1 นางสาวทพิ ย์จิรา ภูสีเงิน ตาแหน่ง พนักงานราชการ
2
3 สว่ นท่ี 1 ขอ้ มูลสว่ นบคุ คล 1.ข้อมูลส่วนตัว ช่อื (นาย / นาง / นางสาว) ............ทพิ ย์จริ า........... ช่ือสกุล........ภูสเี งนิ .................................. ตำแหนง่ พนกั งานราชการ วทิ ยฐำนะ ..................-.......................... วฒุ กิ ำรศกึ ษำ ปริญญาตรี หรือเทยี บเทา่ วชิ าเอก/สาขา...........นาฏศิลปไ์ ทยศึกษา................................. ปรญิ ญาโท หรอื เทยี บเทา่ วิชาเอก/สาขา............................................ ปริญญาเอก หรือเทียบเทา่ วิชาเอก/สาขา.......................................................................................... อืน่ ๆ (โปรดระบุ) ..................................................................................................................................... เข้ำรบั รำชกำรวันท่ี ...5.....เดือน …กรกฎาคม………….. พ.ศ. ...2560........... ณ โรงเรยี น มุกดาหาร สังกดั สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษามุกดาหาร สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ อำยรุ ำชกำรจนถงึ ปัจจบุ นั ......3...... ปี ....9..... เดอื น เงินเดือน อันดบั ....-....... อัตราเงินเดอื น ..20,340........ บาท สถำนทท่ี ำงำน 1. สถานศึกษา/หน่วยงาน ........โรงเรยี นมุกดาหาร................................................................................ 2. สถานศกึ ษา/หน่วยงาน..........................................................................................(หากมีการโอน/ย้าย) 2. วชิ ำ/สำขำ/กลุ่มสำระกำรเรียนรทู้ ที่ ำกำรสอน จานวน ...4.... วิชา รวม .....34.... ชัว่ โมง/สัปดาห์ ภำคเรยี นที่ 1 วชิ า/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ........ศิลปะ............. ช้นั /ระดับ ..ม.3..... จานวน .10... ชวั่ โมง/สปั ดาห์ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน นักศึกษาวชิ าทหาร ชน้ั /ระดบั ..ปี 1.. .จานวน …1…...ชั่วโมง/สัปดาห์ ส่งเสรมิ พัฒนาผเู้ รียน ช้ัน/ระดับ .ม. 1-3....จานวน …2…. ช่ัวโมง/สปั ดาห์ ชมุ นมุ อนุชนคนรกั ษ์ราไทย ช้ัน/ระดบั .ม. 1-6....จานวน …1…. ช่วั โมง/สปั ดาห์ ภำคเรยี นที่ 2 วิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ........ศิลปะ............. ชนั้ /ระดับ ..ม.5..... จานวน .20... ช่ัวโมง/สัปดาห์ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน นกั ศึกษาวชิ าทหาร ชน้ั /ระดับ ..ปี 1.. .จานวน …1…...ช่ัวโมง/สปั ดาห์ สง่ เสริมพฒั นาผเู้ รยี น ชั้น/ระดบั .ม. 1-3....จานวน …2…. ช่วั โมง/สปั ดาห์ ชุมนมุ อนุชนคนรักษร์ าไทย ชั้น/ระดับ .ม. 1-6....จานวน …1…. ชัว่ โมง/สัปดาห์ 3. จำนวนช่ัวโมงกำรปฏิบตั งิ ำน 3.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน …720…….. ชั่วโมง 3.2 ชั่วโมงสนบั สนุนการเรียนรู้ ……200…… ช่ัวโมง 3.3 ช่ัวโมงการมสี ว่ นร่วมในชุมชนการเรยี นรู้ทางวชิ าชพี (PLC) …60……. ชั่วโมง 3.4 ชวั่ โมงงานตอบสนองนโยบายและจดุ เน้น …72…… ชว่ั โมง
4 4. ผลงำน ท่เี กดิ จำกกำรปฏิบัตหิ น้ำท่ใี นตำแหน่งปัจจบุ ัน (ยอ้ นหลงั 3 ป)ี 1. ผลท่ีเกดิ จากการจัดการเรยี นรู้ ไดด้ าเนนิ การจดั กจิ กรรมการเรียนรใู้ หก้ บั นกั เรยี น โดยวิเคราะห์หลักสูตร จดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ และนาแผนการจัดการเรยี นรู้ไปใชใ้ นการจัดการเรียนการสอนใหก้ บั นักเรยี น มกี ารวัดผลประเมินผลตามสภาพ จรงิ โดยใชผ้ ลงาน ชนิ้ งาน แบบฝกึ โดยการวดั ผลประเมินผลดังกล่าวครอบคลมุ ทุก ๆดา้ น ได้แก่ ดา้ นความรู้ การปฏิบัติ กระบวนการและคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ทงั้ นีเ้ พื่อส่งเสริมพัฒนาการของนกั เรยี นทงั้ 4 ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม และสตปิ ญั ญา และมีคณุ ธรรม จริยธรรม ท้ังนีเ้ พ่ือใหน้ กั เรยี นมี พฒั นาการทดี่ ี มคี ุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ ตลอดจนมีการบันทกึ หลังการจัดกิจกรรมการสอนอย่างสมา่ เสมอ ทงั้ นเ้ี พ่ือจะได้ชว่ ยแก้ไขข้อบกพรอ่ งใหก้ บั นกั เรยี นที่มปี ัญหา 2. ผลท่เี กิดจากการพัฒนาวชิ าการ สง่ ผลใหต้ นเองมกี ารพฒั นารปู แบบการเรียนการสอนท่เี หมาะสมกับผเู้ รยี นมากและสง่ เสรมิ กระบวนการเรียนร้ขู องผเู้ รียนอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ โดยพัฒนาผ้เู รยี นด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมความมวี ินยั ในตนเอง ซงึ่ มผี ลงานเปน็ ที่ประจกั ษ์ ตลอดจนไดร้ ว่ มพฒั นาบุคลากรในโรงเรยี น สง่ ผลให้โรงเรยี นมกี ารพฒั นา ในทางทด่ี ีข้นึ นอกจากนั้นโรงเรยี นยงั สนับสนนุ และสง่ เสรมิ ให้บคุ ลากรได้พัฒนาส่ือและนวัตกรรม เพื่อใชใ้ นการจดั เรียนการสอน 3. ผลทเี่ กิดกบั ผเู้ รียน การจดั กจิ กรรมการการเรยี นการสอนโดยเน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั ให้นักเรียนไดฝ้ กึ การปฏิบตั จิ รงิ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นไดม้ ที ักษะตา่ งๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมทดี่ ีงาม ความมวี ินยั ในตนเอง ส่งผลให้ ผู้เรียนมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มีวนิ ยั ในตนเอง มสี ัมมาคารวะมมี ารยาทตามวัฒนธรรมไทย มคี วามสามารถในการใช้ ภาษาในการส่อื สาร การมจี นิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ซึง่ เป็นสงิ่ ที่ผเู้ รียนสามารถนาความรู้ความเขา้ ใจและ ทกั ษะไปบรู ณาการ ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวนั เป็นการเพม่ิ พนู สมรรถนะตนเองให้มากขน้ึ วางแผนการ ดาเนินชีวิตในอนาคต บนพน้ื ฐานคณุ ธรรม นาความรู้ และเศรษฐกจิ พอเพียง ตลอดจนการอยู่ร่วมกนั ในสังคมได้ อยา่ งมีความสุข 4. ผลทเ่ี กิดกบั สถานศึกษา จากการทส่ี ถานศึกษามีการวางแผนปฏบิ ตั ริ าชการในการพฒั นา มเี ป้าหมาย มที ศิ ทางใน การดาเนินงานเพอ่ื พัฒนาสถานศึกษา นักเรยี น โดยมกี ารจดั กิจกรรม โครงการตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นรปู ธรรม ซงึ่ นักเรยี นและครมู สี ่วนร่วมในการปฏิบตั ิกจิ กรรม ทาให้ผลการดาเนนิ งานเปน็ ทยี่ อมรบั ของผูป้ กครอง นอกจากน้ันสถานศึกษายงั ได้รับการยอมรบั จากผปู้ กครองและชุมชนในดา้ นการดแู ลเอาใจใสข่ องครทู ม่ี ีตอ่ นักเรียน ในดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน การดแู ลด้านพฤติกรรม คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงคด์ ้านกริ ิยา มารยาท ความมีวนิ ยั ในตนเอง ความรบั ผิดชอบ
5 5. ผลท่ีเกิดกบั ชมุ ชน สถานศกึ ษามีสว่ นรว่ มกับชุมชน ในกจิ กรรมต่างๆตลอดปีการศกึ ษา โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกีย่ วกับวฒั นธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทางศาสนา เช่น ประเพณแี ห่เทียนเขา้ พรรษา ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์ การทอดผา้ ปา่ ทอดกฐนิ เป็นตน้ ตลอดจนกจิ กรรมทเ่ี ปน็ ประโยชน์ กจิ กรรมวนั สาคญั ไดแ้ ก่ กจิ กรรมวนั แม่ กิจกรรมสง่ เสรมิ ภูมิปญั ญาท้องถิ่น จนทาใหเ้ กิดความรว่ มมือ ความเข้าใจทดี่ ีตอ่ กนั เกิดความรกั และความ ภาคภมู ิใจในโรงเรียนและทอ้ งถ่ิน นอกจากนีโ้ รงเรียนยังได้จัดกิจกรรมการประชุมผู้ปกครอง ประชุมคณะกรรมการ การศกึ ษาข้ันพื้นฐานในแตล่ ะภาคเรียนเพอื่ ชีแ้ จงนโยบายของโรงเรียนและเพือ่ หาแนวทางในการรว่ มพัฒนาโรงเรยี น ท้ังพัฒนาอาคารสถานที่และพัฒนาทางวชิ าการใหเ้ ปน็ ไปในทางทิศทางเดียวกนั สว่ นท่ี 2 ผลกำรประเมนิ ตนเอง ตอนท่ี 1 ผลกำรประเมินตนเองตำมกรอบของ ก.ค.ศ. ด้ำนที่ 1 ควำมรคู้ วำมสำมำรถในกำรปฏบิ ตั ิงำนในหน้ำท่ี รำยกำรพจิ ำรณำตนเอง ระดบั ควำมรู้ มมี ำก ปำนกลำง นอ้ ย 1. เนอื้ หาในรายวิชา/กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ ีส่ อน (3) (2) (1) 2. วธิ สี อน ถ่ายทอดความรูเ้ ชงิ เนอื้ หา กิจกรรม บรบิ ท เปา้ หมาย การเรียนรู้ ความรู้พน้ื ฐาน การปรบั พื้นฐาน และอุปสรรคการเรียนรู้ ของผ้เู รยี น 3. หลกั การสอน และกระบวนการเรยี นรู้ 4. หลักสตู ร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมนิ และแนวทาง การเรยี นรใู้ นแต่ละเนอ้ื หา 5. พน้ื ฐานการศึกษา หลักการศกึ ษา ปรชั ญาการศกึ ษา จิตวิทยา สงั คม นโยบายการศกึ ษา จดุ มุ่งหมายการจดั การศกึ ษาตัง้ แต่ระดับ ชาตจิ นถงึ ระดับหลกั สตู ร 6. การจัดการศกึ ษาแบบรวม และการตอบสนองต่อความหลาก หลายของผู้เรียน 7. ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ และจติ วทิ ยาการเรียนรู้ 8. การใช้เทคโนโลยี และส่ือนวตั กรรมเพือ่ การเรียนรู้ 9. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 12 10 25/อยู่ในระดบั รวม คะแนนรวม/แปลผล เกณฑ์ คะแนน 9 – 15 ระดบั ความร้นู อ้ ย คะแนน 16 – 21 ระดับความรู้ปานกลาง
6 คะแนน 22 – 27 ระดับความรู้มาก จากผลการประเมินพบวา่ ความร้คู วามสามารถในการปฏบิ ัตงิ านในหน้าท่โี ดยรวมอยู่ในระดบั มากเม่ือ พิจารณาเปน็ รายข้อพบว่าควรได้รับการส่งเสรมิ ด้านหลักสตู รการออกแบบวางแผนการใชแ้ ละการประเมนิ การใช้ หลกั สูตรพื้นฐานการศกึ ษาหลักการศกึ ษาปรัชญาการศึกษาจติ วิทยาสังคมนโยบายการศกึ ษาจดุ มงุ่ หมายการจดั การศกึ ษาตง้ั แต่ระดับชาตจิ นถึงระดับหลักสตู รทฤษฎีการเรยี นรู้และจติ วทิ ยาการเรยี นร้กู ารใชเ้ ทคโนโลยแี ละสอื่ นวตั กรรมเพื่อการเรียนร้แู ละการวัดประเมินผลการเรยี นรู้ ดำ้ นที่ 2 ทกั ษะกำรปฏิบตั งิ ำน ระดับควำมสำมำรถ รำยกำรพิจำรณำตนเอง ทำไดด้ ี พอใช้ ไม่คอ่ ยไดท้ ำ 1. การสรา้ งและหรอื พัฒนาหลักสูตร (3) (2) (1) 2. การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ 3. การจดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้ 4. กลยทุ ธ์ในการจัดการเรียนรู้ 5. การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น (ผลสัมฤทธ์ิ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ) 6. การสร้างและการพัฒนาสื่อ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหลง่ เรียนรู้ 7. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 8. การวิจัยเพอื่ พฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น รวม คะแนนรวม/กำรแปลผล 15 6 21/อยใู่ นระดบั เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดับทักษะนอ้ ย คะแนน 14 – 19 ระดบั ทักษะปานกลาง คะแนน 20 – 24 ระดับทกั ษะมาก จากผลการประเมนิ พบวา่ ทักษะการปฏบิ ตั ิงานโดยรวมอย่ใู นระดบั มากเม่ือพจิ ารณาเปน็ รายข้อพบว่าควร ได้รับการสง่ เสรมิ ความร้ใู นเรื่องของการใช้กลยทุ ธ์ในการจดั การเรียนรู้เพือ่ สง่ เสริมให้นกั เรียนไดร้ บั การพฒั นาด้วย กระบวนการท่หี ลากหลายและเน้นให้ผเู้ รียนได้ปฏิบัตกิ ิจกรรมการเรียนรู้มากกว่าการที่ครูเป็นผู้บอกความรู้ให้กับ ผู้เรียนและพฒั นาการสร้างสื่อนวตั กรรมเทคโนโลยที างการศกึ ษาและแหลง่ เรยี นร้ใู ห้มากข้นึ และสอดคล้องกบั มาตรฐาน / ตวั ช้ีวดั หรือผลการเรียนรแู้ ละการวัดและประเมินผลการเรยี นรู
7 ดำ้ นท่ี 3 ควำมเป็นครู ระดบั ควำมเปน็ ครู รำยกำรพจิ ำรณำตนเอง สงู มำก ปำนกลำง ยงั ต้อง (3) (2) ปรบั ปรุง 1. ยึดมน่ั ผกู พัน ศรทั ธาในวิชาชพี และทุ่มเทเพ่อื การเรียนรู้ของ ผูเ้ รียน (1) 2. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยา่ งท่ดี แี กผ่ ้เู รยี น ทั้งกาย วาจา และจิตใจ ดารงตนใหเ้ ปน็ ท่ีเคารพ ศรทั ธาและ น่าเช่ือถอื ทง้ั ใน และนอกสถานศึกษา 3. ปฏิบตั ิตนตามจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู 4. มีวนิ ัยและการรักษาวินยั 5. เป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้ ปรบั ปรงุ และพฒั นาตนเองอยา่ ง ตอ่ เนื่อง ใหม้ ีความรู้ความชานาญในวชิ าชีพเพ่ิมข้นึ 6. ปฏบิ ตั ิตนโดยนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชไ้ ด้ 7. มที ศั นคติทดี่ ีตอ่ บา้ นเมอื ง 8. มงุ่ ประโยชนส์ ว่ นร่วมในการพัฒนาคุณภาพทางการศกึ ษา รวม คะแนนรวม/กำรแปลผล 24 24/อยู่ในระดบั เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดบั ความเป็นครนู อ้ ย คะแนน 14 – 19 ระดับความเปน็ ครปู านกลาง คะแนน 20 – 24 ระดบั ความเป็นครูมาก จากผลการประเมนิ พบวา่ ความเป็นครู อยใู่ นระดับสูงมาก เม่อื พจิ ารณาเปน้ รายข้อ พบวา่ ทุกประเดน็ มรี ะดบั คะแนนท่แี สดงถึงความเป็นครูอยใู่ นระดับมาก
8 ตอนที่ 2 ผลกำรประเมนิ ศกั ยภำพของผู้เรยี นในสถำนศกึ ษำตำมจดุ เนน้ ของ สพฐ. ระดบั ศกั ยภำพ รำยกำรศักยภำพของผเู้ รียนในสถำนศึกษำตำมจดุ เน้นของ สพฐ. สูงมำก ปำนกลำง ยังต้อง (3) (2) ปรบั ปรุง 1. ด้านอ่านออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขยี นคล่อง 2. ดา้ นคิดเลขเป็น คิดเลขคลอ่ ง (1) 3. ด้านการคดิ ขัน้ พ้นื ฐาน 4. ดา้ นการคิดขน้ั สงู 5. ดา้ นการส่ือสารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามชว่ งวยั 6. ด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) 7. ด้านการใชเ้ ทคโนโลยเี พื่อการเรียนรู้ 8. ดา้ นการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง 9. ด้านใฝ่เรียนรู้ 10. ดา้ นใฝด่ ี 11. ดา้ นทกั ษะชวี ิต 12. ด้านการอยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มั่นในการศกึ ษาและการทางาน รวม คะแนนรวม/กำรแปลผล 12 16 28/อยู่ในระดบั เกณฑ์ คะแนน 12 – 20 ระดบั ศักยภาพน้อย คะแนน 21 – 28 ระดบั ศกั ยภาพปานกลาง คะแนน 29 – 36 ระดับศกั ยภาพสูงมาก จากผลการประเมินพบวา่ ระดับศักยภาพของผเู้ รยี นในสถานศึกษาตามจุดเนน้ ของสพฐ. โดยรวมอยใู่ นระดบั ปานกลางเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าด้านทต่ี อ้ งไดร้ บั การพฒั นาซึ่งมรี ะดบั ศักยภาพอยใู่ นระดบั ปานกลางคอื ด้าน การคดิ ขน้ั สูงด้านการใช้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ด้านอา่ นออกอา่ นคลอ่ งเขียนไดเ้ ขียนคล่องดา้ นคิดเลข เป็นคิดเลขคล่องด้านการใช้เทคโนโลยเี พ่อื การเรียนรดู้ ้านการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเองด้านใฝเ่ รยี นรู้และด้านทกั ษะ ชวี ิตท่จี ะตอ้ งได้รบั การสง่ เสรมิ ในลาดับตอ่ มา
9 ตอนที่ 3 ผลกำรประเมนิ ศำสตรก์ ำรสอน ตำมกรอบแนวคิดของหลกั สตู รของสถำบนั ครุ พุ ฒั นำ ระดบั ศกั ยภำพ รำยกำรศักยภำพของผเู้ รียนตำมจดุ เนน้ สูงมำก ปำนกลำง ยงั ตอ้ ง (3) (2) ปรับปรงุ 1. การสอนในศตวรรษท่ี 21 2. การแกป้ ญั หาผู้เรียน (1) 3. จติ วิทยาการแนะแนว/จิตวิทยาการจดั การเรยี นรู้ 4. การจดั การชัน้ เรียน 5. การวจิ ยั 6. การพัฒนาหลักสูตร 7. สะเตม็ ศึกษา (STEM Education) 8. การใชส้ ือ่ และเทคโนโลยใี นการจัดการเรยี นรู้ 9. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 10. การออกแบบการเรยี นรู้ รวม คะแนนรวม/กำรแปลผล 9 12 1 22/อยใู่ นระดบั เกณฑ์ คะแนน 10 – 16 ระดับศาสตร์การสอนน้อย คะแนน 17 – 23 ระดบั ศาสตร์การสอนปานกลาง คะแนน 24 – 30 ระดบั ศาสตร์การสอนสูงมาก จากผลการประเมนิ พบวา่ ระดับศาสตร์การสอนตามกรอบแนวคดิ ของหลักสตู รของสถาบนั ครุ พุ ฒั นาโดย รวมอยู่ในระดับปานกลางเมอ่ื พจิ ารณาเปน็ รายข้อพบวา่ ด้านทตี่ อ้ งได้รับการปรบั ปรงุ คอื สะเตม็ ศึกษา (STEM Education) และระดับศาสตร์การสอนปานกลางคือการสอนในศตวรรษที่ 21 การวจิ ัยการพฒั นาหลกั สูตรการใช้ สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้การวดั และประเมินผลการเรยี นรแู้ ละการออกแบบการเรยี นรู้
10 สรปุ ผลกำรประเมินตนเอง สรุปผลกำรประเมนิ ตนเองตอนที่ ๑ ผลกำรประเมินตนเองตำมกรอบของ ก.ค.ศ. ดำ้ นท่ี ๑ ควำมรคู้ วำมสำมำรถในกำรปฏบิ ตั งิ ำนในหนำ้ ท่ี ควรได้รับการส่งเสรมิ ความรู้ในด้านเนอ้ื หารายวชิ า หลกั สูตรการออกแบบวางแผนการใชแ้ ละการประเมินการใช้หลักสตู รพน้ื ฐานการศึกษาหลักการศึกษาปรชั ญา การศึกษาจติ วิทยาสงั คมนโยบายการศกึ ษาจดุ ม่งุ หมายการจัดการศึกษาตง้ั แต่ระดบั ชาตจิ นถงึ ระดับหลักสูตรทฤษฎี การเรียนรู้และจิตวทิ ยาการเรียนรกู้ ารใชเ้ ทคโนโลยแี ละสอื่ นวัตกรรมเพ่อื การเรยี นร้แู ละการวัดประเมินผลการเรียนรู้ ดำ้ นท่ี ๒ ทกั ษะกำรปฏิบตั ิงำน ควรได้รับการสง่ เสรมิ ความรู้ในเรื่องของการใช้กลยทุ ธ์ในการจดั การเรยี นพฒั นาการ สร้างส่ือนวตั กรรมเทคโนโลยที างการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ ดำ้ นท่ี ๓ ควำมเปน็ ครู ปฏิบตั ิหนา้ ทไ่ี ดใ้ นระดบั สงู มาก ตอนท่ี 6 ผลกำรประเมินศกั ยภำพของผู้เรยี นในสถำนศกึ ษำตำมจดุ เน้นของสพฐ. ระดับศักยภาพของผู้เรยี นใน สถานศกึ ษาตามจดุ เนน้ ของสพฐ. ดา้ นทต่ี อ้ งไดร้ บั การพัฒนาคือดา้ นการคดิ ข้ันสงู และด้านการใช้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ดา้ นอา่ นออกอ่านคลอ่ งเขียนไดเ้ ขียนคลอ่ งด้านคดิ เลขเป็นคดิ เลขคล่องด้านการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการ เรียนรู้ด้านการแสวงหาความร้ดู ว้ ยตนเองด้านใฝเ่ รยี นรแู้ ละดา้ นทักษะชีวติ ตอนที่ ๓ ผลกำรประเมนิ ศำสตรก์ ำรสอนตำมกรอบแนวคิดของหลกั สตู รของสถำบนั คุรุพฒั นำระดบั ศำสตรก์ ำร สอนตำมกรอบแนวคดิ ของหลักสตู รของสถำบนั คุรุพฒั นำ ดา้ นท่ตี ้องไดร้ บั การปรบั ปรงุ คือสะเต็มศกึ ษา (STEM Education) เพือ่ นาความร้ทู างคณติ ศาสตรไ์ ปเช่ือมโยงกบั ศาสตร์อน่ื ๆ เชน่ วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยีรวมไปถงึ การใช้ กระบวนการทางวศิ วกรรมศาสตรม์ าชว่ ยแก้ปัญหาในสถานการณต์ ่าง ๆ หรือสร้างนวตั กรรมการเรียนรูข้ ้ึน
11 ส่วนท่ี 3 แผนกำรพัฒนำตนเอง 1. อันดบั ควำมสำคญั /สมรรถนะท่ีจะพฒั นำ (ให้ใส่หมายเลขเรยี งลาดบั ความสาคญั ของสมรรถนะที่จะพฒั นา) ( 2 ) การสอนในศตวรรษที่ 21 ( 3 ) การแกป้ ัญหาผ้เู รยี น ( 6 ) จิตวิทยาการแนะแนว/จติ วิทยาการจดั การเรยี นรู้ ( 7 ) การจัดการช้ันเรยี น ( 1 ) การวจิ ยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวชิ าชพี ( 5 ) การพฒั นาหลกั สตู ร ( 10 ) สะเต็มศกึ ษา (STEM Education) ( 8 ) การใชส้ อ่ื และเทคโนโลยีในการจดั การเรียนรู้ ( 9 ) การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ( 4 ) การออกแบบการเรยี นรู้ 2. วธิ ีกำร / รูปแบบกำรพัฒนำ ..........รอการลงทะเบยี นหลกั สูตร…………………………………………………………………………………………………………… 3. ระยะเวลำในกำรพฒั นำ เร่ิมต้น 16 พฤษภาคม 2564 สน้ิ สุด 31 มนี าคม 2565 4. กำรขอรับกำรสนบั สนนุ จำกหน่วยงำน ขอรับการสนบั สนุนดา้ นงบประมาณสว่ นบคุ ล 5. ประโยชนท์ คี่ ำดว่ำจะไดร้ บั 5.1 ผลลพั ธ์ทคี่ าดหวงั ด้ำนควำมรู้ มีแนวทางและความรคู้ วามเข้าใจในการจัดการเรียนรู้โดยใชส้ อื่ และเทคโนโลยใี นการจดั การเรยี นร้ผู า่ น แอพลเิ คช่ันตา่ ง ๆ สามารถบรู ณาการกับเนอื้ หาวิชาคณิตศาสตร์และทาใหน้ ักเรียนเหน็ ถึงความสาคญั วา่ ทาไมจึงต้อง เรียนคณติ ศาสตรค์ วบคู่กับการพัฒนาส่ือและเทคโนโลยีในการจดั การเรยี นรู้เพ่ือให้มสี อื่ ท่ที ันสมยั และทาใหน้ ักเรียนมี ความสนใจในการเรยี นรชู้ ่วยเพิ่มประสทิ ธภิ าพในการสอนและเพ่มิ การเรยี นรู้ให้กบั ผ้เู รยี นและใช้กระบวนการวิจัย เพอ่ื เพ่ือพฒั นาการเรยี นการสอนรวมไปถึงการเขา้ ร่วมชุมชนการเรียนรทู้ างวชิ าชีพเพอื่ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ในการออบ แบบการเรียนร้ทู ่มี ีประสิทธิภาพสามารถนามาพฒั นาการเรยี นรขู้ องผูเ้ รียนไดเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพของนกั เรียนแต่ละคน
12 ด้ำนทกั ษะ พฒั นาทกั ษะดา้ นการจดั การเรียนการสอนสะเตม็ ศึกษาพัฒนาทักษะการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนท่ี ชว่ ยพฒั นาทักษะกระบวนการของนักเรียนเพิ่มพนู ประสบการณ์และทกั ษะการใช้สื่อเทคโนโลยกี ารเรียนการสอนที่ ทนั สมยั ดำ้ นควำมเป็นครู พฒั นาตนเองใหม้ คี วามรคู้ วามสามสามารถในระดบั มาตรฐานตาแหนง่ ครวู ทิ ยฐานะครชู านาญการพิเศษเปน็ พ่ีเลย้ี ง / ทป่ี รกึ ษา / แบบอยา่ งในการแสดงถึงความรกั และศรัทธาในวิชาชีพครตู ลอดจนเปน็ ผู้นาทางวชิ าการ ช่วยเหลอื และพัฒนาคุณครใู นโรงเรยี นในการขอมีและเลอื่ นวิทยฐานะที่สูงขน้ึ ๕.๒ ผลกำรนำไปใชใ้ นกำรพฒั นำงำน ทาใหม้ ีแผนการจัดการเรียนรู้ในเน้นผเู้ รียนปฏบิ ตั ิ (Active Learning) มงุ่ เน้นใหน้ ักเรียนได้เรยี นรูผ้ ่านการ ลงมือทากิจกรรมด้วยตนเองร่วมกับสอ่ื เทคโนโลยกี ารเรยี นการสอนและแหล่งเรียนรู้ทคี่ รไู ด้รวบรวมไว้รวมถึงการใช้ กระบวนการ PLC และการวจิ ยั ในช้นั เรยี นมาปรบั ปรงุ แก้ไขและพัฒนาการเรยี นรู้ของผ้เู รียน ๕.๓ กำรสร้ำงชมุ ชนกำรเรียนรู้ PLC Online เครือขำ่ ยระดบั ชำติ ไดส้ ร้างเพจเฟสบุค๊ ศูนยพ์ ฒั นาวิชาชีพครโู รงเรียนมุกดาหารเพอื่ ท่ีเวทใี นการแลกเปล่ยี นเรยี นรเู้ กยี่ วกบั การ พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี นด้วยกระบวนการ PLC และมกี ลมุ่ ไลนส์ แควรข์ องกลุ่มสาระการเรยี นรู้กลมุ่ กิจกรรมพัฒนา ผู้เรยี นที่เปน็ ชอ่ งทางในการตดิ ตอ่ สอ่ื สารแลกเปลีย่ นแนวคดิ ในการจดั การเรยี นรู้การเผยแพรก่ ลยทุ ธ์วธิ กี ารสอนท่ี เกดิ ผลทางบวกต่อการเรยี นร้ขู องผู้เรียนการใชส้ ือ่ นวตั กรรมเทคโนโลยีการเรียนการสอนรวมไปถงึ เครอ่ื งมือวัดและ ประเมินผลและการวจิ ยั ในชน้ั เรียนการบริหารจดั การช้ันเรียนระบบดูแลช่วยเหลือการพัฒนาตนเองและการพฒั นา วิชาชพี ครู
13 6. ประวตั กิ ำรเขำ้ กำรรบั พฒั นำ (ในรอบ 3 ปี ทผ่ี ่ำนมำ) ลำดับท่ี เรือ่ ง หน่วยงำน จำนวน หมำยเหตุ ชว่ั โมง ปกี ารศกึ ษา 2563 สานกั งานเขตพน้ื ท่ี 12 การศึกษามธั ยมศึกษา 1 เขา้ รบั การอบรมโครงการพัฒนาเสรมิ สร้าง 15 สมรรถนะขา้ ราชการรแู ละบุคลากาทาง เขต 22 การศกึ ษา วทิ ยาลยั นาฎศิลป กาฬสินธ์ุ จงั หวัด 2 อบรมหลักสูตรระยะสน้ั กจิ กรรมเชิง ปฏบิ ัติการนาฏศลิ ป์ไทย ประจาปกี ารศกึ ษา กาฬสนิ ธ์ุ 2563 สานักงานเขตพ้นื ที่ 56 ปีการศึกษา 2562 การศึกษามัธยมศกึ ษา 15 1 โครงการฝึกอบรมผูก้ ากบั ลกู เสอื สามัญ ขัน้ เขต 22 ความรชู้ ้นั สูง (S.A.T.C.) วทิ ยาลัยนาฎศิลปอ่างทอง 2 อบรมหลกั สูตรระยะสั้น กจิ กรรมเชิง จงั หวัดอ่างทอง ปฏบิ ัติการนาฏศลิ ป์ไทย ประจาปีการศกึ ษา 2562
14 สว่ นที่ 4 ควำมตอ้ งกำรในกำรพฒั นำ (กลุม่ สำระกำรเรียนร.ู้ .......ศลิ ปะ.................) 1. หลกั สูตรใดทที่ ำ่ นต้องกำรพัฒนำ ลำดับท่ี รหสั หลักสูตร ช่ือหลักสตู ร 1 อบรมหลกั สตู ร กจิ กรรมเชิงปฏิบัตกิ ารนาฏศลิ ปไ์ ทย 2.เพรำะเหตใุ ดทำ่ นจึงต้องกำรเขำ้ รบั กำรพฒั นำในหลักสตู รน้ี 1.เพราะต้องการร้แู ละเขา้ ใจแนวทางการจัดการเรียนรเู้ ทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาได้ ๒. เพราะตอ้ งการนาความร้ทู ่ไี ด้จากการอบรมไปใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนและมีการแบง่ ปนั ความรู้ ร่วมกนั เพ่อื สร้างสังคมการเรยี นรูท้ างวิชาชพี โดยนาไปบรู ณาการในรายวิชาคณติ ศาสตร์ 3. ต้องการเรยี นรู้และทาไปบรู ณาการให้นกั เรียนไดฝ้ กึ ทกั ษะการทางานร่วมกับผอู้ ่นื การทางานเปน็ ทีมความสามคั คี 3. ทำ่ นคำดหวังสง่ิ ใดจำกกำรเข้ำรบั กำรพฒั นำในหลกั สตู รน้ี ได้รบั ความรู้องค์ความร้ใู นการจัดการเรยี นรวู้ ิทยาการคานวณสาหรบั ครู (Coding for Teacher: C4T) แบบ ออนไลน์ระดบั มธั ยมศกึ ษาและได้รปู แบบการสอนทส่ี ่งเสรมิ ทักษะการคดิ และแกป้ ญั หาไปบูรณาการกับรายวิชา คณิตศาสตร์ ๔. ทำ่ นจะนำควำมรูจ้ ำกหลกั สตู รไปพฒั นำกำรสอนของทำ่ นอย่ำงไร ข้าพเจา้ จะมงุ่ เน้นในการจดั การเรียนการสอนเพือ่ ให้นักเรียนมที ักษะทส่ี าคัญในการดารงชวี ิตในศตวรรษที่ 21 อนั ได้แก่ ทกั ษะพน้ื ฐานความคดิ เชิงคานวณ (Computational Thinking), ทกั ษะพื้นฐานความรดู้ ้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology), ทกั ษะการเรยี นรู้และทักษะด้านนวตั กรรม (Learning and Innovation-The 4 C's), ทกั ษะการทามาหาเล้ยี งชพี และการดาเนนิ ชวี ติ (Career and Life) และทักษะพนื้ ฐานการรเู้ ทา่ ทันส่อื และข่าวสาร (Media and information Literacy) ซงึ่ ทักษะพืน้ ฐานเหล่านเ้ี ป็นสงิ่ สาคัญท่ีนกั เรียนควรไดร้ ับการปลูกฝงั เพือ่ เปน็ รากฐานของการสร้างนวตั กรรมทางเทคโนโลยเี พม่ิ ศักยภาพและนวัตกรรมทีจ่ ะนาไปสกู่ ารพฒั นาประเทศ
15 ภาคผนวก - สาเนาเกียรติบตั ร
16
17
18
19
20
21
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: