ASEAN - REPUBLIC OF KOREA (ROK) อาเซยี น - สาธารณรฐั เกาหลี สาธารณรัฐเกาหลีเร่มิ มคี วามสัมพนั ธก์ ับอาเซียนในปี พ.ศ. 2532 ในฐานะประเทศคู่เจรจาเฉพาะด้าน และพัฒนาไปสู่การเป็นคู่เจรจาของอาเซียนในปี พ.ศ. 2534 โดยในป ีพ.ศ. 2547 สาธารณรัฐเกาหลีได้เข้าเป็นภาคีสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation : TAC) และลงนามใน Joint Declaration on Comprehensive Partnership เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วน อยา่ งรอบดา้ น ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 อาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามใน Joint Declaration for Cooperation to Combat International Terrorism และ Framework Agreement on Comprehensive Economic Cooperation ซง่ึ กำหนดให้มีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างกัน โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในความตกลงว่าด้วย การค้าสินคา้ ในปี พ.ศ. 2549 และความตกลงว่าด้วยการคา้ บริการในปี พ.ศ. 2550 ในปี พ.ศ. 2552 อาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีไดจ้ ัดตั้งศูนยอ์ าเซยี น - เกาหลี(ASEAN - Korea Centre) ที่กรุงโซล เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนการท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน (www.aseankorea.org)100
กรมอาเซียน กระทรวงการตา่ งประเทศ ASEAN’S EXTERNAL RELATIONSและได้จดั ต้งั กองทุน ASEAN - ROK Future Oriented Cooperation Projects : FOCPและกองทนุ ASEAN - ROK Special Cooperation Fund : SCF เพอื่ ส่งเสริมการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างกัน ในปี พ.ศ. 2553 อาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีได้เห็นชอบให้ยกระดับความสัมพันธ์จากหุ้นส่วนอย่างรอบด้านเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และร่วมรับรองแถลงการณ์ร่วม ว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เพื่อสันติภาพและความรุ่งเรือง(Joint Declaration on ASEAN-Republic of Korea Strategic Partnership for Peaceand Prosperity) และแผนปฏบิ ตั กิ ารอาเซยี น - สาธารณรฐั เกาหลี เพอ่ื ดำเนนิ การตามปฏญิ ญาฯระหวา่ งปี พ.ศ. 2554 - พ.ศ. 2558 นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2555 สาธารณรัฐเกาหลยี งั ได้จัดต้ังคณะผแู้ ทนถาวรสาธารณรฐั เกาหลปี ระจำอาเซยี น ณ กรุงจาการต์ า อกี ด้วย 101
ASEAN - NEW ZEALANDอาเซยี น - นวิ ซแี ลนด ์ ความสัมพันธ์อาเซียน - นิวซีแลนด์ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ 2518 (ค.ศ. 1975) โดยนวิ ซแี ลนดเ์ ปน็ ประเทศคเู่ จรจาลำดบั ท่ี 2 ของอาเซยี น อาเซยี นและนวิ ซแี ลนดจ์ ะมคี วามสมั พนั ธ์ครบ 40 ปี ในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) ในระยะแรกความสัมพันธ์อาเซยี น - นิวซีแลนด์เป็นในลักษณะผู้รับกับประเทศผู้ให้ แต่ในปัจจุบันได้พัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์อย่างรอบด้านและปรับแนวทางความร่วมมือในอนาคตเป็นระยะๆ เพื่อให้สนองตอบต่อความต้องการการจัดลำดับความสำคัญ ความชำนาญ และผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่ายความสมั พนั ธอ์ าเซยี น - นวิ ซีแลนด์ ไดค้ รอบคลุมความร่วมมอื ดา้ นการเมืองและความมั่นคงความสมั พนั ธด์ ้านเศรษฐกจิ และความรว่ มมอื เพื่อการพฒั นา ในด้านการเมืองและความมั่นคง นวิ ซแี ลนดเ์ ขา้ เปน็ ภาคคี วามตกลงหรอื ภาคยานวุ ตั ิสนธสิ ญั ญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ (Treaty of Amityand Cooperation : TAC) ในปี พ.ศ. 2548 และลงนามในปฏญิ ญารว่ มวา่ ดว้ ยความรว่ มมอืเพือ่ ตอ่ ต้านการกอ่ การร้ายสากลกับอาเซยี น (ASEAN - New Zealand Joint Declarationfor Cooperation to Combat International Terrorism) ในด้านเศรษฐกิจ อาเซียน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ลงนามความตกลงเพอ่ื จดั ตง้ั เขตการคา้ เสรอี าเซยี น - ออสเตรเลยี - นวิ ซแี ลนด์ (ASEAN - Australia - New ZealandFree Trade Agreement : AANZFTA) เมื่อปี พ.ศ. 2552 ความตกลงดังกล่าวส่งผลให้102
กรมอาเซยี น กระทรวงการต่างประเทศ ASEAN’S EXTERNAL RELATIONSมลู คา่ การคา้ ระหวา่ งอาเซยี น - นวิ ซแี ลนด์ ขยายตวั ขน้ึ ประมาณรอ้ ยละ 15 ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2553การค้าสินค้าระหว่างอาเซียนกับนิวซีแลนด์ในปี พ.ศ. 2554 มีมูลค่ารวม 8,733.60ลา้ นดอลลารส์ หรฐั โดยอาเซยี นไดด้ ลุ การคา้ นวิ ซแี ลนดเ์ ปน็ มลู คา่ 1,631.52 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั(อาเซยี นสง่ ออกไปนวิ ซแี ลนดเ์ ปน็ มลู คา่ 5,182.56 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั และนำเขา้ จากนวิ ซแี ลนด์เป็นมลู คา่ 3,551.04 ลา้ นดอลลาร์สหรฐั ) ในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา นิวซีแลนด์ให้ความสำคัญกับความร่วมมือดา้ นการศกึ ษา การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ การเกษตร การจดั การภยั พบิ ตั ิ และการลดชอ่ งวา่ งทางการพฒั นา ในเรือ่ งการจดั การภัยพบิ ตั ิ นวิ ซีแลนด์ไดใ้ หค้ วามช่วยเหลอื ในการจดั ต้ังศูนย์ประสานงานอาเซยี นในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดา้ นมนษุ ยธรรม (ASEAN Coordinating Centrefor Humanitarian Assistance : AHA Centre) ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมพ.ศ. 2553 ได้ใหก้ ารรับรองเอกสาร 2 ฉบบั คอื 1. ปฏิญญาร่วมว่าดว้ ยความเป็นห้นุ สว่ นท่คี รอบคลุมทกุ ดา้ นระหวา่ งอาเซียนและ นิวซีแลนด์ (Joint Declaration for an ASEAN - NZ Comprehensive Partnership) และ 2. แผนปฏิบัติการเพื่อปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนที่ ครอบคลุมทุกด้านระหว่างอาเซียนและนิวซีแลนด์ ค.ศ. 2012-2015 (Plan of Action to Implement the Joint Declaration for an ASEAN - NZ Comprehensive Partnership 2012 - 2015) เพอ่ื เปน็ แนวทาง การดำเนินความร่วมมือทางการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและ วฒั นธรรม และการพฒั นาระหว่างอาเซียนและนวิ ซแี ลนด์ 103
ASEAN - RUSSIAอาเซยี น - รสั เซยีความสมั พนั ธอ์ าเซยี น-รสั เซยี ความสัมพันธ์อาเซียน - รัสเซีย เริ่มต้นจากการหารือระหว่างอาเซียนกับรัสเซียในปี พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) และพฒั นาความสมั พนั ธจ์ นรสั เซยี ไดร้ บั สถานะประเทศคเู่ จรจากับอาเซียน ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ สมัยที่ 29 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2539ท่ีกรุงจาการ์ตา ประเทศอนิ โดนีเซีย ในระดบั ผนู้ ำ ได้มีการประชมุ สดุ ยอดอาเซยี น - รัสเซีย คร้งั แรก ในปี พ.ศ. 2548ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2553 ที่กรุงฮานอยประเทศเวียดนาม และทุกปีจะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีต่อเนื่องกับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างกันมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจดูแลภาพรวมการดำเนินความสัมพันธ์ และมีกลไกเพื่อประสานงานและติดตามการดำเนินงานผา่ นการประชมุ ระดบั อธบิ ดี มกี ารประชมุ คณะกรรมการรว่ มดา้ นการวางแผนและการจดั การซึ่งมคี ณะทำงานรายสาขา เชน่ คณะทำงานด้านวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และคณะทำงานว่าดว้ ยความร่วมมือดา้ นเศรษฐกิจ104
กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ASEAN’S EXTERNAL RELATIONS ความสมั พนั ธอ์ าเซยี น - รสั เซยี ไดม้ พี ฒั นาการอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและครอบคลมุ หลายมติ ิทั้งในด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม โดยในปี พ.ศ. 2546ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามปฏิญญาร่วมอาเซียน - รัสเซีย ว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพความมั่นคง ความมัง่ คั่ง และการพฒั นาในภูมภิ าคเอเชีย - แปซฟิ กิ และเมือ่ ปี พ.ศ. 2547รสั เซยี ไดล้ งนามในสนธสิ ญั ญามติ รภาพและความรว่ มมอื ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ตอ่ มาในปีพ.ศ. 2548 ผนู้ ำอาเซยี นและรสั เซยี ไดล้ งนามในเอกสารสำคญั คอื Joint Declaration of theHeads of State/Government of the Member Countries of ASEAN and the Headof State of the Russian Federation on Progressive and Comprehensive Partnershipรวมทั้งได้รับรอง Comprehensive Programme of Action 2005 - 2015 เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อาเซียน - รัสเซีย ตามปฏิญญาร่วมดงั กลา่ ว สำหรับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจนั้น รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและรัฐมนตรีเศรษฐกิจรัสเซีย ได้จัดการประชุมหารือกันครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2553 ณ เมืองดานังประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ ในปีเดียวกันยังได้มีการจัดทำ ASEAN - Russia EnergyCooperation Work Programme 2010 - 2015 เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียน - รัสเซีย และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลประเทศสมาชิกอาเซียนกับรัฐบาลรัสเซีย (Agreement onCultural Cooperation between the Governments pf the Member States of ASEANand the Government of the Russian Federation) ดว้ ย เมอ่ื พ.ศ. 2554 อาเซยี นและรสั เซยี ไดฉ้ ลองครบ 15 ปคี วามสมั พนั ธอ์ าเซยี น - รสั เซยีโดยประเทศสมาชกิ อาเซยี นได้จัดตงั้ ASEAN Moscow Committee ข้นึ เพ่ือเปน็ อกี ชอ่ งทางหน่ึงในการตดิ ตามและผลักดนั ความรว่ มมืออาเซยี น - รัสเซยี ต่อไป 105
ASEAN - USAอาเซยี น - สหรฐั ฯ1. ภมู หิ ลงั ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อปีพ.ศ. 2520 (ค.ศ. 1977) โดยในระยะแรกเน้นความร่วมมือด้านการพัฒนา ต่อมาขยายถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน โดยประเทศสมาชิกอาเซียนประสงค์ที่จะสง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ดา้ นเศรษฐกจิ กบั สหรฐั ฯ ทง้ั ในระดบั ทวภิ าคแี ละในลกั ษณะกลมุ่ ประเทศทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้ให้ความสำคัญต่อประเด็นด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียและยังคงตอ้ งการมบี ทบาทสำคญั เชงิ ยทุ ธศาสตร์ในภมู ิภาคตลอดมา ในปัจจุบัน รัฐบาลสหรัฐฯ ดำเนินนโยบายปรับสมดุลย์ (re-balancing)โดยให้ความสำคัญมากขึ้นกับภูมิภาคเอเชีย และเล็งเห็นความสำคัญของอาเซียนทง้ั ในดา้ นการเมอื ง ความมน่ั คง และเศรษฐกจิ ทง้ั น้ี นาย Barack Obama ประธานาธบิ ดสี หรฐั ฯย้ำเสมอว่า สหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของแปซิฟิก (Pacific Nation) และแสดงเจตนารมณ์ของสหรัฐฯ ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ ประธานาธิบดี Obamaยังได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit : EAS) ครั้งที่ 6เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ที่เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย และครั้งที่ 7เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ซึ่งนับว่าเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของผู้นำสหรัฐฯในการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยสหรัฐฯใหค้ วามสำคญั กบั การประชมุ สดุ ยอดเอเชยี ตะวนั ออก และเหน็ วา่ เปน็ เวทที ส่ี ำคญั ในการหารอืทางยุทธศาสตร์ระหวา่ งผนู้ ำ106
กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ASEAN’S EXTERNAL RELATIONS ประเทศไทยเปน็ ประเทศผปู้ ระสานงานความสมั พนั ธอ์ าเซยี น - สหรฐั ฯ ในชว่ งเดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2546 - เดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2549 ซง่ึ ในชว่ งดงั กลา่ ว อาเซยี นและสหรฐั ฯมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในด้านการต่อต้านการก่อการร้าย โดยทั้งสองฝ่ายได้จัดทำปฏิญญาร่วมอาเซียน - สหรัฐฯ เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศ(ASEAN - U.S. Joint Declaration for Cooperation to Combat International Terrorism)เมื่อปี พ.ศ. 2545 และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทนุ (Trade and Investment Framework Arrangement : TIFA) ซ่ึงทงั้ สองฝา่ ยได้ลงนามร่วมกนั เมือ่ ปี พ.ศ. 2549 ประเด็นทสี่ หรัฐฯ ใหค้ วามสำคัญ ได้แก่ พฒั นาการในเมียนมาร์ สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ ความร่วมมือด้านความมั่นคงในกรอบ ASEAN Regional Forum (ARF)การสง่ เสรมิ สทิ ธมิ นษุ ยชน การตอ่ ตา้ นอาชญากรรมขา้ มชาติ การจดั การภยั พบิ ตั ิ การสนบั สนนุการสร้างประชาคมอาเซียนภายในปี ค.ศ. 2015 การพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาคของอาเซียน การให้ความสำคัญของสถาปัตยกรรมในภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง(ASEAN Centrality) และการมีบทบาทที่แข็งขันในการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก(East Asia Summit : EAS) การสง่ เสรมิ การคา้ และการลงทนุ รวมทง้ั การเชญิ ชวนใหป้ ระเทศอาเซียนพิจารณาเข้าร่วมในกรอบความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เอเชีย - แปซิฟิก(Trans - Pacific Partnership : TPP) กรอบความริเริ่มลุ่มแม่น้ำโขง (Lower MekongInitiative : LMI) ซึ่งเน้นในเรื่องการส่งเสริมความร่วมมือด้านการคมนาคม การศึกษาสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การเชื่อมโยงระหว่างกัน ความมั่นคงทางอาหารและการเกษตรและความม่ันคงทางพลังงาน ทป่ี ระชมุ ผนู้ ำอาเซยี น - สหรฐั ฯ ครง้ั ท่ี 1 ยงั ไดก้ ำหนดใหม้ กี ารจดั ตง้ั ผทู้ รงคณุ วฒุ ิอาเซยี น - สหรฐั ฯ (ASEAN - U.S. Eminent Persons Group : EPG) โดยมอบหมายภารกจิ ให้EPG เสนอแนะแนวทางการยกระดับความสัมพันธ์อาเซียน - สหรัฐฯ จาก ‘enhancedpartnership’ เป็น ‘strategic partnership’ ตอ่ ผูน้ ำอาเซียน-สหรฐั ฯ ท้ังนี้ ผู้ทรงคณุ วฒุ ิได้เสนอรายงานข้อเสนอแนะต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน - สหรัฐฯ ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่19 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2555 107
2. กลไกความรว่ มมอื เมอ่ื ปี พ.ศ. 2548 สหรฐั ฯ และอาเซยี นไดอ้ อกแถลงการณ์วิสยั ทัศน์ร่วมกนั วา่ด้วยความเป็นหนุ้ สว่ นเพ่ิมพูนระหวา่ งอาเซยี นกับสหรฐั ฯ (Joint Vision Statement on theASEAN - U.S. Enhanced Partnership) ซึ่งเป็นเอกสารกำหนดแนวทางความสัมพันธ์ระหวา่ งกนั ทง้ั ทางการเมอื ง เศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม และความรว่ มมอื เพอ่ื การพฒั นา ปัจจุบัน อาเซียน - สหรัฐฯ มีกลไกความร่วมมือในหลายระดับ ได้แก่การประชมุ ผนู้ ำอาเซยี น - สหรฐั ฯ (ASEAN - U.S. Leaders’ Meeting : AULM) เปน็ การประชมุระดบั ผนู้ ำ การประชมุ รฐั มนตรตี า่ งประเทศอาเซยี น - สหรฐั ฯ (PMC) เปน็ การประชมุ ประจำปีระหวา่ งรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการตา่ งประเทศอาเซยี น - สหรัฐ ฯ การประชมุ ASEAN -U.S. Dialogue เป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส (SOM) ซึ่งจัดขึ้นทุกปี โดยมีหัวข้อการหารือครอบคลุมทกุ เรื่อง การประชุม ASEAN - U.S. Joint Cooperation Committee: JCC เป็นการประชุมระหว่างเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรอาเซียนกับเอกอัครราชทูตกิจการอาเซยี นของสหรฐั ฯ และการประชมุ ASEAN - U.S. Working Group Meeting เปน็ การประชมุในระดับเจ้าหน้าที่ของประเทศสมาชิก เพื่อพิจารณาโครงการความร่วมมือระหว่างอาเซียนและสหรัฐฯ ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในสาขาความร่วมมือตาม Plan of Action toImplement the ASEAN - U.S. Enhanced Partnership3. สถานะลา่ สดุ ระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียน - สหรัฐฯ ครั้งที่ 4 ณ กรุงพนมเปญ เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ก้าวหน้า และตกลงทจ่ี ะยกระดบั ความสมั พนั ธเ์ ปน็ หนุ้ สว่ นทางยทุ ธศาสตร์ (strategic partnership) โดยทง้ั สองฝา่ ยจะเรง่ รดั การดำเนนิ การตามแผนปฏบิ ตั กิ ารอาเซยี น - สหรฐั ฯ ค.ศ. 2011-2015 (ASEAN - U.S.Plan of Action to Implement the ASEAN - U.S. Enhanced Partnership 2011 - 2015)นอกจากนี้ อาเซียนและสหรัฐฯ ได้เห็นพ้องกับข้อเสนอของผู้ทรงคุณวุฒิฯ ในการยกระดับการประชุมผูน้ ำอาเซียน - สหรัฐฯ เปน็ การประชุมสุดยอดอาเซยี น - สหรัฐฯ (ASEAN - U.S.Leaders Summit) โดยกำหนดจดั การประชมุ สดุ ยอดฯ เปน็ ประจำทกุ ปี เรม่ิ จากปี พ.ศ. 2556108
กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ASEAN’S EXTERNAL RELATIONSพร้อมกันนี้ ผู้นำอาเซียนและสหรัฐฯ ได้รับรองแถลงการณ์ร่วมผู้นำอาเซียน - สหรัฐฯครั้งที่ 4 เพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองที่ทั้งสองฝ่ายจะกระชับความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ อาทิ ด้านการเมืองและความมั่นคง (การจัดการภัยภิบัติผ่านกรอบ ASEANAgreement on Disaster Management and Emergency Response : AADMERอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์ การไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ) ด้านเศรษฐกิจ(การเพ่ิมมลู คา่ การคา้ การลงทุนโดยผา่ น 2013 ASEAN - U.S. Trade and InvestmentFramework Arrangement : TIFA) การสง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ระหวา่ งภาคเอกชนโดยเฉพาะSMEs และมีการจัด ASEAN - US Business Summit เป็นประจำทุกปี) การสนับสนุนแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันของอาเซียน (Master Plan on ASEANConnectivity : MPAC) และดา้ นการพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ยแ์ ละลดชอ่ งวา่ งในการพฒั นาของอาเซียนผ่านกรอบความ ริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (Lower Mekong Initiative : LMI)การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน ผ่านการศึกษา (โครงการ U.S.Fulbright Exchange Program และโครงการความช่วยเหลือทางวิชาการผ่าน USAIDการฝึกอบรม - วิจยั รว่ มกนั และการสอนภาษาอังกฤษ) สหรัฐฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ASEAN - U.S. Dialogue ครั้งที่ 26ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 โดยประเด็นหลักของการหารือเป็นประเด็นที่ฝ่ายสหรัฐฯ ให้ความสนใจ (U.S. led agenda) และพยายามผลักดันและมีบทบาทในอาเซียน ได้แก่ ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและการบริหารจัดการภัยพิบัติความมน่ั คงทางทะเล อาชญากรรมขา้ มชาติ Cyber Crime / Cyber Security หลกั ธรรมาภบิ าลและนิติธรรม ความร่วมมือ ASEAN - U.S. Expanded Economic Engagement (E3)Initiatives พลงั งาน การศกึ ษา และขอ้ รเิ รม่ิ ลมุ่ แมน่ ำ้ โขงตอนลา่ ง (Lower Mekong Initiative: LMI) ทง้ั น้ี สหรฐั ฯ ยงั ไดก้ ลา่ วยำ้ ถงึ นโยบายปรบั สมดลุ ยข์ องสหรฐั ฯ ทม่ี งุ่ กระชบั ความสมั พนั ธ์กบั ภมู ภิ าคเอเชยี และพยายามผลกั ดนั ใหม้ กี ารขบั เคลอ่ื นความรว่ มมอื E3 ซง่ึ จะชว่ ยยกระดบัมาตรฐานการจัดทำความตกลงการค้าเสรีของอาเซียน และปูทางไปสู่ Trans - PacificStrategic Economic Partnership Agreement (TPP) โดยเมียนมาร์จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ASEAN - U.S. Dialogue ครั้งที่ 27 ที่เมียนมาร์ ในช่วงครึ่งปีแรกของปีพ.ศ. 2557 109
ASEAN - UNITED NATIONSอาเซยี น - สหประชาชาต ิ ความสัมพันธ์อาเซียน - สหประชาชาติ (United Nations - UN) เริ่มต้นจากความรว่ มมอื ดา้ นวชิ าการระหวา่ งอาเซยี นกบั United Nations Development Programme(UNDP) ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2513 และ UNDP ไดร้ บั สถานะ Dialogue Partner ของอาเซยี นในปีพ.ศ. 2520 ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติได้พัฒนาให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นโดยอาเซยี นไดร้ บั สถานะเปน็ ผสู้ งั เกตการณข์ องสหประชาชาตใิ นปี พ.ศ. 2547 ซง่ึ แสดงใหเ้ หน็ถึงความยอมรับบทบาทเชิงสร้างสรรค์ของอาเซียนภายในภูมิภาคว่าสอดคล้องกับความพยายามของประชาคมโลกที่จะร่วมมือกันสร้างความสงบสุข และส่งเสริมการพัฒนาทเี่ ท่าเทียมกัน อาเซียนและสหประชาชาติ มีความร่วมมือกันในหลายระดับ ในระดับผู้นำได้มีการประชมุ สดุ ยอดอาเซยี น - สหประชาชาติ ครง้ั แรกเมอ่ื ปี พ.ศ. 2543 โดยมวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลกัเพอ่ื กำหนดแนวทางความรว่ มมอื อาทิ การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ การลดชอ่ งวา่ งในการพฒั นาเป็นต้น รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์และเสริมสร้างการเชื่อมโยงที่ต่อเนื่องระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนและสหประชาติ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศกับเลขาธกิ าร UN และประธานสมัชชาสหประชาชาติ ในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ (UN General Assembly : UNGA) ทุกปี ที่นครนิวยอร์กเพื่อประสานความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายให้มีความต่อเนื่อง รวมทั้งผลักดันนโยบายไปสู่แผนงานและกิจกรรมทเี่ ป็นรูปธรรม110
กรมอาเซยี น กระทรวงการต่างประเทศ ASEAN’S EXTERNAL RELATIONS ในปี พ.ศ. 2550 อาเซยี นกบั สหประชาชาติ ไดร้ ่วมกันลงนามในบันทึกความเขา้ ใจวา่ ดว้ ยความรว่ มมอื ระหวา่ งอาเซยี นกบั สหประชาชาติ (Memorandum of UnderstandingBetween the Association of Southeast Asian Nations (ASEAN) and the UnitedNations (UN) on ASEAN - UN Cooperation) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสำนักเลขาธิการอาเซียนกับสำนักเลขาธิการสหประชาชาติให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยเน้นให้องค์การทั้งสองทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างและรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและเพอ่ื บรรลเุ ปา้ หมายการพฒั นาแหง่ สหสั วรรษ (Millennium Development Goals) ในปีพ.ศ. 2558 นอกจากนี้ ทั้งสององค์การจะร่วมมือกันในการสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียนทั้ง 3 เสา รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลไกเฉพาะด้านของอาเซียนกับUN specialized agencies โดยเฉพาะความรว่ มมอื กับ UNESCAP เพอ่ื แลกเปล่ยี นขอ้ มลูความเชย่ี วชาญในประเดน็ ความรว่ มมอื ตา่ งๆ ซง่ึ บนั ทกึ ความเขา้ ใจฉบบั นไ้ี ดก้ ลายเปน็ พน้ื ฐานสำคัญสำหรับความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัยจากไซโคลนนาร์กิส ที่ประเทศเมียนมาร์ เมื่อปี พ.ศ. 2551 และนำไปสู่การรับรอง JointDeclaration on ASEAN - UN Collaboration in Disaster Management ระหวา่ งผูน้ ำอาเซียนและสหประชาชาติในการประชุมสดุ ยอดอาเซยี น - สหประชาชาติครง้ั ท่ี 3 เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ในการประชุมสุดยอดอาเซียน - สหประชาชาติ ครั้งที่ 4 เมื่อเดือนพฤศจิกายนพ.ศ. 2554 ผู้นำอาเซียนและเลขาธิการสหประชาชาติ ได้รับรองปฏิญญาว่าด้วยความเปน็ หนุ้ สว่ นระหวา่ งอาเซยี นกบั สหประชาชาติ (Joint Declaration on ComprehensivePartnership between the ASEAN and the UN) เพื่อส่งเสริมและขยายความร่วมมอืท่ีเปน็ หุน้ ส่วนระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติให้มากยง่ิ ข้นึ โดยเฉพาะในประเด็นที่ท้าทายต่อภูมิภาคและต่อโลก อาทิ การรักษาสันติภาพ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมการบริหารจัดการภัยพิบัติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประชาธิปไตย ธรรมาภิบาลสทิ ธมิ นุษยชน การขจดั ปัญหาความยากจน ความมัน่ คงของมนุษย์ การบรรลุเปา้ หมายแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติ การพัฒนาแบบยั่งยืน ความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานและโรคระบาด 111
ASEAN+3 (CHINA-JAPAN-ROK)อาเซยี น +3(จนี ญป่ี นุ่ และสาธารณรฐั เกาหล)ี กรอบความรว่ มมอื อาเซยี น+3 เรม่ิ ตน้ ขน้ึ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2540 ในชว่ งทเ่ี กดิ วกิ ฤตการณ์ทางการเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยมีการพบหารือระหว่างผู้นำของประเทศสมาชิกอาเซียนและผู้นำของจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี เป็นครั้งแรก ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2540 นับแต่นั้นเป็นต้นมา การประชุมสุดยอดอาเซยี น+3 ไดจ้ ดั ข้นึ เปน็ ประจำทุกปีในช่วงเดียวกบั การประชมุ สดุ ยอดอาเซียน กรอบความรว่ มมอื อาเซยี น+3 เรม่ิ เปน็ รปู เปน็ รา่ งภายหลงั การออกแถลงการณร์ ว่ มว่าด้วยความร่วมมือเอเชียตะวันออก เมื่อปี พ.ศ. 2542 และการจัดตั้ง East Asia VisionGroup : EAVG ในปี พ.ศ. 2542 เพอื่ จัดวางวสิ ัยทศั นค์ วามร่วมมอื ในเอเชียตะวนั ออก EAVGไดเ้ สนอแนะแนวคิดการจัดต้ังประชาคมเอเชยี ตะวนั ออก (East Asian Community : EAc)และมาตรการความร่วมมอื ในดา้ นต่างๆ เพอ่ื นำไปส่กู ารจดั ตัง้ EAc ในการประชมุ สุดยอดอาเซียน+3 ครั้งที่ 9 ทก่ี รงุ กัวลาลัมเปอร์ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2548ผู้นำได้ลงนามใน Kuala Lumpur Declaration on the ASEAN+3 Summit กำหนดให้การจัดตั้งประชาคมเอเชียตะวันออกเป็นเป้าหมายระยะยาว และให้กรอบอาเซียน+3112
กรมอาเซียน กระทรวงการตา่ งประเทศ ASEAN’S EXTERNAL RELATIONSเป็นกลไกหลักในการนำไปสู่เป้าหมายระยะยาวดังกล่าว ในโอกาสครบรอบ 10 ปีของกรอบอาเซียน+3 ในปี พ.ศ. 2550 ได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือเอเชียตะวนั ออก ฉบับที่ 2 และแผนงานความร่วมมืออาเซยี น+3 (พ.ศ. 2550 - พ.ศ. 2560) ปจั จุบัน ความรว่ มมอื ในกรอบอาเซยี น+3 ครอบคลมุ ความรว่ มมือต่างๆ มากกวา่20 สาขา ภายใตก้ รอบการประชมุ ในระดบั ตา่ งๆ ประมาณ 60 กรอบการประชมุ ซง่ึ ประเทศไทยให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค ตลอดจนผลักดันการดำเนินการตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (Master Plan on ASEANConnectivity : MPAC) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของการเป็นประชาคมอาเซียนการรวมตัวกันในภูมิภาค และการลดช่องวา่ งดา้ นการพัฒนา โดยที่ประชุมสดุ ยอดอาเซยี น+3สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ที่กรุงพนมเปญ ได้รับรองแถลงการณ์ผู้นำว่าดว้ ยความเป็นหนุ้ ส่วนความเช่อื มโยงอาเซียน+3 (Leaders’ Statement on ASEANPlus Three Partnership on Connectivity) ตามข้อริเริม่ ของประเทศไทย 113
7 TH EAST ASIA SUMMIT PLENARY SESSON Phnom Penh, 20 November 2012 การประชมุ สดุ ยอดเอเชยี ตะวนั ออก (East Asia Summit : EAS) การประชมุ สุดยอดเอเชยี ตะวันออก (East Asia Summit : EAS) เดมิ เปน็ ขอ้ ริเรม่ิในกรอบอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี) โดยจะเป็นการวิวัฒนาการของการประชมุ สดุ ยอดอาเซยี น+3 ไปสกู่ ารประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก อย่างไรกด็ ี อาเซยี นเหน็ วา่ ควรเปิดกวา้ งใหป้ ระเทศนอกกลมุ่ อาเซยี น+3 เขา้ ร่วมดว้ ย โดยไดก้ ำหนดหลกั เกณฑ์3 ประการสำหรับการเขา้ ร่วม ได้แก่ การเปน็ ประเทศคเู่ จรจาเต็มตัวของอาเซียน การมคี วามสมั พันธท์ ีแ่ นน่ แฟน้ กบั อาเซยี น และ การภาคยานวุ ตั สิ นธสิ ญั ญามติ รภาพและความรว่ มมอื ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต ้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia : TAC) ในปัจจุบัน มีประเทศที่เข้าร่วมใน EAS จำนวน 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน10 ประเทศ ออสเตรเลีย จีน อนิ เดยี ญีป่ ุ่น สาธารณรฐั เกาหลี นิวซีแลนด์ รัสเซีย และสหรัฐฯโดยรสั เซียและสหรัฐฯ เขา้ รว่ มการประชมุ EAS เปน็ คร้ังแรกในเดือนพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2554ที่บาหลี ในการประชุม EAS ครงั้ ท่ี 1 ท่กี รงุ กัวลาลัมเปอร์ เมือ่ วนั ท่ี 14 ธนั วาคม พ.ศ. 2548ไดม้ กี ารลงนาม Kuala Lumpur Declaration on East Asia Summit กำหนดให้ EASเปน็ เวทีหารอื ทางยุทธศาสตรท์ ่เี ปดิ กวา้ ง โปรง่ ใส และครอบคลุม และทป่ี ระชมุ ฯ ยังเห็นพ้องกบั แนวคดิ ของประเทศไทยทใ่ี ห้ EAS เปน็ เวทขี องผนู้ ำทจ่ี ะแลกเปลย่ี นความเหน็ และวสิ ยั ทศั น์114
กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ASEAN’S EXTERNAL RELATIONSในประเด็นยุทธศาสตร์อย่างเปิดกว้างอีกด้วย การประชุม EAS มีขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยมีประเทศที่เป็นประธานอาเซียนในปีนั้นเป็นประธานในการประชมุ EAS ครง้ั ท่ี 6 ทบ่ี าหลี เมอ่ื เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2554 ทป่ี ระชมุ ฯ ไดเ้ นน้ ยำ้การสง่ เสริมความร่วมมอื ใน 5 สาขา ได้แก่ พลังงาน การเงนิ การศึกษา การจดั การภัยพิบัติและการสาธารณสุขและป้องกันโรคระบาด ควบคู่ไปกับการหารือเชิงยุทธศาสตร์เพื่อเสริมสร้างสนั ตภิ าพ เสถยี รภาพ และความมง่ั ค่ังในภูมิภาค และทปี่ ระชุมฯ ได้รับรอง Declaration of the East Asia Summit on the Principles for MutuallyBeneficial Relations เพอ่ื แสดงเจตนารมณท์ จ่ี ะยอมรบั รว่ มกนั ในหลกั การและแนวปฏบิ ตั ิต่างๆ ที่จะเป็นตัวกำหนดรูปแบบและแนวทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เข้าร่วมEAS และ Declaration of the East Asia Summit on ASEAN Connectivityเพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาที่เข้าร่วม EAS ในการพัฒนาความเชื่อมโยงในอาเซียนตามแผนแม่บทอาเซยี นวา่ ดว้ ยความเชอ่ื มโยงระหวา่ งกนั ในอาเซยี น (Master Plan on ASEAN Connectivity: MPAC) ในการประชมุ EAS คร้งั ที่ 7 เมื่อวันท่ี 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ทกี่ รุงพนมเปญทป่ี ระชุมฯ ไดร้ ับรองเอกสารจำนวน 2 ฉบบั ไดแ้ ก่ แถลงการณพ์ นมเปญวา่ ดว้ ยขอ้ รเิ รม่ิ ดา้ นการพฒั นาของการประชมุ สดุ ยอดเอเชยี ตะวันออก (Phnom Penh Declaration on East Asia Summit DevelopmentInitiative) ซึ่งเป็นข้อเสนอของจีน เพื่อให้ EAS ให้ความสำคัญมากขึ้นเกี่ยวกับประเด็นดา้ นการพัฒนา แถลงการณก์ ารประชมุ สดุ ยอดเอเชยี ตะวันออก ครง้ั ท่ี 7 วา่ ดว้ ยการรบั มือ ในระดบั ภมู ภิ าคเกย่ี วกบั การควบคมุ และจดั การกบั ปญั หาโรคมาลาเรยี ทด่ี อ้ื ยา (Declarationof the 7th East Asia Summit on Regional Responses to Malaria Control andAddressing Resistance to Antimalarial Medicines) ซึ่งเสนอโดยออสเตรเลีย 115
การเชอ่ื มโยง ระหวา่ งกนั ในอาเซยี น (ASEAN Connectivity)ความเปน็ มา ทป่ี ระชมุ สดุ ยอดอาเซยี น ครง้ั ท่ี 15 เมอ่ื เดอื นตลุ าคม พ.ศ. 2552 ทช่ี ะอำ - หวั หนิประเทศไทย เห็นชอบกับข้อเสนอของไทยเกี่ยวกับแนวคิดความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (ASEAN Connectivity) เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นของอาเซียนและนำอาเซียนไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 และได้ออกแถลงการณ์ว่าด้วยความเชอ่ื มโยงระหวา่ งกนั ในอาเซยี น รวมทง้ั ไดจ้ ดั ตง้ั คณะทำงานระดบั สงู วา่ ดว้ ยความเชอ่ื มโยงระหวา่ งกันในอาเซยี น (High Level Task Force on ASEAN Connectivity : HLTF - AC)เพอ่ื จัดทำแผนแม่บทวา่ ดว้ ยความเช่ือมโยงระหว่างกันในอาเซียน (Master Plan on ASEANConnectivity : MPAC) ให้แล้วเสร็จ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 17116
กรมอาเซยี น กระทรวงการตา่ งประเทศ á¼¹á ‹Á º·ÇÒ‹ ´ÇŒ ¤ÇÒÁàªÍè× Áâ§ÃÐËÇÒ‹ §¡¹Ñ ã¹ÍÒà«ÂÕ ¹¤ÇÒÁàª×èÍÁâ§´ŒÒ¹ ¤ÇÒÁàªÍè× Áâ§â¤Ã§ÊÃÒŒ §¾×é¹°Ò¹ ´ŒÒ¹»ÃЪҪ¹• คมนาคม • การศึกษาและ• เทคโนโลยีสารสนเทศ วัฒนธรรม• พลังงาน • การทองเท่ียว ¤ÇÒÁàª×èÍÁâ§´ÒŒ ¹¡®ÃÐàºÂÕ º• เปด เสรแี ละอำนวยความสะดวก • ความตกลงการขนสง ในภมู ิภาคทางการคา • พธิ กี ารในการขามพรมแดน• เปด เสรีและอำนวยความสะดวก • โครงการเสริมสรา งศกั ยภาพในการบริการและการลงทุน• ความตกลง/ขอ ตกลงยอมรับรว มกนัในปี พ.ศ. 2553 โดยในส่วนของไทย คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายประดาป ASEAN CONNECTIVITYพิบูลสงคราม อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม และอดีตรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเปน็ ผู้แทน ทป่ี ระชมุ สดุ ยอดอาเซยี น ครง้ั ท่ี 17 เมอ่ื เดอื นตลุ าคม พ.ศ. 2553 ณ กรงุ ฮานอยประเทศเวียดนาม ได้ให้การรับรองแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนเพื่อเป็นกรอบความร่วมมอื ในการสร้างความเช่อื มโยงระหว่างกัน โดยความเชอื่ มโยงดังกล่าวจะเน้นภายในอาเซียนในเบื้องต้นและจะเป็นพื้นฐานการเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคต่างๆ อาทิเอเชยี ตะวนั ออก เอเชียใต้ และอ่นื ๆ ต่อไป แผนแม่บทฯ มีเจตนารมณ์ที่จะเร่งรัดการเชื่อมโยงประเทศสมาชิกทั้ง 10ประเทศให้เป็นหนึ่งเดียว ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านกฎระเบียบ และด้านประชาชนโดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อการสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียนอย่างแท้จริงภายในปีพ.ศ. 2558 และใหอ้ าเซยี นเปน็ ศูนย์กลางของสถาปตั ยกรรมภมู ภิ าค 117
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ในแผนแม่บทฯในการกอ่ สรา้ ง ถนน เสน้ ทางรถไฟ การขนสง่ ทางนำ้ การขนสง่ ทางอากาศ รวมทง้ั การเชอ่ื มโยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและด้านพลังงาน (โครงการท่อก๊าซและระบบสายส่งไฟฟ้าของอาเซยี น) โดยมคี ณะทำงานสาขาตา่ งๆ ของอาเซยี น (ASEAN Sectoral Bodies) เปน็ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบหลกั ในการดำเนนิ การใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย ตามกรอบเวลาทก่ี ำหนดไวใ้ นแผนแมบ่ ทฯ ด้านกฎระเบียบ แผนแม่บทฯ จะมีส่วนในการเร่งรัดการดำเนินการตามความตกลง พธิ สี าร ข้อบงั คับต่างๆ ท่มี ีขึน้ เพอื่ อำนวยความสะดวกในการขา้ มแดนใหส้ ะดวกรวดเร็ว โปร่งใส ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ และการลงทุนทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน ในขณะเดียวกันก็ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดจากอาชญากรรมข้ามชาติ แรงงานผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์และมลภาวะต่างๆ ที่ตามมาจากการเชื่อมโยง ด้านประชาชน แผนแม่บทฯ จะช่วยส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการไปมาหาสกู่ นั ระหวา่ งประชาชน การเชอ่ื มโยงทางสงั คม วฒั นธรรม และการสรา้ งความรสู้ กึของการเปน็ ประชาคมอาเซยี นทเี่ ป็นอนั หนึ่งอนั หน่งึ เดียวกันมากข้นึกลไกในการดำเนนิ การ อาเซยี นไดจ้ ดั ตง้ั คณะกรรมการประสานงานอาเซยี นวา่ ดว้ ยความเชอ่ื มโยงระหวา่ งกนัในภมู ภิ าค (ASEAN Connectivity Coordinating Committee : ACCC) เพอ่ื ทำหนา้ ทต่ี ดิ ตามกำกบั ดแู ล ผลักดันและเรง่ รดั ประเมนิ ความคืบหนา้ รวมทัง้ ระดมทนุ ในการดำเนนิ การตามแผนแมบ่ ทฯ โดยประสานงานกบั ผปู้ ระสานงานของแตล่ ะประเทศสมาชกิ อาเซยี น (NationalCoordinator) Sectoral Bodies ประเทศคเู่ จรจาและองคก์ รระหวา่ งประเทศอน่ื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งคณะกรรมการ ACCC ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศเปน็ กรรมการ ACCC มกี ารประชมุ ร่วมกนั ปีละ 4 คร้งั ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2555118
กรมอาเซยี น กระทรวงการต่างประเทศ ASEAN CONNECTIVITYสถานะการดำเนินการภายใต้แผนแมบ่ ท (ระหวา่ งปี พ.ศ. 2553-2556) การดำเนนิ การทง้ั หมดภายใตแ้ ผนแมบ่ ทฯ สว่ นใหญก่ ำหนดไวว้ า่ จะตอ้ งเสรจ็ สน้ิ ในปีพ.ศ. 2558 อยา่ งไรกด็ ี มกี ารดำเนนิ การในมาตรการทม่ี กี ำหนดเวลาจะตอ้ งเสรจ็ สน้ิ ระหวา่ งปีพ.ศ. 2553 - 2556 ดงั น้ี ดา้ นโครงสรา้ งพน้ื ฐาน โครงการและมาตรการทม่ี กี ำหนดตอ้ งเสรจ็ สน้ิ ภายในปีพ.ศ. 2556 สว่ นใหญเ่ ปน็ ไปตามกรอบเวลาทต่ี ง้ั ไว้ อาทิ การยกระดบั ถนนตา่ งๆ ของทางหลวงอาเซยี น ใหเ้ ปน็ ระดบั 3 ยงั คงมเี พยี งบางสว่ นในลาวและเมยี นมารท์ ย่ี งั ไมเ่ สรจ็ (ถนนสว่ นใหญ่ของไทยเปน็ ระดบั 1 และ 2 ไมม่ ถี นนทเ่ี ปน็ ระดบั 3) การกอ่ สรา้ งทางรถไฟสงิ คโปร์ - คนุ หมงิในเสน้ ทางจากสงิ คโปร์ - พนมเปญ เปน็ ไปตามกรอบเวลา (สำหรบั missing link ทอ่ี ยใู่ นประเทศไทยระหวา่ งอรญั ประเทศ - คลองลกึ 6 กโิ ลเมตร ไดร้ บั จดั สรรงบประมาณสำหรบั ปี พ.ศ. 2556และคาดว่าจะสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2557) อย่างไรก็ดี เส้นทางช่วงต่อจากพนมเปญยังคงมีอุปสรรคด้านงบประมาณและด้านเทคนิค นอกจากนั้น โครงการอื่นๆ เช่น การพัฒนาMekong - India Economic Corridor การสร้างโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง(ASEAN Broadband Corridor) อยรู่ ะหวา่ งการดำเนนิ การ ด้านกฎระเบียบ อาเซียนกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้ความตกลง 3 ฉบับมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ ได้แก่ ความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสนิ คา้ ผา่ นแดน ความตกลงวา่ ดว้ ยการอำนวยความสะดวกในการขนสง่ ขา้ มแดนและความตกลงวา่ ด้วยการขนส่งตอ่ เนอื่ งหลายรปู แบบ อย่างไรกด็ ี ยงั ไมส่ ามารถดำเนินการไดเ้ ตม็ รปู แบบ เนอ่ื งจากบางประเทศยงั ตดิ ขดั การดำเนนิ การตามกฎหมายภายใน (ประเทศไทยไดใ้ หส้ ตั ยาบนั แลว้ ทง้ั 3 ฉบบั ) อกี ทง้ั อาเซยี น (รวมทง้ั ไทย) ยงั ไมไ่ ดล้ งนามพธิ สี ารสำคญั 2 ฉบบัแนบท้ายความตกลง ความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผา่ นแดน (ASEAN Framework Agreement on the Facilitation of Goods in Transit: AFAFGIT ไดแ้ ก่ พธิ สี าร 2 การกำหนดทท่ี ำการพรมแดน และพธิ สี าร 7 ระบบศลุ กากรผา่ นแดน(พธิ สี าร 7 มเี พยี ง ลาว เวยี ดนาม และอนิ โดนเี ซยี แสดงความพรอ้ มทจ่ี ะลงนาม) ดงั นั้น อาเซียนจึงต้องเร่งผลกั ดนั การดำเนนิ การดา้ นกฎระเบยี บให้รดุ หนา้ เพอ่ื ให้การเชอ่ื มโยงระหวา่ งกนั ในอาเซยี นมปี ระสทิ ธภิ าพและชว่ ยเรง่ รดั การกา้ วไปสปู่ ระชาคมอาเซยี นรวดเรว็ ตามเปา้ หมาย 119
ด้านประชาชน มีความคืบหน้าในด้านการศึกษา อาทิ การพัฒนา ASEANCurriculum Sourcebook และหลักสูตรอาเซียนศึกษาของ ASEAN UniversityNetwork : AUN อย่างไรก็ดี การพัฒนา ASEAN Virtual Resource Learning ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร และสำหรับการส่งเสริมการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนยังคงต้องเร่งดำเนินการเรอ่ื งการยกเวน้ การตรวจลงตราระหว่างอาเซียนทุกประเทศ (เมยี นมารย์ ังตอ้ งมกี ารทำความตกลงทวภิ าคเี ปน็ รายประเทศ) และ ASEAN Common Visa ซง่ึ หลายประเทศยงั ไม่พร้อมเนื่องจากมคี วามห่วงกงั วลเรอ่ื งความมั่นคง (รวมทั้งไทย) การระดมทนุ อาเซยี นดำเนนิ การเรอ่ื งการระดมทนุ เพอ่ื การดำเนนิ การภายใต้แผนแมบ่ ท ฯ หลายรปู แบบดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ 1) งบประมาณของแตล่ ะประเทศ 2) การสนบั สนนุ จากประเทศคเู่ จรจา และองคก์ รเพอ่ื การพฒั นา 3) การลงทนุ แบบการรว่ มลงทนุ ระหวา่ งภาครฐั และเอกชน (Public-Private Partnership : PPP) ทง้ั ภายในอาเซยี นและประเทศคเู่ จรจา 4 ) กองทนุ เพอ่ื การพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานในภมู ภิ าคอาเซยี น สำหรบั PPP อาเซียนกำลงั ร่วมมือกบั หลายองคก์ ร เชน่ ธนาคารพฒั นาเอเชยี(Asian Development Bank : ADB) ธนาคารโลก (World Bank) และสถาบนั วจิ ัยเศรษฐกจิแห่งอาเซียนและเอเชียตะวันออก (Economic Research Institute for ASEAN andEast Asia : ERIA) ในเร่ืองการนำ PPP มาใชใ้ นการระดมทุนเพือ่ ดำเนินโครงการภายใต้แผนแม่บทฯ นอกจากนนั้ ACCC ยงั อยู่ระหว่างพจิ ารณาจดั ตง้ั Private Sector ConsultativeGroup เพอื่ สนบั สนุนการดำเนนิ การเรอื่ ง PPP ด้วย นอกจากน้ี สำนกั งานเลขาธกิ ารอาเซยี นไดจ้ ดั ทำ project information sheetรวม 15 โครงการเร่งด่วนภายใต้แผนแม่บทฯ เพือ่ เปน็ คูม่ อื สำหรับการระดมทุนกบั ประเทศคู่เจรจา องค์กรเพื่อการพัฒนา และภาคเอกชน ที่สนใจจะลงทุน / ร่วมมือกับอาเซียนในโครงการทีส่ ามารถสร้างผลตอบแทน (bankable-viable project)120
กรมอาเซียน กระทรวงการตา่ งประเทศ ASEAN CONNECTIVITYความรว่ มมอื กบั ประเทศคเู่ จรจา ขณะนี้มีประเทศคู่เจรจาที่ได้จัดตั้งคณะทำงาน หรือคณะกรรมการเฉพาะกิจมาหารอื กับ ACCC เพ่อื สง่ เสรมิ การเชอื่ มโยงกบั อาเซียน ได้แก่ ญีป่ ุ่น (ประชมุ ร่วมกนั แล้ว4 คร้ัง) และจีน (ประชุมร่วมกันแล้ว 1 ครง้ั และจะมกี ารประชมุ คร้งั ตอ่ ไปในเดือนมิถนุ ายนพ.ศ. 2556) นอกจากนั้น ยังมีประเทศที่ได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจในลักษณะเดียวกันและจะมกี ารหารอื รว่ มกนั ในลำดบั ตอ่ ไปในเดอื นมถิ นุ ายน พ.ศ. 2556 ไดแ้ ก่ สาธารณรฐั เกาหลีและอนิ เดียสถานะความรว่ มมอื ญี่ปุน่ ใหค้ วามสำคัญกบั เรื่องดงั ตอ่ ไปนี้ การส่งเสริมความเชื่อมโยงในแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก - ตะวันตก(East - West Economic Corridor : EWEC) และระเบยี งเศรษฐกิจตอนใต้ (SouthernCorridor) โดยเนน้ การเชือ่ มโยงท้งั ทางบก และทางทะเล ญี่ปนุ่ ได้จดั ตง้ั Japan Task Forceon Connectivity เพอ่ื เปน็ กลไกการหารอื กบั ACCC ในการสนบั สนนุ การดำเนนิ การภายใต้แผนแมบ่ ทฯ โดยเนน้ การพฒั นาระบบโลจสิ ตกิ สแ์ ละมาตรฐานการขนสง่ ทเ่ี ออ้ื ตอ่ การสนบั สนนุหว่ งโซอ่ ปุ ทาน การผลติ และสง่ ออกเปน็ หลกั ทง้ั น้ี ACCC กบั Japan Task Force มกี ารประชมุรว่ มกันแลว้ 4 ครงั้ ครัง้ สุดทา้ ยจดั ข้ึน back to back กับการประชุม ACCC ครงั้ ที่ 1/2556เม่ือเดอื นเมษายน พ.ศ. 2556 ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเชื่อมโยงด้านกฎระเบียบซ่ึงกระทบต่อหว่ งโซ่อุปทานของสนิ คา้ และผลประโยชน์ญป่ี ุ่นในภูมภิ าค ญีป่ ุ่นมองวา่ ไทยควรมีบทบาทนำในการจัดการเรื่องนี้ โดยญี่ปุ่นพร้อมให้การสนับสนุนทั้ง Software และHardware แต่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการศึกษาประเด็นปัญหาเชิงลึกแบบรอบด้าน(cross - cutting issues) นำหนา้ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ทางการเงิน 121
ญป่ี นุ่ ใหค้ วามสำคญั กบั Expanded Connectivity หรอื การขยายการเชอ่ื มโยงไปนอกอาเซยี นหรอื จากฐานการผลติ สตู่ ลาดสนิ คา้ โดยมเี ปา้ หมายทอ่ี นิ เดยี ผา่ นการเชอ่ื มโยงทั้งทางบกและทางทะเล (ทางบก ถนน 3 ฝ่าย ไทย - เมียนมาร์ - อินเดีย ทางทะเลทา่ เรอืติละวาและทวาย) เพื่อเป็นเส้นทางส่งสินค้าและวัตถุดิบระหว่างกัน รวมทั้งเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในผลิตภัณฑ์ที่แต่ละฝ่ายมีความเชี่ยวชาญ เช่น ส่งรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์จากอาเซียนไปอนิ เดยี ญี่ปุ่นขอให้อาเซียนให้ความสำคัญในการผลักดันในเรื่อง Cross Borderให้มากขน้ึ เพอ่ื ใหท้ นั กบั ความคืบหนา้ ในการดำเนินการในเรือ่ งโครงสรา้ งพนื้ ฐาน ญี่ปุ่นได้ให้ความช่วยเหลือในการศึกษาเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการเรง่ ดว่ นของอาเซยี น ไดแ้ ก่ ดา้ น ICT ญป่ี นุ่ มโี ครงการศกึ ษา (Feasibility Study) 2 โครงการไดแ้ ก่ Feasibility Study for the Implementation of ICT Infrastructure among ASEANstates และ Enhancement of ICT intra - regional Network among ASEAN MemberStates (ASEAN Smart Network) ดา้ นพลังงาน ญี่ปุ่นได้ทำการศกึ ษา Feasibility Studyfor Melaka - Pekanbaru Power Interconnection ดา้ นการขนสง่ ทางทะเล ญป่ี นุ่ ไดศ้ กึ ษาความเป็นไปไดใ้ นการสร้างเครือขา่ ยเรอื บรรทุกยานพาหนะลอ้ เลื่อนในอาเซยี นและทางเลือกในการส่งเสรมิ การพัฒนาการขนสง่ ทางทะเลระยะสั้น (Study on the Roll - on / Roll - offRO - Ro Network and Short sea Shipping) จนี ใหค้ วามสำคัญกบั การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานตามแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ - ใต้(North - South Economic Corridor : NSEC) โดยจีนได้จัดสรรเครดิตสินเชื่อจำนวน25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงในอาเซยี น รวมทั้งโครงการสำคัญอื่นๆ ในอาเซยี น122
กรมอาเซียน กระทรวงการตา่ งประเทศ ASEAN CONNECTIVITY จนี ไดต้ งั้ กองทุนเพือ่ การลงทุนอาเซียน - จนี (China - ASEAN InvestmentCooperation Fund : CAF) จำนวน 10,000 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ ซงึ่ สามารถใช้เพอื่ ลงทุนในโครงสร้างพน้ื ฐานในอาเซียนด้วย จีนได้ตั้ง Chinese Working Committee of the China - ASEANConnectivity Cooperation Committee เพอ่ื เป็นกลไกการหารอื ระหว่าง ACCC กับจีนโดยให้คณะกรรมการดังกล่าวมีการประชุมกับอาเซียนในช่วงเดียวกับการประชุม ACCCโดยได้มีการประชุมร่วมกัน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 โดยได้หารือเรื่องแนวทางการมีส่วนร่วมของจีนในการสนับสนุนการดำเนินการภายใต้แผนแม่บทฯ และโครงการทม่ี ศี กั ยภาพอน่ื ๆ ตลอดจนโครงการเรง่ ดว่ น 15 โครงการ การประชมุ ระหวา่ ง ACCCกบั จีนคร้ังต่อไปจะมีขน้ึ ในเดือนมถิ นุ ายน พ.ศ. 2556 โครงการทจี่ ีนไดใ้ ห้ความชว่ ยเหลืออาเซียน อาทิ (1) การใหเ้ งนิ ทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งถนนดา้ นตะวนั ตกของแมน่ ำ้ โขงเชอ่ื มตอ่คุนหมิง - กรุงเทพฯ ภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจเหนือ - ใต้ / (สะพานมิตรภาพไทย - ลาวเชียงของ - ห้วยทราย) / เสน้ ทางนำรอ่ ง (Navigation route) แมโ่ ขงตอนบน / โครงข่ายสายไฟฟา้ ในเวียดนามและลาว (2) การจดั ทำ Feasibility Study ในเรอ่ื ง Missing Link ทางรถไฟในกมั พชู า /ทางรถไฟในลาว / ทางรถไฟในเมียนมาร์ / รถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ - เชียงใหม่กรงุ เทพฯ - หนองคาย และลาว - คนุ หมงิ / และโครงขา่ ยทางหลวงในอนภุ มู ภิ าคลมุ่ แมน่ ำ้ โขง(Greater Mekong Sub - region : GMS) เป็นต้น 123
สหภาพยโุ รป ให้ความสำคัญแก่การเชื่อมโยงด้านกฎระเบียบ การจัดการข้ามพรมแดนและการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน โดยในด้านกฎระเบียบได้ให้การสนับสนุนการสร้างขีดความสามารถของอาเซียนในการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งด้านการค้าและการจดั การดา้ นศลุ กากรเปน็ เงนิ 15 ลา้ นยโู ร (ระหวา่ งปี พ.ศ. 2555 - 2558) การพฒั นาตลาดการบินเดยี วของอาเซียน 5 ลา้ นยูโร (ระหว่างปี พ.ศ. 2555 - 2559) ด้านประชาชนใหก้ ารสนบั สนนุ ดา้ นการพฒั นาการศกึ ษาระดบั สงู 10 ลา้ นยโู ร (ระหวา่ งปี พ.ศ. 2556 - 2560) อาเซยี นไดเ้ สนอใหส้ หภาพยโุ รปจดั ตง้ั คณะกรรมการเฉพาะเพอ่ื หารอื กบั อาเซยี นในเร่อื งความเชือ่ มโยง และสหภาพยุโรปได้แสดงความสนใจตอ่ ข้อเสนอดังกล่าว สหรฐั อเมรกิ า สหรัฐฯ ได้มีข้อริเริ่มความร่วมมือเพื่อความเชื่อมโยงสหรัฐฯ - อาเซียน(US - ASEAN Connectivity Cooperation Initiative) ต้งั แตเ่ ดือนพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2554โดยการสนับสนุนของ United States Trade and Development Agency (USTDA)ความริเริม่ ดังกลา่ วเนน้ การส่งเสรมิ ความเชอ่ื มโยง 3 ด้านได้แก่ พลังงาน การคมนาคมขนส่งเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของภาคเอกชนสหรฐั ฯ ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ เพอื่ สนับสนนุ การเตรยี มความพรอ้ มเขา้ ส่ปู ระชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 สหรฐั ฯ ไดจ้ ัดการประชุมเชิงปฏบิ ัติการดา้ นการเชอื่ มโยง 2 คร้งั คือ 1) “ASEAN Disaster Management, Mitigation, and Response Technologies” 2) “ASEAN Smart Grid and Power Transmission Workshop and Reverse Trade Mission” โดยทั้ง 2 การประชุมเน้นบทบาทและความร่วมมือจากภาคเอกชนในการส่งเสริมการเชือ่ มโยงระหว่างทัง้ สองฝา่ ย124
กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ASEAN CONNECTIVITY สหรฐั ฯ มคี วามรว่ มมอื ดา้ นการพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ ดา้ นการศกึ ษา สว่ นใหญ่จะเป็นในลักษณะของความร่วมมือทวิภาคี และเป็นความร่วมมือผ่านโครงการ Fulbrightกบั ประเทศตา่ งๆ ในอาเซยี น ส่วนความรว่ มมอื กับอาเซยี นเพง่ิ มีการดำเนินการโครงการแรกคอื โครงการฝกึ อบรมภาษาองั กฤษ โดยเปน็ การรว่ มมอื ระหวา่ งบรไู นดารสุ ซาลามและสหรัฐฯภายใต้ชื่อโครงการ “Brunei - US English Language Enrichment Programme forASEAN, University Brunei Darussalam (UBD) in collaboration with East-WestCenter (EWC) in Hawaii” ระหวา่ งวนั ท่ี 13 พฤษภาคม - 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เปน็ เวลา11 สัปดาห์ โดยมผี ู้เขา้ รว่ มจากประเทศอาเซียนจำนวน 10 คน / ประเทศ ทัง้ นี้ โครงการฯแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การฝึกอบรมภาษาอังกฤษแก่ครูสอนภาษา เพื่อให้บุคคลเหล่านี้สามารถกลบั มาถา่ ยทอดวชิ าใหแ้ กน่ กั ศกึ ษาอาเซยี นตอ่ ไป ในลกั ษณะ “Train the Trainers”และการอบรมสำหรับข้าราชการ และนกั การทตู ของประเทศสมาชิกอาเซียน ผทู้ รงคณุ วฒุ อิ าเซยี น - สหรฐั (ASEAN - US Eminent Persons Group : EPG)ไดม้ ขี อ้ เสนอแนะเพอ่ื สง่ เสรมิ ดา้ นความเชอ่ื มโยงในอาเซยี นตอ่ ทป่ี ระชมุ ผนู้ ำอาเซยี น - สหรฐั ฯครง้ั ท่ี 4 เม่อื เดือนพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2555 ณ กรงุ พนมเปญ ดงั น้ี 1) สนบั สนนุ ใหต้ ง้ั U.S. Task Force on Connectivity เพอ่ื เปน็ กลไกการหารอืกับ ACCC เกี่ยวกับการสนับสนุนการดำเนินการภายใต้แผนแม่บทฯ รวมทั้งเสนอข้อริเริ่มใหม่เพ่ือส่งเสรมิ ความเชอื่ มโยงในอาเซียน 2) ส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน - สหรัฐฯ ในด้านความร่วมมือทางทะเลโดยเน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถ การแลกเปลี่ยนข้อมูล และความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยี 3) สง่ เสรมิ การฝกึ อบรมสำหรบั บคุ คลากรของประเทศ กมั พชู า ลาว เมยี นมาร์เวียดนาม (CLMV) ในสาขาต่างๆ กว่า 10,000 คน ในระยะเวลา 2 ปี โดยสนับสนุน 125
ความร่วมมือภายใต้ Initiative for ASEAN Integration (IAI) และ Lower MekongInitiative (LMI) เพ่อื สร้างขดี ความสามารถ CLMV ในการลดช่องว่างดา้ นการพัฒนา อนิ เดยี ให้ความสำคญั กบั การเช่อื มโยงแบบรอบดา้ น ทางบก อนิ เดียสนบั สนุนการสร้างทางหลวงสามฝา่ ยไทย - เมียนมาร์ - อนิ เดยีและการขยายเส้นทางดังกล่าวไปยังกัมพูชาและลาว รวมทั้งการสร้างทางหลวงสายใหม่เช่อื มโยงเวยี ดนาม กัมพชู า ลาว และเมยี นมาร์ กบั อนิ เดีย ทางทะเล อินเดียพยายามเชื่อมโยงกับอาเซียนผ่านทะเลอันดามันโดยมีทวายของเมยี นมารเ์ ปน็ ประตสู ำคญั อนิ เดยี จงึ สนบั สนนุ แนวคดิ ของกรอบการประชมุ สดุ ยอดเอเชยี ตะวันออก (East Asia Summit : EAS) ในการพัฒนา Mekong - India EconomicCorridor (โฮจมิ นิ ห์ - พนมเปญ - กรุงเทพฯ - ทวาย - เจนไน) เพือ่ เป็นเสน้ ทางลัดเชือ่ มโยงภมู ภิ าคลมุ่ แมน่ ำ้ โขงกบั อนิ เดยี ฝง่ั ตะวนั ออก และพฒั นาเขตเศรษฐกจิ และอตุ สาหกรรมพรอ้ มกนั ไปดว้ ย ทางอากาศ อนิ เดยี สนบั สนุนการเปดิ นา่ นฟ้าเสรกี บั อาเซยี น ปัจจบุ นั อนิ เดยีอยู่ระหว่างการเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศมีเป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2558 อินเดียได้จัดตั้ง India Inter - Ministerial Group on ASEAN Connectivityเพื่อร่วมมือกับอาเซียนในเรื่องการเชื่อมโยงด้วย โดยมีการประชุมกับ ACCC ครั้งแรกในเดอื นมิถุนายน พ.ศ. 2556 ทีป่ ระเทศอนิ โดนีเซีย สาธารณรัฐเกาหลี ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความความเชื่อมโยงโดยเฉพาะด้าน ICT เช่นโครงการ ASEAN - ROK Cyber University เพ่อื จะส่งเสรมิ ความร่วมมือดา้ นการศึกษาและการแลกเปล่ยี นระดบั ประชาชน สาธารณรัฐเกาหลีได้จัดตั้งกลไกเพื่อหารือกับ ACCC เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านความเช่ือมโยงอยา่ งรอบด้าน โดยมกี ารประชมุ คร้ังแรกรว่ มกับ ACCC ในเดือนมถิ นุ ายนพ.ศ. 2556 ทีป่ ระเทศอนิ โดนีเซยี126
กรมอาเซียน กระทรวงการตา่ งประเทศ ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีบทบาทเรื่องความเชื่อมโยงและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้กรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาค โดยเฉพาะภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นเวลายาวนานภายใต้แผนแม่บทฯ ออสเตรเลียสนใจร่วมมือกับอาเซียนในเรื่องการพัฒนากฎระเบียบทางการคา้ (ROO) / การรว่ มลงทนุ ระหวา่ งรฐั กบั เอกชน (PPP) / การศกึ ษาแนวทางการจดั ทำASEAN single visa การพฒั นาศกั ยภาพในการบรหิ ารจดั การขา้ มพรมแดน นอกจากน้ี ยงั สนใจท่ีจะจัดต้ัง Taskforce เพอื่ ทำงานรว่ มกบั ACCC ในระยะต่อไปดว้ ย แคนาดา ASEAN CONNECTIVITY มีความสนใจที่จะร่วมมือกับอาเซียนในเรื่องการจัดการผลกระทบด้านลบจากการเชอ่ื มโยง นอกจากนั้น แคนาดาไดเ้ สนอใหม้ ีความร่วมมือในการพัฒนาประสทิ ธภิ าพในการเชอ่ื มโยงหว่ งโซอ่ ปุ ทาน (supply chains) ระหวา่ งอาเซยี น-แคนาดา โดยใหค้ วามสำคญักบั การขนส่งตอ่ เน่ืองหลายรปู แบบ แคนาดาเสนอใหอ้ าเซียนใชป้ ระโยชนจ์ าก Asia PacificGateway and Corridor Initiative (APGCI) เปน็ ชอ่ งทางเชื่อมโยงห่วงโซอ่ ปุ ทานระหว่างสองภูมิภาค อาเซียน+3 (จนี ญป่ี นุ่ สาธารณรัฐเกาหลี) ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน+3 ครั้งที่ 13 เมื่อเดือนกรกฎาคมพ.ศ. 2555 ที่กรุงพนมเปญ เห็นชอบกับข้อเสนอของไทยที่เสนอให้ผู้นำอาเซียน+3ออกแถลงการณ์ ASEAN Plus Three Partnership on Connectivity ในการประชุมสุดยอดอาเซียน+3 เม่ือเดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2555 การประชุมสดุ ยอดเอเชยี ตะวันออก (East Asia Summit : EAS) ในการประชมุ EAS ครง้ั ท่ี 6 เมอ่ื วนั ท่ี 19 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2554 ทเ่ี มอื งบาหลีประเทศอินโดนเี ซีย ทีป่ ระชมุ ฯ ได้รับรอง Declaration of the 6th East Asia Summiton ASEAN Connectivity เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความรว่ มมอื ระหวา่ งอาเซยี นและประเทศคเู่ จรจาทเ่ี ขา้ รว่ ม EAS ในการพฒั นาความเชอ่ื มโยงในอาเซียนตามแผนแมบ่ ทฯ 127
กองทนุ เพอ่ื การพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานในภมู ภิ าคอาเซยี น(ASEAN Infrastructure Fund) ในการระดมทุนเพื่อการเชื่อมโยงในภูมิภาค นอกเหนือจากงบประมาณของประเทศสมาชกิ แต่ละประเทศ รวมทั้งความร่วมมอื สนบั สนนุ โดยประเทศคเู่ จรจาและองค์กรเพื่อการพัฒนาแล้ว อาเซียนยังได้ก่อตั้ง AIF ขึ้นเพิ่อสนับสนุนโครงการความเชื่อมโยงทีม่ คี วามสำคัญเร่งดว่ นด้วย AIF มีวัตถุประสงค์เพอ่ื เร่งรัดการพฒั นาโครงสรา้ งพืน้ ฐานภายในและระหว่างพรมแดนของประเทศสมาชกิ อาเซยี น และสง่ เสรมิ การใชเ้ งนิ ออมของอาเซยี นในการสนบั สนนุทางการเงินสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว โดยมีเป้าหมายระยะยาวที่จะออกพนั ธบัตรทีธ่ นาคารกลางสามารถถอื เพ่ือเปน็ ทุนสำรองระหว่างประเทศได้ในท่ีสดุ กองทนุ นม้ี เี งนิ ตง้ั ตน้ จำนวน 485.2 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั โดยธนาคารพฒั นาเอเชยี(Asian Development Bank : ADB) ให้เงินสนับสนุน จำนวน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐส่วนที่เหลือจะเป็นการสมทบทุนของประเทศสมาชิกอาเซียนอีก 335.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐดังนี้ มาเลเซยี 150 ลา้ นดอลลารส์ หรัฐ บรไู นฯ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อนิ โดนเี ซยี 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เวียดนาม 10 ลา้ นดอลลารส์ หรัฐ ฟิลิปปินส ์ 15 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั กมั พูชา 0.1 ล้านดอลลารส์ หรัฐ ไทย 15 ลา้ นดอลลาร์สหรฐั ลาว 0.1 ล้านดอลลารส์ หรัฐ สงิ คโปร ์ 15 ล้านดอลลารส์ หรฐั เมียนมาร ์ 0 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ กองทุน AIF มีที่ตั้งที่ประเทศมาเลเซีย มีลักษณะเป็นบริษัทจำกัดภายใต้กฎหมายมาเลเซีย และมีอำนาจในการทำสัญญาและดำเนนิ การต่างๆ ในนามของตนเอง128
กรมอาเซยี น กระทรวงการต่างประเทศ ASEAN CONNECTIVITY ในปแี รก กองทนุ ฯ จะใหเ้ งนิ ยมื จำนวน 300 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั เพอ่ื สนบั สนนุโครงการด้านการเชื่อมโยงในภูมิภาคใน 3 ด้าน คือ การคมนาคมขนส่ง พลังงานและการจัดการน้ำ โดย ADB จะออกเงินสมทบโครงการเหล่านี้ด้วยในระยะต่อไปเมื่อมีความเข้มแข็งมากขึ้นจะมีการออกพันธบัตรกึ่งหนี้กึ่งทุนเพื่อให้ประเทศสมาชิกและผู้สนใจรว่ มลงทุนดว้ ย ประเทศไทยได้ให้เงินสนับสนุนกองทุนฯ ตามพันธกรณีในงวดแรกไปแล้วจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสิ้นไตรมาส 3 ของปี พ.ศ. 2555 และมีกำหนดจะจ่ายเงินงวดท่ี 2 อีก 5 ล้านดอลลารส์ หรัฐ ในช่วงไตรมาสท่ี 3 ของปี พ.ศ. 2556 กองทุน AIF อย่รู ะหว่างจัดสรรเงินยืมและเงินสมทบจาก ADB เพ่อื สนบั สนุนโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของอาเซียน โดยในระยะแรกโครงการส่วนใหญ่ยังเป็นโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคพืน้ ฐานของอาเซยี นนอกแผนแมบ่ ทฯบทบาทของไทย ประเทศไทยมบี ทบาทนำในการเสนอแนวความคดิ เรอ่ื ง ASEAN Connectivityตั้งแต่เริ่มต้นและต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เสนอ Concept Paperวา่ ดว้ ยการเชอ่ื มโยงระหวา่ งกนั ในอาเซยี นตอ่ ทป่ี ระชมุ ASEAN Foreign Ministerial Retreatที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 ซึ่งได้รับการตอบรับจากประเทศสมาชกิ อาเซยี นอน่ื ๆ และเปน็ จดุ กำเนดิ ของการจดั ทำรา่ งแผนแมบ่ ทฯในเวลาตอ่ มา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนเพื่อเป็นกลไกการประสานงานและติดตามให้มีการดำเนินการตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประเทศไทยและทำหน้าที่เป็น National Coordinator ทั้งนี้ โดยมีรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ 129
ประเทศไทยผลกั ดนั ใหม้ กี ารเรง่ รดั การดำเนนิ การเชอ่ื มโยงภายใตแ้ ผนแมบ่ ทฯโดยได้ริเริ่มจัดโครงการสำรวจเส้นทางสำหรับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน 2 ครั้งเพื่อสำรวจศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน คือ ครั้งที่ 1 การสำรวจเส้นทางหมายเลข 9 (มุกดาหาร - สะหวันนะเขต - ดานัง) เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 และครั้งที่ 2 การสำรวจ เส้นทาง R3A (เชียงของ - ห้วยทราย - จิ่งหง) เมื่อเดือนมกราคมพ.ศ. 2554 ซง่ึ จากการสำรวจ เสน้ ทางทง้ั 2 ครง้ั พบวา่ เสน้ ทางทง้ั 2 มศี กั ยภาพทางเศรษฐกจิ สงูสามารถใชเ้ ปน็ เสน้ ทางขนสง่ สนิ คา้ เกษตรและสนิ คา้ อปุ โภคบรโิ ภค และการทอ่ งเทย่ี ว อยา่ งไรกด็ ียงั คงมปี ญั หาเร่ืองการจดั การขา้ มพรมแดนทจี่ ะต้องเร่งแกไ้ ข เมอ่ื วนั ท่ี 13 - 15 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2555 ประเทศไทยไดเ้ ปน็ เจา้ ภาพจดั การประชมุ“ASEAN Workshop on Cross - Border Management : A Key to Efficient ASEANConnectivity” และการประชมุ “ASEAN+3 Partnership on Connectivity” ที่กรุงเทพฯเชญิ คณะอนกุ รรมการฯ ผแู้ ทนจากหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งของไทยและประเทศสมาชกิ อาเซยี นผู้แทนจากประเทศคู่เจรจา องค์การระหว่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆเขา้ ร่วมประชมุ การประชมุ “ASEAN Workshop on Cross-Border Management : A Keyto Efficient ASEAN Connectivity” มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจในการดำเนินการตามแผนแม่บทฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอาเซียนในด้านการบริหารจัดการข้ามพรมแดน เพื่ออำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าขา้ มแดน การเคลื่อนยา้ ยแรงงาน และการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนให้มปี ระสิทธิภาพ การประชมุ “ASEAN+3 Partnership on Connectivity” มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันและพัฒนาแนวคิดเรื่องหุ้นส่วนความเชื่อมโยงอาเซยี น+3 ซง่ึ จะชว่ ยสนบั สนนุ แผนแมบ่ ทฯ และชว่ ยปทู างนำไปสกู่ ารยกระดบั ความเชอ่ื มโยงระหว่างกันในเอเชียตะวันออก รวมถึงระดมความคิดเห็นเพื่อตอบโจทย์ในการขับเคลื่อนหุ้นส่วนความเชื่อมโยงอาเซียน+3 อย่างเป็นรูปธรรม โดยตระหนักถึงเป้าหมายในระยะยาวทีจ่ ะสรา้ งประชาคมเอเชียตะวนั ออก (East Asia Community)130
กรมอาเซยี น กระทรวงการต่างประเทศ ASEAN CONNECTIVITY ประเทศไทยเสนอใหผ้ นู้ ำอาเซยี น+3 ออกแถลงการณ์ ASEAN+3 Partnershipon Connectivity ในระหว่างการประชมุ สดุ ยอดอาเซียน+3 ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2555ที่กรุงพนมเปญ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของผู้นำในการสนับสนุนการดำเนินการเรื่องความเชื่อมโยงภายใต้แผนแม่บทฯ และยกระดับความเชื่อมโยงระหว่างกันในภุมิภาคเอเชยี ตะวนั ออก โดยดำเนนิ การภายใตส้ าขาความรว่ มมอื ตา่ งๆ ทม่ี อี ยแู่ ลว้ ในกรอบอาเซยี น+3 เพอ่ื ตอ่ ยอดจากผลและขอ้ เสนอแนะจากการประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร “ASEAN+3Partnership on Connectivity” เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 ประเทศไทยกำหนดจะจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “Enhancing Connectivity through Multi - layeredRegional Frameworks : The Role of Dialogue Partners” ในเดอื นกรฏาคม พ.ศ. 2556เพื่อระดมความคิดเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือของประเทศคู่เจรจาในการสนับสนุนความเชื่อมโยงในภูมิภาคฯ โดยทบทวนแนวทางและกลไกความร่วมมือที่มีอยู่ในกรอบต่างๆเพื่อใหส้ นบั สนุนการดำเนนิ การภายใต้แผนแมบ่ ทให้มปี ระสทิ ธภิ าพย่ิงขึ้นและไมซ่ ้ำซอ้ นกนั ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับนิวซีแลนด์ จัดการประชุม EAS RegulatoryRoundtable ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ระดมความคดิ เก่ียวกับแนวทางการรว่ มมอื ในกลมุ่ EAS เพอ่ื สนบั สนนุ การดำเนนิ การดา้ นการเชอ่ื มโยงดา้ นกฎระเบยี บภายใตแ้ ผนแม่บทฯ 131
132
กรมอาเซยี น กระทรวงการต่างประเทศ THAILAND AND ASEAN บทบาทไทยในอาเซยี น นับตั้งแต่อาเซียนได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2510 ประเทศไทยได้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือของอาเซียนให้มีความคืบหน้ามาโดยตลอด และอาเซียนถอื เปน็ หวั ใจสำคญั ของนโยบายดา้ นการตา่ งประเทศของประเทศไทยเรอ่ื ยมาจนถงึ ปจั จบุ นัเนอ่ื งจากการสง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ในกรอบตา่ งๆ ของอาเซยี น เปน็ การสรา้ งความไวเ้ นอ้ื เชอ่ื ใจระหว่างประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสันติภาพเสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรอื งในภมู ิภาคสืบไป ในชว่ งทป่ี ระเทศไทยดำรงตำแหนง่ ประธานอาเซยี นเมอ่ื ปี พ.ศ. 2551 - พ.ศ. 2552 ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการวางรากฐานสำหรับประชาคมอาเซียนโดยมีประชาชน เปน็ ศูนยก์ ลาง โดยได้มีการจดั ทำแผนงานสูป่ ระชาคมอาเซียนปี พ.ศ. 2552 - พ.ศ. 2558 (Cha-am Hua Hin Roadmap for an ASEAN Community 2009 - 2015) ซง่ึ ครอบคลมุ แผนงานการจดั ตง้ั ประชาคมอาเซยี นในทง้ั สามเสา รวมทง้ั การอนวุ ตั กิ ารกฎบตั รอาเซยี น เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพของกลไกต่างๆ ของอาเซียนให้สามารถร่วมแก้ไขปัญหา ทม่ี ผี ลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในโลกปัจจุบันท่ีต้องเผชิญกบั ปญั หาทา้ ทายความม่ันคงในรปู แบบใหม่ เชน่ โรคระบาด การกอ่ การรา้ ย ยาเสพติด การคา้ มนุษย์ สิง่ แวดลอ้ ม และภัยพิบัติ 133
ในดา้ นการเมอื งและความมน่ั คง ประเทศไทยพยายามผลักดันให้อาเซียนดำเนินการดา้ นการส่งเสริมความไว้เน้อื เชอ่ื ใจและการทตู เชิงปอ้ งกนั โดยใชก้ ลไกตา่ งๆ ในกรอบอาเซียนเช่น การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM) การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกบั คเู่ จรจา (ADMM Plus) และการประชมุ วา่ ดว้ ยความรว่ มมอื ดา้ นการเมอื งและความมน่ั คงในเอเชีย - แปซิฟิก (ARF) รวมทั้งได้ผลักดันการจัดตั้งเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ (SEANWFZ) และส่งเสริมใหอ้ าเซยี นร่วมมอื กันมากขึ้นในการรบั มอืกบั ภยั คกุ คามดา้ นความมน่ั คงรปู แบบใหม่ อาทิ ยาเสพตดิ ภยั พบิ ตั ิ และอาชญากรรมขา้ มชาติ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในอาเซยี น โดยได้ผลักดนั การจดั ตั้งและคณะกรรมาธกิ ารระหวา่ งรฐั บาลอาเซยี นวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชน (AICHR) และให้การสนับสนุนการทำงานของ AICHR อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ในการจัดทำปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสทิ ธมิ นษุ ยชน (Asean Human Rights Declaration) ซึ่งผู้นำอาเซียนได้รับรองเมื่อวันที่17 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2555 ระหวา่ งการประชมุ สดุ ยอดอาเซยี นครั้งที่ 21 ณ กรุงพนมเปญประเทศกมั พชู า ในดา้ นเศรษฐกจิ ประเทศไทยตระหนักถงึ ความสำคญั ของการรวมตัวทางเศรษฐกจิในภูมิภาคที่จะช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอย่างยั่งยืน โดยนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เป็นผู้เสนอและรเิ รม่ิ ใหม้ กี ารจดั ตง้ั เขตการคา้ เสรอี าเซยี น (AFTA) ขน้ึ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2535 ซง่ึ ตอ่ มา อาเซยี นไดจ้ ดั ทำความตกลงเขตการค้าเสรีกับอีก 6 ประเทศได้แก่ จีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น อินเดียออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ อาเซียนยังอยู่ระหว่างการเจรจาจัดทำความตกลงพนั ธมติ รทางเศรษฐกจิ ระดบั ภมู ภิ าค (Regional Comprehensive Economic Partnershipหรือ RCEP) ซึ่งจะนำไปสู่เขตการค้าเสรีระดับภูมิภาคขนาดใหญ่ ครอบคลุมประชากรเกินครึ่งหนึ่งของโลก โดยประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเรื่องนี้ต่อไปเพ่ือสง่ เสรมิ ศกั ยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและของภูมิภาค134
กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ THAILAND AND ASEAN ประเทศไทยยังเป็นผู้ริเริ่มและผลักดันแนวคิดเกี่ยวกับความเชื่อมโยงในอาเซียน(Enhanced Connectivity in ASEAN) โดยครอบคลมุ ทกุ มติ ิ ไดแ้ ก่ ความเชอ่ื มโยงดา้ นกายภาพดา้ นกฎระเบยี บ และระหว่างประชาชน ซึ่งนำไปสู่การจัดทำแผนแมบ่ ทว่าดว้ ยความเช่ือมโยงในอาเซียน อันเป็นกรอบยุทธศาสตร์หลักที่จะช่วยสนับสนุนเกื้อกูลการดำเนินการด้านความเชื่อมโยงในกรอบอื่นๆ ทั้งในระดับอนุภูมิภาคและทวิภาคี และต่อมาประเทศไทยยังได้ผลักดันแนวคิดความเชื่อมโยงกับนอกภูมิภาค (Connectivity Beyond ASEAN)เพือ่ ขยายเครือขา่ ยการคมนาคมขนส่งไปสู่ประเทศนอกภูมิภาค เชน่ จีน และอนิ เดยี ดว้ ย ในดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม ประเทศไทยได้ผลักดันการสร้างประชาคมอาเซียนทมี่ ีประชาชนเปน็ ศนู ยก์ ลางมาโดยตลอด รวมทง้ั ใหค้ วามสำคญั กบั การมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในการสรา้ งประชาคมอาเซียน โดยประเทศไทยได้ริเริ่มการประชุมระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน ผู้แทนภาคประชาสังคม และผู้แทนเยาวชน เพื่อส่งเสริมการปฏสิ มั พนั ธร์ ะหว่างอาเซยี นกบั ประชาชนกลมุ่ ตา่ งๆ นอกจากน้ี ประเทศไทยไดร้ ว่ มมอื กบัประเทศสมาชกิ อาเซยี นอ่ืนๆ อยา่ งแข็งขันเพ่ือเพมิ่ พนู ความร่วมมือด้านสงั คมและวัฒนธรรมอาทิ การบรหิ ารจดั การภยั พบิ ตั ิ การศกึ ษา สง่ิ แวดลอ้ ม สาธารณสขุ การลดชอ่ งวา่ ง ดา้ นการพฒั นาและการสรา้ งอตั ลกั ษณอ์ าเซยี น เพอ่ื ใหบ้ รรลกุ ารสรา้ งสงั คมทเ่ี ออ้ื อาทรและแบง่ ปนั ในอาเซยี น 135
ตราสญั ลกั ษณป์ ระเทศและขอ้ มลู พน้ื ฐานประเทศสมาชกิ อาเซยี น เนการาบรไู นดารุสซาลาม (NEGARA BRUNEI DARUSSALAM) เมอื งหลวง บนั ดาร์เสรีเบกาวนั วนั ชาติ 23 กุมภาพันธ์ สกุลเงนิ ดอลลารบ์ รูไน วันเขา้ รว่ มอาเซยี น 8 มกราคม 2527 ราชอาณาจักรกัมพูชา (KINGDOM OF CAMBODIA) เมืองหลวง กรุงพนมเปญ วนั ชาติ 9 พฤศจิกายน สกุลเงนิ เรียล วันเขา้ รว่ มอาเซยี น 9 เมษายน 2542 สาธารณรฐั อินโดนเี ซยี (REPUBLIC OF INDONESIA) เมืองหลวง กรุงจาการ์ตา วันชาติ 17 สงิ หาคม สกุล รูเปีย วันเขา้ รว่ มอาเซยี น 8 สงิ หาคม 2510 สาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาว (LAO PEOPLE’S DEMOCRATIC REPUBLIC) เมืองหลวง เวียงจันทน์ วันชาติ 2 ธันวาคม สกลุ เงนิ กีบ วนั เขา้ ร่วมอาเซียน 23 กรกฎาคม 2540 มาเลเซีย (MALAYSIA) เมอื งหลวง กรุงกัวลาลมั เปอร์ วันชาต ิ 31 สิงหาคม สกุ ลเงนิ รงิ กิต วันเขา้ ร่วมอาเซยี น 8 สิงหาคม 2510 หมายเหตุ : การถอดชอ่ื เมืองและสกลุ เงินอ้างองิ ตามราชบญั ฑติ ยสถาน138
กรมอาเซียน กระทรวงการตา่ งประเทศ GENERAL INFORMATION ON ASEAN MEMBER STATES สาธารณรัฐแหง่ สหภาพเมยี นมาร์ (THE REPUBLIC OF UNION OF MYANMAR) เมอื งหลวง กรุงเนปยดี อ วนั ชาติ 4 มกราคม สกลุ เงนิ จตั วันเขา้ รว่ มอาเซียน 23 กรกฎาคม 2540 สาธารณรัฐฟลิ ิปปนิ ส์ (REPUBLIC OF THE PHILIPPINES) เมืองหลวง กรุงมะนิลา วันชาติ 12 มถิ นุ ายน สกุลเงนิ เปโซ วันเข้ารว่ มอาเซียน 8 สงิ หาคม 2510 สาธารณรัฐสิงคโปร์ (REPUBLIC OF SINGAPORE) เมอื งหลวง สงิ คโปร์ วันชาต ิ 9 สิงหาคม สกลุ เงิน ดอลลาร์สิงคโปร์ วันเขา้ ร่วมอาเซยี น 8 สิงหาคม 2510 ราชอาณาจกั รไทย (KINGDOM OF THAILAND) เมอื งหลวง กรุงเทพมหานคร วันชาต ิ 5 ธันวาคม สกุลเงนิ บาท วนั เข้ารว่ มอาเซียน 8 สิงหาคม 2510 สาธารณรฐั สังคมนยิ มเวยี ดนาม (SOCIALIST REPUBLIC OF VIETNAM) เมอื งหลวง กรงุ ฮานอย วนั ชาต ิ 2 กนั ยายน สกลุ เงนิ ดอง วันเข้าร่วมอาเซียน 28 กรกฎาคม 2538 139
ดอกไมป้ ระจำชาตขิ องประเทศสมาชกิ อาเซยี น บรไู นดารสุ ซาลาม ดอกซมิ ปอร์ หรือ ดอกสา้ นชะวา (SIMPOR or DILLENIA) เป็น ดอกไม้ที่มีกลีบดอกขนาดใหญ่สีเหลือง เมื่อบานเต็มที่กลีบดอก จะบานออกคล้ายกับร่ม รูปดอกซิมปอร์พบได้บนธนบัตรราคา 1 ดอลลาร์ของประเทศบรูไนฯ และถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ในด้านศิลปะการออกแบบงานฝีมือพื้นเมือง ดอกซิมปอร์พบทั่วไป ตามแม่น้ำของประเทศบรูไนฯ โดยเฉพาะแม่น้ำ Tem-burong และยงั พบตามบึงหรอื บรเิ วณทม่ี ที รายสขี าว สว่ นตา่ งๆ ของซมิ ปอร์ นำมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้หลากหลาย เช่น ใชใ้ นการรกั ษาบาดแผล กมั พชู า ดอกลำดวน (RUMDUL) เป็นดอกสีขาวเหลืองอยู่บนใบเดี่ยว มีกลิ่นหอมในเวลาค่ำ เนื่องจากกลิ่นหอมนี้เองทำให้ในอดีต มีการเปรียบดอกลำดวนกับสตรีชาวกัมพูชา ต้นลำดวนมีความสูง 8-12 เมตร พบได้ทั่วไปในประเทศกัมพูชาและนิยมปลูก ในสวนสาธารณะ อนิ โดนเี ซยี ดอกกล้วยไม้ราตรี (MOON ORCHID) เป็นกล้วยไม้ในสายพนั ธ์ุ Phalaenopsis amabilis ซง่ึ เปน็ หนง่ึ ในสามของดอกไมป้ ระจำชาติ อินโดนีเซีย โดยดอกไม้ประจำชาติอีกสองดอก คือ ดอกมะลิซ้อน (Jasmi-num sambac) และดอก Rafflesia arnoldii ดอกกลว้ ยไมร้ าตรจี ะบาน 2-3 ครั้งต่อปี และสามารถเจริญเติบโต ได้ดใี นอากาศชื้น จึงมักพบได้ทั่วไปบริเวณที่ราบต่ำของประเทศ อนิ โดนเี ซยี140
กรมอาเซยี น กระทรวงการตา่ งประเทศ ลาว GENERAL INFORMATION ON ASEAN MEMBER STATESดอกจำปาลาว หรือดอกลีลาวดี (DOK CHAMPA or PLUMERIA) เป็นสัญลักษณ์ของประเทศลาว มีกลิ่นหอมและมีหลายสี เช่น สีแดง สีเหลือง สีชมพู และโทนสีอ่อนต่างๆดอกจำปาลาว เปน็ ตวั แทนของความจรงิ ใจและความสุขในชีวติจึงนยิ มใชป้ ระดับในพธิ ตี า่ งๆ หรือทำพวงมาลยั เพอื่ ตอ้ นรับแขกดอกจำปาลาวผลิบานทุกวัน และอยู่ได้นานจึงมักปลูกอย่างแพร่หลายและพบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะในบริเวณวัดและสถานท่ีศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ มาเลเซยีดอกชบาแดง (BUNGA RAYA) เป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศมาเลเซีย โดยกลีบของดอกชบาแดงเป็นตัวแทน5 หลักการแห่งความเป็นชาติของประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นปรชั ญาเพอ่ื เสรมิ สรา้ งความเปน็ ปกึ แผน่ และความอดทนในชาติดอกชบาแดง พบไดท้ ว่ั ไปในประเทศมาเลเซยี และบางส่วนของลำต้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และความงามได้อีกด้วย เมยี นมาร์ดอกประดู่ (PADUAK) มีสีเหลืองทองและส่งกลิ่นหอมหลังฤดูฝนแรกของเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับการเฉลมิ ฉลองเทศกาลปีใหมข่ องประเทศเมยี นมาร์ เมอ่ื ผลดิ อกต้นของดอกประดู่จะเป็นสีทองตลอดทั้งคืน ชาวเมียนมาร์จึงถือว่า ต้นประดู่เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแรงและความทนทาน ดอกไมช้ นดิ นย้ี งั หมายถงึ วยั หนมุ่ สาวและความรกัดอกประดู่เป็นดอกไม้ที่ขาดไม่ได้ในงานประเพณีและพิธีทางศาสนาในประเทศเมียนมาร์ นอกจากนี้ ลำต้นยังสามารถนำไปทำเครอื่ งเรอื นได้อีกดว้ ย 141
ฟลิ ปิ ปนิ ส์ ดอกพดุ แกว้ (SAMPAGUITA JASMINE) เปน็ ดอกไม้ประจำ ชาติของประเทศฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1934 ดอกพุดแก้ว มกี ลบี ดอกรปู ดาวสขี าวทบ่ี านตลอดทง้ั ปี โดยจะแยม้ ดอกในตอน กลางคนื และสง่ กลน่ิ หอมประมาณหนง่ึ วนั สำหรบั ชาวฟลิ ปิ ปนิ ส์ ดอกไม้ชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ความเรียบง่าย ความอ่อนน้อมถ่อมตนและความเข้มแข็ง กลิ่นหอมหวลของ ดอกพดุ แกว้ ถกู นำมากลา่ วขานในตำนานเรือ่ งเลา่ และบทเพลง ของประเทศฟิลิปปนิ ส์ โดยมคี วามเช่ือว่าดอกพดุ แก้วนี้ถกู นำมา จากแถบเทือกเขาหิมาลายา ในศตวรรษท่ี 17 สงิ คโปร์ ดอกกล้วยไม้ตระกูลแวนด้า (VANDA MISS JOAQUIM) เปน็ ดอกกลว้ ยไมส้ มี ว่ งซง่ึ เปน็ ทร่ี จู้ กั มากทส่ี ดุ ในประเทศสงิ คโปร์ โดยตั้งชื่อตามผู้ผสมพันธุ์ ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและยังบาน ตลอดปี ทำใหด้ อกไมช้ นดิ นถ้ี กู คดั เลอื กใหเ้ ปน็ ดอกไมป้ ระจำชาติ ของประเทศสงิ คโปร์ต้งั แต่ปี ค.ศ. 1981 ไทย ดอกราชพฤกษ์หรือดอกคูน (Golden Shower tree or Ratchaphrek) ชาวไทยถือว่าสีเหลืองของดอกไม้ชนิดนี้ คือสี ของพระพุทธศาสนาและความรุ่งโรจน์ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ ของความสามคั คปี รองดอง ดอกราชพฤกษจ์ ะเรม่ิ บานตง้ั แตเ่ ดอื น กุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ขณะผลิบานลำต้นจะทิ้งใบ เหลือเพียงดอกสีเหลืองอร่าม ดอกราชพฤกษ์เป็นที่รู้จักทั่วไป ในประเทศไทยและปลูกอย่างแพรห่ ลายตามข้างถนน142
กรมอาเซียน กระทรวงการตา่ งประเทศ GENERAL INFORMATION ON ASEAN MEMBER STATES เวยี ดนามดอกบัวสชี มพู (PINK LOTUS FLOWER) เปน็ ดอกไมท้ ่ไี ด้รบัการคดั เลอื กจากชาวเวยี ดนามใหเ้ ปน็ ดอกไมป้ ระจำชาติ ดอกบวัถอื เป็น 1 ใน 4 ดอกไมแ้ ละพืชทมี่ ีความสง่างามประกอบไปดว้ ยต้นสน ต้นไผ่ และดอกเบญจมาศ ดอกบัวเป็นที่รู้จักในนาม“ดอกไม้แห่งรุ่งอรุณ” พบได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำของประเทศเวยี ดนาม สำหรบั ชาวเวยี ดนามแล้ว ดอกบัว คือสญั ลักษณ์ของความบรสิ ทุ ธ์ิ ความผกู พนั และการมองโลกในแงด่ ี ความสงา่ งามของดอกบัวมักถูกกล่าวถึงในบทกลอนและเพลงพื้นเมืองของประเทศเวียดนาม 143
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146