แบบรายงานผลการปฏิบัติงานครั้งที่ 2 มี.ค.64 - Copy

๑

๒ รายงานผลการปฏิบตั งิ านของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน  ครง้ั ที่ ๑ ( ๑ ตุลาคม ๒๕๖3 - ๓๑ มนี าคม ๒๕๖4 )  ครั้งท่ี ๒ ( ๑ เมษายน ๒๕๖๔ - ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๔) .......................................................................... 1.1 ข้อมูลพื้นฐาน ชือ่ ผู้รับการประเมนิ ว่าที่ร.ต.หญงิ รัชนก บญุ ชัย ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย วิทยฐานะ - เงินเดือน ๑6,33๐ บาท สถานศกึ ษา โรงเรียนวดั ไม้เสียบ สังกดั สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต ๓ สอนระดบั ชนั้ ป.1, ป.2, ป.6 วชิ าทสี่ อน สอนวิชา - คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๑/๒ (๕ ชว่ั โมง) - คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑ (๕ ชวั่ โมง) - คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ (๕ ชั่วโมง) - คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ (๕ ชว่ั โมง) - แนะแนว ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๒/๒ (๑ ชัว่ โมง) - ลูกเสอื – เนตรนารี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ (๑ ช่วั โมง) - กจิ กรรมโฮมรมู ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ (๒ ชั่วโมง ๓๐ นาที) ชัว่ โมงการสอน รวม ๒๔ ชั่วโมง ๓๐ นาที ต่อสปั ดาห์ จำนวนวันลาในรอบการประเมิน 1 วนั ประกอบด้วย (1) ลากจิ 1 วัน คณุ วฒุ ิทางการศกึ ษา วฒุ ปิ ริญญาตรี ครศุ าสตรบัณฑิต (ค.บ.) วชิ าเอก คณติ ศาสตร์ ชอื่ ผู้รบั การประเมนิ ว่าทีร่ อ้ ยตรหี ญิงรชั นก บญุ ชยั ตำแหนง่ ครู โรงเรยี นวัดไมเ้ สยี บ วิทยฐานะ - ตำแหน่งเลขที่ 10417 สถานศกึ ษา/หน่วยงาน โรงเรยี นวดั ไมเ้ สียบ ตำบลเกาะขนั ธ์ อำเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช 80180 1.2 การรับราชการ 1. เร่มิ รบั ราชการในตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย เม่ือวันท่ี 24 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2563

๓ 1.3 ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาการมาปฏิบัตหิ นา้ ทรี่ าชการ (๑ เมษายน 2564 – ๓0 กันยายน 2564) จำนวน รวม ประเภท ครั้ง วนั ครงั้ วนั - มาสาย -- - - 1 ลาป่วย -- - - - ลากจิ 11 1 - ลาอปุ สมบท -- - ลาช่วยเหลอื ภรยิ าท่คี ลอดบุตร - - - ลาคลอด -- - ประวตั ิการศกึ ษา ชอื่ สถานศกึ ษา พ.ศ.การศึกษา ลำดบั ที่ ระดบั การศึกษา โรงเรียน ตชด. บา้ นไร่ยาว 2540 – 2547 ๑ ประถมศึกษา โรงเรียนบางขนั วทิ ยา 2547 – 2550 ๒ มัธยมศกึ ษาตอนต้น โรงเรยี นบางขันวิทยา 2550 – 2553 ๓ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มหาวิทยาลยั ราชภฎั นครศรีธรรมราช 2553 – 2559 ๔ ปริญญาตรี ประวตั ิการทำงาน ๑. เริ่มรับราชการเมื่อ วันที่ 24 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕63 ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ตำแหน่ง เลขที่ 10417 เงินเดือน ๑๕,๘๐๐ บาท โรงเรียนวัดไม้เสียบ ตำบล เกาะขันธ์ อำเภอ ชะอวด จังหวัด นครศรีธรรมราช รหัสไปรษณีย์ ๘๐๑๘๐ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต ๓ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ๒. ปัจจุบันดำรงตำแหนง่ ครูผู้ช่วย ตำแหน่งเลขท่ี 10417 เงินเดือน ๑6,33๐บาท โรงเรียนวัดไม้ เสียบ ตำบล เกาะขันธ์ อำเภอ ชะอวด จังหวัด นครศรีธรรมราช รหัสไปรษณีย์ ๘๐๑๘๐ สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต ๓ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ รวมเวลานบั จนถงึ ปจั จบุ ัน 1 ปี 2 เดือน วัน เดอื น ปี ตำแหนง่ รบั เงนิ เดอื น ระดบั / ข้นั (บาท) 24 กรกฎาคม ครูผ้ชู ว่ ย โรงเรยี นวดั ไมเ้ สยี บ สพป.นครศรธี รรมราช เขต ๓ อนั ดบั ๒๕63 ครผู ู้ชว่ ย ๑๕,๘๐๐

๔ ตอนท่ี 1 การประเมนิ ประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ลการปฏิบตั งิ าน 1.ดา้ นการจดั การเรยี นการสอน 1.1 การสรา้ งและหรอื พฒั นาหลักสตู ร ข้าพเจา้ มีความมุ่งมน่ั ในการปฏิบตั ิงานในหน้าที่ให้มีคณุ ภาพ ครบถว้ นสมบรู ณ์ มีความคดิ สร้างสรรค์ และ มีการพฒั นาผลงานใหม้ ีคุณภาพ เกดิ ประสทิ ธิภาพ เมื่อได้รับมอบหมายใหป้ ฏบิ ัตหิ น้าที่ครูผู้สอนกลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1-2 และ 6 ใชว้ ิธีการสอนแบบบูรณาการในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ให้มีความต่อเนอ่ื งสอดคล้องกนั ตามขน้ั ตอนดงั นี้ 1.1.1) การศึกษาหลกั สูตร ข้าพเจ้าศึกษาเอกสารหลักสูตร เอกสารที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด ทฤษฎีการศึกษา จิตวิทยาการศึกษา รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) หลักสูตร สถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนวัดไม้เสียบ คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และกิจกรรม พัฒนาผูเ้ รียน โดยนำสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ของสถานศึกษามาจดั ทำมาตรฐานชว่ งชนั้ มาตรฐานการเรียนรู้ รายปีในแตล่ ะช้ัน จัดทำตารางวิเคราะหจ์ ุดประสงค์การเรียนรูท้ ี่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน สาระ การเรียนรู้และกิจกรรม และจัดทำคำอธิบายรายวิชาหลักสูตรของสถานศึกษา ตั้งค่าเป้าหมาย สู่แผนการจัดการ เรยี นรู้ เอกสารประกอบการเรียนการสอน และจุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1.2) การวเิ คราะหห์ ลกั สูตร ข้าพเจ้าได้ทำการวิเคราะห์มาตรฐานการศึกษา และมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) และศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาข้ัน พื้นฐานโรงเรียนวัดไม้เสียบ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรี ยน ศึกษาหลักสูตรของ สถานศึกษา และปรับใช้ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้รายวิชา มาตรฐานรายวิชา ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของนักเรยี น และมงุ่ เน้นการพัฒนาการ เรยี นรู้ของนักเรียน ข้าพเจ้าได้ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) และหลกั สตู รโรงเรยี นวดั ไมเ้ สียบ พุทธศักราช 2560 ในการบูรณาการการจัดการเรียนรู้ ใหส้ อดคล้องกับ ความต้องการของชมุ ชนและท้องถ่ิน โดยใชแ้ นวคดิ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ใหผ้ ้เู รยี นมีความรู้และทักษะ ขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการศึกษาตลอดชีวิต และสอดคล้องกับการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งเน้นให้ ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ และเสริมสร้างสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง โดยจัดทำหน่วยการ เรยี นรู้และแผน การจัดการเรียนรู้เป็นลำดับข้ันตอน ดังนี้ - วิเคราะหต์ วั ชว้ี ัดสู่มาตรฐานการเรียนรู้ - ตัง้ ค่าเป้าหมาย - กำหนดสาระสำคัญ วา่ ผ้เู รยี นรู้อะไร ทำอะไรได้ - จดั ทำโครงสร้างรายวิชา - วิเคราะห์มาตรฐานสู่สมรรถนะและคุณลกั ษณะ - วิเคราะหห์ ลกั ฐานการเรยี นรู้ - วางแผนกำหนดหลักฐานการเรียนรู้ - ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้

๕ - ตรวจสอบกจิ กรรมการเรียนรู้ - ศกึ ษาองค์ประกอบของหนว่ ยการเรียนรู้ มีการนำหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียน ที่มีการบูรณาการให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและ ท้องถิ่น โดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการเข้าสู่การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีการจัดทำ หน่วยการเรียนรู้ในรายวิชาที่สอน และมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่ชัดเจน โดยมีการกำหนดสาระสำคัญ ว่าผู้เรียนรู้ อะไร ทำอะไรได้ จัดทำโครงสร้างรายวิชา วิเคราะห์มาตรฐานสู่สมรรถนะและคุณลักษณะ ตั้งค่าเป้าหมาย ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ อยา่ งครบถว้ น (เอกสารอา้ งองิ ภาคผนวกหน้าท่ี 18 ) 1.2 การจดั การเรยี นรู้ 1.2.1 การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ ข้าพเจ้าได้ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ในรายวิชาคณิตศาสตร์ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-2 และ 6 โดยใช้หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานพทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หลักสตู ร สถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดไมเ้ สยี บ และหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ของโรงเรยี นวดั ไม้เสยี บ เป็นแนวทาง และข้อสารสนเทศในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ การปรบั ประยกุ ต์ ให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนวัดไมเ้ สียบ และเหมาะสมกบั ผู้เรยี น ในปกี ารศึกษา 2563 ซึ่งหน่วยการเรียนรู้ที่ออกแบบขึ้นมีกิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของสาระกา ร เรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ตลอดจนมีการประเมินผลการ และได้นำผล การประเมินหนว่ ยการเรยี นรู้มาปรับปรุงให้มคี ณุ ภาพสงู ขนึ้ ทุกปีการศึกษา (เอกสารอ้างองิ ภาคผนวกหน้าที่ 20) 1.2.2 การจดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ได้จัดทำ กำหนดหน่วยการเรียนรู้ สาระสำคัญ ชื่อเรื่อง หัวเร่อื ง จัดทำกำหนดการสอน และกำหนดวธิ ีการวัดผลประเมนิ ผล ดงั น้ี 1.2.2.1 ศึกษาสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 1.2.2.2 ศึกษาวิเคราะห์คำอธิบายรายวิชา มาตรฐานและ ตัวชี้วัด เนื้อหา องค์ประกอบ สำคญั คอื จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ และกจิ กรรมการเรยี นการสอน 1.2.2.3 นำสาระการเรียนรู้มาจัดทำกรอบเนื้อหา เพื่อแบ่งสาระการเรียนรู้ออกเป็นราย แผนการจัดการเรยี นรู้ เพ่อื ประโยชนใ์ นการเขียนจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.2.2.4 นำชื่อเรื่อง และหัวข้อเรื่องของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยพิจารณาจำนวน แผนการจดั การเรียนรู้ ขอบข่าย เน้ือหา และเวลาในการจดั การเรียนการสอนตามทห่ี ลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 กำหนดไว้ 1.2.2.5 จดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้ โดยมีสว่ นประกอบ ดงั นี้ 1. เรื่อง 2. เวลา 3.สาระสำคญั 4.มาตรฐานการเรยี นรู้ 5.ตวั ชว้ี ัด 6.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

๖ 7.สาระการเรียนรู้ 8.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 9.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 10.กระบวนกรจัดการเรยี นรู้ 11.ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ 12.ภาระงาน/ช้นิ งาน 13.การวัดผลประเมินผล 14.ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ าร 15.บันทกึ ผลหลงั การสอน 16.ภาคผนวก 1.2.2.6 เลือกใช้เอกสาร สือ่ วัสดุ อปุ กรณ์ในการจัดการเรียนการสอน จัดสภาพแวดล้อม และบรรยากาศในหอ้ งเรียนและตามแหล่งการเรยี นรู้ให้เอ้ือต่อการจดั การเรยี นการสอน 1.2.2.7 จัดทำเครื่องมือวัดผลและประเมินผล ตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยวิธีการ สังเกต การใช้แบบทดสอบ และการประเมินผลงานในแผนการจัดการเรียนรู้ แต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ได้นำ จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธกี ารวดั ผลด้วยวิธที ่หี ลากหลาย มีความเหมาะสมกับเนอื้ หาและกจิ กรรมการเรียนรู้ 1.2.2.8 การสรุปผลการประเมินหลังการเรียนทุกแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อนำ จุดบกพร่องและจดุ ที่เป็นปัญหาต่อการเรียนรู้ของนกั เรียน แจ้งให้นักเรียนทราบเพ่ือนำมาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนา ให้ดีขึ้น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจึงพัฒนาขึ้นตามลำดับ บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ผูเ้ รียนจงึ เกดิ ประสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ล 1.2.2.9 นำผลการประเมินไปปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาต่อไป ผลที่ได้จากการเตรียมการ สอน มีดงั น้ี 1. ทำให้ครมู คี วามมั่นใจในการจดั การเรียนการสอน และสามารถถ่ายทอดความรู้ ให้แกน่ ักเรยี นไดอ้ ยา่ งเต็มท่แี ละมีประสิทธิภาพ 2. สามารถสอนได้ตามลำดับข้นั ตอน การสอนดำเนนิ การไปอย่างราบรื่น ครบทุก กระบวนการและบรรลุตามแผนการจัดการเรียนรทู้ ตี่ ง้ั ไว้ 3. นกั เรียนมีความตงั้ ใจเรยี น และมีความกระตือรือรน้ ในการเรยี น ตระหนักและ มที ศั นคติทดี่ ีต่อการเรยี นในรายวชิ าคณติ ศาสตร์ 4. นกั เรียนไม่เบื่อหนา่ ยในการเรยี น 5. ผลสัมฤทธข์ิ องนกั เรียนสงู ขน้ึ 6. สามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ แก่ครูผูส้ อนคนอน่ื ๆ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง 7. เปน็ ตวั อยา่ งทดี่ แี ก่ครผู ้สู อนคนอื่น ๆ 8. เกิดผลดีแก่สถานศึกษา คือ คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาสูงขึ้นเป็นท่ี ยอมรับ ของผู้ปกครองและชมุ ชน (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวกหน้าที่ 21)

๗ 1.2.3 กลยุทธ์ในการจดั การเรยี นรู้ ขา้ พเจ้าใช้รปู แบบ เทคนคิ และวธิ กี ารแบบออนไลน์ และออนแฮนด์ ทีเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ในแผนการจัดการเรียนรู้ มีความหลากหลายในการใช้สื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีการจัดการเรียนรู้ มีการวัดและการ ประเมินผล ตามแผนการจัดการเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ ครูผู้สอนต้องศึกษาค้นคว้าหาวิธีการสอนที่ทันสมัย เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ของโลก สามารถจัดกิจกรรมการเรียน การสอนไปสู่เป้าหมายของหลักสูตรได้และศึกษาหาวิธีสอนแบบใหม่ๆ มาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้ นักเรยี นได้เขา้ ใจยิ่งข้นึ นกั เรียนไดป้ ฏบิ ตั ิดังน้ี 1) ศึกษาแผนการจดั การเรียนรูก้ อ่ นนำมาจัดกิจกรรม 2) นำเขา้ ส่บู ทเรียนด้วยวิธกี ารที่หลากหลายแตกตา่ งกันไป เชน่ การสนทนา ซักถาม การสังเกตภาพ การร้องเพลง เลน่ เกม เปน็ ต้น เพื่อเร้าความสนใจใหน้ ักเรยี นอยากเข้าร่วมกิจกรรม 3) แจง้ จุดประสงคใ์ หน้ ักเรียนทราบ 4) ใช้วิธีการสอนที่เหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและวัยของผู้เรียน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การจัด กิจกรรมการเรยี นการสอนได้ใชว้ ิธกี ารหลาย ๆ วิธี เชน่ - รว่ มกนั คิดวเิ คราะห์ปญั หา - รว่ มกนั ต้ังคำถาม - คน้ ควา้ จากแหลง่ เรยี นรตู้ ่าง ๆ - สนทนาซกั ถามและตอบปญั หา - ทำกจิ กรรมนอกหอ้ งเรียน - การให้นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ - ศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียน - ใหน้ ักเรียนร่วมกนั สรปุ สาระสำคัญ - เกมส์การศึกษา - วัดผลและประเมินผลตามเกณฑท์ ีก่ ำหนดไว้ แบบออนไลน์ และ ออนแฮนด์ (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวกหนา้ ท่ี 22) 1.2.4 คุณภาพผูเ้ รยี น 1.2.4.1 ผลสัมฤทธ์ิทางวิชาการของผู้เรียน ข้าพเจ้า ได้จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ โดยไดว้ ิเคราะห์หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน มาตรฐานการเรียนรู้ และ ตวั ช้วี ดั แล้วนำไปจดั ทำคำอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ ใหส้ อดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชีว้ ัด และคา่ เปา้ หมาย จนเกดิ ผลการจดั การเรยี นรู้ ตามเอกสารหลักฐานในแบบบันทึกผลการเรียนรู้รายวชิ า (Q-info) (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวกหนา้ ท่ี 23) 1.2.4.2 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรยี น ขา้ พเจา้ ไดจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นรูส้ ำหรับผู้เรียนในรายวิชาคณิตศาสตร์ โดยได้วเิ คราะห์หลักสตู ร แกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชวี้ ดั แล้วนำไปจัดทำคำอธิบายรายวิชา หนว่ ยการ เรียนรู้ ให้สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชวี้ ัด จนเกดิ ผลการจดั การเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1-2 และ 6 เกดิ การประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ตามเอกสารหลกั ฐานในแบบบันทึกผล การเรียนรู้รายวชิ า (Q-info) (เอกสารอา้ งองิ ภาคผนวกหนา้ ที่ 24)

๘ 1.3 การสรา้ งและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศกึ ษาและ แหลง่ เรยี นรู้ ขา้ พเจา้ ไดม้ กี ารสร้างและพัฒนา สอื่ นวัตกรรมเทคโนโลยที างการศึกษาและแหลง่ เรียนรนู้ ำไปใช้ในการ จัดการเรียนรู้เหมาะสมกับผู้เรียนสอดคล้องกบั เนื้อหาสาระรายวิชา และจุดประสงค์การเรียนรู้ประเมินผลการใช้ส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ และนำผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนาให้มีคุณภาพ สูงขึ้น สามารถนำสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยี ทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ไปปรับประยุกต์ ใช้ในสถานศึกษาที่มี บริบทใกลเ้ คยี ง จัดทำสอ่ื และการใชส้ ือ่ การสอนจากการจัดทำแผนการจดั การเรียนรู้ไว้ลว่ งหนา้ ทำใหท้ ราบว่าแผนการจัด การเรียนรู้ แต่ละครั้งจะตอ้ งใชส้ ่ืออะไรในการสอน ซึ่งมีท้งั ส่อื ที่ผู้สอนผลติ ขน้ึ เอง และนำส่ือทม่ี ีอยแู่ ลว้ มาใช้ เช่น 1. สอ่ื ประเภทวสั ดุ ได้แก่ หนังสือเรียน หนังสอื แบบฝึกหดั ใบความรู้ ใบงานประกอบการจัดการ เรียนการสอน 2. สอ่ื ประเภทอปุ กรณ์ ได้แก่ power point และ VDO ประกอบการจัดการเรยี นการสอน 3. สือ่ ประเภทเทคนิคหรือวิธกี าร ไดแ้ ก่ การสาธติ การอภปิ รายกลุ่ม และสถานการณจ์ ำลอง 4. สือ่ ประเภทคอมพวิ เตอร์ ได้แกค่ อมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) การนำเสนอด้วยคอมพวิ เตอร์ (Computer presentation) การใช้ Internet เพือ่ การสื่อสาร และใช้สอ่ื การสอนได้ดำเนินการดังน้ี 1) ศึกษาแผนการจัดการเรียนรูท้ ีไ่ ดจ้ ัดเตรยี มไว้ 2) จดั เตรียมส่อื การเรียนการสอนตามที่กำหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ ศกึ ษาวิธีใช้ เมื่อผู้เรียน นำสอ่ื การเรยี นไปใช้ สามารถทำกจิ กรรมด้วยตนเองได้อยา่ งถูกต้อง การทำกจิ กรรมกจ็ ะสำเรจ็ ตามเวลาทก่ี ำหนด 3) ผลิตสื่อการสอนที่สามารถผลิตได้ด้วยตนเองและนำที่มีอยู่แล้วมาประยุกต์ใช้ โดยยึดหลัก ประหยัดและมคี ุณภาพมากทสี่ ดุ เช่น เอกสารประกอบการเรียนการสอน ใบงาน ใบความรู้ เกมส์การศกึ ษา ต่างๆ ใหเ้ หมาะกบั สถานการณเ์ รยี นออนไลนใ์ นตอนนี้ 4) พยายามให้ผูเ้ รียนมสี ่วนร่วมในการผลิตส่ือการเรยี นการสอน เชน่ ช้ินงาน ต่างๆ (เอกสารอา้ งองิ ภาคผนวกหน้าท่ี 25) 1.4 การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ขา้ พเจา้ ไดด้ ำเนินการวดั ผลและประเมินผล โดยปฏิบัติดงั น้ี 1) ศกึ ษาจุดมงุ่ หมายของหลักสูตร 2) ศกึ ษาจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ 3) ศึกษาระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการวัดผลและการประเมินผล การเรียนตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งเป็นการวัดผลและ ประเมินผลการเรยี นร้ใู นดา้ นพุทธพิ สิ ยั จิตพสิ ัย และทกั ษะพิสยั 4) จดั ทำเครอ่ื งมือวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้ ซง่ึ ประกอบดว้ ย - เครื่องมือวัดผลเพื่อปรบั ปรุงการเรยี น ประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรยี น แบบทดสอบปลายภาคเรยี น - เครื่องมือวัดผลเพื่อประเมินผลการเรียน ประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน วัดความรู้ความสามารถของนักเรียนตามจุดประสงค์การเรียนรู้นำข้อบกพร่องต่าง ๆ มาปรับปรุงแก้ไขเพื่อ พฒั นาให้ดขี ึ้น

๙ - เครื่องมือประเมินพฤติกรรมและจิตพิสัยของนักเรียนประกอบด้วย แบบสังเกตพฤติกรรม การเรียน การช่วยกันสรุปเนื้อหาและแบบประเมินการตรวจผลงาน ซึ่งเป็นการประเมินผู้เรียนด้านจิตพิสัย เป็น รายบคุ คล 5) ดำเนินการวดั ผลและประเมนิ ผล ดงั น้ี ประเมนิ ผลก่อนเรียน ได้ทำการวัดผลและประเมินผลการเรียนการสอนทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่านักเรียนมีความรู้ พื้นฐานเบื้องต้น โดยใช้วิธีการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน เช่น การทำงานอย่างมีขั้นตอน ปฏิบัติ กิจวัตร ประจำวัน ร่วมกิจกรรมด้วยความร่าเริง รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ใช้เวลาทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ตั้งใจ มีมารยาท ช่วยเหลือและมีน้ำใจ เป็นต้น ใช้วิธีการสัมภาษณ์ การสอบถามเพื่อให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับ นักเรียนและสามารถจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนให้สอดคล้องกบั นกั เรียน ประเมนิ ผลระหว่างทำการสอน เพื่อเป็นการปรับปรุงการเรียนการสอน และทำให้ทราบว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียน มากน้อยเพียงใด มีความเข้าใจในเรื่องที่สอนไปแล้วมากน้อยเพียงใด นักเรียนพบปัญหาในการเรียนวิชา คณิตศาสตร์ อย่างไร นักเรียนมีความรู้ ความสามารถ และพฤติกรรมตามที่กำหนดหรือไม่ โดยการสังเกตความ รับผดิ ชอบในการทำงาน การทำงานทนั ตามกำหนดเวลา ความสนใจและตง้ั ใจศกึ ษาคน้ ควา้ การแสดงความคดิ เห็น และ การยอมรับความคิดเห็นของผูอ้ ื่น การซักถามความเขา้ ใจ ความคิดเห็นและเจตคตขิ องนกั เรียน ตรวจผลงาน การปฏิบตั งิ านกจิ กรรมต่างๆ และประเมนิ ความเอาใจใส่ตอ่ การเรียน ความรับผดิ ชอบในงานที่กำหนดให้ทำ โดยถือ เกณฑ์ที่นักเรียนผ่านได้คะแนนจากการทำกิจกรรมร้อยละ 70 ขึ้นไป ในการวัดผลระหว่างเรียนแต่ละครั้ง จะ วัดผลครอบคลุมทั้งด้านพุทธิพิสัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย โดยใช้แบบทดสอบออนไลน์วัดรายจุดประสงค์ ตรวจ ผลงาน ความสนใจและตั้งใจเรียน และเจตคติต่อการเรียน วิชาต่างๆ และรวบรวมผลการประเมินลงในตัวชี้วัด ลงใน Q - info ประเมนิ ผลปลายภาคเรียน ใช้แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์แบบออนไลน์ - กำหนดอตั ราส่วนของคะแนน กำหนดตามที่หลักสตู รของโรงเรยี นไดก้ ำหนดไว้ ดงั นี้ 1. คะแนนสอบระหวา่ งภาค - คะแนนระหว่างเรียน 70 คะแนน - สอบกลางภาค 30 คะแนน รวม 100 คะแนน 2. คะแนนสอบปลายภาค 30 คะแนน - คะแนนระหวา่ งเรยี น 70 คะแนน - สอบปลายภาค 30 คะแนน รวม 100 คะแนน เกณฑ์ตดั สนิ 80 คะแนนขน้ึ ไป ได้ผลการเรยี น 4 75 - 79 คะแนน ไดผ้ ลการเรียน 3.5 70 - 74 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 3 65 - 69 คะแนน ไดผ้ ลการเรียน 2.5 60 - 64 คะแนน ไดผ้ ลการเรยี น 2

๑๐ 55 - 59 คะแนน ได้ผลการเรยี น 1.5 50 - 54 คะแนน ได้ผลการเรยี น 1 ตำ่ กวา่ 50 คะแนน ไดผ้ ลการเรียน 0 ผู้เรียนต้องมเี วลาเรียนไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ของเวลาเรียนท้งั หมด (เอกสารอ้างองิ ภาคผนวกหนา้ ที่ 27) 1.5 ศึกษาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และหรือวิจัยเพื่อแก้ปญั หาหรือพัฒนาการเรียนรู้เพื่อส่งผลต่อคุณภาพ ผเู้ รียน การวิจยั ในช้นั เรยี น คอื กิจกรรมที่เกดิ ขน้ึ ระหวา่ งครูและนักเรียน และบทบาทครู คือ การจดั ประสบการณ์ การเรียนรู้ตามหลกั สตู รให้กบั นักเรียนทั้งชั้น ซึ่งมีความสามารถพื้นฐานแตกต่างกันออกไป ทำให้บางครั้งเกิดปัญหา กับผู้สอนที่ต้องจัดกิจกรรมหลากหลายสนองตอบต่อผู้เรียนแต่ละคน การสอนควบคู่กับการสังเกต เก็บรวบรวม ข้อมูลนักเรียนในชั้นมาวิเคราะห์ ศึกษาสภาพ จึงเป็นสิ่งจำเป็นต้องดำเนินการตลอดเวลา การวิจัยในชั้นเรียนจะ เกิดขึ้นหลังจากครูสรุปได้ว่าปัญหาคืออะไร เกิดที่ไหนและมีแนวทางจะแก้ปัญหานั้นได้อย่างไร กล่าวคือ ครูคิดหา วธิ ีการแกป้ ญั หาแลว้ ไดน้ ำไปทดลองใชจ้ นได้ผลแล้วพฒั นาเปน็ นวัตกรรม สามารถนำไปเผยแพร่ไดต้ อ่ ไป (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวกหน้าที่ 28) 2.ด้านการบริหารจัดการชัน้ เรยี น 2.1 การบริหารจดั การชนั้ เรียนและขอ้ มลู สารสนเทศ ความสามารถในการอบรม ปกครอง และดแู ลนกั เรียน 1) การอบรมนอกช้ันเรยี น ได้ปฏิบตั ิดังน้ี 1.1 ร่วมกับคณะครู ที่รับผิดชอบงานปกครองนักเรียนด้านประชาธิปไตยในโรงเรียน ได้ส่งเสริม ประชาธปิ ไตยใหก้ ับนักเรียนในขณะประชุมนกั เรียนระดบั ชัน้ ที่สอน ฝกึ ฝนให้นกั เรียนสามารถปกครองดูแลกันเองได้ ฝึกการเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี รู้จักและปฏิบัติตนตามวิถีทางของประชาธิปไตย เป็นผู้มีคารวะธรรม ปัญญาธรรม และ สามคั คีธรรม บำเพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อตนเองและสงั คมได้ 1.2 ส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขนิสัยที่ดี เช่น การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และการรับประทานอาหารใหต้ รงเวลา ออกกำลงั กายและพกั ผ่อนใหเ้ พียงพอ รจู้ ักพฒั นาบคุ ลิกภาพของตนเอง 1.3 ให้ความรู้และแนะนำนักเรียนเกี่ยวกับการดูแลระวังตนเองในการป้องกันโรค โดยเฉพาะการ แพร่ระบาดของเช้อื ไวรสั โคโรน่า 2019 ฝึกให้นักเรยี นปฏิบตั ติ ามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข คอื กนิ ของร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูกและปากเวลาจาม ไอหรือเมื่อมีไข้หวัด น้ำมูกไหล และการ ระมดั ระวงั ตนเองไม่ใหถ้ กู ยงุ กดั ท้ังในเวลากลางวันและกลางคนื 1.4 การสร้างเสริมสุขภาพนักเรียน โดยการสนับสนุนให้นักเรียนรักการออกกำลังกาย ทำให้ ผูเ้ รียนมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ขาดเรยี น 2) การอบรมในช้นั เรยี นท้งั ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ไดป้ ฏบิ ัติดังนี้ 2.1 อบรมให้นักเรียนมีคุณธรรมและจริยธรรมอันดีงาม โดยให้นักเรียนปฏิบัติตนให้มีคุณธรรม 4 ประการ และมีค่านิยม 5 ประการ อบรมเก่ยี วกับประชาธิปไตย การปฏิบัตติ ามมติของเพ่ือนรว่ มช้ันและการรู้จัก รับฟงั ความคิดเหน็ ของผ้อู ื่น 2.2 ขณะสอนในชน้ั เรียน ได้อบรมในเร่อื ง - การใช้ภาษา ทัง้ การพดู และการเขียนในการตอบคำถาม

๑๑ - การรักษาระเบยี บวินัยของการอย่รู ว่ มกันในชั้นเรยี น การไม่ส่งเสยี งดงั เป็นทรี่ บกวน ผอู้ น่ื ในการตอบคำถามในชัน้ เรียนออนไลน์ - การตรงตอ่ เวลา เชน่ การไมเ่ ข้าหอ้ งเรยี นออนไลน์ช้าช้า การส่งงานตามเวลาท่ีกำหนด - ความซ่ือสัตยต์ อ่ ตนเอง เช่น การทำการบ้านโดยไมล่ อกการบา้ นผ้อู ่ืน การตอบคำถาม ในกิจกรรม เปน็ ตน้ - กระบวนการคิด จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ เน้นกระบวนการคดิ ความสามารถในการอบรมความประพฤตขิ องนกั เรยี น ได้แก่ 1) การอบรมให้นักเรียนมีความประพฤติดี สุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน การพูดจาไพเราะ การ ร้จู ักกาลเทศะ 2) การปลกู ฝังคา่ นิยมพน้ื ฐาน 5 ประการ อนั ไดแ้ ก่ - การพึ่งตนเอง ขยันหมน่ั เพยี ร และความรบั ผดิ ชอบ - การประหยดั และอดออม - การมรี ะเบยี บวนิ ยั และเคารพกฎหมาย - การปฏบิ ตั ิตามคุณธรรมของศาสนา - ความรกั ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ 3) การอบรมนักเรียนใหม้ ีคณุ ธรรม 4 ประการ คอื - การรกั ษาความสัตย์ ความจรงิ ใจต่อตนเองท่จี ะประพฤตปิ ฏบิ ตั ิในสิ่งทมี่ ีประโยชน์ - การรู้จกั ข่มใจตนเองให้ประพฤติอยูใ่ นความสตั ย์ ความดี - ความอดกลั้นและอดออม - รจู้ กั ละวางความชว่ั ความทจุ ริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม 4) หากพบนักเรียนใช้ถ้อยคำ ภาษาที่ไม่สุภาพ กิริยามารยาทไม่เหมาะสม ได้ว่ากล่ าวตักเตือน ถ้ายงั พบว่ายงั ไมแ่ ก้ไข ทำผิดซำ้ อกี ก็จะรายงานใหผ้ ู้ปกครองนกั เรยี นทราบเพ่ือชว่ ยกนั แก้ไขตักเตอื น 5) การอบรมเกี่ยวกับการแต่งกาย ได้อบรมให้นักเรียนแต่งกายให้ถูกระเบียบของโรงเรียนทั้งเครื่องแบบ นักเรียน เคร่ืองแบบลูกเสือ – เนตรนารี ชดุ พละ หากพบนกั เรยี นท่ีแต่งกายผิดระเบียบ ไดว้ ่ากล่าวตักเตอื นใหแ้ ก้ไข ผลท่ีได้จากการอบรม ปกครอง ดแู ลนกั เรียน 1. นักเรียนรู้สึกอบอนุ่ และนักเรียนมคี วามสัมพันธ์ตอ่ กันเปน็ อยา่ งดี 2. นกั เรียนแต่งกายถูกตอ้ งตามระเบียบ มีความประพฤตเิ รียบร้อย 3. นักเรยี นมคี วามสามัคคีในหมูค่ ณะ ไมม่ กี ารทะเลาะววิ าทกัน 4. ผปู้ กครอง ชุมชน ใหค้ วามเชอื่ ถือและยกย่องชมเชยนกั เรยี นและครู 5. นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ที่ครูกระตุ้นและส่งเสริมด้วยความรู้สึกตระหนักและ รบั ผิดชอบด้วยตนเอง ความสามารถในการพัฒนาผู้เรียน ไดป้ ฏบิ ตั ดิ ังน้ี 1) สำรวจความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการจัดการเรียน การสอนออนไลน์ ให้สอดคล้องและตอบสนองความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และท้องถิ่น ส่งผลให้ นักเรียน ไดเ้ รียนรู้อยา่ งมีความสขุ การเรียนรสู้ ิง่ ใหม่ ๆ ไดง้ ่าย

๑๒ 2) ให้คำแนะนำเก่ียวกับการแก้ปญั หาการเรยี น ปัญหาสุขภาพ ปัญหาทางดา้ นพฤติกรรมของนักเรียน และชี้แจงทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือจากผูป้ กครอง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปญั หาร่วมกนั การสร้างความเขา้ ใจ ทีด่ ี มีความเปน็ กัลยาณมติ ร ทำให้ผู้รบั บริการมีความม่นั ใจ มีกำลังใจในการแก้ปัญหาและพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น มีความสุขในการดำรงชีวิตและอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่าง ราบรื่นสงบสุข 3) แนะนำการใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ เชน่ - การช่วยงานบา้ นผปู้ กครอง - การจัดกิจกรรมอิสระ เช่น การปลูกตน้ ไม้ ฝึกการอ่านให้มีนิสัยรัก การอ่าน หรือการทำงาน ท่คี ้างคาอยู่ให้เสรจ็ สนิ้ เป็นการฝึกความรบั ผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รับมอบหมาย 4) การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่นักเรียน ในการจัดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ทุกครั้ง ได้ สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และมารยาทสังคมที่ดีที่ควรปฏิบัติให้กับนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ ไมเ่ คยปลอ่ ยปละละเลยพฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงค์ หรอื พฤติกรรมที่บกพรอ่ งของนักเรยี น จะตกั เตือน แนะนำด้วย คำพดู ทส่ี ภุ าพและเป็นกลั ยาณมติ รกบั นักเรียน แล้วหาแนวทางแกไ้ ขและนำไปปฏบิ ัติใหถ้ ูกต้อง เพื่อลดความขัดแย้ง ลดความตงึ เครียด ให้นักเรียนได้เรียนรูเ้ ก่ียวกบั การไดร้ ับฟังพระธรรมเทศนาจากพระสงฆ์ การทำบุญ การให้ส่ิงของ เป็นทาน การแบ่งปัน และการลดความอยากของตนลง และเป็นการสืบสาน ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ เจรญิ รงุ่ เรอื งและคงอยูส่ ืบไป 5) การพัฒนาทักษะชีวิต สุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้เรียน ให้นักเรียนได้เรียนรู้จาก สถานการณ์จริง เชน่ การไปซ้อื ของกับผู้ปกครอง ชว่ ยผูป้ กครองทำงาน เพอ่ื พฒั นาทักษะการดำรงชีวิตของนักเรียน มแี นวทางปฏบิ ัติท่ีถกู ต้องอยู่ในครอบครัว ในโรงเรยี น ในสังคมไดอ้ ย่างมีความสุข 6) การจัดระบบดูแลชว่ ยเหลือผูเ้ รยี น ได้ศึกษาข้อมูลนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล เพื่อนำข้อมูลไปใช้ ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนหลายด้าน ด้านการเรียนจะสานต่อการเรียนรู้ สอนซ่อมเสริม ด้านความประพฤติ ก้าวร้าวใหค้ วามรัก ความเมตตา ดูแลเอาใจใส่เป็นพเิ ศษ ใหก้ ำลังใจแนะนำการทำความเข้าใจตนเอง อบรมกล่อม เกลาจิตใจดว้ ยความละมนุ ละมอ่ ม ดูแลเอาใจใสใ่ หก้ ำลงั ใจ แนะนำแนวทางท่ีถูกท่ีควรอยา่ งสม่ำเสมอและใกล้ชดิ ผลที่เกดิ กบั ผเู้ รียน ผลจากการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนที่มีการเตรียมการ และดำเนินการอย่างมี ขน้ั ตอนสง่ ผลให้นกั เรยี นประสบความสำเรจ็ ในดา้ นต่าง ๆ ดงั น้ี - ด้านสติปัญญา เป็นผู้มีปัญญาสามารถเรียนรู้ทำงานตามที่มอบหมายได้สำเร็จ รู้จัก การวเิ คราะหป์ ญั หา แก้ปัญหาได้และมีผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นผา่ นเกณฑท์ ่ีกำหนดไว้ - ด้านอารมณ์ เป็นผู้ที่มีความสามารถในการเรียนรู้ มีสุขภาพทางกาย ทางใจ ยอมรับฟัง ความคดิ เห็นของผ้อู ่นื และมีความสขุ กับการเรียน - ด้านสังคม เป็นผู้มีความสามารถในการปรบั ตัวใหเ้ ขา้ กบั เพ่อื น ๆ สามารถรว่ มกจิ กรรมกลุ่มได้ - ด้านคุณธรรม จริยธรรม เป็นผู้ทีม่ ีคุณธรรมและจริยธรรมที่ดงี ามสามารถปฏิบัตติ นตามแนววิถี พทุ ธ และศาสนาท่ตี นเองนบั ถอื ไดอ้ ย่างมีความสุข นอกจากน้ี นกั เรียนทุกคนจะถูกปลูกฝังใหม้ ีนิสยั รกั ความสะอาด รู้จกั อนรุ ักษ์สง่ิ แวดล้อม ปลกู ฝงั ให้รู้จักใช้/ประหยัดทรัพยากรทางธรรมชาติ เช่น น้ำ ไฟฟ้า เน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติจริงที่บ้าน ตลอดจนการรักษา ขนบธรรมเนียมประเพณี กริ ิยา มารยาทท่ีดีงามของไทย จะเหน็ ไดจ้ ากทีน่ ักเรยี นจะมจี ิตอาสา

๑๓ ผลจากการปฏบิ ัตงิ านในดา้ นต่าง ๆ อย่างเตม็ ความสามารถ ทำให้นกั เรยี นในความรับผิดชอบของ ข้าพเจ้า ปฏิบัติตนเป็นคนดี คนเก่ง และเรียนรู้อย่างมีความสุข ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งหวังของพระราชบัญญัติ การศึกษา พทุ ธศักราช 2542 ทว่ี า่ เปน็ การจดั การเรียนการสอนท่มี ่งุ เนน้ ใหผ้ ู้เรียนเปน็ คนดี คนเกง่ และมีความสุข (เอกสารอ้างองิ ภาคผนวกหน้าท่ี 29 ) 2.2 การจดั การระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียน - จัดกิจกรรมอบรมคุณธรรม จริยธรรม ก่อนเริ่มชั้นเรียนออนไลน์ ให้ความรู้กับนักเรียนในเรื่องการให้ ความร่วมมอื ในการเรยี นออนไลน์ ความสมคั รสมานสามัคคี ความมนี ำ้ ใจ ความชว่ ยเหลือซ่งึ กนั และกัน - จัดกิจกรรมประชุมผู้ปกครองออนไลน์ ประชุมชี้แจงทำความเข้าใจระหว่างครูประจำชั้นและผู้ปกครอง รายงานพฤติกรรมของนักเรียนให้ผู้ปกครองเป็นรายบุคคลเฉพาะนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่น่าห่วงเพื่อช่วยกันดูแล นกั เรียนใหม้ พี ฤติกรรมทดี่ ีขนึ้ - การสอบถามปญั หาการเรียนออนไลนแ์ บบออนไลน์ เพื่อทราบถึงปญั หาทีเ่ กิดขึ้นพร้อมช่วยกนั แก้ไข - การแจ้งขา่ วสารแก่นกั เรียนและผูป้ กครอง เพอื่ ใหไ้ ด้รับสิทธิและขา่ วสารตา่ งๆ ครบ 100 % (เอกสารอ้างองิ ภาคผนวกหน้าท่ี 30 ) 3. ด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ 3.1 การพฒั นาตนเอง พฒั นาตนเองโดยยดึ หลกั การประเมนิ สมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทำให้ผ้ปู ฏบิ ัติงาน สามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับ ความต้องการจำเป็นของหนว่ ยงาน และของตนเองอย่างแท้จรงิ ท้งั นี้ ครจู งึ ต้องมีการวางแผนการพฒั นาตนเองให้มคี ุณภาพ เพื่อเปน็ การพฒั นาทีส่ นองตอบความต้องการ แตล่ ะบคุ คล สนองความสนใจในรปู แบบวิธกี ารพัฒนา ก็จะสง่ ผลต่อสมรรถนะในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ ตอ่ ไป และเป็นการพฒั นาทต่ี ่อเนื่องจนทำให้การปฏบิ ตั หิ น้าท่ีมีความสมบูรณ์ มีประสทิ ธิภาพและเกดิ ประสิทธผิ ล ในการปฏิบตั ิงาน อันนำไปสู่การพฒั นาตนเองใหเ้ ปน็ ครมู ืออาชีพท่ีมมี าตรฐานในการปฏิบตั ิงานอย่างแท้จริงสามารถ ตรวจสอบได้ และพัฒนาสูค่ วามเปน็ วชิ าชพี ต่อไป (เอกสารอา้ งอิงหนา้ ที่ 32 ) 3.2 การพัฒนาวชิ าชพี ขา้ พเจา้ เข้าร่วมกิจกรรมชมุ ชนการเรยี นรูท้ างวิชาชพี ซ่งึ ทำให้ 1. เกดิ จากการประยุกตแ์ นวคดิ องค์กรแห่งการเรียนร้สู โู่ รงเรยี นแหง่ การเรยี นรู้ 2. เป็นนวตั กรรมใหม่ที่ช่วยใหค้ รแู สวงหาวิธีการทจี่ ะชว่ ยให้นกั เรียนสามารถเรียนรแู้ ละพฒั นาตนเอง ได้ 3. ครู ชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวมกลุ่มกัน เรียนรู้ร่วมกันและสะท้อนการปฏิบัติ อย่างเป็นระบบและ ต่อเนอ่ื ง 4. เปน็ การทำงานกล่มุ หรอื เปน็ ทีม การแลกเปลย่ี นเรียนรู้จากประสบการณต์ รง 5. เปน็ การรวมตัวกันไปพรอ้ มกบั การพฒั นาทกั ษะและการเรียนรู้เพื่อปฏิบัติหนา้ ท่ี \"ครูเพอื่ ศิษย\"์ 6. เปน็ สถานที่สำหรบั \"ปฏสิ มั พันธ์\" ลดความ \"โดดเด่ยี ว\" 7. สิง่ สำคญั ที่สุดของ PLC คือ การทำงานทมี่ ่งุ ไปที่การเรียนรู้ ของเด็กแต่ละคนเปน็ สำคญั 8. PLC ม่งุ การปฏิบัติการสอนและผลสมั ฤทธ์ขิ องนักเรยี น (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวกหน้าท่ี 33 )

๑๔ 4.งานอน่ื ๆ ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ข้าพเจ้าปฏิบัติงานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น เต็มใจ พร้อมที่จะเสียสละเวลาให้กับ ทางราชการ โดยให้ความร่วมมือช่วยเหลือในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน ให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานในสิ่งที่ ชว่ ยได้ รกั ษาผลประโยชน์ของหน่วยงานไม่เพิกเฉยท่จี ะเสริมสรา้ งช่ือเสยี งให้แกห่ น่วยงาน ทุกครง้ั เม่ือมีโอกาส งาน อื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย มีดังนี้ ปฏิบัติหน้าที่ครูที่ปรึกษานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ปฏิบัติหน้าที่ครูเวร ประจำวันจันทร์ และได้รับมอบหมายเจ้าหน้าที่พัสดุ(รับผิดชอบงานในระบบ EGP) เลขาฝ่ายงานบริหารทั่วไป ผชู้ ่วยงานบุคคล รบั ผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน (เอกสารอ้างองิ หน้าท่ี 34 )

๑๕ ตอนที่ 2 การประเมนิ การปฏบิ ตั ิตนในการรักษาวนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี 2.1 มีความซื่อสัตย์ สุจริต รักษาประโยชน์ส่วนรวม ไม่อาศัยหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้อำนาจและหน้าท่ี ของตน เพ่อื แสวงหาประโยชน์ ข้าพเจ้ามีวินัยในตนเอง ยอมรับและถือปฏิบัติตามกฎ กติกา มารยาท ขนบธรรมเนียม และแบบแผนอันดีงามของสังคม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นผู้นำในการเสริมสร้างการพัฒนาด้ านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพครู ประพฤติปฏิบัติตนเหมาะสม ถูกต้องตามระเบียบวินัยของทาง ราชการ ทั้งในด้านการแต่งกายที่เหมาะสมกับกาลเทศะ มีความซื่อสัตย์สุจริตในวิชาชีพ ตรงต่อเวลา มาปฏิบัติ ราชการก่อนเวลาและกลับหลังเวลาราชการ อุทิศและเสียสละเวลาให้กบั ทางราชการอย่างเต็มท่ี มีความอดทนอด กลั้น ต่อความเหนื่อยยากขณะปฏิบัติราชการ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และมุ่งมั่นทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ไม่นำเวลา ราชการไปทำประโยชน์ส่วนตัว มีความรักสามัคคีในองค์กร ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและอบายมุขต่างๆ มีระเบียบ วนิ ยั เปน็ แบบอย่างทีด่ ีแกเ่ พอื่ นรว่ มงานและนักเรยี น เชิดชูและเคารพสถาบนั หลกั ของชาติ คือ ชาติ ศาสนา และ พระมหากษตั ริย์ ข้าพเจ้าซื่อสัตย์สุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ รักษาผลประโยชน์ของทางราชการ และไม่มี ผลประโยชน์ทับซ้อน โดยอบรม สั่งสอน ฝึกฝนและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อพัฒนานักเรียน อย่างเต็ม ศักยภาพ รับผิดชอบงานในหน้าที่การสอน และงานหน้าที่พิเศษที่ได้รับมอบหมายด้วยความเต็มใจ ไม่แสวงหา ผลประโยชน์จากงานราชการ ไม่เอาเวลาราชการไปหาประโยชน์ส่วนตัว รักษาผลประโยชน์ของโรงเรียน เช่น การประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ หรือใช้กระดาษของทางราชการโดยประหยัด เป็นต้น พร้อมเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ ผเู้ รยี น และบุคคลโดยทัว่ ไป (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวกหน้าท่ี 37 ) 2.2 การปฏบิ ตั ติ ามระเบียบ กฎหมาย นโยบาย และคำส่ังของผู้บังคับบัญชา ข้าพเจ้ารักษาและเสริมสร้างวนิ ัยในตำแหน่งหน้าที่ราชการ ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบแบบแผน ของทางราชการ ยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม ศึกษากฎหมายการศึกษา พระราชบัญญัติทางการศึกษาและบทบาท หน้าที่ทางราชการของครูในหมวดที่วา่ ดว้ ยวินัยทางราชการ และได้ปฏิบัติตนตามกฎหมาย และระเบียบแบบแผน ของทางราชการอย่างเคร่งครัด ต้งั ใจปฏิบัตหิ น้าท่ขี องตนเองใหส้ ำเร็จลุล่วงอยา่ งดที ่ีสุด การรกั ษาระเบยี บวนิ ัยในการ มาและกลับในการปฏิบตั ิราชการที่ตรงเวลา การปฏิบัติตามคำส่ังผู้บังคับบญั ชาอย่างเครง่ ครัด มีส่วนร่วมเสริมสรา้ ง วินยั แก่ผู้อ่ืน ยดึ มน่ั ในคุณธรรม จรยิ ธรรมและเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ีและปฏิบัติตนตามหลกั พระพุทธศาสนา มีคณุ ธรรม จริยธรรม ต่อเพ่ือนร่วมงานและนกั เรยี น (เอกสารอา้ งอิง ภาคผนวกหน้าที่ 38) 2.3 มคี วามวริ ยิ ะ อตุ สาหะ ตรงต่อเวลา และอทุ ิศเวลาใหแ้ กท่ างราชการ ข้าพเจ้าตรงตอ่ เวลา อุทศิ เวลาให้แกท่ างราชการ ไม่ละท้ิงหนา้ ทรี่ าชการโดยไม่มีเหตุอนั ควร ปฏิบัติ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และปฏิบัติหน้าที่ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์อย่างเต็มเวลา เต็ม ความสามารถ เมื่อได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ จะรับผิดชอบและทำให้เสร็จ แม้จะต้อง ปฏิบตั ิหน้าทนี่ อกเวลาราชการ หรือได้รับคำสงั่ ใหท้ ำงานในวันเสาร์และวันอาทิตย์ (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวกหน้าท่ี 39 )

๑๖ 2.4 การมีจติ สำนกึ ท่ีดี มุง่ บริหารตอ่ กลมุ่ เป้าหมายผู้รับบรกิ าร โดยไม่เลือกปฏบิ ตั ิ ข้าพเจา้ ตัง้ ใจปฏิบตั หิ นา้ ที่การสอนอย่างเต็มความสามารถ เตม็ เวลา เตม็ หลกั สูตร โดยมาปฏิบัติงานก่อน เวลาและกลับหลังเวลาเลิกทำงาน เป็นประจำ วางแผนการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ ทำการวิเคราะห์นักเรียน รายบุคคล เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่า หลากหลายโดยเน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ ให้นกั เรียนเกิดทกั ษะการเรยี นรู้ ทักษะการแก้ปญั หา ตามความสามารถ ได้ ใหก้ ำลงั ใจ และเสริมสร้างคุณลักษณะนิสัยที่ดงี ามใหแ้ ก่นักเรียน จัดกิจกรรมอบรมนกั เรียน และจัดทำงานวิจัยในชั้น เรยี น เพ่ือส่งเสรมิ ให้นักเรียนได้พัฒนาตนเองได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ได้ออกเย่ียมบ้านนักเรยี น พบปะพูดคุยกับ ผู้ปกครองนักเรียน เพื่อให้ความช่วยเหลือ ทำความรู้จักคุ้นเคยกับนักเรียนเป็นรายบุคคล เมื่อเกิดปัญหาจะแก้ไข ทันที มีการวางตนเป็นกลาง ไม่ลำเอยี ง และมีความยตุ ิธรรมให้แก่นักเรียนทกุ คน ต้ังใจดแู ลอบรมให้นักเรียนเป็น คนดี มีความประพฤติ ที่ดีงาม เพื่อให้นักเรียนอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข และสามารถแก้ปัญหาได้ ด้วยตนเอง ข้าพเจ้าศึกษาค้นคว้า ริเริ่มสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ นวัตกรรมในการพัฒนางานในหน้าท่ี อทุ ิศตนแสวงหาความรู้และเทคนิคใหม่ ๆ โดยการศกึ ษา คน้ คว้าข้อมูลในกลุม่ สาระการเรยี นรูท้ ่ีตนเองรับผิดชอบทั้ง ในหนงั สือ ระบบอนิ เตอรเ์ นต็ บทเรยี นสำเร็จรูป โปรแกรมส่ือการสอน มาประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ สรา้ งและ พัฒนาส่ือการสอนให้เหมาะสม รวมทงั้ การเข้ารว่ มอบรม สมั มนา อบรมปฏิบตั กิ าร เพ่ือพฒั นาตนเองอยู่เสมอ ซึ่งจะ เปน็ ประโยชน์ตอ่ การเรยี นร้ขู องนักเรยี นมากข้นึ (เอกสารอา้ งอิง ภาคผนวกหนา้ ท่ี 40 ) 2.5 การรักษาคณุ ภาพตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวชิ าชีพ ข้าพเจ้าประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวชิ าชีพ และแบบแผนตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู มีเจต คติ ที่ดีต่อวิชาชีพ เพื่อนร่วมวิชาชีพ และผู้รับบริการ มีความรู้ ความเข้าใจในคุณค่าและความสำคัญของวิชาชีพ มี ความศรัทธาในวิชาชีพ เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของวิชาชีพครู และปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ของวิชาชีพ ประพฤติ ตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกศิษย์ ตั้งใจถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับนักเรียนทุกคน ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่และความเป็นครู เป็นแบบอย่างท่ีดแี ก่เพื่อนร่วมงานและนักเรียน โดยประพฤติปฏิบัติ และวางตน ให้เหมาะสมทั้งทางกาย วาจา ใจ เช่น แต่งกายสะอาด เหมาะสมกับกาลเทศะ มีกิริยาวาจาที่สุภาพ เรยี บรอ้ ย มีความออ่ นน้อมถ่อมตนและประพฤตปิ ฏบิ ัติตนเปน็ พุทธศาสนกิ ชนทด่ี ีของศาสนา มีบคุ ลิกภาพเหมาะสม กับความเป็นครู มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส ดำรงตนเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย ปฏิบตั กิ ารสอนด้วยความตง้ั ใจ เอ้ืออาทรตอ่ ศิษย์อยา่ งเสมอภาค มคี วามซอ่ื สัตยส์ ุจรติ เออ้ื เฟอื้ เผ่อื แผ่ และเสียสละ เหน็ แก่ประโยชน์ส่วนรวมยง่ิ กว่าประโยชน์สว่ นตน มีวินัยในตนเอง ตรงต่อเวลา ยอมรับฟังความคิดเห็นของผูอ้ ื่น ใช้ ถ้อยคำสุภาพ ในทปี่ ระชุม และชุมชน ใหค้ ำแนะนำนกั เรียนพดู จาสภุ าพและการใช้ภาษาที่ถูกตอ้ ง พยายามหลกี เลย่ี ง การกระทำที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่คณะ ซึ่งสามารถเป็นตัวอย่างในการประพฤติปฏิบัติตนจนได้รับความ ไว้วางใจจากเพื่อนร่วมงาน ผู้บริหาร และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น นอกจากนี้ ข้าพเจ้าได้ เอาใจใส่ ดูแลสถานท่ี ทำงาน และห้องพิเศษที่ได้รับมอบหมาย ให้อยู่ในสภาพที่สะอาด เรียบร้อย สวยงาม และมีความพร้อมในการ ปฏิบตั งิ าน (เอกสารอ้างองิ ภาคผนวกหน้าที่ 41 ) 2.6 การรักษาภาพลักษณ์และความสามคั คีในองค์กร ชมุ ชน และสงั คม ข้าพเจ้ามีความสามัคคี มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนร่วมงาน มีความเสียสละ ประพฤติ ปฏบิ ัตงิ านอย่างกัลยาณมิตรต่อเพื่อนรว่ มงานด้วยความจรงิ ใจ สภุ าพเรียบรอ้ ย ทำงานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้อย่างมีความสุข

๑๗ และประสบความสำเร็จจนได้รับการยอมรับจากหน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง และได้ร่วมกิจกรรมอื่นๆ ใน ชมุ ชน ในโอกาสต่าง ๆ (เอกสารอา้ งอิง ภาคผนวกหน้าที่ 42 )

๑๘ คำรับรองของผู้บังคบั บัญชา ขอรับรองว่าข้อมูลการรายงานผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนวัดไม้เสียบ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อประกอบการประเมินประสิทธิภาพและ ประสทิ ธผิ ลของครูผ้สู อนและเพ่ือประกอบการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนคร้ังที่ 2 ( ๑ เมษายน ๒๕๖4 - 30 กนั ยายน ๒๕๖4 ) ของว่าทร่ี .ต.หญิงรัชนก บญุ ชัย ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ยโรงเรยี นวดั ไมเ้ สียบ ถูกตอ้ งและเป็นความจรงิ ทกุ ประการ ลงช่ือ .................................................................... (ว่าท่ีร.ต.หญงิ รชั นก บญุ ชัย) ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วยโรงเรยี นวัดไม้เสียบ วันท่ี 23 เดอื นกันยายน พ.ศ. 2564 ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนวัดไม้เสยี บ  เห็นชอบ  ไมเ่ ห็นชอบ (ระบุ).................................................................................... (ลงชอ่ื )....................................................... (นายประพันธ์ ยังชว่ ย) ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวดั ไม้เสยี บ วนั ที่ 23 เดอื นกันยายน พ.ศ. 2564

๑๙ ภาคผนวก