ประวตั จิ งั หวดั กาฬสนิ ธุ์ สมยั กรุงธนบรุ ีประมาณ พ.ศ.2310 พระเจา้ องคเ์ วยี นดาแหง่ นครเวยี งจนั ทน์ ไดส้ ้นิ พระชนม์ โอรสทา้ วเพ้ยี เมอื งแสนไดย้ กกองทพั เขา้ ยดึ เมอื งเวยี งจนั ทนแ์ ละไดส้ ถาปนา ข้นึ เป็น พระเจา้ แผน่ ดนิ สบื แทน ทรงพระนามวา่ \"พระเจา้ ศิรบิ ญุ สาร\" พ.ศ. 2320 ทา้ วโสมพะ มติ ร และ อปุ ราชเมอื งแสนฆอ้ งโปง เมอื งแสนหนา้ งา้ เกดิ ขดั ใจกบั พระเจา้ ศิรบิ ญุ สาร จงึ รวบรวมผูค้ นอพยพจากดนิ แดนทางฝงั่ ซา้ ยแมน่ า้ โขง ขา้ มมาตงั้ บา้ นเรือนบริเวณลมุ่ นา้ กา่ แถบบา้ นพรรณา (ปจั จบุ นั อยู่ในเขตจงั หวดั สกลนคร) ต่อมาทา้ วศิรบิ ญุ สารไดย้ กกองทพั ตดิ ตามมา ทา้ วโสมพะมติ รจงึ อพยพตอ่ ไปโดยแยกเป็น 2 สาย คอื สายท่ี 1 มี เมอื งแสนหนา้ งา้ เป็นหวั หนา้ อพยพไปทางทศิ ตะวนั ออกสมทบกบั พระวอหลบหนไี ปจนถงึ นครจาปาศกั ด์ขิ อพง่ึ บารมี ของ พระเจา้ หลวงแหง่ นครจาปาศกั ด์ิ และตงั้ บา้ นเรือน ณ ดอนคอ้ นกอง ตอ่ มาเรียกวา่ \"ค่ายบา้ นดู่บา้ นแก\" ในปี พ.ศ. 2321 พระเจา้ ศิ รบิ ญุ สาร ใหเ้พ้ยี สรรคสุโภย ยกกองทพั มาปราบ พระวอตายในสนามรบ ผูค้ นทเ่ี หลอื จงึ อพยพไปอยูใ่ นเกาะกลางลาแมน่ า้ มลู ช่อื วา่ \"ดอน มดแดง\" (ปจั จบุ นั อยู่ในเขตจงั หวดั อบุ ลราชธานี) สายท่ี 2 มที า้ วโสมพะมติ รเป็นหวั หนา้ ไดอ้ พยพขา้ มสนั เขาภูพานลงมาทางใต้ และตง้ั บา้ นเรอื นอยู่ทบ่ี า้ นกลางหมน่ื ต่อมาทา้ ว โสมพะมติ ร ไดส้ ง่ ทา้ วตรยั และคณะ ออกเสาะหาชยั ภมู ทิ จ่ี ะสรา้ งเมอื งใหมใ่ ชเ้วลาประมาณปีเศษจงึ พบทาเลทเ่ี หมาะสม คอื บรเิ วณลานา้ ปาวและเหน็ วา่ แก่งสาโรงชายสงเปลอื ยมดี นิ นา้ อดุ มสมบูรณ์ จงึ อพยพผูค้ นมาตงั้ บา้ นเรือนและไดจ้ ดั ตงั้ ศาลเจา้ พอ่ หลกั เมอื ง
พ.ศ. 2336 ทา้ วโสมพะมติ รได้ นาเคร่ืองบรรณาการ คอื กานา้ สมั ฤทธ์ิ เขา้ ถวายสวามภิ กั ด์ติ ่อพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช รชั กาลท่ี 1 แห่งราชวงศจ์ กั รี และขอตง้ั บา้ นแก่งสาโรงข้นึ เป็นเมอื ง ไดร้ บั พระราชทานนามวา่ \"กาฬสนิ ธุ\"์ และไดแ้ ต่งตงั้ ให้ ทา้ วโสมพะมติ รเป็น \"พระยาชยั สุนทร\" พ.ศ. 2437 สมยั พระยาชยั สุนทร (ทา้ วเก) ไดม้ กี ารเปลย่ี นแปลงรูปแบบการปกครองเป็นแบบเทศาภบิ าล มี มณฑล จงั หวดั อาเภอ ตาบล และใหเ้มอื งกาฬสนิ ธุ์ เป็น \"อาเภอ อทุ ยั กาฬสนิ ธุ\"์ ข้นึ กบั จงั หวดั รอ้ ยเอด็ วนั ท่ี 1 สงิ หาคม 2456 ไดย้ กฐานะอาเภออุทยั กาฬสนิ ธุเ์ ป็น \"จงั หวดั กาฬสนิ ธุ\"์ ใหม้ อี านาจปกครอง อาเภออุทยั กาฬสนิ ธุ์ อาเภอสหสั ขนั ธ์ อาเภอกุฉินารายณ์ อาเภอ กมลา ไสย และอาเภอยางตลาด โดยใหข้ ้นึ ต่อมณฑลรอ้ ยเอด็ วนั ท่ี 18 กุมภาพนั ธ์ 2474 จงั หวดั กาฬสนิ ธุถ์ กู ยุบเป็นอาเภอ ข้นึ กบั จงั หวดั มหาสารคาม และ 1 ตลุ าคม 2490 ไดย้ กฐานะเป็น \"จงั หวดั กาฬสนิ ธุ\"์ จนถงึ ปจั จบุ นั กาฬสนิ ธุเ์ ป็นจงั หวดั ท่มี คี วามอดุ มสมบูรณจ์ งั หวดั หน่ึงในภาคอสี าน จากหลกั ฐานทางโบราณคดบี ง่ บอกวา่ เคยเป็นทอ่ี ยู่อาศยั ของเผา่ ละวา้ ซง่ึ มคี วามเจริญทางดา้ นอารยธรรม ประมาณ 1,600 ปี จากหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตรเ์ ร่มิ ตงั้ เป็นเมอื งในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2336 โดยทา้ วโสมพะมติ ร ไดอ้ พยพหลบภยั มาจากดนิ แดนฝงั่ ซา้ ยแมน่ า้ โขงพรอ้ ม ไพร่พล และมาตง้ั บา้ นเรอื นอยูร่ มิ นา้ ปาว เรียกวา่ “บา้ นแก่งสาโรง” แลว้ ไดน้ าเคร่ืองบรรณาการเขา้ ถวายสวามภิ กั ด์ติ ่อพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้า จฬุ าโลกมหาราช ต่อมาไดร้ บั พระ กรุณาโปรดเกลา้ ยกฐานะบา้ นแก่งสาโรงข้นึ เป็นเมอื ง และพระราชทานนามวา่ “เมอื งกาฬสนิ ธุ”์ หรือ “เมอื งนา้ ดา” ซง่ึ เป็นเมอื งท่สี าคญั ทางประวตั ศิ าสตรม์ าตง้ั แต่สมยั โบราณกาล “กาฬ” แปลวา่ “ดา” “สนิ ธุ”์ แปลวา่ “นา้ ” กาฬสนิ ธุจ์ งึ แปลวา่ “นา้ ดา” ทงั้ มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มแต่งตงั้ ใหท้ า้ วโสมพะมติ รเป็น “พระยาชยั สุนทร” ครองเมอื งกาฬสนิ ธุเ์ ป็น คนแรก
จงั หวดั กาฬสินธุ์ ห่างจากกรุงเทพมหานคร โดยทางรถยนตป์ ระมาณ 519 กิโลเมตร มีเน้ือที่ ประมาณ 6,946.746 ตร.กอม. หรือ ประมาณ 4,341,716 ไร่ หรือ ร้อยละ 4.5 ของพ้ืนที่ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ
สญั ลกั ษณ์ประจำจงั หวดั รูปบงึ ใหญ่ ตฤณชาติ และเมฆพยบั ฝน หมายถงึ สญั ลกั ษณข์ องความช่มุ ชน่ื และอดุ มสมบรู ณข์ องภมู ิภาค ทวิ เขาตรง แนวสุดขอบฟ้าคอื แนว กนั้ เขตแดนกบั จงั หวดั ใกลเ้คยี ง นา้ ในบงึ ทม่ี สี ดี า เพอ่ื ใหต้ รงกบั ช่ือของจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ตง้ั เป็น เมอื งเมอ่ื พ.ศ.2336 เพราะมชี าวเมอื งเวยี งจนั ทรอ์ พยพมาตง้ั บา้ นเรอื นอยู่มากทบ่ี า้ นสงเปลอื ยทางฝงั่ ตะวนั ออกของรมิ แมน่ า้ ปาว จงั หวดั กาฬสนิ ธุแ์ ยกตวั ออกจากจงั หวดั มหาสารคาม เมอ่ื พ.ศ.2490
ดอกไมป้ ระจาจงั หวดั : ดอกพะยอม
ตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ : ตน้ มะหาด
ประวตั สิ ว่ นตวั ช่ือนางสาวเยาวรัตน์ จุนใจ ชื่อเล่น เยาว์ อายุ 22 ปี รหสั นกั ศึกษา 59100186210 สาขาการศึกษาปฐมวยั คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี เกิดวนั ที่ 5 เดือนกมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช 2540 กรุ๊ปเลือด B ภูมลิ ำเนำ : บา้ นเลขท่ี 87/11 บา้ นโนนคอ้ ตาบลนาทนั อาเภอคามว่ ง จงั หวดั กาฬสินธุ์ 46180 ประวตั กิ ำรศึกษำ จบช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ จากโรงเรียนบา้ นโนนคอ้ ตาบลนาทนั อาเภอคามว่ ง จงั หวดั กาฬสินธุ์ จบช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนคามว่ ง ตาบลทงุ่ คลอง อาเภอคามว่ ง จงั หวดั กาฬสินธุ์ ประวตั คิ รอบครัว : บิดา ช่ือนายฟอง จนุ ใจ อายุ 44 ปี อาชีพ ทานา มารดา ชื่อนางสาวภาพร ดว้ ยโชติ อายุ 38 ปี อาชีพ รับจา้ งทวั่ ไป อำหำรทช่ี อบ : ส้มตา ยาปูมา้ แกงหน่อไม้ สีท่ีชอบ : สีเขียว ส่ิงที่ไม่ชอบ : ไมช่ อบคนเห็นแก่ตวั ข้อดขี องตนเอง : ขยนั ทางาน จริงใจ ซ่ือสตั ย์ อดทน ข้อเสียของตนเอง : เป็นคนพตู รง ชอบถียงเม่ือรู้สึกวา่ ตนเองถูกเอาเปรียบ ชอบแสดงออกทางสีหนา้ เมื่อไมพ่ อใจ เป้ำหมำยในชีวติ : อยากรับราชครู และมีบา้ นมีรถเป็นของตนเอง
หลวงพอ่ องคด์ ำลอื เลอื ง เมืองฟ้ ำแดดสงยำง โปงลำงเลศิ ล้ำ วฒั นธรรมผูไ้ ท ผำ้ ไหมแพรวำ ผำเสวยภพู ำน มหำธำรลำปำว ไดโนเสำรส์ ตั วโ์ ลกลำ้ นปี
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: