ปัญญาประดิษฐ์

เทคโนโลยีสมัยใหม่

AI : Artificial Intelligence ปญญาประดษิ ฐ

ประวตั ิความเปนมาของปญญาประดษิ ฐ ยคุ 1950-1970 ยุค 1980-2010 ปจจบุ นั โครงขา่ ยประสาทเทียม การเรยี นรู้ของเครือง การเรยี นร้เู ชิงลกึ (deep (Neural Networks) (machine learning) การพัฒนาเริมแรกเกยี วกับ การเรียนรู้ของเครอื งกลายเปน learning) โครงขา่ ยประสาทเทียมสรา้ ง การค้นพบอันยงิ ใหญข่ องการ ความประหลาดใจเกยี วกับ ทนี ิยมแพรห่ ลาย เรียนร้เู ชงิ ลึก ชว่ ยผลักดันให้ \"เครอื งจักรทีมีความคดิ \" AI รดุ หนา้ อย่างกา้ วกระโดด

แนวคิด 5 ประการ สําหรบั ปญญาประดษิ ฐ การรับรู การแทนความรู และการใหเหตุผล (perception) (representation and reasoning) การเรียนรู การปฏิสมั พนั ธ อยางเปน ผลกระทบทางสังคม (learning) ธรรมชาติ (social impact) (natural interaction)

ใหน กั เรียนเขา ไปที่เวบ็ ไซต autodraw.com แลว วาดภาพ ดังน้ี 1. สุนัข 2. กวาง 3. ไดโนเสาร 4. ลิง 5. ชา ง

กฎการตดั สนิ ใจของ ปญญาประดษิ ฐ์ \"ถ้า มอี าการไอ หายใจหอบ มานาน 14 วนั และ อุณหภมู ใิ นรา่ งกายมากกวา่ 37.5 องศา จะสรุป ได้วา่ อยา่ งไร ขอ้ ที 1 ถ้ามอี าการไอ และหายใจหอบ และติดเชอื ไวรสั แล้ว ปอดอักเสบ ขอ้ ที 2 ถ้าอุณหภมู มิ ากกวา่ 37.5 องศา แล้ว มไี ข้ ขอ้ ที 3 ถ้ามไี ข้ และอาการนานกวา่ 14 วนั แล้ว ติด เชอื ไวรสั

การอนมุ าน รอบท่ี 1 จากกฎขอ้ ที 2 จะทําใหไ้ ดข้ อ้ เท็จใหม่ คือ มไี ข้ ดงั นนั ขอ้ เท็จจรงิ ทีมอี ยูท่ ังหมด คือ อาการไอ หายใจหอบ เปนมานาน 14 วนั อุณหภมู ิ รา่ งกายมากกวา่ 37.5 องศา และมไี ข้ จากกฎขอ้ ที 3 จะทําใหไ้ ดข้ อ้ เท็จใหม่ คือ ติดเชอื ไวรสั ดงั นนั ขอ้ เท็จจรงิ ทีมอี ยูท่ ังหมด คือ อาการไอ หายใจหอบ เปนมานาน 14 วนั อุณหภมู ิ รา่ งกายมากกวา่ 37.5 องศา มไี ข้ และติดเชอื ไวรสั การอนมุ าน รอบท่ี 2 จากกฎขอ้ ที 1 จะทําใหไ้ ดส้ รปุ คือ ปอดอักเสบ ดงั นนั ขอ้ เท็จจรงิ ทีมอี ยูท่ ังหมด คือ อาการไอ หายใจหอบ เปนมานาน 14 วนั อุณหภมู ิ รา่ งกายมากกวา่ 37.5 องศา มไี ข้ และติดเชอื ไวรสั สง่ ผลใหป้ อดอักเสบ

คนเปนนกหรอื ไม?่ กฎขอ้ ที 1 นกเท่านนั ทีบนิ ได้ กฎขอ้ ที 2 คนบนิ ได้ การอนมุ าน รอบท่ี 1 กฎที่สอดคลองกับขอ เท็จจรงิ : กฎขอ ท่ี 2 ทาํ ใหไดขอ เทจ็ จรงิ ใหม คนบินได นกเทานั้นท่บี ินได การอนมุ าน รอบที่ 1 กฎทส่ี อดคลองกับขอเท็จจริง : กฎขอที่ 1 ทําใหไดขอ เท็จจริงใหม ขอ สรุปคอื คนเปน นก

ลองทาํ ดู \"หากขยนั เรยี นและโชคไมด่ จี ะมเี งินหรอื ไม\"่ กฎขอ้ ที 1 ถ้าโชคดี แล้ว ถกู ฉลากออมสนิ กฎขอ้ ที 2 ถ้าโชคไมด่ ี แล้ว ไมถ่ กู ฉลากออมสนิ กฎขอ้ ที 3 ถ้ามคี วามรหู้ รอื โชคดี แล้ว สอบผา่ น กฎขอ้ ที 4 ถ้าไมม่ คี วามรแู้ ต่โชคดี แล้ว สอบผา่ น กฎขอ้ ที 5 ถ้าขยนั เรยี น แล้ว มคี วามรู้ กฎขอ้ ที 6 ถ้ามคี วามรแู้ ละสอบผา่ น แล้ว มงี านทํา กฎขอ้ ที 7 ถ้ามงี านทําหรอื ถกู สลากออมสนิ แล้ว มเี งิน

แนวคําตอบ การอนมุ าน รอบที่ 1 กฎที่สอดคลอ งกับขอเทจ็ จรงิ : ทําใหไดข อ เท็จจรงิ ใหม ทาํ ใหไดขอเท็จจรงิ ใหม ขอเท็จจรงิ ใหมท ่ไี ดคอื การอนุมาน รอบที่ 2 กฎที่สอดคลองกบั ขอ เทจ็ จรงิ : ทําใหไ ดขอเท็จจริงใหม ทําใหไดข อเทจ็ จรงิ ใหม ขอ สรุปคือ

สญั ญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส วัตถปุ ระสงคข องสญั ญานี้เพื่อใหเจา ของผลงานอนั มลี ขิ สิทธิส์ ามารถแสดงขอความอันอํานวยความ สะดวกใหส าธารณชนรูถ ึงสทิ ธ์ใิ นผลงาน และทราบวาจะนํางานอันมีลขิ สิทธข องตนไปใชไ ดโ ดยไมต อ ง ขออนุญาตและไมถ ือวาเปนการละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ โดยผทู ่นี าํ ผลงานไปใชตองปฏบิ ตั ติ ามเงอ่ื นไขท่ีกําหนดไว เชน อางอิงแหลง ทมี่ า ไมใชเพอื่ การคา ไมดดั แปลงตน ฉบับ เปนตน รายละเอียดของแตล ะสัญญา อนุญาตนน้ั ขนึ้ อยกู ับรุน ของสัญญา และประกอบไปดวยตัวเลอื กจากเงอ่ื นไข 4 เง่ือนไข โดยไดม กี ารจดั ทําสัญลกั ษณเงื่อนไขเปน 4 ประเภท

สญั ญาอนญุ าตครีเอทฟี คอมมอนส แสดงที่มา/อางท่มี า (Attribution – BY) : อนญุ าตใหผอู ่ืนทําซํา้ สรางงานดดั แปลงจากชิ้นงานดงั กลา ว ไดเ ฉพาะกรณีทผ่ี นู ั้นไดแสดงเครดติ ของผูเขียนหรือผใู หอ นุญาตตามท่รี ะบไุ ว ไมใ ชเพอื่ การคา (NonCommercial – NC) : อนญุ าตใหผ ูอ่นื ทําซา้ํ สรางงานดดั แปลง จากชิ้นงานดังกลาว ไดเ ฉพาะกรณที ่ไี มน าํ ไปใชใ นทางการคา ไมดดั แปลง (No Derivative Works –ND) : อนญุ าตใหผอู ่นื ทําซํา้ แจกจา ย หรือแสดง และนาํ เสนอช้ินงานดังกลา วในรปู แบบทไ่ี มถกู ดดั แปลงเทา นั้น อนุญาตแบบเดียวกัน (Share Alike – SA) : อนุญาตใหผ ูอืน่ แจกจา ยงานดัดแปลง เปลย่ี นรูปหรอื ตอเตมิ งานไดเฉพาะกรณีที่ชิน้ งานดดั แปลงน้ันเผยแพรดวยสญั ญาอนญุ าตทเี่ หมือนกนั ทกุ ประการกบั งานตนฉบบั

Attribution CC – BY ใหเ ผยแพร ดดั แปลง โดยตองระบุทม่ี า Attribution CC – BY -SA ใหเผยแพร ดัดแปลง โดยตองระบทุ ม่ี าและตองเผยแพรง านดัดแปลง โดยใชส ัญญาอนญุ าตเดียวกนั Attribution CC – BY -ND ใหเ ผยแพร โดยตองระบทุ ่มี า แตห ามดดั แปลง

Attribution CC- BY -NC ใหเผยแพร ดดั แปลง โดยตอ งระบุที่มาแต หามใชเพ่ือการคา Attribution CC- BY – NC – SA ใหเผยแพร ดัดแปลง โดยตอ งระบุท่มี าแตห า มใชเ พือ่ การคา และตองเผยแพรงานดดั แปลงโดยใชสญั ญาอนุญาตชนดิ เดยี วกนั Attribution CC- BY – NC -ND ใหเผยแพร โดยตอ งระบทุ ่มี าแตหามดัดแปลงและหา มใชเ พอ่ื การคา

ถา นักเรียนถา ยภาพและนําไปอปั โหลดบนเวบ็ ไซต โดยอนุญาตใหผ ูอ ่ืนนาํ ไปใช เผยแพรได โดยตองระบหุ รือแสดงท่มี า นกั เรยี นจะกาํ หนดสัญญาแบบใด ก. ข. ค. ง.

ถานักเรียนสรางแอปพลิเคชนั ตรวจสอบรายช่ือการเขาเรียน ข้ึนมาและอนญุ าตใิ หผอู ่ืนสามารถเผยแพรและดดั แปลงได แตตองระบทุ ่ีมา และหามใหเพ่อื การคา นกั เรยี นจะกาํ หนด สญั ญาแบบใด ก. ข. ค. ง.

หากเจอสญั ญลักษณนใ้ี นหนาเว็บเพจ นักเรียนควรทําอยางไร ก. ใหเผยแพร โดยตอ งระบทุ ี่มา แต ข. ตองระบุที่มาและตองเผยแพรงาน หา มดัดแปลง ดดั แปลงโดยใชสญั ญาอนุญาตเดยี วกัน ค. ตอ งระบทุ มี่ าแตหา มดดั แปลง ง. ตองระบทุ ี่มาแตหา มใชเ พอ่ื การคาและตอง และหามใชเ พื่อการคา เผยแพรงานดัดแปลงโดยใชส ัญญาอนุญาต ชนิดเดียวกนั