คำนำ กศน.ตำบลพลตู ำหลวง มคี วำมประสงค์ขอจัดโครงกำรอบรมหลกั สตู รกำรเข้ำใจดิจทิ ัล (Digital Literacy Curriculum) โดยมวี ัตถุประสงค์เพ่ือรู้เท่ำทันสื่อดิจทิ ลั คิด วเิ ครำะห์ แยกแยะ สอ่ื ดิจิทลั เพื่อกำรบรโิ ภคได้อย่ำง เหมำะสมรวมถึงกำรประยุกต์ใชด้ ิจิทลั เพอื่ กำรใชง้ ำนอย่ำงเหมำะสม สำมำรถนำเคร่ืองมือดจิ ิทัลไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ ได้อยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพ สำนกั งำน กศน. ในฐำนะเปน็ หน่วยงำนท่ที ำหนำ้ ท่ีส่งเสรมิ สนับสนุน กำรจัดกำรศึกษำนอก ระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย ซงึ่ เป็นภำพรวมของกำรศกึ ษำตลอดชีวิต จึงเปน็ หน่วยที่ทไี่ ดร้ บั มอบหมำยให้ ดำเนนิ งำนในดำ้ นของกำรสร้ำงเครือขำ่ ยศนู ยด์ จิ ิทัลชมุ ชน เพ่อื สรำ้ งควำมพร้อมและควำมเข้มแขง็ ของชุมชน ในกำร รองรับกำรเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยแี ละสังคมดิจิทัล ในกำรนี้ เพื่อเปน็ กำรส่งเสริมและดำเนินงำนในเรอ่ื งกำรสร้ำงเครือขำ่ ยศนู ยด์ จิ ิทลั และสร้ำงควำมพร้อมของ ชุมชนให้บรรลตุ ำมนโยบำยและวตั ถปุ ระสงค์ กศน.ตำบลพลูตำหลวง จึงเหน็ ควรจัดโครงกำรอบรมหลกั สตู รกำรเข้ำใจ ดจิ ิทัล (Digital Literacy Curriculum) เพื่อให้ควำมรู้ และกำรใชเ้ คร่อื งมือดิจิทัลต่ำงๆ สำมำรถนำไปใชใ้ น ชีวติ ประจำวันได้ กศน.ตำบลพลูตำหลวง มีนำคม 2563
-ก- บทสรปุ ผู้บรหิ ำร โครงกำรอบรมหลกั สตู รกำรเข้ำใจดิจิทัล (Digital Literacy Curriculum) น้ันมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื รเู้ ท่ำทนั สื่อดจิ ิทัล คิด วเิ ครำะห์ แยกแยะ สอ่ื ดจิ ิทัลเพอ่ื กำรบรโิ ภคได้อย่ำงเหมำะสมรวมถึงกำรประยุกต์ใช้ดจิ ิทลั เพื่อกำรใช้งำนอย่ำง เหมำะสม สำมำรถนำเคร่ืองมือดจิ ทิ ัลไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ซงึ่ โครงกำรไดจ้ ัดในวันท่ี 26 และ 27 มีนำคม 2563 ณ กศน.ตำบลพลูตำหลวง ตำบลพลูตำหลวง อำเภอสัตหบี จังหวัดชลบุรี มผี ู้เข้ำร่วมอบรมจำนวน 15 คน มี นำงสุภำภรณ์ นวมมำ และนำงสำวเกษนยี ์ เดชรักษำ เปน็ วิทยำกร ใหค้ วำมรู้ ผลกำรดำเนินงำนและกำรวิเครำะหข์ ้อมูล กศน. ตำบลพลูตำหลวง ผลปรำกฏอยูใ่ นระดับ มำก เน้อื หำของ หลักสตู รตรงกับควำมต้องกำรของผ้รู ับบรกิ ำร เป็นอนั ดบั ท่ี 1 รองลงมำคอื ผูร้ ับบรกิ ำรมีส่วนรว่ มในกำรแสดงควำม คิดเห็นต่อกำรจัดทำหลักสตู ร, ควำมพงึ พอใจในภำพรวมของผู้รับบรกิ ำรต่อกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรม, วิทยำกรมคี วำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรจดั กจิ กรรม ,วทิ ยำกรมีกำรใช้ส่อื ทีส่ อดคล้องและเหมำะสมกับกิจกรรม, ผรู้ บั บรกิ ำรสำมำรถนำ ควำมรไู้ ปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ และต่อมำ กิจกรรมที่จดั สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ของหลักสูตร,กำรจดั กจิ กรรม ทำใหผ้ ูร้ บั บริกำรสำมำรถคดิ เป็นทำเป็นแกป้ ัญหำเป็น, ระยะเวลำในกำรจัดกจิ กรรมเหมำะสมเทคนคิ /กระบวนในกำร จดั กิจกรรมของวทิ ยำกร, บุคลกิ ภำพของวิทยำกร, สถำนที่ในกำรจัดกิจกรรมเหมำะสมส่ือ/เอกสำรประกอบกำรจดั กจิ กรรมมีควำมเหมำะสม ตำมลำดับทท ททท ซงึ่ สอดคล้องและเกี่ยวขอ้ งกบั งำนวิจัยของ กำนต์ชนติ ต๊ะนยั (2551) วิจยั เรือ่ ง สอ่ื เทคโนโลยีใน ชวี ติ ประจำวนั ตำบลพลูตำหลวง อำเภอสตั หีบ จังหวัดชลบุรี มวี ตั ถุประสงคเ์ พื่อรูเ้ ท่ำทันสือ่ ดจิ ทิ ลั คดิ วิเครำะห์ แยกแยะ สือ่ ดจิ ทิ ลั เพื่อกำรบริโภคไดอ้ ย่ำงเหมำะสมรวมถึงกำรประยุกต์ใชด้ จิ ิทัล เพื่อกำรใช้งำนอย่ำงเหมำะสม สำมำรถ นำเคร่อื งมอื ดิจิทลั ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ ไดอ้ ย่ำงมีประสทิ ธิภำพ ตำบลพลตู ำหลวง จังหวัดชลบรุ ี ปีกำรศกึ ษำ 2563 เกบ็ ขอ้ มูลจำกประชำกรจำนวน 15 คน มเี นือ้ หำในกำรศึกษำ 4 ดำ้ น คือ ดำ้ นกำรวำงแผน กำรลงมือ ปฏบิ ตั ิ กำรตรวจสอบผลกำรปฏบิ ตั ิงำนและกำรแก้ไข ปรับปรงุ และศกึ ษำผลกำรน้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี งสู่ กำรปฏิบตั ิในโรงเรยี น โดยเครือ่ งมือที่ใชเ้ ป็นแบบสอบถำมแบบมำตรำส่วนประมำณค่ำ และแบบปลำยเปดิ วิเครำะห์ ขอ้ มูลโดยกำรหำค่ำร้อยละ ค่ำเฉลยี่ และสว่ นเบ่ยี งเบนมำตรฐำน ผลกำรศกึ ษำ พบว่ำ กำรน้อมนำแนวคิดโครงกำรอบรมหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดิจิทลั (Digital Literacy Curriculum) ตำบลพลูตำหลวง จังหวัดชลบรุ ี ทงั้ 4 ด้ำน พบว่ำดำ้ นกำรวำงแผน กำรลงมือปฏิบัตกิ ำรตรวจสอบผล กำรปฏบิ ัติงำน และกำรแกไ้ ข ปรบั ปรุง ในภำพรวมอยใู่ นระดับดีมำก
สำรบญั หนำ้ บทท่ี 1 บทนำ...................................................................................................................................................1 ควำมเป็นมำ ...............................................................................................................................1 วตั ถปุ ระสงค์...............................................................................................................................1 เปำ้ หมำย....................................................................................................................................1 ดชั นีวดั ผลสำเร็จของโครงกำร.....................................................................................................1 ผลท่ีคำดวำ่ จะได้รับ....................................................................................................................2 2 เอกสำรกำรศึกษำและรำยงำนท่เี กยี่ วข้อง 3 นโยบำยและจุดเนน้ กำรดำเนินงำนสำนักงำน กศน.ประจำปีงบประมำณ……………………………..3 พ.ศ. 2563 นโยบำยและจุดเน้นกำรดำเนินงำน กศน.ตำบลพลตู ำหลวง ประจำปีงบประมำณ...................9 พ.ศ.2563 ด้ำนกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ และกำรสือ่ สำร ......................................................................11 เอกสำรที่เก่ยี วข้อง ....................................................................................................................15 3 วธิ ดี ำเนินงำน.......................................................................................................................................21 ประชุมบุคลำกรกรรมกำรสถำนศกึ ษำ........................................................................................21 จัดตั้งคณะทำงำน ......................................................................................................................21 ประสำนงำนกบั หน่วยงำนและบุคคลทีเ่ กีย่ วข้อง ........................................................................21 ดำเนินกำรตำมแผน ...................................................................................................................21 วัดผล/ประเมนิ ผล/สรุปผลและรำยงำน .....................................................................................22 4 ผลกำรดำเนินงำนและกำรวิเครำะห์ข้อมูล............................................................................................23 ตอนที่ 1 ข้อมลู ส่วนตวั ของผ้ตู อบแบบสอบถำมของผเู้ ข้ำรบั กำรอบรมโครงกำร.........................23 ตอนท่ี 2 ข้อมลู เกี่ยวกบั ควำมคิดเหน็ ทม่ี ีของผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำร.................................................. 24 5 สรปุ ผล อภปิ รำยผล และข้อเสนอแนะ ..............................................................................................26 สรุปผลกำรดำเนินงำน ...............................................................................................................26 อภปิ รำยผล................................................................................................................................26 ปญั หำและอปุ สรรค ...................................................................................................................26 ขอ้ เสนอแนะ..............................................................................................................................26 บรรณำนกุ รม ภำคผนวก
สำรบัญตำรำง ตำรำงที่ หน้ำ 1 แสดงคำ่ ร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมเพศ..............................................23 2 แสดงค่ำร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมอำยุ .............................................23 3 แสดงคำ่ ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมอำชีพ...........................................23 4 ผลกำรประเมินโครงกำร .....................................................................................................24
บทท่ี 1 บทนำ โครงกำรอบรมหลักสูตรกำรเข้ำใจดจิ ิทลั (Digital Literacy Curriculum) ควำมเปน็ มำ ตำมที่คณะรฐั มนตรภี ำยใต้กำรบรหิ ำรรำชกำรแผ่นดินของ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชำ ไดแ้ ถลงนโยบำยต่อ สภำนิตบิ ัญญัตแิ ห่งชำติ เม่ือวนั ท่ี 12 กันยำยน 2557 ด้ำนกำรเพิ่มศกั ยภำพทำงเศรษฐกิจของประเทศ ข้อ 6.18 ตอ้ งกำรใหม้ กี ำรสง่ เสรมิ ภำคเศรษฐกิจดิจิทัลและวำงรำกฐำนของเศรษฐกจิ ดิจิทลั ใหเ้ ร่ิมขับเคล่อื นได้อยำ่ งจรงิ จัง ซ่ึงจะ ทำใหท้ ุกภำคเศรษฐกจิ กำ้ วหนำ้ ไปได้ทนั โลกและสำมำรถแข่งขนั ในโลกสมยั ใหม่ได้ ซึ่งเปน็ ที่ยอมรับวำ่ ผทู้ ี่มี ควำมสำมำรถทำงดำ้ นกำรใช้ดจิ ิทลั ได้มำกกวำ่ ย่อมเปน็ ผ้ไู ดเ้ ปรยี บในสังคมเน่ืองจำกสำมำรถใช้ประโยชน์จำกดจิ ิทัล เพื่อเพมิ่ คุณค่ำให้กบั ชีวิต สรำ้ งสรรค์นวตั กรรมและส่ิงใหม่ได้มำกกวำ่ ทำให้พัฒนำเศรษฐกิจใหก้ ำ้ วหนำ้ ไดด้ ี มคี ุณภำพ ชีวติ ท่ดี ีขึ้น และมีควำมจำเป็นในกำรเสริมสรำ้ งทักษะดิจิทัลให้แกป่ ระชำชน ใหส้ ำมำรถเข้ำถงึ เรียนรู้ และได้ประโยชน์ จำกกำรใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ัล อยำ่ งปลอดภยั สรำ้ งสรรค์ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และตระหนักถึงผลกระทบต่อสังคม จงึ เหน็ ควรดำเนินกจิ กรรมศกึ ษำกรอบแนวทำงกำรพัฒนำทักษะดิจิทัลเบ้ืองต้น (Digital Literacy) สำหรับประชำชนทุก กลุ่มวัยทเี่ หมำะสมกบั บรบิ ทของประเทศไทย ภำยใต้โครงกำรสง่ เสริมกำรใช้ดิจิทัลอย่ำงสรำ้ งสรรค์และรับผดิ ชอบต่อ สังคม เพื่อใชใ้ นกำรส่งเสรมิ ควำมรู้ และพฒั นำทักษะทำงดิจทิ ัลแก่ประชำชน ทง้ั เด็ก เยำวชนใน และนอกระบบ กำรศึกษำ ครู ผปู้ กครอง วัยแรงงำน คนพิกำร ผู้ด้อยโอกำส และผสู้ ูงอำยุ เพ่ือลดชอ่ งวำ่ งทำงดจิ ทิ ลั สรำ้ งโอกำสและ ควำมเท่ำเทยี มในกำรเข้ำถึงข้อมลู ข่ำวสำร สำรสนเทศและใชป้ ระโยชนจ์ ำกเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลในชวี ติ ประจำวัน กำร อำชพี และเตรียมพรอ้ มสู่กำรเป็นพลเมืองดิจทิ ลั ในอนำคตอย่ำงสมบรู ณ์แบบต่อไป ดงั น้ันศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสตั หีบ ในควำมรบั ผดิ ชอบของ กศน.ตำบล พลตู ำหลวง เล็งเหน็ ควำมสำคัญในกำรพฒั นำ ให้ประชำชนในพ้ืนทตี่ ำบลพลตู ำหลวง เรยี นรู้เกีย่ วกบั ดจิ ทิ ัล ให้รู้เทำ่ ทัน สอื่ ดจิ ิทัล คิด วิเครำะห์ แยกแยะ สอื่ ดิจิทลั เพ่อื กำรบรโิ ภคได้รวมถึงกำรประยุกต์ใช้ดจิ ิทัลเพื่อกำรใชง้ ำนอย่ำงเหมำะสม จงึ จดั ทำโครงกำรหลักสตู รกำรเขำ้ ใจดจิ ทิ ลั (Digital Literacy Curriculum) ข้ึน วัตถปุ ระสงค์ 1. อธิบำยทฤษฎหี ลักกำรเข้ำถึงและใชด้ ิจิทัล สำหรบั กำรปฏบิ ัติงำนและกำรใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ 2. รู้เท่ำทนั ส่อื ดจิ ทิ ลั คิด วิเครำะห์ แยกแยะ สื่อดิจิทลั เพ่ือกำรบริโภคไดอ้ ย่ำงเหมำะสม 3. ประยกุ ต์ใช้ดจิ ทิ ลั เพือ่ กำรปฏบิ ัติงำนไดย้ ำ่ งเหมำะสม เปำ้ หมำย เชิงปรมิ ำณ ประชำชนในพื้นทตี่ ำบลพลูตำหลวง จำนวน 15 คน เชิงคุณภำพ ผ้เู ข้ำอบรม สำมำรถรู้เท่ำทันส่ือดิจทิ ลั คิด วิเครำะห์ แยกแยะ สือ่ ดจิ ิทัลเพื่อกำรบริโภคได้รวมถงึ กำร ประยุกตใ์ ชด้ จิ ิทลั เพ่ือกำรใชง้ ำนอย่ำงเหมำะสม ดัชนวี ัดผลสำเรจ็ ของโครงกำร ตวั ช้วี ัดผลสำเร็จ (Outputs) -มผี ูเ้ ขำ้ รว่ มกิจกรรมจำนวนร้อยละ 80 ของกลมุ่ เป้ำหมำยที่กำหนดไว้ ตัวช้ีวัดผลลัพท์ (Outcome) -ผู้เขำ้ ร่วมกิจกรรมมีควำมพึงพอใจในระดับมำกขึน้ ไปร้อยละ 80
2 ผลที่คำดว่ำจะไดร้ ับ 1 ผเู้ ขำ้ อบรมสำมำรถอธบิ ำยทฤษฎีหลกั กำรเข้ำถงึ และใช้ดิจทิ ัล สำหรบั กำรปฏบิ ัตงิ ำนและกำรใชใ้ น ชีวติ ประจำวนั ได้ 2 ผู้เขำ้ รับกำรอบรมสำมำรถรู้เท่ำทันสอ่ื ดจิ ิทัล คดิ วิเครำะห์ แยกแยะ สอ่ื ดจิ ิทัลเพ่ือกำรบรโิ ภคไดอ้ ย่ำง เหมำะสม 3 ผู้เขำ้ รบั กำรอบรมสำมำรถนำไปประยุกตใ์ ช้ดจิ ิทลั เพ่ือกำรปฏบิ ตั งิ ำนไดย้ ำ่ งเหมำะสม
บทที่ 2 เอกสำรกำรศึกษำและรำยงำนทเี่ กีย่ วข้อง ในกำรจดั ทำรำยงำนคร้ังนี้ ได้ทำกำรศึกษำค้นคว้ำเน้ือหำจำกเอกสำรกำรศึกษำและรำยงำนที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้ 1. นโยบำยและจดุ เน้นกำรดำเนนิ งำนสำนักงำน กศน.ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2563 2. นโยบำยและจดุ เนน้ กำรดำเนนิ งำน กศน.ตำบลพลูตำหลวง ประจำปีงบประมำณ พ.ศ.2563 3. ด้ำนกำรใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสอื่ สำร 4. เอกสำรท่เี กย่ี วข้อง (ร่ำง) นโยบำยและจดุ เนน้ กำรดำเนนิ งำน สำนักงำน กศน. ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2563 วสิ ัยทัศน์ คนไทยไดร้ บั โอกำสกำรศึกษำและกำรเรยี นรู้ตลอดชวี ิตอย่ำงมีคณุ ภำพ สำมำรถดำรงชวี ติ ทเี่ หมำะสม กบั ช่วงวัย สอดคลอ้ งกบั หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และมที ักษะทจี่ ำเปน็ ในโลกศตวรรษท่ี 21 พันธกิจ 1. จดั และส่งเสริมกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั ทม่ี คี ุณภำพ เพือ่ ยกระดบั กำรศึกษำ พฒั นำ ทกั ษะกำรเรยี นรู้ของประชำชนทุกกลุ่มเปำ้ หมำยให้เหมำะสมทุกช่วงวยั พรอ้ มรบั กำรเปลี่ยนแปลงบรบิ ททำงสังคม และ สร้ำงสังคมแหง่ กำรเรียนรู้ตลอดชีวติ 2 ส่งเสรมิ สนบั สนนุ และประสำนภำคีเครอื ขำ่ ย ในกำรมีสว่ นร่วมจัดกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำม อัธยำศัย และกำรเรยี นรตู้ ลอดชวี ิต รวมทงั้ กำรดำเนินกจิ กรรมของศนู ย์กำรเรยี นและแหล่งกำรเรียนรอู้ ่ืน ใน รูปแบบ ต่ำง ๆ 3. สง่ เสริมและพฒั นำกำรนำเทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ และเทคโนโลยีดิจิทลั มำใชใ้ ห้เกดิ ประสทิ ธภิ ำพในกำรจัด กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยให้กับประชำชนอย่ำงทว่ั ถึง 4. พฒั นำหลักสตู ร รูปแบบกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สื่อและนวตั กรรม กำรวดั และประเมินผลในทกุ รปู แบบ ใหส้ อดคล้องกับบรบิ ทในปจั จุบัน 5. พัฒนำบุคลำกรและระบบกำรบรหิ ำรจัดกำรให้มีประสทิ ธิภำพ เพอ่ื มุ่งจดั กำรศกึ ษำและกำรเรียนรทู้ ่ีมี คณุ ภำพ โดยยึดหลักธรรมำภิบำล เป้ำประสงค์ 1. ประชำชนผ้ดู ้อย พลำด และขำดโอกำสทำงกำรศกึ ษำ รวมทั้งประชำชนท่วั ไปได้รับโอกำสทำงกำรศึกษำใน รปู แบบกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศกึ ษำข้ันพน้ื ฐำน กำรศึกษำต่อเน่ือง และกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย ที่มคี ุณภำพ อยำ่ งเทำ่ เทียมและท่วั ถึง เป็นไปตำมสภำพ ปัญหำ และควำมตอ้ งกำรของแต่ละ กล่มุ เป้ำหมำย 2. ประชำชนไดร้ ับกำรยกระดับกำรศึกษำ สร้ำงเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม และควำมเปน็ พลเมือง อันนำไปสู่กำรยกระดบั คุณภำพชีวติ และเสรมิ สร้ำงควำมเข้มแขง็ ให้ชมุ ชน เพอื่ พัฒนำไปสคู่ วำมม่ันคงและยัง่ ยนื ทำงด้ำน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวตั ศิ ำสตร์ และสิ่งแวดลอ้ ม
4 3. ประชำชนได้รบั โอกำสในกำรเรยี นรู้ และมีเจตคตทิ ำงวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยที ี่เหมำะสมสำมำรถคิด วิเครำะห์ และประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั รวมท้งั แก้ปัญหำและพฒั นำคณุ ภำพชวี ิตไดอ้ ยำ่ งสรำ้ งสรรค์ 4. ประชำชนได้รับกำรสร้ำงและสง่ เสรมิ ให้มนี สิ ยั รักกำรอ่ำนเพ่ือกำรแสวงหำควำมรดู้ ว้ ยตนเอง 5. ชุมชนและภำคีเครอื ขำ่ ยทุกภำคสว่ น ร่วมจัด สง่ เสริม และสนับสนุนกำรดำเนินงำนกำรศึกษำนอกระบบและ กำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั รวมท้ังกำรขับเคลื่อนกิจกรรมกำรเรียนร้ขู องชมุ ชน 6. หน่วยงำนและสถำนศึกษำพฒั นำ เทคโนโลยที ำงกำรศกึ ษำ เทคโนโลยีดจิ ิทัล มำใช้ในกำรยกระดบั คุณภำพ ในกำรจัดกำรเรียนรู้และเพ่ิมโอกำสกำรเรยี นร้ใู ห้กับประชำชน 7. หน่วยงำนและสถำนศึกษำพัฒนำสอ่ื และกำรจดั กระบวนกำรเรยี นรู้ เพ่ือแกป้ ัญหำและพฒั นำคุณภำพชวี ิต ท่ี ตอบสนองกับกำรเปล่ียนแปลงบริบทด้ำนเศรษฐกิจ สงั คม กำรเมือง วฒั นธรรม ประวัตศิ ำสตร์และสิ่งแวดลอ้ ม รวมทั้ง ตำมควำมต้องกำรของประชำชนและชมุ ชนในรูปแบบทห่ี ลำกหลำย 8. หน่วยงำนและสถำนศึกษำมรี ะบบกำรบริหำรจดั กำรท่เี ป็นไปตำมหลักธรรมำภบิ ำล 9. บุคลำกรของหน่วยงำนและสถำนศึกษำไดร้ บั กำรพฒั นำเพือ่ เพม่ิ สมรรถนะในกำรปฏิบัตงิ ำนกำรศึกษำนอก ระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ ตัวช้วี ัด ตวั ช้ีวดั เชิงปริมำณ 1. จำนวนผเู้ รียนกำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำชั้นพนื้ ฐำนที่ได้รับกำรสนับสนนุ ค่ำใชจ้ ำ่ ยตำมสทิ ธิที่ กำหนดไว้ 2. จำนวนของคนไทยกลุ่มเปำ้ หมำยตำ่ ง ๆ ทเ่ี ข้ำรว่ มกิจกรรมกำรเรยี นรู้/เขำ้ รบั บรกิ ำรกจิ กรรมกำรศกึ ษำ ตอ่ เนื่อง และกำรศึกษำตำมอัธยำศยั ทสี่ อดคล้องกับสภำพ ปญั หำ และควำมตอ้ งกำร 3. รอ้ ยละของกำลงั แรงงำนท่ีสำเร็จกำรศกึ ษำระดับมธั ยมศึกษำตอนตน้ ขนึ้ ไป 4. จำนวนภำคเี ครือขำ่ ยทเี่ ข้ำมำมสี ว่ นร่วมในกำรจัด/พัฒนำ/สง่ เสรมิ กำรศึกษำ (ภำคีเครือขำ่ ย : สถำนประกอบกำร องคก์ ร หน่วยงำนที่มำร่วมจดั /พฒั นำ/ส่งเสรมิ กำรศึกษำ) 5. จำนวนประชำชน เด็ก และเยำวชนในพน้ื ท่สี ูง และชำวไทยมอแกน ในพืน้ ที่ 5 จงั หวดั 11 อำเภอ ได้รับบรกิ ำรกำรศึกษำตลอดชีวิตจำกศูนย์กำรเรียนชมุ ชนสงั กดั สำนกั งำน กศน. 6. จำนวนผรู้ บั บริกำรในพนื้ ที่เปำ้ หมำยไดร้ ับกำรสง่ เสริมด้ำนกำรรหู้ นงั สอื และกำรพัฒนำทักษะชีวติ 7. จำนวนนักเรียนนักศกึ ษำที่ไดร้ บั บริกำรติวเข้มเต็มควำมรู้ 8. จำนวนประชำชนท่ไี ด้รับกำรฝกึ อำชีพระยะส้นั สำมำรถสร้ำงอำชพี เพ่อื สร้ำงรำยได้ 9. จำนวน ครู กศน. ตำบล จำกพื้นท่ี กศน.ภำค ไดร้ บั กำรพฒั นำศักยภำพดำ้ นกำรจดั กำรเรียนกำรสอน ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสื่อสำร 10. จำนวนประชำชนทีไ่ ดร้ ับกำรฝกึ อบรมภำษำต่ำงประเทศเพ่ือกำรสื่อสำรดำ้ นอำชีพ 11. จำนวนผู้สงู อำยภุ ำวะพ่ึงพิงในระบบ Long Term Care มีผ้ดู แู ลทม่ี ีคุณภำพและมำตรฐำน 12. จำนวนประชำชนทผี่ ่ำนกำรอบรมจำกศนู ยด์ ิจิทัลชมุ ชน 13. จำนวนศนู ยก์ ำรเรยี นชมุ ชน กศน. บนพ้นื ทส่ี งู ในพ้ืนที่ 5 จังหวดั ท่สี ง่ เสรมิ กำรพัฒนำทกั ษะกำรฟงั พดู ภำษำไทยเพอื่ กำรสื่อสำร ร่วมกนั ในสถำนศึกษำสงั กดั สพฐ. ตชด. และกศน. 14. จำนวนบคุ ลำกร กศน. ตำบลทสี่ ำมำรถจดั ทำคลงั ควำมรู้ได้ 15. จำนวนบทควำมเพ่ือกำรเรยี นรตู้ ลอดชวี ิตในระดับตำบลในหวั ข้อต่ำง ๆ 16. จำนวนหลักสตู รและส่อื ออนไลน์ท่ีใหบ้ รกิ ำรกับประชำชน ท้งั กำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศกึ ษำขนั้ พื้นฐำน กำรศึกษำต่อเน่ือง และกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย
5 ตัวชวี้ ดั เชิงคุณภำพ 1. ร้อยละของคะแนนเฉลยี่ ผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดบั ชำติ กำรศึกษำนอกระบบ (N-NET) ทกุ รำยวชิ ำทุกระดับ 2. รอ้ ยละของผู้เรยี นที่ไดร้ ับกำรสนับสนุนกำรจดั กำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำนเทยี บกบั ค่ำเป้ำหมำย 3. รอ้ ยละของประชำชนกลุ่มเป้ำหมำยทล่ี งทะเบียนเรยี นในทุกหลกั สูตร/กิจกรรมกำรศกึ ษำตอ่ เนื่องเทยี บกับ เป้ำหมำย 4. รอ้ ยละของผผู้ ่ำนกำรฝึกอบรม/พฒั นำทักษะอำชพี ระยะสน้ั สำมำรถนำควำมรูไ้ ปใช้ในกำรประกอบอำชพี หรือพฒั นำงำนได้ 5. ร้อยละของผเู้ รยี นในเขตพื้นทจี่ ังหวดั ชำยแดนภำคใต้ที่ได้รับกำรพัฒนำศกั ยภำพ หรอื ทักษะด้ำนอำชพี สำมำรถมงี ำนทำหรือนำไปประกอบอำชีพได้ 6. ร้อยละของผูจ้ บหลักสตู ร/กจิ กรรมทส่ี ำมำรถนำควำมรู้ควำมเขำ้ ใจไปใช้ได้ตำมจุดมุ่งหมำยของหลักสตู ร กิจกรรม กำรศึกษำต่อเนอ่ื ง 7. ร้อยละของประชำชนท่ีได้รับบรกิ ำรมีควำมพึงพอใจต่อกำรบรกิ ำร/เข้ำร่วมกิจกรรมกำรเรยี นร้กู ำรศกึ ษำตำม อัธยำศัย 8. รอ้ ยละของประชำชนกลุ่มเปำ้ หมำยทไ่ี ด้รบั บริกำร/ขำ้ ร่วมกจิ กรรมที่มีควำมรูค้ วำมเข้ำใจ/เจตคติ ทกั ษะ ตำมจดุ มุง่ หมำยของกิจกรรมทีก่ ำหนด ของกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัย 9. รอ้ ยละของนกั เรยี น/นักศึกษำทีม่ ผี ลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี นในวิชำที่ไดร้ บั บริกำรติวเข้มเต็มควำมรู้ เพิม่ สงู ข้ึน 10. ร้อยละของผู้สงู อำยุทเี่ ป็นกล่มุ เป้ำหมำย มโี อกำสมำเข้ำรว่ มกจิ กรรมกำรศกึ ษำตลอดชีวติ นโยบำยเร่งดว่ นเพอ่ื ร่วมขับเคลอ่ื นยทุ ธศำสตรก์ ำรพัฒนำประเทศ 1.ยทุ ธศำสตร์ดำ้ นควำมมนั คง 1.1 พัฒนำและเสรมิ สรำ้ งควำมจงรกั ภักดีต่อสถำบันหลักของชำติ โดยปลูกฝังและสร้ำงควำมตระหนักรู้ถึง ควำมสำคัญของสถำบันหลกั ของชำติ รณรงคเ์ สริมสรำ้ งควำมรกั และควำมภำคภูมิใจในควำมเป็นคนไทยและชำติไทย นอ้ มนำและเผยแพรศ่ ำสตร์พระรำชำ หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งรวมถงึ แนวทำงพระรำชดำรติ ่ำง ๆ 1.2 เสริมสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจท่ถี ูกต้อง และกำรมีส่วนร่วมอย่ำงถูกต้องกับกำรปกครองระบอบ ประชำธปิ ไตยอนั มพี ระมหำกษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ ในบริบทของไทย มคี วำมเป็นพลเมืองดี ยอมรบั และเคำรพควำม หลำกหลำยทำงควำมคิดและอดุ มกำรณ์ 1.3 ส่งเสริมและสนับสนนุ กำรจดั กำรศกึ ษำเพอื่ ป้องกันและแก้ไขปญั หำภัยคุกคำมในรปู แบบใหม่ ท้ังยำเสพติด กำรคำ้ มนุษย์ ภัยจำกไซเบอร์ ภยั พิบัตจิ ำกธรรมชำติ โรคอุบัตใิ หม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดับคุณภำพกำรศึกษำและสรำ้ งเสริมโอกำสในกำรเข้ำถงึ บริกำรกำรศกึ ษำ กำรพฒั นำทกั ษะ กำรสรำ้ ง อำชีพ และกำรใช้ชีวติ ในสงั คมพหุวฒั นธรรม ในเขตพัฒนำพิเศษเฉพำะกิจจงั หวัดชำยแดนภำคใต้ และพน้ื ทชี่ ำยแดนอื่น 1.5 สร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้ำนยอมรบั และเคำรพ ในประเพณี วฒั นธรรมของกลุ่มชำติพันธ์ุ และชำวตำ่ งชำตทิ ่ีมีควำมหลำกหลำย ในลักษณะพหุสังคมท่ีอยูร่ ว่ มกัน 2 ยุทธศำสตรด์ ้ำนกำรสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขัน 2.1 เรง่ ปรับหลกั สตู รกำรจัดกำรศกึ ษำอำชีพ กศน. เพื่อยกระดับทักษะด้ำนอำชพี ของประชำชน ใหเ้ ปน็ อำชพี ท่รี องรับอุตสำหกรรมเป้ำหมำยของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบูรณำ กำรควำมร่วมมือในกำรพฒั นำและเสริมทักษะใหมด่ ้ำนอำชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงมงุ่ เนน้ สร้ำงโอกำส
6 ในกำรสร้ำงงำน สร้ำงรำยได้ และตอบสนองต่อควำมต้องกำรของตลำดแรงำนทั้งภำคอุตสำหกรรมและกำรบริกำร โดยเฉพำะในพนื้ ที่เขตระเบยี งเศรษฐกิจ และเขคพัฒนำพเิ ศษตำมภูมิภำคต่ำง ๆ ของประเทศสำหรับพน้ื ท่ีปกติใหพ้ ฒั นำ อำชีพทเี่ นน้ กำรต่อยอดศักยภำพและตำมบรบิ ทของพน้ื ที่ 2.2 จัดกำรศึกษำเพือ่ พฒั นำพ้ืนทีภ่ ำคตะวนั ออก ยกระดับกำรศกึ ษำให้กับประชำชนให้จบกำรศึกษำอยำ่ งน้อย กำรศึกษำภำคบังคบั สำมำรถนำคุณวฒุ ิทไ่ี ด้รบั ไปต่อยอดในกำรประกอบอำชีพ รวมทั้งพัฒนำทกั ษะในกำรประกอบ อำชีพตำมควำมต้องกำรของประชำชน สร้ำงอำชพี สร้ำงรำยได้ ตอบสนองต่อบรบิ ทของสังคมและชมุ ชน รวมท้งั รองรับ กำรพัฒนำเขตพน้ื ที่ระเบียบเศรษฐกิจภำคตะวันออก (EEC) 2.3 พฒั นำและส่งเสริมประชำชนเพอื่ ต่อยอดกำรผลิตและจำหน่ำยสินคแ้ ละผลติ ภัณฑ์ออนไลน์ 1) เร่งจดั ต้ังศูนย์ใหค้ ำปรึกษำและพฒั นำผลติ ภณั ฑ์ Brand กศน. เพื่อยกระดบั คุณภำพของสนิ คแ้ ละผลิตภณั ฑ์ กำรบรหิ ำรจัดกำรท่ีครบวงจร (กำรผลติ กำรตลำด กำรสง่ ออก และสร้ำงชอ่ งทำงจำหนำ่ ย) รวมท้งั ส่งเสริมกำรใช้ ประโยชน์จำกเทคโนโลยดี ิจิทัลในกำรเผยแพร่และจำหน่ำยผลติ ภัณฑ์ 2) พัฒนำและคดั เลือกสุดยอดสนิ ค้ำและลติ ภัณฑ์ กศน. ในแต่ละจงั หวัด พร้อมท้งั ประสำนควำมรว่ มมือกับ สถำนีบริกำรน้ำมนั ในกำรเปน็ ซอ่ งทำงกำรจำหน่ำยสดุ ยอดสินค้ำและผลติ ภณั ฑ์ กศน.ใหก้ ว้ำงขวำงยิง่ ข้ึน 3 ยุทธศำสตร์กำรพัฒนำและเสริมสร้ำงศกั ยภำพทรัพยำกรมนษุ ย์ 3.1 พฒั นำครแู ละบคุ ลำกรทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับกำรจัดกิจกรรมและกำรเรยี นรู้ เปน็ ผู้เชอ่ื มโยงควำมรู้กบั ผูเ้ รียนและผ้รู บั บริกำร มคี วำมเป็น \"ครูมอื อำชีพ\" มจี ติ บริกำร มคี วำมรอบรู้และทนั ต่อกำรเปล่ยี นแปลงของสงั คมและ เป็น \"ผ้อู ำนวยกำรกำรเรยี นรู้\" ท่สี ำมำรถบริหำรจัดกำรควำมรู้ กิจกรรม และกำรเรยี นร้ทู ่ีดี 1) เพ่มิ อตั รำขำ้ รำชกำรครูให้กับ กศน. อำเภอทุกแห่ง โดยเรง่ ดำเนนิ กำรเร่ืองกำรหำอตั รำตำแหน่ง กำรสรรหำ บรรจุ และแตง่ ต้ัง ขำ้ รำชกำรครู 2) พัฒนำข้ำรำชกำรครูในรูปแบบครบวงจร ตำมหลักสูตรที่เชือ่ มโยงกบั วทิ ยฐำนะ 3) พัฒนำครู กศน.ตำบลใหส้ ำมำรถปฏิบัติงำนได้อย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ โดยเน้นเร่อื งกำรพัฒนำทกั ษะกำรจัดกำร เรยี นกำรสอนออนไลน์ ทกั ษะภำษำตำ่ งประเทศ ทักษะกำรจดั กระบวนกำรเรยี นรู้ 4) พัฒนำศึกษำนเิ ทศก์ ให้สำมำรถปฏิบตั กิ ำรนิเทศได้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพ 5) พฒั นำบุคลำกร กศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะควำมรู้เรอ่ื งกำรใช้ประโยชนจ์ ำกดิจทิ ัลและ ภำษำต่ำงประเทศท่ีจำเปน็ 3.2 พฒั นำแหลง่ เรยี นรู้ให้มีบรรยำกำศและสภำพแวดลอ้ มที่เอื้อต่อกำรเรียนรู้ มีควำมพร้อมในกำรให้บริกำร กจิ กรรมกำรศกึ ษำและกำรเรียนรู้ เปน็ แหล่งสำรสนเทศสำธำรณะท่งี ยต่อกำรเข้ำถึง มบี รรยำกำศทเี่ อื้อตอ่ กำรเรียนรู้ เปน็ คำเพ่พน้ื ท่ีกำรเรยี นรูส้ ำหรับคนทกุ ชว่ งวัย มสี งิ่ อำนวยควำมสะดวก มีบรรยำกำศสวยงำมมีชีวิต ทด่ี งึ ดดู ควำมสนใจ และมีควำมปลอดภัยสำหรับผู้ใชบ้ ริกำร 1) เร่งยกระดับ กศน.ตำบลนำรอ่ ง 928 แหง่ (อำเภอละ 1 แหง่ ) ใหเ้ ปน็ กศน.ตำบล 5 ดี พรเี ม่ยี ม ที่ประกอบด้วย ครดู ี สถำนที่ดี (ตำมบริบทของพื้นที่) กจิ กรรมดี เครอื ข่ำยดี และมีนวัตกรรมกำรเรยี นรทู้ ี่ดีมีประโยชน์ 2) จดั ใหม้ ศี นู ย์กำรเรยี นรตู้ ้นแบบ กศน. เพอ่ื ยกระดบั กำรเรียนรู้ ใน 6 ภูมิภำค เปน็ พนื้ ที่กำรเรียนรู้ (Co - Learning Space) ทท่ี ันสมยั สำหรบั ทกุ คน มีควำมพรอ้ มในกำรให้บริกำรต่ำง ๆ อำทิ พ้นื ทส่ี ำหรบั กำรทำงำน/ กำรเรียนรู้ พ้นื ทสี่ ำหรบั กจิ กรรมตำ่ ง ๆ มีหอ้ งประชมุ ขนำดเลก็ รวมทง้ั ทำงำนร่วมกบั หอ้ งสมดุ ประชำชนในกำร ให้บรกิ ำรในรูปแบบห้องสมดุ ดิจิทัล บรกิ ำรอนิ เทอรเ์ น็ต ส่ือมลั ติมเี ดีย เพือ่ รองรับกำรเรียนร้แู บบ Active Learning 3) พัฒนำห้องสมุดประชชน \"เฉลิมรำชกุมำรี\" ให้เปน็ Digital Library โดยใหม้ บี ริกำรหนงั สอื ในรปู แบบ e - Book บรกิ ำรคอมพวิ เตอร์ และอินเทอรเ์ น็ตควำมเร็วสงู รวมท้ัง Free Wifi เพอื่ กำรสบื ค้นข้อมูล 3.3 สง่ เสรมิ กำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ที นั สมยั และมีประสิทธภิ ำพ เอือ้ ต่อกำรเรียนรู้สำหรบั ทกุ คน สำมำรถ เรยี นได้ทกุ ทท่ี ุกเวลำ มกี จิ กรรมท่หี ลำกลำย น่ำสนใจ สนองตอบควำมต้องกำรของชุมชน เพอ่ื พัฒนำศักยภำพ
7 กำรเรยี นรขู้ องประชำชน รวมท้ังใช้ประโยชน์จำกประชำชนในชุมชนในกำรรว่ มจัดกิจกรรมกำรเรียนรูเ้ พ่ือเชอื่ มโยง ควำมสมั พันธข์ องคนในชุมชนไปสกู้ ำรจดั กำรควำมรขู้ องชุมชนอย่ำงยัง่ ยืน 1) สง่ เสรมิ กำรจดั กิจกรรมกำรเรียนร้ทู ป่ี ลกู ฝังคุณธรรม สร้ำงวนิ ัย จติ สำธำรณะ ควำมรับผิดชอบ ต่อสว่ นรวม และกำรมจี ติ อำสำ ผำ่ นกจิ กรรมรูปแบบต่ำง ๆ อำทิ กิจกรรมลกู เสือ กศน. กิจกรรมจติ อำสำ ตลอดจน สนับสนุนให้มกี ำรจัดกิจกรรมเพ่อื ปลูกฝงั คุณธรรม จริยธรรมใหก้ บั บุคลำกรในองค์กร 2) จดั ให้มีหลกั สตู รลูกเสือมัคคุเทศก์ โดยใหส้ ำนักงำน กศน.จงั หวดั ทุกแห่ปกทม. จดั ตง้ั กองลกู เสือ ทล่ี ูกเสือมีควำมพรอ้ มดำ้ นทักษะภำษำต่ำงประเทศ เป็นลูกเสอื มัคคเุ ทศกจ์ ังหวัดละ 1 กอง เพ่อื ส่งเสรมิ ลูกเสอื จติ อำสำ พฒั นำกำรทอ่ งเท่ียวในแตล่ ะจังหวดั 3.4 เสรมิ สรำ้ งควำมร่วมมือกับภำคีเครอื ขำ่ ย ประสำน ส่งเสรมิ ควำมรว่ มมือภำคีเครือขำ่ ย ทง้ั ภำครัฐเอกชน ประชำสงั คม และองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ รวมทั้งสง่ เสริมและสนบั สนุนกำรมสี ว่ นร่วมของชุมชนเพอ่ื สรำ้ งควำม เข้ำใจ และให้เกดิ ควำมร่วมมือในกำรส่งเสริม สนบั สนนุ และจัดกำรศึกษำและกำรเรียนรู้ให้กบั ประชำชนอย่ำงมี คุณภำพ 1) เรง่ จัดทำทำเนยี บภมู ปิ ัญญำทอ้ งถนิ่ ในแต่ละตำบล เพ่ือใชป้ ระโยชน์จำกภูมิปัญญำท้องถ่ินในกำรสรำ้ งกำร เรยี นรู้จำกองค์ควำมร้ใู นตวั บุคคลใหเ้ กิดกำรถ่ำยทอดภมู ิปัญญำ สร้ำงคุณคำ่ ทำงวัฒนธรรมอย่ำงยงั่ ยนื 2) ส่งเสรมิ ภูมปิ ัญญำทอ้ งถน่ิ สู่กำรจัดกำรเรียนร้ชู ุมชน 3) ประสำนควำมรว่ มมอื กับภำคีเครือขำ่ ยเพอ่ื กำรขยำยและพฒั นำกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำม อธั ยำศยั ใหเ้ ข้ำถงึ กลุ่มเปำ้ หมำยทุกกลุ่มอยำ่ งกวำ้ งขวำงและมคี ุณภำพ อำทิ กลุ่มผ้สู งู อำยุ กลมุ่ อสม. 3.5 พัฒนำนวตั กรรมทำงกำรศกึ ษำเพ่ือประโยชนต์ อ่ กำรจัดกำรศกึ ษำและกล่มุ เป้ำหมำย 1) พัฒนำกำรจดั กำรศกึ ษำออนไลน์ กศน. ทัง้ ในรูปแบบของกำรศึกษำข้ันพ้นื ฐำน กำรพัฒนำทกั ษะ ชีวิตและทกั ษะอำชีพ กำรศึกษำตำมอธั ยำศัย รวมท้งั กำรพัฒนำชอ่ งทำงกำรค้ำออนไลน์ 2) ส่งเสริมกำรใช้เทคโนโลยใี นกำรปฏบิ ัตงิ ำน กำรบริหำรจัดกำร และกำรจัดกำรเรยี นรู้ 3) สง่ เสริมใหม้ ีกำรใช้กำรวจิ ัยอยำ่ งงำ่ ยเพ่ือสรำ้ งนวตั กรรมใหม่ 3.6 พัฒนำศกั ยภำพคนด้ำนทักษะและควำมเข้ำใจในกำรใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทัล (Digital Literacy) 1) พฒั นำควำมร้แู ละทกั ษะเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ของครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ เพื่อพฒั นำ รปู แบบกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน 2) ส่งเสริมกำรจดั กำรเรียนรดู้ ้ำนเทคโนโลยีดจิ ิทลั เพ่อื ใหป้ ระชำชนมที กั ษะควำมเข้ำใจและใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทัล ท่สี ำมำรถนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั รวมท้งั สร้ำงรำยไดใ้ หก้ ับตนเองได้ 3.7 พฒั นำทกั ษะภำษำต่ำงประเทศเพ่ือกำรส่ือสำรของประชำชนในรูปแบบต่ำง ๆอย่ำงเปน็ รูปธรรม โดยเน้น ทกั ษะภำษำเพื่ออำชพี ทัง้ ในภำคธุรกิจ กำรบรกิ ำร และกำรทอ่ งเท่ยี ว รวมท้ังพัฒนำสื่อกำรเรยี นกำรสอนเพื่อส่งเสรมิ กำรใชภ้ ำษำเพ่ือกำรสื่อสำรและกำรพัฒนำอำชีพ 3.8 เตรยี มควำมพรอ้ มกำรเข้ำส่สู ังคมผูส้ ูงอำยุท่เี หมำะสมและมีคุณภำพ 1) ส่งเสรมิ กำรจัดกิจกรรมใหก้ บั ประชำชนเพื่อสร้ำงควำมตระหนกั ถึงกำรเตรยี มพร้อมเข้ำสู่ สังคมผูส้ งู อำยุ (Aging Society) มคี วำมเข้ำใจในพฒั นำกำรของชว่ งวัย รวมท้งั เรยี นรแู้ ละมีส่วนรว่ มในกำรดแู ล รบั ผิดชอบผู้สงู อำยุในครอบครัวและชมุ ชน 2) พัฒนำกำรจัดบริกำรกำรศึกษำและกำรเรยี นรสู้ ำหรบั ประชำชนในกำรเตรยี มควำมพรอ้ ม เข้ำสู่วยั สูงอำยทุ ่เี หมำะสมและมคี ุณภำพ 3) จดั กำรศึกษำเพ่ือพฒั นำคุณภำพชีวติ สำหรบั ผ้สู ูงอำยุภำยใต้แนวคดิ \"Active Aging\" กำรศกึ ษำเพ่ือพฒั นำคุณภำพชีวิต และพฒั นำทกั ษะชีวติ ให้สำมำรถดแู ลตนเองท้ังสุขภำพกำยและสุขภำพจิต และรจู้ ักใชป้ ระโยชน์จำกเทคโนโลยี 4) สรำ้ งควำมตระหนักถงึ คุณคำ่ และศกั ด์ิศรขี องผู้สูงอำยุ เปดิ โอกำสใหม้ ีกำรเผยแพร่ภูมิปัญญำ
8 ของผ้สู งู อำยุ และใหม้ สี ว่ นร่วมในกิจกรรมดำ้ นตำ่ ง ๆ ในชุมชน เชน่ ดำ้ นอำชีพ กฬี ำ ศำสนำและวัฒนธรรม 5) จัดกำรศึกษำอำชีพเพ่ือรองรับสงั คมผ้สู ูงอำยุ โดยบรู ณำกำรควำมรว่ มมอื กบั หน่วยงำนท่เี กยี่ วข้อง ในทุก ระดบั 3.9 กำรสง่ เสรมิ วิทยำศำสตร์เพอื่ กำรศึกษำ 1) จัดกจิ กรรมวทิ ยำศำสตรเ์ ชิงรุก และเนน้ ให้ควำมรวู้ ทิ ยำศำสตรอ์ ยำ่ งง่ำยกบั ประชำชนในชุมชน ท้ังวทิ ยำศำสตรใ์ นวิถชี วี ติ และวทิ ยำศำสตรใ์ นชีวติ ประจำวนั 2) พัฒนำสือ่ นิทรรศกำรเละรูปแบบกำรจดั กิจกรรมทำงวิทยำศำสตรใ์ ห้มคี วำมทนั สมยั 3.10 สง่ เสริมกำรรภู้ ำษำไทยใหก้ ับประชำชนในรูปแบบต่ำง ๆ โดยเฉพำะประชำชนในเขตพ้ืนทสี่ งู ให้สำมำรถฟงั พดู อำ่ น และเขยี นภำษำไทย เพื่อประโยชในกำรใชช้ ีวิตประจำวนั ได้ 4 ยุทธศำสตรต์ น้ กำรสร้ำงโอกำสและควำมเสมอภำคทำงสงั คม 4.1 จดั ตง้ั ศูนยก์ ำรเรียนรูส้ ำหรับทกุ ช่วงวัย ทีเ่ ปน็ ศนู ย์กำรเรยี นรู้ตลอดชวี ติ ที่สำมำรถให้บริกำร ประชำชนได้ทุกคน ทุกช่วงวัย ท่ีมกี จิ กรรมท่ีหลำกหลำย ตอบสนองควำมต้องกำรในกำรเรียนร้ใู นแต่ละวัย และเปน็ ศนู ยบ์ ริกำรควำมรู้ ศูนย์กำรจดั กิจกรรมทคี่ รอบคลุมทกุ ชว่ งวยั เพ่อื ให้มีพฒั นำกำรเรยี นรูท้ ี่เหมำะสม และมคี วำมสุขกับกำรเรียนรตู้ ำมควำมสนใจ 1) เรง่ ประสำนกบั สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน เพ่อื จัดทำฐำนข้อมูลโรงเรยี นท่ีถกู ยุบรวม หรือ คำดว่ำนำ่ จะถูกยุบรวม 2) ให้สำนักงำน กศน.จงั หวดั ทกุ แห่งท่ีอยูใ่ นจังหวดั ท่มี ีโรงเรียนที่ถกู ยบุ รวม ประสำนขอใช้พนื้ ทเี่ พ่ือจัดตง้ั ศนู ย์ กำรเรยี นรู้สำหรบั ทุกช่วงวยั กศน. 4.2 สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ กำรจัดกำรศึกษำและกำรเรียนรสู้ ำหรบั กลมุ่ เป้ำหมำยผู้พกิ ำร 1) จัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน กำรศกึ ษำเพื่อพฒั นำทักษะชวี ิตและทักษะอำชีพ และกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั โดย เนน้ รปู แบบกำรศึกษำออนไลน์ 2) ใหส้ ำนกั งำน กศน.จังหวดั ทุกแห่ง/กทม. ทำควำมร่วมมือกบั ศนู ย์กำรศึกษำพิเศษประจำจงั หวดั ในกำรใช้ สถำนท่ี วสั ดอุ ปุ กรณ์ และครุภัณฑด์ ้ำนกำรศึกษำ เพ่ือสนบั สนุนกำรจัดกำรศึกษำและกำรเรยี นรูส้ ำหรับกลมุ่ เปำ้ หมำยผู้ พกิ ำร 4.3 ยกระดบั กำรศึกษำให้กบั กลมุ่ เปำ้ หมำยทหำรกองประจำกำร รวมทงั้ กลุ่มเปำ้ หมำยพเิ ศษอน่ื ๆ อำทิ ผู้ต้องขัง คนพิกำร เดก็ ออกกลำงคัน ประชำกรวยั เรยี นที่อยู่นอกระบบกำรศกึ ษำให้จบกำรศึกษำนอกระบบระดับ กำรศึกษำขนั้ พนื้ ฐำน สำมำรถนำควำมรทู้ ไี่ ดร้ บั ไปพฒั นำตนเองได้อยำ่ งต่อเน่ือง 4.4 พัฒนำหลกั สตู รกำรจดั กำรศึกษำอำชีพระะส้ัน ให้มคี วำมหลำกหลำย ทนั สมัย เหมำะสมกบั บริบทของ พื้นท่ี และตอบสนองควำมตอ้ งกำรของประชำชนผรู้ บั บรกิ ำร 5. ยุทธศำสตรด์ ้ำนกำรสร้ำงกำรเติบโตบนคณุ ภำพชีวติ ท่เี ป็นมติ รตอ่ ส่งิ แวดล้อม 5.1 ส่งเสริมให้มกี ำรให้ควำมรู้กบั ประชำชนในกำรรับมอื และปรับตวั เพื่อลดควำมเสยี หำยจำกภัยธรรมชำติและ ผลกระทบที่เก่ียวข้องกบั กำรเปล่ียนแปลงสภำพภมู อิ ำกำศ 5.2 สรำ้ งควำมตระหนักถงึ ควำมสำคญั ของกำรสร้ำงสังคมสเี ขยี ว ส่งเสรมิ ควำมร้ใู หก้ ับประชำชนเกย่ี วกับกำร คดั แยกตั้งแต่ตน้ ทำง กำรกำจัดขยะ และกำรนำกลบั มำใช้ช้ำ เพ่ือลดปรมิ ำณและต้นทนุ ในกำรจดั กำรขยะของเมอื ง และ สำมำรถนำขยะกลบั มำใช้ประโยชน์ไดโ้ ดยงำ่ ย รวมทั้งกำรจัดกำรมลพิษในชมุ ชน 5.3 สง่ เสริมใหห้ น่วยงำนและสถำนศึกษำใช้พลังงำนทีเ่ ป็นมิตรกบั สิง่ แวดลอ้ ม รวมทง้ั ลดกำรใชท้ รพั ยำกรท่ี ส่งผลกระทบต่อสง่ิ แวดล้อม เช่น รณรงคเ์ รอ่ื งกำรลดกำรใช้ถุงพลำสติก กำรประหยดั ไฟฟ้ำ เปน็ ตน้ 6. ยุทธศำสตร์ด้ำนกำรปรบั สมดุลและพัฒนำระบบหำรบริหำรจดั กำรภำครัฐ 6.1 พฒั นำและปรับระบบวธิ กี ำรปฏบิ ตั ริ ำชกำรใหท้ นั สมยั มีควำมโปร่งใส ปลอดกำรทจุ ริต บริหำรจัดกำรบน ขอ้ มูลและหลักฐำนเชงิ ประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธ์ิมีควำมโปรง่ ใส
9 6.2 นำนวัตกรรมและเทคโนโลยรี ะบบกำรทำงำนทีเ่ ป็นดิจิทัลมำใช้ในกำรบริหำรและพัฒนำงำนสำมำรถ เชื่อมโยงกับระบบฐำนข้อมลู กลำงของกระทรวงศึกษำธิกำร พร้อมท้ังพฒั นำโปรแกรมออนไลนท์ ่สี ำมำรถเชื่อมโยงข้อมูล ต่ำง ๆ ท่ีทำให้กำรบรหิ ำรจดั กำรเป็นไปอย่ำงต่อเน่ืองกันตั้งแตต่ ้นจนจบกระบวนกำรและให้ประชำชนกลมุ่ เป้ำหมำย สำมำรถเขำ้ ถงึ บรกิ ำรได้อย่ำงทนั ที ทุกท่แี ละทกุ เวลำ 6.3 ส่งเสรมิ กำรพัฒนำบุคลำกรทุกระดับอย่ำงต่อเน่ือง ให้มีควำมรูแ้ ละทักษะตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ใหต้ รงกบั สำยงำน ควำมชำนำญ และควำมต้องกำรของบุคลำกร 2. แนวทำง/กลยุทธก์ ำรดำเนนิ งำนกำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยของ กศน.ตำบลพลูตำหลวง วิสัยทัศน์ “คนไทยได้รับโอกำสกำรศกึ ษำและกำรเรยี นรูต้ ลอดชีวิตอยำ่ งมีคุณภำพ สำมำรถดำรงชีวิตทีเ่ หมำะสม กบั ชว่ งวัย สอดคล้องกบั หลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทักษะท่ีจำเป็นในโลกศตวรรษท่ี 21” พนั ธกิจ 1. จัดและสง่ เสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยท่ีมีคุณภำพ เพื่อยกระดับกำรศึกษำ พัฒนำ ทกั ษะกำรเรยี นรู้ของประชำชนทกุ กลุ่มเป้ำหมำยให้เหมำะสมทุกชว่ งวยั พรอ้ มรบั กำรเปลี่ยนแปลงบริบททำงสงั คม และ สรำ้ งสังคมแหง่ กำรเรยี นรู้ตลอดชวี ิต 2 ส่งเสริม สนบั สนนุ และประสำนภำคีเครอื ขำ่ ย ในกำรมีส่วนร่วมจดั กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำม อธั ยำศัย และกำรเรียนร้ตู ลอดชีวติ รวมท้งั กำรดำเนินกจิ กรรมของศูนย์กำรเรียนและแหลง่ กำรเรยี นรู้อน่ื ใน รปู แบบ ต่ำง ๆ 3. สง่ เสริมและพัฒนำกำรนำเทคโนโลยที ำงกำรศึกษำ และเทคโนโลยีดิจทิ ัลมำใช้ให้เกดิ ประสิทธภิ ำพในกำรจดั กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั ให้กบั ประชำชนอย่ำงท่วั ถึง 4. พัฒนำหลักสูตร รปู แบบกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ สอื่ และนวัตกรรม กำรวัดและประเมนิ ผลในทุกรปู แบบ ใหส้ อดคล้องกับบริบทในปจั จุบัน 5. พัฒนำบุคลำกรและระบบกำรบรหิ ำรจดั กำรให้มปี ระสิทธิภำพ เพ่อื มุ่งจัดกำรศึกษำและกำรเรยี นร้ทู ่ีมี คุณภำพ โดยยึดหลกั ธรรมำภิบำล เปำ้ ประสงค์ 1. ประชำชนผู้ด้อย พลำด และขำดโอกำสทำงกำรศกึ ษำ รวมท้งั ประชำชนท่วั ไปไดร้ บั โอกำสทำงกำรศึกษำใน รูปแบบกำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน กำรศกึ ษำต่อเน่ือง และกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ทมี่ ีคุณภำพ อย่ำงเท่ำเทียมและทวั่ ถึง เป็นไปตำมสภำพ ปัญหำ และควำมต้องกำรของแตล่ ะ กลุ่มเปำ้ หมำย 2. ประชำชนไดร้ ับกำรยกระดับกำรศึกษำ สร้ำงเสรมิ และปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม และควำมเป็นพลเมือง อันนำไปสู่กำรยกระดบั คุณภำพชวี ติ และเสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งให้ชุมชน เพ่อื พัฒนำไปสู่ควำมมน่ั คงและยั่งยืนทำงดำ้ น เศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม ประวตั ิศำสตร์ และส่งิ แวดล้อม 3. ประชำชนได้รบั โอกำสในกำรเรียนรู้ และมเี จตคตทิ ำงวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยีที่เหมำะสมสำมำรถคิด วิเครำะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมท้งั แก้ปญั หำและพฒั นำคณุ ภำพชวี ติ ได้อย่ำงสรำ้ งสรรค์ 4. ประชำชนไดร้ บั กำรสรำ้ งและสง่ เสริมให้มนี สิ ยั รกั กำรอ่ำนเพ่อื กำรแสวงหำควำมรดู้ ้วยตนเอง 5. ชมุ ชนและภำคเี ครอื ขำ่ ยทุกภำคส่วน รว่ มจดั ส่งเสริม และสนับสนุนกำรดำเนินงำนกำรศึกษำนอกระบบและ กำรศกึ ษำตำมอัธยำศัย รวมทั้งกำรขับเคลอ่ื นกิจกรรมกำรเรียนรู้ของชุมชน
10 6. หน่วยงำนและสถำนศึกษำพฒั นำ เทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ เทคโนโลยีดจิ ิทัล มำใชใ้ นกำรยกระดบั คุณภำพ ในกำรจดั กำรเรยี นรู้และเพมิ่ โอกำสกำรเรยี นรู้ให้กับประชำชน 7. หนว่ ยงำนและสถำนศึกษำพัฒนำสือ่ และกำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ เพ่ือแกป้ ัญหำและพฒั นำคุณภำพชีวติ ที่ ตอบสนองกบั กำรเปล่ยี นแปลงบริบทดำ้ นเศรษฐกิจ สงั คม กำรเมือง วฒั นธรรม ประวตั ิศำสตรแ์ ละส่งิ แวดล้อม รวมทง้ั ตำมควำมต้องกำรของประชำชนและชุมชนในรูปแบบทีห่ ลำกหลำย 8. หน่วยงำนและสถำนศึกษำมีระบบกำรบรหิ ำรจดั กำรท่ีเป็นไปตำมหลักธรรมำภิบำล 9. บคุ ลำกรของหนว่ ยงำนและสถำนศึกษำได้รบั กำรพฒั นำเพอื่ เพ่ิมสมรรถนะในกำรปฏบิ ัตงิ ำนกำรศึกษำนอก ระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอย่ำงมีประสิทธิภำพ ตัวชีว้ ัด ตัวชี้วัดเชิงปริมำณ 1. จำนวนผู้เรียนกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศกึ ษำชน้ั พ้ืนฐำนท่ีได้รบั กำรสนบั สนุนค่ำใชจ้ ่ำยตำมสทิ ธทิ ่ี กำหนดไว้ 2. จำนวนของคนไทยกลุ่มเปำ้ หมำยตำ่ ง ๆ ท่เี ข้ำรว่ มกิจกรรมกำรเรยี นรู้/เข้ำรบั บรกิ ำรกจิ กรรมกำรศึกษำ ต่อเนอ่ื ง และกำรศึกษำตำมอัธยำศัยทีส่ อดคล้องกับสภำพ ปญั หำ และควำมตอ้ งกำร 3. รอ้ ยละของกำลังแรงงำนที่สำเรจ็ กำรศึกษำระดบั มธั ยมศึกษำตอนต้นข้นึ ไป 4. จำนวนภำคีเครือข่ำยทีเ่ ข้ำมำมสี ว่ นร่วมในกำรจดั /พัฒนำ/ส่งเสริมกำรศึกษำ (ภำคเี ครือข่ำย : สถำนประกอบกำร องค์กร หนว่ ยงำนที่มำร่วมจดั /พัฒนำ/ส่งเสริมกำรศึกษำ) 5. จำนวนประชำชน เดก็ และเยำวชนในพนื้ ที่สงู และชำวไทยมอแกน ในพนื้ ที่ 5 จงั หวัด 11 อำเภอ ไดร้ ับบริกำรกำรศึกษำตลอดชีวติ จำกศูนยก์ ำรเรียนชุมชนสังกัดสำนักงำน กศน. 6. จำนวนผรู้ ับบริกำรในพ้นื ที่เป้ำหมำยไดร้ บั กำรส่งเสรมิ ด้ำนกำรรหู้ นงั สอื และกำรพฒั นำทกั ษะชีวติ 7. จำนวนนักเรียนนักศกึ ษำท่ีได้รบั บริกำรติวเข้มเตม็ ควำมรู้ 8. จำนวนประชำชนท่ไี ดร้ บั กำรฝึกอำชพี ระยะสัน้ สำมำรถสร้ำงอำชีพเพ่อื สรำ้ งรำยได้ 9. จำนวน ครู กศน. ตำบล จำกพนื้ ท่ี กศน.ภำค ได้รบั กำรพัฒนำศักยภำพด้ำนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสื่อสำร 10. จำนวนประชำชนทไ่ี ด้รับกำรฝึกอบรมภำษำตำ่ งประเทศเพ่ือกำรสื่อสำรด้ำนอำชพี 11. จำนวนผสู้ ูงอำยุภำวะพ่งึ พิงในระบบ Long Term Care มีผู้ดูแลทม่ี คี ุณภำพและมำตรฐำน 12. จำนวนประชำชนที่ผ่ำนกำรอบรมจำกศนู ยด์ ิจทิ ลั ชมุ ชน 13. จำนวนศูนย์กำรเรียนชุมชน กศน. บนพน้ื ท่สี งู ในพ้นื ท่ี 5 จังหวดั ที่ส่งเสรมิ กำรพัฒนำทกั ษะกำรฟงั พดู ภำษำไทยเพอ่ื กำรสอื่ สำร รว่ มกันในสถำนศึกษำสงั กดั สพฐ. ตชด. และกศน. 14. จำนวนบคุ ลำกร กศน. ตำบลทีส่ ำมำรถจดั ทำคลังควำมร้ไู ด้ 15. จำนวนบทควำมเพื่อกำรเรยี นรู้ตลอดชวี ิตในระดับตำบลในหัวข้อต่ำง ๆ 16. จำนวนหลักสูตรและสอ่ื ออนไลน์ท่ีให้บริกำรกับประชำชน ทง้ั กำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำข้ัน พ้นื ฐำน กำรศึกษำต่อเนื่อง และกำรศึกษำตำมอัธยำศยั ตัวชี้วัดเชิงคณุ ภำพ 1. รอ้ ยละของคะแนนเฉล่ยี ผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดับชำติ กำรศึกษำนอกระบบ (N-NET) ทุกรำยวิชำทุกระดบั 2. ร้อยละของผูเ้ รยี นท่ีได้รบั กำรสนบั สนนุ กำรจัดกำรศึกษำขนั้ พืน้ ฐำนเทยี บกบั ค่ำเปำ้ หมำย
11 3. รอ้ ยละของประชำชนกลุ่มเป้ำหมำยทีล่ งทะเบยี นเรียนในทกุ หลักสูตร/กิจกรรมกำรศกึ ษำตอ่ เนื่องเทียบกบั เปำ้ หมำย 4. รอ้ ยละของผผู้ ำ่ นกำรฝึกอบรม/พัฒนำทักษะอำชีพระยะส้นั สำมำรถนำควำมรไู้ ปใชใ้ นกำรประกอบอำชพี หรอื พัฒนำงำนได้ 5. รอ้ ยละของผเู้ รยี นในเขตพื้นทจ่ี งั หวัดชำยแดนภำคใต้ที่ได้รบั กำรพัฒนำศกั ยภำพ หรอื ทักษะดำ้ นอำชีพ สำมำรถมงี ำนทำหรือนำไปประกอบอำชีพได้ 6. รอ้ ยละของผูจ้ บหลกั สูตร/กิจกรรมท่ีสำมำรถนำควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจไปใชไ้ ด้ตำมจุดมุ่งหมำยของหลกั สตู ร กจิ กรรม กำรศกึ ษำต่อเนอื่ ง 7. ร้อยละของประชำชนท่ีได้รับบรกิ ำรมีควำมพงึ พอใจต่อกำรบรกิ ำร/เขำ้ ร่วมกจิ กรรมกำรเรยี นรู้กำรศึกษำตำม อธั ยำศัย 8. ร้อยละของประชำชนกลุ่มเป้ำหมำยทไ่ี ด้รับบรกิ ำร/ข้ำร่วมกจิ กรรมทมี่ คี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ/เจตคติ ทกั ษะ ตำมจุดมงุ่ หมำยของกิจกรรมที่กำหนด ของกำรศึกษำตำมอัธยำศัย 9. ร้อยละของนกั เรียน/นักศึกษำท่มี ผี ลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนในวิชำทีไ่ ดร้ ับบริกำรตวิ เขม้ เต็มควำมร้เู พ่ิมสงู ขน้ึ 10. ร้อยละของผสู้ ูงอำยทุ ่ีเป็นกลมุ่ เป้ำหมำย มีโอกำสมำเขำ้ ร่วมกิจกรรมกำรศึกษำตลอดชวี ิต นโยบำยเรง่ ด่วนเพอื่ ร่วมขับเคล่ือนยุทธศำสตร์กำรพัฒนำประเทศ 1.ยุทธศำสตรด์ ้ำนควำมมันคง 1.1 พฒั นำและเสริมสรำ้ งควำมจงรกั ภกั ดีต่อสถำบนั หลักของชำติ โดยปลูกฝังและสรำ้ งควำมตระหนักรถู้ งึ ควำมสำคัญของสถำบันหลกั ของชำติ รณรงคเ์ สริมสรำ้ งควำมรกั และควำมภำคภมู ใิ จในควำมเป็นคนไทยและชำติไทย น้อมนำและเผยแพรศ่ ำสตร์พระรำชำ หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งรวมถึงแนวทำงพระรำชดำรติ ำ่ ง ๆ 1.2 เสรมิ สรำ้ งควำมรู้ควำมเข้ำใจท่ีถูกต้อง และกำรมีสว่ นรว่ มอย่ำงถูกต้องกบั กำรปกครองระบอบ ประชำธปิ ไตยอันมีพระมหำกษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมุข ในบริบทของไทย มีควำมเป็นพลเมืองดี ยอมรับและเคำรพควำม หลำกหลำยทำงควำมคิดและอดุ มกำรณ์ 1.3 ส่งเสริมและสนับสนุนกำรจัดกำรศกึ ษำเพอ่ื ป้องกนั และแก้ไขปัญหำภยั คุกคำมในรปู แบบใหม่ ทงั้ ยำเสพตดิ กำรคำ้ มนุษย์ ภยั จำกไซเบอร์ ภยั พิบตั ิจำกธรรมชำติ โรคอุบัติใหม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดบั คณุ ภำพกำรศึกษำและสร้ำงเสริมโอกำสในกำรเข้ำถึงบริกำรกำรศึกษำ กำรพัฒนำทักษะ กำรสร้ำง อำชพี และกำรใชช้ ีวติ ในสงั คมพหุวฒั นธรรม ในเขตพฒั นำพิเศษเฉพำะกิจจงั หวดั ชำยแดนภำคใต้ และพืน้ ท่ชี ำยแดนอ่ืน 1.5 สรำ้ งควำมรู้ ควำมเข้ำใจในขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้ำนยอมรบั และเคำรพ ในประเพณี วัฒนธรรมของกลุ่มชำติพันธ์ุ และชำวต่ำงชำติท่ีมีควำมหลำกหลำย ในลกั ษณะพหุสงั คมที่อย่รู ว่ มกนั 2 ยุทธศำสตรด์ ้ำนกำรสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน 2.1 เร่งปรับหลกั สูตรกำรจัดกำรศกึ ษำอำชพี กศน. เพ่ือยกระดบั ทักษะด้ำนอำชีพของประชำชน ใหเ้ ป็นอำชพี ทร่ี องรบั อตุ สำหกรรมเป้ำหมำยของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบรู ณำ กำรควำมร่วมมือในกำรพัฒนำและเสริมทักษะใหม่ด้ำนอำชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงมุ่งเน้นสร้ำงโอกำส ในกำรสรำ้ งงำน สร้ำงรำยได้ และตอบสนองต่อควำมตอ้ งกำรของตลำดแรงำนท้ังภำคอุตสำหกรรมและ กำรบริกำร โดยเฉพำะในพื้นท่ีเขตระเบยี งเศรษฐกจิ และเขคพฒั นำพิเศษตำมภมู ิภำคต่ำง ๆ ของประเทศ สำหรับพ้ืนท่ปี กตใิ ห้พฒั นำอำชีพท่ีเน้นกำรต่อยอดศักยภำพและตำมบรบิ ทของพืน้ ที่ 2.2 จัดกำรศึกษำเพ่ือพัฒนำพื้นที่ภำคตะวนั ออก ยกระดับกำรศึกษำให้กบั ประชำชนให้จบกำรศึกษำอยำ่ งน้อย กำรศึกษำภำคบังคับ สำมำรถนำคุณวฒุ ิที่ไดร้ บั ไปต่อยอดในกำรประกอบอำชพี รวมทั้งพัฒนำทกั ษะในกำรประกอบ อำชีพตำมควำมต้องกำรของประชำชน สรำ้ งอำชีพ สร้ำงรำยได้ ตอบสนองต่อบรบิ ทของสังคมและชุมชน รวมท้งั รองรับ กำรพัฒนำเขตพนื้ ทรี่ ะเบยี บเศรษฐกจิ ภำคตะวนั ออก (EEC)
12 2.3 พฒั นำและส่งเสริมประชำชนเพือ่ ต่อยอดกำรผลิตและจำหนำ่ ยสินค้และผลิตภัณฑ์ออนไลน์ 1) เร่งจดั ตัง้ ศูนย์ให้คำปรึกษำและพฒั นำผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพื่อยกระดบั คุณภำพของสินค้และผลิตภณั ฑ์ กำรบรหิ ำรจัดกำรทคี่ รบวงจร (กำรผลติ กำรตลำด กำรสง่ ออก และสรำ้ งช่องทำงจำหน่ำย) รวมท้ังสง่ เสรมิ กำรใช้ ประโยชน์จำกเทคโนโลยดี ิจทิ ัลในกำรเผยแพร่และจำหน่ำยผลิตภัณฑ์ 2) พฒั นำและคดั เลือกสดุ ยอดสินค้ำและลิตภัณฑ์ กศน. ในแตล่ ะจงั หวดั พรอ้ มทัง้ ประสำนควำมรว่ มมือกับ สถำนบี ริกำรนำ้ มันในกำรเป็นซ่องทำงกำรจำหนำ่ ยสุดยอดสินค้ำและผลิตภัณฑ์ กศน.ให้กวำ้ งขวำงยิง่ ขน้ึ 3 ยุทธศำสตร์กำรพัฒนำและเสริมสร้ำงศกั ยภำพทรัพยำกรมนษุ ย์ 3.1 พฒั นำครแู ละบุคลำกรทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กำรจัดกจิ กรรมและกำรเรียนรู้ เป็นผู้เชือ่ มโยงควำมรกู้ ับ ผู้เรยี นและผรู้ ับบริกำร มคี วำมเป็น \"ครมู ืออำชพี \" มจี ติ บรกิ ำร มีควำมรอบรู้และทันต่อกำรเปลยี่ นแปลงของสงั คมและ เป็น \"ผู้อำนวยกำรกำรเรยี นรู้\" ทสี่ ำมำรถบรหิ ำรจัดกำรควำมรู้ กิจกรรม และกำรเรยี นร้ทู ่ีดี 1) เพิม่ อตั รำข้ำรำชกำรครูให้กับ กศน. อำเภอทุกแหง่ โดยเรง่ ดำเนนิ กำรเรื่องกำรหำอัตรำตำแหน่ง กำรสรรหำ บรรจุ และแต่งต้งั ขำ้ รำชกำรครู 2) พฒั นำข้ำรำชกำรครูในรูปแบบครบวงจร ตำมหลักสตู รท่ีเชอื่ มโยงกบั วทิ ยฐำนะ 3) พฒั นำครู กศน.ตำบลใหส้ ำมำรถปฏิบตั งิ ำนได้อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ โดยเนน้ เรอื่ งกำรพัฒนำทกั ษะกำรจัดกำร เรียนกำรสอนออนไลน์ ทกั ษะภำษำต่ำงประเทศ ทักษะกำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ 4) พฒั นำศึกษำนิเทศก์ ใหส้ ำมำรถปฏิบตั กิ ำรนิเทศได้อย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ 5) พฒั นำบุคลำกร กศน.ทุกระดบั ทุกประเภทใหม้ ที ักษะควำมรเู้ รอ่ื งกำรใช้ประโยชน์จำกดจิ ิทลั และ ภำษำตำ่ งประเทศทจี่ ำเปน็ 3.2 พัฒนำแหล่งเรียนรใู้ ห้มบี รรยำกำศและสภำพแวดลอ้ มทเี่ อื้อตอ่ กำรเรยี นรู้ มคี วำมพรอ้ มในกำรใหบ้ ริกำร กิจกรรมกำรศกึ ษำและกำรเรียนรู้ เป็นแหล่งสำรสนเทศสำธำรณะทงี่ ยต่อกำรเข้ำถึง มบี รรยำกำศทเี่ อื้อตอ่ กำรเรียนรู้ เปน็ คำเพ่พน้ื ที่กำรเรียนรู้สำหรบั คนทกุ ชว่ งวยั มสี ่ิงอำนวยควำมสะดวก มบี รรยำกำศสวยงำมมีชีวิต ทด่ี ึงดูดควำมสนใจ และมคี วำมปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บรกิ ำร 1) เรง่ ยกระดบั กศน.ตำบลนำร่อง 928 แห่ง (อำเภอละ 1 แห่ง) ใหเ้ ปน็ กศน.ตำบล 5 ดี พรีเม่ียม ท่ปี ระกอบดว้ ย ครูดี สถำนท่ีดี (ตำมบริบทของพื้นที่) กจิ กรรมดี เครือขำ่ ยดี และมีนวัตกรรมกำรเรยี นร้ทู ่ีดีมปี ระโยชน์ 2) จดั ให้มีศนู ย์กำรเรยี นรตู้ ้นแบบ กศน. เพอ่ื ยกระดบั กำรเรียนรู้ ใน 6 ภมู ภิ ำค เปน็ พื้นท่ีกำรเรยี นรู้ (Co - Learning Space) ท่ที ันสมัยสำหรับทกุ คน มีควำมพร้อมในกำรใหบ้ รกิ ำรต่ำง ๆ อำทิ พนื้ ทส่ี ำหรับกำรทำงำน/ กำรเรียนรู้ พื้นที่สำหรบั กจิ กรรมต่ำง ๆ มหี อ้ งประชมุ ขนำดเลก็ รวมทง้ั ทำงำนร่วมกับหอ้ งสมุดประชำชนในกำร ให้บริกำรในรปู แบบห้องสมุดดิจทิ ลั บริกำรอินเทอร์เนต็ ส่ือมัลตมิ ีเดยี เพอื่ รองรับกำรเรียนรู้แบบ Active Learning 3) พัฒนำห้องสมุดประชชน \"เฉลิมรำชกุมำรี\" ให้เป็น Digital Library โดยใหม้ บี รกิ ำรหนงั สอื ในรปู แบบ e - Book บริกำรคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตควำมเรว็ สงู รวมทง้ั Free Wifi เพื่อกำรสืบค้นข้อมูล 3.3 ส่งเสริมกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ที ันสมยั และมปี ระสิทธิภำพ เอ้อื ต่อกำรเรียนรู้สำหรบั ทกุ คน สำมำรถ เรียนได้ทกุ ทท่ี ุกเวลำ มีกิจกรรมท่ีหลำกลำย นำ่ สนใจ สนองตอบควำมต้องกำรของชุมชน เพือ่ พฒั นำศักยภำพ กำรเรียนรู้ของประชำชน รวมท้งั ใชป้ ระโยชน์จำกประชำชนในชุมชนในกำรรว่ มจดั กิจกรรมกำรเรยี นรเู้ พื่อเช่ือมโยง ควำมสัมพนั ธข์ องคนในชมุ ชนไปสกู้ ำรจัดกำรควำมรขู้ องชมุ ชนอยำ่ งยง่ั ยนื 1) สง่ เสริมกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นร้ทู ี่ปลูกฝังคุณธรรม สร้ำงวนิ ัย จติ สำธำรณะ ควำมรับผิดชอบ ต่อส่วนรวม และกำรมีจติ อำสำ ผ่ำนกจิ กรรมรูปแบบต่ำง ๆ อำทิ กิจกรรมลกู เสือ กศน. กิจกรรมจติ อำสำ ตลอดจน สนบั สนนุ ใหม้ กี ำรจดั กจิ กรรมเพอ่ื ปลูกฝงั คุณธรรม จริยธรรมใหก้ บั บุคลำกรในองค์กร 2) จัดใหม้ ีหลักสตู รลูกเสือมัคคุเทศก์ โดยให้สำนกั งำน กศน.จังหวัดทุกแหป่ กทม. จัดตัง้ กองลูกเสือ ที่ลูกเสอื มีควำมพร้อมดำ้ นทักษะภำษำต่ำงประเทศ เป็นลูกเสอื มัคคุเทศกจ์ งั หวดั ละ 1 กอง เพื่อสง่ เสริมลูกเสือจิตอำสำ พฒั นำกำรทอ่ งเทีย่ วในแต่ละจงั หวดั
13 3.4 เสรมิ สร้ำงควำมร่วมมือกับภำคีเครือข่ำย ประสำน สง่ เสรมิ ควำมร่วมมือภำคเี ครือข่ำย ท้งั ภำครฐั เอกชน ประชำสงั คม และองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน รวมท้ังส่งเสริมและสนบั สนุนกำรมสี ว่ นร่วมของชุมชนเพือ่ สรำ้ งควำม เขำ้ ใจ และใหเ้ กิดควำมร่วมมือในกำรสง่ เสริม สนับสนนุ และจดั กำรศึกษำและกำรเรียนรใู้ หก้ ับประชำชนอย่ำงมี คุณภำพ 1) เรง่ จดั ทำทำเนียบภมู ปิ ญั ญำท้องถนิ่ ในแตล่ ะตำบล เพื่อใช้ประโยชน์จำกภมู ปิ ญั ญำท้องถน่ิ ในกำรสรำ้ งกำร เรยี นรจู้ ำกองคค์ วำมรใู้ นตวั บุคคลให้เกดิ กำรถ่ำยทอดภูมิปัญญำ สรำ้ งคณุ ค่ำทำงวฒั นธรรมอย่ำงย่งั ยนื 2) ส่งเสรมิ ภูมปิ ัญญำทอ้ งถ่นิ สู่กำรจดั กำรเรียนร้ชู มุ ชน 3) ประสำนควำมรว่ มมอื กับภำคเี ครือข่ำยเพือ่ กำรขยำยและพัฒนำกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำม อธั ยำศยั ให้เข้ำถงึ กล่มุ เป้ำหมำยทกุ กลุ่มอย่ำงกวำ้ งขวำงและมีคุณภำพ อำทิ กลุม่ ผสู้ ูงอำยุ กลุ่ม อสม. 3.5 พฒั นำนวัตกรรมทำงกำรศึกษำเพ่ือประโยชน์ต่อกำรจัดกำรศกึ ษำและกลมุ่ เป้ำหมำย 1) พฒั นำกำรจดั กำรศกึ ษำออนไลน์ กศน. ท้ังในรูปแบบของกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน กำรพัฒนำทักษะ ชวี ิตและทักษะอำชีพ กำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั รวมทั้งกำรพัฒนำช่องทำงกำรคำ้ ออนไลน์ 2) สง่ เสริมกำรใชเ้ ทคโนโลยใี นกำรปฏบิ ตั ิงำน กำรบรหิ ำรจัดกำร และกำรจดั กำรเรียนรู้ 3) สง่ เสรมิ ใหม้ ีกำรใชก้ ำรวิจยั อย่ำงงำ่ ยเพ่ือสร้ำงนวตั กรรมใหม่ 3.6 พฒั นำศกั ยภำพคนด้ำนทักษะและควำมเข้ำใจในกำรใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) 1) พฒั นำควำมรู้และทกั ษะเทคโนโลยดี จิ ิทัลของครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ เพื่อพัฒนำ รูปแบบกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน 2) สง่ เสริมกำรจดั กำรเรียนรดู้ ้ำนเทคโนโลยีดิจิทัล เพอ่ื ใหป้ ระชำชนมที กั ษะควำมเขำ้ ใจและ ใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ัลที่สำมำรถนำไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวัน รวมทง้ั สรำ้ งรำยได้ให้กับตนเองได้ 3.7 พัฒนำทกั ษะภำษำต่ำงประเทศเพ่ือกำรส่ือสำรของประชำชนในรปู แบบต่ำง ๆ อยำ่ งเป็นรปู ธรรม โดยเนน้ ทักษะภำษำเพื่ออำชีพ ทัง้ ในภำคธรุ กจิ กำรบรกิ ำร และกำรท่องเทยี่ ว รวมทง้ั พัฒนำส่ือกำรเรยี นกำรสอนเพอื่ สง่ เสรมิ กำรใช้ภำษำเพอ่ื กำรสอื่ สำรและกำรพัฒนำอำชีพ 3.8 เตรียมควำมพรอ้ มกำรเข้ำสู่สังคมผ้สู ูงอำยุทีเ่ หมำะสมและมคี ุณภำพ 1) ส่งเสรมิ กำรจัดกจิ กรรมให้กบั ประชำชนเพ่ือสร้ำงควำมตระหนักถึงกำรเตรยี มพร้อมเข้ำสสู่ ังคมผสู้ งู อำยุ (Aging Society) มคี วำมเขำ้ ใจในพฒั นำกำรของชว่ งวยั รวมทง้ั เรยี นรแู้ ละมีส่วนร่วมในกำรดูแล รับผิดชอบผสู้ งู อำยใุ นครอบครัวและชมุ ชน 2) พฒั นำกำรจัดบริกำรกำรศึกษำและกำรเรยี นรู้สำหรับประชำชนในกำรเตรยี มควำมพร้อม เข้ำสู่วยั สงู อำยทุ ีเ่ หมำะสมและมีคุณภำพ 3) จดั กำรศึกษำเพ่ือพัฒนำคุณภำพชวี ติ สำหรบั ผู้สูงอำยภุ ำยใตแ้ นวคิด \"Active Aging\"กำรศึกษำเพ่ือพัฒนำ คุณภำพชีวิต และพฒั นำทักษะชีวิต ใหส้ ำมำรถดูแลตนเองทงั้ สขุ ภำพกำยและสุขภำพจติ และรูจ้ กั ใชป้ ระโยชนจ์ ำก เทคโนโลยี 4) สรำ้ งควำมตระหนักถึงคุณคำ่ และศกั ด์ิศรขี องผู้สูงอำยุ เปิดโอกำสให้มีกำรเผยแพรภ่ มู ิปญั ญำของผ้สู ูงอำยุ และใหม้ สี ่วนรว่ มในกจิ กรรมด้ำนตำ่ ง ๆ ในชมุ ชน เชน่ ด้ำนอำชีพ กีฬำ ศำสนำและวัฒนธรรม 5) จดั กำรศึกษำอำชีพเพ่ือรองรบั สงั คมผูส้ งู อำยุ โดยบูรณำกำรควำมรว่ มมอื กับหน่วยงำนที่เก่ียวข้อง ในทุก ระดบั 3.9 กำรส่งเสรมิ วทิ ยำศำสตร์เพอ่ื กำรศึกษำ 1) จดั กจิ กรรมวิทยำศำสตรเ์ ชิงรกุ และเน้นให้ควำมรู้วิทยำศำสตร์อย่ำงง่ำยกับประชำชนในชุมชน ท้ังวิทยำศำสตรใ์ นวิถชี ีวติ และวิทยำศำสตร์ในชีวิตประจำวัน 2) พัฒนำสื่อนิทรรศกำรเละรูปแบบกำรจัดกิจกรรมทำงวทิ ยำศำสตรใ์ ห้มีควำมทนั สมัย
14 3.10 ส่งเสริมกำรรูภ้ ำษำไทยใหก้ บั ประชำชนในรปู แบบต่ำง ๆ โดยเฉพำะประชำชนในเขตพ้ืนท่สี ูง ใหส้ ำมำรถฟงั พดู อ่ำน และเขียนภำษำไทย เพื่อประโยชในกำรใช้ชวี ิตประจำวันได้ 4 ยุทธศำสตรต์ ้นกำรสร้ำงโอกำสและควำมเสมอภำคทำงสังคม 4.1 จัดต้งั ศูนย์กำรเรียนรสู้ ำหรับทกุ ชว่ งวยั ที่เปน็ ศนู ยก์ ำรเรยี นรู้ตลอดชีวติ ทส่ี ำมำรถให้บรกิ ำร ประชำชนไดท้ ุกคน ทุกชว่ งวัย ทีม่ ีกจิ กรรมทห่ี ลำกหลำย ตอบสนองควำมต้องกำรในกำรเรียนร้ใู นแตล่ ะวยั และเปน็ ศูนย์บริกำรควำมรู้ ศูนยก์ ำรจดั กจิ กรรมทคี่ รอบคลุมทุกช่วงวัย เพ่อื ให้มีพัฒนำกำรเรียนรูท้ เี่ หมำะสม และมคี วำมสขุ กบั กำรเรียนรู้ตำมควำมสนใจ 1) เร่งประสำนกับสำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน เพอื่ จัดทำฐำนขอ้ มลู โรงเรียนทถ่ี ูกยบุ รวม หรอื คำดวำ่ น่ำจะถูกยุบรวม 2) ใหส้ ำนักงำน กศน.จงั หวดั ทกุ แห่งทีอ่ ยู่ในจังหวัดท่ีมโี รงเรยี นทีถ่ กู ยุบรวม ประสำนขอใชพ้ ้นื ทเ่ี พื่อจัดตงั้ ศูนย์ กำรเรยี นรู้สำหรับทกุ ช่วงวยั กศน. 4.2 สง่ เสริมและสนับสนุนกำรจดั กำรศกึ ษำและกำรเรยี นรสู้ ำหรับกลมุ่ เปำ้ หมำยผู้พิกำร 1) จดั กำรศึกษำขัน้ พ้นื ฐำน กำรศึกษำเพื่อพฒั นำทกั ษะชีวติ และทักษะอำชีพ และกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั โดย เน้นรปู แบบกำรศึกษำออนไลน์ 2) ใหส้ ำนักงำน กศน.จังหวัดทกุ แหง่ /กทม. ทำควำมร่วมมือกบั ศูนยก์ ำรศึกษำพิเศษประจำจงั หวัด ในกำรใช้ สถำนที่ วัสดอุ ุปกรณ์ และครุภัณฑ์ดำ้ นกำรศกึ ษำ เพ่ือสนบั สนุนกำรจดั กำรศึกษำและกำรเรียนรู้สำหรบั กลุม่ เปำ้ หมำยผู้ พกิ ำร 4.3 ยกระดับกำรศึกษำให้กับกลมุ่ เปำ้ หมำยทหำรกองประจำกำร รวมทง้ั กลุ่มเป้ำหมำยพเิ ศษอื่น ๆ อำทิ ผตู้ ้องขัง คนพิกำร เดก็ ออกกลำงคัน ประชำกรวยั เรยี นท่ีอยู่นอกระบบกำรศึกษำใหจ้ บกำรศกึ ษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำข้ันพนื้ ฐำน สำมำรถนำควำมรทู้ ี่ได้รบั ไปพฒั นำตนเองได้อยำ่ งต่อเน่ือง 4.4 พัฒนำหลกั สูตรกำรจดั กำรศกึ ษำอำชพี ระะสัน้ ให้มีควำมหลำกหลำย ทันสมัย เหมำะสมกับบริบทของ พื้นที่ และตอบสนองควำมต้องกำรของประชำชนผู้รับบริกำร 5. ยุทธศำสตรด์ ำ้ นกำรสร้ำงกำรเติบโตบนคณุ ภำพชวี ิตท่เี ปน็ มติ รตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม 5.1 ส่งเสรมิ ใหม้ กี ำรให้ควำมรู้กบั ประชำชนในกำรรบั มอื และปรบั ตวั เพ่ือลดควำมเสยี หำยจำกภัยธรรมชำติและ ผลกระทบที่เก่ยี วข้องกับกำรเปลย่ี นแปลงสภำพภูมิอำกำศ 5.2 สร้ำงควำมตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรสร้ำงสังคมสีเขียว สง่ เสริมควำมรใู้ หก้ บั ประชำชนเกย่ี วกับกำร คัดแยกตั้งแตต่ ้นทำง กำรกำจัดขยะ และกำรนำกลบั มำใชช้ ้ำ เพอื่ ลดปริมำณและตน้ ทนุ ในกำรจดั กำรขยะของเมือง และ สำมำรถนำขยะกลบั มำใช้ประโยชน์ไดโ้ ดยง่ำย รวมทัง้ กำรจัดกำรมลพิษในชุมชน 5.3 ส่งเสริมให้หนว่ ยงำนและสถำนศกึ ษำใช้พลงั งำนที่เป็นมติ รกบั สิ่งแวดล้อม รวมทงั้ ลดกำรใช้ทรพั ยำกรท่ี ส่งผลกระทบต่อสงิ่ แวดล้อม เช่น รณรงค์เร่ืองกำรลดกำรใช้ถงุ พลำสติก กำรประหยดั ไฟฟ้ำ เป็นต้น 6. ยุทธศำสตร์ดำ้ นกำรปรบั สมดุลและพัฒนำระบบหำรบริหำรจดั กำรภำครัฐ 6.1 พัฒนำและปรบั ระบบวิธีกำรปฏิบัตริ ำชกำรให้ทนั สมยั มีควำมโปรง่ ใส ปลอดกำรทุจริต บริหำรจดั กำรบน ข้อมูลและหลกั ฐำนเชิงประจักษ์ มุ่งผลสมั ฤทธมิ์ ีควำมโปร่งใส 6.2 นำนวตั กรรมและเทคโนโลยีระบบกำรทำงำนทเ่ี ปน็ ดิจิทัลมำใช้ในกำรบรหิ ำรและพัฒนำงำนสำมำรถ เช่ือมโยงกับระบบฐำนข้อมูลกลำงของกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร พร้อมท้ังพัฒนำโปรแกรมออนไลน์ท่สี ำมำรถเชื่อมโยงข้อมูล ต่ำง ๆ ที่ทำให้กำรบรหิ ำรจดั กำรเป็นไปอย่ำงต่อเนอ่ื งกนั ตง้ั แตต่ น้ จนจบกระบวนกำรและให้ประชำชนกลมุ่ เป้ำหมำย สำมำรถเขำ้ ถงึ บรกิ ำรได้อยำ่ งทันที ทกุ ทีแ่ ละทุกเวลำ 6.3 สง่ เสรมิ กำรพฒั นำบุคลำกรทุกระดบั อย่ำงต่อเน่อื ง ให้มคี วำมร้แู ละทักษะตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ให้ตรงกับ สำยงำน ควำมชำนำญ และควำมตอ้ งกำรของบุคลำกร
15 3. เอกสำรทเ่ี กยี่ วขอ้ ง Facebook Facebook เริม่ มำยงั ไง? หลำยๆคนในคณะใช้ Facebook กนั ไมว่ ่ำจะเปน็ กำรตดิ ต่อระหวำ่ งเพื่อนฝูง เลน่ เกมส์ หรอื อะไรอีกหลำยอย่ำง แต่มี ใครรูบ้ ้ำงวำ่ Facebook เกดิ มำไดย้ ังไง เร่ืองรำวของ Facebook เรมิ่ จำกนักศกึ ษำ เบียร์ สัตวต์ ่ำงๆ กำร Hack และกำรโดนจับ ซง่ึ ดจู ำกกำรเร่ิมตน้ ของ Facebook แลว้ ก็ Amazing มำกๆวำ่ มำไกลถึง ขนำดน้ี (ผู้ใช้งำน 400 ล้ำนคน) ในเวลำแค่ 6 ปี Mark Zuckerberg Facebook ก่อต้ังโดย Mark Zuckerberg พร้อมกับเพอ่ื นที่เรียนดว้ ยกนั ท่ี Harvard คือ Dustin Moskovitz, Eduardo Saverin, and Chris Hughes ควำมคดิ ทจี่ ะทำ Facebook มำจำก เมื่อตอน Mark เรยี น มัธยมอยู่ ซ่งึ ตอนน้นั ทโี่ รงเรยี นมีกำรถำ่ ยรูปนักเรยี นและอำจำรย์เกบ็ เอำไว้ เรยี กว่ำ \"facebook\" (หรือหนงั สือหนำ้ นนั่ เอง) ประวัติ Mark Zuckerbergผ้กู ่อตัง้ facebook Mark Zuckerberg มำรค์ ซคั เคอรเ์ บิร์ก (มำร์ก สำกกระเบือ) แฮก็ เกอรห์ นมุ่ จำกฮำรว์ ำร์ดผกู้ ่อตั้ง Facebook เครอื ข่ำยสังคมออนไลน์ขนำดใหญส่ ุดของโลกจนโด่งดงั เปรี้ยงปร้ำงไปทัว่ และไดร้ ับกำรจัดอันดับจำกนิตยสำรไทมใ์ ห้ เป็นบุคคลท่ีทรงอิทธิพลที่สุดของโลก ประจำปี 2008 ขณะอำยเุ พียง 23 ปีโดยปัจจุบันมีผใู้ ช้เฟซบุ๊กมำกกว่ำ 400 ลำ้ น คน นับตงั้ แตเ่ ริ่มกอ่ ตั้งเม่ือ 6ปีกอ่ น วันที่ 4 ก.พ. ปี 2004ยอ้ นกลับไปในวัยเดก็ “มำรค์ ” มีชวี ิตแสนจะธรรมดำ เขำเกดิ ในครอบครัวอเมริกันเชือ้ สำยยวิ เมอื่ วันท่ี 14พ.ค. ปี 1984 โตมำในย่ำน ดอบสเ์ ฟอรร์ ี รัฐนวิ ยอร์ก สหรัฐอเมริกำมพี ่อ เปน็ หมอฟันและนักจติ วิทยำ ชวี ติ วัยเดก็ ของเขำค่อนขำ้ งจะสขุ สบำยไม่เคยผำ่ นควำมลำบำกยำกจน เขำมีพี่นอ้ ง 4 คน ทวำ่ เป็นลกู ชำยคนเดียวของบ้ำนเป็นเดก็ เรียนเกง่ ออกแนวเนริ ์ดๆ ชอบขลกุ อยู่แตใ่ นห้องไอเดียสำคญั ที่จุดประกำยให้ นกั ศกึ ษำวิชำคอมพิวเตอร์วยั 20 ปีคนน้ี ลกุ ขึน้ ทำเฟซบกุ๊ เกิดจำกควำมหมกมุ่นอยูก่ บั เร่อื งคอม พิวเตอร์และกำรเขียน โปรแกรม จนคน้ พบปัญหำว่ำมหำวิทยำลยั ระดบั โลกอยำ่ งฮำรว์ ำร์ดไม มีระบบหนงั สือรุ่นทำงออนไลน์ เขำจึงนำไอเดีย ไปเสนอเพ่อื ขอจัดทำแต่กลับถกู มหำวิทยำลยั ปฏเิ สธ โดยบอกว่ำไมม่ ีนโยบำยใหน้ ักศึกษำเข้ำถงึ ขอ้ มูลดงั กลำ่ วกระนั้น ดว้ ยควำมคันไม้คันมือ และอยำกเอำชนะเขำจึงสวมวิญญำณแฮ็กเกอรเ์ จำะเขำ้ ไปในระบบทะเบียนประ วตั นิ ักศึกษำของ ฮำรว์ ำรด์ ดึงรูปนกั ศึกษำและประวตั สิ ่วนตัวจำกฐำนขอ้ มลู มหำวิทยำลัยมำใสใ่ นเวบ็ ไซต์ Facemashพรอ้ มกนั นย้ี งั เชญิ ชวนเพื่อนๆนักศึกษำเลน่ เกม Hot or Not โดยโพสต์รูปนักศกึ ษำให้เพ่ือนๆเขำ้ มำชว่ ยกนั โหวตว่ำใครฮอต หรือไม่ฮอต ผลตอบรบั ดีเกินคำดเพรำะภำยในเวลำแค่ 4 ช่ัวโมง มีนกั ศึกษำเข้ำมำโหวตถึง 450 คน สร้ำงสถิติคลิกชม22,000 ครง้ั
16 แต่แทนที่จะได้รบั เสยี งชมจำกอำจำรย์เขำกลับถูกมหำวทิ ยำลัยลงโทษระงับกำรใชอ้ ินเตอร์เน็ตเหตุกำรณ์ทเี่ กดิ ข้นึ กลำยเปน็ แรงบันดำลใจใหเ้ ขำลยุ ตอ่ เพื่อสร้ำง Facebook โดยเขำนั่งเขียนโปรแกรมอยใู่ นหอพักมหำวทิ ยำลยั และไดร้ บั ควำมชว่ ยเหลอื จำกรูมเมต“ดสั ติน มำสโควิตซ์”ซงึ่ ภำยหลงั ได้กลำยมำเปน็ ผรู้ ว่ มก่อตั้งเฟซบุ๊กและรั้งตำแหนง่ วีพีดำ้ นเอน จเิ นยี รง่ิ แรกเริ่มเขำพยำยำมเชิญชวนเพ่ือนๆนักศกึ ษำสง่ รปู และข้อมลู สว่ นตัวเข้ำมำโพสต์บนเวบ็ ไซต์ ซง่ึ มีคนสง่ รูปเขำ้ มำถึง 500 รปู ต่อมำได้พฒั นำโปรแกรมโดยสรำ้ งเวบ็ เพจให้เพ่ือนร่วมช้ันสำมำรถสง่ อีเมล์เข้ำมำช่วยกันเขียนควำมคดิ เห็น และเพ่ิมเติมประวัตไิ ด้อย่ำงไมจ่ ำกดั ปรำกฏว่ำได้รบั กำรตอบรับอยำ่ งดีจำกเว็บไซตเ์ พือ่ สรำ้ งสมั พนั ธ์ในหมนู่ ักศึกษำ ฮำรว์ ำร์ด จึงขยำยควำมฮิตฮอตไปยังมหำวทิ ยำลัยอนื่ ๆกวำ่ 30 สถำบนั ชวี ิตของเขำต้องมำถึงทำงแยกเม่อื เขำกับเพ่ือนๆ ชวนกันเดินทำงไปดูลำดเลำท่ีพำโล อัลโต ซึง่ เปน็ ซิลคิ อน วัลเลย์ในรัฐแคลฟิ อร์เนีย เพือ่ หำเงินลงทุนก่อต้ังบริษทั และ พฒั นำเวบ็ ไซต์ ตอนน้ันพวกเขำยงั มแี ผนจะกลบั มำเรยี นต่อในช่วงเปิดเทอม แต่ทำ้ ยสดุ เม่ือไดร้ บั ไฟเขยี วอนุมัติเงินลงทุน ถงึ 500,000 ดอลลำรส์ หรฐั ฯ ภำพของ “บลิ ลเ์ กตส์”ผ้สู ร้ำงตำนำนลำออกจำกฮำร์วำรด์ เพ่ือมำสรำ้ งไมโครซอฟท์ จึงผุด ขึน้ ตรงหน้ำทำให้ตัดสนิ ใจทงิ้ ปรญิ ญำ และบอกกับตวั เองว่ำถ้ำไมโครซอฟท์เจ๊งเมอ่ื ไหร่…จะกลบั ไปเรยี นฮำร์วำร์ดทันที ประวัติ LINE เคยสงสยั กนั บำ้ งมัย้ คะว่ำแอพพลเิ คช่นั LINE ที่เรำใช้แชทกับเพ่ือนในโทรศัพทม์ ือถือ (หรือในคอมพิวเตอร์) นน้ั มปี ระวัติ ควำมเป็นมำอย่ำงไร LINE Application นน้ั เปน็ โปรแกรมท่ีถกู สรำ้ งขน้ี ในช่วงกลำงปี 2010 โดยกำรร่วมมือของบรษิ ัท Naver Japan Corporation และบริษัท livedoor โดยมี NHN Japan เปน็ ผู้พฒั นำฟเี จอรต์ ่ำงๆ ของไลน์ และในสว่ นของกำรตลำด ดำ้ นธุรกจิ น้ันยกให้บรษิ ัทแม่ท่ีเกำหลี NHN Corporation จดั กำร หลงั จำกท่เี ปิดตัวไดเ้ พียงไม่นำน ก็ได้รับกำรตอบรับ ถึงหลำยสบิ ลำ้ นยสู เซอรใ์ นญ่ีปุน่ ประเด็นแรกท่ใี ชใ้ นกำรสรำ้ งโปรแกรมแชท LINE ข้ึนมำกม็ ีสำเหตุมำจำกเหตุกำรณ์ แผน่ ดินไหวทีภ่ ูมิภำค Tohoku เม่ือตน้ ปี 2011 น่นั เอง ในตอนนนั้ ระบบกำรติดต่อทำงกำรโทรศพั ทล์ ่มอยำ่ งไม่เป็นท่ำ ทำให้ NHN Japan ตดั สินใจออกแบบ App ท่ีสำมำรถใช้ไดท้ งั้ บนมือถือ บนแท็บเลต็ และคอมพวิ เตอร์พีซี ซ่งึ จะ ทำงำนบนเครือขำ่ ยขอ้ มูลท่ีสำมำรถแชทตอบโต้ไดร้ วดเรว็ และต่อเน่ือง
17 ด้วยควำมทไี่ ลนม์ ีคณุ สมบัติของโปรแกรมแชทครบถ้วน ตง้ั แต่ แชท สง่ ไฟล์รูป ไฟลว์ ดิ โี อ ไฟล์เสียง ระบบกำรคน้ หำ เพ่ือนดว้ ย QR Code หรอื จะเกมไว้คลำยเครยี ด ยังมีอกี สง่ิ หนึง่ ทถ่ี อื ได้ว่ำเปน็ จดุ เด่นของแอพพลเิ คชั่นน้ีก็วำ่ ไดค้ ่ะ นัน่ ก็ คือ “Sticker” นัน่ เอง และในตอนนเี้ รำจะมำพดู ถึงเร่ือง “สตกิ เกอร์” กนั นะคะ โดยจะขอแนะนำตวั กำร์ตูนหลักๆ ของ สติกเกอร์ในไลนท์ ี่เป็นมำสค็อตทีเ่ ห็นกนั บ่อยๆ และคดิ วำ่ ทุกคนต้องเคยใช้มำแลว้ มำเรม่ิ จำก Moon เปน็ สติกเกอร์หวั กลม ตวั สีขำว เป็นสติกเกอร์พ้ืนฐำนของผู้เล่นไลน์กนั เลยทีเดียว เพรำะมีแทบจะทุกอำรมณ์ทผ่ี ู้ เล่นตอ้ งกำร สติกเกอรต์ ัวน้ีปฏเิ สธไม่ได้เลยวำ่ ผู้เล่นไลนต์ ้องใชก้ ันอย่ำงนอ้ ยคนละ 2 ครงั้ แน่ๆ Cony เป็นสติกเกอร์กระต่ำยสขี ำว หูดำ้ นในสีชมพู ดว้ ยควำมทเี่ ป็นกระต่ำยและแสดงอีโมช่นั ผ่ำนท่ำทำงและใบหนำ้ ออกมำไดน้ ่ำรัก หลำยๆ คนจึงชอบใช้สติกเกอร์โคน่กี ัน โคน้ีมกั จะมำพร้อมกับบรำวน์ Brown เปน็ หมีสนี ำ้ ตำล หน้ำน่ิงแต่แสดงอำรมณ์ออกมำทำงกำรกระทำไดน้ ำ่ รักมำกๆ ค่ะ แตก่ ็มกี ลุ่มคนไม่น้อยทช่ี นื่ ชอบควำมแบว๊ ซ่ือๆ ของเจำ้ สตกิ เกอรต์ วั นี้ และบรำวน์มักจะมีสติกเกอร์ค่กู ับโคน่ี
18 James เป็นสตกิ เกอร์หนุ่มเจ้ำสำอำง มจี ดุ เด่นคอื เป็นคนจรงิ ๆ และผมสที อง มำในชุดเสื้อขำว กำงเกงดำ ชอบทำหนำ้ แบบหลงตัวเอง เจมส์เปน็ อกี หนง่ึ สติกเกอรท์ ี่เปน็ ทีน่ ิยมมำกเพรำะ “ควำมฮำ” ของเค้ำน่ีแหละค่ะ ไม่วำ่ จะทำหนำ้ หล่อ หรือแมแ้ ต่ท่ำนอนตำยแบบสิ้นหวงั เจมสม์ ีหมด และ Sally เปด็ เหลืองตัวจิ๋วมักจะมำแจมกับคำแร็กเตอรต์ ัวอื่นๆ อยเู่ สมอ นอกจำกน้ี คำแรคเตอร์หลักของไลนย์ ังถกู นำไปเป็นอนิเมช่ันในชื่อ Line Offline Salaryman Stamp อนิเมไลนน์ เ้ี ร่ิมฉำยเมอื่ วนั ที่ 7 มกรำคม 2013 ทำงโตเกยี วทีวี ใน 1 ตอนจะมคี วำมยำวเพยี งแค่ 4 นำทีเท่ำนนั้ ช่วงเวลำ กำรฉำยอยทู่ ่ี 01.30 – 01.35 น. ตำมเวลำญ่ปี ุ่นนะคะ คำแร็คเตอร์ไลน์แต่ละตัวจะถกู สร้ำงข้นึ มำให้เปน็ พนักงำน เงินเดอื น ปจั จุบนั มหี ลำยตอนแล้ว
19 ลำ่ สุดนี้ ทำง NAVER ได้มีกำรฉลองใหก้ ับผใู้ ช้งำนไลนเ์ กิน 100 ล้ำนคน ดว้ ยกำรแจกสติกเกอร์ 7 วัน 7 แบบให้ไป สะสมกับฟรีๆ โดยไมเ่ สยี เงนิ ค่ะ โดยวธิ ีกำรโหลดคอื 1 วนั ตอ่ 1 คำแร็คเตอร์ ต้ังแตว่ นั ท่ี 18-24 มกรำคม 2556 ลำย ของสติกเกอรท์ แ่ี จกมีดังน้ีค่ะ LINE เผยประวตั ิควำมสำเรจ็ และข้อมูลสถิติล่ำสดุ ของผู้ใชง้ ำนทวั่ โลก 1. จำนวนผู้ใช้ – ญ่ปี นุ่ : 41.51 ล้ำน, ไทย: 12.27 ลำ้ น, ไตห้ วัน: 11.83 ลำ้ น, ประเทศอ่ืนๆ: 34.39 ลำ้ น – สัดส่วนระหว่ำงญป่ี นุ่ ตอ่ ประเทศอนื่ ๆ = 4:62. ทอ๊ ป 5 ประเทศ (จำกจำนวนผใู้ ชม้ ำกสุด) – ญีป่ นุ่ ไทย ไต้หวัน เกำหลี สเปน 2. ประเทศและภมู ภิ ำคที่ LINE ได้รบั กำรจดั อนั ดับให้เป็นแอพฯ อันดับ 1 โดย App Store/Google Play (ในประเภท แอพฯ ฟรี) – เอเชยี – ญี่ป่นุ ฮ่องกง มำเก๊ำ ไตห้ วัน สงิ คโปร์ ไทย มำเลเซีย กัมพชู ำ ลำว คีร์กซิ สถำน ตุรกี บำร์เรน อซุ เบกสิ ถำน คำซัคสถำน จอรแ์ ดน สหรัฐอำหรับเอมิเรตส์ คูเวต อิสรำเอล กำรต้ำร์ ซำอุดิ อำเรเบยี โอมำน – ยโุ รป – รสั เซยี เบลำรสู สเปน สวสิ เซอร์แลนด์ – อเมริกำเหนือ – โดมินแิ คน รพี บั ลคิ เอล ซำวำดอร์ ปำนำมำ ฮอนดูรสั – อเมริกำใต้ – เอควำดอร์ เวเนซูเอลำ่ อำร์เจนติน่ำ เปรู ชลิ ี โบลิเวยี ปำรำกวัย อรุ ุกวยั – แอฟริกำ – มำลิ แองโกล่ำ
20 – โอเชียน่ำ – ปำปวั นิวกนิ ี 3. ควำมถีใ่ นกำรใชง้ ำน 80.3% ตอ่ เดือน (นบั ถึงเดอื นธนั วำคม 2555) 4. จำนวนผู้ลงทะเบียนใชง้ ำนสงู สดุ ตอ่ วนั 600,000 คน (นับถงึ วนั ท่ี 16 ธันวำคม 2555) 5. รำงวลั ทไี่ ด้รบั – รำงวลั iTunes ยอดเยย่ี มประจำปี 2555 : อนั ดบั 1 ประเภทฟรีแอพลิเคชัน่ (ประเทศญี่ป่นุ ) – รำงวลั iF ดไี ซน์ ปี 2556 : รำงวลั สือ่ โฆษณำ – รำงวลั ดไี ซนด์ ีเยี่ยมเหรียญทอง ปี 2555 – รำงวัลเทรนด์ Shogakukan Dime ปี 2555 – รำงวัลทมี งำนยอดเยยี่ ม ปี 2555 – รำงวัล AMD Digital Contents ครัง้ ท่ี 17 ประจำปี 2556 – รำงวลั Nikkei Sangyo Shimbun: Nikkei Superior Products Service ปี 2555 – รำงวัล Nikkei MJ Hit Products ปี 2555 – รำงวลั Nikkei Trendy: Hit Products ปี 2555 : อันดบั 2 จำก 30 ลำดบั – รำงวลั Top Worldwide in Non-Game Apps by Monthly Revenues for iOS/Google Play (พฤศจิกำยน 2555) – รำงวลั elEconomista: Nominated for Best Technology (ประเทศสเปน) – รำงวัล EL PAIS: Nominated for Best Trend (ประเทศสเปน) 6. ขอ้ มูลสำคญั เกยี่ วกบั แอพฯของ LINE – มจี ำนวนท้งั หมด 24 แอพฯ (ไมร่ วมแอพฯบนเว็บไซต์) – จำนวนยอดดำวน์โหลดสงู ถงึ 100 ล้ำน 7. อันดับควำมนิยมของสต๊กิ เกอร์ท่วั โลก
บทที่ 3 วิธีกำรดำเนินงำน ศนู ยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสัตหีบ ได้เหน็ ควำมสำคัญของโครงกำรอบรม หลักสูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ิทลั (Digital Literacy Curriculum) จึงไดใ้ ห้ กศน.ตำบลพลูตำหลวง จัดทำโครงกำรอบรม หลกั สตู รกำรเข้ำใจดิจทิ ัล (Digital Literacy Curriculum) ประชำชนทว่ั ไป ในพนื้ ที่ตำบลพลูตำหลวงมขี นั้ ตอนดังน้ี 1.ประชมุ บุคลำกรกรรมกำร กศน.ตำบลพลตู ำหลวง 2.จดั ต้งั คณะทำงำน 3.ประสำนงำนกับผู้เรียน/วิทยำกรผู้สอน 4.ดำเนนิ งำนตำมแผน 5.วดั ผล/ประเมินผล/สรปุ ผลและรำยงำน 1. ประชมุ บคุ ลำกรกรรมกำร กศน.ตำบลพลตู ำหลวง กศน.ตำบลพลูตำหลวง ได้วำงแผนประชมุ บุคลำกรกรรมกำร กศน.ตำบลพลูตำหลวง เพือ่ หำแนวทำงในกำร ดำเนินงำนและกำหนดวัตถุประสงค์รว่ มกนั 2. จดั ตง้ั คณะทำงำน จดั ทำคำส่งั แต่งตั้งคณะทำงำนโครงกำร เพ่ือมอบหมอบหมำยหน้ำทีใ่ นกำรทำงำนใหช้ ัดเจน เช่น 2.1 คณะกรรมกำรทป่ี รกึ ษำ/อำนวยกำร มีหนำ้ ท่ีอำนวยควำมสะดวก และใหค้ ำปรึกษำแก้ไขปัญหำ ท่ีเกิดข้นึ 2.2 คณะกรรมกำรฝำ่ ยประชำสัมพนั ธ์ มหี น้ำท่ปี ระชำสัมพนั ธร์ ับสมัครผู้เขำ้ ร่วมโครงกำร 2.3 คณะกรรมกำรฝ่ำยรับลงทะเบยี นและประเมินผลหน้ำทจี่ ัดทำหลักฐำนกำรลงทะเบียนผเู้ ข้ำรว่ ม โครงกำร และรวบรวมกำรประเมินผล และรำยงำนผลกำรดำเนินกำร 3. ประสำนงำนกบั ผเู้ รยี น/วิทยำกรผ้สู อน ประสำนงำนกบั ผ้เู รยี นและวิทยำกร เช่น ประสำนเร่อื งสถำนที่ใช้ทำกำรเรียนกำรสอน ประสำนงำนกบั วิทยำกรผู้สอน เร่อื งเน้ือหำ หลกั สูตรกำรเรียนกำรสอน รูปแบบกำรเรียนกำรสอน วนั เวลำ สถำนท่ี 4. ดำเนนิ กำรตำมแผนงำนโครงกำร โครงกำรอบรมหลักสตู รกำรเขำ้ ใจดจิ ิทัล (Digital LiteracyCurriculum) ในวนั ที่ 26-27 มนี ำคม 2563 ณ กศน.ตำบลพลูตำหลวง อำเภอสัตหบี จงั หวัดชลบรุ ี จำนวนผูเ้ ขำ้ ร่วมโครงกำรฯ จำนวน 15 คน เวลำ 09.00– 15.00 น. นำงสำวสภุ ำภรณ์ นวมมำและนำงสำวเกษนยี ์ เดชรกั ษำ เป็นวทิ ยำกร
22 5. สรุปผลและรำยงำน จำกกำรดำเนนิ งำนประชำชนทว่ั ไปในพน้ื ทตี่ ำบลพลตู ำหลวง ในวนั ที่ 26-27 มนี ำคม 2563 ณ กศน.ตำบล พลูตำหลวง อำเภอสตั หบี จังหวดั ชลบุรี จำนวนผู้เขำ้ รว่ มโครงกำรฯ จำนวน 15 คน กศน.ตำบลพลตู ำหลวง จะได้นำ แนวทำงไปใช้ข้อมลู พจิ ำรณำหลักสตู ร เนอ้ื หำตลอดจนเทคนิควิธกี ำรจดั กำรกระบวนกำรเรียนร้ตู ่ำงๆ เพ่ือให้ตอบสนอง ควำมต้องกำรของผู้เขำ้ อบรมได้รับประโยชน์นำไปใช้ไดจ้ ริงตำมศักยภำพของแต่ละคน ให้มีคณุ ภำพชวี ิตทีด่ ีต่อไป กศน. ตำบลพลูตำหลวง ไดด้ ำเนินกำรตำมข้ันตอนและไดร้ วบรวมขอ้ มูลจำกแบบสำรวจสถิตทิ ี่ใชใ้ นกำรวเิ ครำะห์ คือโดย กำหนดคำ่ ลำดับควำมสำคัญของกำรประเมนิ ผลออกเป็น 5 ระดบั ดงั นี้ มำกท่ีสุด ให้คะแนน 5 มำก ใหค้ ะแนน 4 ปำนกลำง ใหค้ ะแนน 3 น้อย ให้คะแนน 2 น้อยทส่ี ดุ ให้คะแนน 1 ในกำรแปลผล ผู้จัดทำได้ใช้เกณฑ์กำรพจิ ำรณำจำกคะแนนเฉลี่ยตำมแนวคดิ ของ บญุ ชม ศรีสะอำด และบุญสง่ นิวแกว้ (2535, หน้ำ 22-25) 4.51-5.00 หมำยควำมว่ำ ดมี ำก 3.51-4.50 หมำยควำมวำ่ ดี 2.51-3.50 หมำยควำมวำ่ ปำนกลำง 1.51-2.50 หมำยควำมว่ำ น้อย 1.00-1.50 หมำยควำมว่ำ ตอ้ งปรับปรุง ผเู้ ขำ้ รว่ มโครงกำรจะตอ้ งกรอกข้อมูลตำมแบบสอบถำม เพื่อนำไปใชใ้ นกำรประเมนิ ผลของกำรจัดกจิ กรรม ดงั กล่ำว และจะได้นำไปเป็นข้อมูล ปรับปรงุ และพฒั นำ ตลอดจนใชใ้ นกำรจัดทำแผนกำรดำเนินกำรในปีต่อไป
บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ งำนและกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู ในกำรจดั โครงกำรอบรมหลักสตู รกำรเขำ้ ใจดิจทิ ัล (Digital LiteracyCurriculum) ในวันท่ี 26-27 มีนำคม 2563 ซ่ึงไดส้ รปุ ผลจำกแบบสอบถำมและนำเสนอผลกำรวิเครำะหข์ ้อมลู จำกผูเ้ ขำ้ ร่วมโครงกำร จำนวน 15 ชุด ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวผู้ตอบแบบถำมของผู้เข้ำร่วมโครงกำรอบรมหลกั สตู รกำรเข้ำใจดจิ ิทลั (Digital Literacy Curriculum) ณ กศน.ตำบลพลตู ำหลวง ผู้เขำ้ ร่วมกิจกรรมทต่ี อบแบบสอบถำมได้นำมำจำแนกตำมเพศ อำยุ และอำชีพ ผ้จู ัดทำได้นำเสนอจำแนกตำมข้อมลู ดังกล่ำว ดังปรำกฏตำมตำรำงท่ี 1 ดังต่อไปนี้ ตำรำงที่ 1 แสดงคำ่ ร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมเพศ เพศ ชำย หญงิ ควำมคดิ เห็น จำนวน รอ้ ยละ จำนวน ร้อยละ ผเู้ ข้ำร่วมกิจกรรมโครงกำรอบรมหลักสตู รกำรเข้ำใจดิจิทัล 10 66.67 5 33.33 (Digital Literacy Curriculum) จำกตำรำงท่ี 1 แสดงว่ำ ผ้ตู อบแบบสอบถำมของผเู้ ขำ้ รว่ มโครงกำรอบรมหลักสูตรกำรเข้ำใจดจิ ทิ ัล (Digital Literacy Curriculum) เปน็ ชำย 8 คน รอ้ ยละ 53 เปน็ หญงิ 7 ร้อยละ 47 ตำรำงที่ 2 แสดงค่ำรอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมอำยุ อำยุ 14 - 39 ปี 40 - 59 ปี 60 ปี ขึ้นไป ควำมคิดเหน็ จำนวน รอ้ ยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ผ้เู ขำ้ รว่ มกจิ กรรมโครงกำรอบรมหลักสตู รกำร 15 100 - - - - เข้ำใจดจิ ทิ ลั (Digital Literacy Curriculum) จำกตำรำงที่ 2 แสดงว่ำ ผู้ตอบแบบสอบถำมของผูเ้ ข้ำร่วมผู้เข้ำรว่ มกิจกรรมโครงกำรอบรมหลกั สตู รกำรเข้ำใจ ดจิ ิทลั (Digital Literacy Curriculum) เป็นช่วงอำยุ 14 - 39 ปี ท้งั หมด จำนวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 ตำรำงท่ี 3 แสดงคำ่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม โดยจำแนกตำมอำชพี รบั จำ้ ง คำ้ ขำย รบั รำชกำร เกษตรกรรม อ่นื ๆ(วำ่ งงำน) ประเภท จำนวน รอ้ ยละ จำนวน รอ้ ย จำนวน รอ้ ย จำนวน ร้อยละ จำนวน รอ้ ยละ ควำมคดิ เหน็ ละ ละ ผเู้ ข้ำรว่ มกิจกรรม 6 40 - - - - - - 9 60 โครงกำรอบรมหลักสูตร กำรเข้ำใจดิจิทัล (Digital Literacy Curriculum) จำกตำรำงที่ 3 แสดงว่ำ ผู้ตอบแบบสอบถำมของ ผู้เข้ำร่วมกิจกรรมโครงกำรอบรมหลกั สตู รกำรเขำ้ ใจดิจิทลั (Digital Literacy Curriculum) อำชีพอ่นื ๆ(วำ่ งงำน) มำกทสี่ ดุ จำนวน 9 คน คิดเปน็ ร้อยละ 60 รองลงมำมีอำชพี รบั จ้ำง จำนวน 6 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 40
24 ตอนท่ี 2 ข้อมูลเกย่ี วกบั ควำมคดิ เห็นของผเู้ ข้ำร่วมโครงกำรอบรมหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ิทลั (Digital Literacy Curriculum) ควำมคดิ เห็นของผเู้ ข้ำร่วมกจิ กรรม จำนวน 15 คน จำกแบบสอบถำมทง้ั หมดทมี่ ตี ่อโครงกำรอบรมหลักสตู ร กำรเขำ้ ใจดจิ ิทลั (Digital Literacy Curriculum) ณ กศน.ตำบลพลูตำหลวง อำเภอสตั หีบ จังหวดั ชลบรุ ี ดังปรำกฏใน ตำรำงที่ 4 ตำรำงท่ี 4 ผลกำรประเมนิ โครงกำรอบรมหลกั สูตรกำรเข้ำใจดิจทิ ลั (Digital Literacy Curriculum) N = 15 รำยกำรทีป่ ระเมนิ µ Ꝺ อันดับ ระดับผล ที่ กำรประเมิน ด้ำนหลกั สตู ร 1. กิจกรรมท่จี ัดสอดคล้องกบั วัตถุประสงค์ ของหลักสูตร 4.40 0.60 10 ดี 2. เนือ้ หำของหลักสตู รตรงกับควำมต้องกำรของผรู้ บั บริกำร 4.50 0.61 2 ดี 3. กำรจัดกิจกรรมทำใหผ้ รู้ ับบริกำรสำมำรถ คิดเปน็ ทำเป็นแก้ปัญหำเปน็ 4.45 0.69 4 ดี 4. ผู้รบั บริกำรมีสว่ นรว่ มในกำรแสดงควำมคดิ เห็นต่อกำรจดั ทำหลกั สูตร 4.35 0.75 12 ดี 5. ผู้รับบรกิ ำรสำมำรถนำควำมรู้ไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ 4.55 0.69 1 ดีมำก 6. สื่อ/เอกสำรประกอบกำรจดั กิจกรรมมีควำมเหมำะสม 4.45 0.51 4 ดี ด้ำนวิทยำกร 7. วทิ ยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรจดั กจิ กรรม 4.50 0.5 2 ดี 8. เทคนิค/กระบวนในกำรจดั กิจกรรมของวทิ ยำกร 4.40 0.51 10 ดี 9. วทิ ยำกรมกี ำรใชส้ อื่ ทีส่ อดคล้องและเหมำะสมกับกจิ กรรม 4.45 0.51 4 ดี 10. บคุ ลกิ ภำพของวิทยำกร 4.45 0.60 4 ดี ดำ้ นสถำนที่ ระยะเวลำ และควำมพงึ พอใจ 11. สถำนทีใ่ นกำรจัดกิจกรรมเหมำะสม 4.35 0.81 12 ดี 12. ระยะเวลำในกำรจัดกจิ กรรมเหมำะสม 4.43 0.66 9 ดี 13. ควำมพึงพอใจในภำพรวมของผู้รบั บรกิ ำรตอ่ กำรเข้ำร่วมกจิ กรรม 4.45 0.51 4 ดี คำ่ เฉลย่ี 4.43 0.61 ดี ททททททททจำกตำรำงที่ 4 แสดงให้เห็นว่ำ ผูเ้ ข้ำร่วม โครงกำรอบรมหลกั สูตรกำรเข้ำใจดจิ ทิ ัล (Digital Literacy Curriculum) พบว่ำอยู่ในระดับ ดี เมอ่ื วเิ ครำะห์เปน็ รำยข้อพบวำ่ ผู้รบั บรกิ ำรสำมำรถนำควำมรู้ไปปรับใช้ใน ชวี ติ ประจำวันได้ (µ = 4.55) เป็นอนั ดบั ที่ 1 รองลงมำคือเนื้อหำของหลักสตู รตรงกับควำมต้องกำรของผรู้ บั บรกิ ำร , วิทยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรจดั กจิ กรรม (µ =4.50) กำรจัดกิจกรรมทำให้ผรู้ ับบรกิ ำรสำมำรถ คิดเป็นทำเป็น แกป้ ัญหำเปน็ ,ส่อื /เอกสำรประกอบกำรจัดกจิ กรรมมคี วำมเหมำะสม, วิทยำกรมีกำรใชส้ ือ่ ทสี่ อดคล้องและเหมำะสมกับ กจิ กรรม ,บุคลิกภำพของวทิ ยำกร , ควำมพึงพอใจในภำพรวมของผูร้ ับบรกิ ำรต่อกำรเข้ำรว่ ม (µ =4.45) ระยะเวลำใน กำรจัดกิจกรรมเหมำะสม (µ =4.43) กจิ กรรมท่ีจดั สอดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงค์ของหลักสตู ร ,เทคนคิ /กระบวนในกำร จัดกิจกรรมของวิทยำกร (µ =4.40) ผู้รบั บริกำรมีส่วนรว่ มในกำรแสดงควำมคดิ เหน็ ต่อกำรจดั ทำหลกั สูตร ,สถำนที่ใน กำรจัดกจิ กรรมเหมำะสม (µ =4.35) ตำมลำดบั
25 ตำรำงที่ 5 ผลกำรประเมินโครงกำรอบรมหลักสตู รกำรเข้ำใจดจิ ทิ ลั (Digital Literacy Curriculum) เนอื้ หำโครงกำรอบรมหลักสตู รกำรเข้ำใจดจิ ิทัล (Digital N = 15 Literacy Curriculum) µ Ꝺ อนั ดบั ท่ี ระดบั ผลกำรประเมิน 1. กำรมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลุ่ม 4.85 0.24 1 ดีมำก 2. ควำมพงึ พอใจในกำรเข้ำรว่ มโครงกำร 4.30 0.49 4 ดี 3. กำรคดิ อยำ่ งมีเหตผุ ล 4.65 0.55 3 ดีมำก 4. กำรเขำ้ ใจ และรบั ฟังควำมคิดเห็นจำกผู้อ่ืน 4.28 0.46 5 ดี 5.กำรรจู้ ัก และเขำ้ ใจตนเอง 4.72 0.38 2 ดมี ำก ค่ำเฉล่ีย 4.51 0.12 ดีมำก จำกตำรำงท่ี 5 พบวำ่ โดยเฉลี่ยแล้วผู้เขำ้ รว่ มโครงกำรอบรมหลกั สูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ทิ ัล (Digital Literacy Curriculum) ดมี ำก เมื่อวเิ ครำะหเ์ ปน็ รำยพบว่ำ กำรมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมกลุ่ม (X=4.85) เป็นอันดับท่ี 1 กำรรู้จักและ เข้ำใจตนเอง (X=4.72) กำรคิดอยำ่ งมเี หตุผล (X=4.65) ควำมพึงพอใจในกำรเข้ำร่วมโครงกำร (X=4.30) กำรเข้ำใจ และรับฟงั ควำมคิดเห็นจำกผู้อืน่ (X=4.28) ตำมลำดับ
บทที่ 5 สรุป อภปิ รำยผล และข้อเสนอแนะ 1. สรุป จำกโครงกำร ผู้ท่ีไมม่ ีอำชพี มีจำนวนมำกทสี่ ุด 1.1 ข้อมูลเก่ียวกับควำมคิดเห็นของผ้เู ข้ำร่วมโครงกำรอบรมหลักสตู รกำรเข้ำใจดิจิทัล (Digital LiteracyCurriculum) พบว่ำมคี วำมพึงพอใจในภำพรวมของผรู้ บั กำรอบรมอยู่ในระดับมำกท่สี ุด รองลงมำ กำรจดั กิจกรรมทำใหผ้ เู้ ขำ้ อบรมสำมำรถคิดเป็น แก้ปัญหำได้ และสอื่ /เอกสำรประกอบกำรจดั กิจกรรมมี ควำมเหมำะสม ,เทคนิค/กระบวนกำรในกำรจดั กจิ กรรมของวิทยำกร,สถำนที่ในกำรจัดกิจกรรมเหมำะสม ตำมลำดบั 1.2 เนือ้ หำโครงกำรอบรมหลักสตู รกำรเขำ้ ใจดิจิทลั (Digital LiteracyCurriculum) พบว่ำ กำรคิดอย่ำงมี เหตผุ ลมำกทสี่ ุด รองลงมำ กำรมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมกล่มุ และกำรเขำ้ ใจ และรับฟังควำมคดิ เห็นจำกผู้อ่นื ตำมลำดับ 1.3 ผเู้ ขำ้ รว่ ม โครงกำรอบรมหลกั สูตรกำรเขำ้ ใจดิจิทลั (Digital LiteracyCurriculum) มีควำมพึงพอใจอยู่ใน ระดบั ดี ระดับ 4.43 และระดับ 4.51 2. อภิปรำยผล จำกกจิ กรรมโครงกำรอบรมหลักสูตรกำรเข้ำใจดิจทิ ัล (Digital LiteracyCurriculum) 1.เขำ้ ร่วมโครงกำรมีควำมคิดเห็นตอ่ โครงกำรอบรมหลักสตู รกำรเข้ำใจดิจิทัล (Digital LiteracyCurriculum) ระดบั ดีมำก 2.ที่ร่วมโครงกำรมีควำมเปน็ ระเบยี บและพร้อมเพียงกันในกำรร่วมกจิ กรรม 3.ผู้ทร่ี ว่ มโครงกำรได้รับประสบกำรณต์ รงจำกวทิ ยำกร 4.ผเู้ ข้ำร่วมโครงกำรสำมำรถนำควำมรู้ทไ่ี ดไ้ ปถ่ำยทอดต่อผ้อู ่ืน 5.ผเู้ ขำ้ รว่ มโครงกำรมีควำมสุขและสนกุ กับกำรรว่ มกจิ กรรม 3. ปญั หำและอปุ สรรค เนอ่ื งจำกกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นต้องใช้อินเตอร์เนต และต้องมีกำรแชร์ Wifi สำหรับผ้เู รียนทไี่ ม่ได้สมคั ร อนิ เตอรเ์ นตในสมำรท์ โฟนของตนเอง ก็จะมีปัญหำตดิ ขัดบ้ำง เพรำะมกี ำรแชรก์ ันมำก 4. ขอ้ เสนอแนะ ควรมีกำรจัดหำสถำนทเ่ี รียนท่ีมีควำมพร้อมในเรอ่ื งระบบเครือข่ำยอนิ เตอรเ์ นต็
ภำคผนวก
แบบสำรวจผเู้ ข้ำร่วมโครงกำรอบรมหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดิจิทลั (Digital Literacy Curriculum) ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสตั หบี (กศน.ตำบลพลูตำหลวง) 1. ขอ้ มูลทวั่ ไป 1.1. ชอ่ื ....................................................................... นำมสกลุ ..................................................อำยุ 1.2. อำชพี ปจั จบุ นั ( ) ไมม่ ี ( ) มี ระบ.ุ ............................................................................ 1.3. ทอี่ ยู่ ...................................................................................................โทรศพั ท์................................ 2. ควำมต้องกำรของกล่มุ เป้ำหมำย (ทำเคร่ืองหมำย ตรงหนำ้ อำชพี ทตี่ ้องฝึกอบรม) หมวดเกษตรกรรม ( ) กำรปลูกเกษตธรรมชำติ ( ) กำรทำเกษตรทฤษฎใี หม่ ( ) กำรปลูกพชื ผกั สมนุ ไพร ( ) กำรเพำะเห็ดนำงฟำ้ ( ) กำรเล้ยี งก้งุ ก้ำมแดง ( ) กำรเล้ียงปลำ ( ) อื่นๆ ระบุ................................................................... หมวดอุตสำหกรรม ( ) ช่ำงซอ่ มเครือ่ งยนต์เล็ก ( ) ชำ่ งเดนิ สำยไฟภำยในอำคำร ( ) ชำ่ งกอ่ สรำ้ ง ( ) ชำ่ งปูน ( ) ช่ำงปูกระเบ้ือง ( ) ชำ่ งไม้ ( ) ชำ่ งซอ่ มเครื่องคอมพิวเตอร์ ( ) ชำ่ งซอ่ มโทรศัพท์ ( ) ชำ่ งซอ่ มอปุ กรณ์ไฟฟ้ำ ( ) อืน่ ๆ ระบุ ................................................................. หมวดพำณชิ ยกรรม ( ) คอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น ( ) กำรนวดแผนไทย ( ) กำรจดั กำรตลำด ( ) กำรทำบัญชีอยำ่ งงำ่ ย ( ) ภำษำจนี เพอื่ กำรสื่อสำร ( ) ภำษำอังกฤษเพื่ออำชีพพนกั งำนขำยสนิ ค้ำ ( ) อ่นื ๆ ระบุ ................ หมวดควำมคิดสร้ำงสรรค์ ( ) กำรนวดแผนไทย ( ) กำรทำสบ่สู มนุ ไพรจำกธรรมชำติ ( ) กำรทำขนมไทย ( ) กำรสำนกระเปำ๋ จำกเส้นพลำสติก ( ) กำรสำนกระเปำ๋ Handmake ( ) กำรนวดอโรมำ ( ) กำรแปรรูปเห็ด ( ) นวดฝำ่ เทำ้ เพ่ือสุขภำพ ( ) กำรส่งเสริมอำชพี ดว้ ยสมุนไพรไทย ( ) กำรบรู เดก็ แนว ( ) กำรประดษิ ฐ์ผลติ ภัณฑข์ องเหลือใช้จำกกระปอ๋ งอลูมเิ นยี ม ( ) อ่ืนๆ ระบุ ...............................................................................
หมวดกลมุ่ อำชีพอำนวยกำรและอำชีพ ( ) กำรทอ่ งเทีย่ วเชิงนเิ วศ ( ) กำรซอ่ มคอมพวิ เตอรเ์ บอ้ื งต้น ( ) กำรซอ่ มเส้อื ผำ้ ( ) ชำ่ งเสรมิ สวย ( ) กำรซอ่ มรองเทำ้ ( ) ชำ่ งเย็บผ้ำอตุ สำหกรรม ( ) ชำ่ งตัดผมชำย ( ) อื่นๆ ระบุ ............................................................... 3. ระยะเวลำที่ต้องกำรใหด้ ำเนินกำรฝึกอบรม ( ) วันหยุดรำชกำรระหวำ่ งเวลำ _______________________ จำนวน _________ วนั ( ) วันรำชกำรระหว่ำงเวลำ __________________________จำนวน _________วนั 4. สถำนท่ีฝึกอบรม ( ) ในชุมชน ( ) สถำนประกอบกำร ............................................................................... ( ) อน่ื ๆ (ระบ)ุ ........................................................................................... 5. องค์ควำมรู้ที่ตอ้ งกำร ( ) ฝกึ ปฏิบตั ิ ( ) กำรเพมิ่ มูลคำ่ ผลผลติ ( ) กำรตลำด ( ) อน่ื ๆ ระบุ ................................................................................................. ขอขอบคุณมำ ณ โอกำสน้ี กศน.ตำบลพลูตำหลวง โทร.0833294207
แบบประเมินควำมพึงพอใจโครงกำรอบรมหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดิจทิ ลั (Digital Literacy Curriculum) ส่วนที่ 1 คำชี้แจง ใสเ่ ครือ่ งหมำย/ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ขอ้ มูลของท่ำนเพียงช่องเดยี ว เพศ ชำย หญงิ อำยุ 14-39 ปี 40-59ปี 60ปขี ึน้ ไป อำชีพ รบั จ้ำง ค้ำขำย เกษตรกรรม รบั รำชกำร อ่นื ๆ ส่วนท่ี 2 ดำ้ นควำมพงึ พอใจของผเู้ รยี น/ผู้รบั บรกิ ำร (ใสเ่ ครื่องหมำย/ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ควำมคดิ เหน็ ของท่ำนเพียงช่องเดียว ขอ้ ท่ี รำยกำร ระดับกำรประเมิน มำกท่สี ดุ มำก ปำนกลำง นอ้ ย นอ้ ยที่สดุ 1 กจิ กรรมที่สอดคล้องกับวตั ถุประสงค์ของหลักสูตร 2 เนอื้ หำของหลกั สตู รตรงกบั ควำมต้องกำร 3 กำรจัดกจิ กรรมทำใหผ้ ู้รับบริกำรสำมำรถคิดเป็นทำเป็น แก้ปญั หำได้ 4 ผรู้ บั บรกิ ำรมีสว่ นร่วมในกำรแสดงควำมคิดเห็นต่อกำรจดั ทำ หลักสูตร 5 ผู้รับบริกำรสำมำรถนำควำมรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ 6 สื่อ/เอกสำรประกอบกำรจัดกิจกรรมมีควำมเหมำะสม 7 วทิ ยำกรมคี วำมรู้ควำมสำมำรถในกำรจดั กจิ กรรม 8 เทคนคิ /กระบวนกำรในกำรจัดกิจกรรมของวิทยำกร 9 วทิ ยำกรมีกำรใชส้ ่อื สอดคล้องและเหมำะสมกับกิจกรรม 10 บุคลกิ ภำพของวทิ ยำกร 11 สถำนทใี่ นกำรจัดกจิ กรรมเหมำะสม 12 ระยะเวลำในกำรจดั เหมำะสม 13 ควำมพงึ พอใจในภำพรวมของผรู้ ับกำรอบรม
ตอนท่ี 3 ขอ้ มลู อ่ืนในกำรอบรม ระดับควำมคิดเหน็ มำกที่สุด มำก ปำนกลำง นอ้ ย น้อยท่ีสุด ที่ กำรแสดงควำมคิดเห็น 1. กำรมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ 2. ควำมพึงพอใจในกำรเขำ้ ร่วมโครงกำร 3. กำรคดิ อย่ำงมเี หตุผล 4. กำรเข้ำใจ และรบั ฟังควำมคดิ เหน็ จำกผูอ้ น่ื 5. กำรรจู้ ัก และเขำ้ ใจตนเอง ขอ้ เสนอแนะ
บรรณำนุกรม กรมกำรศึกษำนอกโรงเรยี น. (ม.ป.ป. : 9), (2546:76). บุญชม ศรีสะอำด และ บญุ ส่ง นิวแกว้ . (2515 หน้ำ 22 – 25). บรรพต สุวรรณประเสริฐ. (2544:12). สำนกั งำนบริหำรกำรศึกษำนอกโรงเรยี น. (2549:2), (2549:5). สทุ ธดิ ำ หงส์บญุ เสริม, 2550 : 42 วิชัย วงษใ์ หญ่. (2525:2-3), (2525:10). http://www.thaikids.org/brain/brain4.htm http://www.thaikids.org/brain/brain1.htm http://th.wikipedia.org http://www.tanti.ac.th/Com-tranning/Online_Word/page1.html http://www.toywars.in.th/webboard/content.aspx?nForumID=1&nTopicID=11847 http://202.44.34.144/kmit/knowledge_detail.php?IDKM=250 https://sirinipha1.wordpress.com/
ท่ปี รึกษำ คณะผจู้ ัดทำ 1.นำงสรุ สั วดี เลย้ี งสพุ งศ์ ผอ.กศน.อำเภอสตั หีบ 2.นำงสุพัด นำเจริญลำภ ครู ชำนำญกำร คณะทำงำน หวั หนำ้ กศน. ตำบลพลตู ำหลวง ครู กศน.ตำบลพลูตำหลวง 1.นำงสภุ ำภรณ์ นวมมำ 2.นำงสำวเกษนีย์ เดชรักษำ หัวหน้ำ กศน. ตำบลพลตู ำหลวง ครู กศน.ตำบลพลูตำหลวง ผ้รู วบรวม เรียบเรยี ง และจัดพมิ พ์ 1.นำงสภุ ำภรณ์ นวมมำ 2.นำงสำวเกษนยี ์ เดชรักษำ
รำยงำนผล โครงกำรอบรมหลกั สตู รกำรเขำ้ ใจดจิ ทิ ลั (Digital Literacy Curriculum) ในวันท่ี 26 และ 27 มีนำคม 2563 ณ กศน.ตำบลพลูตำหลวง ตำบลพลูตำหลวง อำเภอสัตหบี จังหวดั ชลบุรี ศนู ย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสัตหบี จังหวดั ชลบุรี
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: