ครูภาณุวฒั น์ เกิดโชติ กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
คำนำ หนังสือออนไลน์(e-book) เรอ่ื งวัฒนธรรมจัดทำขึ้น เพื่อ เป็นส่วนหนึ่งขอ ง กำรศึกษำขอ งนักเรีย นช้ัน มธั ยมศึกษำปีที่ 3 เพื่อให้ผ้เู รยี นมคี วำมรู้ควำมเข้ำใจใน เร่อื งวัฒนธรรมมำก ขนบธรรมเนียมประเพณี ทั้งของ ไทยและสำกล ซึ่งสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลำง กำรศึกษำข้ันพืน้ ฐำน พ.ศ.2551 หวังเปน็ อยำ่ งยิ่งวำ่ หนงั สือออนไลน์(e-book)เล่ม นี้จะเป็นแหล่งควำมรู้สำหรับผู้ที่ศึกษำและผู้ที่สนใจ นำไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ไป ภำณุวฒั น์ เกิดโชติ
สำรบัญ เร่อื ง หน้า วฒั นธรรม....................................................................... 1 ความสาคัญ.................................................................... 2 ประเภทของวัฒนธรรม..................................................... 3 วัฒนธรรมไทย................................................................. 4 วฒั นธรรมสากล............................................................ 20 ความแตกต่างระหว่างวฒั นธรรมไทย/สากล.................... 28
วฒั นธรรม หมำยถึง สิ่งทีม่ นษุ ยส์ รำ้ งขึน้ เพอื่ ควำมเจรญิ ก้ำวหน้ำจนเปน็ เอกลกั ษณข์ องสงั คม นั้นๆ และถ่ำยทอดไปส่คู นรนุ่ หลัง
ชว่ ยยึดเหนี่ยวให้สมำชิกในสังคม เป็นอันหนงึ่ อนั เดยี วกนั กำหนดหนำ้ ที่ สถำนภำพ บทบำท ของสมำชิกในสงั คม วฒั นธรรมชว่ ยสร้ำงระเบียบ ควำมสำมคั คี ในสงั คม วัฒนธรรมเปน็ ตัวกำหนดรปู แบบ ของสถำบัน วัฒนธรรมเปน็ เครื่องแสดง เอกลกั ษณข์ องชำติ วัฒนธรรมชว่ ยให้ประเทศชำติ เจริญก้ำวหน้ำ
1 คติธรรม = เปน็ วฒั นธรรมทำงควำมคดิ ใน รูปแบบคติสอนใจ ควำมเชื่อ เช่น ควำมเมตตำกรุณำ ควำมกตัญญูกตเวที เปน็ ตน้ 2 เนติธรรม = เปน็ วัฒนธรรมทำงกฎหมำย หรือ รูปแบบกฎ ระเบยี บ ขอ้ ตกลงตำ่ งๆ เช่น กฎหมำย ศลี 3 สหธรรม = เปน็ วัฒนธรรมทำงสงั คม ในรูปแบบ มำรยำท และประเพณี เชน่ มำรยำทตำ่ งๆ ในสงั คม 4 วัตถธุ รรม = เปน็ วัฒนธรรมทำงวัตถุ ทีส่ ำมำรถจับ ตอ้ งสัมผัสได้ เชน่ บ้ำนเรือน อำหำร เครือ่ งแต่งกำย เปน็ ตน้
พระพุทธศำสนำ กำรมีพระมหำกษตั รยิ ์ ทรงเป็นประมขุ วฒั นธรรม ประจำชำติ อำหำรไทย ภำษำไทย และ สมนุ ไพร อำชีพเกษตรกรรม
วฒั นธรรมด้ำนอำหำร อำหำรของภำคเหนือ มลี ักษณะสำคัญ คอื รสชำติไม่จดั ไม่นิยมใสน่ ้ำตำลในอำหำร น้ำพริกหนมุ่ เปน็ อำหำรพืน้ บำ้ นล้ำนนำที่รูจ้ กั กนั ทว่ั ไปส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ พริก กระเทียม ผกั สดตำ่ งๆ โดยมักจะ รับประทำนกบั แคบหมู
วฒั นธรรมดำ้ นศำสนำและ ลทั ธิควำมเชื่อ วฒั นธรรมของภำคเหนือ เปน็ วฒั นธรรมที่มี เอกลักษณ์เฉพำะตัวที่ยงั คงยึดม่นั ในขนบธรรมเนียม ประเพณีของพระพทุ ธศำสนำ ทีม่ ีกำรสืบทอดมำเป็นเวลำยำวนำน งำนประเพณีสืบชะตำ ได้รับอิทธิพลจำกพระพทุ ธศำสนำ กระทำขึ้นเพือ่ ยืดชีวิตด้วยกำรทำพิธี เพือ่ ให้รอดพน้ ควำมตำย เป็นประเพณีทีค่ นล้ำนนำนิยมกระทำมำจนถงึ ทกุ วันนี้
วัฒนธรรมด้ำนอำหำร อำหำรของภำคตะวันออกเฉียงเหนือ มีลักษณะ สำคญั คอื มีรสจดั มีผักเปน็ ส่วนประกอบหลกั อำหำรจะมีลักษณะแห้ง ข้น หรือมีนำ้ ขลกุ ขลิก ไม่นิยมใสก่ ะทิ สม้ ตา เ ป็ น อ ำ ห ำ ร ย อ ด นิ ย ม ที่ มี ต้ น ก ำ เ นิ ด จ ำ ก ภ ำ ค ตะวันออกเฉียงเหนือ มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ มะละกอดิบ มะเขือเทศ ถั่วลิสง พริก และกระเทียม นยิ มรับประทำนกบั ขำ้ วเหนยี วและ ไก่ยำ่ ง
วัฒนธรรมด้ำนศำสนำและลทั ธิควำมเชือ่ วัฒนธรรมของภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ มีเอกลกั ษณ์บนพื้นฐำนประวัติศำสตรอ์ นั ยำวนำน มีควำมเกี่ยวข้องกับแนวคดิ ควำมศรทั ธำ และควำมเชือ่ ที่ปฏบิ ตั ิสืบต่อกันมำ บญุ บง้ั ไฟ เป็นประเพณีที่สำคัญของภำคตะวันออกเฉียงเหนอื จดั ขึ้นในชว่ งเดือนเมษำยน-พฤษภำคมของทุกปี โดยชำวนำจะขอฝนจำกพญำแถนตำมควำมเชื่อ จึงมีกำรจัดพธิ ีบชู ำพญำแถนทกุ ปีด้วยกำรทำบัง้ ไฟ
วฒั นธรรมด้ำนอำหำร อำหำรของภำคกลำง มีลักษณะสำคัญ คือ มีควำมหลำกหลำยในกำรปรงุ กำรตกแตง่ อำหำร โดยรสชำติจะมีรส เคม็ เผ็ด เปรีย้ ว หวำน เคลำ้ กันไปตำม ชนิดของอำหำร นำ้ พริกปลำทู เป็นอำหำรทีไ่ ด้รับควำมนยิ ม เนือ่ งจำกสภำพ ภมู ิศำสตรข์ องภำคกลำงเปน็ ทรี่ ำบลุ่ม มีควำมอุดม สมบรู ณ์ โดยสว่ นประกอบที่สำคัญ ได้แก่ ปลำทู พริก ขี้หนู หอมแดง กระเทียม มะนำว เปน็ ตน้
วฒั นธรรมด้ำนศำสนำและลทั ธิควำมเชื่อ วัฒนธรรมของภำคกลำง เปน็ วัฒนธรรมที่ เกย่ี วเนื่องกับพระพทุ ธศำสนำ ทีม่ ีควำมเชือ่ มโยงกับประเพณี พิธีกรรม ควำมเชือ่ และกำรดำเนินชีวิต เปน็ ประเพณีประจำทอ้ งถิ่นของชำวอำเภอบำง พลี จังหวดั สมทุ รปรำกำร ซึ่งจัดขึน้ เปน็ ประจำทุกปี ในวนั ขึน้ 14 คำ่ เดือน 11 โดยชำวบ้ำนจะพำกันมำคอย นมสั กำรหลวงพ่อโตอยู่รมิ คลอง และเดด็ ดอกบัวโยน ขึ้นไปบนเรอื ของหลวงพ่อ จนกลำยเป็นประเพณีที่สืบ ทอดมำจนถึงปัจจุบนั ประเพณีรับบวั โยนบวั
วฒั นธรรมดำ้ นอำหำร อำหำรของภำคใต้ มีลกั ษณะที่สำคัญ คอื รสจดั จำ้ น นิยม ใสเ่ ครือ่ งเทศ เชน่ ขมิน้ เนือ่ งจำกช่วยดับกลิน่ คำวของ อำหำร โดยอำหำรภำคใต้จะไมเ่ นน้ รสหวำน ข้ำวยำ เปน็ อำหำรไทยภำคใต้ โดยถือกนั วำ่ เปน็ อำหำรที่มีโภชนำกำรครบถ้วน และมี คณุ ลักษณะพเิ ศษแตกตำ่ งจำกอำหำรจำนเดียว ท่ัวไป สว่ นประกอบสำคัญ ไดแ้ ก่ ข้ำวสวย ขำ่ ตะไคร้ พรกิ ถ่ัวงอก เปน็ ตน้
วฒั นธรรมด้ำนศำสนำและลทั ธิควำมเชื่อ วฒั นธรรมของภำคใต้ มีควำมเปน็ มำอัน ยำวนำน เปน็ แหลง่ อำรยธรรมของ พระพุทธศำสนำ ซึง่ ได้หลอ่ หลอมกบั ควำมเชื่อ ด้งั เดิม กอ่ ให้เกิดประเพณีทสี่ ำคญั ประเพณีชกั พระ เป็นประเพณีพื้นเมืองของชำวภำคใต้ โดย พทุ ธศำสนิกชนจะพรอ้ มใจกันอญั เชิญพระพทุ ธรปู จำกวดั ขึน้ ประดิษฐำนบนบุษบกที่วำงอยู่ตรงร้ำน ไม้ แลว้ ลำกหรือแห่ไปตำมถนนหนทำง แม่น้ำลำ คลอง หรือริมฝ่งั ทะเล
ควำมหมำยของวัฒนธรรมสำกล วัฒนธรรมที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปอย่ำงกว้ำงขวำง หรือ เปน็ อำรยธรรม ที่ได้รับกำรปฏิบัติตำมกันท่ัวโลก เช่น กำรแต่งกำยชุดสำกล กำรใช้ภำษำอังกฤษ ในกำรติดต่อสื่อสำร กำรปกครองระบอบประชำธิปไตย กำรค้ำเสรี กำรใช้เครื่องจักรกล ระบบกำรสื่อสำรที่ ทนั สมัย ควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์ มำรยำทในกำรสมำคม เป็นต้น
ควำมสำคัญของวัฒนธรรมสำกล เปน็ แนวทำงในกำรปฏิบตั ิร่วมกันของประเทศต่ำงๆ ใน โลก เช่น ภำษำสำกล ระบอบกำรเมืองกำรปกครอง เป็นต้น เพรำะในปัจจุบันเป็นยุคแหง่ โลกำภิวตั น์ มนุษยท์ ัว่ โลก มีกำร ติดต่อถงึ กนั มำกขึ้น กำรที่ประเทศไทยจะพฒั นำสู่ควำมเป็นสำกลคนไทย จึงจำเปน็ ต้องเรียนรูว้ ฒั นธรรมสำกล เพื่อพัฒนำศักยภำพ ตนเองและกำ้ วทันควำมเปลี่ยนแปลงทีเ่ กิดขึน้ อยำ่ งรวดเร็ว
แนวคิดเรื่อง สิทธนิ ษุ ยชน ระบบเศรษฐกิจ กำรปกครองระบอบประชำธิปไตย แบบทนุ นิยม วฒั นธรรมสำกลที่สำคญั ในยคุ ปัจจุบัน คอมพิวเตอรแ์ ละอินเทอร์เนต็ กำรแต่งกำย ภำษำอังกฤษ ดนตรี กีฬำ
วฒั นธรรมไทยเน้นปรัชญำ “มนุษย์สอดคล้องกับ ธรรมชาติ” เป็นอันหนึ่งอันเดียว กับธรรมชำติ ดังนั้น คน ไ ทย จึ ง นิ ย ม ส ร้ ำ ง วั ฒ น ธ ร ร ม ใ ห้ ก ล ม ก ลื น กั บ ธ ร ร ม ช ำ ติ เชน่ กำรทำขวญั ข้ำว ประเพณีบญุ บัง้ ไฟ เป็นตน้ วฒั นธรรมสำกลเน้นปรัชญำ “มนุษย์เป็นนายธรรมชาติ” สำมำรถบังคบั ธรรมชำติให้ตอบสนองควำมต้องกำรของมนุษย์ได้ ทั้งหมด จนนำไปสู่กำรประดิษฐ์คิดค้นวัตถุและเทคโนโลยีที่ ทั น ส มั ย เ พื่ อ ส ร้ ำ ง ค ว ำ ม ส ะ ด ว ก ส บ ำ ย ใ ห้ แ ก่ ม นุ ษ ย์ เช่น เครอ่ื งบิน รถยนต์ รถไฟฟ้ำ โทรศัพทม์ ือถือ เปน็ ต้น
โลกทศั น์ วัฒนธรรมไทยมองโลกแบบองค์รวม ทุกสิ่ง ห ล อ ม ร ว ม เ ป็ น อั น ห นึ่ ง อั น เ ดี ย ว กั น ไม่สำมำรถแยกออกจำกกันได้ โดยองค์ประกอบ ทั้งหลำยมีควำมสมดุล ช่วยจรรโลงโลกให้มีควำมน่ำ อยู่ รื่นรมย์ และสงบสุข วัฒนธรรมสำกลมองทุกสิ่งเป็น 2 ส่วนเสมอ เช่น ขำว-ด ำ ทันสมัย -ล้ำสมัย จึง มีควำมพย ำย ำมที่จะ ปรับเปลี่ยนสิ่งที่ล้ำสมัยให้มีควำมทันสมัยอยู่เสมอ เช่น กำรพัฒนำเทคโนโลยี กำรพฒั นำกำรคมนำคมขนส่ง เป็น ต้น
วิธีกำรทำงวิทยำศำสตร์ วัฒ น ธ ร ร ม ไ ท ย เ น้ น ค ว ำ ม คิ ด ค ว ำ ม เ ชื่ อ ต ำ ม หลกั ธรรมทำงศำสนำ ยึดมั่นในควำมจริงควบคู่ไปกับ แนวคิดทำงวิทยำศำสตร์ บนพื้นฐำนควำมสัมพันธ์ ระหว่ำงมนุษย์กบั มนุษย์ โดยครอบคลุมถึงเร่ืองกำร ดำเนินชีวิต ท้งั ทีเ่ ป็นรูปธรรมและนำมธรรม วฒั นธรรมสำกลเนน้ ทฤษฎีและกำรพิสูจน์บนพื้นฐำน ของวิทยำศำสตร์ มีกำรต้ังสมมติฐำน วิเครำะห์ สังเครำะห์ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นเหตุเป็นผล นำไปใช้ในกำรพัฒนำ เทคโนโลยีทีท่ ันสมยั เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเทคโนโลยีข้ัน สงู
แนวทำงกำรอนุรกั ษแ์ ละ ถ่ำยทอดวัฒนธรรมไทย สง่ เสรมิ ให้ชนทกุ กลุม่ เห็นคุณคำ่ ขยำยขอบเขตกำรมสี ่วนรว่ มทำงวฒั นธรรม ส่งเสรมิ กำรแลกเปลีย่ นศิลปวัฒนธรรม สรำ้ งทัศนคติ ควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ เกีย่ วกับวัฒนธรรม ว่าเป็นทรัพย์สมบตั ิของทุกคน ส่งเสรมิ ให้ประชำชนรู้จักใช้สิทธิและหนำ้ ที่ สิทธิในการอนุรักษ์ ฟืน้ ฟูจารีตประเพณี ภูมิปญั ญาท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรม จัดทำระบบเครอื ข่ำยสำรสนเทศทำงวัฒนธรรม เพือ่ เปน็ ศูนย์ กลางในการเผยแพร่ขอ้ มลู ประชาสัมพนั ธ์งานต่างๆ ทีเ่ กี่ยวกับวฒั นธรรม
แนวทำงกำรเลือกรับ วฒั นธรรมสำกล เลือกรบั วฒั นธรรมสำกล ทีจ่ ำเป็นต่อกำรดำเนิน ชีวิตประจำวัน พิจำรณำขอ้ ดีข้อเสียควบคู่กัน มีกำรพฒั นำและผสมผสำน วัฒนธรรมไทยให้เหมำะสมกบั สมยั ปจั จุบัน มีกำรรว่ มมือ ค้นคว้ำ เผยแพร่ รวมถงึ กำร ประยกุ ต์ใชภ้ ูมิปญั ญำไทย
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: