Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐานตำบลบ้านแหวน

สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐานตำบลบ้านแหวน

Published by chol pump, 2022-05-27 13:05:58

Description: สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน

Search

Read the Text Version

สภาพทวั่ ไปและขอ้ มลู พ้นื ฐาน 1 (1) ด้านกายภาพ 1) ท่ีต้ังของหมู่บ้านหรือชุมชนหรือตาบล คาขวญั ประจาตาบลบ้านแหวน “ ประเพณเี ลศิ ลำ้ วฒั นธรรมงำมเดน่ ประชำอยรู่ ม่ เยน็ บำ้ นแหวนเนน้ พฒั นำ ” ตำบล “บา้ นแหวน ” เดมิ มชี ื่อว่ำ “บ้านหนองแหวน ” เพรำะมีหนองนำแห่งหน่ึงในหม่บู ้ำน หนองนำนตี ังอยู่ทำงทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมูบ่ ้ำน มีควำมลึกและกวำ้ งเป็นอย่ำงมำก เปน็ ที่อยู่อำศัย และทท่ี ำมำหำกินของชำวบ้ำนและไดม้ ีผู้นำหมบู่ ้ำนซ่ึงมีศักด์ิเป็นกำนนั ในสมัยปัจจุบัน ช่ือวำ่ “พญามโน” ได้ปกครองดูแลลูกบ้ำนซึ่งเป็นหมู่บ้ำนเล็กๆ มีอยู่ไม่กี่หลังคำเรือน ท่ำนพญำมโนปกครองลูกบ้ำนด้วย คณุ ธรรม อยมู่ ำวนั หนงึ่ แม่ป๋ัน เป็นชำวบำ้ นในหมู่บำ้ นนไี ดอ้ อกหำปลำที่หนองนำแห่งนตี ำมปกติ และได้ พบแหวนโบรำณตดิ มำกับสวิงหำปลำ จึงนำแหวนวงนันไปให้พญำมโน เมอื่ ชำวบ้ำนทรำบข่ำวก็พำกันไป ดูเป็นจำนวนมำก ต่อมำชำวบ้ำนในแถบนันได้พบส่ิงผิดปกติเกิดขึนในหมู่บ้ำน ต่ำงก็ลงควำมเห็นว่ำเป็น ควำมศักดิ์สิทธ์ขิ องแหวนวงนันและเช่ือกันว่ำแหวนวงนันถ้ำไปอยู่ท่ีใคร หรือผู้ใดครอบครองแหวน มักมี เร่ืองรำวเกิดขึนกับคนๆนันเสมอ นับตังแต่นันเป็นต้นมำ ก็ไม่มีใครครอบครองแหวนวงนันและตกลงกัน วำ่ ควรเปน็ สมบัติของหมู่บำ้ นจงึ ไดต้ งั ชอื่ หมู่บ้ำนว่ำ“บ้านแหวน” เทศบำลตำบลบ้ำนแหวน เดิมเป็นสภำตำบล ตำมประกำศคณะปฏิวัติฉบับท่ี 326 ลงวันที่ 13 ธันวำคม 2515 ซึ่งมีฐำนะเป็นส่วนหนึ่งของรำชกำรบริหำรส่วนภูมิภำค หลังจำกนันได้มีประกำศ กระทรวงมหำดไทยลงวันที่ 16 ธันวำคม 2539 โดยอำศัยมำตรำ 40 และ 41 แห่งพระรำชบัญญัติ สภำตำบลและองค์กำรบริหำรส่วนตำบล พ.ศ.2537 ให้จัดตังสภำตำบลบ้ำนแหวนเป็นองค์กำรบริหำร ส่วนตำบลบ้ำนแหวน มีผลตังแต่วันท่ี 23 ธันวำคม 2539 ต่อมำกระทรวงมหำดไทยพิจำรณำแล้วเห็น ว่ำ องค์กำรบริหำรส่วนตำบลบ้ำนแหวน มีสภำพเหมำะสม สมควรให้จัดตังเป็นเทศบำลตำบล จึงอำศัย อำนำจตำมควำมในมำตรำ 42 แห่ง พระรำชบัญญัติสภำตำบลและองค์กำรบริหำรส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และมำตรำ 7 แหง่ พระรำชบัญญัติเทศบำล พ.ศ. 2496 รฐั มนตรีวำ่ กำรกระทรวงมหำดไทย จึง จัดตังองค์กำรบริหำรส่วนตำบลบ้ำนแหวน เป็นเทศบำลตำบลบ้ำนแหวน ตำมประกำศ กระทรวงมหำดไทย ลงวันท่ี 27ตุลำคม 2552 และให้มีฐำนะเป็นเทศบำลตำบลบ้ำนแหวน นับตังแต่ วันที่ 27 ตุลำคม 2552 เป็นตน้ มำ

2 ตราสญั ลักษณ์ประจาเทศบาลตาบลบ้านแหวน องค์ประกอบตราสญั ลักษณ์ มีรูปเป็นวงกลมสองวงซ้อนกัน โดยภำยในวงกลมเล็กด้ำนในมีรูปแหวนวงใหญ่ 1 วง ด้ำนในของ แหวนมีรูปบ้ำน 1 หลัง และมีก้อนเมฆลอยอยู่บนท้องฟ้ำ ซ่ึงบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของ ช่ือตำบลและแสดง ให้เห็นว่ำ ประชำชนในตำบลบ้ำนแหวนอยู่กันเป็นครอบครวั ที่อบอุ่นจำกสัญลักษณ์ ท่ีเป็นบ้ำนและท้องฟ้ำ ที่แจม่ ใส ควำมหมำยขององค์ประกอบตรำสัญลักษณม์ ีรำยละเอยี ดดังนี  รูปแหวน เป็นสัญลักษณ์ของตำบล ตำมประวัติดังเดิมของตำบล เดิมมีชื่อหมู่บ้ำนว่ำบ้ำนหนองแหวน ต่อมำมีกำรค้นพบแหวนโบรำณจำกหนองนำที่ใช้เป็นสถำนท่ีทำมำหำกินของชำวบ้ำนดังนันชำวบ้ำนจึงได้ลง ควำมเห็นกันว่ำควรเปล่ียนช่ือหมู่บ้ำนใหม่จำกเดิมบ้ำนหนองแหวนมำเป็น “บ้านแหวน” และต่อมำจึงได้รับ กำรยกฐำนะ ขนึ เป็นตำบลบำ้ นแหวน  รูปบ้าน มีควำมหมำยว่ำ ประชำชนในตำบลบ้ำนแหวนมีควำมรักควำมสำมัคคี เสมือนเป็นคนใน ครอบครัวเดียวกันทังหมด ถึงแม้ว่ำตำบลบ้ำนแหวนจะมีควำมเป็นอยู่ใกล้เคียงกับชุมชนเมืองเป็นอย่ำง มำก โดยสังเกตจำกกำรขยำยพืนท่ีของโครงกำรอสังหำริมทรัพย์ต่ำงๆที่ขยำยเข้ำมำซ่ึงแสดงถึงควำม เจริญเติบโตขึนอย่ำงต่อเน่ืองและไม่ว่ำตำบลบ้ำนแหวนจะเจริญขึนจนใกล้เคียงกับชุมชนในเมืองมำก เพยี งใดแต่ควำมรักควำมสำมัคคขี องคนในชมุ ชนก็ยงั คงมีอย่เู สมือนเปน็ ครอบครวั เดียวกันทังตำบล  สีนา้ เงิน เป็นสีประจำตำบลบำ้ นแหวน ซึง่ ได้ใชม้ ำตังแต่เปน็ องค์กำรบรหิ ำรส่วนตำบล  สีเหลือง เป็นสีที่แสดงถึงควำมจงรักภักดีต่อพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว หมำยควำมว่ำคณะ ผู้บริหำร สมำชิกสภำ พนักงำนและประชำชนในตำบลบ้ำนแหวนมีควำมจงรักภักดีต่อพระบำทสมเด็จ พระเจ้ำอยูห่ ัว ที่ต้ังของหมู่บ้านหรือตาบล เทศบำลตำบลบ้ำนแหวน ตังอยู่ห่ำงจำกที่ว่ำกำรอำเภอหำงดง ประมำณ 2 กิโลเมตรและตังอยู่ ห่ำงจำกอำเภอเมืองเชียงใหม่ ไปทำงทิศใต้ประมำณ 11 กิโลเมตร ตำมเส้นทำงหลวงแผ่นดินหมำยเลข 108 (ถนนสำยเชียงใหม่ – ฮอด) มีเนือท่รี วมประมำณ 14 ตำรำงกโิ ลเมตร หรอื ประมำณ 8,750 ไร่ อาณาเขต ติดตอ่ กับตำบลหนองควำยและตำบลสนั ผกั หวำน อำเภอหำงดง จังหวดั เชียงใหม่ ติดต่อกับตำบลหนองแก๋วและตำบลขุนคง อำเภอหำงดง จังหวัดเชยี งใหม่ ทิศเหนอื ทิศใต้

3 ทิศตะวันตก ตดิ ต่อกับตำบลนำแพร่และตำบลหำงดง อำเภอหำงดง จังหวัดเชียงใหม่ ทศิ ตะวนั ออก ติดต่อกับตำบลสบแม่ข่ำ อำเภอหำงดง จังหวดั เชียงใหม่ แผนท่ีแสดงอาณาเขตตาบลบา้ นแหวน 2) ลักษณะภูมิประเทศ (Landform) ภูมิประเทศของตำบลบ้ำนแหวน ตังอยู่บริเวณท่ีรำบตอนกลำงของอำเภอหำงดง ห่ำงจำก จังหวัดเชียงใหม่ไปทำงทิศใต้ตำมทำงหลวงหมำยเลข 108 (เชียงใหม่ - ฮอด) เป็นระยะทำง 11 กโิ ลเมตร สภำพภมู ิประเทศโดยทว่ั ไปภำยในตำบลเป็นท่ีรำบลมุ่ ไม่มีปำ่ เขำ มีคลองชลประทำน ไหลผ่ำน และด้ำนตะวันออกของตำบลส่วนใหญ่เป็นที่รำบ มีเนือที่ทังหมด ประมำณ 14 ตำรำงกิโลเมตร หรือ ประมำณ 8,750 ไร่ 3) ลักษณะภูมิอากาศ (Climate) ลักษณะอำกำศของจังหวัดเชียงใหม่ขึนอยู่กับอิทธิพลของลมมรสุมที่พัดประจำฤดูกำล 2 ชนิด คือ ลมมรสมุ ตะวันออกเฉียงเหนือ ซ่งึ พดั พำมวลอำกำศเย็นและแห้งจำกประเทศจนี ปกคลุมประเทศไทย ในช่วงฤดูหนำว ทำใหจ้ ังหวัดเชียงใหม่มอี ำกำศหนำวเย็นและแหง้ ทั่วไป กบั ลมมรสมุ ตะวันตกเฉยี งใต้ ซ่ึง พัดพำมวลอำกำศชืนจำกทะเลและมหำสมุทรปกคลุมประเทศไทยในช่วงฤดูฝน ทำให้จังหวัดเชียงใหม่มี ฝนตกท่ัวไป ตังอยู่ในเขตภูมิอำกำศแบบสะวันนำ คืออำกำศร้อน อุณหภูมิสูงตลอดปีในฤดูฝนมีฝนตก ปำนกลำง อุณหภูมิเฉล่ีย 24.85 องศำเซลเซียส ฤดูร้อนอำกำศร้อนอุณหภูมิประมำณ 35-40 องศำ เซลเซียส ฤดกู าล ฤดูกำลของจังหวัดเชียงใหม่ พิจำรณำตำมลักษณะลมฟ้ำอำกำศของประเทศไทย แบ่งออกได้ เปน็ 3 ฤดู ดังนี ฤดรู อ้ น เริ่มประมำณกลำงเดอื นกุมภำพนั ธถ์ งึ กลำงเดือนพฤษภำคม มอี ำกำศรอ้ นอบอำ้ วทว่ั ไป โดยเฉพำะในเดอื นเมษำยนเป็นเดอื นทม่ี ีอำกำศร้อนอบอ้ำว มำกท่ีสุดในรอบปี

4 ฤดูฝน เร่ิมประมำณกลำงเดือนพฤษภำคมถึงกลำงเดือนตุลำคม ซึ่งเป็นระยะที่ลมมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้ำสู่ประเทศไทย อำกำศจะเริ่มชุ่มชืน และมีฝนตกชุกตังแต่ประมำณกลำงเดือน พฤษภำคมเปน็ ต้นไปเดอื นท่มี ีฝนตกมำกทีส่ ดุ คือเดือนสงิ หำคม ฤดูหนำว เริ่มประมำณกลำงเดือนตุลำคมถึงกลำงเดือนกุมภำพันธ์ ซ่ึงเป็นช่วงที่มรสุ ม ตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย อำกำศโดยทั่วไปจะหนำวเย็นและแห้ง เดือนที่มีอำกำศ หนำวท่ีสดุ คือเดือนมกรำคม อณุ หภมู ิ เน่ืองจำกจังหวัดเชียงใหม่อยู่ทำงภำคเหนือตอนบน พืนท่ีส่วนใหญ่เป็นภูเขำสูงสลับซับซ้อนปก คลุม ทำให้มีอำกำศหนำวเย็นในฤดูหนำว อุณหภูมิเฉลี่ยทังปี 25.8 องศำเซลเซียส อุณหภูมิสงู สุดเฉลี่ย 32.2 องศำเซลเซียส โดยมีอำกำศร้อนที่สุดอยู่ในเดือนเมษำยน เคยตรวจอุณหภูมิสูงท่ีสุดได้ 42.5 องศำเซลเซียส เมื่อวันที่ 11 พฤษภำคม 2559 ท่ีศูนย์อุตุนิยมวิทยำภำคเหนือ อำเภอเมือง ส่วนฤดู หนำวมีอำกำศหนำวเย็น อุณหภูมิต่ำสุดเฉล่ีย 20.8 องศำเซลเซียส โดยมีอำกำศหนำวที่สุดอยู่ในเดือน มกรำคม ซ่ึงเคยตรวจอุณหภูมิต่ำท่ีสุดของจังหวัด 3.7 องศำเซลเซียส เม่ือวันที่ 2 มกรำคม 2517 ที่ สถำนอี ำกำศเกษตรแม่โจอ้ ำเภอสันทรำย ฝน จงั หวัดเชียงใหม่มีฝนตลอดปเี ฉลี่ยทังจังหวัดประมำณ 1,100 มิลลิเมตร โดยพืนท่ีตอนบนของ จงั หวัดบริเวณอำเภอฝำง เวยี งแหง เชยี งดำวและไชยปรำกำร มีปริมำณฝนสูงกวำ่ 1,200 มิลิเมตรซง่ึ สูง กว่ำบริเวณอ่ืน ๆ ส่วนพืนที่ทำงตอนล่ำงบริเวณอำเภอดอยเต่ำ จอมทอง แม่แจ่ม แม่วำงและตอนกลำง ของจังหวัดบริเวณอำเภอแม่ริม สันทรำยและสันกำแพง มีปริมำณฝนต่ำกว่ำ 1,000 มิลลเิ มตร บริเวณ อำเภอเมอื งมีปริมำณฝนตลอดปีประมำณ 1,130.6 มลิ ลิเมตรและมีฝนตกประมำณ 118 วัน เดือนที่มี ฝนตกมำกที่สุดคือเดือนสิงหำคม มีปริมำณฝนเฉลี่ย 217 มิลลิเมตรและฝนตกประมำณ 21 วัน ปรมิ ำณฝนมำกทีส่ ดุ ใน 1 วัน วัดได้ 166.5 มิลลเิ มตร เมือ่ วนั ท่ี 14 สงิ หำคม 2511 พายุหมุนเขตรอ้ น พำยุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนตัวผ่ำนเข้ำมำในบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ มีแหล่งกำเนิดจำกทะเลจีน ใต้และมหำสมุทรแปซิฟิกเหนือด้ำนตะวันตก โดยเคล่ือนตัวทำงตะวันตกผ่ำนประเทศเวียดนำมหรือลำว ก่อนเข้ำสู่ภำคเหนือของประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่ซ่ึงทำให้พำยุส่วนใหญ่อ่อนกำลังลงอยู่ในขัน พำยุดีเปรสช่ัน และไม่ก่อให้เกิดควำมเสียหำยเนื่องจำกลมแรงมำกนัก แต่จะทำให้มีฝนตกหนักถึงหนัก มำกจนเกิดนำท่วมฉับพลันได้ในบำงพืนท่ี พำยุหมุนเขตร้อนมีโอกำสเคล่ือนผ่ำนจังหวัดนีได้ตังแต่เดือน พฤษภำคมจนถึงเดอื นตลุ ำคม โดยเฉพำะช่วงตังแตก่ ลำงเดือนสิงหำคมต่อเนื่องถงึ ต้นเดือนกันยำยน เป็น ระยะท่พี ำยุหมนุ เขตร้อนมโี อกำสเคลือ่ นเขำ้ สู่จังหวดั นไี ด้มำกที่สุด หมายเหตุ - สถติ ิภมู ิอำกำศทเ่ี ปน็ ค่ำเฉลย่ี ใชข้ ้อมลู คำบ 30 ปี ตังแต่ พ.ศ. 2524 – 2553 - สถติ ิภูมิอำกำศที่มีค่ำเปน็ ที่สุดใชข้ อ้ มลู ตังแต่ พ.ศ. 2494 – 2562 ทีม่ า : ศูนย์ภมู ิอำกำศ สำนักพัฒนำอุตุนยิ มวทิ ยำ กรมอุตุนยิ มวิทยำ มกรำคม 2563 ศนู ยอ์ ุตุนิยมวิทยำภำคเหนอื http://www.cmmet.tmd.go.th

5 4) ลักษณะของดิน การใช้ทดี่ ิน เทศบำลตำบลบำ้ นแหวน แบ่งกำรใชท้ ดี่ นิ ออกเปน็ 3 ลักษณะ ดังนี  พืนท่ีถือครองเพื่อทีอ่ ยู่อำศัย  พืนทถี่ ือครองเพื่อกำรดำเนนิ กจิ กำรคำ้ ขำยและธรุ กจิ ขนำดย่อม  พืนทถ่ี ือครองเพื่อกำรเกษตรกรรม ไดแ้ ก่ กำรทำนำ ทำสวน ทำไร่

6 ที่มา กรมพฒั นำที่ดิน https://www.ldd.go.th/ (เมษำยน 2564)

7 (2) ดา้ นการเมือง/การปกครอง 1) เขตการปกครอง เทศบำลตำบลบำ้ นแหวน อำเภอหำงดง จงั หวัดเชยี งใหม่ มีเขตควำมรับผิดชอบ 1 ตำบล 13 หมูบ่ ำ้ น ดงั นี ตารางแสดงรายชือ่ หมู่บ้านในเขตเทศบาลตาบลบา้ นแหวน หมทู่ ่ี หมบู่ ้าน 1 บำ้ นไร่ 2 บำ้ นโขงขำว 3 บำ้ นทำ้ วบุญเรือง 4 บำ้ นชำ่ งคำน้อย 5 บำ้ นชำ่ งคำหลวง 6 บำ้ นปำกกอง 7 บำ้ นปำ่ หมำก 8 บำ้ นต้นเฮือด 9 บ้ำนเด่อื 10 บ้ำนจอมทอง 11 บ้ำนดู่ 12 บ้ำนดอนไฟ 13 บำ้ นศรีสรร 2) การเลือกตั้ง โครงสร้างการบรหิ าร นายกเทศมนตรี มำจำกกำรเลือกตังจำกประชำชนในเขตเทศบำลโดยตรง มีวำระกำรดำรง ตำแหน่งครำวละ 4 ปี ทำหน้ำท่ีบริหำรรำชกำรของเทศบำลตำมกฎหมำย นำยกเทศมนตรีแต่งตังรอง นำยกเทศมนตรี ซ่ึงมิใช่สมำชิกสภำเทศบำลเป็นผู้ช่วยเหลือในกำรบริหำรรำชกำรของเทศบำล จำนวน 2 คน ทป่ี รกึ ษำนำยกเทศมนตรี จำนวน 1 คน เลขำนุกำรนำยกเทศมนตรี จำนวน 1 คน สมาชิกสภาเทศบาล ทำหน้ำท่ีเป็นฝ่ำยนิติบัญญัติ ประกอบด้วย สมำชิกสภำเทศบำลท่ีมำจำกกำร เลือกตังจำกประชำชนในเขตเทศบำล จำนวน 12 คน มวี ำระกำรดำรงตำแหน่งครำวละ 4 ปี กำรเลือกตงั ของเทศบำลตำบลบำ้ นแหวน ไดแ้ บง่ เขตกำรเลือกตงั ออกเป็น 2 เขต ดังนี เขตเลอื กตงั้ ท่ี 1 ประกอบด้วย หมู่ท่ี 1 บำ้ นไร่ หมทู่ ่ี 2 บำ้ นโขงขำว หมู่ท่ี 3 บำ้ นทำ้ วบุญเรือง หมทู่ ่ี 6 บ้ำนปำกกอง หมูท่ ี่ 11 บ้ำนดู่ หมทู่ ่ี 12 บ้ำนดอนไฟ

8 หมู่ท่ี 13 บำ้ นศรสี รร หมู่ท่ี 5 บำ้ นช่ำงคำหลวง เขตเลือกตงั้ ท่ี 2 ประกอบดว้ ย หมทู่ ี่ 8 บ้ำนต้นเฮอื ด หมทู่ ่ี 10 บ้ำนจอมทอง หมทู่ ่ี 4 บำ้ นช่ำงคำนอ้ ย หมู่ที่ 7 บ้ำนปำ่ หมำก หมทู่ ี่ 9 บำ้ นเดอ่ื ตำรำงสถิตกิ ำรใช้สทิ ธิเลือกตงั นำยกเทศมนตรแี ละสมำชกิ สภำเทศบำลตำบลบำ้ นแหวน วันเลอื กตัง วันอำทิตย์ ท่ี 28 เดือนมีนำคม พ.ศ.2564 สถติ ิกำรใชส้ ิทธิเลือกตงั ประเภท ผมู้ ีสิทธ์ิ ผมู้ ำใช้สทิ ธิ์ บัตรดี บตั รเสีย บตั รไม่ประสงค์ เลือกตงั ลงคะแนน จำนวน รอ้ ยละ จำนวน รอ้ ยละ จำนวน รอ้ ยละ จำนวน ร้อยละ นำยกเทศมนตรี 9,202 6,316 68.64 5,512 87.27 203 3.21 601 9.52 สมำชกิ สภำ 4,742 3,072 64.78 2,567 83.56 114 3.71 391 12.73 เทศบำล เขต 1 สมำชิกสภำ 4,453 3,237 72.39 2,854 88.17 110 3.40 273 8.43 เทศบำล เขต 2 (3) ประชากร 1) ข้อมูลเกี่ยวกับจานวนประชากร จำกขอ้ มูลและสถิติประชำกรตำมทะเบยี นรำษฎร ณ เดอื น เดือน สงิ หำคม 2564 ตำบล บ้ำนแหวน มีจำนวนประชำกรรวมทังสิน 11,479 คน แยกเป็นชำย 5,333 คน หญิง 6,146 คน แยกรำยละเอียดได้ดังนี สถติ จิ านวนประชากร จังหวดั เชียงใหม่ อาเภอหางดง ตาบลบ้านแหวน ขอ้ มูลเดอื น สงิ หาคม 2564 พ้ืนท่ี ชาย หญิง รวม ยอดรวมท้ังหมด 5,333 6,146 11,479 หมู่ที่ 1 บ้ำนไร่ 560 595 1,155 หมทู่ ่ี 2 บ้ำนโขงขำว 394 416 810 หมทู่ ี่ 3 บ้ำนท้ำวบญุ เรอื ง 762 880 1,642 หมู่ที่ 4 บำ้ นช่ำงคำนอ้ ย 381 420 801 หมทู่ ่ี 5 บ้ำนช่ำงคำหลวง 660 790 1,450 หมทู่ ่ี 6 บ้ำนปำกกอง 212 261 473 หมทู่ ี่ 7 บ้ำนปำ่ หมำก 250 274 524 หม่ทู ี่ 8 บำ้ นต้นเฮอื ด 616 843 1,459 หมู่ท่ี 9 บำ้ นเดื่อ 266 311 577 หมทู่ ่ี 10 บำ้ นจอมทอง 398 376 774

9 หม่ทู ี่ 11 บ้ำนดู่ 330 408 738 หมู่ที่ 12 บำ้ นดอนไฟ 214 244 458 หมทู่ ี่ 13 บ้ำนศรีสรร 290 328 618 ท่ีมำ : https://stat.bora.dopa.go.th/ ระบบสถิตทิ ำงกำรทะเบยี น Official statistics registration systems สำนักบริหำรกำรทะเบียน กรมกำรปกครอง กระทรวงมหำดไทย หมู่บ้ำนท่ีมีจำนวนประชำกรต่ำท่ีสุดคือ บ้ำนดอนไฟ หมู่ท่ี 12 มีจำนวนประชำกร 458 คน แยกเปน็ เพศชำย 215 คน เพศหญิง 244 คน และหมู่บ้ำนทม่ี จี ำนวนประชำกรสูงทส่ี ุดคือ บำ้ นทำวบุญ เรือง หม่ทู ี่ 3 มีจำนวนประชำกร 1,642 คน แยกเป็นเพศชำย 762 คน เพศหญิง 880 คน 2) ชว่ งอายุและจานวนประชากร ตำรำงแสดง สถติ จิ ำนวนประชำกร แยกชำย-หญิง ตำมชว่ งอำยุ ประชากรรายอายุ แยกตามเพศ จังหวัดเชียงใหม่ อาเภอหางดง ตาบลบา้ นแหวน ข้อมูลเดือน สงิ หาคม 2564 อายุ (ปี) ชาย หญิง รวม 11,479 ยอดรวมทั้งหมด 5,333 6,146 71 81 อำยนุ อ้ ยกว่ำ 1 ปี 38 33 78 92 อำยุ 1 46 35 91 123 อำยุ 2 46 32 95 132 อำยุ 3 42 50 101 107 อำยุ 4 32 59 87 116 อำยุ 5 77 46 98 100 อำยุ 6 58 37 112 103 อำยุ 7 68 64 103 95 อำยุ 8 51 50 111 อำยุ 9 55 52 อำยุ 10 44 43 อำยุ 11 67 49 อำยุ 12 47 51 อำยุ 13 47 53 อำยุ 14 57 55 อำยุ 15 57 46 อำยุ 16 54 49 อำยุ 17 53 42 อำยุ 18 43 68

อายุ (ป)ี 10 หญงิ รวม อำยุ 19 63 116 อำยุ 20 ชาย 49 114 อำยุ 21 53 53 98 อำยุ 22 65 58 104 อำยุ 23 45 53 123 อำยุ 24 46 72 149 อำยุ 25 70 77 157 อำยุ 26 77 73 148 อำยุ 27 80 67 150 อำยุ 28 75 87 175 อำยุ 29 83 96 187 อำยุ 30 88 98 170 อำยุ 31 91 84 141 อำยุ 32 72 74 130 อำยุ 33 57 76 153 อำยุ 34 56 80 158 อำยุ 35 77 90 170 อำยุ 36 78 92 177 อำยุ 37 80 103 194 อำยุ 38 85 106 186 อำยุ 39 91 98 190 อำยุ 40 80 93 195 อำยุ 41 92 99 188 อำยุ 42 102 105 192 อำยุ 43 89 118 199 อำยุ 44 87 117 196 อำยุ 45 81 103 185 อำยุ 46 79 84 152 อำยุ 47 82 112 191 อำยุ 48 68 119 190 อำยุ 49 79 101 191 อำยุ 50 71 115 197 อำยุ 51 90 117 202 อำยุ 52 82 95 172 อำยุ 53 85 107 180 อำยุ 54 77 106 178 อำยุ 55 73 111 198 72 87

อายุ (ป)ี 11 หญงิ รวม อำยุ 56 118 213 อำยุ 57 ชาย 95 186 อำยุ 58 95 109 214 อำยุ 59 91 119 207 อำยุ 60 105 110 200 อำยุ 61 88 124 209 อำยุ 62 90 129 207 อำยุ 63 85 88 172 อำยุ 64 78 93 172 อำยุ 65 84 89 170 อำยุ 66 79 82 140 อำยุ 67 81 80 138 อำยุ 68 58 78 130 อำยุ 69 58 78 130 อำยุ 70 52 51 103 อำยุ 71 52 40 80 อำยุ 72 52 69 105 อำยุ 73 40 31 66 อำยุ 74 36 39 65 อำยุ 75 35 20 45 อำยุ 76 26 23 51 อำยุ 77 25 22 45 อำยุ 78 28 15 34 อำยุ 79 23 21 35 อำยุ 80 19 24 42 อำยุ 81 14 16 33 อำยุ 82 18 14 25 อำยุ 83 17 11 16 อำยุ 84 11 20 29 อำยุ 85 5 9 17 อำยุ 86 9 11 23 อำยุ 87 8 4 15 อำยุ 88 12 9 14 อำยุ 89 11 11 12 อำยุ 90 5 7 13 อำยุ 91 1 3 4 อำยุ 92 6 4 6 1 2

12 อายุ (ปี) ชาย หญงิ รวม อำยุ 93 0 4 4 อำยุ 94 2 2 4 อำยุ 95 3 3 6 อำยุ 96 0 2 2 อำยุ 97 0 0 0 อำยุ 98 1 0 1 อำยุ 99 0 1 1 อำยุ 100 0 1 1 อำยมุ ำกกว่ำ 100 ปี 0 2 2 ท่ีมำ : https://stat.bora.dopa.go.th/ ระบบสถิติทำงกำรทะเบยี น Official statistics registration systems สำนักบรหิ ำรกำรทะเบยี น กรมกำรปกครอง กระทรวงมหำดไทย ตารางแสดง สถติ จิ านวนครัวเรือนจากทะเบียน แยกรายหมบู่ า้ น หลัง/ครัวเรือน สถิตจิ านวนบ้าน 6,639 676 จังหวัดเชียงใหม่ อาเภอหางดง ตาบลบา้ นแหวน 384 ข้อมูลเดือน สงิ หาคม 2564 916 508 หมูบ่ า้ น 841 ยอดรวมทงั้ หมด 325 หมู่ท่ี 1 บำ้ นไร่ 418 หมู่ที่ 2 บำ้ นโขงขำว 866 หมู่ท่ี 3 บ้ำนทำ้ วบญุ เรอื ง 310 หมู่ที่ 4 บำ้ นช่ำงคำน้อย 295 หมู่ท่ี 5 บ้ำนชำ่ งคำหลวง 445 หมู่ท่ี 6 บ้ำนปำกกอง 244 หมู่ท่ี 7 บำ้ นป่ำหมำก 411 หม่ทู ี่ 8 บำ้ นตน้ เฮือด หมทู่ ี่ 9 บำ้ นเดื่อ หมู่ที่ 10 บ้ำนจอมทอง หมูท่ ่ี 11 บำ้ นดู่ หมู่ท่ี 12 บ้ำนดอนไฟ หมู่ที่ 13 บำ้ นศรีสรร ทม่ี ำ : https://stat.bora.dopa.go.th/ ระบบสถิติทำงกำรทะเบยี น Official statistics registration systems สำนักบริหำรกำรทะเบียน กรมกำรปกครอง กระทรวงมหำดไทย

13 (4) สภาพทางสังคม 1) การศึกษา ในเขตเทศบำลตำบลบำ้ นแหวน มศี ูนยพ์ ฒั นำเด็กกอ่ นวัยเรยี นและโรงเรียนในสังกดั สพฐ. ดังนี - โรงเรียนระดับเดก็ เล็กกอ่ นวัยเรยี น จำนวน 4 แห่ง - โรงเรยี นระดับอนบุ ำล จำนวน 4 แห่ง - โรงเรียนระดับประถมศึกษำ จำนวน 4 แหง่ - โรงเรยี นระดบั มธั ยมศึกษำ จำนวน - แหง่ จานวนนกั เรยี น -โรงเรยี นบ้ำนไร่ จำนวน 115 คน -โรงเรยี นบำ้ นท้ำวบญุ เรือง จำนวน 124 คน -โรงเรียนวัดช่ำงคำ จำนวน 138 คน -โรงเรยี นวัดจอมทอง จำนวน 116 คน ที่มำ : ขอ้ มูลกองกำรศึกษำฯ เทศบำลตำบลบ้ำนแหวน ณ วันที่ 23 พฤษภำคม พ.ศ.2563 โรงเรียนเอกชนตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตาบลบ้านแหวน - โรงเรียนระดบั เดก็ เลก็ ก่อนวัยเรยี น จำนวน 1 แหง่ - โรงเรียนระดบั อนบุ ำล จำนวน 2 แหง่ - โรงเรียนระดบั ประถมศกึ ษำ จำนวน 1 แห่ง - โรงเรยี นระดบั มัธยมศกึ ษำ จำนวน 1 แห่ง 2) สาธารณสุข ด้ำนกำรสำธำรณสุข ประชำกรส่วนใหญ่มีมำตรฐำนทำงด้ำนสำธำรณสุขทั่วไปอยู่ ในเกณฑ์ที่ดี กำรระบำดของโรคติดต่อตำมฤดูกำลมีไม่บ่อยนัก เช่น โรคไข้เลือดออก โรคทำงเดินระบบอำหำร ซ่ึงถ้ำ เกิดกำรระบำดของโรคต่ำง ๆ ขึนแล้ว ทำงเทศบำลตำบลบ้ำนแหวนและเจ้ำหน้ำที่สำธำรณสุขระดับ ตำบล อำเภอและจงั หวัด จะรว่ มกนั เข้ำไปแกไ้ ขปญั หำโดยด่วน เพอื่ ปอ้ งกันและระงับกำรระบำดของโรค ประชำชนได้รับสิทธิกำรรักษำพยำบำลของรัฐ เช่น บัตรประกันสุขภำพ (บัตรประกันสุขภำพ 30 บำท) เพ่ือใช้สิทธิเข้ำรักษำในสถำนพยำบำลหรือโรงพยำบำลของรัฐหรือเอกชน และยังมีโรงพยำบำลส่งเสริม สุขภำพระดบั ตำบล ในกำรดูแลดำ้ นกำรสำธำรณสขุ ใหก้ บั ประชำชนในพนื ที่ จำนวน 2 แหง่ คือ  โรงพยำบำลส่งเสรมิ สุขภำพตำบลบำ้ นไร่ ตังอยู่ หมทู่ ่ี 1 ตำบลบำ้ นแหวน  โรงพยำบำลส่งเสรมิ สขุ ภำพตำบลบ้ำนตน้ เฮือด ตงั อยู่ หมู่ที่ 8 ตำบลบำ้ นแหวน 3) อาชญากรรม ความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพย์สิน เทศบำลตำบลบ้ำนแหวน มเี ครื่องมือ อปุ กรณ์ ในกำรอำนวยกำรเกยี่ วกบั ควำมปลอดภยั ในชีวติ และ ทรัพย์สนิ ของประชำชน ดงั นี  รถบรรทุกนำดบั เพลิงอเนกประสงค์ จำนวน 2 คนั  รถกู้ชีพ-กู้ภยั ขนำดกลำงพรอ้ มอุปกรณ์มำตรฐำน จำนวน 1 คัน

14 4) การสังคมสงเคราะห์ ประชำกรที่ไดร้ ับเงนิ สงเครำะหจ์ ำกเทศบำลตำบลบำ้ นแหวน จำนวน 2,198 รำย ดงั นี -ผูส้ งู อำยุ จำนวน 1,868 รำย -ผูพ้ กิ ำร จำนวน 306 รำย -ผู้ปว่ ยเอดส์ จำนวน 24 รำย ทม่ี ำ : ขอ้ มูลงำนพฒั นำชมุ ชน เทศบำลตำบลบ้ำนแหวน ณ วันท่ี 23 พฤษภำคม พ.ศ.2563 (5) ระบบบริการพืน้ ฐาน 1) การคมนาคมขนส่ง (ทางบก,ทางนา้ ,ทางราง ฯลฯ) กำรคมนำคมภำยในตำบลบ้ำนแหวนและพืนท่ีข้ำงเคียง ค่อนข้ำงสะดวกสำมำรถติดต่อถึงกันได้ทุก หมู่บ้ำน เนื่องจำกมีเส้นทำงคมนำคมทำงบกที่แยกออกจำกทำงหลวง เชียงใหม่ – ฮอด (หมำยเลข 108) อยู่หลำยเส้นทำง เข้ำสู่บริเวณพืนที่ชุมชนทุกหมู่บ้ำนภำยในตำบล สภำพโดยทั่วไปของถนนเป็น ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก และถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีต สลับกับถนนลูกรังบำงช่วง มีขนำดผิวจรำจรกว้ำง ประมำณ 3–4 เมตร ถนนบำงส่วนมีสภำพชำรุด เสียหำยเป็นหลุมเป็นบ่อ นอกนันเป็นถนนลูกรังขนำดกว้ำง ประมำณ 2–4 เมตร ตดั ผำ่ นบรเิ วณพนื ทเ่ี กษตรกรรมทห่ี ่ำงไกล นอกจำกนัน เส้นทำงคมนำคมที่สำคัญของตำบลบ้ำนแหวน ยังเปรียบเสมือนประตูสู่แหล่ง ท่องเที่ยวและหมู่บ้ำนแหล่งผลิตสินค้ำหัตถกรรมที่สำคัญ คือ หมู่บ้ำนหัตถกรรมบ้ำนถวำย ซ่ึงถือได้ว่ำ เป็นแหล่งผลติ สินค้ำหัตถกรรมขนำดใหญ่ ได้รบั ควำมสนใจจำกนักทอ่ งเทีย่ วทังชำวไทยและชำวต่ำงชำติ ซ่ึงปัจจุบันเส้นทำงดังกล่ำวมีสภำพที่คับแคบ ภูมิทัศน์สองข้ำงทำงไม่สวยงำม เกิดกำรชำรุดเสียหำย จำนวนหลำยจุดทำให้ประชำชนและนักท่องเท่ียวที่ใช้เส้นทำงดังกล่ำว ไม่ได้รับควำมสะดวกและ ปลอดภยั 2) การไฟฟ้า ตำบลบ้ำนแหวน มีกำรใหบ้ รกิ ำรของกำรไฟฟ้ำสว่ นภมู ภิ ำคอำเภอหำงดง 197 หมู่ที่ 8 ตำบลหนองแก๋ว อำเภอหำงดง จังหวัดเชียงใหม่ หมำยเลขโทรศัพท์ 053-441096 ซ่ึงเปิดบริกำร ตลอด 24 ชัว่ โมง โดยมพี ืนท่ที ไ่ี ด้รับบรกิ ำร จำนวน 13 หมบู่ ำ้ น เตม็ พืนท่ี 100 เปอร์เซ็นต์ 3) การประปา ประชำกรของตำบลบ้ำนแหวน ใช้นำในกำรอุปโภค – บริโภค จำกระบบประปำชุมชน / หมู่บ้ำน ครบทุกหมู่บ้ำน ส่วนกำรบริกำรนำจำกระบบประปำส่วนภูมิภำคจะอยู่ในพืนที่ของหมู่บ้ำน จัดสรรตำ่ ง ๆ 4) โทรศัพท์ ระบบกำรติดต่อส่ือสำรในพืนที่มีควำม สะดวก รวดเร็ว มีทังระบบโทรศัพท์ส่วนบุคคล โทรศัพท์ สำธำรณะ และโทรศัพท์เคล่ือนท่ี ให้บริกำรอย่ำงทั่วถึงและครอบคลุมพืนท่ี ผู้ให้บริกำรด้ำนกำรสื่อสำรใน พืนท่ีท่ีสำคัญ ได้แก่ ระบบโทรศัพท์ของบริษัท ทศท. คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหำชน), บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหำชน) นอกจำกนันยังมีระบบโทรศัพท์เคล่ือนท่ี อำทิเช่น ระบบ AIS , ระบบ DTAC และ ระบบ True เปน็ ตน้ ซ่ึงครอบคลมุ เข้ำถึงพืนทที่ ังหมดของเทศบำลตำบลบำ้ นแหวน

15 (6) ระบบเศรษฐกิจ 1) การเกษตร ประชำกรในเขตตำบลบ้ำนแหวน มีรำยได้ส่วนมำกจำกกำรทำกำรเกษตร อำทิเช่น ทำนำ ข้ำวไร่ ทำ สวนลำไยและปลูกถั่วเหลือง เป็นต้น แต่รำยได้ของเกษตรกรยังไม่ดีพอเน่ืองจำกกลไกกำรตลำด บำงปีมี ผลผลิตมำกทำให้รำคำผลผลิตตกต่ำ ขำดกำรนำเทคโนโลยีมำใช้ในกำรเกษตรกรรม ผู้บริโภค ต่ืนกลัว เนอื่ งจำกเกษตรกรใชส้ ำรเคมีในกำรเกษตรกรรมมำกเกนิ ควำมจำเปน็ ข้อมูลดา้ นแหล่งน้าการเกษตร มีแหล่งนำเพื่อกำรเกษตรไหลผ่ำน อำทิเช่น คลองส่งนำจำกชลประทำน และมีแหลง่ นำ ธรรมชำติไหลผ่ำน ไดแ้ ก่ ลำนำแม่ทำ่ ชำ้ ง เป็นตน้ ขอ้ มูลด้านแหล่งนา้ กิน น้าใช้ (หรือน้าเพื่อการอปุ โภค บริโภค) ประชำชนใชน้ ำเพอ่ื กำรอปุ โภค – บรโิ ภค จำกระบบประปำหมบู่ ้ำน จำนวน 13 หม่บู ำ้ น 2) การบริการ สว่ นประกอบกำรด้ำนบริกำร ก.โรงแรม / รีสอรท์ จำนวน 3 แห่ง ข.โรงภำพยนต์ จำนวน - แหง่ ค.สถำนทจี่ ำหนำ่ ยอำหำรตำม พ.ร.บ.สำธำรณสุข พ.ศ. 2535 จำนวน 1 แห่ง ง.ร้ำนอำหำร จำนวน 80 แห่ง จ.ร้ำนขำยของ จำนวน 132 แหง่ ฉ.บำ้ นเชำ่ จำนวน 26 แหง่ ช.หอ้ งเชำ่ หอพกั ห้องแถว จำนวน 102 แห่ง ซ.โรงงำน โรงเกบ็ ของ โกดัง โรงเลอื่ ยไม้ จำนวน 57 แหง่ ทีม่ ำ : ขอ้ มลู งำนพฒั นำและจัดเก็บรำยได้ กองคลัง เทศบำลตำบลบำ้ นแหวน ณ วนั ท่ี 23 พฤษภำคม พ.ศ.2563 3) การท่องเที่ยว เทศบำลตำบลบ้ำนแหวน เป็นแหล่งผลิตสินค้ำหัตถกรรมไม้แกะสลักและแอนติกที่สำคัญของ จังหวัดเชียงใหม่ ซ่ึงเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทังชำวไทยและชำวต่ำงชำติ นอกจำกนัน ยังมีสถำนท่ี ท่องเท่ียวสำคญั ทไ่ี ดร้ บั ควำมนิยมจำกนกั ท่องเทย่ี วอีกหลำยแห่ง อำทิ เชน่ วัดโขงขาว ตังอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลบ้ำนแหวน อำเภอหำงดง จังหวัดเชียงใหม่ ในอดีตตำมตำนำนเล่ำสืบทอด กันมำว่ำ วัดโขงขำวแห่งนี พร้อมทังศำสนวัตถุมีวิหำรเป็นต้นไม้ ก่อสร้ำงขึนเมื่อสมัยพระนำงจำมเทวี เสดจ็ มำสร้ำงเจดีย์พระธำตุดอยคำในขณะเดียวกนั กม็ พี ระรำชศรัทธำได้สร้ำงวหิ ำรวัดโขงขำวขนึ เป็นพระ พุทธบูชำมีพระอำจำรย์เจ้ำอำวำสสืบต่อกันมำหลำยรูปตังแต่ ครูบำนันทะเถระ, ครูบำพรหม, ครูบำ โปธำ, ครูบำตำคำพระอธิกำรอินตำ พระครูปิยรัตนภรณ์ ในปัจจุบันมีพระครูปลัดจู วชิรเมธี เป็นเจ้ำ อำวำสวัดโขงขำว มี ศำสนสถำนท่ีท่ีสวยงำมหำดูได้ยำก เช่น พระวิหำร พระอุโบสถหินอ่อน ศำลำ

16 ลำยล้อมพระอุโบสถภำยในวัดยังสะอำด ร่มร่ืน กว้ำงขวำงเหมำะสำหรับผู้ที่ตอ้ งกำรปฏิบัตธิ รรมพักผ่อน หย่อนใจ ชมศิลปะงำนปูนปั้นงดงำม ประณีต หำดูได้ยำก เดินทำงสะดวกโดยใช้ถนนสำยเลียบคลอง ชลประทำน วดั ป่าหมาก ตังอยู่ที่หมู่บ้ำนป่ำหมำก หมู่ท่ี 7 ตำบลบ้ำนแหวน อำเภอหำงดง จังหวัดเชียงใหม่ มีเนือที่ 2 ไร่ 3 งำน 31 ตำรำงวำ ซ่ึงเป็นวัดเก่ำแก่วัดหน่ึง จำกคำบอกเล่ำจำกคนเก่ำคนแก่ในหมู่บ้ำนว่ำ สถำนที่นีเป็นวัด ร้ำงมำหลำยช่ัวอำยุคนแล้ว มำในปี พ.ศ.2515 พระอำจำรย์บุญมำ ฐิตสทฺโธ พร้อมด้วยญำติธรรม โดยกำรนำ ของพ่อกำนันหลวงวิญญำรัตน์ ได้นำญำติธรรมมำทำกำรแผ้วถำง วัดร้ำง ซึ่งเป็นป่ำอันรกทึบให้มีควำม สะอำดขึน จึงได้บูรณะปฏิสังขรณ์เพ่ือท่ีจะสร้ำงเป็นวัดขึน อำจำรย์บุญมำก็ได้พบแผ่นจำรึกขึนหน่ึงแผ่น จำรึก ในแผ่นอิฐในองค์พระเจดีย์อันเก่ำแก่จึงได้นำไปให้ผู้เช่ียวชำญทำงโบรำณคดี จึงทรำบว่ำวัดนีสร้ำงมำ ประมำณปี พ.ศ. 2115 พระอำจำรย์บุญมำ ฐิตสทฺโธ พร้อมด้วยญำติธรรม จึงบูรณะขึนใหม่ ในวัดนีมี ควำมสำคัญในตำบลบ้ำนแหวนและชำวบ้ำนป่ำหมำก ด้วยเหตุว่ำวัดแห่งนีเป็นวัดท่ีมีพระธำตุเจดีย์ ประดษิ ฐ์สถำนอยู่และผ้คู นในชุมชนและใกล้เคียงไดจ้ ัดให้มีประเพณีสรงนำพระธำตุกันมำตังแตอ่ ดีตจนถึง ปจั จุบัน 4) อุตสาหกรรม โรงงำนอุตสำหกรรมในตำบลบ้ำนแหวน เป็นโรงงำนอุตสำหกรรมขนำดเล็ก มีโรงงำนอุตสำหกรรมท่ี สำคญั ได้แก่ โรงงำนอตุ สำหกรรมในครัวเรือน เช่น กำรแกะสลกั จำกไม้ โรงงำนแอนติก โรงสขี ำ้ ว เป็นตน้ ก. โรงงำนแกะสลัก จำนวน - แห่ง ข. โรงงำนแอนติก จำนวน - แห่ง ค. โรงสีข้ำว จำนวน 3 แหง่

17 7) การพาณิชย์และกลุ่มอาชีพ จำนวน 9 แหง่ สถำนประกอบกำรด้ำนพำณิชยกรรม จำนวน 1 แหง่ ก.ปมั๊ นำมันหยอดเหรยี ญ จำนวน - แหง่ ข.ศูนยก์ ำรค้ำ / ห้ำงสรรพสินค้ำ จำนวน 1 แห่ง ค.ตลำดสด (เอกชน) จำนวน 132 แหง่ ง.ศนู ยอ์ ำหำร จำนวน 2 แห่ง จ.รำ้ นค้ำทว่ั ไป จำนวน 6 แห่ง ฉ.รำ้ นสะดวกซอื (เซเวน่ อีเลฟเวน่ ) ช.โรงงำนนำด่ืม ตำรำงแสดงรำยชื่อวิสำหกิจชุมชน ตำบลบำ้ นแหวน อำเภอหำงดง จังหวัดเชียงใหม่ ท่มี ำ : งำนพัฒนำชุมชน เทศบำลตำบลบ้ำนแหวน ข้อมลู ณ วันท่ี 2 มีนำคม 2564 ลาดับ เลขทะเบียน ชื่อ ทต่ี ้ัง วันจัดตง้ั 1 6-50-15- วิสำหกจิ ชุมชนนำดมื่ ทำ้ ว 251 หมู่ 3 ต.บำ้ นแหวน 12/10/2548 07/1-0005 บุญเรอื ง อ.หำงดง จ.เชียงใหม่ 2 6-50-15- วิสำหกจิ ชุมชนกลมุ่ แปร 34/1 หมู่ 13 ต.บำ้ นแหวน 6/2/2549 07/1-0010 รปู อำหำรและหัตถกรรม อ.หำงดง จ.เชยี งใหม่ โทรศัพท์ พืนบ้ำน 053-431467 3 6-50-15- วิสำหกจิ ชุมชนกลมุ่ ผลิต 118 หมู่ 10 ต.บ้ำนแหวน 27/9/2549 07/1-0013 งำนไมแ้ ละแปรรปู ไม้ หมู่ อ.หำงดง จ.เชยี งใหม่ โทรศพั ท์ 10 บำ้ นแหวน 053-368638 4 6-50-15- วสิ ำหกิจชมุ ชนกลุ่มป๋ยุ 68/1 หมู่ 5 ต.บำ้ นแหวน 22/3/2554 07/1-0022 อินทรยี ์หมอดินตำบล อ.หำงดง จ.เชียงใหม่ โทรศพั ท์ บำ้ นแหวน 089-8516932 5 6-50-15- วิสำหกจิ ชมุ ชนกลมุ่ 53 หมู่ 6 ต.บำ้ นแหวน อ.หำง 2/2/2555 07/1-0026 ศลิ ปะประดิษฐบ์ ำ้ นปำก ดง จ.เชียงใหม่ โทรศพั ท์ 081- กอง 9602331 6 6-50-15- วสิ ำหกิจชุมชนกลมุ่ 135 หมู่ 8 ต.บำ้ นแหวน 8/3/2556 07/1-0038 เกษตรอินทรีย์ตำบลบ้ำน อ.หำงดง จ.เชียงใหม่โทรศัพท์ แหวน 083-6357704 7 6-50-15- วสิ ำหกิจชมุ ชนกลุ่มนวด 15/2 หมู่ 5 ต.บำ้ นแหวน อ. 20/7/2558 07/1-0039 แผนไทยตำบลบำ้ น หำงดง จ.เชยี งใหม่ โทรศพั ท์ แหวน 8 6-50-15- วิสำหกิจชมุ ชนกลุ่มสุรำ 110 หมู่ 9 ต.บ้ำนแหวน อ. 22/12/2560 07/1-0040 กล่ันชุมชนเหรยี ญบำ้ น หำงดง จ.เชยี งใหม่ โทรศพั ท์ เดื่อ 0896362163 ลาดับ เลขทะเบียน ช่ือ ท่ตี ้งั วันจัดตัง้

18 9 6-50-15- วสิ ำหกิจชุมชนกล่มุ 132 หมู่ 6 ต.บำ้ นแหวน อ. 15/10/2562 07/1-0041 ผ้ผู ลิตและแปรรูปผลผลิต หำงดง จ.เชียงใหม่ โทรศพั ท์ ทำงกำรเกษตรตำบล 0979571280 บำ้ นแหวน 10 6-50-15- วสิ ำหกจิ ชมุ ชนกลุ่ม 97/2 หมู่ 1 ต.บำ้ นแหวน อ. 15/6/2563 07/1-0042 ผู้ผลติ และแปรรูปเห็ด หำงดง จ.เชียงใหม่ โทรศพั ท์ แห่งเมอื งลำ้ นนำ 0953150940 7) ศาสนา ประเพณี วฒั นธรรม 1)การนับถือศาสนา ในเขตเทศบำลตำบลบ้ำนแหวน ประกอบด้วย วัด จำนวน 11 แห่ง โบสถ์ศำสนำคริสต์ จำนวน 5 แห่ง ประชำกรส่วนใหญ่ของตำบลบ้ำนแหวน นบั ถือศำสนำพุทธ มีวถิ ีกำรดำเนนิ ชีวิตเชน่ เดยี วกับชำว ล้ำนนำทั่วไป กล่ำวคือเมื่อถึงวันพระและวันสำคญั ทำงพระพุทธศำสนำประชำชนจะทำบุญตักบำตรหรือ ประกอบพิธีกรรมทำงศำสนำตำมประเพณีหรือควำมเชื่อตำมหลักศำสนำ ของตน เช่นอดีตกำล ภำษำ พูดทีใ่ ช้ส่วนใหญ่เป็นภำษำพืนเมืองท่ีเรียกว่ำ“กาเมือง” ประเพณีวัฒนธรรมท่ีสำคัญไดแ้ ก่ ประเพณีลอย กระทง ประเพณีสงกรำนต์ กำรถวำยสลำกภัตต์ ปอยหลวง เปน็ ตน้ เพือ่ เป็นกำรเฉลิมฉลองสง่ิ ปลูกสรำ้ ง ในวัด เป็นตน้ ประชำชนสว่ นใหญ่ของพืนที่ นับถอื ศำสนำพทุ ธโดยมีขอ้ มลู ศำสนสถำน ดังนี วดั จำนวน 11 แหง่ ประกอบด้วย 1. วัดชยั วฒุ ิ 2. วดั โขงขำว 3. วดั ปฮู่ อ่ 4. วดั ชำ่ งคำหลวง 5. วดั ปำ่ หมำก 6. วดั เทพประสทิ ธ์ิ (วัดต้นเฮือด) 7. วดั วรเวทย์วิสิฐ (วัดช้ำงหมอ้ ) 8. วดั จอมทอง 9. วดั สนั กู่สทุ ธิพันธ์ 10 วดั ดอนไฟ 11. วัดท้ำวบุญเรือง โบสถ์จานวน 5 แห่ง ได้แก่ จำนวน 1 แหง่ 1. โบสถห์ มู่ท่ี 2 บำ้ นโขงขำว จำนวน 3 แห่ง จำนวน 1 แห่ง 2. โบสถห์ มทู่ ่ี 4 บ้ำนชำ่ งคำน้อย 3. โบสถห์ มู่ที่ 13 บ้ำนศรสี รร 2) ประเพณีและงานประจาปี  พิธกี รรมกน๋ิ อ้อผญา

19 พิธีกรรมนีถือเป็นประเพณีประจำตำบลบ้ำนแหวน โดยเฉพำะหมู่บ้ำนท้ำวบุญเรือง (หมู่ที่ 3) เป็น ประเพณีที่สืบทอดกันมำแต่โบรำณ ผู้ที่จะทำพิธีนีได้จะเป็นครูอำจำรย์ที่อยู่วัดเป็นผู้ท่ีมีควำมรอบรู้ในสำขำ ต่ำง ๆ (ในอดีตถือเป็นผู้ที่มีควำมรู้มีคำถำ อำคม ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ) จนได้รับกำรยกย่องและยอมรับจำก ชุมชน เท่ำนัน “พิธีกรรมกิ๋นอ้อผญา” มักจะจัดขึนในวันผญำวัน คือวันที่ 13 เมษำยน ของทุกปี เพรำะ คนเมอื งจะมคี วำมเชือ่ วำ่ วนั นเี ป็นวันเริ่มตน้ ของปี เป็นวันปำกปี แต่หำกจัดขนึ ในวันที่ 13 เมษำยน ไม่ได้ ก็จะพยำยำมจัดให้อยู่ในเดือนเมษำยน “พิธีกรรมก๋ินอ้อผญา” หรือเรียกกันสัน ๆ ทั่วไปว่ำ “ ก๋ินอ้อ ” ในกำรประกอบพิธีกรรมนันจะใช้ปล้องของต้นอ้อใส่นำผึงที่เสกด้วยคำถำแล้วนำมำเคียวกินเมื่อเคียวจน นำหวำนหมดแลว้ กเ็ อำชำนอ้อโยนข้ำมศรษี ะทิงไปข้ำงหลงั หรือโยนออกไปทำงหน้ำตำ่ ง คติควำมเช่ือของ พิธีกรรมนีคือเช่ือว่ำ บุคคลใดก็ตำมท่ีได้เข้ำมำร่วมในพิธีกรรมนีก็จะเป็นผู้ท่ีมีสติปัญญำเฉียบแหลม สำมำรถเรียนรู้ได้รวดเร็ว มีควำมจำดี ในสมัยก่อนกลุ่มคนท่ีนิยมเข้ำพิธีกรรมนีได้แก่ พระสงฆ์ พระ นักเทศน์ หรือบุคคลท่ีต้องกำรศึกษำเล่ำเรียนโดยเฉพำะช่ำงซอจะต้องผ่ำนพิธีกรรมนีเพรำะเชื่อว่ำจะทำ ใหม้ ีควำมจำ ควำมคิดดี มนี ำเสียงขบั ซอดีขนึ และจะมีเสนห่ ์แกค่ นทวั่ ไป  ประเพณเี ดือน 4 เปง็ ประวัติควำมเป็นมำประเพณีเดือน 4 เป็ง เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมำตังแต่โบรำณจำกกำร บอกเล่ำของชำวบ้ำนทำให้ทรำบว่ำเป็นกำรปฏิบัติท่ีสืบต่อกันมำตังแต่ครังพุทธกำล จัดขึนเพื่อระลึกถึง บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว โดยกำรทำบุญด้วยข้ำวใหม่ที่ได้จำกกำรทำนำ หรือท่ีเรียกว่ำทำบุญทำนข้ำวใหม่ เพ่ือระลึกถึงบุญคุณของควำยที่ได้ใช้แรงงำนตังแต่เริ่มจำกกำรไถนำ จนถึงกำรลำกเอำข้ำวไปเก็บไว้ในยุ้ง ประเพณีนถี ือเปน็ ประเพณีท่ีโบรำณในท้องถิ่นลำ้ นนำอีกอย่ำงหน่งึ ที่ยังคงหลงเหลือมอี ยนู่ ้อยแลว้ จนทำให้ บำงครังก็เรียกประเพณีนีว่ำ กำรเรียกขวัญควำยสำหรับในตำบลบ้ำนแหวนที่ในอดีตอำชีพหลักได้แก่กำร ทำนำ และปัจจุบันพืนที่นำกเ็ ร่ิมหดหำยไปกลำยสภำพเป็นหมู่บ้ำนจัดสรร รำ้ นค้ำทำงศิลปะ สวนลำไย ที่ รกร้ำงว่ำงเปล่ำ เป็นส่วนใหญ่ วัว ควำย ท่ีเคยมีก็หำให้เห็นได้ยำก จึงทำให้ประเพณีนีเป็นแค่ภำพควำม ทรงจำของผู้เฒ่ำผู้แก่ในชุมชนที่ต้องกำรจะให้คนรุ่นปัจจุบันได้ซึมซับกับควำมงดงำมของประเพณีและ พิธีกรรมนี ในอดีตชุมชน ทุกชุมชนในตำบลบ้ำนแหวนจะจัดประเพณีนีขึนในช่วงเดือน 3 และเดือน 4 โดยพิธีนีถือว่ำมีควำมสำคัญมำก จะเริ่มตังแต่ก่อนที่จะถึงวันเพ็ญขึน 15 ค่ำ เดือน 4 หนึ่งวัน คือ วันขึน 14 ค่ำ เดือน 4 ชำวบ้ำนก็จะนำเอำไม้จี (เป็นไม้ที่หายาก คุณสมบัติของไม้ชนิดน้ีเมื่อนามาเผาไฟแล้วจะ แตกเอง) เอำมำวำงสุมรวมกันไว้แล้วก่อกองไฟหน้ำพระพุทธรูปเพ่ือทำกำรบูชำพอเช้ำวันรุ่งขึนคือวันขึน 15 ค่ำ เดือน 4 แต่ละครัวเรือนก็จะเตรียมข้ำวตอกดอกไม้เตรียมข้ำวใหม่ ข้ำวเปลือกไปรวมกันท่ีลำนหน้ำ หมบู่ ้ำนจำกนันก็นำเอำตุงไปปักไว้บนกอข้ำวเหล่ำนัน พระสงฆ์ก็จะให้พรก็ถือว่ำเสร็จพิธีปัจจุบันประเพณี

20 เรียกขวัญควำยนีเร่ิมหำยไปเพรำะสภำพสังคมรวมทังกำรดำรงชีวิตของคนในหมู่บ้ำนต่ำง ๆ ได้ เปลี่ยนแปลงไป แตก่ ย็ งั คงมกี ำรอนรุ กั ษป์ ระเพณนี ีไวใ้ ห้คนรนุ่ หลังไดเ้ รียนรู้ 3)ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถ่ิน  การทาเครือ่ งดนตรพี ืน้ เมอื ง กลองปู่เจ่ (ปูจ่ า) ซอและซงึ ในพืนที่ตำบลบ้ำนแหวน มีอำชีพท่ีสืบทอดมำจำกบรรพบุรุษท่ีสะท้อนให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมของ ชุมชนในด้ำนต่ำง ๆ อำทิเช่น ด้ำนดนตรี ทำให้เกิดกำรพัฒนำเป็นอำชีพขึนในตำบลบ้ำนแหวน น่ันก็คือ อำชีพกำรทำเครื่องดนตรีพืนเมือง ซึ่งในปัจจุบันก็มีช่ำงทำเครื่องดนตรีหลงเหลืออยู่เพียงไม่ก่ีคน ได้แก่ ช่ำงทำเครื่องซอ ซึง รวมทังยังเป็นผู้สอนเพ่ือเป็นกำรอนุรักษ์และสืบทอดอำชีพนีให้แก่รุ่นลูกรุ่นหลำน ดว้ ย ด้วยเหตุท่ีว่ำคนในสมัยก่อนนีมวี ัฒนธรรมชมุ ชนท่ีเป็นของตนเองเมื่อถึงเทศกำลงำนต่ำง ก็จะมีกำร เฉลิมฉลอง มีกำรละเล่นกำรแสดงกันในหมู่บ้ำน เช่นกำรฟ้อนประกอบกำรเล่นดนตรี ส่วนมำกแล้ว เคร่ืองดนตรีท่ีใช้ในงำนประเพณีและพิธีกรรมต่ำง ๆ ในหมู่บ้ำน ก็จะจัดทำขึนเองโดยใช้วัสดุท่ีมีอยู่ใน ธรรมชำติหรือดัดแปลงมำ  การแกะสลักสงิ ห์ เป็นภูมิปัญญำท้องถนิ่ ที่ได้สืบทอดกันมำตังแต่รนุ่ ปู่ย่ำตำยำยมำจนถึงปัจจุบัน กำรแกะสลกั สิงห์ นจี ะตอ้ งอำศัยควำมชำนำญและควำมปรำณีตอยำ่ งมำก ในตำบลบ้ำนแหวน ปจั จบุ ันมีกำรแกะสลกั สิงห์อยู่

21 ที่ หมู่ 8 บำ้ นตน้ เฮือด และถอื เป็นชุมชนต้นแบบในกำรแกะสิงหท์ ำกันมำนำน 50-60 ปี ปัจจบุ ันจะแกะ เฉพำะสิงห์เพียงอย่ำงเดียวส่วนมำกจะแกะเป็นสิงห์ตัวใหญ่ และใช้ลวดลำยแบบดังเดิมตังแต่สมยั โบรำณ ซ่ึงในกำรแกะสลกั สงิ ห์นนั ถือเปน็ กำรสรำ้ งรำยไดใ้ ห้กับชำวตำบลบำ้ นแหวนได้มำกทเี ดยี ว  การปน้ั สงิ ห์ บ้ำนศรีสรร หมู่ 13 ตำบลบ้ำนแหวน เป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงด้ำนกำรป้ันสิงห์ซึ่งถอื ว่ำเป็นศิลปะ ท้องถิ่นท่ีมีชื่อเสียงและจัดเป็นอำชีพด้ำนงำนช่ำงศิลป์อีกด้ำนหน่ึง ในสมัยก่อนกำรป้ันสิงห์ไม่มีกำรเรียน กำรสอนกันแบบจริงจัง ส่วนใหญ่จะเป็นกำรสังเกตและจดจำจำกผู้เฒ่ำผู้แก่ท่ีปั้นสิงห์และกำรป้ันสิงห์นี ตอ้ งอำศยั ควำมชอบ และมีใจรักในดำ้ นงำนศลิ ปะอยำ่ งมำกด้วย  ต้องลาย ดนุ โลหะ ต้องลำย ดุนโลหะ นับวำ่ เป็นงำนด้ำนภูมิปัญญำท้องถ่ินอีกอย่ำงหนึ่งท่ีมีควำมเก่ำแก่เช่นกัน ซึ่ง จะเป็นงำนศิลปหัตถกรรมพืนบ้ำนของภำคเหนือกำรทำต้องลำยเป็นกำรตีแผ่นโลหะที่แสดงให้เห็นถึง เอกลักษณ์เฉพำะตัวทมี่ ีรูปแบบที่งดงำมปัจจบุ ันในตำบลบ้ำนแหวน มกี ำรทำเครอื่ งต้องลำยอยู่ท่ี หมู่ 11 บำ้ นดู่ ซึ่งเป็นกำรทำต้องลำยมำเปน็ สนิ ค้ำของใชต้ ่ำงๆ เช่น กรอบรูป พวงกุญแจ เปน็ ตน้

22 กาดฝรงั่ เมืองตลาดการคา้ แห่งล้านนา กำดฝรั่งตังอยู่บริเวณริมถนนสำย เชียงใหม่ – หำงดง ในพืนท่ี หมู่ 13 บ้ำนศรีสรร ตำบลบ้ำน แหวน กำดฝรั่งมีควำมโดดเด่น และเป็นที่สนใจของผู้คนท่ีผ่ำนไปมำบนถนนสำยนี เนื่องจำกเป็นกำร สร้ำงโดยใชแ้ นวคิดด้ำนสถำปตั ยกรรมล้ำนนำแบบประยุกต์ ผสมผสำนกบั ควำมหรหู รำ จึงทำให้เกดิ เมือง ตลำดกำรค้ำ แห่งล้ำนนำขึนมำเป็นศูนย์รวมของ ร้ำนค้ำ ร้ำนอำหำร ธนำคำร สินค้ำอุปโภค – บริโภค และสินค้ำหัตถกรรม ระดับ 5 ดำว ทำให้ประชำชนในตำบลบ้ำนแหวนและใกลเ้ คียงได้รบั ควำมสะดวกสบำย มำกขึน และยงั เป็นอีกแหล่งดึงดดู ควำมสนใจของนักท่องเท่ยี วอีกด้วย 4) OTOP สนิ คา้ พ้ืนเมืองและของที่ระลึก กลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลบ้ำนแหวน เป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจศึกษำดูงำน เกี่ยวกับกำรเกษตรอินทรีย์ ตังอยู่หมู่ที่ 8 ได้รับคัดเลือกให้เป็นกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตัวอย่ำงจำก สำนกั งำนพัฒนำชุมชนและสำนกั งำนเกษตรอำเภอหำงดงอกี ทงั ได้รบั งบประมำณสนับสนุนในกำรดำเนิน โครงกำรจำกเทศบำลตำบลบ้ำนแหวนและวิสำหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตและแปรรูปผลผลิตทำงกำรเกษตร ตำบลบำ้ นแหวน ตังอยู่หมู่ที่ 6 ได้รบั กำรสนบั สนุนงบประมำณจำก บรษิ ัท วิทยุกำรบนิ จำกัด (มหำชน) สำขำจังหวัดเชียงใหม่และได้รับกำรสนับสนุน เคร่ืองมือ เครื่องจักรอุปกรณ์ต่ำง ๆ จำกวิทยำลัยเทคนิค เชียงใหม่รวมทังองค์ควำมรทู้ ำงวชิ ำกำรจำกมหำวทิ ยำลยั เทคโนโลยีรำชมงคลล้ำนนำ

23 8) ทรพั ยากรธรรมชาติ 1)น้า ทรัพยากรน้า ในเขตเทศบำลตำบลบ้ำนแหวน มีแหล่งนำที่อุดมสมบูรณ์ พอเพียง เหมำะสำหรับกำรทำ เกษตรกรรม แหล่งนำธรรมชำตทิ ี่สำคัญ อำทิ เช่น ลำเหมือง คลองส่งนำชลประทำน เป็นต้น แหล่งนา้ ธรรมชาติ ลำห้วย, ลำนำ - สำย บึง, หนองนำ - แหง่ ลำเหมือง 12 สำย อ่ำงเกบ็ นำ - แห่ง แหลง่ นา้ ที่สร้างขน้ึ 6 แหง่ ฝำย 2 แหง่ บอ่ นำตืน - แหง่ บ่อโยก 12 แหง่ ระบบประปำหมบู่ ้ำน - แห่ง ระบบประปำภูเขำ - แหง่ ถังเก็บนำฝน 2)ป่าไม้ ปัจจุบันสภำพพืนที่ตำบลบ้ำนแหวน เป็นชุมชนและท่ีอยู่อำศัยของประชำชนจึงไม่มีพืนที่ป่ำ ธรรมชำติ 3)ภูเขา เป็นพืนทร่ี ำบทงั หมด ไม่มีสภำพพนื ท่ีเป็นหบุ เขำ 9) คุณภาพอากาศและการเกิดหมอกควนั และไฟปา่ จังหวัดเชียงใหม่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ ชุมชนส่วนใหญ่ตังอยู่บนที่รำบลุ่มแม่นำ ซึ่งมีภูเขำสูงล้อมรอบ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อกำรกระจำยตัวของมลพิษหมอกควันที่เกิดขึน โดยปกติจะ เกิดเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนมกรำคม-เมษำยน จำกสถิติกำรวัดค่ำคุณภำพอำกำศพบว่ำจะเกิดมำก สดุ ในชว่ งเดอื นกมุ ภำพนั ธ์-เมษำยน ทังนีในปี พ.ศ.2563 พบวำ่ -คุณภำพอำกำศค่ำฝุ่นละอองขนำดเล็กกว่ำ 10 ไมครอน (PM10) มีค่ำเกินเกณฑ์มำตรฐำน มี จำนวน 33 วัน ค่ำสูงสุด 276 ไมโครกรัม/ลูกบำศก์เมตร โดยมำกท่ีสุด ในวันที่ 25 มีนำคม 2563 ณ สถำนสี เุ ทพ -ค่ำฝุน่ ละอองขนำดเล็กกว่ำ 25 ไมครอน (PM2.5) มีคำ่ เกินเกณฑ์มำตรฐำน มีจำนวน 78 วัน คำ่ สูงสุด 360 ไมโครกรมั /ลูกบำศกเ์ มตร โดยมำกท่ีสุด ในวนั ท่ี 29 มีนำคม 2563 ณ สถำนีเมืองคอง

24 ท่ีมำ : เอกสำรประกอบกำรประชุมรับฟังควำมคิดเห็นเก่ียวกับร่ำงแผนพัฒนำจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2561- 2565 ฉบับทบทวนรอบปี พ.ศ.2565 หน้ำ 14 กลุ่มงำนยุทธศำสตร์และข้อมูลเพื่อกำรพัฒนำจังหวัด สำนกั งำนจงั หวัดเชียงใหม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook