1 GEBIN102 3 (3-0-6) INNOVATION &TECHNOLOGY
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมนุษย์ สงั คม นวตั กรรม เทคโนโลยแี ละสง<ิ แวดลอ้ ม GEBIN102 INNOVATION AND TECHNOLOGY
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมนุษย์ สงั คม นวตั กรรม เทคโนโลยแี ละสง<ิ แวดลอ้ ม 01 มนุษยก์ บั เทคโนโลยี 02 สงั คมไทยในปัจจบุ นั 03 นวตั กรรมสงั คมเพ;ือความยงั; ยืน 04 โครงการอนั เน;ืองมาจากพระราชดาํ ริ
มนุษยก์ บั เทคโนโลยี เทคโนโลยีเป็นสิ;งหนึ;งที;เกิดจากความคิดและการพฒั นาขึนI ของมนุษย์ – มนุษยใ์ ช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาพืนI ฐาน ในการดาํ รงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลกู ที;อย่อู าศยั เครอ;ื งนุ่งห่ม ยารกั ษาโรค ในระยะแรกเทคโนโลยีที;นํามาใช้เป็นเทคโนโลยีพืนI ฐานไม่สลบั ซบั ซ้อนเหมือนดงั ปัจจบุ นั – การเพิ;มจาํ นวนของประชากรและข้อจาํ กดั ด้านทรพั ยากรธรรมชาติ รวมทงัI มีการพฒั นาความสมั พนั ธก์ บั ต่างประเทศ เป็นปัจจยั สาํ คญั ในการนําและพฒั นาเทคโนโลยีมาใช้มาก ในปัจจบุ นั เทคโนโลยีได้มีการพฒั นาเป็นอย่างมากและในการดาํ เนินชีวิต เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนเกี;ยวข้อง มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีในการส;ือสาร เช่น การใช้โทรศพั ท์ หรืออินเตอรเ์ น็ต สงั คมเครือข่าย (Social Network) การใช้เทคโนโลยีในด้านการศึกษา จดั ระบบในหน่วยงานต่างๆ
มนุษยก์ บั เทคโนโลยี การสื;อสาร คมนาคมขนส่ง ด้านอวกาศ เกษตรกรรม สารสนเทศ การทหาร เทคโนโลยี อาหาร การศึกษา อตุ สาหกรรม การแพทยแ์ ละสาธาณสขุ
10 เทคโนโลยีที;มาแล้วและกาํ ลงั จะมาอย่กู บั เราในชีวิตประจาํ วนั c. เทคโนโลยีในธรุ กิจ ทกุ วนั น@ีในธรุ กจิ มกี ารแขง่ ขนั กนั สงู ดา้ นเจา้ ของธรุ กจิ กต็ อ้ งการลดตน้ ทนุ แตย่ งั คงคณุ ภาพในตวั สนิ คา้ และบรกิ ารอยู่ การดงึ เอาเทคโนโลยมี าใชใ้ นธรุ กจิ ทาํ ใหส้ ามารถประหยดั ตน้ ทนุ ทางธรุ กจิ ได้ เมอ<ื เปรยี บเทยี บกบั จาํ นวนเงนิ ทใ<ี ชจ้ า้ งพนกั งานและการมคี วามตรงต่อเวลาสงู e. การใช้เทคโนโลยีในการสื;อสาร ในอดตี เมอ<ื การสอ<ื สารถกู จาํ กดั เฉพาะการเขยี นจดหมาย และรอใหไ้ ปรษณยี ส์ ง่ มอบ ขอ้ ความของคณุ แต่ปจั จบุ นั เทคโนโลยที าํ ใหข้ อ้ มลู การตดิ ต่อสอ<ื สารเป็นเรอ<ื งงา่ ย คณุ สามารถรา่ งขอ้ ความธรุ กจิ และสง่ อเี มล์ หรอื แฟกซไ์ ดภ้ ายในสองวนิ าทโี ดยทพ<ี วกเขาสามารถตอบกลบั คณุ ทนั ทเี ชน่ กนั จงึ ทาํ ใหส้ ะดวกสบายและทาํ ใหก้ ารเตบิ โต เป็นไปไดม้ ากยงิ< ขน@ึ f. การใช้เทคโนโลยีในความสมั พนั ธร์ ะหว่างมนุษย์ ในขณะทโ<ี ลกกาํ ลงั พฒั นาผคู้ นทาํ งานหนกั ขน@ึ ทาํ ใหพ้ วกเขาไมค่ อ่ ย มเี วลา ทจ<ี ะหาความสมั พนั ธ์ ดงั นนั@ เทคโนโลยจี งึ มสี ว่ นชว่ ยในเรอ<ื งน@ีอยา่ งมาก วนั น@ีผคู้ นใช้ App โทรศพั ทม์ อื ถอื เพอ<ื พบปะ และเชอ<ื มต่อกบั เพอ<ื นเก่าและใหม่ เครอื ขา่ ยทางสงั คมเชน่ Facebook.com , Tagged.com อยา่ งไรกต็ ามความสมั พนั ธ์ เสมอื นไมแ่ ขง็ แรงเทา่ ความสมั พนั ธท์ างกายภาพ ดงั นนั@ ฉนั จงึ แนะนําใหค้ ณุ สละเวลาและพบคนทต<ี อ้ งการจะสานสมั พนั ธ์
10 เทคโนโลยีที;มาแล้วและกาํ ลงั จะมาอย่กู บั เราในชีวิตประจาํ วนั g. การใช้เทคโนโลยีเพื;อการศึกษา วนั น@ีเทคโนโลยมี กี ารเปลย<ี นแปลงครงั@ ใหญ่ในโลกการศกึ ษา ดว้ ยการประดษิ ฐ์ เทคโนโลยแี ละ App บนอุปกรณ์เคลอ<ื นทซ<ี ง<ึ จะชว่ ยใหเ้ รยี นรไู้ ดง้ า่ ยขน@ึ คณุ สามารถเขา้ ถงึ หอ้ งสมดุ แบบเตม็ รปู แบบผา่ น App บนอุปกรณ์เคลอ<ื นทผ<ี า่ น Smartphone หรอื iPad ได้ h. การใช้เทคโนโลยีในซืIอของออนไลน์ เทคโนโลยที าํ ใหก้ ารซอ@ื และขายมคี วามยดื หยนุ่ ดว้ ยระบบการชาํ ระเงนิ แบบ e-Payment เชน่ Paypal.com และ Net bank ต่างๆ ผใู้ ชส้ ามารถซอ@ื สงิ< ต่างๆทางออนไลน์ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งออกจากบา้ น เพม<ิ ความสะดวกสบายในบา้ น i. การใช้เทคโนโลยีในการเกษตร ดจู ะไมเ่ ป็นเรอ<ื งทไ<ี ปดว้ ยกนั ไดซ้ กั เทา่ ไหรแ่ ต่เทคโนโลยแี สดงใหเ้ หน็ วา่ มนั สามารถ ทาํ ไดท้ กุ อยา่ ง แมแ้ ต่เรอ<ื งเกย<ี วกบั การเกษตร ดว้ ยการประดษิ ฐ์ Mobile App สาํ หรบั เกษตรกรพวกเขาสามารถใช้ App เชน่ “FamGraze” เพอ<ื ใหท้ าํ งานไดเ้ รว็ ขน@ึ และแมน่ ยาํ ยงิ< ขน@ึ ตวั อยา่ งเชน่ App”FamGraze” จะชว่ ยใหเ้ กษตรกรจดั การ หญา้ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพมากขน@ึ โดยการแนะนําอาหารทถ<ี กู ทส<ี ดุ สาํ หรบั ปศุสตั วข์ องตน app น@ีจะคาํ นวณปรมิ าณของ หญา้ สตั วข์ องคณุ มใี นเขตขอ้ มลู ชว่ ยใหค้ ณุ มเี วลามากขน@ึ ในขณะทอ<ี ยใู่ นไร่
10 เทคโนโลยีท;ีมาแล้วและกาํ ลงั จะมาอย่กู บั เราในชีวิตประจาํ วนั 7. การใช้เทคโนโลยีในการธนาคาร ขณะน@ีธนาคารพาณชิ ยโ์ อนไดง้ า่ ยมาก การสรา้ งบตั รวซี ่าอเิ ลคโทรนิคทาํ ใหก้ ารโอน เงนิ ทาํ ไดง้ า่ ยขน@ึ โดยไมต่ อ้ งกลวั วา่ จะถกู โจรกรรมไป คณุ สามารถซอ@ื อะไรกไ็ ดด้ ว้ ยบตั รวซี ่าอเิ ลคโทรนิค ดงั นนั@ ในกรณนี @ีคณุ จะไมต่ อ้ งพกเงนิ สด ธนาคารใชซ้ อฟตแ์ วรเ์ ครอื ขา่ ยเพอ<ื ตรวจจบั การฉ้อโกง ซอฟตแ์ วรม์ ปี ระสทิ ธภิ [ าพสงู ในการจาํ แนก รปู แบบดงั นนั@ หากโปรไฟลข์ องคณุ มลี กั ษณะคลา้ ยกบั ของผทู้ ต<ี งั@ คา่ เรมิ< ตน้ ธนาคารจะดาํ เนินการและชว่ ยคณุ จากการถกู ปลน้ k. การใช้เทคโนโลยีในการควบคมุ ธรรมชาติ ธรรมชาตสิ ง่ ผลกระทบทางเศรษฐกจิ ทกุ วนั ตวั อยา่ งเชน่ น@ําทว่ มพน@ื ท<ี เพาะปลกู และทอ<ี ยอู่ าศยั ของพวกเขา ทาํ ใหด้ นิ ชนั@ บนทอ<ี ุดมสมบรู ณ์เสยี หายและทาํ ลายการเจรญิ เตบิ โตของพชื นอกจากน@ี ยงั ก่อใหเ้ กดิ ไฟไหมอ้ าคารพชื ผลและปา่ ไมท้ ส<ี ง่ ผลกระทบต่อชวี ติ มนุษย์ อยา่ งไรกต็ ามเทคโนโลยชี ว่ ยใหม้ นุษยส์ รา้ งเขอ<ื น ขนาดใหญ่ซง<ึ สามารถกกั น@ําสว่ นเกนิ และใชน้ @ําเพอ<ื ผลติ กระแสไฟฟ้าได้ นอกจากน@ีแสงอาทติ ยย์ งั ชว่ ยใหบ้ า้ นของเราอุน่ และ แปลย<ื นแปลงพลงั งานกลบั มาใชม้ กี ารใชล้ มเพอ<ื ผลติ กระแสไฟฟ้า ทงั@ หมดน@ีเป็นผลมาจากการใชเ้ ทคโนโลยใี นการควบคมุ ธรรมชาติ
10 เทคโนโลยีท;ีมาแล้วและกาํ ลงั จะมาอย่กู บั เราในชีวิตประจาํ วนั 9. การใช้เทคโนโลยีในการคมนาคมขนส่ง การคมนาคมเป็นหน<ึงในพน@ื ฐานของทกุ อุตสากรรม เวลาคอื เงนิ ดงั นนั@ เราตอ้ ง มวี ธิ กี ารขนสง่ ทม<ี ปี ระสทิ ธภิ าพลองจนิ ตนาการถงึ ชวี ติ ทไ<ี มต่ อ้ งเสยี ไปบนทอ้ งถนน หรอื สามารถสง่ สนิ คา้ ไดท้ นั ทที ล<ี กู คา้ สงั< อยา่ งไรกต็ ามเทคโนโลยกี ารขนสง่ มกี ารเปลย<ี นแปลงมาเรอ<ื ยๆจนถงึ ปีทผ<ี า่ นมา และตอนน@ีเทคโนโลยกี ารขนสง่ ทก<ี าํ ลงั เขา้ มามชี อ<ื วา่ Hyperloop One ทส<ี ามารถสรา้ งความเรว็ ไดท้ <ี 1,200 กโิ ลเมตร/ชวั< โมง หรอื เทยี บงา่ ยๆคอื จากกรงุ เทพไปจงั หวดั ลาํ พนู ใชเ้ วลา 35 นาที ซง<ึ ไวกวา่ เครอ<ื งบนิ มาก และทาํ ใหเ้ ราประหยดั เวลาไดม้ ากขน@ึ cm. เทคโนโลยีใหม่ท;ีเราจะได้ใช้ในชีวิตประจาํ วนั แน่นอนวา่ ความตอ้ งการของเราไมส่ น@ิ สดุ และเทคโนโลยใี หมๆ่ จะมา ชว่ ยตอบโจทยส์ ง<ิ เหลา่ นนั@ ซง<ึ บางยา่ งกด็ ใู ชเ้ ฉพาะกลมุ่ เป็นอยา่ งมากและแน่นอนวา่ พวกมนั ชว่ ยทาํ ใหช้ วี ติ เรามคี ณุ ภาพขน@ึ อยา่ งแน่นอน ถงึ ตอนน@ีผอู้ า่ นคงอยากรแู้ ลว้ วา่ มนั มอี ะไรบา้ ง อยา่ งนนั@ เรามาเรมิ< ทช<ี น@ิ แรกกกนั เลย ทม<ี า: http://www.theworks.co.th/blog/2018/10/24/10-technology-2018/
มนุษยก์ บั เทคโนโลยี มนุษย์ สงั คม นวตั กรรมและเทคโนโลยี สิ;งแวดล้อม ผสู้ ร้าง/ผแู้ ก้ปัญหา การเปลี;ยนแปลง ส;ิงอาํ นวยความสะดวก ทรพั ยากรทางธรรมชาติ ผคู้ ดิ ผสู้ รา้ ง สง<ิ อาํ นวยความ สงั คมโลกมกี ารเปลย<ี นแปลงทกุ ยคุ กระบวนการ วธิ กี าร และความคดิ สงิ< ต่างๆ ทอ<ี ยรู่ อบตวั เรา ทงั@ ท<ี สะดวกต่อการดาํ รงชวี ติ ใหด้ ขี น@ึ ทกุ สมยั สงั คมไทยกต็ อ้ ง ใหมๆ่ มาใช้ หรอื ประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ ง เกดิ ขน@ึ โดยธรรมชาติ และทม<ี นุษย์ เปลย<ี นแปลงตามดว้ ยเชน่ กนั มรี ะบบ ดาํ เนินการไปอยา่ งมี สรา้ งขน@ึ ประสทิ ธภิ าพ
ลกั ษณะโครงสรา้ งทางสงั คม โครงสรา้ งทางสงั คมโดยทวั< ไป มลี กั ษณะทส<ี าํ คญั ดงั น@ี 1. มีการรวมกล่มุ ของคนในสงั คม ซง<ึ แต่ละกลมุ่ ทร<ี วมกนั ต่างมหี น้าทร<ี บั ผดิ ชอบและประสทิ ธภิ าพในการทาํ งาน ตามท;ีกล่มุ ได้กาํ หนดเป้าหมายไว้ 2. มีแนวทางในการปฏิบตั ิอย่างเหมาะสมหรอื มกี ฎเกณฑร์ ะเบยี บแบบแผนเป็นแนวทางใหย้ ดึ ถอื รว่ มกนั โดยยดึ หลกั ประโยชน์สงู สดุ ของสงั คม 3. มีจดุ หมายในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ที;ดีและมคี วามเหมาะสมทจ<ี ะนํามาใชก้ บั สงั คมนนั@ 4. มีการเคล;ือนไหวเปล;ียนแปลงได้ กลา่ วคอื โครงสรา้ งของสงั คมจะมกี ารเคลอ<ื นไหวเปลย<ี นแปลงทงั@ ในแงข่ อง การเพมิ< ขน@ึ หรอื ลดลง ในหลายรปู แบบเชน่ จาํ นวนคนอาจเพมิ< ขน@ึ หรอื ลดลงจากการเคลอ<ื นยา้ ยประชากรในสงั คม หรอื รปู แบบของความสมั พนั ธข์ องบุคคลภายในสงั คมอาจมกี ารปรบั เปลย<ี นไปตามสถานภาพทป<ี รบั เปลย<ี นไปหรอื แมแ้ ต่ สภาพแวดลอ้ มต่าง ๆ ภายในสงั คม เป็นตน้
แต่ละ Generation ต่างกนั อยา่ งไร? Gen X Gen Z * Multi tasking ทาํ อะไรหลายอยา่ งไดพ้ รอ้ มกนั ชอบทาํ อะไรดว้ ยตวั เอง * สว่ นใหญ่มคี า่ นิยมในการทาํ งานทต<ี อ้ งใชท้ กั ษะความคดิ มากกวา่ ใชแ้ รงงาน เน<ืองจากมกี ารศกึ ษาทส<ี งู ขน@ึ (ผลจากการทมุ่ เทของ Baby Boomer) * คน้ ควา้ เรยี นรไู้ ดต้ ลอดเวลา ยงิ< ถา้ เป็นสงิ< ทส<ี นใจ จะสามารถเกง่ ไดง้ า่ ยมาก * ทาํ ใหเ้ ศรษฐกจิ ในภาคบรกิ ารเตบิ โต เน<ืองจากนิยมทาํ งานในเมอื ง * เป็น Global Digital Citizen โดยแท้ เพราะเกดิ มาพรอ้ มกบั เทคโนโลยี * ความคนุ้ ชนิ กบั อสิ ระในการเขา้ โลก Digital และคน้ พบขา่ วสาร ความรมู้ ากมาย 1946 1965 1980 ( Gamer / Blogger / Youtuber) 2010 1997 Baby Boomer Gen Y Gen Alpha * ตาํ แหน่งผบู้ รหิ ารภายในองคก์ ร * ใหค้ วามสาํ คญั กบั ตวั เอง เพอ<ื นมากกวา่ * เกดิ และเตบิ โตพรอ้ มเทคโนโลยี จนเป็น ‘Digital Native’ * มคี วามอดทนสงู มงุ่ มนั< ทาํ งานหนกั จงรกั ภกั ดตี ่อองคก์ ร โลกและทกุ อยา่ งหมนุ รอบตวั เอง มชี วี ติ บนพน@ื ฐานของโลกเทคโนโลยตี งั@ แต่เกดิ * ใหค้ วามสาํ คญั กบั ครอบครวั ใหล้ กู ไดเ้ รยี นสงู ๆ จะไดไ้ ม่ * ใหค้ วามสาํ คญั กบั Work-Life Balance มงุ่ มนั< กบั “อสิ รภาพทางการเงนิ ” * คนุ้ เคยกบั การเปลย<ี นแปลง เปิดกวา้ งรบั ความแตกต่างไดม้ ากขน@ึ ลาํ บากเหมอื นตวั เอง * แครผ์ ลสาํ เรจ็ มากกวา่ กตกิ า ขนั@ ตอน หรอื ระเบยี บแบบแผน * ครอบครวั ตอ้ งเป็นแบบอยา่ งทด<ี ี เน<ืองจากเดก็ Gen Alpha เรยี นรเู้ รว็
ส่องคนยคุ มิลเลนเนียล ที;มีผลต่อการเปลี;ยนแปลง การเปลย<ี นแปลงต่างๆ ทเ<ี กดิ ขน@ึ ในสงั คม ทงั@ เรอ<ื งความกา้ วหน้าของเทคโนโลยี สง่ ผลใหไ้ ลฟ์สไตลข์ องคนเปลย<ี นไปตามยคุ สมยั และกลมุ่ คนทส<ี ง่ ผลต่อการเปลย<ี นแปลงมากทส<ี ดุ คอื คนยคุ มิลเลนเนียล (Millennials) ร้จู กั มิลเลนเนียล (Millennials) – ผคู้ นซง<ึ เกดิ ในชว่ งปี 1980 หรอื พ.ศ. 2523 และ ชว่ งปี 2000 หรอื พ.ศ.2543 จะถกู เรยี กวา่ มิลเลนเนียล หรอื คาํ ทค<ี นุ้ หกู นั ดคี อื Gen Y ซง<ึ เป็นกลมุ่ ทม<ี ชี ว่ งอายใุ กลเ้ คยี งกนั คนกลุม่ น@ีอยใู่ นทกุ เรอ<ื งการเปลย<ี นแปลงทงั@ ทางเศรษฐกจิ สงั คม และด้วยจาํ นวนคนกล่มุ มิลเลนเนียลทวั; โลกที;มีมากกว่า em ล้านคนจากผลการสาํ รวจขององคก์ าร สหประชาชาติ ทาํ ใหท้ กุ ภาคสว่ นตอ้ งเตรยี มรบั มอื สง<ิ ทจ<ี ะเกดิ ขน@ึ ในอนาคต เพราะคนกล่มุ นีIกาํ ลงั เติบโตและมี ศกั ยภาพในการใช้จ่าย คาดว่าในอีกไม่ถึง cm ปี มิลเลนเนียลจะเข้ามามีบทบาทในทกุ ตาํ แหน่งงาน แทนท;ีคน ทกุ เจเนอเรชนั; กว็ ่าได้
ทม<ี า: https://www.bltbangkok.com/CoverStory/สอ่ งคนยคุ มลิ เลนเนียลทม<ี ผี ลต่อการเปลย<ี นแปลง
ปัญหาสงั คมไทยในปัจจบุ นั ปัญหาสงั คม หมายถงึ สภาวะการณ์ทม<ี ผี ลกระทบกระเทอื นต่อคนจาํ นวนมากในสงั คมและเหน็ วา่ ควรรว่ มกนั แกป้ ญั หานนั@ ใหด้ ขี น@ึ สาเหตขุ องปัญหาสงั คม 1. เกดิ จากการเปลย<ี นแปลงทางสงั คม เชน่ การเปลย<ี นเป็นสงั คมเมอื ง การเปลย<ี นจากสงั คมเกษตรกรรมเป็นสงั คม อุตสาหกรรม การเป็นคา่ นิยมใหม่ ๆ ทาํ ใหเ้ กดิ ปญั หาสงั คมขน@ึ 2. เกดิ จากสมาชกิ ในสงั คมบางกลุม่ ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑท์ ส<ี งั คมวางไว้ เชน่ เกดิ ความขดั แยง้ ระหวา่ งกฎเกณฑก์ บั ความมงุ่ หมาย เกดิ ความลม้ เหลวของกระบวนการขดั เกลาทางสงั คมหรอื สมาชกิ บางกลมุ่ ทส<ี รา้ งความเดอื ดรอ้ นใหแ้ ก่สงั คม ทาํ ใหเ้ กดิ การขาดระเบยี บและเป็นปญั หาทางสงั คมขน@ึ 3. เกดิ จากการทก<ี ลมุ่ สงั คมต่าง ๆ มคี วามคดิ เหน็ ความตอ้ งการ และผลประโยชน์ขดั กนั ไมย่ อมรว่ มมอื แกไ้ ขปญั หา ของสงั คม เชน่ การเอาเปรยี บลกู จา้ ง เป็นตน้
ตวั อยา่ ง ปญั หาความยากจน มสี าเหตุเกดิ จาก 01 การเพ;ิมขึนI ของจาํ นวนประชากร 04 ลกั ษณะอาชีพมีรายได้ไม่แน่นอน สมา;ํ เสมอ เช่นกรรมกร รบั จ้าง 02 การขาดการศึกษา 05 มีบตุ รมากเกินไป รายได้ไม่พอ ทาํ ให้มีรายได้ตา;ํ กบั รายจ่าย 03 ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ 06 มีลกั ษณะนิสยั เฉื;อยชาและ เกษตรกรรม เกียจครา้ น ไม่ชอบทาํ งาน
อะไรคอื นวตั กรรมทต<ี อ้ งสรา้ งขน@ึ ? “ ในการแกป้ ญั หาสงั คมไทย “ ปรบั ปรงุ และพฒั นาสงั คมใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขน@ึ โดยการพฒั นา เศรษฐกจิ ทงั@ ดา้ นเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการบรกิ ารใหด้ ขี น@ึ คิด ออกแบบ อย่างสร้างสรรค์ เพ;ือสรา้ งนวตั กรรม
นวตั กรรมสงั คมเพื;อความยงั; ยืน นวตั กรรมสงั คม (Social Innovation) เป็นการนําวธิ กี ารหรอื สง<ิ ใหมม่ าพฒั นาสงั คมใหด้ กี วา่ เดมิ มงุ่ เน้น คณุ คา่ และผลลพั ธท์ เ<ี กดิ ขน@ึ กบั สงั คมเป็นหลกั โดยมกี ารใชว้ วิ ฒั นาการทางเทคโนโลยเี ขา้ มาเป็นกลไกสาํ คญั ซง<ึ สามารถทาํ ไดใ้ นทกุ สงั คมขน@ึ อยกู่ บั วตั ถุประสงคแ์ ละการออกแบบจากนวตั กรสงั คม กิจการเพ;ือสงั คม กจิ การเพอ<ื สงั คม (Social Enterprises) คอื หน่วยงานทด<ี าํ เนินงานโดยใชย้ ทุ ธศาสตรแ์ บบกลไกตลาดเพอ<ื เป้าหมายทางสงั คมหรอื สงิ< แวดลอ้ ม มพี น@ื ฐานความหมายคอื ธรุ กจิ แต่มองผลประโยชน์เพอ<ื สงั คมเป็นหลกั ซง<ึ ในประเทศไทยมกี ารเตบิ โตของกจิ การเพอ<ื สงั คมอยา่ งรวดเรว็ ดไู ดจ้ าก องคก์ รทเ<ี พม<ิ ขน@ึ อยา่ งต่อเน<ือง นบั เป็นเรอ<ื งทด<ี มี าก ทม<ี า: https://blog.goodfactory.co/social-innovation-social-enterprise-fd048d32f3ad
“สงั คมยคุ ใหม่ ไม่ทาํ ร้ายสิ;งแวดล้อม” “ปัญหาส่ิงแวดล้อม” เรอื$ งใกลต้ วั ทกี$ าํ ลงั กา้ วเขา้ สวู่ กิ ฤตมากขน:ึ ซงึ$ สงิ$ ทเี$ กดิ ขน:ึ ถกู เรง่ ให้ เกดิ ก่อนเวลาอนั ควรดว้ ยพฤตกิ รรมของมนุษย์ ถงึ เวลาแลว้ สงิ$ ทเี$ ราทกุ คนจะตอ้ งตระหนกั ถงึ เรอื$ งดงั กลา่ วใหม้ าก เพอื$ ชะลอการเกดิ ปัญหาสงิ$ แวดลอ้ มใหไ้ ดม้ ากทสี$ ดุ ทม<ี า: https://www.passiongen.com/2018/08/environment /
นวตั กรรมสงั คมเพื;อความยงั; ยืน ปญั หาสง<ิ แวดลอ้ มเกดิ ไดจ้ ากหลายสาเหตุ ตงั@ แต่การเพมิ< ขน@ึ ของจาํ นวนประชากร (Population Growth) ทท<ี าํ ใหม้ กี ารใช้ ทรพั ยากรทเ<ี พมิ< ขน@ึ เกดิ การขยายตวั ทางเศรษฐกจิ และความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี (Economic Growth and Technology Progression) เพอ<ื ตอบสนองสงั คมทต<ี อ้ งการความทนั สมยั สะดวกสบาย รวดเรว็ เมอ<ื เป็นเชน่ น@ีจงึ มกี ารขยายตวั ของเมอื ง และการเคลอ<ื นยา้ ยแรงงานในระบบอุตสาหกรรม (Urbanization and Labor Movement) ผลทต<ี ามมา คอื ความแออดั ทางกายภาพและสงั คม การก่อมลพษิ และความเสอ<ื มโทรมดา้ นต่างๆ ทา้ ยทส<ี ดุ การทม<ี นุษยข์ าดความรู้ และความตระหนกั ในการใชท้ รพั ยากร รวมถงึ มาตรการจดั การสงิ< แวดลอ้ ม (Lack of Knowledge Awareness and Policy in Environmental Management) ซง<ึ นําไปสปู่ ญั หาขาดแคลนทรพั ยากร การ เพม<ิ ขน@ึ ของปรมิ าณขยะ และมลพษิ
แนวคิด 6Rs แนวทางในการชว่ ยรกั ษาสง<ิ แวดลอ้ ม เรมิ< จาก 1. การคดิ ใหม่ ทาํ ใหม่ (Rethink/Reinvent) โดยพจิ ารณาและตงั@ คาํ ถามตอ่ พฤตกิ รรมการบรโิ ภค 2. การปฏเิ สธ (Refuse) โดยเลอื กทจ<ี ะไมส่ รา้ งขยะเพม<ิ 3. การลดการใช้ (Reduce) คอื เลอื กทจ<ี ะลดจาํ นวนขยะ การนํากลบั มาใชใ้ หม่ 4. ซ่อมแซม (Reuse/Repair) เพอ<ื เพมิ< อายกุ ารใชง้ านใหก้ บั สนิ คา้ 5. การรไี ซเคลิ (Recycle) เป็นการเปลย<ี นขยะเป็นวตั ถุดบิ ใหม่ 6. และการซอ@ื แทนซอ@ื ซ@าํ (Replace/Rebuy) หมายถงึ เลอื กใชส้ นิ คา้ ทเ<ี ป็นมติ รต่อสง<ิ แวดลอ้ ม
แนวคิด 6Rs
โครงการอนั เน;ือง มาจากพระราชดาํ ริ นวตั กรรมจากพระอจั ฉรยิ ภาพของใน หลวงรชั กาลท<ี 9
ฝนหลวง...ฝนเทียมสตู รไทยแท้ ในพระปรมาภิไธย “…แต่มาเงยหน้ามองดฟู ้า มเี มฆ ทาํ ไมมเี มฆอยา่ งน:ี ทาํ ไมจะดงึ เมฆนีล$ งมาใหไ้ ด้ กเ็ คยไดย้ นิ เรอื$ งการทาํ ฝน กม็ าปรารภกบั คณุ เทพฤทธXิ ฝนทาํ ได้ มหี นงั สอื เคยอ่านหนงั สอื ทาํ ได.้ ..” คาํ กลา่ วขา้ งตน้ คอื พระราชดาํ รสั ของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชเกย<ี วกบั แนวคดิ การทาํ ฝน หลวง หลงั ไดร้ บั รคู้ วามเดอื นรอ้ นจากภยั แลง้ ของประชาชนในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือในชว่ ง พ.ศ. 2498 ทม<ี า: https://blog.jobthai.com/inspiration/กษตั รยิ ผ์ เู้ ป็นแรงบนั ดาลใจใหอ้ าชพี -นกั วทิ ยาศาสตร์
โครงการฝนหลวง
การทาํ ฝนหลวง
โครงการแกล้งดิน...เปลี;ยนดินเสียให้เป็ นดินดี “เราสมควร…แกลง้ ดนิ …โดยทาํ ใหม้ นั เปรย:ี ว แลว้ เราจะไดท้ าํ วศิ วกรรมยอ้ นรอย เพอื$ จะไดร้ วู้ ธิ แี กไ้ ขและป้องกนั ไมใ่ หเ้ กดิ สภาพเปรย:ี วแบบทเี$ คยเป็น ซงึ$ เป็นประโยชน์อยา่ งมากต่อการดแู ลดนิ ประเภทน:ีในอนาคต”
แอลกอฮอลจ์ ากไร่ นํIามนั จากครวั ส่กู ารเป็นเชืIอเพลิงทดแทน...ด้วยพระอจั ฉริยภาพ “...น:ํามนั ปาลม์ ทราบวา่ ดเี ป็นน:ํามนั ทใี$ ชง้ านได้ ใชบ้ รโิ ภคแบบใชน้ :ํามนั ทอดไขไ่ ด้ มาทาํ ครวั ได้ เอาน:ํามนั ปาลม์ มาใสร่ ถดเี ซลได้ กาํ ลงั ของน:ํามนั ปาลม์ น:ีดมี ากไดผ้ ล เพราะวา่ เมอื$ ไดม้ าใสร่ ถดเี ซลไมต่ อ้ งทาํ อะไรเลย ใสเ่ ขา้ ไป แลน่ ไป คนทแี$ ลน่ ตามบอกวา่ หอมด.ี ..”
นวตั กรรมของพ่อ..กงั หนั นํIาชยั พฒั นา นวตั กรรมแรกที;ได้รบั การจดสิทธิบตั รของประเทศไทย และเป็นนวตั กรรมของพระมหากษตั ริย์ พระองคแ์ รกของโลก คือ กงั หนั นIําชยั พฒั นา ซึ;งปัจจบุ นั ประเทศไทยยงั คงใช้เพื;อแก้ปัญหานIําเน่าเสียอยู่
กจิ กรรมท<ี 4 GEBIN102 INNOVATION AND TECHNOLOGY
กจิ กรรมท<ี 4 เกมหาความสมั พนั ธ์ วธิ ดี าํ เนินกจิ กรรม 1. ใหน้ กั ศกึ ษาสมุ่ จบั สลากชน@ิ สว่ น Jigsaw และจบั กลมุ่ ประกอบ Jigsaw ใหส้ มบรู ณ์ทส<ี ดุ 2. เรยี งลาํ ดบั และวาดภาพบอกเลา่ เรอ<ื งราววา่ สง<ิ ทไ<ี ดใ้ นกลุม่ นนั@ สอ<ื ถงึ อะไร พรอ้ มทงั@ นําเสนอหน้าชนั@ เรยี น
งานกลุม่ ศกึ ษานวตั กรรมจากโครงการในพระราชดาํ ริ 01 02 03 04 05 โครงการฝนหลวง โครงการอ;ืนๆ โครงการแก ้ลง ิดน โครงการพระราชดาํ ริเกี/ยวกบั ป่ า โครงการ Iํนามันไบโอ ีดเซลสูตรสกัดจาก โครงการพระราชดาํ ริเก/ียวกบั ดิน ํIนามันปาล์ม โครงการพระราชดาํ ริเกี/ยวกบั น7าํ โครงการทางดา้ นวศิ วกรรม กังหัน ํIนาชัยพัฒนา โครงการชั ;งหัวมัน งานกลมุ่ ทาํ เป็น power point สง่ ในเมล์ [email protected]
งานกลุม่ ศกึ ษานวตั กรรมจากโครงการในพระราชดาํ ริ งานกลุม่ ทาํ เป็น power point สง่ ในเมล์ [email protected]
Thank you GEBIN102 INNOVATION AND TECHNOLOGY
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: