Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Air Conditioners

Air Conditioners

Published by keawkhameye, 2021-05-01 10:56:16

Description: Air Conditioners

Search

Read the Text Version

การตดิ ตง้ั เครอื่ งปรบั อากาศ จดั ทาโดย : นายนราวชิ ญ ์ เขยี วคาอา้ ย

ความรพู้ น้ื ฐานและหลักการทางานของเครอ่ื งปรบั อากาศ กลไกการทางานของเคร่ืองปรับอากาศสว่ นประกอบทส่ี าคญั ของระบบการทา การความเยน็ (Refrigeration Cycle) มอี ะไรบา้ ง ซึง่ กระบวนการทาความเย็นน้ัน มอี งคป์ ระกอบหลกั ๆอยู่ (หัวใจหลกั ) 4 ส่วนได้แก่ 1. คอมเพรสเซอร์ (Compressor) ทาหนา้ ทข่ี บั เคลือ่ นสารทาความเย็น หรอื นา้ ยา (Refrigerant) ในระบบ โดยทาให้สารทาความเยน็ มีอณุ หภมู ิ และ ความดันสูงขึน้ 2. คอยล์รอ้ น (Condenser) ทาหนา้ ท่ีระบายความรอ้ นของสารทาความเย็น 3. คอยล์เยน็ (Evaporator) ทาหน้าท่ีดูดซับความรอ้ นภายในห้องมาสสู่ ารทา ความเย็น 4. อปุ กรณล์ ดความดัน (Throttling Device) ทาหนา้ ท่ีลดความดันและอณุ หภมู ิ ของสารทาความเย็น

ร ะ บ บ ก า ร ท า ค ว า ม เ ย็ น ที่ เ ร า ก า ลั ง ก ล่ า ว ถึ ง คื อ ร ะ บ บ อั ด ไ อ ( Vapor- Compression Cycle) ซ่ึงมีหลักการทางานง่ายๆคือ การทาให้สารทาความเย็น (นา้ ยา) ไหลวนไปตามระบบ โดยผา่ นส่วนประกอบหลักทง้ั 4 อย่างตอ่ เนื่องเป็น วัฏ จกั รการทาความเยน็ (Refrigeration Cycle) โดยมกี ระบวนการดังน้ี 1. เริ่มต้นโดยคอมเพรสเซอร์ทาหน้าท่ีดูดและอัดสารทาความเย็นเพ่ือเพ่ิม ความดนั และอุณหภมู ขิ องนา้ ยา แลว้ ส่งตอ่ เข้าคอยล์ร้อน 2.น้ายาจะไหลวนผ่านแผงคอยล์ร้อนโดยมีพัดลมเป่าเพื่อช่วยระบายความ รอ้ น ทาให้น้ายาจะท่อี อกจากคอยล์ร้อนมีอณุ หภูมลิ ดลง (ความดนั คงท่ี) จากนั้นจะ ถกู สง่ ตอ่ ให้อุปกรณ์ลดความดัน 3.น้ายาท่ีไหลผ่านอุปกรณ์ลดความดันจะมีความดันและอุณหภูมิที่ต่ามาก แล้วไหลเขา้ สคู่ อยลเ์ ย็น (หรือท่นี ยิ มเรียกกนั ว่า การฉีดนา้ ยา) 4.จากนั้นน้ายาจะไหลวนผ่านแผงคอยล์เย็นโดยมพี ัดลมเป่าเพ่ือช่วยดูดซับ ความร้อนจากภายในห้อง เพ่ือทาให้อุณหภูมิห้องลดลง ซึ่งทาให้น้ายาท่ีออกจาก ค อ ย ล์ เ ย็ น มี อุ ณ ห ภู มิ ท่ี สู ง ข้ึ น ( ค ว า ม ดั น ค ง ที่ ) จ า ก นั้ น จ ะ ถู ก ส่ ง ก ลั บ เ ข้ า คอมเพรสเซอร์เพือ่ ทาการหมนุ เวียนน้ายาต่อไป สาหรับบา้ นพักอาศัยท่ีตอ้ งการปรับอากาศให้กบั ห้องต่างๆท่ีมีขนาดไม่ใหญ่ มากและจานวนห้องไม่มากหรือหากมีจานวนหอ้ งที่จะปรับอากาศหลายห้องแตอ่ าจ มีการใช้งานแต่ละห้องปรับอากาศไม่พร้อมๆกัน อาจติดต้ังเคร่ืองปรับอากาศแบบ แยกส่วน โดยทั่วไปขนาดทาความเย็นจะไม่เกิน 40,000 บีทียูต่อช่ัวโมง ซ่ึง สามารถเลือกเปิด-ปิดเครอ่ื งปรับอากาศตามความตอ้ งการใชง้ าน

เคร่ืองปรับอากาศของบ้านพักอาศัย ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ ท่ีสาคัญ 9 อย่าง ดงั น้ี 1.แผงท่อทาความเยน็ (Cooling coil) 2.คอมเพรสเซอร์ (Compressor) 3.แผงท่อระบายความรอ้ น (Condenser coil) 4.พัดลมส่งลมเยน็ (Blower) 5. พดั ลมระบายความร้อน (Condenser fan) 6.แผ่นกรองอากาศ (Air filter) 7. หน้ากากเครือ่ งที่มแี ผน่ เกลด็ กระจายลมเยน็ (Louver) 8.อปุ กรณค์ วบคุมสาหรบั การควบคุมอุณหภมู หิ ้อง 9.อปุ กรณ์ป้อนสารทาความเย็น (Metering device) EER (Energy Efficiency Ratio) หรืออัตราส่วนประสิทธภิ าพพลังงานของ เคร่ืองปรับอากาศ คือค่าท่ีใช้วัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ของเคร่ืองปรับ อากาศวา่ ดีหรือไม่ อย่างไร มีหน่วยเป็น (Btu/hr.)/W ดูจากหน่วยของค่า EER น้ี แล้วก็คงเข้าใจได้โดยง่ายว่าค่า EER น้ันก็คืออัตราส่วนของความเย็นที่ เครื่องปรับอากาศสามารถทาได้จริง (Output) กับกาลังไฟฟ้าท่ีเครื่องปรับอากาศ

นั้นต้องใชใ้ น การทาความเย็น (Input) เครื่องปรบั อากาศที่มีคา่ EER ยง่ิ สงู ก็แสดง ว่า เครอื่ งปรับอากาศเครอื่ งนน้ั ยง่ิ มปี ระสิทธิภาพ ในการ ใช้พลงั งานท่ดี ีย่ิงขน้ึ ความรพู้ นื้ ฐานเบอ้ื งตน้ เครอ่ื งปรบั อากาศ 1. BTU (British Thermal Unit) คือ ขนาดทาความเย็นของ เคร่ืองปรับอากาศ มี หน่วยดังน้ี 1 ตันความเย็น เท่ากับ 12000 BTU/hr. เราควรเลือกขนาด BTU ให้ เหมาะสมกับขนาด ของห้อง ท่ีจะทาการติดต้ัง โดยสามารถเลือก ได้จากตาราง ด้านลา่ งน้ี BTU สงู ไป คอมเพรสเซอรท์ างานตัดบ่อยเกนิ ไป ทาใหป้ ระสิทธภิ าพ ใน การ ทางานลดน้อยลง ทาใหค้ วามช้ืนในห้องสงู ไม่สบายตัว และที่สาคัญ ราคา แพง และสน้ิ เปลืองพลงั งาน BTU ตา่ ไป คอมเพรสเซอรท์ างานตลอดเวลา เพราะความเยน็ ห้องไม่ได้ ตาม อณุ หภมู ิ ทต่ี ง้ั ไวส้ ิ้นเปลอื งพลงั งาน และเครื่องปรบั อากาศ เสยี เรว็ ระบบ Inverter หรอื ธรรมดา ดกี วา่ กนั ? หลายท่านจะมคี าถามเม่อื ตอ้ งการซอ้ื เครอ่ื งปรับอากาศวา่ จะเลือกระบบอะไร ดรี ะหวา่ ง ระบบ Inverter กับ ธรรมดา โดย 2 ระบบน้ตี า่ งกนั ทีร่ ะบบเซ็นเซอร์ ตรวจจับความเยน็

ระบบ Inverter เมอ่ื อุณหภมู ถิ งึ จุดทตี่ อ้ งการแลว้ คอมเพรสเซอรจ์ ะทางาน เบาลงแต่ไมห่ ยดุ ทางาน สามารถหรอ่ี ณุ หภูมเิ ลย้ี งตามสภาพอณุ หภมู ใิ นหอ้ งได้ ระบบแอร์ธรรมดา เมอ่ื ทาความเยน็ ถึงจดุ ทต่ี อ้ งการแลว้ ระบบจะตดั การ ทางานคอมเพรสเซอร์ รอให้อุณหภมู ิตกมาถงึ ระดับทต่ี อ้ งทางานคอ่ ยเริ่มสตารท์ ใหมเ่ พอ่ื ไตร่ ะดบั อณุ หภูมใิ หมอ่ ีกคร้ัง ทาใหท้ ุกคร้ังที่สตา๊ ทการทางานกนิ ไฟ มากกว่าเลย้ี งระดบั อณุ หภมู ไิ ปเร่อื ยๆ ปจั จยั ท่ีควรพิจารณา ในการเลอื กซือ้ เคร่อื งปรับอากาศ 1. จานวนและขนาดของหน้าต่าง 2. ทศิ ทแี่ ดดส่องหรอื ทิศท่ตี ั้งของหอ้ ง 3. วสั ดหุ ลังคามฉี นวนกนั ความรอ้ นหรือไม 4. จานวนคนทใ่ี ชง้ านในห้อง การคานวณ BTU ของเคร่ืองปรับอากาศ BTU = พน้ื ท่หี ้อง (กว้าง*ยาว)*ตวั แปร หากฝา้ เพดานสูงกวา่ 2.5 เมตร มจี านวนคนในห้องมาก หรือมคี อมพวิ เตอร์ ควรบวกคา่ BTU เพ่ิมขนึ้ อกี 5% จากคา่ ปกติ ตวั แปรความรอ้ น แบ่งได้ 2 ระดับ 1. 700-800 สาหรับห้องนอน หรือห้องที่มีความร้อนน้อย (ห้องที่ไม่โดนแดด หรือ โดนเล็กนอ้ ย ฝา้ ต่า หรือหอ้ งท่ใี ช้เครือ่ งปรบั อากาศชว่ งกลางคืน) 2. 800-900 สาหรับห้องรับแขก หรือห้องท่ีมีความร้อนปานกลาง - มาก (ห้องที่ โดนแดด อย่ทู ศิ ตะวนั ตก หรอื ใช้เคร่ืองปรับอากาศชว่ งกลางวนั ) 3. 900-1000 สาหรับห้องทางาน ห้องออกกาลังกาย หรือห้องที่มีความร้อนมาก หรือฝ้าสูง (หอ้ งท่ีโดนแดด อยู่ทิศตะวันตก อยู่ชั้นบนสุด หรือใช้เครอ่ื งปรับอากาศ ชว่ งกลางวนั ) 4. 1000-1200 สาหรับร้านค้า ร้านอาหารที่เปิดปิดประตูบ่อย ร้านทาผม หรือ สานักงานท่ีมคี นอยู่จานวนมาก = (1,040x8x3x80%x30)/1,000 = 599 บาท/เดอื น

วธิ กี ารคานวณ คา่ ไฟตอ่ เดอื น = (จานวนวตั ต(์ Watt) x จานวนชวั่ โมงท่ใี ช้จรงิ x คา่ ไฟตอ่ หน่วย x อัตราการทางาน 80% x 30วัน) / 1,000w

ความรเู้ บอ้ื งตน้ ในการตดิ ตงั้ เครอื่ งปรบั อากาศ เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการตดิ ตงั้ เครอ่ื งปรบั อากาศ อาจจะแบง่ เปน็ ประเภทไดด้ งั น้ี 1. เกจวดั นา้ ยา(Manifold Gauge) เปน็ เคร่ืองทใี่ ชส้ าหรับวดั ค่าความดันภายในระบบ เครอ่ื งปรบั อากาศเพอื่ การตรวจซ่อมและใชใ้ นการเตมิ นา้ ยาแอรห์ รือสารทาความเยน็ และในกระบวนการทา สุญญากาศ จาเปน็ ต้องใช้เกจวดั ความดันทคี่ งเหลืออยู่ ในระบบด้วย การเลือกใชต้ ้องเลอื กใชง้ านใหต้ รงกบั น้ายา ระหว่าง R22, R134a, R404a ทม่ี ีความดนั ต่า กบั R410a, R-32 ที่มคี วามดันสงู กว่ากลมุ่ ขา้ งตน้ ประมาณ 1.6 เท่า จงึ ไม่สามารถใชเ้ กจวัดตวั เดยี วกันได้ เน่ืองจากความแตกต่าง ของความดนั น้ายาแอรท์ ี่ไมเ่ ทา่ กัน 2. แวคคมั่ ปมั๊ (Vacuum pump) หรอื ปั๊มสุญญากาศ ทาหนา้ ที่ดดู อากาศออกจากระบบ เพือ่ ทาให้ความดันตา่ ลงจนเป็นสุญญากาศ ความชนื้ และนา้ จะระเหยออกจากระบบ หรอื เรยี กว่าการ ทาแวคค่ัม เพอื่ ให้น้ายาแอรท์ างานไดเ้ ตม็ ประสิทธภิ าพ ไม่มอี ากาศหรอื ความช้นื เจือปน ซึ่งอาจใช้เวลาในการ ทานาน แตจ่ าเป็นต้องทา เพ่อื อายกุ ารใชง้ านของแอร์ที่ ยาวนาน โดยเครือ่ งแวคคมั่ ปมั๊ ท่มี รี ะดบั การทา สุญญากาศท่ีดีจะสามารถทาคา่ ไมครอนไดต้ า่ ซงึ่ จะทา ใหก้ ารทาแวคคม่ั รวดเร็ว และความชืน้ ในระบบระเหยออกไดด้ ยี ่ิงขนึ้ 3. คตั เตอรต์ ดั ทอ่ (Tube Cutter) เป็นเครอื่ งมือท่ใี ช้ในการตัดท่อทองแดงได้หลาย รปู แบบเพอ่ื ให้เหมาะกบั การใชง้ าน การจะเดนิ ทอ่ น้ายา แอรห์ รอื สารทาความเยน็ ได้ จะตอ้ งไดใ้ ช้งานคัดเตอร์ ตดั ท่อแนน่ อน ในการใชง้ านจริง ตอ้ งใช้คดั เตอร์ เฉพาะสาหรับตัดทอ่ หรอื มินคิ ัตเตอร์ ในการตดั ทอ่ ทองแดงใหไ้ ด้ความยาวทอ่ ตามตอ้ งการ มีใหเ้ ลือกใช้ หลายขนาดดว้ ยกนั ตง้ั แต่ 1/8”, 7/8”, 1/8”, 5/8”, 1/8”, 7/8”, 1/8”, 1-1/4”

4. รมี เมอร์ (reamer) หรอื เคร่อื งลบคมท่อ ใชส้ าหรบั ลบคมหรอื เสยี้ นออกจาก ทอ่ ทองแดง หรอื บริเวณปากทอ่ ทองแดงที่เกดิ จากงานตดั ของคตั เตอรต์ ัดทอ่ ฯ หากไมล่ บคมทอ่ กอ่ นทาการบานแฟร์ อาจะทาใหง้ านที่บานไม่ได้รปู ทรง เส้ยี นโลหะจะทาให้ แฟรเ์ ป็นรอย ซงึ่ เปน็ สาเหตทุ ่ที าให้นา้ ยาหรอื สารทาความ เยน็ รวั่ ได้ 5. เครอื่ งบานแฟรท์ อ่ (Flaring Tool) เปน็ เครื่องมอื สาหรับบานท่อทองแดงเพ่อื ใชเ้ ป็นจดุ เชือ่ มตอ่ ระหว่างทอ่ ทองแดงและแฟรน์ ัทเขา้ กับช่องเซอร์วสิ สาหรับแฟรท์ ี่ไดน้ ั้นหากเลก็ เกนิ ไป หรอื แฟร์มรี อย ก็จะเป็น สาเหตุท่ีทาใหน้ ้ายาแอรห์ รอื สารทาความเยน็ ในระบบรว่ั ได้ 6. ประแจทอรค์ หรอื ประแจปอนด์ (Torque Wrench) เปน็ ประแจที่สามารถกาหนดค่าแรงบิดการขนั แฟรน์ ทั ได้ ใชส้ าหรบั ระบบปรบั อากาศ หากใชป้ ระแจทว่ั ไปขนั จะต้องกาหนดแรงบดิ ดว้ ยตวั เองตามความชานาญของ ชา่ งแตล่ ะคน ถา้ ขันไมแ่ นน่ ก็เปน็ สาเหตุทที่ าใหน้ า้ ยาแอร์ หรือสารทาความเยน็ ในระบบรวั่ ได้ หรือแนน่ ไปจนทาให้ แฟร์นัทแตก 7. เครอื่ งดดั ทอ่ หรอื เบนเดอรด์ ดั ทอ่ (Tube bender) เป็นเครอ่ื งมอื สาหรบั ดดั ท่อทองแดง ซง่ึ สามารถดดั มมุ ได้ 90 – 180 องศา การดดั ทอ่ ทีด่ ี ท่อทถ่ี ือว่าใชไ้ ด้หลงั จาก ทาการดดั แล้ว ขนาดของเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลางของทอ่ จะตอ้ งไม่ต่ากวา่ 2 ใน 3 ของขนาดทใ่ี ช้ หากใชท้ อ่ บาง หรือท่อที่มีความหนาตา่ กวา่ คาแนะนาของผู้ผลิต แล้ว นามาดดั จะทาใหเ้ กดิ ปัญหาท่อบีบหรือทอ่ ยน่ ได้ จะส่งผล กระทบต่อการทางานของระบบเคร่อื งปรบั อากาศ

8. ชดุ เบง่ ขยายทอ่ ทองแดง (Tube Expander) เป็นเครอื่ งมือสาหรบั การขยายท่อทองแดง และอลมู ิเนยี ม ชนดิ อ่อน เพ่อื การตอ่ ท่อโดยไมต่ ้องใช้ Fitting ประกอบด้วย ตัวเบง่ ขยายท่อทองแดง ขนาด 1/4″, 5/16″, 3/8″, 1/2″, 5/8, 3/4″, 7/8″, 1″, 1-1/8″ 9.. สวา่ น (Drill) มีหนา้ ท่ีในการเจาะกาแพง เพอื่ ตดิ ตง้ั เคร่อื งปรับอากาศ ท้ังติดผนัง เพดาน รวมไปถงึ ต้ังพน้ื สวา่ นทด่ี จี ะต้องมคี วาม ทนทาน ทนแรงกระแทก และรองรบั ความรอ้ นสงู ในการ ใช้งานติดตอ่ กันได้ 10. หวั เจาะกลม (Hole saw) มไี วเ้ พ่อื เจาะรทู ่อทผี่ นงั ให้เปน็ วงกลม ไดข้ นาดพอดีกบั ท่อ ลดรอยแตกรา้ วขณะเจาะ เหมาะสาหรบั ใช้เจาะรรู ้อยท่อ แอร์ รูท่อสารทาความเยน็ ในการติดตงั้ 11. เครอ่ื งชง่ั นา้ ยาแอร์ (Refrigerant Scale) เคร่ืองช่ังนา้ ยาแอร์ แสดงผลแบบดิจติ อล สาหรับไว้ใชช้ ่ัง ถงั น้ายาแอร์ ในระหวา่ งการเตมิ น้ายา ควรมคี วามแม่นยา สงู เพ่อื กันไมใ่ หเ้ ตมิ นา้ ยามาก หรอื นอ้ ยเกินไป

12. เครอ่ื งฉดี นา้ หรอื ปมั๊ นา้ แรงดนั ตา่ คอื อุปกรณ์ทเ่ี หมาะสมที่สุดในการทาความสะอาด เครือ่ งปรบั อากาศประเภท Wall Type เนอื่ งจากแรงดันน้า ท่พี อเหมาะของปั๊มจะไมท่ าให้ฟินคอยลเ์ ย็นเกดิ ความ เสียหาย ถา้ ฟินเสยี หาย พับหรืองอ จะทาใหเ้ ปน็ สาเหตุ ของแอร์ไม่เย็น การลา้ งทาคามสะอาดระบบปรับอากาศ ไม่ไดใ้ ชเ้ พียงแคแ่ รงดนั นา้ ในการทาความสะอาด เพราะ ยงั มเี ร่อื งคราบสกปรกและกล่ินท่ีไมพ่ งึ ประสงค์อกี ดว้ ย เราจงึ ควรใช้ควบคกู่ ับนา้ ยา ทาความสะอาด 13. นา้ ยาแอร์ หรอื สารทาความเยน็ ถอื เปน็ ส่ิงทช่ี ่างระบบปรบั อากาศและทาความเยน็ มีตดิ รถไวเ้ สมอ การใชง้ านขึ้นอยูก่ ับชนิดของ เครอื่ งปรบั อากาศ เพ่ือใช้เติมเข้าสู่เครือ่ งปรบั อากาศ เชน่ R-22 , R410a โดยมาตรฐานการเติมนา้ ยาแอร์ ขนึ้ อยูก่ บั ชนิดของนา้ ยา สาหรบั งานเคร่อื งปรับอากาศ ชา่ งควรจะต้องมีการชงั่ น้าหนักเตมิ ตามฉลากของ เครือ่ ง และวดั ความดนั น้ายา ค่ากระแสไฟฟ้า รวมถงึ คานวณคา่ superheat, subcooling เพือ่ ความถกู ต้องสงู สดุ 14. แคลมปว์ ดั ไฟฟา้ (Clamp Meter) เปน็ เครอ่ื งวัดกระแสไฟฟา้ ซ่งึ ใช้สาหรบั วดั ค่า กระแสไฟฟา้ (Current Measurement) ท่ีไหลในวงจร ได้อย่างรวดเรว็ และแม่นยา โดยไมต่ อ้ งดบั ไฟหรือหยุด การทางานของอปุ กรณไ์ ฟฟ้า โดยแคลมปม์ เิ ตอร์ จะมี สว่ นคล้ายกบั ก้ามปเู พอ่ื ใชค้ ลอ้ งกบั สายไฟและสามารถ อา่ นค่าได้ทันที ซ่งึ มีดว้ ยกนั หลายยีห่ ้อ ทร่ี วบรวม ฟังก์ชนั การวดั กระแสไฟเข้าไว้ในตัวเดยี ว ไมว่ า่ จะเปน็ Current วดั กระแส AC/DC , Voltage วดั แรงดัน, Continuity Check เชก็ ความ ต่อเน่ือง, Resistance วัดค่าความต้านทาน

15. ปากกาวดั ไฟ (Voltage Detector) เปน็ อปุ กรณท์ ่มี คี วามจาเป็นสาหรบั ชา่ งแอร์ และช่าง ไฟฟ้าทุกคน ใช้วัดไฟในจดุ ตา่ งๆ ตรวจเชก็ หา แรงดนั ไฟฟา้ (Voltage Detector) โดยไมต่ อ้ งสมั ผสั ที่ สายไฟหรือโลหะโดยตรง เหมอื นไขควงวดั ไฟทวั่ ไป เพ่ือความปลอดภัยในการใชง้ านมากยงิ่ ข้ึน 16. ชดุ เชอ่ื มทอ่ (hand torch) ไมว่ ่าจะเป็นชดุ เชื่อมสนาม หรือ หวั เช่ือมแกส๊ กระปอ๋ ง ใช้สาหรบั เชอื่ มทอ่ ทองแดงในงานปรบั อากาศ ซง่ึ ตอ้ ง ใช้ความร้อนสงู ในการเช่อื ม หากความรอ้ นไม่ถงึ จุดท่ี หลอมเหลวกจ็ ะทาใหง้ านเชื่อมไม่มีประสิทธภิ าพ สาหรบั หน้างานท่ีพืน้ ท่จี ากดั การเลอื กใชห้ วั เชื่อมแกส๊ กระป๋องนน้ั ควรเลอื กใช้กระปอ๋ งท่ีมคี ณุ ภาพ ปลอดภยั มีความทนทานปอ้ งกนั การเกดิ แกส๊ รวั่ ได้ วธิ กี ารตดิ ตง้ั เครอื่ งปรบั อากาศ การเลอื กตาแหนง่ ตดิ ตง้ั เครอ่ื งปรบั อากาศ ตาแหน่งคอนเดน็ ซ่ิงยนู ิต ( CDU ) ทเ่ี หมาะสม 1. บรเิ วณทีต่ ิดตงั้ เครอื่ งตอ้ งแข็งแรงสามารถรบั น้าหนกั และแรงสนั่ สะเทือนจาก การทางานได้ 2.ในกรณที ค่ี อนเดน็ ซงิ่ ต้ังวางบนพนื้ ดินตอ้ งทาฐานรองรับเคร่อื งดว้ ยคอนกรีต 3. ติดตัง้ ในบรเิ วณทีอ่ ากาศถา่ ยเทได้สะดวกและหา่ งจากมุมอบั 4. บรเิ วณท่ีติดตั้งตอ้ งมกี ารระบายน้าไดด้ ีหรอื ที่ที่นา้ ทว่ มไมถ่ งึ 5. การวางคอนดน็ ซ่งิ ยูนติ ควรมลี ูกยางรองเพ่ือลดแรงสัน่ สะเทือนจากการทางาน ของตัวเครอื่ ง 6. ควรวาง CDU ใหห้ า่ งจากพืน้ ทใี่ ช้สอยท่ัวไปเพอื่ หลกี เลย่ี งจากปญั หาเร่อื งเสยี ง รบกวน 7. อย่าตงั้ เครื่องชดิ กบั คอนเดน็ ซิ่งยูนติ อื่นหรอื ผนังเพราะทาใหร้ ะบายความร้อน ยาก

8. หลกี เลี่ยงการติดต้ังในสภาพแวดลอ้ มท่ไี มด่ ี เชน่ มีความเปน็ กรดสูง,แสงแดด แรงหรอื มีนา้ หยด 9. ควรวาง CDU ในบริเวณทีส่ ามารถเขา้ ไปตรวจซ่อมภายหลงั ไดอ้ ย่างสะดวก ตาแหนง่ แฟนคอยลย์ นู ิต ( FCU) ท่เี หมาะสม 1. ตง้ั ในบริเวณทส่ี ามารถกระจายลมไดท้ วั่ ทงั้ ห้องอย่าตดิ ต้งั เครอ่ื งในมุมอับ 2. อย่าใหส้ ่งิ ของกดี ขวางทางไหลของอากาศเพราะจะทาให้อากาศหมนุ เวียนไม่ สะดวก 3. บริเวณที่ติดต้งั เครอ่ื งต้องแขง็ แรงสามารถรับน้าหนกั และแรงสนั่ สะเทือนจาก การทางานได้ 4. หลกี เล่ยี งการวาง FCU ใกลก้ บั ประต,ู หนา้ ต่างหรือพดั ลมดดู อากาศ 5. ควรวาง FCU ในบรเิ วณท่สี ามารถตรวจซ่อมภายหลังได้อย่างสะดวก 6. อยา่ ต้ังชิดผนังที่โดนแดดจดั เพราะจะทาให้ไดร้ ับความรอ้ นจากภายนอกได้งา่ ย 7. พยายามตดิ ต้ังแฟนคอยลย์ นู ติ ใหอ้ ยใู่ กลก้ บั คอนเดน็ ซง่ิ ยูนิตจะทาให้ ประสิทธภิ าพสูงสุด การตดิ ตงั้ ทอ่ นา้ ยา ระบบทอ่ น้ายานบั วา่ เปน็ ส่วนทม่ี คี วามสาคญั มากทส่ี ดุ ในการตดิ ต้ังเคร่อื งปรบั อากาศแบบแยก สว่ นการเลือกใช้ขนาดท่อทีม่ ีขนาดเลก็ เกนิ ไปจะมีผลทาใหเ้ กิด ปญั หาตามมาเช่น ทาใหป้ ระสิทธิ ภาพของเครอื่ งตา่ ลงหรอื ความดนั ตกคร่อม (Pressure Drop) ระหว่างท่อมากเกินไป เปน็ ตน้ ดังนนั้ ในการเลือก ใชข้ นาดทอ่ น้ายาต้องคานงึ ถงึ 1. PIPE DIAMETER ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางของท่อน้ายา 2. PIPE LENGTH ความยาวทอ่ นา้ ยา 3. NUMBER OF FITTINGS จานวนของข้อต่อต่างๆ เช่น ข้องอ 4. FLUID VELOCITY ความเร็วในการเคลอื่ นทขี่ องสารทาความเยน็ การเลือกใช้ทอ่ น้ายาควรเลอื กตามคูม่ ือตดิ ต้งั เครอ่ื งปรบั อากาศนนั้ ๆ แตถ่ า้ ไมท่ ราบกส็ ามารถหา ขนาดครา่ วๆได้จากแผนผังคานวณขนาดทอ่ นา้ ยาซง่ึ

โดยทัว่ ไปกาหนดความดนั ตกคร่อมดา้ นดดู (Suction Line Pressure Drop) 2 PSI/100 FT และความดันตกครอ่ มด้านส่ง (Discharge Line PressureDrop) 4 PSI/100 FT. นอกจากการเลอื กใชข้ นาดท่อน้ายาท่ีถกู ตอ้ งแลว้ การเดนิ ท่อน้ายายงั ต้อง ทาอยา่ งถกู หลกั การอกี ดว้ ยจึงจะทาใหเ้ ครอื่ งทางานอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ เชน่ ระบบทอ่ น้ายาตอ้ งทาความสะอาดให้ดแี ละ แหง้ และในการเดนิ ทอ่ นา้ ยาต้อง คานึงถงึ ความเรว็ ของไอน้ายาใหม้ ากพอทจี่ ะพานา้ มันหลอ่ ลื่น กลบั คอมเพรสเซอร์ ด้วย ดังน้ันในการตดิ ตง้ั คอนเด็นซิ่งและอวี าพอเรเตอรใ์ นระดบั ทต่ี ่างกนั จะ ต้อง คานึงถงึ 1. การตดิ ตง้ั อีวาพอเรเตอร์ต่ากวา่ คอนเดน็ ซงิ่ จะมผี ลใหน้ า้ มนั กลบั เข้า คอมเพรสเซอร์น้อยเพราะ คอมเพรสเซอรอ์ ยสู่ งู กว่า ดงั นัน้ การเดินทอ่ ดา้ นดูดตอ้ ง คานึงถึงความดนั ตกครอ่ มและเรอ่ื งน้ามนั กลับด้วย 2. การตดิ ตัง้ คอนเดน็ ซงิ่ ต่ากวา่ อวี าพอเรเตอร์ จะมีผลใหค้ วามดันตกลง เพราะคอมเพรสเซอรต์ ้อง อดั นา้ ยาข้นึ ทส่ี ูง ดงั นั้นการเดินท่อดา้ นสง่ ตอ้ งคานึงถงึ ความดันตกคร่อมจากความเสยี ดทานและ การเดนิ ทอ่ ในแนวดง่ิ การเดนิ ท่อน้ายาด้านดูดเม่ือตาแหนง่ การวางอวี าพอเรเตอร์และคอนเดน็ ซ่ิงอยใู่ น ลักษณะตา่ งๆ เปน็ ดังน้ี 1. เมือ่ คอนเด็นซิง่ อยู่เหนืออวี าพอเรเตอร์ ให้ทาท่ีกักนา้ มนั (Oil Trap) เพ่อื ใหแ้ นใ่ จว่า น้ามนั ที่อยู่ในระบบจะไหลกับข้ึนไป ยังคอม เพรสเซอร์ การทาทก่ี ักน้ามนั ควรทาให้ใกล้ อวี าพอเรเตอรท์ ีส่ ดุ เทา่ ที่จะทา ได้ 2. เมื่อคอนเดน็ ซง่ิ อยู่เหนืออีวาพอเรเตอร์ใหท้ าท่กี กั น้ามันทกุ ๆชว่ งความสูง 4.5 ม. ท้ังนี้เพอื่ ใหเ้ กบ็ กักน้ามันเอาไวใ้ นขณะ ทคี่ อมเพรสเซอร์เริ่มทางานอกี คร้ัง น้ามัน จากท่ีกกั นา้ มันน้ีจะถกู ดดู ไปหล่อลืน่ คอม เพรสเซอรไ์ ด้ทันที (ไม่ควรเดินทอ่ ในแนวดง่ิ สงู เกินกวา่ 15 ม.) การเดินทอ่ นา้ ยาต่อระบบทาความเย็นยาวเกนิ 10 เมตร จะตอ้ งเตมิ นา้ มันหล่อลนื่ เพ่ิมเติมเพือ่ ชดเชยผลของฟลิ ม์ นา้ มนั ท่ตี กค้างผวิ ด้านในของท่อดูด

ตามอัตราตารางตอ่ ไปน้ตี อ่ ทกุ ๆความยาว 1 เมตรท่ีเดิน การเตมิ น้ามนั ใหด้ จู าก OIL SIGHT GLASS (ถา้ ม)ี โดยให้อยูใ่ นชว่ ง 1/2 ถงึ 3/4 ของ OIL SIGHT GLASS ขนาดทอ่ อตั ราเตมิ นา้ มันต่อทกุ ความยาว 1 เมตร 3/8 7.5 มิลลิเมตร (ซ.ี ซ)ี 1/2 10 มลิ ลเิ มตร (ซี.ซี) 5/8 20 มิลลเิ มตร (ซี.ซี) 3/4 30 มลิ ลิเมตร (ซี.ซี) 7/8 40 มลิ ลเิ มตร (ซี.ซ)ี 1-1/8 50 มลิ ลเิ มตร (ซี.ซ)ี เมอ่ื เดินท่อน้ายาผา่ นผนัง,กาแพง ควรบหุ รอื ห่อด้วยฉนวน ซึง่ สามารถลด การสัน่ สะเทอื นได้ สว่ น ทอ่ ดา้ นดดู ตอ้ งห้มุ ฉนวนตลอดความยาวของทอ่ ฉนวนที่ ใช้หมุ้ ทอ่ นต้ี อ้ งมีความหนาอย่างนอ้ ย 1/2 นิว้ โดยปกติแลว้ ทอ่ ด้านส่งไม่ จาเป็นตอ้ งหุ้มฉนวน ยกเว้นในกรณีทเี่ ดนิ ทอ่ ผา่ นบรเิ วณท่ีมี อณุ หภมู สิ ูง เช่น หอ้ ง หม้อนา้ หรือกลางแดดรอ้ นจดั ควรจะใชฉ้ นวนยางทม่ี คี วามหนาอยา่ งน้อย 3/8 นวิ้ หุ้มห่อด้านสง่ ด้วย และตอ้ งเพิ่มความหนาของฉนวนดา้ นดูดข้ึนเปน็ พิเศษด้วยอย่าง น้อย หนา 3/4 น้วิ การตดิ ตง้ั ทอ่ นา้ ทง้ิ ทอ่ นา้ ทง้ิ จัดว่าเป็นสว่ นสาคัญส่วนหนงึ่ ถ้าตดิ ตั้งไม่ดีอาจมผี ลใหน้ า้ ไม่สามารถ ระบายออกและขงั อยใู่ นตวั เครื่องจนล้นออกมาภายนอกสรา้ งความเสียหายให้ บริเวณรอบๆเครื่องได้ ทอ่ นา้ ทิง้ โดย มากจะใชท้ ่อ S-LON หรอื ทอ่ PVC โดยตอ่ ออกจากตวั เครื่องอีวาพอเรเตอร์ ทอ่ นา้ ท้งิ ควรจะหุ้ม ฉนวนตรงบรเิ วณทอ่ี าจจะเกดิ มกี าร condensate โดยเฉพาะถ้าเดินทอ่ อยู่ในฝา้ เพดาน นอกจาก นี้ท่อนา้ ท้ิงควร ทา TRAP ด้วย

การบารงุ รกั ษาเครอื่ งปรบั อากาศ เพือ่ ใหเ้ ครอื่ งปรับอากาศทางานเตม็ ประสทิ ธภิ าพและมีอายุการใชง้ านยาวนานจึง ควรหมัน่ ดแู ลบารงุ รกั ษาอย่างสมา่ เสมอ มีขอ้ แนะนาโดยท่ัวไปเกยี่ วกบั การ บารุงรกั ษาดังนี้ 1. หมน่ั ตรวจสอบและทาความสะอาดแผ่นกรองอากาศของแฟนคอยล์ยูนติ ทุกสอง สัปดาห์ 2. แผงอวี าพอเรเตอรค์ อยลแ์ ละคอนเดน็ เซอรค์ อยล์ควรทาความสะอาด 3-6 เดือน ตอ่ ครัง้ 3. มอเตอร์พัดลมท้ังแฟนคอยลย์ ูนติ และคอนเดน็ ซิง่ ยนู ิตตอ้ งมีการตรวจเช็คทกุ 6 เดอื น และทาการหลอ่ ลนื่ โดยการอดั จาระบหี รอื หยอดน้ามนั อยา่ งสม่าเสมอ 4. ตรวจดถู าดนา้ ทง้ิ ทาความสะอาดเพ่อื ให้การไหลของน้าทิ้งเปน็ ไปอย่างสมบรู ณ์ 5. ตรวจดูทิศทางลมเข้าออกของแฟนคอยล์ยูนติ ต้องไมม่ ีวัสดุปดิ ขวางทางลม 6. ตรวจสอบและซ่อมแซมฉนวนท่อน้ายาทต่ี ่อระหว่างคอนเด็นซงิ่ ยูนติ และแฟน คอยลย์ นู ติ 7. ตรวจสอบหน้าต่างและประตวู ่ามรี รู ว่ั ทาใหอ้ ากาศร้อนจากภายนอกเขา้ สูอ่ าคาร หรือไม่ 8. ติดต่อชา่ งบรกิ ารท่ีเชอื่ ถอื ได้เพอ่ื ตรวจสอบเคร่ืองอยา่ งนอ้ ยปลี ะ 2 ครง้ั

วงจรเครอ่ื งปรบั อากาศ เมอื่ ต่อเบรกเกอร์ กระเเสไฟฟ้าจะวงิ่ มารอที่ swith control และ magnetic contactor หลงั จากนน้ั เมอ่ื เราเปดิ เคร่ืองปรบั อากาศ ไฟฟา้ ก็จะวิ่งไปท่ี พัดลม คอร์ยเยน็ พดั ลมกท็ างานทันที ในขณะเดยี วกนั ไฟฟา้ จะวง่ิ ผา่ น thermostat ,timer relay,pressure sw,ไปยัง magnetic contactor ทาให้ magnetic contactor ตอ่ วงจร ให้ คอมเพรสเซอร์และ พัดลมคอรย์ รอ้ นทางาน - เมื่อความเยน็ ไดต้ ามทตี่ ้ังไว้ thermostat จะตดั คอมฯและพดั ลมคอร์ยร้อนทันที แตไ่ มต่ ดั พดั ลมคอร์ยเย็นครบั - ในกรณที ีท่ าการปิดเครื่องปรับอากาศ แล้วเปิดใหม่ทันที ชดุ คอรย์ เย็นจะทางาน ปกติ แตช่ ดุ คอร์ยรอ้ นจะยงั ไม่ทางาน เพราะ timer relay หนว่ งเวลาไปอกี 3-5 นาที เพราะระบบถูกออกแบบให้สารความเย็น balance ระหวา่ งเเรงดันสูงกบั แรงดนั ตา่ เสียกอ่ น -ในกรณใี นระบบไมม่ สี ารความเยน็ หรือรว่ั หรือ เเรงดนั สูงเกนิ ไป(ระบบตนั ) pressure sw จะตัดการทางานทันทีเชน่ กนั

ชดุ สาธติ การตดิ ตง้ั เครื่องปรบั อากาศ 1.เตรยี มอุปกณแ์ อร์ 2.ยดึ แผนแฟลช แอร์

3.ยดึ แอร์เสร็จแลว้ เหลือ เดินท่อนา้ ยา 4.เดนิ ท่อเสรจ็ แลว้ กเ็ ตรยี มแวดคัม่ 4.1แวดคมั่ ดดู อากาศ ทอ่ แอร์ หรือ ท่อทองแดงประมาณ 20._30นาที เพ่ือจะดวู ่า แอร์รวั่ ไม่ ถา้ เข็มไมต่ กี ลบั แสดงวา่ ไมร่ ว่ั ถ้าเขม็ ตกี ลับแสดงวา่ รว่ั

5.เตรียมเปดิ แอร์ ครับ!!!!


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook