E-book-กลุ่ม2 Opunita

“กระบองเพชร” (Cactus) เป็ นพรรณไม้ ขนาดเล็กถงึ ปานกลาง ลกั ษณะตน้ ทไี่ ม่สูง มาก แลดูน่ ารกั มรี ูปทรงหลากหลายไม่ว่า จะเป็ นทรงกลม ทรงเหลี่ยม หรอื รู ปร่าง แปลกๆ แตกต่างกนั ออกไปแลว้ แตส่ ายพนั ธุ ์ แต่ลกั ษณะเด่นทเี่ รยี กไดว้ ่าเป็ นเอกลกั ษณ์ เฉพาะตวั ของเจา้ กระบองเพชรเลยกค็ อื ขน หรอื หนามแหลมคมทปี่ กคลุมอยู่รอบๆตน้ ซงึ่ หนามเหลา่ นีก้ ห็ นาบาง มขี นาดเล็กใหญ่ ตา่ งกนั ออกไปแลว้ แตช่ นิดของสายพนั ธุ ์

สองพนั กว่าชนิด แบ่งออกเป็ นกลุ่ม ตา่ ง ๆ ได้ 8 กลุ่ม ดงั นี้ 1. กลุ่ม Pereskia 2. กลมุ่ Opunita 3. กลุม่ Cereus 4. กลมุ่ Echinopsis 5. กลุ่ม Hylocereus 6. กล่มุ Neopoteria 7. กลุม่ Melocactus 8. กลุ่ม Echinocactus

แคคตสั ในสกุลนี้มีอยู่มากมายกว่า 400 ชนิดและ อีกหลากหลายสายพนั ธุ ์ ชือ่ สกุล Opuntia มาจากชือ่ เ มือ ง Opuntia ใ น ป ร ะ เ ท ศ ก รีซ แ ค ค ตัสใ น ส กุ ล นี้ มี หลากหลายลกั ษณะ มีทงั้ ตน้ เล็ก เป็ นทรงกลมต่อๆ กนั จนถงึ ชนิดทมี่ ขี นาดใหญ่ เป็ นทรงกระบอกต่อกนั และสูง กว่า 2 เมตร และบางครง้ั ก็พบว่ามลี กั ษณะสูงใหญ่ เหมอื น ไมย้ นื ตน้ สว่ นหนามกม็ ที งั้ แบบแข็งยาว และ เป็ นอนั ตราย หรอื เป็ นแบบออ่ น คลา้ ยกระดาษ เชน่ Opuntia,platyacantha ดอกของแคคตสั ในสกลุ นี้ ไม่มีดอก แต่ส่วนรงั ไข่มีขนาดใหญ่ปกคลุมดว้ ยหนาม ดอกมหี ลายสี เช่น สขี าว สเี หลอื ง สสี ม้ สแี ดง และ สมี ่วง แดง มกั จะออกดอกดกและสวยงามมาก ส่วนผลมลี กั ษณะ ทรงกลมหรอื รูปไข่ เมือ่ แก่จะมีสีเหลืองถึงสีแดง ขนาด เสน้ ผ่าศูนยก์ ลางประมาณ 2.5 - 7.5 เซนตเิ มตร แคคตสั ในสกลุ นีห้ ลายชนิดสามารถผสมตวั เองจนเกดิ ผลและรว่ ง หลน่ จนงอกเป็ นตน้ ใหม่เองไดเ้ ชน่ Opuntia fulgida แคคตสั สกลุ นีม้ ถี นิ่ กาเนิดอยู่ทางตอนเหนือสุดของ ประเทศแคนาดา ตอนใตข้ องสหรฐั เอมรกิ า เ ม็กซโิ ก อเมรกิ ากลาง ตะวนั ตกของหมู่เกาะเวสตอ์ นิ ดสี เกาะกาลา ปาโกส และใตส้ ุดของเทยี ราเดลฟิ วโกในพาทาโกเนีย พบ ไ ด้ม า กใ น ที่ ที่ มี ร ะ ดับ ค ว า ม สู ง 3 7 0 0 เ ม ต ร จ า ก ระดบั น้าทะเลส่วนใหญ่ชอบน้าและทนตอ่ อณุ หภูมติ า่ ไดถ้ งึ -18 องศาเซลซยี ส แต่มบี างชนิดทมี่ าจากทางตะวนั ตก ของหมู่เกาะเวสตอ์ นิ ดสี ไม่สามารถทนอากาศหนาวเย็นได้



การรดน้า การรดน้ากระบองเพชรขึน้ อยู่กบั สภาพอากาศ ณ ช่วงเวลานั้นๆดว้ ย ใหส้ ังเกตสภาพของดิน ถา้ ดินมี สภาพที่แหง้ แลว้ สกั 1-2 วนั ส่วนการรดน้าควรลดน้า อาทติ ยล์ ะครง้ั แบบชมุ่ ๆ ถา้ หนา้ ฝนดนิ ชนื้ ๆก็ควรเวน้ การรด น้า ปกติกระบองเพชรขาดน้าไดจ้ ึงไม่มีผลกระทบต่อ กระบองเพชรเมอื่ ไม่ไดร้ ดนา้ เป็ นเวลานาน แสงแดด พชื ทุกชนิดตอ้ งการแสงแดดในการสงั เคราะหแ์ สง และเจรญิ เติบโต กระบองเพชรอาศยั แสงแดดในการปรุง อ า ห า ร เ ลี้ย ง ล า ต น้ เ พื่อ เ จ ริญ เ ติบโ ต แ ล ะ ก า ร อ ยู่ ร อ ด กระบองเพชรควรจะไดร้ บั แสงแดดใหน้ านตลอดวนั เพราะ การที่ไดร้ บั แสงแดดที่เต็มที่นี้จะชว่ ยทาใหก้ ระบองเพชร แข็งแรงเจรญิ เตบิ โตไดร้ ปู ทถี่ กู ตอ้ งตามลกั ษณะสายพนั ธุ ์

การใหป้ ๋ ุยกระบองเพชร การใส่ป๋ ุยตระบองเพชรน้ัน เราสามารถใชป้ ๋ ุย กลว้ ยไมใ้ หแ้ ก่กระบองเพชรได ้ แต่ควรใชใ้ นปรมิ าณที่ต่า กว่าฉลากขา้ งขวดระบไุ ว ้ ไม่ควรใหป้ ๋ ุยในป รมิ าณมาก เพราะอาจเกดิ ผลรา้ ยมากกว่าผลดี การใหป้ ๋ ุยควรเรมิ่ ใหเ้ มอื่ ตน้ ไมส้ ามารถตงั้ ตวั ไดด้ แี ลว้ ระบบรากเดนิ ดพี รอ้ มทจี่ ะกนิ อาหารได ้ อณุ หภูมิ ก ร ะ บ อ ง เ พ ช ร แ ม้อ า ก า ศ ร อ้ น แ ห ้ง แ ล ้ง ใ น ทะเลทรายก็ยงั สามารถเตบิ โตได ้ ดงั น้ันบา้ นเราจงึ โชคดเี ป็ น อย่างมาก เนื่องจากมอี ากาศทรี่ อ้ น (ถงึ รอ้ นมาก) จงึ ทาให ้ เราสามารถเลยี้ งกระบองเพชรใหเ้ ตบิ โตไดต้ ลอดทง้ั ปี