ความพึงพอใจการเรียนออนไลน์ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 (COVID-19)

การวจิ ยั ปฏบิ ตั ิการในชนั้ เรยี น ปกี ารศึกษา 2564 เรอื่ ง ความพงึ พอใจการเรยี นออนไลน์ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โควดิ 19 (COVID-19) ของนักเรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนวดั ไมเ้ สยี บ โดย วา่ ที่รอ้ ยตรีหญงิ รชั นก บุญชยั โรงเรียนวดั ไมเ้ สียบ สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราชเขต 3

ผู้วิจัย ว่าทร่ี ้อยตรีหญงิ รัชนก บญุ ชยั ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียน วดั ไม้เสยี บ หวั ข้อวิจัย ความพึงพอใจการเรยี นออนไลน์ในชว่ งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โควิด 19 (COVID-19) ของนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2/2 โรงเรยี นวัดไม้เสยี บ 1. ความเป็นมาและความสำคญั ของงานวจิ ัย สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ไดส้ ่งผลกระทบต่อ ประชากรโลกเปน็ วงกวา้ ง โดยมจี ำนวนผ้ปู ว่ ยติดเช้ือและผู้เสยี ชีวิตเพม่ิ ข้ึนเป็นจำนวนมากในระยะเวลา อนั รวดเร็ว องคก์ ารอนามยั โลกจงึ ได้ประกาศใหโ้ รคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 เปน็ โรคระบาดใหญ่ (Pandemic) ในวันที่ 11 มนี าคม พุทธศกั ราช 2563 (WHO, 2020, ยอ่ หน้า 17) อีกทั้งการแพรร่ ะบาด ของเช้ือไวรสั โคโรนายังทำให้พฤติกรรมมนุษย์ พฤตกิ รรมการบริโภคและการบริการเกิดการเปลี่ยนแปลง ทส่ี ำคญั ในหลายๆ ดา้ น ส่งผลให้ในหลายภาคส่วนเกดิ ผลกระทบ เช่น เศรษฐกิจ สังคม การท่องเทีย่ ว เทคโนโลยี และการศึกษา นอกจากน้ียังสง่ ผลให้สถานศึกษาไม่สามารถจัดการเรยี นการสอนได้ตามปกติ สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไดส้ ่งผลกระทบต่อ ประชากรโลกเป็นวงกว้าง โดยมจี ำนวนผ้ปู ว่ ยตดิ เช้อื และผู้เสยี ชีวติ เพิ่มขึน้ เป็นจำนวนมากในระยะเวลา อนั รวดเร็ว องคก์ ารอนามยั โลกจึงไดป้ ระกาศใหโ้ รคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เปน็ โรคระบาดใหญ่ (Pandemic) ในวันท่ี 11 มนี าคมพุทธศักราช 2563 (WHO, 2020, ย่อหนา้ 17) อีกทัง้ การแพรร่ ะบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนายังทำให้พฤติกรรมมนุษย์พฤติกรรมการบริโภคและการบริการเกดิ การเปล่ยี นแปลง ทสี่ ำคัญในหลายๆ ด้าน สง่ ผลให้ในหลายภาคส่วนเกิดผลกระทบ เชน่ เศรษฐกิจ สังคม การท่องเท่ียว เทคโนโลยี และการศึกษา นอกจากน้ยี ังส่งผลใหส้ ถานศกึ ษาไมส่ ามารถจดั การเรยี นการสอนได้ตามปกติ อีกทั้งยงั ส่งเสรมิ ให้โรงเรยี นจัดการเรยี นการสอนออนไลน์อีกด้วย นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้ตระหนักถึงความสำคญั ในการดแู ลนักเรยี น ผูป้ กครอง ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา จึงไดจ้ ัดทำแนวทางการจดั การเรยี นการสอนของโรงเรียนสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 ปี การศึกษา 2564 เพื่อให้โรงเรียนใช้เปน็ แนวทางในการจดั การเรยี นการสอนของโรงเรยี นในสังกัดอยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ (ศนู ย์เฉพาะกิจการจดั การศึกษาทางไกลในสถานการณโ์ รคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน, 2563, หน้า 2) สว่ นกาญจนา บุญภกั ดิ์ (2563, หนา้ 2) ได้เสนอแนวคิดทสี่ อดคล้องกันวา่ สถานศกึ ษาตา่ ง ๆ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวธิ ีการจดั การเรยี นร้อู ยา่ ง เรง่ ดว่ นในการพัฒนาการเรยี นการสอนของครมู าเป็นแบบออนไลน์เพ่ือลดการเผชิญหน้ากนั โดยใหม้ ีการ

จดั การเรียนรู้แบบออนไลน1์ 00% โดยงดเดนิ ทางมาเรยี น งดการรวมกล่มุ กนั เปน็ จำนวนมาก งด กจิ กรรมหลายๆกจิ กรรมทีจ่ ัดเพือ่ พฒั นาผู้เรียนมาเปน็ แบบออนไลน์ ผวู้ ิจัยในฐานะครูผู้สอน และจากสถานการณ์ข้างตน้ นั้น ผู้วิจยั มคี วามสนใจในการจัดการเรยี นรู้ แบบออนไลน์และสำรวจปญั หาทพ่ี บในการจัดการเรียนรู้แบบออนไลนข์ องนกั เรยี นโรงเรียนวัดไม้เสียบ จังหวดั นครศรธี รรมราช เพอื่ ใหเ้ กิดประโยชน์ในการจดั การเรียนรูใ้ นชว่ งสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) และนำองคค์ วามรู้ที่ได้ไปเปน็ แนวทางในการพฒั นาและ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ทมี่ ปี ระสิทธิภาพต่อไป 2. วัตถุประสงค์ 1. ศึกษาความพึงพอใจการเรียนออนไลนใ์ นชว่ งสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโควิด 19 (COVID-19) ของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2/2 โรงเรียนวัดไมเ้ สียบ จังหวัดนครศรธี รรมราช 3. วธิ ีดำเนินการวิจยั 1. ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง กล่มุ ตวั อยา่ งท่ใี ช้ในการวจิ ยั ครงั้ น้ีได้แก่ นกั เรียน โรงเรียนวดั ไมเ้ สยี บ จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 29 คน โดยใชว้ ธิ กี ารสมุ่ แบบเฉพาะเจาะจง 2. เครอ่ื งมือทใี่ ชใ้ นการวจิ ัย เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการวจิ ยั ครั้งน้ีเป็นแบบสอบถามความพึงพอใจการเรียนออนไลน์ในชว่ ง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โควดิ 19 (COVID-19) 4. ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้ 1. สามารถนำความรู้ทีไ่ ด้ไปเปน็ แนวทางในการพัฒนาและประยกุ ตใ์ ช้ในการจดั การเรยี นรู้ 5. ขอบเขตของการวจิ ยั 1. ประชากร คอื นกั เรียนระดบั ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 โรงเรยี นวดั ไมเ้ สยี บ จำนวน 29 คน 2. เนือ้ หาทใ่ี ชใ้ นการทำวิจัย ความพงึ พอใจการเรยี นออนไลน์ในชว่ งสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควดิ 19 (COVID-19) ของนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2/2 โรงเรียนวดั ไม้ เสียบจังหวดั นครศรีธรรมราช 6. วธิ ีดำเนินการวิจยั

ระยะเวลาในการดำเนนิ งาน ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 7. เครอ่ื งมือที่ใช้ในการวิจัย 1. แบบสอบถามความพึงพอใจการเรียนออนไลนใ์ นช่วงสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โควิด 19 (COVID-19) 8. สถิตทิ ใี่ ชใ้ นการวจิ ัย 1. การหาคา่ ร้อยละ 9. การวเิ คราะห์ข้อมูล จากการศึกษาวจิ ัยในชัน้ เรียนได้ศึกษากลุ่มนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 โรงเรียนวัดไม้เสยี บ จำนวน 29 คน ผูว้ ิจัยได้ทำการสง่ แบบสอบถามความพึงพอใจ การเรียนออนไลนใ์ นช่วงสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โควดิ 19 (COVID-19) ให้ นักเรียนทำออนไลน์ สามารถวเิ คราะห์ผลไดด้ งั น้ี









11. ข้อเสนอแนะคำตอบ 4 ข้อ 1.เวลาเรียนบางครั้งไม่ตรงกับเวลาที่ผู้ปกครองว่าง เพราะโทรศัพท์อยู่ที่ปกครองเป็นส่วน ใหญ่ 2.ควรมีใบงานให้นักเรียนหลังมีการเรียนการสอนของทุกๆวิชาให้นักเรียนได้ทำเป็นการบ้าน (นอกเหนือจากในหนังสือ) 3.อยากให้ครูพบกับนักเรียนมากกว่าน้ีและการบ้านหรือแบบฝึกหัดควรสอดคล้องกับเนื้อหา ด้วย 4.อย่างให้โรงเรียนเปิดการเรียนการสอนเร็วไวเด็กจะได้มีความรู้มากกว่าการเรียนออนไลน์ 11. สรปุ ผลการวิจัย จาการศึกษาวจิ ยั จะเหน็ ไดว้ ่านกั เรยี นช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2/2 จำนวน 29 คน มคี วามพงึ พอใจการเรียน ออนไลนใ์ นชว่ งสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โควิด 19 (COVID-19) ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2/2 โรงเรียนวัดไม้เสยี บ มรี ะดับพึงพอใจ 1 ถึง 5 ระดับ 1 น้อยมาก ระดบั 5 มากทส่ี ุด ดงั น้ี 1. นักเรียนพึงพอใจกับการอำนวยความสะดวกด้านการเรยี นออนไลน์ ความพึงพอใจมากที่สุด ระดับ 4 รอ้ ยละ 55.2 2. นักเรียนมีความสุขในการเรียนออนไลน์ ความพึงพอใจมากท่ีสุด ระดับ 3 รอ้ ยละ 41.4 3. ท่านไดร้ บั ความร้คู วามเขา้ ใจในการเรียนออนไลน์ ความพึงพอใจมากที่สุด ระดับ 3 รอ้ ยละ 55.2 4. นักเรยี นเขา้ ใจเน้ือหาจากการเรยี นออนไลน์ ความพึงพอใจมากท่ีสุด ระดับ 3 ร้อยละ 48.3 5. นกั เรยี นมคี วามพอใจกับการเรยี นออนไลน์ หรอื การเรียนในห้องเรยี น ในสภาวะ ปกตมิ ากกว่ากนั มีความพึงพอใจเรยี นในหอ้ งเรียน ในสภาวะปกติมากท่ีสุดร้อยละ96.6 6. นกั เรียนได้รับขา่ วสารการเรียนออนไลน์จากชอ่ งทาง แอพพลิเคช่ัน Line มากทส่ี ดุ ร้อยละ 69 7. นักเรียนใช้อปุ กรณ์อะไรในการเรยี นออนไลน์ โทรศัพท์มือถือมากท่ีสุดร้อยละ96.6 8. ความพร้อมในการเรียนออนไลนข์ องนักเรียนอยใู่ นระดบั ความพึงพอใจมากที่สุด ระดับ 3 รอ้ ยละ 62.1

9. การติดต่อสื่อสารระหวา่ งครปู ระจำชั้นกับนกั เรยี นและผู้ปกครองในสถานการณ์ โค วดิ 19 ความพึงพอใจมากท่ีสุด ระดับ 4 ร้อยละ 39.3 10. ทา่ นประสบปญั หาการเรียนในช่วง COVID -19 ความพึงพอใจมากท่ีสุด ระดับ 3 รอ้ ยละ 51.7 และต้องการให้มีการเปิดการเรียนการสอนเร็วไว ให้ครพู บกับนกั เรียนมากกว่านี้ มีใบงานหลักการ เรียนการสอนทุกวชิ า 12. ข้อคิดท่ีได้จากการวิจัย การเรยี นการสอนออนไลน์ทำให้นกั เรยี นพบปะกบั ครผู สู้ อนนอ้ ยลง ครตู อ้ งมีการจัดการเรียน การสอนให้สนกุ เสริมเกมส์ รว่ มตอบคำถาม บูรณาการกับวิชาอนื่ เพ่ือไม่ให้นกั เรยี นล้ากบั การเรยี น