draft_multimedia2012.pdf (11 กรกฎาคม 2563) ________________. Ten Principles for Multimedia Learning [ระบบออนไลน]์ . แหลง่ ทีม่ า http://ericsnewblog.blogspot.com/ (12 กรกฎาคม 2563) ________________. 12 Principles of Multimedia Learning [ระบบออนไลน]์ . แหลง่ ทมี่ า http://www.teachingprofessor.com/wp-content/uploads/TP2014-Handout-Multimedia- Learning-MultimediaPrinciples.pdf (12 กรกฎาคม 2563) ________________. Design Principles of Multimedia Learning [ระบบออนไลน]์ . แหลง่ ทีม่ า http://www.ebonywaller.com/Module4_ICO.pdf (12 กรกฎาคม 2563)