Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุป-5-บทโครงการเศรษฐกิจพอเพียง-สวนนงนุชุ63

สรุป-5-บทโครงการเศรษฐกิจพอเพียง-สวนนงนุชุ63

Published by สุภาภรณ์ นวมมา, 2020-02-26 00:29:50

Description: สรุป-5-บทโครงการเศรษฐกิจพอเพียง-สวนนงนุชุ63

Search

Read the Text Version

โครงการน้อมนาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงสู่ชุมชน (สวนนงนุช) ในวันที่ 12 กมุ ภาพันธ์ 2563 ณ นงนชุ เทรดดิชน่ั เซน็ เตอร์ ตาบลนาจอมเทยี น อาเภอสตั หีบ จังหวดั ชลบรุ ี ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสตั หีบ

คานา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสัตหบี ไดจ้ ัดทาแผนการปฏบิ ตั งิ านประจาปี งบประมาณ 2563 โดยไดจ้ ดั โครงการน้อมนาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงสชู่ ุมชน (สวนนงนชุ ) ให้กับประชาชน อาเภอสตั หีบ ในวนั ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ตัง้ แต่เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ นงนุชเทรดดิชน่ั เซน็ เตอร์ ตาบล นาจอมเทยี น อาเภอสัตหีบ จังหวดั ชลบุรี ผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการนอ้ มนาหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่ชุมชน (สวนนงนชุ ) จานวน 50 คน โครงการดังกล่าวไดด้ าเนนิ เสร็จสนิ้ ไปด้วยดี ซ่งึ รายละเอียดผลการดาเนินงานตา่ งๆ ตลอดจนปญั หาอุปสรรค ได้สรุปไว้แลว้ เพอื่ รวบรวมกระบวนการดาเนินงาน ผลทไ่ี ดร้ ับและการนาไปใช้ ตลอดจนการพฒั นาเพ่ือให้สอดคลอ้ ง กบั ผเู้ ขา้ รว่ มอบรม และการตอบสนองความต้องการของผเู้ ขา้ ร่วมอบรม การนาไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนอ์ ยา่ งแทจ้ รงิ และตอ้ งขอขอบคุณศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวดั ชลบรุ ี ทีใ่ ห้การสนับสนุนงบประมาณ ตลอดจนคาปรึกษาแนะนาในการจดั กจิ กรรมดังกล่าว กศน.อาเภอสัตหบี กุมภาพันธ์ 2563

สารบัญ หน้า บทท่ี 1 1 1 บทนา 1 ความเปน็ มา 2 วัตถุประสงค์ 2 เปา้ หมาย ผลลัพธ์ 2 ดชั นชี ้ีวัดผลสาเรจ็ 8 2 เอกสารการศึกษาและรายงานที่เกีย่ วข้อง 14 16 นโยบายและจุดเนน้ การดาเนินงานสานกั งาน กศน.ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 18 แนวทาง/กลยุทธ์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 18 กศน.อาเภอสตั หีบ 2563 18 หลักการพฒั นาสังคม ชุมชน 18 เอกสาร/งานทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 18 3 วิธีการดาเนนิ งาน ประชุมบุคลากรกรรมการสถานศกึ ษาและตวั แทนนกั ศึกษา 20 จัดต้ังคณะทางาน 21 ประสานงานหนว่ ยงานและบุคลท่เี ก่ยี งขอ้ ง ดาเนินตามแผนงาน 24 วดั ผล/ประเมินผล/สรุปผลและรายงาน 24 4 ผลการดาเนินงานและการวิเคราะห์ขอ้ มูล 24 ตอนที่ 1 ข้อมลู สว่ นตัวของผ้ตู อบแบบสอบถามของผูเ้ ข้ารับการอบรมโครงการ 24 ตอนที่ 2 ข้อมูลเก่ียวกบั ความคิดเห็นที่มีของผู้เขา้ รว่ มโครงการ 5 สรปุ ผลการดาเนนิ การ อภิปราย และข้อเสนอแนะ ผลทป่ี รากฎ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ

สารบญั ตาราง หนา้ ตารางที่ 20 20 1 แสดงคา่ ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ 21 2 แสดงค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชีพ 23 3 แสดงคา่ ร้อยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ 4 ผลการประเมนิ โครงการ

บทที่ 1 บทนา โครงการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสูช่ ุมชน (สวนนงนุช) ทม่ี าและความสาคญั ปจั จบุ นั เศรษฐกิจในประเทศไทยมแี นวโนม้ เร่ืองการใชจ้ ่ายสูง ประชาชนจงึ ต้องเรม่ิ ตระหนกั เรื่อง ค่าใชจ้ ่ายมากขึ้นในเรื่องการสร้างรายได้ลดรายจ่ายให้กับตนเองและครอบครวั จึงได้นาโครงการน้อมนาปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียงส่ชู มุ ชน (สวนนงนชุ ) โดยมีวตั ถุประสงค์ผู้เข้ารว่ มอบรมนามาประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั และมี รายได้ ลดรายจา่ ยใหก้ ับตนเองและครอบครัวซ่ึงเป็นการส่งเสรมิ สนับสนุนการขบั เคลื่อนปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่ การปฏิบัติในระดับสถานศึกษาในแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) ซงึ่ กาหนด ทศิ ทางในการพฒั นาประเทศกาหนดขน้ึ บนพื้นฐานของการเสริมสร้างทุนของประเทศท้ังทนุ สงั คม เศรษฐกจิ และ ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมให้เขม้ แข็งอย่างตอ่ เน่อื งซ่ึงยึด คนเป็นศูนย์กลางของการพฒั นาและน้อมนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาเปน็ แนวทางปฏิบตั ิเพ่ือมงุ่ ส่สู ังคมท่มี ีความสุขอย่างยงั่ ยืนขน้ึ เพอ่ื เป็นแนวทางในการ สง่ เสรมิ เรียนรูข้ องประชาชน และพัฒนาอาชีพตอ่ ไปเพ่ือน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใชก้ ับ ชีวิตประจาวัน ไปใชไ้ ดจ้ รงิ ท่ีบ้าน ด้วยการปลูกผกั ปลอดสารพษิ ไว้รับประทานท่ีบ้านเปน็ การลดคา่ ใช้จ่ายในครอบครัว หากมีผกั เหลือจากการบรโิ ภคสามารถแบ่งปนั ใหเ้ พ่ือนบา้ น หรือจาหน่ายเพ่ิมรายได้อีกทางหนงึ่ เปน็ การใชเ้ วลาวา่ งให้ เกิดประโยชน์ และการปลกู ผักเป็นการสร้างสมดุลสสู่ ่งิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อนอกี ทางหนึ่ง ตลอดจนเพ่ือเสรมิ สรา้ ง ภูมคิ ุ้มกนั และช่วยให้สงั คมไทยสามารถยืนหยัดอยู่ได้อยา่ งมั่นคงเกดิ ภูมิคมุ้ กนั และมีการบรหิ ารจดั การความเส่ียงอยา่ ง เหมาะสมสง่ ผลให้การพฒั นาประเทศสู่ความสมดลุ เพ่ือให้การดาเนนิ งานสนับสนนุ แนวทางในการเผยแพรอ่ งค์ความรู้ ตามหลกั ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งหลกั การทรงงาน เพื่อสร้างสานึกความหวงแหนสถาบันหลักของ ชาติผา่ นกลไกทางการศกึ ษาของ กศน. ไปสู่ประชาชนในอาเภอสตั หบี จงึ ไดจ้ ัดทาโครงการนอ้ มนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงสชู่ ุมชน (สวนนงนุช) วัตถปุ ระสงค์ ผ้เู ขา้ ร่วมอบรมมีความรดู้ า้ นปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและนอ้ มนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมา ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวนั และสร้างรายได้ ลดรายจ่ายให้กบั ตนเองและครอบครัวได้ เป้าหมาย เชงิ ปรมิ าณ ประชาชนในตาบลนาจอมเทียน จานวน 10 คน ประชาชนในตาบลสัตหบี จานวน 10 คน ประชาชนในตาบลพลตู าลวง จานวน 10 คน ประชาชนในตาบลแสมสาร จานวน 10 คน ประชาชนในตาบลบางเสร่ จานวน 10 คน รวม 50 คน

เชิงคุณภาพ เขา้ อบรมมคี วามรู้ ความเขา้ ใจและสามารถน้อมนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน และสร้างรายได้ ลดรายจ่ายใหก้ บั ตนเองและครอบครวั ได้ ตัวชว้ี ัดผลสาเร็จ 1 ตวั ชี้วดั ผลผลิต (Output) - มผี เู้ ขา้ รว่ มโครงการ ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของกลมุ่ เปา้ หมาย - ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการมคี วามพงึ พอใจอยู่ในระดบั มากข้นึ ไปไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 2 ตัวช้ีวัดผลลัพธ์ (Outcome) ผเู้ ข้ารว่ มโครงการร้อยละ 80 ได้รับความรู้ มีความเขา้ ใจของหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและ นอ้ มนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจาวันและสรา้ งรายได้ ลดรายจา่ ยให้กบั ตนเองและครอบครัว ได้

บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและรายงานทีเ่ กย่ี วข้อง ในการจัดทารายงานครั้งน้ีได้ศึกษาค้นคว้าเนื้อหาจากเอกสารการศึกษาและรายงานที่เก่ียวขอ้ ง ดงั ต่อไปนี้ 1. นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนินงานสานกั งาน กศน.ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 2. แนวทาง/กลยทุ ธ์การดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยของกศน.อาเภอสัตหีบ 3. หลักการพฒั นาสงั คม ชุมชน 4. เอกสารทเี่ ก่ียวข้อง (รา่ ง) นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วสิ ยั ทศั น์ คนไทยได้รบั โอกาสการศกึ ษาและการเรียนรตู้ ลอดชีวติ อยา่ งมคี ณุ ภาพ สามารถดารงชวี ติ ทีเ่ หมาะสม กบั ช่วงวยั สอดคลอ้ งกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และมีทักษะที่จาเปน็ ในโลกศตวรรษที่ 21 พนั ธกิจ 1. จดั และสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีมีคุณภาพ เพอื่ ยกระดบั การศึกษา พฒั นา ทกั ษะการเรียนรู้ของประชาชนทกุ กลุ่มเป้าหมายใหเ้ หมาะสมทกุ ช่วงวยั พรอ้ มรบั การเปลี่ยนแปลงบริบททางสังคม และสร้างสังคมแหง่ การเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ 2 สง่ เสริม สนบั สนนุ และประสานภาคเี ครือขา่ ย ในการมีสว่ นรว่ มจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั และการเรียนรูต้ ลอดชีวติ รวมทงั้ การดาเนนิ กจิ กรรมของศูนย์การเรียนและแหล่งการเรียนร้อู น่ื ใน รูปแบบต่าง ๆ 3. สง่ เสรมิ และพัฒนาการนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลมาใชใ้ หเ้ กดิ ประสิทธิภาพในการ จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ให้กับประชาชนอยา่ งทัว่ ถึง 4. พฒั นาหลักสูตร รูปแบบการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อและนวัตกรรม การวดั และประเมินผลในทกุ รูปแบบ ให้สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน 5. พัฒนาบคุ ลากรและระบบการบริหารจดั การให้มีประสิทธภิ าพ เพ่อื มุ่งจดั การศึกษาและการเรียนรู้ที่มี คณุ ภาพ โดยยดึ หลักธรรมาภิบาล เปา้ ประสงค์ 1. ประชาชนผดู้ อ้ ย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมท้ังประชาชนท่วั ไปไดร้ ับโอกาสทางการศึกษาใน รูปแบบการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศยั ที่มคี ุณภาพ อย่างเท่าเทียมและทว่ั ถึง เปน็ ไปตามสภาพ ปัญหา และความตอ้ งการของแต่ละ กลมุ่ เป้าหมาย 2. ประชาชนไดร้ ับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และความเปน็ พลเมือง อนั นาไปสู่การยกระดับคุณภาพชวี ิตและเสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ใหช้ มุ ชน เพื่อพฒั นาไปส่คู วามมัน่ คงและย่งั ยนื ทางดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม ประวตั ิศาสตร์ และสงิ่ แวดล้อม 3. ประชาชนได้รบั โอกาสในการเรยี นรู้ และมีเจตคตทิ างวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ่เี หมาะสมสามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน รวมทง้ั แกป้ ญั หาและพฒั นาคุณภาพชีวติ ไดอ้ ย่างสร้างสรรค์

3 4. ประชาชนได้รบั การสรา้ งและสง่ เสริมให้มีนสิ ยั รักการอ่านเพ่ือการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง 5. ชมุ ชนและภาคเี ครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมจัด ส่งเสรมิ และสนบั สนุนการดาเนนิ งานการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั รวมทง้ั การขับเคลื่อนกจิ กรรมการเรียนรูข้ องชุมชน 6. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยที างการศกึ ษา เทคโนโลยดี จิ ิทลั มาใชใ้ นการยกระดับคุณภาพ ในการจดั การเรยี นรู้และเพิม่ โอกาสการเรียนรใู้ หก้ ับประชาชน 7. หนว่ ยงานและสถานศึกษาพฒั นาสือ่ และการจัดกระบวนการเรยี นรู้ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาคณุ ภาพชีวิต ทต่ี อบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวตั ิศาสตรแ์ ละสง่ิ แวดล้อม รวมท้งั ตามความต้องการของประชาชนและชมุ ชนในรปู แบบทีห่ ลากหลาย 8. หนว่ ยงานและสถานศึกษามีระบบการบรหิ ารจัดการท่เี ป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล 9. บคุ ลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพือ่ เพม่ิ สมรรถนะในการปฏิบัติงานการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวช้วี ดั ตวั ชี้วดั เชิงปริมาณ 1. จานวนผเู้ รยี นการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาชน้ั พ้นื ฐานทไี่ ด้รบั การสนับสนุนค่าใช้จา่ ยตามสทิ ธทิ ่ี กาหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเปา้ หมายต่าง ๆ ทเ่ี ข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้/เขา้ รบั บริการกจิ กรรมการศึกษา ตอ่ เนอื่ ง และการศึกษาตามอัธยาศยั ท่สี อดคล้องกบั สภาพ ปัญหา และความต้องการ 3. ร้อยละของกาลงั แรงงานท่ีสาเรจ็ การศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ข้ึนไป 4. จานวนภาคีเครอื ขา่ ยที่เข้ามามสี ว่ นรว่ มในการจดั /พัฒนา/สง่ เสรมิ การศึกษา (ภาคเี ครือขา่ ย : สถานประกอบการ องค์กร หนว่ ยงานทีม่ ารว่ มจดั /พฒั นา/สง่ เสรมิ การศึกษา) 5. จานวนประชาชน เดก็ และเยาวชนในพื้นทส่ี ูง และชาวไทยมอแกน ในพน้ื ที่ 5 จังหวัด 11 อาเภอ ได้รบั บริการการศึกษาตลอดชีวติ จากศนู ย์การเรยี นชุมชนสังกัดสานกั งาน กศน. 6. จานวนผรู้ ับบริการในพืน้ ท่ีเป้าหมายได้รับการส่งเสรมิ ด้านการร้หู นงั สอื และการพัฒนาทกั ษะชีวิต 7. จานวนนกั เรยี นนกั ศึกษาท่ีไดร้ บั บรกิ ารติวเข้มเต็มความรู้ 8. จานวนประชาชนทไ่ี ดร้ ับการฝกึ อาชพี ระยะสนั้ สามารถสรา้ งอาชีพเพ่ือสรา้ งรายได้ 9. จานวน ครู กศน. ตาบล จากพนื้ ที่ กศน.ภาค ได้รับการพฒั นาศักยภาพด้านการจดั การเรียนการสอน ภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 10. จานวนประชาชนท่ไี ดร้ ับการฝึกอบรมภาษาตา่ งประเทศเพ่ือการส่ือสารดา้ นอาชพี 11. จานวนผสู้ ูงอายภุ าวะพง่ึ พงิ ในระบบ Long Term Care มีผดู้ แู ลที่มีคุณภาพและมาตรฐาน 12. จานวนประชาชนที่ผา่ นการอบรมจากศนู ย์ดิจทิ ลั ชมุ ชน 13. จานวนศนู ย์การเรียนชุมชน กศน. บนพ้นื ท่ีสูง ในพ้นื ที่ 5 จงั หวัด ทส่ี ่งเสริมการพัฒนาทกั ษะการฟงั พูด ภาษาไทยเพอ่ื การสอื่ สาร รว่ มกันในสถานศึกษาสงั กดั สพฐ. ตชด. และกศน. 14. จานวนบุคลากร กศน. ตาบลที่สามารถจัดทาคลังความร้ไู ด้ 15. จานวนบทความเพ่ือการเรยี นรตู้ ลอดชีวิตในระดับตาบลในหวั ข้อต่าง ๆ 16. จานวนหลักสูตรและสอื่ ออนไลนท์ ่ีให้บรกิ ารกับประชาชน ท้ังการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศยั

4 ตัวชี้วัดเชิงคณุ ภาพ 1. ร้อยละของคะแนนเฉลย่ี ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET) ทกุ รายวชิ าทุกระดบั 2. ร้อยละของผ้เู รียนที่ได้รับการสนับสนุนการจัดการศึกษาขนั้ พนื้ ฐานเทียบกบั คา่ เปา้ หมาย 3. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายที่ลงทะเบียนเรียนในทุกหลกั สูตร/กิจกรรมการศึกษาตอ่ เนื่องเทยี บกับ เป้าหมาย 4. ร้อยละของผูผ้ ่านการฝกึ อบรม/พัฒนาทักษะอาชีพระยะส้นั สามารถนาความรไู้ ปใช้ในการประกอบอาชพี หรือพัฒนางานได้ 5. รอ้ ยละของผูเ้ รยี นในเขตพื้นท่จี งั หวดั ชายแดนภาคใต้ท่ีได้รับการพฒั นาศักยภาพ หรือทักษะดา้ นอาชพี สามารถมงี านทาหรือนาไปประกอบอาชีพได้ 6. รอ้ ยละของผจู้ บหลกั สตู ร/กิจกรรมท่สี ามารถนาความรคู้ วามเขา้ ใจไปใชไ้ ดต้ ามจุดมุง่ หมายของหลักสูตร กจิ กรรม การศึกษาต่อเนอื่ ง 7. รอ้ ยละของประชาชนที่ไดร้ ับบริการมีความพงึ พอใจตอ่ การบริการ/เขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรูก้ ารศกึ ษา ตามอธั ยาศัย 8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายที่ไดร้ บั บรกิ าร/ขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีมีความรู้ความเข้าใจ/เจตคติ ทกั ษะ ตามจดุ มุ่งหมายของกิจกรรมที่กาหนด ของการศึกษาตามอัธยาศัย 9. รอ้ ยละของนักเรียน/นักศึกษาทม่ี ผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนในวชิ าทไ่ี ด้รับบรกิ ารตวิ เข้มเต็มความรู้ เพมิ่ สงู ข้ึน 10. ร้อยละของผู้สูงอายทุ ่ีเปน็ กลุม่ เป้าหมาย มีโอกาสมาเข้าร่วมกจิ กรรมการศึกษาตลอดชีวติ นโยบายเร่งดว่ นเพอ่ื ร่วมขบั เคลื่อนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 1.ยทุ ธศาสตร์ด้านความมนั คง 1.1 พัฒนาและเสรมิ สร้างความจงรักภกั ดีต่อสถาบันหลักของชาติ โดยปลกู ฝงั และสรา้ งความตระหนักรู้ถึง ความสาคัญของสถาบนั หลักของชาติ รณรงคเ์ สริมสร้างความรกั และความภาคภูมิใจในความเปน็ คนไทยและชาตไิ ทย นอ้ มนาและเผยแพรศ่ าสตรพ์ ระราชา หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมถงึ แนวทางพระราชดารติ ่าง ๆ 1.2 เสริมสร้างความร้คู วามเข้าใจทีถ่ ูกต้อง และการมีส่วนรว่ มอยา่ งถูกต้องกับการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข ในบริบทของไทย มคี วามเปน็ พลเมืองดี ยอมรบั และเคารพความ หลากหลายทางความคดิ และอุดมการณ์ 1.3 ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การจดั การศึกษาเพอ่ื ป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ทง้ั ยาเสพ ติด การค้ามนุษย์ ภยั จากไซเบอร์ ภยั พิบัตจิ ากธรรมชาติ โรคอุบัตใิ หม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดบั คุณภาพการศึกษาและสรา้ งเสริมโอกาสในการเขา้ ถงึ บริการการศึกษา การพฒั นาทักษะ การสรา้ งอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมพหุวฒั นธรรม ในเขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกิจจังหวดั ชายแดนภาคใต้ และพ้นื ท่ี ชายแดนอนื่ ๆ 1.5 สร้างความรู้ ความเขา้ ใจในขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพ่ือนบ้านยอมรบั และ เคารพในประเพณี วัฒนธรรมของกลมุ่ ชาติพันธุ์ และชาวต่างชาตทิ ม่ี คี วามหลากหลาย ในลักษณะพหุสังคมที่อยู่ รว่ มกัน 2 ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแขง่ ขนั 2.1 เรง่ ปรับหลกั สูตรการจดั การศกึ ษาอาชีพ กศน. เพ่ือยกระดบั ทักษะดา้ นอาชพี ของประชาชน ให้เป็นอาชีพทรี่ องรบั อตุ สาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบรู ณา การความร่วมมือในการพัฒนาและเสริมทักษะใหมด่ ้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงม่งุ เน้นสรา้ งโอกาส

5 ในการสรา้ งงาน สรา้ งรายได้ และตอบสนองต่อความตอ้ งการของตลาดแรงานท้ังภาคอุตสาหกรรมและการบริการ โดยเฉพาะในพืน้ ทีเ่ ขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขคพัฒนาพิเศษตามภมู ภิ าคต่าง ๆ ของประเทศสาหรบั พ้ืนท่ีปกติให้ พฒั นาอาชีพท่ีเน้นการตอ่ ยอดศกั ยภาพและตามบริบทของพื้นที่ 2.2 จัดการศกึ ษาเพ่อื พฒั นาพื้นทภี่ าคตะวันออก ยกระดบั การศึกษาใหก้ ับประชาชนใหจ้ บการศกึ ษาอยา่ ง นอ้ ยการศกึ ษาภาคบังคับ สามารถนาคุณวุฒิทไ่ี ด้รบั ไปต่อยอดในการประกอบอาชพี รวมทงั้ พัฒนาทกั ษะในการ ประกอบอาชีพตามความต้องการของประชาชน สรา้ งอาชีพ สรา้ งรายได้ ตอบสนองตอ่ บริบทของสงั คมและชมุ ชน รวมทัง้ รองรบั การพัฒนาเขตพื้นทร่ี ะเบยี บเศรษฐกิจภาคตะวนั ออก (EEC) 2.3 พฒั นาและส่งเสรมิ ประชาชนเพอ่ื ต่อยอดการผลิตและจาหน่ายสนิ คแ้ ละผลติ ภณั ฑ์ออนไลน์ 1) เรง่ จัดต้ังศนู ย์ใหค้ าปรึกษาและพฒั นาผลิตภณั ฑ์ Brand กศน. เพื่อยกระดับคุณภาพของสนิ คแ้ ละ ผลติ ภณั ฑ์ การบรหิ ารจดั การทคี่ รบวงจร (การผลิต การตลาด การสง่ ออก และสรา้ งชอ่ งทางจาหนา่ ย) รวมทงั้ ส่งเสรมิ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจทิ ัลในการเผยแพรแ่ ละจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ 2) พฒั นาและคดั เลือกสุดยอดสินค้าและลติ ภณั ฑ์ กศน. ในแต่ละจงั หวัด พรอ้ มทง้ั ประสานความรว่ มมอื กบั สถานบี ริการนา้ มนั ในการเป็นซ่องทางการจาหน่ายสดุ ยอดสินคา้ และผลติ ภณั ฑ์ กศน.ใหก้ วา้ งขวางยง่ิ ข้นึ 3 ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศกั ยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ 3.1 พัฒนาครแู ละบุคลากรท่เี กี่ยวข้องกับการจัดกจิ กรรมและการเรียนรู้ เป็นผ้เู ชื่อมโยงความรู้กบั ผ้เู รียนและผรู้ ับบรกิ าร มีความเป็น \"ครูมอื อาชีพ\" มจี ิตบรกิ าร มีความรอบรู้และทันต่อการเปล่ียนแปลงของสังคมและ เป็น \"ผู้อานวยการการเรยี นรู้\" ทีส่ ามารถบรหิ ารจดั การความรู้ กจิ กรรม และการเรียนรู้ท่ีดี 1) เพม่ิ อัตราข้าราชการครูให้กบั กศน. อาเภอทุกแหง่ โดยเรง่ ดาเนินการเร่ืองการหาอตั ราตาแหนง่ การสรรหา บรรจุ และแต่งต้งั ข้าราชการครู 2) พัฒนาข้าราชการครูในรปู แบบครบวงจร ตามหลักสตู รทเ่ี ชื่อมโยงกับวทิ ยฐานะ 3) พัฒนาครู กศน.ตาบลใหส้ ามารถปฏบิ ัติงานได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ โดยเนน้ เร่ืองการพัฒนาทกั ษะการ จัดการเรียนการสอนออนไลน์ ทกั ษะภาษาต่างประเทศ ทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้ 4) พฒั นาศึกษานเิ ทศก์ ใหส้ ามารถปฏิบตั กิ ารนิเทศได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 5) พฒั นาบุคลากร กศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะความรเู้ ร่ืองการใชป้ ระโยชนจ์ ากดิจิทัลและ ภาษาตา่ งประเทศท่จี าเปน็ 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนร้ใู หม้ ีบรรยากาศและสภาพแวดลอ้ มที่เอื้อต่อการเรยี นรู้ มีความพร้อมในการใหบ้ รกิ าร กิจกรรมการศกึ ษาและการเรียนรู้ เปน็ แหล่งสารสนเทศสาธารณะท่งี ยต่อการเขา้ ถงึ มบี รรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นคาเพ่พื้นที่การเรียนรู้สาหรับคนทุกช่วงวยั มสี ่งิ อานวยความสะดวก มบี รรยากาศสวยงามมชี ีวติ ที่ดงึ ดูดความ สนใจ และมีความปลอดภัยสาหรับผูใ้ ชบ้ รกิ าร 1) เร่งยกระดบั กศน.ตาบลนารอ่ ง 928 แห่ง (อาเภอละ 1 แหง่ ) ให้เป็น กศน.ตาบล 5 ดี พรเี มี่ยม ท่ปี ระกอบด้วย ครูดี สถานท่ีดี (ตามบริบทของพืน้ ที่) กิจกรรมดี เครือขา่ ยดี และมนี วัตกรรมการเรียนรูท้ ่ีดีมปี ระโยชน์ 2) จดั ใหม้ ีศนู ย์การเรยี นรตู้ ้นแบบ กศน. เพ่อื ยกระดบั การเรียนรู้ ใน 6 ภูมิภาค เปน็ พื้นท่ีการเรียนรู้ (Co - Learning Space) ทท่ี ันสมัยสาหรบั ทุกคน มีความพร้อมในการใหบ้ ริการต่าง ๆ อาทิ พ้นื ทีส่ าหรบั การทางาน/ การเรยี นรู้ พืน้ ท่สี าหรับกจิ กรรมตา่ ง ๆ มีห้องประชมุ ขนาดเล็ก รวมทงั้ ทางานรว่ มกับหอ้ งสมุดประชาชนในการ ให้บรกิ ารในรูปแบบห้องสมุดดิจทิ ัล บรกิ ารอินเทอร์เน็ต ส่ือมลั ตมิ เี ดีย เพื่อรองรับการเรียนรแู้ บบ Active Learning 3) พฒั นาห้องสมุดประชชน \"เฉลมิ ราชกุมารี\" ใหเ้ ป็น Digital Library โดยให้มบี รกิ ารหนังสือ ในรปู แบบ e - Book บรกิ ารคอมพิวเตอร์ และอินเทอรเ์ น็ตความเร็วสูง รวมท้งั Free Wifi เพอ่ื การสืบค้นข้อมลู 3.3 ส่งเสริมการจัดการเรยี นรู้ทีท่ นั สมยั และมปี ระสิทธิภาพ เออ้ื ต่อการเรยี นร้สู าหรบั ทกุ คน สามารถ เรยี นไดท้ ุกท่ีทุกเวลา มีกจิ กรรมท่หี ลากลาย น่าสนใจ สนองตอบความต้องการของชุมชน เพ่ือพฒั นาศักยภาพ

6 การเรยี นรขู้ องประชาชน รวมทั้งใชป้ ระโยชนจ์ ากประชาชนในชุมชนในการรว่ มจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พ่ือเช่ือมโยง ความสมั พนั ธ์ของคนในชุมชนไปสกู้ ารจัดการความรขู้ องชุมชนอยา่ งยั่งยืน 1) สง่ เสรมิ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ปี ลูกฝังคณุ ธรรม สร้างวนิ ยั จิตสาธารณะ ความรับผิดชอบ ต่อส่วนรวม และการมจี ิตอาสา ผ่านกิจกรรมรูปแบบตา่ ง ๆ อาทิ กจิ กรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิตอาสา ตลอดจน สนบั สนนุ ใหม้ ีการจดั กจิ กรรมเพอ่ื ปลูกฝังคุณธรรม จรยิ ธรรมให้กับบุคลากรในองค์กร 2) จดั ใหม้ หี ลกั สูตรลกู เสือมัคคเุ ทศก์ โดยให้สานักงาน กศน.จงั หวดั ทกุ แห่ปกทม. จดั ตง้ั กองลกู เสือ ทล่ี ูกเสอื มีความพร้อมดา้ นทักษะภาษาต่างประเทศ เป็นลกู เสือมัคคเุ ทศกจ์ ังหวัดละ 1 กอง เพื่อสง่ เสรมิ ลูกเสือจิต อาสาพฒั นาการท่องเท่ยี วในแต่ละจังหวดั 3.4 เสรมิ สรา้ งความรว่ มมือกับภาคีเครอื ขา่ ย ประสาน ส่งเสรมิ ความรว่ มมือภาคเี ครือข่าย ทงั้ ภาครัฐเอกชน ประชาสงั คม และองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน รวมทั้งสง่ เสริมและสนบั สนุนการมีสว่ นร่วมของชุมชนเพือ่ สรา้ งความ เข้าใจ และให้เกดิ ความรว่ มมือในการสง่ เสริม สนบั สนนุ และจดั การศึกษาและการเรยี นรใู้ หก้ บั ประชาชนอย่างมี คณุ ภาพ 1) เรง่ จดั ทาทาเนยี บภมู ิปญั ญาท้องถิ่นในแต่ละตาบล เพื่อใชป้ ระโยชนจ์ ากภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ ในการสรา้ งการ เรียนรจู้ ากองคค์ วามรใู้ นตัวบุคคลใหเ้ กดิ การถ่ายทอดภมู ิปัญญา สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่างยงั่ ยนื 2) ส่งเสรมิ ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ สู่การจัดการเรยี นรชู้ ุมชน 3) ประสานความรว่ มมอื กับภาคเี ครือขา่ ยเพือ่ การขยายและพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั ใหเ้ ข้าถงึ กลุ่มเปา้ หมายทกุ กลุ่มอย่างกว้างขวางและมีคุณภาพ อาทิ กลมุ่ ผู้สูงอายุ กลุ่ม อสม. 3.5 พัฒนานวตั กรรมทางการศกึ ษาเพ่ือประโยชน์ต่อการจดั การศึกษาและกล่มุ เป้าหมาย 1) พัฒนาการจดั การศึกษาออนไลน์ กศน. ท้งั ในรูปแบบของการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน การพัฒนาทกั ษะ ชวี ิตและทักษะอาชพี การศึกษาตามอธั ยาศัย รวมทั้งการพัฒนาชอ่ งทางการค้าออนไลน์ 2) ส่งเสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน การบรหิ ารจัดการ และการจัดการเรยี นรู้ 3) ส่งเสริมใหม้ ีการใชก้ ารวิจัยอยา่ งง่ายเพ่ือสร้างนวตั กรรมใหม่ 3.6 พัฒนาศกั ยภาพคนด้านทักษะและความเข้าใจในการใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ทิ ลั (Digital Literacy) 1) พัฒนาความรู้และทกั ษะเทคโนโลยีดจิ ิทัลของครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา เพ่ือพฒั นา รปู แบบการจดั การเรยี นการสอน 2) สง่ เสรมิ การจดั การเรยี นรู้ด้านเทคโนโลยีดจิ ิทัล เพื่อใหป้ ระชาชนมีทักษะความเข้าใจและ ใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ทส่ี ามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน รวมทง้ั สรา้ งรายได้ให้กับตนเองได้ 3.7 พฒั นาทกั ษะภาษาต่างประเทศเพ่ือการส่ือสารของประชาชนในรูปแบบตา่ ง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเนน้ ทกั ษะภาษาเพ่ืออาชีพ ทัง้ ในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเท่ยี ว รวมทง้ั พัฒนาส่อื การเรยี นการสอนเพ่ือสง่ เสริมการใชภ้ าษาเพอื่ การส่อื สารและการพัฒนาอาชีพ 3.8 เตรยี มความพรอ้ มการเข้าสสู่ ังคมผสู้ งู อายุทเี่ หมาะสมและมีคุณภาพ 1) สง่ เสรมิ การจัดกิจกรรมใหก้ ับประชาชนเพ่ือสร้างความตระหนกั ถึงการเตรยี มพร้อมเข้าสู่ สงั คมผูส้ งู อายุ (Aging Society) มีความเข้าใจในพัฒนาการของช่วงวัย รวมทั้งเรียนรู้และมสี ว่ นร่วมในการดูแล รบั ผิดชอบผูส้ ูงอายุในครอบครวั และชุมชน 2) พัฒนาการจดั บรกิ ารการศึกษาและการเรยี นรู้สาหรับประชาชนในการเตรียมความพรอ้ ม เขา้ สวู่ ัยสงู อายทุ เี่ หมาะสมและมีคุณภาพ 3) จัดการศึกษาเพ่ือพฒั นาคุณภาพชวี ติ สาหรับผ้สู ูงอายภุ ายใต้แนวคิด \"Active Aging\" การศึกษาเพื่อพฒั นาคุณภาพชวี ิต และพัฒนาทกั ษะชวี ติ ให้สามารถดแู ลตนเองทงั้ สุขภาพกายและสขุ ภาพจติ และรจู้ กั ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 4) สรา้ งความตระหนักถงึ คุณคา่ และศักด์ิศรขี องผสู้ ูงอายุ เปดิ โอกาสให้มีการเผยแพรภ่ ูมิปัญญา

7 ของผสู้ งู อายุ และให้มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมด้านตา่ ง ๆ ในชมุ ชน เชน่ ด้านอาชีพ กีฬา ศาสนาและวัฒนธรรม 5) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อรองรับสังคมผสู้ ูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกบั หน่วยงานที่เกีย่ วข้อง ในทุก ระดบั 3.9 การส่งเสริมวิทยาศาสตรเ์ พื่อการศึกษา 1) จัดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์เชิงรุก และเน้นให้ความรู้วทิ ยาศาสตร์อย่างง่ายกับประชาชนในชุมชน ท้งั วิทยาศาสตร์ในวิถชี ีวิต และวทิ ยาศาสตรใ์ นชวี ิตประจาวนั 2) พฒั นาสือ่ นิทรรศการเละรูปแบบการจดั กจิ กรรมทางวิทยาศาสตรใ์ ห้มีความทนั สมยั 3.10 ส่งเสรมิ การร้ภู าษาไทยใหก้ ับประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพ้ืนทีส่ ูง ให้สามารถฟัง พูด อา่ น และเขยี นภาษาไทย เพื่อประโยชในการใช้ชีวิตประจาวันได้ 4 ยุทธศาสตรต์ น้ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม 4.1 จัดต้ังศูนยก์ ารเรยี นรู้สาหรบั ทกุ ช่วงวยั ทเี่ ป็นศูนย์การเรยี นรตู้ ลอดชีวิตที่สามารถให้บริการ ประชาชนไดท้ ุกคน ทุกชว่ งวยั ท่ีมีกิจกรรมท่ีหลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ในแตล่ ะวัย และเป็นศนู ย์บริการความรู้ ศูนยก์ ารจัดกจิ กรรมทคี่ รอบคลุมทกุ ช่วงวัย เพอ่ื ให้มีพัฒนาการเรียนร้ทู ่ีเหมาะสม และมคี วามสขุ กับการเรียนร้ตู ามความสนใจ 1) เร่งประสานกบั สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน เพ่ือจัดทาฐานขอ้ มลู โรงเรียนทถ่ี ูกยุบรวม หรอื คาดวา่ นา่ จะถูกยุบรวม 2) ใหส้ านักงาน กศน.จังหวดั ทุกแห่งท่อี ย่ใู นจังหวัดทม่ี โี รงเรยี นทถี่ กู ยุบรวม ประสานขอใชพ้ น้ื ทเี่ พื่อจัดตงั้ ศูนย์ การเรยี นรูส้ าหรบั ทกุ ช่วงวัย กศน. 4.2 สง่ เสรมิ และสนับสนุนการจัดการศึกษาและการเรยี นรู้สาหรับกลุม่ เป้าหมายผู้พิการ 1) จดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน การศกึ ษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวติ และทกั ษะอาชีพ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย โดย เนน้ รปู แบบการศึกษาออนไลน์ 2) ใหส้ านักงาน กศน.จังหวดั ทุกแห่ง/กทม. ทาความร่วมมือกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัด ในการใช้ สถานท่ี วสั ดุอุปกรณ์ และครุภณั ฑ์ดา้ นการศกึ ษา เพ่ือสนับสนุนการจดั การศึกษาและการเรยี นรสู้ าหรบั กลมุ่ เปา้ หมาย ผพู้ กิ าร 4.3 ยกระดบั การศึกษาให้กบั กล่มุ เป้าหมายทหารกองประจาการ รวมท้ังกลุ่มเปา้ หมายพเิ ศษอืน่ ๆ อาทิ ผู้ต้องขงั คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประชากรวยั เรียนท่ีอยนู่ อกระบบการศึกษาให้จบการศกึ ษานอกระบบระดับ การศึกษาขน้ั พื้นฐาน สามารถนาความรู้ท่ีได้รบั ไปพัฒนาตนเองได้อยา่ งต่อเนื่อง 4.4 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชพี ระะสน้ั ให้มคี วามหลากหลาย ทันสมยั เหมาะสมกบั บริบทของ พ้นื ที่ และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผู้รับบรกิ าร 5. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชวี ิตทเี่ ปน็ มติ รต่อสง่ิ แวดลอ้ ม 5.1 ส่งเสรมิ ให้มกี ารให้ความรู้กับประชาชนในการรับมือและปรบั ตัวเพ่ือลดความเสยี หายจากภัยธรรมชาติ และผลกระทบทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับการเปลีย่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความสาคญั ของการสร้างสังคมสีเขยี ว สง่ เสริมความรใู้ หก้ ับประชาชนเกยี่ วกับการ คัดแยกตั้งแตต่ ้นทาง การกาจัดขยะ และการนากลับมาใชช้ ้า เพ่ือลดปริมาณและต้นทุนในการจดั การขยะของเมือง และสามารถนาขยะกลับมาใชป้ ระโยชนไ์ ดโ้ ดยงา่ ย รวมทง้ั การจัดการมลพิษในชมุ ชน 5.3 ส่งเสรมิ ให้หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาใช้พลงั งานท่เี ป็นมติ รกบั สิง่ แวดลอ้ ม รวมทงั้ ลดการใช้ทรัพยากรท่ี ส่งผลกระทบต่อสง่ิ แวดลอ้ ม เช่น รณรงคเ์ รื่องการลดการใช้ถุงพลาสติก การประหยดั ไฟฟ้า เปน็ ตน้ 6. ยุทธศาสตร์ดา้ นการปรับสมดลุ และพัฒนาระบบหารบริหารจดั การภาครัฐ 6.1 พัฒนาและปรบั ระบบวธิ ีการปฏิบัตริ าชการใหท้ ันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทจุ ริต บริหารจดั การบน ขอ้ มูลและหลกั ฐานเชิงประจักษ์ มุง่ ผลสัมฤทธ์มิ ีความโปร่งใส

8 6.2 นานวตั กรรมและเทคโนโลยีระบบการทางานท่เี ป็นดจิ ิทัลมาใชใ้ นการบรหิ ารและพัฒนางานสามารถ เช่อื มโยงกับระบบฐานข้อมลู กลางของกระทรวงศึกษาธิการ พรอ้ มทง้ั พัฒนาโปรแกรมออนไลน์ทส่ี ามารถเชื่อมโยง ขอ้ มลู ต่าง ๆ ทที่ าใหก้ ารบริหารจัดการเปน็ ไปอย่างต่อเน่ืองกนั ตั้งแตต่ ้นจนจบกระบวนการและใหป้ ระชาชน กลุ่มเป้าหมายสามารถเขา้ ถึงบรกิ ารได้อย่างทันที ทุกทแ่ี ละทกุ เวลา 6.3 สง่ เสรมิ การพฒั นาบุคลากรทุกระดบั อย่างต่อเนอื่ ง ให้มคี วามรแู้ ละทักษะตามมาตรฐานตาแหนง่ ใหต้ รง กบั สายงาน ความชานาญ และความต้องการของบคุ ลากร 2. แนวทาง/กลยทุ ธก์ ารดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ของ กศน.อาเภอสตั หีบ วิสัยทศั น์ “ภายในปี 2564 ผู้เรียน/ผูร้ ับบรกิ าร ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสัตหบี มคี ณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ใช้แหลง่ เรียนรู้ ภมู ิปญั ญา สอ่ื เทคโนโลยี ในการจัดกระบวนการเรยี นรู้ โดย เครอื ข่ายมสี ่วนรว่ ม” พันธกจิ 1. ออกแบบการจดั กระบวนการเรยี นร้ใู ห้สอดคล้องกับหลักสูตร 2. จัดระบบสารสนเทศเพื่อการเรียนรแู้ ละการบริหารการศึกษา 3. พฒั นาบุคลากรดา้ นการออกแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้/สือ่ /การประเมนิ ผล 4. สง่ เสรมิ และสนบั สนุนการมสี ว่ นร่วมของภาคีเครือข่ายและชุมชนในการจัดกิจกรรมการศึกษา เป้าประสงค์ ประชาชนผูด้ ้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศกึ ษา รวมทัง้ ประชาชนทัว่ ไปไดร้ บั โอกาสทางการศึกษาใน รปู แบบการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษาตามอัธยาศยั ทีม่ ีคุณภาพ อย่างเท่าเทียมและทว่ั ถึง เป็นไปตามสภาพ ปัญหา และความตอ้ งการของแตล่ ะ กลุ่มเป้าหมาย 1. ประชาชนได้รับการยกระดับการศกึ ษา สรา้ งเสรมิ และปลกู ฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และความเป็นพลเมือง อันนาไปสู่การยกระดบั คุณภาพชวี ิตและเสริมสรา้ งความเข้มแข็งให้ชุมชน เพอ่ื พฒั นาไปสู่ความมนั่ คงและย่งั ยืน ทางดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรม ประวตั ิศาสตร์ และส่งิ แวดล้อม 2. ประชาชนไดร้ ับโอกาสในการเรยี นรู้ และมเี จตคติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยที ่ีเหมาะสมสามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั รวมทง้ั แกป้ ญั หาและพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ 3. ประชาชนไดร้ ับการสรา้ งและสง่ เสรมิ ให้มีนสิ ยั รักการอ่านเพือ่ การแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง 4. ชุมชนและภาคเี ครอื ข่ายทุกภาคส่วน รว่ มจัด สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การดาเนินงานการศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย รวมท้งั การขับเคล่อื นกิจกรรมการเรียนรูข้ องชมุ ชน 5. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยที างการศกึ ษา เทคโนโลยดี ิจทิ ัล มาใช้ในการยกระดับคุณภาพ ในการจดั การเรียนรู้และเพ่ิมโอกาสการเรียนร้ใู หก้ ับประชาชน 6. หน่วยงานและสถานศึกษาพฒั นาส่อื และการจดั กระบวนการเรียนรู้ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวติ ทีต่ อบสนองกบั การเปลยี่ นแปลงบรบิ ทดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และสงิ่ แวดล้อม รวมทัง้ ตามความต้องการของประชาชนและชมุ ชนในรูปแบบทห่ี ลากหลาย 7. หนว่ ยงานและสถานศึกษามรี ะบบการบรหิ ารจดั การทเี่ ป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล

9 8. บคุ ลากรของหนว่ ยงานและสถานศึกษาไดร้ ับการพัฒนาเพื่อเพ่ิมสมรรถนะในการปฏิบัติงานการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้วี ัด ตวั ชวี้ ัดเชิงปริมาณ 1. จานวนผู้เรยี นการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาชนั้ พืน้ ฐานที่ไดร้ ับการสนบั สนุนค่าใช้จ่ายตามสิทธทิ ่ี กาหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายตา่ ง ๆ ท่เี ข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้/เข้ารับบรกิ ารกิจกรรมการศกึ ษา ต่อเนือ่ ง และการศึกษาตามอัธยาศยั ที่สอดคล้องกับสภาพ ปญั หา และความตอ้ งการ 3. ร้อยละของกาลงั แรงงานที่สาเร็จการศึกษาระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ข้ึนไป 4. จานวนภาคเี ครือข่ายทีเ่ ขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการจัด/พัฒนา/สง่ เสริมการศึกษา (ภาคีเครือข่าย : สถานประกอบการ องค์กร หนว่ ยงานที่มาร่วมจัด/พฒั นา/ส่งเสริมการศึกษา) 5. จานวนประชาชน เด็ก และเยาวชนในพน้ื ทีส่ งู และชาวไทยมอแกน ในพนื้ ท่ี 5 จังหวดั 11 อาเภอ ไดร้ บั บริการการศึกษาตลอดชีวติ จากศนู ย์การเรยี นชุมชนสงั กัดสานกั งาน กศน. 6. จานวนผู้รบั บรกิ ารในพ้ืนที่เปา้ หมายไดร้ บั การสง่ เสรมิ ดา้ นการรหู้ นงั สือและการพัฒนาทักษะชีวิต 7. จานวนนกั เรยี นนักศกึ ษาท่ีไดร้ บั บริการติวเข้มเต็มความรู้ 8. จานวนประชาชนที่ไดร้ ับการฝึกอาชีพระยะสน้ั สามารถสรา้ งอาชพี เพ่อื สร้างรายได้ 9. จานวน ครู กศน. ตาบล จากพืน้ ที่ กศน.ภาค ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านการจดั การเรียนการสอน ภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 10. จานวนประชาชนท่ีได้รับการฝกึ อบรมภาษาต่างประเทศเพ่ือการสื่อสารดา้ นอาชพี 11. จานวนผู้สูงอายุภาวะพ่งึ พงิ ในระบบ Long Term Care มีผดู้ ูแลท่มี ีคุณภาพและมาตรฐาน 12. จานวนประชาชนทีผ่ ่านการอบรมจากศนู ย์ดจิ ิทัลชมุ ชน 13. จานวนศูนย์การเรยี นชุมชน กศน. บนพ้นื ท่สี ูง ในพ้นื ท่ี 5 จังหวดั ทีส่ ง่ เสริมการพฒั นาทกั ษะการฟงั พูด ภาษาไทยเพื่อการส่อื สาร ร่วมกนั ในสถานศึกษาสงั กัด สพฐ. ตชด. และกศน. 14. จานวนบุคลากร กศน. ตาบลทีส่ ามารถจัดทาคลังความร้ไู ด้ 15. จานวนบทความเพื่อการเรยี นร้ตู ลอดชวี ิตในระดับตาบลในหัวขอ้ ต่าง ๆ 16. จานวนหลักสูตรและสอื่ ออนไลนท์ ่ีให้บริการกบั ประชาชน ทงั้ การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ัน พื้นฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษาตามอธั ยาศยั ตวั ชวี้ ดั เชิงคุณภาพ 1. รอ้ ยละของคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET) ทกุ รายวชิ าทกุ ระดบั 2. รอ้ ยละของผเู้ รียนที่ได้รบั การสนับสนนุ การจัดการศึกษาขั้นพืน้ ฐานเทยี บกบั ค่าเป้าหมาย 3. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเปา้ หมายท่ีลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กจิ กรรมการศกึ ษาต่อเนื่องเทยี บกับ เป้าหมาย 4. ร้อยละของผผู้ า่ นการฝกึ อบรม/พฒั นาทักษะอาชพี ระยะสั้นสามารถนาความรู้ไปใชใ้ นการประกอบอาชพี หรอื พฒั นางานได้ 5. รอ้ ยละของผเู้ รียนในเขตพ้ืนท่ีจงั หวัดชายแดนภาคใตท้ ่ีได้รับการพฒั นาศักยภาพ หรอื ทกั ษะด้านอาชพี สามารถมงี านทาหรอื นาไปประกอบอาชีพได้ 6. รอ้ ยละของผ้จู บหลกั สตู ร/กิจกรรมที่สามารถนาความรู้ความเขา้ ใจไปใชไ้ ดต้ ามจุดม่งุ หมายของหลกั สตู ร กิจกรรม การศึกษาต่อเนื่อง

10 7. ร้อยละของประชาชนท่ีไดร้ ับบรกิ ารมีความพงึ พอใจตอ่ การบรกิ าร/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรูก้ ารศกึ ษา ตามอธั ยาศยั 8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รบั บริการ/ข้ารว่ มกจิ กรรมท่มี ีความรู้ความเขา้ ใจ/เจตคติ ทักษะ ตามจุดมุง่ หมายของกิจกรรมทีก่ าหนด ของการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 9. รอ้ ยละของนกั เรียน/นักศึกษาทม่ี ีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนในวชิ าทไ่ี ด้รบั บรกิ ารติวเข้มเต็มความรเู้ พิ่มสูงขึน้ 10. รอ้ ยละของผูส้ งู อายุทเี่ ปน็ กลุ่มเปา้ หมาย มีโอกาสมาเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาตลอดชวี ติ นโยบายเร่งดว่ นเพ่อื ร่วมขับเคลื่อนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาประเทศ 1.ยทุ ธศาสตรด์ ้านความมันคง 1.1 พัฒนาและเสรมิ สรา้ งความจงรักภกั ดีต่อสถาบันหลักของชาติ โดยปลูกฝังและสรา้ งความตระหนักรูถ้ งึ ความสาคัญของสถาบนั หลกั ของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรกั และความภาคภมู ิใจในความเป็นคนไทยและชาติไทย นอ้ มนาและเผยแพร่ศาสตร์พระราชา หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งรวมถงึ แนวทางพระราชดาริตา่ ง ๆ 1.2 เสรมิ สรา้ งความรู้ความเข้าใจทีถ่ ูกตอ้ ง และการมีส่วนร่วมอยา่ งถูกต้องกับการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในบริบทของไทย มีความเปน็ พลเมืองดี ยอมรับและเคารพความ หลากหลายทางความคดิ และอดุ มการณ์ 1.3 สง่ เสริมและสนบั สนุนการจัดการศกึ ษาเพ่ือป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาภยั คุกคามในรปู แบบใหม่ ท้ังยา เสพตดิ การค้ามนษุ ย์ ภยั จากไซเบอร์ ภัยพิบัติจากธรรมชาติ โรคอุบัตใิ หม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดบั คุณภาพการศึกษาและสร้างเสริมโอกาสในการเข้าถึงบริการการศกึ ษา การพฒั นาทักษะ การสรา้ งอาชีพ และการใช้ชวี ติ ในสังคมพหุวัฒนธรรม ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวดั ชายแดนภาคใต้ และพ้ืนท่ี ชายแดนอืน่ ๆ 1.5 สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพ่ือนบ้านยอมรบั และ เคารพในประเพณี วฒั นธรรมของกลมุ่ ชาติพันธ์ุ และชาวต่างชาตทิ ี่มคี วามหลากหลาย ในลกั ษณะพหุสงั คมท่ีอยู่ รว่ มกัน 2 ยุทธศาสตร์ดา้ นการสร้างความสามารถในการแขง่ ขัน 2.1 เรง่ ปรับหลกั สูตรการจัดการศกึ ษาอาชพี กศน. เพ่ือยกระดับทักษะดา้ นอาชพี ของประชาชน ให้เป็นอาชพี ท่ีรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบรู ณา การความร่วมมือในการพฒั นาและเสริมทักษะใหมด่ ้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงมงุ่ เน้นสร้างโอกาส ในการสร้างงาน สร้างรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงานทั้งภาคอุตสาหกรรมและ การบริการ โดยเฉพาะในพ้ืนทเ่ี ขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขคพัฒนาพเิ ศษตามภมู ภิ าคต่าง ๆ ของประเทศ สาหรับพ้นื ท่ีปกติใหพ้ ฒั นาอาชพี ที่เน้นการต่อยอดศักยภาพและตามบริบทของพ้ืนที่ 2.2 จดั การศกึ ษาเพื่อพัฒนาพ้ืนทภี่ าคตะวนั ออก ยกระดบั การศกึ ษาให้กบั ประชาชนใหจ้ บการศกึ ษาอย่าง นอ้ ยการศึกษาภาคบงั คับ สามารถนาคุณวุฒิที่ได้รับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมทั้งพัฒนาทกั ษะในการ ประกอบอาชีพตามความต้องการของประชาชน สรา้ งอาชีพ สร้างรายได้ ตอบสนองต่อบรบิ ทของสงั คมและชมุ ชน รวมท้งั รองรับการพฒั นาเขตพนื้ ท่รี ะเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) 2.3 พฒั นาและส่งเสรมิ ประชาชนเพ่อื ต่อยอดการผลิตและจาหนา่ ยสินคแ้ ละผลติ ภณั ฑ์ออนไลน์ 1) เร่งจัดตงั้ ศนู ย์ให้คาปรึกษาและพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ Brand กศน. เพ่ือยกระดบั คุณภาพของสินค้และ ผลติ ภัณฑ์ การบริหารจัดการทคี่ รบวงจร (การผลิต การตลาด การสง่ ออก และสรา้ งชอ่ งทางจาหนา่ ย) รวมทั้งสง่ เสริม การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการเผยแพร่และจาหน่ายผลติ ภณั ฑ์ 2) พฒั นาและคัดเลือกสดุ ยอดสนิ ค้าและลติ ภัณฑ์ กศน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมท้ังประสานความร่วมมือกบั สถานบี ริการน้ามนั ในการเปน็ ซอ่ งทางการจาหนา่ ยสดุ ยอดสินค้าและผลติ ภัณฑ์ กศน.ให้กว้างขวางย่งิ ข้นึ

11 3 ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศกั ยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ 3.1 พัฒนาครแู ละบคุ ลากรท่เี กี่ยวข้องกบั การจัดกจิ กรรมและการเรยี นรู้ เป็นผ้เู ช่อื มโยงความรกู้ บั ผู้เรยี นและผ้รู ับบริการ มีความเป็น \"ครูมอื อาชพี \" มจี ิตบริการ มีความรอบรู้และทันต่อการเปลีย่ นแปลงของสงั คมและ เป็น \"ผอู้ านวยการการเรียนรู้\" ทีส่ ามารถบรหิ ารจดั การความรู้ กิจกรรม และการเรียนรูท้ ่ีดี 1) เพ่มิ อตั ราข้าราชการครูให้กับ กศน. อาเภอทุกแหง่ โดยเรง่ ดาเนินการเรื่องการหาอตั ราตาแหนง่ การสรรหา บรรจุ และแตง่ ต้ัง ข้าราชการครู 2) พฒั นาข้าราชการครูในรูปแบบครบวงจร ตามหลักสตู รท่เี ชอื่ มโยงกบั วิทยฐานะ 3) พฒั นาครู กศน.ตาบลใหส้ ามารถปฏบิ ตั งิ านได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ โดยเน้นเรอื่ งการพัฒนาทกั ษะการ จดั การเรียนการสอนออนไลน์ ทักษะภาษาต่างประเทศ ทักษะการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 4) พัฒนาศึกษานิเทศก์ ให้สามารถปฏบิ ัตกิ ารนิเทศไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ 5) พัฒนาบุคลากร กศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มที ักษะความรเู้ รื่องการใช้ประโยชนจ์ ากดจิ ทิ ัลและ ภาษาตา่ งประเทศทจี่ าเป็น 3.2 พฒั นาแหลง่ เรยี นรใู้ หม้ ีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมทเี่ อ้ือตอ่ การเรยี นรู้ มีความพรอ้ มในการใหบ้ ริการ กจิ กรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เป็นแหล่งสารสนเทศสาธารณะท่งี ยต่อการเข้าถึง มบี รรยากาศทีเ่ อื้อตอ่ การเรียนรู้ เปน็ คาเพ่พื้นที่การเรียนรู้สาหรบั คนทุกชว่ งวัย มีสงิ่ อานวยความสะดวก มบี รรยากาศสวยงามมชี วี ติ ที่ดึงดูดความ สนใจ และมีความปลอดภยั สาหรบั ผ้ใู ช้บรกิ าร 1) เรง่ ยกระดบั กศน.ตาบลนาร่อง 928 แห่ง (อาเภอละ 1 แหง่ ) ให้เป็น กศน.ตาบล 5 ดี พรีเม่ยี ม ท่ีประกอบดว้ ย ครดู ี สถานที่ดี (ตามบริบทของพ้นื ท่ี) กิจกรรมดี เครอื ข่ายดี และมีนวตั กรรมการเรียนร้ทู ่ีดมี ปี ระโยชน์ 2) จดั ใหม้ ศี นู ย์การเรียนรตู้ น้ แบบ กศน. เพอื่ ยกระดบั การเรียนรู้ ใน 6 ภูมิภาค เป็นพนื้ ท่ีการเรยี นรู้ (Co - Learning Space) ที่ทันสมยั สาหรบั ทกุ คน มีความพรอ้ มในการให้บริการต่าง ๆ อาทิ พน้ื ที่สาหรบั การทางาน/ การเรยี นรู้ พ้นื ทีส่ าหรบั กิจกรรมตา่ ง ๆ มีหอ้ งประชุมขนาดเลก็ รวมทง้ั ทางานรว่ มกบั ห้องสมดุ ประชาชนในการ ใหบ้ รกิ ารในรปู แบบห้องสมดุ ดิจิทัล บรกิ ารอินเทอรเ์ นต็ ส่ือมลั ติมีเดยี เพอ่ื รองรับการเรียนรูแ้ บบ Active Learning 3) พฒั นาห้องสมดุ ประชชน \"เฉลมิ ราชกมุ ารี\" ให้เปน็ Digital Library โดยให้มบี ริการหนงั สือ ในรปู แบบ e - Book บริการคอมพวิ เตอร์ และอนิ เทอร์เน็ตความเร็วสงู รวมทง้ั Free Wifi เพอ่ื การสบื คน้ ข้อมลู 3.3 สง่ เสริมการจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัยและมปี ระสิทธิภาพ เอ้ือต่อการเรียนรู้สาหรับทุกคน สามารถ เรียนได้ทุกทท่ี ุกเวลา มีกิจกรรมทห่ี ลากลาย นา่ สนใจ สนองตอบความต้องการของชมุ ชน เพื่อพัฒนาศักยภาพ การเรียนร้ขู องประชาชน รวมทัง้ ใชป้ ระโยชนจ์ ากประชาชนในชมุ ชนในการร่วมจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพ่ือเชอ่ื มโยง ความสัมพันธข์ องคนในชุมชนไปสกู้ ารจัดการความรูข้ องชุมชนอย่างย่งั ยืน 1) ส่งเสรมิ การจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ีป่ ลูกฝงั คณุ ธรรม สร้างวินยั จติ สาธารณะ ความรับผดิ ชอบ ตอ่ สว่ นรวม และการมีจิตอาสา ผา่ นกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กจิ กรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิตอาสา ตลอดจน สนับสนุนให้มกี ารจัดกิจกรรมเพ่อื ปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรมให้กับบุคลากรในองค์กร 2) จัดให้มีหลักสูตรลูกเสือมัคคเุ ทศก์ โดยให้สานักงาน กศน.จังหวัดทกุ แห่ปกทม. จัดต้ังกองลูกเสือ ทีล่ ูกเสือมีความพร้อมด้านทักษะภาษาต่างประเทศ เปน็ ลูกเสือมัคคุเทศก์จังหวัดละ 1 กอง เพื่อสง่ เสรมิ ลูกเสอื จติ อาสาพฒั นาการท่องเท่ียวในแต่ละจังหวดั 3.4 เสริมสรา้ งความร่วมมือกับภาคีเครอื ข่าย ประสาน ส่งเสริมความรว่ มมือภาคเี ครือขา่ ย ทั้งภาครัฐเอกชน ประชาสงั คม และองคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ รวมท้ังสง่ เสริมและสนบั สนุนการมสี ่วนร่วมของชุมชนเพ่อื สร้างความ เข้าใจ และให้เกดิ ความรว่ มมือในการสง่ เสริม สนับสนนุ และจดั การศึกษาและการเรยี นรใู้ ห้กบั ประชาชนอย่างมี คณุ ภาพ 1) เรง่ จัดทาทาเนยี บภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ ในแตล่ ะตาบล เพื่อใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถ่ินในการสรา้ งการ เรียนรู้จากองค์ความรู้ในตวั บคุ คลใหเ้ กดิ การถ่ายทอดภมู ิปัญญา สร้างคณุ คา่ ทางวฒั นธรรมอยา่ งยงั่ ยืน

12 2) สง่ เสริมภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่นสู่การจัดการเรยี นร้ชู มุ ชน 3) ประสานความร่วมมอื กับภาคเี ครือข่ายเพ่อื การขยายและพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อธั ยาศัยใหเ้ ข้าถงึ กลมุ่ เปา้ หมายทกุ กลุ่มอย่างกว้างขวางและมคี ุณภาพ อาทิ กลมุ่ ผู้สงู อายุ กลมุ่ อสม. 3.5 พัฒนานวตั กรรมทางการศกึ ษาเพ่ือประโยชนต์ ่อการจัดการศกึ ษาและกลมุ่ เป้าหมาย 1) พัฒนาการจดั การศกึ ษาออนไลน์ กศน. ทั้งในรูปแบบของการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน การพัฒนาทักษะ ชวี ติ และทักษะอาชพี การศึกษาตามอัธยาศัย รวมทงั้ การพัฒนาชอ่ งทางการคา้ ออนไลน์ 2) ส่งเสรมิ การใช้เทคโนโลยใี นการปฏิบตั งิ าน การบริหารจัดการ และการจัดการเรยี นรู้ 3) ส่งเสริมใหม้ ีการใช้การวจิ ยั อยา่ งงา่ ยเพ่ือสรา้ งนวัตกรรมใหม่ 3.6 พฒั นาศักยภาพคนด้านทักษะและความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจทิ ลั (Digital Literacy) 1) พฒั นาความรูแ้ ละทกั ษะเทคโนโลยีดจิ ิทัลของครแู ละบุคลากรทางการศึกษา เพื่อพฒั นา รูปแบบการจดั การเรยี นการสอน 2) สง่ เสรมิ การจัดการเรยี นร้ดู ้านเทคโนโลยีดจิ ิทลั เพื่อใหป้ ระชาชนมีทักษะความเข้าใจและ ใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ัลทส่ี ามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั รวมทงั้ สร้างรายได้ให้กับตนเองได้ 3.7 พัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศเพื่อการส่ือสารของประชาชนในรปู แบบต่าง ๆ อยา่ งเป็นรูปธรรม โดยเน้นทกั ษะภาษาเพ่ืออาชีพ ทัง้ ในภาคธุรกิจ การบรกิ าร และการท่องเทีย่ ว รวมท้ัง พฒั นาสอ่ื การเรียนการสอนเพ่ือสง่ เสริมการใชภ้ าษาเพื่อการส่อื สารและการพัฒนาอาชีพ 3.8 เตรียมความพรอ้ มการเข้าสู่สงั คมผู้สูงอายุท่เี หมาะสมและมคี ุณภาพ 1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมใหก้ ับประชาชนเพ่ือสรา้ งความตระหนกั ถึงการเตรยี มพร้อมเข้าสู่สังคมผสู้ ูงอายุ (Aging Society) มีความเข้าใจในพัฒนาการของช่วงวัย รวมทัง้ เรยี นร้แู ละมีส่วนร่วมในการดูแล รับผิดชอบผสู้ งู อายใุ นครอบครัวและชมุ ชน 2) พัฒนาการจดั บริการการศึกษาและการเรยี นรสู้ าหรบั ประชาชนในการเตรยี มความพร้อม เข้าสู่วัยสูงอายทุ เ่ี หมาะสมและมคี ุณภาพ 3) จดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาคุณภาพชวี ิตสาหรบั ผู้สูงอายภุ ายใตแ้ นวคิด \"Active Aging\"การศกึ ษาเพ่ือพฒั นา คณุ ภาพชีวิต และพฒั นาทักษะชีวิต ให้สามารถดูแลตนเองท้งั สขุ ภาพกายและสุขภาพจติ และร้จู ักใชป้ ระโยชนจ์ าก เทคโนโลยี 4) สรา้ งความตระหนักถึงคุณค่าและศักด์ิศรขี องผู้สงู อายุ เปิดโอกาสใหม้ ีการเผยแพรภ่ มู ิปญั ญาของผสู้ งู อายุ และให้มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมด้านตา่ ง ๆ ในชมุ ชน เชน่ ด้านอาชีพ กีฬา ศาสนาและวฒั นธรรม 5) จดั การศึกษาอาชีพเพ่ือรองรับสงั คมผูส้ งู อายุ โดยบรู ณาการความรว่ มมอื กับหนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วข้อง ในทุก ระดบั 3.9 การส่งเสรมิ วิทยาศาสตรเ์ พอ่ื การศึกษา 1) จดั กจิ กรรมวิทยาศาสตรเ์ ชิงรุก และเนน้ ให้ความรวู้ ิทยาศาสตรอ์ ย่างงา่ ยกับประชาชนในชุมชน ทง้ั วิทยาศาสตร์ในวถิ ีชวี ิต และวทิ ยาศาสตรใ์ นชีวติ ประจาวัน 2) พฒั นาสือ่ นิทรรศการเละรูปแบบการจัดกิจกรรมทางวทิ ยาศาสตร์ใหม้ ีความทันสมัย 3.10 สง่ เสริมการรู้ภาษาไทยให้กบั ประชาชนในรปู แบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพ้ืนที่สูง ให้สามารถฟงั พดู อ่าน และเขียนภาษาไทย เพื่อประโยชในการใชช้ ีวิตประจาวันได้ 4 ยุทธศาสตรต์ ้นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม 4.1 จัดตงั้ ศูนย์การเรยี นรู้สาหรบั ทกุ ชว่ งวยั ทีเ่ ปน็ ศูนย์การเรียนร้ตู ลอดชีวติ ทีส่ ามารถให้บริการ ประชาชนได้ทุกคน ทุกชว่ งวยั ทีม่ ีกิจกรรมท่หี ลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการเรียนรใู้ นแต่ละวัย และเปน็ ศูนยบ์ ริการความรู้ ศูนยก์ ารจดั กิจกรรมทคี่ รอบคลุมทุกชว่ งวัย เพื่อให้มีพัฒนาการเรียนรูท้ ่ีเหมาะสม และมคี วามสุขกับการเรียนรตู้ ามความสนใจ

13 1) เรง่ ประสานกบั สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพ่อื จดั ทาฐานขอ้ มูลโรงเรียนทถี่ ูกยุบรวม หรือคาดว่าน่าจะถูกยบุ รวม 2) ใหส้ านกั งาน กศน.จังหวัดทกุ แหง่ ทอี่ ยู่ในจังหวดั ทีม่ โี รงเรยี นทถ่ี ูกยุบรวม ประสานขอใชพ้ น้ื ทเี่ พื่อจัดตั้งศนู ย์ การเรียนรูส้ าหรบั ทุกชว่ งวยั กศน. 4.2 ส่งเสรมิ และสนับสนุนการจดั การศึกษาและการเรยี นรสู้ าหรับกลุม่ เป้าหมายผู้พกิ าร 1) จัดการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน การศึกษาเพื่อพฒั นาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั โดย เน้นรูปแบบการศึกษาออนไลน์ 2) ใหส้ านกั งาน กศน.จงั หวัดทกุ แห่ง/กทม. ทาความรว่ มมือกับศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวัด ในการใช้ สถานท่ี วัสดอุ ุปกรณ์ และครุภัณฑ์ด้านการศึกษา เพ่ือสนบั สนนุ การจดั การศึกษาและการเรยี นรูส้ าหรับกลมุ่ เป้าหมาย ผพู้ กิ าร 4.3 ยกระดบั การศึกษาให้กับกลมุ่ เป้าหมายทหารกองประจาการ รวมทงั้ กลุ่มเปา้ หมายพเิ ศษอน่ื ๆ อาทิ ผู้ตอ้ งขงั คนพิการ เดก็ ออกกลางคัน ประชากรวัยเรยี นที่อย่นู อกระบบการศกึ ษาให้จบการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถนาความร้ทู ่ีไดร้ ับไปพฒั นาตนเองได้อย่างต่อเน่ือง 4.4 พัฒนาหลกั สตู รการจดั การศกึ ษาอาชีพระะส้ัน ให้มคี วามหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับบริบทของ พืน้ ที่ และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผู้รบั บรกิ าร 5. ยุทธศาสตร์ดา้ นการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชวี ติ ทีเ่ ปน็ มิตรต่อสิ่งแวดลอ้ ม 5.1 สง่ เสริมใหม้ ีการให้ความรู้กบั ประชาชนในการรับมือและปรับตัวเพ่ือลดความเสยี หายจากภัยธรรมชาติ และผลกระทบที่เกี่ยวข้องกบั การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 5.2 สร้างความตระหนักถงึ ความสาคัญของการสร้างสงั คมสีเขยี ว สง่ เสรมิ ความรใู้ หก้ บั ประชาชนเก่ียวกับการ คดั แยกตั้งแตต่ ้นทาง การกาจัดขยะ และการนากลับมาใช้ช้า เพอื่ ลดปริมาณและต้นทุนในการจดั การขยะของเมอื ง และสามารถนาขยะกลบั มาใชป้ ระโยชน์ไดโ้ ดยงา่ ย รวมทง้ั การจัดการมลพิษในชมุ ชน 5.3 ส่งเสริมให้หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาใช้พลงั งานทเ่ี ป็นมิตรกบั สิ่งแวดลอ้ ม รวมทัง้ ลดการใช้ทรัพยากรท่ี ส่งผลกระทบต่อสิง่ แวดลอ้ ม เช่น รณรงค์เรอ่ื งการลดการใช้ถงุ พลาสติก การประหยดั ไฟฟ้า เป็นต้น 6. ยุทธศาสตรด์ ้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบหารบรหิ ารจัดการภาครฐั 6.1 พฒั นาและปรบั ระบบวธิ ีการปฏิบตั ิราชการใหท้ ันสมัย มคี วามโปร่งใส ปลอดการทุจรติ บริหารจัดการบน ข้อมลู และหลักฐานเชิงประจักษ์ มงุ่ ผลสมั ฤทธิ์มีความโปรง่ ใส 6.2 นานวัตกรรมและเทคโนโลยรี ะบบการทางานท่ีเปน็ ดิจิทลั มาใช้ในการบริหารและพัฒนางานสามารถ เชอ่ื มโยงกบั ระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ พรอ้ มท้ังพัฒนาโปรแกรมออนไลนท์ ีส่ ามารถเชื่อมโยง ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทท่ี าให้การบริหารจัดการเปน็ ไปอยา่ งต่อเนื่องกันตัง้ แตต่ น้ จนจบกระบวนการและใหป้ ระชาชน กล่มุ เปา้ หมายสามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารได้อย่างทันที ทกุ ทแ่ี ละทกุ เวลา 6.3 สง่ เสริมการพฒั นาบุคลากรทกุ ระดบั อยา่ งต่อเนือ่ ง ให้มีความรแู้ ละทกั ษะตามมาตรฐานตาแหน่ง ให้ตรง กับสายงาน ความชานาญ และความต้องการของบคุ ลากร

14 หลักการพัฒนาสงั คมและชมุ ชน 1 สาระสาคัญ การจัดการศกึ ษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน เปน็ การจดั การศึกษาทบี่ ูรณาการความรู้และทักษะจาก การศกึ ษาท่ีผู้เรยี นมีอยูห่ รือได้รบั จากการเข้ารว่ มกิจกรรมการศกึ ษานอกโรงเรยี นโดยมรี ูปแบบการเรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย ใชช้ ุมชนเปน็ ฐานในการพฒั นาการเรียนรู้และทุนทางสงั คมเปน็ เครอื่ งมือในการจัดการเรยี นรู้ เพอื่ พฒั นาสังคมและ ชมุ ชนให้มคี วามเข้มแขง็ สามารถพง่ึ พาตนเองได้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพยี ง และประชาชนอยรู่ ่วมกันอย่างมี ความสขุ ตามวิถีทางการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย ตลอดจนอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มที่ดี มีการพฒั นาทย่ี ัง่ ยนื 2. นโยบาย เร่งรัดจัดการศึกษานอกโรงเรียนเพื่อส่งเสรมิ การมสี ่วนร่วมในการพัฒนาสงั คม โดยใช้ชมุ ชนเป็นฐาน บรู ณาการความรู้และทักษะการดารงชีวติ เพือ่ ใหเ้ กิดสังคมแห่งการเรยี นรู้ นาไปสสู่ งั คมท่ีเข้มแข็ง มีความเอ้ืออาทร ตอ่ กัน และพง่ึ พาตนเองได้อย่างย่งั ยืน 3. เปา้ หมายสาธารณะ การจดั การศึกษาเพื่อพัฒนาสงั คมและชุมชนเปน็ การจดั การศกึ ษาทมี่ ่งุ ใช้กระบวนการศึกษาเป็นเครื่องมือ ในการพัฒนาสังคมและชุมชนใหม้ ีความเขม้ แข็ง พงึ่ ตนเองได้ตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียง มคี วามเอือ้ อาทร มีคุณธรรม จรยิ ธรรม สบื ทอดวัฒนธรรมและภมู ิปัญญา ประชาชนมีสว่ นร่วมในการดแู ลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดล้อม และกาหนดทิศทางการพฒั นาของสังคมและชุมชนตามแนวทางในระบอบประชาธิปไตย โดยมเี ปา้ หมาย ดังนี้ (1) ให้มีกจิ กรรมการพัฒนาสังคมและชมุ ชน 1 โครงการ (2) ใหบ้ รกิ ารนทิ รรศการการศึกษา (3) จัดค่ายเยาวชนประชาธิปไตย /ค่ายประชาชนประชาธปิ ไตย (4) จัดกิจกรรมธรรมะเพื่อพัฒนาสงั คมและชุมชน 4. แนวทางและมาตรการ (1) พัฒนาศักยภาพการทางานของบุคลากร กศน. โดยปรบั บทบาทการทางานให้สอดคล้องกบั หนา้ ท่ี สรา้ งความรู้ความเขา้ ใจในการจดั กิจกรรมการศึกษานอกโรงเรยี นตามนโยบาย และกาหนดให้ครู กศน. รบั ผดิ ชอบการ จดั กจิ กรรมระดับตาบลในลักษณะ Project Approach (2) ดาเนนิ การในรูปโครงการทใี่ ห้ความสาคัญกับประเด็นหลักของการพัฒนา 4 ด้าน กล่าวคอื เศรษฐกจิ (วสิ าหกิจชมุ ชน) การเมืองการปกครอง(ประชาธิปไตย) สงั คม(วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาชมุ ชน) และสงิ่ แวดล้อม ตลอดจนการส่งั สอนอบรมเผยแผ่ธรรมะและคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามหลักของศาสนาในแตล่ ะท้องถ่นิ โดยบูรณาการ การเรียนรเู้ ข้ากบั สภาพจรงิ ของชมุ ชน (3) สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชน ชมุ ชน และกลไกทุกภาคสว่ นของสังคม เปน็ ผู้รับผิดชอบหลกั (เจ้าภาพ) ในการ จัดกิจกรรมการศึกษานอกโรงเรียนทีส่ อดคล้องกบั ศกั ยภาพของพนื้ ที่ โดยเฉพาะการจดั อบรมความรใู้ ห้กับประชาชน กลมุ่ เปา้ หมายในเรื่องการจัดการ การตลาด และบรรจภุ ัณฑ์ (4) ใช้ทนุ ทางสังคมสนบั สนนุ การจดั กิจกรรมการศกึ ษานอกโรงเรยี นในชุมชน (5) ส่งเสริมใหม้ ีการจัดทาเวทีชาวบ้านเพื่อให้ชุมชนเรียนรสู้ ภาพปัญหาและความต้องการของชมุ ชนและ จัดทาแผนแมบ่ ทชมุ ชน

15 (6) สง่ เสรมิ ให้เกิดกิจกรรมการพัฒนาสงั คมและชมุ ชน 1 โครงการ 5. ตัวชี้วดั เชงิ ปริมาณ – จานวนผู้เขา้ รบั การอบรมและพฒั นาวิชาชพี – จานวนผ้สู าเร็จตามหลกั สูตรท่กี าหนด เชิงคุณภาพ -ความพึงพอใจของผ้รู ับบริการ -ประโยชนท์ ่ีผูร้ บั บริการไดร้ ับ การจัดการศกึ ษาเพื่อพฒั นาสังคมและชุมชน สง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มในการพัฒนาสงั คมโดยใชช้ มุ ชนเปน็ ฐาน โดยใหป้ ระชาชน ชมุ ชนรว่ มกันรบั ผิดชอบ และเห็นถงึ ความสาคัญ ในการฟ้ืนฟูพัฒนาสังคมและชมุ ชนของตนเอง เพอื่ ส่งเสริมใหป้ ระชาชนเกดิ การเรยี นรู้ บรู ณาการความรู้ ประสบการณ์ และทักษะอาชีพ เข้ามาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อการพฒั นาสงั คมและชมุ ชนโดยรวม ทาใหเ้ กดิ สังคมแห่งการเรียนรู้ นาไปสสู่ ังคมท่เี ข้มแข็ง มีความเอื้ออาทรตอ่ กัน และพง่ึ พาตนเองไดอ้ ย่างย่ังยนื กิจกรรมพฒั นาสงั คมและชุมชนมี 5 ด้าน คอื 1. ดา้ นเศรษฐกิจ - กิจกรรมเศรษฐกจิ ชมุ ชนพ่งึ ตนเอง 2. ดา้ นการเมอื ง - กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย 3. ด้านสังคม - กจิ กรรมชุมชนแห่งการเรยี นรู้ 4. ด้านสงิ่ แวดล้อม - กจิ กรรมรกั ษพ์ ลังงานและสิง่ แวดล้อม 5. ด้านศลิ ปวัฒนธรรม - กจิ กรรมเพื่อพัฒนาสังคมและชมุ ชน การจดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน เปน็ การจดั การศึกษาทบ่ี ูรณาการความรู้ และทกั ษะจาก การศึกษาทผี่ ูเ้ รียนมีอยู่ หรือไดร้ บั จากการเข้าร่วมกจิ กรรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น โดยมีรปู แบบการเรยี นที่ หลากหลาย ให้ชมุ ชนเปน็ ฐานในการพัฒนาการเรยี นรู้ และทนุ ทางสังคมเป็นเครื่องมือในการจดั การเรียนรู้เพ่ือพัฒนา สังคมและชุมชนให้มคี วามเขม้ แขง็ สามารถพ่ึงพาตนเองได้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และประชาชนอยูร่ ่วมกนั อย่างมีความสขุ ตามวถิ ที างการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย ตลอดจนอยู่ในสภาพแวดล้อมท่ดี ีมีการพัฒนาที่ ยัง่ ยนื

16 เอกสาร/งานที่เก่ยี วข้อง เศรษฐกิจพอเพียง “ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ” Sufficiency economy เปน็ เสมือนรากฐานของชวี ติ รากฐานความมัน่ คงของ แผ่นดิน เปรยี บเสมอื นเสาเข็มท่ถี ูกตอกรองรับบ้านเรอื นตัวอาคารไวน้ นั้ เอง สิ่งก่อสรา้ งจะม่ันคงได้ก็อยู่ท่เี สาเขม็ แต่ คนสว่ นมากมองไม่เห็นเสาเข็มและลมื เสาเข็มด้วยเสยี ซา้ ไป พระราชดารัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ จากวารสารชยั พัฒนา“ โลกาภิวัตน์ หรือ โลกานุวัตน์ ” globalization คือ ผลจากการพฒั นาการตดิ ต่อสอ่ื สาร การคมนาคมขนส่ง และเทคโนโลยสี ารสนเทศ อนั แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การเจริญเติบโตของสัมพนั ธท์ างเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และ วัฒนธรรมทเ่ี ชือ่ มโยงระหว่างปจั เจกบคุ คล ชมุ ชน หนว่ ยธรุ กจิ และรฐั บาล ทั่วทั้งโลก “ การประยุกต์หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งกับการใชอ้ ินเตอร์เน็ตในกระแสโลกาภวิ ัตน์ ” อินเตอรเ์ น็ตเป็น เทคโนโลยีใหม่ในการสื่อสารสารสนเทศเปรยี บเสมือนชมุ ชนแห่งใหมข่ องโลกซง่ึ รวมคน ท่ัวทกุ มมุ โลกเข้าด้วยกันยคุ น้ี ไมว่ ่าใครๆ ก็ตอ้ งพดู ถงึ อนิ เตอรเ์ น็ต ICQ เพราะมนั กลายเปน็ สว่ นหนึ่งของคนรนุ่ ใหม่ กลายเป็นสิง่ จาเปน็ ใน ปัจจบุ นั ทสี่ ามารถติดต่อหาข้อมูลแลกเปล่ียนขา่ วสารใหมๆ่ เรียนรสู้ ่ิงใหม่ๆ สรา้ งจนิ ตนาการได้ตลอดเวลาอย่าง กวา้ งไกลไรข้ ดี จากดั โดยไม่ต้องเสียคา่ เดินทาง แต่การผจญภัยไปในโลกกว้างไร้พรมแดน หรือการท่องไปในโลก อนิ เตอรเ์ น็ตนน้ั ก็มีทง้ั คุณและโทษ การเรยี นรเู้ ป็นสงิ่ ท่ดี ีแน่นอน แต่เราต้องทาความเข้าใจว่าประโยชน์และโทษของ มนั คอื อะไรควบคกู่ นั ไปดว้ ย (ชวลติ วินจิ จะกลู : 2544) ปัจจบุ นั นี้มกี ารใช้อนิ เตอรเ์ น็ตกันอย่างกว้างขวางไปในทางท่ผี ิดวตั ถปุ ระสงคท์ างเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างท่ี ควรจะเป็นรวมถึงพฤติกรรมในการใชอ้ ินเตอรเ์ นต็ ทเ่ี ปน็ อุปสรรคในด้านต่างๆ อนั ตรายต่อสขุ ภาพจติ และเปน็ ปัญหา สงั คม ยกตัวอย่างรายงานเช่น 1. โรคตดิ อนิ เตอรเ์ น็ต (Webaholic) พฤติกรรมตา่ ง ๆ การเลน่ อนิ เตอร์เน็ตทาให้คุณเสียงาน หรือ แม้แตท่ าลาย นักจติ วทิ ยาชอ่ื Kimberly S. Young ไดศ้ กึ ษาพฤติกรรม ของผใู้ ช้อินเตอร์เน็ตอยา่ งมากเปน็ จานวน 496 คน โดยเปรยี บเทียบ กับบรรทัดฐาน ซง่ึ ใช้ในการจัดว่า ผใู้ ดเป็นผูท้ ่ตี ดิ การพนนั การติดการพนัน ประเภทที่ถอน ตวั ไม่ขึน้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับ การตดิ อินเตอรเ์ นต็ เพราะทง้ั สองอย่าง เก่ยี วข้องกบั การลม้ เหลว ในการควบคุม ความตอ้ งการของตนเอง โดยไม่มีสว่ นเก่ียว ข้องกบั สารเคมีใดๆ (อยา่ งสรุ า หรอื ยาเสพติด) อินเตอรเ์ น็ต ในการศึกษา วจิ ัยเร่อื งน้ี หมายรวมถึง ตัวอนิ เตอร์เน็ตเองระบบออนไลน์ (อย่างเชน่ AmericaOn-line, Compuserve, Prodigy) หรอื ระบบ BBS (Bulletin Board Systems) และการศกึ ษาวิจยั คร้ังนี้ ไดร้ ะบุว่า ผ้ทู ่ีมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ อยา่ งน้อย 4 อย่างเปน็ เวลา นานอย่างน้อย 1 ปีถอื ได้ว่า มีอาการติดอนิ เตอร์เนต็ รู้สกึ หมกมุ่นกบั อนิ เตอร์เนต็ แมใ้ น เวลาทไี่ มไ่ ดต้ ่อกับอินเตอร์เนต็ ความตอ้ งการใชอ้ ินเตอร์เน็ตเปน็ เวลานานขน้ึ ไม่สามารถควบคมุ การใชอ้ นิ เตอรเ์ นต็ ได้ รู้สกึ หงุดหงิดเมื่อต้องใช้อนิ เตอรเ์ น็ตน้อยลงหรือหยุดใช้ ใชอ้ ินเตอร์เน็ตเปน็ วิธีในการหลีก เล่ยี งปัญหาหรือคดิ ว่าการใช้ อนิ เตอร์เน็ตทาให้ตนเองรูส้ ึกดีขน้ึ คนในครอบครัวหรือเพื่อน เรอื่ งการใช้อนิ เตอร์เนต็ ของตัวเอง การใช้อินเตอรเ์ น็ตทา ใหเ้ กดิ การเสี่ยงต่อการสญู เสยี งานการเรยี น และความสัมพันธ์ ยังใชอ้ นิ เตอรเ์ น็ตถึงแม้ว่าตอ้ งเสียคา่ ใช้ จา่ ยมากมี อาการผดิ ปกติ อย่างเชน่ หดหู่ กระวนกระวายเม่อื เลิกใช้อินเตอร์เนต็ เวลาในการใชอ้ นิ เตอร์เนต็ นานกว่าทตี่ วั เองได้ ตัง้ ใจไว้ สาหรับผ้ใู ชอ้ ินเตอรเ์ นต็ ที่ไม่เขา้ ขา่ ยขา้ งต้นเกิน 3 ขอ้ ในช่วงเวลา 1 ปี ถือว่ายงั เป็นปกติ จากการศึกษาวจิ ัย ผู้ท่ีใชอ้ นิ เตอร์เน็ตอย่างหนัก 496 คน มี 396 คนซ่ึงประกอบไปด้วย เพศชาย 157 คน และเพศหญงิ 239 คน เปน็ ผ้ทู ่ี เรยี กไดว้ ่า \"ตดิ อนิ เตอรเ์ นต็ \" ในขณะทีอ่ ีก 100 คน ยงั นับ เปน็ ปกติ ประกอบดว้ ยเพศชาย และเพศหญงิ 46 และ 54 คนตามลาดบั สาหรบั ผูท้ จ่ี ดั ว่า \"ติดอินเตอร์เน็ต\"น้ันไดแ้ สดงลักษณะอาการ ของการตดิ (คลา้ ยกบั การติดการพนนั ) และการใช้อนิ เตอร์เน็ต อย่างหนักเหมือนกบั การเล่นการพนนั ความผดิ ปกตใิ นการกินอาหาร หรือสุราเรื้อรงั มผี ล กระทบตอ่ การเรยี น อาชีพ สภาพทางสงั คมและเศรษฐกจิ ของคนคนนน้ั ถงึ แมว้ ่าการวจิ ัยท่ีผา่ นมาได้แสดงใหเ้ หน็ ว่า

17 การติดเทคโนโลยอี ย่างเชน่ การติดเลน่ เกมส์ ส่วนใหญจ่ ะเกิดข้นึ กบั เพศชายแตผ่ ลลัพธ์ข้างตน้ แสดงใหเ้ หน็ ว่า ผู้ท่ตี ดิ อนิ เตอรเ์ น็ต สว่ นใหญ่เป็นเพศหญงิ วยั กลางคนและไม่มงี านทา 2. เร่อื งอนาจารผิดศลี ธรรม ( Pornography/Indecent Content ) เรื่องของขอ้ มูลตา่ งๆ ทม่ี เี นื้อหาไป ในทางขัดตอ่ ศีลธรรม ลามกอนาจาร หรือรวมถึงภาพโปเ๊ ปลอื ยตา่ ง ๆ นนั้ เป็นเร่ืองท่ีมีมานานพอสมควรแล้ว บนโลก อนิ เตอรเ์ น็ต แตไ่ มโ่ จ่งแจ้งเน่ืองจากสมัยก่อนเปน็ ยุคท่ี WWW หรอื IT ยงั ไมพ่ ัฒนา มากนักทาใหไ้ ม่มภี าพออกมาแต่ ในปัจจุบนั ภายเหลา่ นีเ้ ปน็ ท่ีโจ่งแจง้ บนอนิ เตอร์เนต็ และสิง่ เหลา่ นีส้ ามารถเข้าสูเ่ ดก็ และเยาวชนได้งา่ ยโดยผ้ปู กครอง ไมส่ ามารถที่จะใหค้ วามดูแลไดเ้ ต็มที่เพราะวา่ อนิ เตอรเ์ น็ตน้ันเป็นโลกทีไ่ รพ้ รมแดนและเปิดกวา้ งทาใหส้ ่ือเหล่าน้สี าม รถเผยแพร่ไปไดร้ วดเรว็ จนเราไมส่ ามารถจับกมุ หรือเอาผิดผูท้ ีท่ าสิ่งเหล่านข้ี น้ึ มาได้ แสดงให้เห็นถงึ การใชอ้ นิ เตอร์เนต็ ที่ขาดความพอเพยี ง ความพอประมาณ ไร้ซึง่ ความสมเหตสุ มผล และไม่มี ภมู คิ ุ้มกนั ทีด่ ี การท่จี ะกระทาอะไรทีข่ าดสติ ขาดความรู้ ขาดคณุ ธรรมและจริยธรรม ก่อใหเ้ กิดปญั หาขึน้ มากมายทงั่ ใน ดา้ นเศรษฐกิจและปัญหาสังคมโดยรวม การใช้อนิ เตอร์เนต็ หรือเทคโนโลยตี ่างๆ นน้ั กส็ ามารถนาหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงนามาประยุกตใ์ ช้ไดใ้ ห้เป็นไปอยา่ งเหมาะสม เพื่อลดกระแสโลกาภิวัตน์ และให้เปน็ ไปอยา่ ง สมดลุ สมเหตสุ มผลในด้านทุนมนุษย์ ทุนเศรษฐกจิ (การเงิน) ทุนทรัพยากร (พลงั งาน) เราควรทจ่ี ะศึกษาและทา ความเข้าใจเก่ยี วกบั การใช้อนิ เตอร์เนต็ เพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชน์อยา่ งแท้จริง โดยประยกุ ตห์ ลักปรัชญา “เศรษฐกิจ พอเพียง” คอื ความพอประมาณ ด้านเทคโนโลยี ความเลอื กใชเ้ ทคโนโลยีที่เหมาะสม พอเพียงกบั การแกป้ ัญหา ไม่สร้างระบบการผลิตมากเกินไป (Over Production) หรอื ใชเ้ ทคโนโลยีมากเกินไป (Over Engineering) อะไรที่ มากเกนิ ไป หรอื ขาดแคลน ย่อมเปน็ ความสูญเปล่า ไม่กอ่ ประโยชนอ์ นั ใด หรอื สรา้ งประโยชน์ไม่ได้ และอาจจะสรา้ ง โทษภายหลัง เป็นสาเหตุกระทบในหัวขอ้ อื่น เช่น ทรัพยากรท่ถี กู ใช้อย่างรวดเร็ว การเสยี เงนิ ตราตา่ งประเทศในการ นาเขา้ เทคโนโลยี เป็นตน้ มเี หตุผล การลดต้นทุน หรอื รายจ่าย ยอ่ มทาใหเ้ ราเพ่ิมกาไร หรอื รายเหลือของประชาชน ทาใหเ้ กดิ การออม ไม่ใชจ้ ่ายเกินตวั เกนิ ความจาเป็น หรือ ใช้จา่ ยด้วยความ “พอดี” อีกทั้งยังลดการใชว้ ัตถุดิบ และ อีกนยั หนง่ึ ดา้ นสังคมประชาชน คนไทยจะมรี ายเหลือมากขึ้น เมอ่ื เรารู้จักประหยดั และลดคา่ ใชจ้ า่ ยที่ไมจ่ าเป็นใน ครวั เรือนลงภูมิคมุ้ กัน ภมู คิ ุ้มกัน ในความหมาย นคี้ อื การบรหิ ารความเสี่ยง ( Risk Management) จะตอ้ งมีแนวทาง ป้องกันไม่ ให้ทาอะไรท่เี สยี่ งเกินไป พอตวั และป้องกนั ปญั หาไวก้ ่อนท่ปี ญั หาจะเกิด โดยคานึงถงึ ผลที่จะตามมา หากเกดิ ปญั หาจากความเสยี่ งในดา้ นลบ หรอื ไม่ประสบความสาเร็จตามท่ีคาดการณ์ไว้ว่ายงั สามารถรบั มือได้หรอื ไม่ มคี ุณธรรม ความชอบธรรม เป็นสิง่ ทขี่ าดในสงั คมปจั จุบัน เป็นคุณสมบตั ิทีข่ าดไป ของผ้บู รหิ ารองค์การบางคน นักการเมืองบางทา่ น บางกลุ่มข้าราชการ บางกลมุ่ ของผปู้ ระกอบการ และขาดการกลไกการตรวจสอบจากภาค ประชาชนคนท่วั ไป คณุ ธรรม (Ethics) จะเปน็ หลกั พนื้ ฐานในการบริหารทั้งหมด จะต้องมองผมู้ ีส่วนได้ส่วนเสีย (Stake Holder) ไม่ใชเ่ จ้าของเท่าน้นั (Stock Holder) มีความรู้ การรู้เทา่ ทันตามความเปน็ จริง ซึ่งเปน็ หลักของศาสนาพทุ ธอีกข้อหนึ่ง ส่ิงที่จะทาใหร้ ้เู ท่าทันนัน้ คือ “ปญั ญา” เราจะตอ้ งทราบถึงข้อดี ข้อเสีย ผลท่ีจะเกิดตามมาในอนาคต ในการตามกระแสโลกาภวิ ัตน์ เช่น เราได้ ประโยชน์ เสียประโยชน์อย่างไร ส่ิงที่เป็นจุดอ่อนจะต้องเสรมิ สรา้ งเปน็ จุดแข็ง สิง่ ทเี่ ปน็ ภาวะคุกคามจะต้องเสริมเปน็ โอกาส ส่งิ เหลา่ จะทาใหป้ ระเทศของเราไม่เสยี เปรยี บ และไม่ตกเป็นทาสทางเศรษฐกิจของกระแสโลกาภิวตั น์ ทง้ั หมดนตี้ ้องอาศยั ความมี ศีล เป็นตน้ เหตุของปัญหาสงั คม การเมอื ง เศรษฐกจิ สมาธิ มคี วามนง่ิ สขุ ุม รอบคอบ ใจเย็น มคี วามมงุ่ มั่นในการทาความดี ปญั ญา มีความรู้ ความชานาญ รูเ้ ทา่ ทันตามความเปน็ จริง และ สามารถแก้ปัญหาทีต่ น้ เหตุ และปอ้ งกันปญั หาไม่ให้เกดิ หรือ เกดิ ซา้ ได้ ทัง้ หมดน้ีเป็นสงิ่ ทีช่ าวพุทธรแู้ ล้วทัง้ ส้ิน แตย่ งั ไม่ได้ “ปฏิบตั ิ” ถงึ เวลาหรอื ยัง ทเ่ี ราชาวไทยต้องมา ปฏิบัติอยา่ งจรงิ จงั และรู้รักสามัคคี รวมใจไทยเปน็ หนง่ึ เพื่ออนาคต และความยงั่ ยืนในการพฒั นาประเทศต่อไป

บทท่ี 3 วธิ กี ารดาเนนิ งาน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ จัดทาโครงการน้อมนาหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี งสู่ชมุ ชน (สวนนงนุช) มขี ั้นตอนดงั น้ี 1. ประชุมบคุ ลากรกรรมการสถานศึกษา 2. จดั ต้ังคณะทางาน 3. ประสานงานกับหน่วยงาน และบุคคลที่เก่ยี วข้อง 4. ดาเนินงานตามแผน 5. วดั ผล/ประเมินผล/สรปุ ผลและรายงาน ประชุมบคุ ลากรกรรมการสถานศกึ ษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสตั หีบ ได้วางแผนประชมุ กับบุคลากรกรรมการ สถานศกึ ษา เพื่อหาแนวทางในการดาเนนิ งานและกาหนดวตั ถปุ ระสงคร์ ว่ มกัน จัดตงั้ คณะทางาน จัดทาคาสง่ั แต่งตง้ั คณะทางานโครงการ เพ่ือมอบหมอบหมายหนา้ ท่ใี นการทางานให้ชัดเจน เช่น 1) คณะกรรมการทป่ี รึกษา/อานวยการ มหี น้าท่ีอานวยความสะดวก และให้คาปรึกษาแก้ไขปญั หาทีเ่ กิดข้ึน 2) คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพนั ธ์ มีหน้าท่ีประชาสมั พนั ธ์รับสมัครนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ 3) คณะกรรมการฝา่ ยรับลงทะเบียนและประเมินผลหนา้ ท่ีจัดทาหลกั ฐานการลงทะเบยี นผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรม และรวบรวมการประเมินผล และรายงานผลการดาเนินการ ประสานงานกับหนว่ ยงาน และบคุ คลทีเ่ ก่ยี วข้อง ประสานเครือข่ายท้ังหมดท่ีเกี่ยวข้อง เชน่ ประสานเร่อื งสถานที่ใช้อบรม ประสานงานกับคณะกรรมการ สถานศกึ ษา ประสานงานกับทมี วิทยากร และแขกผู้มีเกียรติเข้ารว่ ม ดาเนนิ การตามแผนงานโครงการ โครงการนอ้ มนาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่ชมุ ชน (สวนนงนุช) ในวันท่ี 12 กมุ ภาพันธ์ 2563 ณ นงนุชเทรดดิชนั่ เซ็นเตอร์ ตาบลนาจอมเทียน อาเภอสัตหบี จังหวดั ชลบรุ ี วัดผล/ประเมิน/สรุปผลและรายงาน จากการดาเนนิ งานโครงการน้อมนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่ชุมชน (สวนนงนุช) ในวนั ท่ี 12 กุมภาพนั ธ์ 2563 ณ นงนุชเทรดดชิ ัน่ เซ็นเตอร์ ตาบลนาจอมเทยี น อาเภอสัตหบี จังหวัดชลบรุ ี เป็นนักศึกษา กศน.อาเภอสตั หบี จานวน 50 คน

19 การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ จะได้นาแนวทางไปใช้ขอ้ มูลพิจารณาหลักสตู ร เนอ้ื หาตลอดจนเทคนิควิธกี ารจดั การกระบวนการเรียนรตู้ า่ งๆ เพือ่ ให้ตอบสนองความตอ้ งการของผ้เู ข้าอบรมไดร้ ับ ประโยชนน์ าไปใช้ไดจ้ รงิ ตามศักยภาพของแตล่ ะคน ให้มคี วามเขา้ ใจและมีคณุ ภาพตอ่ ไป ศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสตั หบี ได้ดาเนนิ การตามขน้ั ตอนและไดร้ วบรวมขอ้ มลู โดยกาหนดค่าลาดับความสาคญั ของการประเมนิ ผลออกเปน็ 5 ระดับ ดังน้ี มากท่สี ุด ใหค้ ะแนน 5 มาก ใหค้ ะแนน 4 ปานกลาง ใหค้ ะแนน 3 น้อย ให้คะแนน 2 นอ้ ยที่สดุ ใหค้ ะแนน 1 ในการแปลผล ผู้จดั ทาได้ใชเ้ กณฑ์การพจิ ารณาจากคะแนนเฉล่ียตามแนวคิดของ บญุ ชม ศรีสะอาด และบุญสง่ นวิ แกว้ (2535, หนา้ 22-25) 4.51-5.00 หมายความวา่ ดีมาก 3.51-4.50 หมายความวา่ ดี 2.51-3.50 หมายความวา่ ปานกลาง 1.51-2.50 หมายความวา่ น้อย 1.00-1.50 หมายความว่า ต้องปรับปรุง ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการจะตอ้ งกรอกขอ้ มูลตามแบบสอบถาม เพื่อนาไปใชใ้ นการประเมนิ ผลของการจดั กิจกรรม ดงั กลา่ ว และจะไดน้ าไปเปน็ ข้อมลู ปรับปรงุ และพฒั นา ตลอดจนใช้ในการจัดทาแผนการดาเนนิ การในปีต่อไป

บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งานและการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในการจดั กจิ กรรมโครงการน้อมนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสชู่ มุ ชน (สวนนงนชุ ) ในวนั ที่ 12 กุมภาพนั ธ์ 2563 ณ นงนุชเทรดดิช่นั เซ็นเตอร์ ตาบลนาจอมเทียน อาเภอสัตหบี จงั หวัดชลบรุ ี ซึ่งไดส้ รุปผลจาก แบบสอบถามและนาเสนอผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู จากผู้เขา้ ร่วมโครงการทัง้ หมด จานวน 50 คน และซง่ึ ได้สรปุ ผลจาก แบบสอบถามและนาเสนอผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล จากผู้เข้ารว่ มโครงการทั้งหมด ไวด้ ังนี้ ตอนที่ 1 ข้อมลู ส่วนตัวผตู้ อบแบบถามของผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมโครงการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สชู่ มุ ชน (สวนนงนชุ ) ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมที่ตอบแบบสอบถามได้นามาจาแนกตามเพศ ระดบั การศึกษา และอายุ ผู้จดั ทาได้นาเสนอจาแนกตามข้อมลู ดังกลา่ ว ดงั ปรากฏตามตารางท่ี 1 ดังต่อไปนี้ ตารางท่ี 1 แสดงคา่ ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ เพศ ชาย หญิง จานวน รอ้ ยละ ความคดิ เห็น จานวน ร้อยละ 29 58.00 โครงการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสชู่ ุมชน 21 42.00 (สวนนงนชุ ) รจากตารางท่ี 1 แสดงผู้ตอบแบบสอบถามของผ้เู ข้าร่วมโครงการนอ้ มนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง สชู่ มุ ชน (สวนนงนุช) เป็นชาย 21 คน คิดเปน็ ร้อยละ 42.00 เป็นหญงิ 20 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 58.00 ตารางท่ี 2 แสดงค่ารอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ อายุ ต่ากวา่ 15 ปี 16-39 ปี 40-59 ปี 60 ข้ึนไป ความคิดเหน็ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ โครงการน้อมนาหลักปรัชญา - - 20 40.00 25 50.00 5 10 เศรษฐกิจพอเพยี งสชู่ มุ ชน (สวนนงนุช) จากตารางท่ี 2 แสดงวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามของผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรมโครงการนอ้ มนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจ พอเพียงส่ชู มุ ชน (สวนนงนชุ ) ช่วงอายุ 16-39 ปี มจี านวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 ช่วงอายุ 40-59 ปี มีจานวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 50.00 และ60 ขนึ้ ไป มจี านวน 5 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 10

21 ตารางท่ี 3 แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชพี รบั จ้าง คา้ ขาย รบั ราชการ เกษตรกรรม อนื่ ๆ(วา่ งงาน) ประเภท จานวน รอ้ ย จานวน ร้อย จานวน ร้อย จานวน รอ้ ย จานวน รอ้ ย ละ ละ ละ ละ ความคดิ เหน็ ละ โครงการนอ้ มนา หลักปรชั ญา 15 30.00 7 14.00 - - 12 24.00 16 32.00 เศรษฐกจิ พอเพียง สชู่ มุ ชน (สวนนงนุช) จากตารางที่ 3 แสดงวา่ ผูต้ อบแบบสอบถามของผูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมโครงการนอ้ มนาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงสูช่ มุ ชน (สวนนงนุช) (ว่างงาน) มากทีส่ ุด จานวน 16 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 32.00 และรับจา้ ง จานวน 15 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 30.00 เกษตรกรรม จานวน 12 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 24.00 และน้อยท่สี ุดคอื ค้าขาย จานวน 7 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 14.00

22 ตอนที่ 2 ข้อมูลเกย่ี วกบั ความคิดเหน็ ของผเู้ ข้าร่วมโครงการนอ้ มนาหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่ชุมชน (สวนนงนุช) ความคดิ เหน็ ของผู้เข้ารว่ มกิจกรรม จานวน 50 คน จากแบบสอบถามท้งั หมดทม่ี ตี ่อโครงการน้อมนาหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งสู่ชุมชน (สวนนงนชุ ) ณ นงนชุ เทรดดชิ ัน่ เซน็ เตอร์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี N =50 รายการที่ประเมิน อันดับ ระดับผล µꝹ ท่ี การประเมนิ ดา้ นหลักสูตร 1. กิจกรรมท่ีจัดสอดคล้องกับวตั ถุประสงค์ ของหลักสตู ร 4.44 0.60 10 มาก 2. เนือ้ หาของหลักสูตรตรงกับความตอ้ งการของผู้รับบริการ 4.50 0.61 2 มาก 3. การจดั กจิ กรรมทาใหผ้ รู้ ับบริการสามารถ คิดเป็นทาเป็นแก้ปัญหาเป็น 4.45 0.69 4 มาก 4. ผ้รู บั บริการมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ ต่อการจัดทาหลกั สตู ร 4.35 0.75 12 มาก 5. ผรู้ ับบรกิ ารสามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในชีวติ ประจาวันได้ 4.55 0.69 1 มากสุด 6. สือ่ /เอกสารประกอบการจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม 4.45 0.51 4 มาก ด้านวทิ ยากร 7. วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการจดั กิจกรรม 4.50 0.5 2 มาก 8. เทคนิค/กระบวนในการจัดกจิ กรรมของวิทยากร 4.40 0.51 10 มาก 9. วิทยากรมกี ารใช้สื่อท่ีสอดคล้องและเหมาะสมกบั กิจกรรม 4.45 0.51 4 มาก 10. บุคลิกภาพของวิทยากร 4.45 0.60 4 มาก ดา้ นสถานท่ี ระยะเวลา และความพึงพอใจ 11. สถานท่ใี นการจดั กจิ กรรมเหมาะสม 4.35 0.81 12 มาก 12. ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมเหมาะสม 4.43 0.66 9 มาก 13. ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รบั บรกิ ารต่อการเขา้ ร่วมกิจกรรม 4.45 0.51 4 มาก คา่ เฉลย่ี 4.44 0.62 มาก ทททท

23 ท จากตารางท่ี 4 แสดงให้เหน็ ว่า ผู้เขา้ รว่ ม โครงการน้อมนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งส่ชู ุมชน (สวนนงนชุ ) พบวา่ อยใู่ นระดับดี เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า ผู้รบั บริการสามารถนาความรู้ไปปรับใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ (µ = 4.55) เป็นอนั ดบั ที่ 1 รองลงมาคือเน้ือหาของหลกั สตู รตรงกับความต้องการของผ้รู ับบริการ , วทิ ยากรมีความรู้ ความสามารถในการจดั กจิ กรรม (µ =4.50) การจัดกิจกรรมทาใหผ้ ูร้ ับบรกิ ารสามารถ คิดเปน็ ทาเป็นแกป้ ญั หาเป็น ,สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมคี วามเหมาะสม, วิทยากรมกี ารใชส้ อ่ื ทส่ี อดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม , บุคลกิ ภาพของวทิ ยากร , ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ ับบรกิ ารต่อการเข้าร่วม (µ =4.45) ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม (µ =4.43) กจิ กรรมทจ่ี ัดสอดคล้องกับวตั ถุประสงค์ของหลักสูตร ,เทคนิค/กระบวนในการจดั กิจกรรมของวทิ ยากร (µ X=4.40) ผู้รับบริการมสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ ต่อการจัดทาหลกั สูตร ,สถานทใี่ น การจดั กิจกรรมเหมาะสม (µ =4.35) ตามลาดบั ตารางที่ 5 ผลการประเมนิ ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมโครงการนอ้ มนาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสูช่ ุมชน (สวนนงนชุ ) เน้อื หาผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมโครงการน้อมนาหลกั N = 50 ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่ชุมชน (สวนนงนุช) µ Ꝺ อันดับที่ ระดบั ผลการประเมิน 1. การมสี ่วนร่วมในกิจกรรมกลมุ่ 4.45 0.51 3 มาก 2. ความพึงพอใจในการเข้ารว่ มโครงการ 4.50 0.61 2 มาก 3. การคดิ อย่างมเี หตผุ ล 4.55 0.69 1 มากสดุ 4. การเขา้ ใจ และรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น 4.40 0.75 4 มาก 5.การรูจ้ กั และเข้าใจตนเอง 4.35 0.75 5 มาก คา่ เฉลย่ี 4.44 0.66 มาก รรรรรรรร จากตารางท่ี 5 พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วผูเ้ ขา้ ร่วมผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรมโครงการน้อมนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่ชุมชน (สวนนงนชุ ) ในระดบั ดี เม่ือวเิ คราะหเ์ ปน็ รายพบว่า การคดิ อยา่ งมีเหตุผล (µ =4.55) รองลงมาคือ ความพงึ พอใจในการเขา้ ร่วมโครงการ (µ =4.50) การมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมกลมุ่ (µ = 4.45) การเข้าใจและรับฟัง ความคิดเห็นจากผู้อืน่ (µ = 4.40) การรจู้ ักและเข้าใจตนเอง (µ = 4.35) ตามลาดับ

บทที่ 5 สรปุ ผลการดาเนินการ อภิปราย และขอ้ เสนอแนะ ผลท่ปี รากฏ การจดั ทาโครงการน้อมนาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงสูช่ มุ ชน (สวนนงนชุ ) ในวันท่ี 12 กมุ ภาพนั ธ์ 2563 ณ นงนชุ เทรดดิช่นั เซน็ เตอร์ ตาบลนาจอมเทียน อาเภอสัตหบี จังหวัดชลบุรี เป็นประชาชนตาบลพลตู าหลวง จานวน 50 คน ตลอดระยะเวลาทีร่ ับการอบรมโดยมีการซกั ถามพูดคยุ ตอบโต้ ในวิทยากรอย่างสนใจ ในดา้ นต่างๆ คือ ดา้ นหลกั สตู ร - มคี วามสอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงคข์ องหลักสตู ร ผเู้ รียนมคี วามพงึ พอใจ - เนอื้ หาของหลักสูตรตรงกับความตอ้ งการของผเู้ ข้าอบรม ด้านวิทยากร - วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไดอ้ ย่างดี - เทคนคิ /กระบวนการในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ของวทิ ยากรเหมาะสม - วทิ ยากรมกี ารใชส้ อื่ ทสี่ อดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม - บคุ ลิกภาพของวิทยากร ดีเหมาะสม ดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพงึ พอใจ - สถานทใ่ี นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้มคี วามเหมาะ - ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เหมาะ - ผู้เข้ารบั การอบรมมีความพึงพอใจต่อการเข้ารว่ มกจิ กรรม สรุปผลการดาเนนิ งาน ผู้เขา้ ร่วมโครงการน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสชู่ มุ ชน (สวนนงนชุ )ของศนู ย์การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสตั หบี มคี วามพึงพอใจอยู่ในระดบั มาก คดิ เปน็ ร้อยละ 4.44 อภิปรายผล จากกิจกรรมโครงการน้อมนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงสู่ชุมชน (สวนนงนุช) ของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหบี 1.เข้ารว่ มโครงการมีความคิดเห็นตอ่ โครงการน้อมนาหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงสชู่ ุมชน (สวนนงนุช) ระดบั ดมี าก 2.ท่รี ว่ มโครงการมีความเปน็ ระเบียบและพร้อมเพยี งกันในการร่วมกจิ กรรม 3.ผู้ทร่ี ่วมโครงการไดร้ บั ประสบการณ์ตรงจากวทิ ยากร 4.ผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการสามารถนาความรทู้ ีไ่ ดไ้ ปถา่ ยทอดต่อผอู้ ื่น 5.ผูเ้ ข้าร่วมโครงการมีความสุขและสนุกกับการร่วมกิจกรรม ข้อเสนอแนะ ดา้ นแบบสารวจและวัดความพงึ พอใจของผู้เขา้ รบั การอบรม - ควรจะมีการจัดโครงการศึกษาดงู านในด้านอน่ื ๆ อย่างต่อเน่อื ง - จดั โครงการแบบนบ้ี ่อยๆ ไม่เครยี ด ได้เที่ยวในทใ่ี หมๆ่

ภาคผนวก

แบบประเมนิ ผู้เรยี น / โครงการนอ้ มนาหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงส่ชู ุมชน (สวนนงนุช) สว่ นที่ 1 คาชี้แจง ใส่เคร่อื งหมาย/ลงในช่องทต่ี รงกับขอ้ มูลของทา่ นเพียงช่องเดียว เพศ ชาย หญิง อายุ 14-39 ปี 40-59 ปี 60 ปีขึ้นไป อาชพี รบั จา้ ง ค้าขาย เกษตรกรรม รบั ราชการ อื่นๆ สว่ นท่ี 2 ด้านความพึงพอใจของผู้เรยี น/ผูร้ บั บรกิ าร (ใสเ่ คร่ืองหมาย/ลงในช่องที่ตรงกบั ความคิดเห็นของท่านเพียง ชอ่ งเดยี ว ข้อท่ี รายการ ระดบั การประเมิน มากที่สดุ มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ยท่สี ดุ กลาง 1 กิจกรรมทส่ี อดคล้องกับวตั ถุประสงคข์ องหลักสูตร 2 เนอื้ หาของหลักสตู รตรงกบั ความต้องการ 3 การจัดกจิ กรรมทาใหส้ ามารถคิดเปน็ ทาเปน็ แกป้ ัญหาได้ 4 ผรู้ บั บรกิ ารมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น 5 ผูร้ ับบริการสามารถนาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ 6 ส่อื /เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม 7 วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรม 8 เทคนิค/กระบวนการในการจัดกิจกรรมของวทิ ยากร 9 วิทยากรมีการใชส้ ่ือสอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม 10 บุคลกิ ภาพของวิทยากร 11 สถานทีใ่ นการจดั กิจกรรมเหมาะสม 12 ระยะเวลาในการจดั เหมาะสม 13 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้รับการอบรม

ใบสมัครโครงการน้อมนาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงสชู่ มุ ชน (สวนนงนุช) ณ นงนุชเทรดดิช่ันเซ็นเตอร์ ตาบลนาจอมเทียน อาเภอสัตหบี จังหวดั ชลบรุ ี วนั ที่ 12 กมุ ภาพันธ์ 2563 สถานศึกษา..ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสัตหีบ ข้อมลู สว่ นตัว (กรอกข้อมลู ด้วยตัวบรรจง) ช่อื -นามสกลุ (นาย/ นาง/ นางสาว)................................................................................................ เลขประจาตวั ประชาชน........................................เกิดวันที่............/................../...........อายุ.............. ปี สญั ชาติ................. ศาสนา....................... อาชพี ........................รายไดเ้ ฉลีย่ ตอ่ เดือน....................บาท ท่อี ยูป่ ัจจุบัน................................. หมูท่ .่ี .................................. หมบู่ ้าน................................................ ตาบล........................................ อาเภอ........................................ จงั หวดั ............................................. รหสั ไปรษณยี .์ .............................................. โทรศัพท.์ ........................................................................... ขอบคุณทุกทา่ นที่ใหค้ วามร่วมมอื

ที่ปรกึ ษา คณะผจู้ ัดทา นางสรุ สั วดี เลย้ี งสพุ งศ์ ผอ.กศน.อาเภอสตั หีบ คณะทางาน หวั หน้า กศน.ตาบลสตั หบี หวั หน้า กศน.ตาบลนาจอมเทียน 6.1 นางสาวสุภาวดี บางโสก หวั หนา้ กศน.ตาบลพลูตาหลวง 6.2 นายวรี ากร มณีทรัพย์ศุคนธ์ หวั หน้า กศน.ตาบลบางเสร่ 6.3 นางสภุ าภรณ์ นวมมา หวั หนา้ กศน.ตาบลแสมสาร 6.4 นางสุจนิ ดา บพุ นิมิตร 6.5 นางสาวประวีณา ดาวมณี ผูร้ วบรวม เรยี บเรียง และจัดพมิ พ์ นางสาวเกษนยี ์ เดชรกั ษา ครู กศน.ตาบลพลตู าหลวง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook