Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 20การทำนาข้าวหอมมะลิ นายคำตา ทิพย์แสง

20การทำนาข้าวหอมมะลิ นายคำตา ทิพย์แสง

Published by artaaa143, 2019-05-10 02:00:41

Description: 20การทำนาข้าวหอมมะลิ นายคำตา ทิพย์แสง

Search

Read the Text Version

ภมู ปิ ัญญาศึกษา เรอ่ื ง การทานา(ขา้ วพนั ธุ์หอมมะลิ 105) โดย 1. นายคาตา ทพิ ยแ์ สง (ผู้ถา่ ยทอดภมู ปิ ญั ญา) 2. นางสาวมะลิณี นินทะ (ผเู้ รียบเรียงภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น) เอกสารภมู ิปัญญาศึกษานเ้ี ปน็ ส่วนหน่งึ ของการศึกษา ตามหลักสตู รโรงเรียนผู้สงู อายเุ ทศบาลเมอื งวงั น้าเย็น ประจาปีการศกึ ษา 2561 โรงเรยี นผูส้ งู อายเุ ทศบาลเมืองวงั นา้ เย็น สังกดั เทศบาลเมืองวงั น้าเยน็ จงั หวดั สระแก้ว

คานา ภูมิปัญญาชาวบ้านของคนไทยเรานั้นมีอยู่จานวนมาก ล้วนแต่มีคุณค่าและมีประโยชน์ เป็นการบอก เล่าถึงวัฒนธรรมไทยได้เป็นอย่างดี แต่ปัจจุบันภูมิปัญญาเหล่าน้ัน กาลังสูญหายไปพร้อม ๆ กับชีวิตของคน ซึ่งดับสูญไปตามกาลเวลา เทศบาลเมืองวังน้าเย็นได้เล็งเห็นคุณค่าและความสาคัญในเรื่องดังกล่าว จึงจัดต้ัง โรงเรียนผู้สูงอายุขึ้น เพื่อให้ผู้สูงอายุในเขตตาบลวังน้าเย็นได้มารวมตัวกัน เพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้ ซึ่งกันและ กัน ก่อนจบการศึกษา นักเรียนผู้สูงอายุทุกคนต้องจัดทาภูมิปัญญาศึกษาคนละ 1 เรื่อง เพื่อเก็บไว้ให้อนุชน รนุ่ หลังได้ศึกษา เปน็ การสืบทอด มใิ ห้ภมู ปิ ญั ญาสูญไป ภูมิปัญญาฉบับนี้สาเร็จได้ เพราะรับความกรุณาและการสนับสนุน จากท่านท้ังหลายเหล่านี้ ได้แก่ นายคาตา ทิพย์แสง และนางสาวมะลิณี นินทะ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงให้คาปรึกษา แนะนาในการจัดทา ภูมิปัญญา ได้ให้ความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่เรียนอยู่เป็นเวลา 2 ปี คณะกรรมการบริหาร โรงเรียนผู้สูงอายุ เจ้าหน้าท่ีกองสาธารณสุขและส่ิงแวดล้อมเทศบาลเมืองวังน้าเย็นทุกท่าน ท่ีให้การดูแล และช่วยเหลือตลอดมา และท่ีสาคัญได้แก่ ท่านนายวันชัย นารีรักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองวังน้าเย็น และ นายคนองพล เพช็ รรืน่ ปลัดเทศบาลเมืองวังน้าเยน็ ซงึ่ เป็นผู้กอ่ ตง้ั โรงเรียนผู้สูงอายุ และให้การสนับสนุน ดูแลนกั เรียนผู้สูงอายุเป็นอยา่ งดี ขอขอบคุณทกุ ท่านไว้ ณ โอกาสน้ี นายคาตา ทพิ ย์แสง นางสาวมะลิณี นนิ ทะ ผจู้ ัดทา

ทีม่ าและความสาคัญของภมู ิปญั ญาศึกษา จากพระราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ท่ีว่า “ประชาชนนน่ั แหละ ทีเ่ ขามคี วามรเู้ ขาทางานมาหลายชวั่ อายุคน เขาทากันอย่างไร เขามีความเฉลยี วฉลาด เขารวู้ ่าตรงไหน ควรทากสิกรรม เขารู้ว่าตรงไหนควรเก็บรักษาไว้ แต่ที่เสียไปเพราะพวกไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ทามานานแล้ว ทาให้ ลืมว่าชีวิตมนั เป็นไปโดยการกระทาที่ถูกต้องหรือไม่” พระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ- พลอดลุ ยเดช ที่สะทอ้ นถงึ พระปรีชาสามารถในการรบั รแู้ ละความเข้าใจหย่งั ลึก ทีท่ รงเห็นคุณคา่ ของ ภูมปิ ัญญาไทยอยา่ งแทจ้ รงิ พระองคท์ รงตระหนกั เป็นอยา่ งยง่ิ ว่า ภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ เปน็ สงิ่ ท่ีชาวบา้ น มีอยู่แล้ว ใช้ประโยชน์เพ่ือความอยู่รอดกันมายาวนาน ความสาคัญของภูมิปัญญาท้องถ่ิน ซึ่งความรู้ที่สั่งสม จากการปฏิบัติจริงในห้องทดลองทางสังคม เป็นความรู้ด้ังเดิมที่ถูกค้นพบ มีการทดลองใช้ แก้ไข ดัดแปลง จนเปน็ องค์ความรทู้ ีส่ ามารถแก้ปญั หาในการดาเนินชวี ติ และถ่ายทอดสบื ตอ่ กันมา ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ เป็นขุมทรพั ย์ทางปัญญาที่คนไทยทุกคนควรรู้ ควรศึกษา ปรับปรุง และพัฒนาให้สามารถนาภูมิปัญญาท้องถิ่น เหลา่ นั้นมาแกไ้ ขปัญหาให้สอดคลอ้ งกบั บริบททางสงั คม วัฒนธรรมของกลุ่มชมุ ชนนนั้ ๆ อย่างแท้จริงการพัฒนาภูมิปัญญาศึกษานับเป็นสิ่งสาคัญต่อบทบาทของชุมชนท้องถ่ินที่ได้พยา ยามสร้างสรรค์ เป็นนา้ พักนา้ แรงรว่ มกันของผ้สู งู อายแุ ละคนในชุมชนจนกลายเป็นเอกลักษณ์และวฒั นธรรม ประจาถ่นิ ทเี่ หมาะตอ่ การดาเนินชีวิต หรอื ภูมิปัญญาของคนในท้องถ่ินนั้น ๆ แต่ภูมิปัญญาท้องถ่ินส่วนใหญ่เป็น ความรู้ หรือเป็นสิ่งท่ีได้มาจากประสบการณ์ หรือเป็นความเช่ือสืบต่อกันมา แต่ยังขาดองค์ความรู้ หรือขาด หลักฐานยืนยนั หนกั แน่น การสรา้ งการยอมรับท่เี กดิ จากฐานภูมิปัญญาท้องถ่ินจึงเปน็ ไปไดย้ าก ดังนนั้ เพอื่ ใหเ้ กิดการสง่ เสรมิ พฒั นาภมู ิปญั ญาท่ีเป็นเอกลักษณ์ของท้องถ่ินกระตุ้นเกิดความภาคภูมิใจ ในภูมิปัญญาของบุคคลในท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและวัฒนธรรมไทย เกิดการถ่ายทอดภูมิปัญญาสู่คนรุ่นหลัง โรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลเมืองวังน้าเย็นได้ดาเนินการจัดทาหลักสูตรการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาศักยภาพ ผู้สูงอายุในท้องถ่ินท่ีเน้นให้ผู้สูงอายุได้พัฒนาตนเองให้มีความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุท่ีมีคุณภาพในอนา คต รวมท้ังสืบทอดภูมิปัญญาในการดารงชีวิตของนักเรียนผู้สูงอายุท่ีได้ส่ังสมมา เกิดจากการสืบทอดภูมิปัญญา ของบรรพบุรษุ โดยนกั เรียนผูส้ งู อายุจะเปน็ ผูถ้ ่ายทอดองค์ความรู้ และมีครูพี่เล้ียงซึ่งเป็นคณะครูของโรงเรียน ในสงั กดั เทศบาลเมืองวงั นา้ เยน็ เป็นผูเ้ รยี บเรยี งองค์ความรไู้ ปสู่การจัดทาภมู ิปญั ญาศึกษา ให้ปรากฏออกมาเป็นรูปเล่มภูมิปัญญาศึกษา ใช้เป็นส่วนหน่ึงในการจบหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียน ผู้สูงอายุ ประจาปีการศึกษา 2561 พร้อมทั้งเผยแพร่และจัดเก็บคลังภูมิปัญญาไว้ในห้องสมุดของโรงเรียน เทศบาลมติ รสัมพนั ธว์ ิทยา เพ่ือให้ภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ เหลา่ นเ้ี กิดการถ่ายทอดสู่คนรุ่นหลังสบื ต่อไป จากความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรในหน่วยงานและภาคีเครือข่ายที่มีส่วนร่วมในการผสมผสาน องค์ความรูเ้ พือ่ ยกระดับความร้ขู องภูมปิ ญั ญานัน้ ๆ เพ่ือนาไปสู่การประยุกตใ์ ช้ และผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ ใหส้ อดรบั กับวิถีชีวิตของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนาภูมิปัญญาไทยกลับสู่การศึกษา สามารถส่งเสริม ใหม้ กี ารถา่ ยทอดภมู ปิ ัญญาในโรงเรยี นเทศบาลมิตรสัมพันธ์วิทยา และโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองวังน้าเย็น เกิดการมีส่วนร่วมในกระบวนการถ่ายทอด เช่ือมโยงความรู้ให้กับนักเรียนและบุคคลทั่วไปในท้องถ่ิน โดยการ นาบุคลากรท่มี คี วามรู้ความสามารถในท้องถิ่นเขา้ มาเปน็ วทิ ยากรใหค้ วามรู้

กับนักเรียนในโอกาสต่าง ๆ หรือการที่โรงเรียนนาองค์ความรู้ในท้องถ่ิน เข้ามาสอนสอดแทรกในกระบวนการ จัดการเรียนรู้ สิ่งเหล่าน้ีทาให้การพัฒนาภูมิปัญญาท้อ งถ่ิน นาไปสู่การสืบทอดภูมิปัญญาศึกษา เกิดความสาเร็จอย่างเป็นรูปธรรม นักเรียนผู้สูงอายุเกิดความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของตนท่ีได้ถ่ายทอดสู่คน รุ่นหลังให้คงอยู่ในท้องถิ่น เป็นวัฒนธรรมการดาเนินชีวิตประจาท้องถ่ิน เป็นวัฒนธรรมการดาเนินชีวิ ต คแู่ ผ่นดินไทยตราบนานเทา่ นาน นิยามคาศัพท์ในการจัดทาภูมปิ ญั ญาศึกษา ภูมิปัญญาศึกษา หมายถึง การนาภูมิปัญญาการดาเนินชีวิตในเรื่องที่ผู้สูงอายุเช่ียวชาญท่ีสุด ของ ผู้สูงอายทุ ี่เขา้ ศกึ ษาตามหลักสูตรของโรงเรยี นผ้สู ูงอายุเทศบาลเมืองวังน้าเย็น มาศึกษาและสืบทอดภูมิปัญญา ในรูปแบบตา่ ง ๆ มีการสืบทอดภูมิปัญญาโดยการปฏิบัติและการเรียบเรียงเป็นลายลักษณ์อักษรตามรูปแบบท่ี โรงเรียนผสู้ ูงอายกุ าหนดข้นึ ใช้เป็นส่วนหน่ึงในการจบหลักสูตรการศึกษา เพ่ือให้ภูมิปัญญาของผู้สูงอายุได้รับ การถา่ ยทอดสคู่ นรุ่นหลังและคงอยู่ในทอ้ งถ่นิ ต่อไป ซ่ึงแบง่ ภมู ปิ ญั ญาศึกษาออกเป็น 3 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. ภมู ปิ ัญญาศึกษาทผี่ ู้สงู อายเุ ป็นผู้คิดคน้ ภมู ิปญั ญาในการดาเนินชวี ิตในเรื่องทเ่ี ชยี่ วชาญทส่ี ดุ ด้วยตนเอง 2. ภูมิปัญญาศกึ ษาทีผ่ สู้ ูงอายุเป็นผูน้ าภูมิปัญญาท่ีสืบทอดจากบรรพบุรุษมาประยุกต์ใช้ในการดาเนิน ชีวติ จนเกดิ ความเช่ียวชาญ 3. ภมู ปิ ัญญาศึกษาท่ีผู้สูงอายุเป็นผู้นาภูมิปัญญาท่ีสืบทอดจากบรรพบุรุษมาใช้ในการดาเนินชีวิตโดย ไม่มีการเปล่ียนแปลงไปจากเดมิ จนเกดิ ความเชย่ี วชาญ ผถู้ ่ายทอดภูมิปัญญา หมายถึง ผู้สูงอายุท่ีเข้าศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลเมือง วังน้าเย็น เป็นผู้ถ่ายทอดภูมิปัญญาการดาเนินชีวิตในเร่ืองที่ตนเองเชี่ยวชาญมากท่ีสุด นามาถ่ายทอดให้แก่ผู้ เรียบเรยี งภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ ไดจ้ ดั ทาขอ้ มูลเปน็ รปู เลม่ ภูมปิ ญั ญาศกึ ษา ผู้เรียบเรียงภูมิปัญญาท้องถิ่น หมายถึง ผู้ที่นาภูมิปัญญาในการดาเนินชีวิตในเรื่องท่ีผู้สูงอายุ เช่ียวชาญที่สุดมาเรียบเรียงเป็นลายลักษณ์อักษร ศึกษาหาข้อมูลเพ่ิมเติมจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ จัดทาเป็น เอกสารรปู เล่ม ใชช้ ื่อวา่ “ภูมิปัญญาศึกษา”ตามรูปแบบท่ีโรงเรียนผู้สงู อายเุ ทศบาลเมืองวังน้าเยน็ กาหนด ครูที่ปรึกษา หมายถึง ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นครูพี่เลี้ยง เป็นผู้เรียบเรียงภูมิปัญญาท้องถิ่น ปฏิบัติ หน้าท่ีเป็นผู้ประเมินผล เป็นผู้รับรองภูมิปัญญาศึกษา รวมท้ังเป็นผู้นาภูมิปัญญาศึกษาเข้ามาสอนในโรงเรียน โดยบูรณาการการจดั การเรยี นรู้ตามหลกั สตู รท้องถนิ่ ที่โรงเรียนจดั ทาขึ้น

ความเปน็ มาและความสาคญั ของการทานา(ข้าวพันธุห์ อมมะลิ 105) ข้าว ของไทยเป็นพืชอาหารประจาชาติท่ีมีตานานประวัติศาสตร์มายาว นานปรากฏ เป็นร่องรอย พร้อมกับอารยธรรมไทยมาไม่น้อยกว่า 5,500 ปี ซ่ึงมีหลักฐานจากแกลบข้าวที่เป็นส่วนผสมของดิน ใช้เครื่องปั้นดินเผาท่ีบ้าน เชียง อาเภอโนนนกทา ตาบลบ้านโคก อาเภอภูเวียง อันสันนิษฐานได้ว่าเป็น เมล็ดขา้ วท่เี กแ่ กท่ ่สี ุดของไทยรวมทั้งยงั พบหลักฐานเมลด็ ขา้ วทีข่ ดุ พบทีถ่ า้ ปงุ ฮงุ จังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยแกลบ- ข้าวท่พี บนี้มีลกั ษณะของขา้ วเหนียวเมลด็ ใหญท่ เ่ี จริญงอกงามในท่ีสงู นอกจากน้ียังมีการคันพบเมล็ดข้าว เถ้าถ่านในดินและรอยแกลบข้าวบนเครื่องป้ันดินเผาท่ีโคกพนมดี อาเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี แสดงให้เห็นถึงชุมชนปลูกข้าวสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในแถบชายฝ่ังทะเล รวมทั้งยังหลักฐานคล้ายดอกข้าวป่าที่ถ้าเขาทะลุ จังหวัดกาญจนบุรี อายุประมาณ 2,800 ปี ซึ่งอยู่ในช่วง รอยต่อของยุคหินใหม่ตอนปลายกับยุคโลหะตอนต้นภาพเขียนบนผนังถ้าหรือผนังหินอายุประมาณ 6,000 ปี ท่ผี าหมอนน้อย บา้ นตาก่มุ ตาบลหว้ ยไผ่ อาเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี มีลักษณะคล้ายบันทึกการปลูก ธัญพืชอย่างหน่ึงท่ีมีลักษณะเหมือข้าว ภาพควาย แปลงพืชคล้ายข้าว แสดงให้เห็นว่า มนุษย์ได้รู้จักการ เพาะปลูกข้าวเป็นอยา่ งดแี ล้ว มาจากhttps://guru.sanook.com/26210/ ปัจจุบัน การปลูกข้าวในประเทศไทย คงมีเพียงข้าวเมล็ดป้อมที่พบมากในภาคเหนือ และภาค- ตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่ข้าวเมล็ดยาว พบมากในภาคกลางและภาคใต้ ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากท่ีสุด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพ้ืนที่ปลูกข้าว คิดเป็น 45 % ของพ้ืนที่เพาะปลูกท้ังประเทศ ส่วนใหญ่ปลูกข้าว หอมมะลิ 105 ซ่ึงเป็นข้าวคุณภาพดีท่ีสุดของโลก ข้าวท่ีปลูกในพ้ืนที่แถบน้ีจึงมักปลูกไว้เพ่ือขาย รองลงมา คือ ภาคกลาง และภาคเหนือ ท่ีพ้ืนที่เพาะปลูกเท่ากันประมาณ 25% ทุกวันน้ีไทยเป็นแหล่งปลูกข้าวท่ีผลิต ออกสู่ตลาดโลกมากที่สุด และเป็นศูนย์กลางของการศึกษาวิจัยพันธุ์ข้าว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทของผู้สร้าง ตานานแห่งอารยธรรมธัญญาหาร ของมนษุ ยชาติ

ในสมัยโบราณน้ัน คาว่า “ข้าว” เรียกว่า “เข้า” บางสาเนียงท้องถิ่นชาวอีสานก็ออกเสียง ว่า “เค้า” หรือ “เข่า” ซึ่งตามหลักฐานทางวัฒนธรรมน้ัน ข้าวเหนียวหรือข้าวน่ึง เป็นพันธุ์ข้าวพ้ืนเมือง เก่าแก่ของคนไทย แต่ข้าวเจ้าเป็นพันธุ์ข้าวจากต่างประเทศ ที่ชนชั้นสูงรับเข้ามาเพ่ือปลูกบริโภคในภายหลัง จนเปน็ ที่นิยมมากกวา่ ข้าวเหนยี วในปัจจุบนั ข้าวผูกพันกับคนไทยอย่างลึกซ้ึงและยาวนาน จนมีวัฒนธรรม ประเพณี และความเช่ือหลายอย่าง ตกทอดมาถงึ ทุกวนั น้ี อาทิ ความเชื่อเรื่อง “พระแม่โพสพ” ที่ชาวนาเช่อื กันว่าเป็นเทพธิดาที่ปกปักษ์รักษาข้าว การเคารพบูชาจะทาใหผ้ ลติ ผลอดุ มสมบูรณ์ มกี ารทาพิธี “แหน่ างแมว” หรือ “บญุ บ้ังไฟ” เพ่อื ขอให้ฝนฟา้ ตกตอ้ งตามฤดูกาล มปี ระเพณี “ลงแขกเกย่ี วข้าว” ท่แี สดงถึงความสามัคคี ความมีน้าใจ ร่วมแรงช่วยเหลือกัน ท้งั หมู่บ้าน เพ่ือผลดั กันเก็บเกี่ยวข้าวให้ทันฤดูกาล ทาให้มีการละเล่น ร้องราต่างๆ เกิดขึ้น เช่น เพลงเก่ียวข้าว เพลงเต้นการาเคยี ว เพลงสงฟาง เพลงชกั กระดาน หรอื การเลน่ โยนครกโยนสาก และการเล่นลูกช่วง เปน็ ต้น นอกจากน้ี ยังมีภูมิปัญญาของคนไทยที่เก่ียวข้องกับข้าวจานวนมาก อาทิ พันธ์ุข้าว ซ่ึงมีความ หลากหลายทางพันธุกรรมสูง เช่น พันธุ์ข้าวเบา ข้าวกลาง ข้าวหนัก ข้าวไร่ ข้าวข้ึนน้า ข้าวเหนียวดา ข้าวแดง เป็นต้น เหลา่ น้ีลว้ นถูกคดั เลอื กเองจากชาวนาทั้งสิ้น ฉางข้าว ในภาคต่างๆ ก็จะมีความแตกต่างกันไปตามชนิด ของวัสดุในท้องถิ่น เช่น ฉางข้ีควายผสมโคลนและฟาง ฉางไม้ไผ่ขัดแตะ ฉางไม้ ฉางไม้สัก ฉางสังกะสี ไถ ทาด้วยไม้เกือบท้ังคัน ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยเหล็ก และรถไถ ระหัดวิดน้า และกังหันน้า ของดั้งเดิมทาด้วยไม้ และวัสดุท้องถิ่นท้ังสิ้น แต่ถูกแทนท่ีด้วยเครื่องสูบน้าเกือบหมดแล้ว โม่ และครกตาข้าว ใช้สาหรับสีข้าว ฝาย หรือทานบ ทาด้วยไม้ ดนิ หนิ และวัสดทุ ้องถนิ่ และแรงงานจากการลงแขกของคนในหมู่บา้ น ความสาคญั ของการทานา(ขา้ วพันธ์หุ อมมะลิ 105) ความสาคัญของข้าวในวิถีชีวิตของคนไทยน้ันผูกพันธ์กันมานานนับแต่โบราณ จนถึงปัจจุบัน เพียงแต่ ในปัจจุบันมีเคร่ืองไม้เครื่องมือช่วยในการทานา ซ่ึงมีความแตกต่างจากสมัยโบราณ ท่ีใช้วัวหรือควายที่ใช้ ในการไถนา และใช้แรงงานคนเป็นส่วนใหญ่ บทบาทสาคัญของข้าว ในวิถีแห่งชีวิตคนไทยและคนในเอเชียนั้น มุ่งปลูกข้าวใช้เพ่ือการปริโภค ใช้เพ่ือการแลกเปล่ียนกับปัจจัยอ่ืนๆ ท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตเช่น เส้ือผ้า ยารกั ษาโรค หรอื อาหารประเภทอื่นๆ ในปัจจุบันการทานาข้าวเปลี่ยนวัตถุประสงค์ไปจากเดิม จากการแลกเปลี่ยน เป็นการค้าขายมากขึ้น ใชเ้ ทคโนโลยีสมยั ใหม่มากขนึ้ เพือ่ ใหไ้ ด้ผลผลติ ที่เร็วท่สี ุดและมากทสี่ ุด โดยไมไ่ ด้คานึงถึงระบบนิเวศ คนไทยปริโภคข้าวอย่างมีระเบียบวิธี และมีลักษณะเฉพาะ เช่น กระบวนการแปลรูปข้าวเพื่อการ ปรโิ ภค โดยการใหข้ า้ วสุกด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการหุงต้ม การน่ึง การหลาม เป็นเหตุให้การใช้ภาชนะ ที่แตกต่างกัน รวมถึงการประกอบอาหารที่ใช้รับประทานคู่กับข้าว ก็ได้รับการเอาใจใส่ คิดค้น จึงเกิดเป็น วัฒนธรรมที่ควบคูก่ นั ข้าวถูกนาไปใช้ในวัฒนธรรมด้านภาษาโดยเป็นสานวนเปรียบเทียบ คาพังเพย หรือสุภาษิตต่างๆ เชน่ ข้าวใหม่ปลามัน ขา้ วแดงแกงรอ้ น ทานาบนหลังคน ข้าวนอกนา และอีกมากมาย

ข้าวมีความสาคัญในการกาหนดศักดินา เช่น ในสมัยสุโขทัย มีการกาหนดที่นาและไพร่ให้เสนาบดี ขนุ นาง ตามความสามารถในการบุกเบิกที่ดินทามาหากิน มีการจัดต้ังกรมนาข้ึนเพ่ือรับผิดชอบด้านการเกษตร โดยตรง ต่อมากลายเป็นกระทรวงพานิชการในสมัยรัชกาลที่ 5 และเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปจั จุบัน ข้าวในวิถชี วี ติ ของคนไทยนั้นผกู พนั ธก์ ันมาชา้ นาน ก่อใหเ้ กิดวัฒนธรรม ข้ึนอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ในเร่ืองของภาชนะ อาหาร พิธีกรรมต่างๆ ซ่ึงนับว่าข้าวมีจิตวิญญาณในการดารงชีวิตตามวิถีไทย เครื่องไม้ เครือ่ งมอื ต่างๆ ตามภูมิปัญญาดง้ั เดิม มคี วามเช่อื ในด้านพธิ กี รรม ในการทานาคร้ังแรกในบางพื้นท่ียังมีพิธีกรรม ตามความเช่อื ดัง้ เดิม การปลูกขา้ วพนั ธ์ุหอมมะลิ-105 ลกั ษณะทั่วไปของขา้ วหอมมะลิ 105 เป็นข้าวเจ้าชนิดไวตอ่ ชว่ งแสง ต้นขา้ วสงู ประมาณ 140-150 ซม. ข้าวจะออกดอกประมาณวันที่ 20 ตุลาคม และสุกแก่เก็บเกี่ยวได้ประมาณวันท่ี 20 พฤศจิกายนของทุกปี (ข้อมูลกรมสง่ เสรมิ การเกษตร 2541) ข้ันตอนการทานา(ขา้ วพันธุ์หอมมะลิ 105) อุปกรณ์ 1. รถไถจาน, พรวนจาน 2. เครอ่ื งหว่านเมลด็ แบบสะพายหลัง 3. เครื่องหว่านปยุ๋ แบบสะพายหลัง 4. เครอ่ื งพน่ ยาแบบสะพายหลงั 5. เคร่อื งสบู นา้ 6. เครอ่ื งเกบ็ เกยี่ วนวด, เครอื่ งนวดข้าวแบบใชเ้ ครือ่ งยนต์ 7. รถเกลยี่ /ไม้คราด(สาหรบั เกลีย่ ตากเมล็ดขา้ ว) 8. ไซโล, ฉางข้าว 9. รถอีแตก๊ , รถอแี ต๋น, รถยนต์ 4-10 ลอ้ 10. เมล็ดพันธุข์ า้ วพนั ธหุ์ อมมะลิ 105 11. ปุ๋ย 12. ยาฉีดฆา่ แมลง เพล้ีย หนอน และวัชพชื ศรตั รูข้าว

วธิ ีการทานา(ขา้ วพนั ธห์ุ อมมะลิ 105) 1. การเตรียมดิน มีวัตถุประสงค์หลัก เพ่ือปรับสภาพดินของแปลงนาให้เหมาะสมกับ การปลูก และการเจริญเติบโตของข้าว นอกจากนี้ การเตรียมดินยังช่วยควบคุมวัชพืช โรค แมลง และ สัตว์ศัตรูข้าว จะเร่ิมไถแปลงนา โดยใช้รถไถนาแบบเดินตามหรือรถแทรกเตอร์ติดจานไถรับจ้างในหมู่บ้าน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไถดะคือ เม่ือดินมีความช้ืนลึกประมาณ1 คืบ (ประมาณ 15-20 ซม.) เม่ือไถแล้ว ดนิ จะรว่ น กระจายไมต่ ิดกันเปน็ ก้อน ทีม่ าจากhttps://www.youtube.com/watch?v=OFZlV1w9bAU

2. หลงั จากการเตรียมดินเรยี บร้อยแล้ว หว่านเมลด็ ข้าวแหง้ (ขา้ วพันธ์หุ อมมะลิ 105) โดยใช้เคร่ืองหว่านเมล็ดแบบสะพายหลังหว่านเมล็ดข้าวให้ทั่วแปรงเพ่ือรอฝนตก การหว่านข้าวแห้ง หว่านเมล็ดพันธ์ุลงในแปลงโดยตรง โดยไม่ต้องเพาะเมล็ดให้งอกก่อน ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์เช่นเดียวกับ การตกกล้าเทือก คือประมาณ 80-90 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วคราดกลบเมล็ดพันธ์ุให้จมดินพอประมาณ อย่าให้จมมาก เพราะจะทาใหเ้ มลด็ งอกชา้ และโคนกล้าอยลู่ ึกทาให้ถอนยาก ทมี่ าจากhttps://www.youtube.com/watch?v=k6LYoqq-H7o&t=2s

3. การใส่ปุ๋ยเคมีจะใส่สองครั้ง คร้ังแรกเม่ือฝนตกต้นกล้าข้าวข้ึนแล้วประมาณ 15-20 วัน หลังข้าวงอก โดยใช้เคร่ืองหว่านปุ๋ยแบบสะพายหลัง ถ้าดินแปลงกล้ามีความอุดมสมบูรณ์สูง กล้างามดี ก็ไม่จาเป็นต้องใส่ปุ๋ย เพราะจะงามเกินไปใบจะยาว ต้นอ่อน ทาให้ถอนแล้วต้นขาดง่ายและต้ังตัวได้ช้า เมอ่ื นาไปปกั ดา แต่ถ้าดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่า ให้ใส่ปุ๋ยเคมีแอมโมเนียมฟอสเฟต (16-20-0) อัตราประมาณ 25-40 กิโลกรมั ต่อไร่ และครง้ั ที่สองให้ใสป่ ยุ๋ เคมีระยะสรา้ งรวงอ่อน ท่มี าจาก https://www.youtube.com/watch?v=Ojeh0wXzQfU

4. การดูแลรักษา ใช้สารป้องกันกาจัดโรคแมลงศัตรูข้าวตามความจาเป็น โดยใช้เครื่อง พน่ ยาแบบสะพายหลัง ทีม่ าจาก)https://www.youtube.com/watch?v=12q6xtPQ4hE

5. เม่ือข้าวออกรวงหมดแล้วก่อนเก็บเก่ียวประมาณ 10 วัน ให้ระบายน้าในนาออกให้หมด โดยใชเ้ คร่อื งสบู นา้ เพือ่ เรง่ ใหข้ ้าวแก่และเก็บเกย่ี วไดส้ ะดวก ทมี่ าจากhttps://www.youtube.com/watch?v=I8Iy3NA_-Lk&t=2s

6. ข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 มีอายุการเก็บเกี่ยว ประมาณ 25 พฤศจิกายน ซ่ึงข้าวอยู่ ในระยะพลบั พลงึ หรอื เหลืองกลว้ ย เป็นระยะท่ีข้าวมีอายุได้ประมาณ 27-30 วัน หลังข้าวออกดอก (วันท่ีข้าว- ออกดอกให้เร่มิ นับจากวนั ทขี่ า้ วในนา 80% ได้ออกดอกแล้ว) ท่ีมาจากhttps://www.youtube.com/watch?v=Kr3g40GhmG4

7. เกบ็ เก่ยี วโดยใช้เครอ่ื งเก็บเกย่ี วนวดข้าว ท่มี าจากhttps://www.youtube.com/watch?v=AoFgmH2uIyU

8. นวดขา้ วโดยใชเ้ ครื่องนวดขา้ วแบบใช้เคร่ืองยนต์ ที่มาจากhttps://www.youtube.com/watch?v=AoFgmH2uIyU

9. ขนสง่ นาขา้ วไปขายท่โี รงสีโดยใชร้ ถอีแตก๊ รถอแี ตน๋ หรือรถยนต์ 4-10 ล้อ ท่มี าจาก https://www.posttoday.com/social/general/569210

10. ข้าวอีกส่วนหนึ่งเก็บทาพันธ์ข้าวปลูก ท่ีใช้ปลูกในการทานาคร้ังต่อไป หรือนาไปสีข้าว รับประทานเองในครอบครัว ก่อนนาไปเก็บรักษา จะนามา ลดความช้ืนข้าวเปลือกโดยการนาข้าวมาเกล่ีย และตากจนแหง้ ท่มี าจากhttps://www.youtube.com/watch?v=5M6IplmCdtcลงพืน้ ที่ชแี้ จงมาตรการจานาย้งุ ฉาง

11. เม่ือตากข้าวจนแห้งแล้ว จะนาข้าวใส่ลงในกระสอบ นาไปเก็บรักษา ในไซโล หรือฉางข้าวเพื่อเก็บทาพันธ์ข้าวปลูก ที่ใช้ปลูกในการทานาครั้งต่อไป หรือนาไปสีข้าวรับประทานเอง ในครอบครวั

ข้อดีของข้าวพันธ์ุหอมมะลิ 105 1. ต้นสงู ทาให้เกบ็ เกี่ยวง่าย 2. ทนแลง้ ได้ดีพอสมควร บางครั้งสามารถปลกู เปน็ ขา้ วไรไ่ ด้ 3. เมล็ดข้าวสารใส แข็งแกรง่ คุณภาพการขัดสดี ี 4. คณุ ภาพการหงุ ต้มดี มีกล่ินหอม และอ่อนน่ิม 5. อายุขอ้ นค่างเบา เก็บเกย่ี วได้เร็ว 6. ขายได้ราคาดีกว่าขา้ วพันธ์ุอน่ื 7. นวดง่าย เนอื่ งจากเมล็ดหลุดรว่ งจากรวงงา่ ย 8. ทนทานต่อดินเปรี้ยวและดนิ เค็ม ขอ้ เสียของข้าวพันธ์ุหอมมะลิ 105 1. ตน้ ข้าวอ่อน ล้มง่าย จึงปลกู ได้เฉพาะนาปีเท่าน้ัน 2. น้าหนักเมล็ดเบา ผลผลิตค่อนขา้ งตา่ 3. ไมต่ ้านทานโรคขอบใบแห้ง ใบไหม้ ใบสสี ม้ โรคใบจดุ สีนา้ ตาล และโรคใบหงิก( โรคจู๋ ) 4. ไม่ต้านทานเพล้ยี กระโดดสนี า้ ตาล เพล้ยี จักจ่ันสีเขยี ว และหนอนกอ 5. ทรงกอแผ่ ถ้าแก่สุกงอมเกินไปจะทาให้เก่ียวยาก ขอ้ เสนอแนะหลักการใส่ปุ๋ยเคมีใหม้ ีประสทิ ธิภาพ 1. ชนดิ ของปุ๋ยทีจ่ ะใช้ ควรตดั สนิ ใจกอ่ นว่าปุ๋ยที่ต้องการใช้เปน็ ปยุ๋ อะไรเป็นปุ๋ยเชิงเดย่ี วหรอื ปยุ๋ เชิง- ประกอบ แล้วจัดเตรียมปุ๋ยไวใ้ หพ้ รอ้ ม 2. ชนดิ ของพันธขุ์ า้ วท่จี ะปลกู ควรตัดสนิ ใจว่าจะใชพ้ ันธข์ุ ้าวอะไรปลูก เช่น ข้าวไม่ไวตอ่ ชว่ งแสงซง่ึ ตอบสนองต่อปุ๋ยสูง ให้ผลผลิตสูงและปลูกได้ตลอดปี หรือข้าวไวต่อช่วงแสง ซึ่งตอบสนองต่อปุ๋ยต่า ให้ผลผลติ ปานกลาง และปลูกไดเ้ พยี งปลี ะครง้ั ในฤดฝู น 3. ดนิ ทปี่ ลูกขา้ ว เกบ็ ตัวอยา่ งดนิ หลังการเกบ็ เกีย่ วมาวเิ คราะห์ โดยสง่ ใหห้ น่วยราชการกรมวชิ าการ- เกษตร ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ สานักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร สานักวิจัยและ พัฒนาการเกษตรเขต 1-8 และศนู ยว์ จิ ยั ทกุ แหง่ ที่อยู่ท่วั ประเทศ 4. ระยะเวลาทใี่ สป่ ุ๋ย ตอ้ งรรู้ ะยะเวลาทีค่ วรใส่ปยุ๋ ข้าว ในข้าวไวตอ่ ช่วงแสง ควรใส่ 2 คร้งั คอื

ระยะแรกในช่วงปักดา/ ในนาหว่าน 15-20 วันหลังข้าวงอก และระยะที่ข้าวกาเนิดช่อดอก ส่วนในข้าวไม่- ไวต่อช่วงแสง ควรใส่ 3 ระยะคือระยะแรก ในช่วงปักดา/ ในนาหว่าน 15-20 วันหลังข้าวงอก ระยะท่ีข้าว แตกกอสงู สดุ และยะทขี่ ้าวกาเนิดช่อดอก 5. วิธกี ารใส่ปุย๋ ใช้วิธที ่เี หมาะสมเพอ่ื ให้การใช้ป๋ยุ มีประสิทธิภาพ เช่นหวา่ นปุ๋ยแลว้ คราดกลบก่อน- ปักดา หรือหวา่ นข้าวเร่ิมเจรญิ เติมโต ระยะขา้ วเจริญเตมิ โตเตม็ ที่ และระยะสร้างรวงออ่ น 6. วธิ ีปลูก มหี ลายวธิ ี เชน่ หว่านขา้ วแหง้ หว่านน้าตม ปักดา วิธเี หล่านี้จะเป็นเครอ่ื งกาหนดชนดิ ของป๋ยุ เวลาในการใส่ รวมทัง้ อัตราทใี่ สใ่ ห้เหมาะสม 7. อตั ราปุ๋ยทใ่ี ช้ โดยพิจารณาจากคา่ วเิ คราะห์ดินเพ่อื ใหก้ ารใชป้ ุย๋ มปี ระสิทธภิ าพสงู สุด 8. ใสป่ ุ๋ยให้ถกู กับชนิดของพชื ที่ปลูก ใส่ปุ๋ยให้ถูกกับชนิดของดนิ ใส่ปยุ๋ ในปรมิ าณท่เี หมาะสมใส่ปยุ๋ ให้พชื ในขณะท่ีพืชตอ้ งการ ใสป่ ยุ๋ ให้พชื ตรงจดุ ที่พชื สามารถดึงดูดไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายท่ีสุดและเร็วที่สุดการใช้ ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ เป็นวิธีการที่ดีที่สุด เพราะต่างก็มีหน้าท่ีและมีความสาคัญต่อความอุดมสมบูรณ์ของ ดนิ กันคนละแง่ ซ่งึ ต่างก็สง่ เสริมกนั และกัน ความดขี องปุ๋ยเคมีจะทดแทนโดยปุ๋ยอินทรีย์แต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ และ ความดีของปุย๋ อนิ ทรีย์ จะใช้ปุ๋ยเคมแี ทนก็ไม่ได้เชน่ กนั การนาภมู ิปญั ญาการทานา(ขา้ วพนั ธุห์ อมมะลิ 105)ไปใชใ้ นการดาเนินชีวิต 1. เพ่ือสบื สานภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ เรือ่ งวิธกี ารทานา(ขา้ วพันธห์ุ อมมะลิ 105) สลู่ ูกหลานสืบต่อไป 2. เพอ่ื นาความรู้ทไ่ี ด้มาประกอบอาชีพ 3. ทาใหผ้ ้สู งู อายุได้ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์

ภาคผนวก - ประวัติผ้จู ัดทาภูมิปัญญาศกึ ษา - ภาพประกอบ

ประวัติผถู้ า่ ยทอดภมู ิปัญญา ชื่อ : นายคาตา ทิพยแ์ สง เกดิ : วันที่ 18 มถิ ุนายน 2492 อายุ 69 ปี ภมู ิลาเนา : บัวใหญ่ นครราชสีมา ที่อยู่ปจั จบุ ัน : 137 หมู่ 5 ต.วังนา้ เยน็ อ.วงั นา้ เย็น จ.สระแก้ว สถานภาพ : แต่งงานกับนางไหม ทิพย์แสง มี บุตร 3 คน ปจั จบุ ัน เสียชีวติ แลว้ 1. นางกาย ทิพย์แสง 2. นายเกรียง ทิพยแ์ สง 3. นางอ้อย ไทยลน้ิ ฟ้า สถานภาพ ปัจจุบัน : โสด การศกึ ษา : จบการศกึ ษาประถมศกึ ษาปีท4ี่ โรงเรยี นคึมมะอุ ตาบลหนองหวา้ อาเภอบวั ลาย จงั หวัดนครราชสมี า ปจั จบุ นั ประกอบอาชีพ : ทานา-ทาไร่ขา้ วโพด ประวตั ิผู้เรยี บเรียงภูมปิ ัญญาศึกษา ชอ่ื : นางสาวมะลิณี นนิ ทะ เกิด : วันท่ี 6 กนั ยายน 2533 อายุ 28 ปี ภูมิลาเนา : สิงหบ์ ุรี ทอ่ี ยู่ปจั จุบนั : 99/98 ต.วังนา้ เยน็ อ.วงั น้าเยน็ จ.สระแก้ว สถานภาพ : โสด สถานภาพ ปัจจุบนั : โสด การศึกษา : ปริญญาตรี มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เทพสตรี ลพบรุ ี ปจั จบุ ัน ประกอบอาชพี : พนกั งานจา้ งตามภารกิจ ตาแหนง่ ผชู้ ว่ ยครู

ภาพประกอบการจดั ทาภมู ิปญั ญาศกึ ษา เรื่อง การทานา(ข้าวพนั ธห์ุ อมมะลิ 105)

ภาพการทานา(ข้าวพนั ธุ์หอมมะลิ 105) ประชุมมอบหมายงานครูพีเ่ ล้ียงภมู ิปัญญา ประจาปีการศึกษา2561 เป็นพีเ่ ลย้ี งภมู ิปญั ญาใหก้ บั นักเรียนภูมปิ ัญญา นายคาตา ทิพยแ์ สง

เดนิ ทางมาสมั ภาษณ์ภูมปิ ญั ญาที่บา้ นของนักเรยี นภูมปิ ัญญา บา้ นนายคาตา ทิพยแ์ สง ต้ังอยบู่ า้ นเลขที่ 137 หมู่ 5 ต.วงั นา้ เยน็ อ.วังนา้ เยน็ จ.สระแกว้

การเปิดหน้าดนิ ยอ่ ยดนิ โดยใช้ รถไถจานและพรวนจาน ท่ีมาจากhttp://www.ricethailand.go.th หวา่ นเมล็ดข้าวแหง้ โดยใช้เคร่ืองหว่านเมล็ดแบบสะพายหลัง

ที่มาจากhttps://www.thaigreenagro.com หวา่ นปุ๋ยโดยใช้เครือ่ งหวา่ นปุ๋ยแบบสะพายหลงั ระบายน้าออกจากแปลงโดยใชเ้ ครอ่ื งสบู นา้

ข้าวตัง้ รวงรอควิ รถในการเกบ็ เกย่ี ว ท่มี าจาก https://www.tcijthai.com/news/2017/18/current/7430 เก็บเก่ียวโดยใชเ้ คร่ืองเก็บเกี่ยวนวดขา้ ว

ทีม่ าจาก http://www.phtnet.org/2011/04/92/ นวดขา้ วโดยใช้เครอ่ื งนวดข้าวแบบใช้เครื่องยนต์ ที่มาจาก https://www.posttoday.com/social/general/569210 ขนสง่ นาขา้ วไปขายทโี่ รงสีโดยใชร้ ถอแี ต๊ก รถอีแต๋น หรือรถยนต์ 4-10 ลอ้

ทม่ี าจากhttp://www.komchadluek.net/news/regional/300388 นาขา้ วอีกสว่ นหนึ่งเก็บทาพันธ์ข้าวปลกู ทใี่ ช้ปลกู ในการทานาครั้งตอ่ ไป หรือนาไปสขี ้าวรับประทานเอง ในครอบครวั ก่อนนาไปเก็บรักษา จะนามา ลดความช้ืนข้าวเปลอื กโดยการนาขา้ วมาเกลี่ยและตากจนแห้ง เมื่อตากขา้ วจนแห้งแลว้ จะนาข้าวใส่ลงในกระสอบ นาไปเก็บรกั ษา ในไซโล หรอื ฉางข้าว เพ่อื เก็บทาพันธข์ ้าวปลูก ที่ใช้ปลูกในการทานาครงั้ ต่อไป หรอื นาไปสีข้าวรับประทานเอง ในครอบครวั

บรรณานุกรม การทานาข้าวหอมมะลิ 105 [Online]. Araible: http://laanchaona.blogspot.com [Accessed:17.AUGUST.61]. รถเกี่ยว-นวดข้าว [Online]. Araible: http://landactionthai.org/land/index.php [Accessed:30.AUGUST.61]. หว่านเมลด็ ขา้ วแหง้ [Online]. Araible: http://www.ricethailand.go.th/web/home/index. [Accessed:30.AUGUST.61]. หวา่ นปุ๋ยแห้ง [Online]. Araible: https://www.thaigreenagro.com [Accessed:30.AUGUST.61]. พน่ ยา [Online]. Araible: https://www.svgroup.co.th [Accessed:31.AUGUST.61]. มุมพอเพียง เล่ยี งความว่นุ วาย ภายใต้ยุคขา้ วยากหมากแพง[Online]. Araible: https://www.thaigreenagro.com/ [Accessed:31.AUGUST.61]. รถไถคโู บต้าไถพรวนดินเตรียมหว่านขา้ ว Tractor [Online]. Araible: https://www.youtube.com [Accessed:30.AUGUST.61]. การหว่านปยุ๋ เคมยี ุค 4.0 [Online]. Araible: https://www.youtube.com [Accessed:30.AUGUST.61]. หว่านขา้ ว โดยการใช้เครือ่ งพ่น [Online]. Araible: https://www.youtube.com [Accessed:30.AUGUST.61]. พ่นปยุ๋ ทางใบ (นาข้าว) [Online]. Araible: https://www.youtube.com [Accessed:30.AUGUST.61]. สูบนา้ เขา้ นาด้วยท่อนาคซ่งิ เผลอแปป๊ เดียว เดนิ กลับมาน้าหมดคลอง [Online]. Araible: https://www.youtube.com [Accessed:30.AUGUST.61]. สารคดีข้าวหอมมะลิไทย ตอนท่ี 3 ลักษณะของขา้ วดอกมะลิ [Online]. Araible: https://www.youtube.com [Accessed:30.AUGUST.61]. รีวิว kubota DC-70G รถเกี่ยวอมุ้ [Online]. Araible: https://www.youtube.com [Accessed:30.AUGUST.61]. 60/61 | 14-11-60 | ชดั ขา่ วเที่ยง[Online]. Araible: https://www.youtube.com [Accessed:30.AUGUST.61]. เกษตรยุคใหม่ ล้มตอซัง ปลูกข้าว ลดต้นทนุ [Online]. Araible: https://www.youtube.com [Accessed:30.AUGUST.61].


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook