รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้ เห็นควรอนญุ าตให้ใช้การสอนได้ เห็นควรปรบั ปรงุ เกีย่ วกบั ควรอนุญาตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงช่อื (นายชุมพล บณุ ยรังค์) ควรปรับปรงุ เกี่ยวกบั . หวั หน้าหมวด / แผนกวชิ า อืน่ ๆ // อนญุ าตให้นาไปใช้สอนได้ ลงช่ือ(............................................) อนื่ ๆ รองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ // . ลงชื่อ (............................................) ผูอ้ านวยการ // 50
กรอบการจัดการเรยี นรู้แบบบูรณาการเปน็ เรือ่ ง/ชนิ้ งาน/โครงการ และบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สมรรถนะด้านความมเี หตุผล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ้มุ กนั สามารถระบุกลยทุ ธท์ างการตลาด อธิบายผลกระทบที่เกิดข้ึนกบั อธิบายความรูเ้ ก่ยี วกบั กจิ การ ใหเ้ หมาะสมกบั ความร้เู ก่ียวกบั ความรู้เก่ียวกับกจิ การ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง กจิ การ เง่ือนไขด้านความรู้และทกั ษะ ความรู้ เง่ือนไขด้านคุณธรรมจริยธรรม มีความรู้และทกั ษะดา้ นการ เกยี่ วกับ ค่านิยมคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ กิจการ ตระหนกั ถึงผลกระทบที่มตี อ่ การ ความรู้เก่ยี วกับกิจการ ความร้เู กี่ยวกับกิจการ ผลกระทบเพ่ือความสมดลุ พรอ้ มรับการเปล่ียนแปลง ด้านสงั คม ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านวัฒนธรรม ด้านส่ิงแวดล้อม กิจการมผี ลต่อระบบ บทบาทของกิจการท่ีมีต่อระบบ วฒั นธรรมมผี ลกระทบตอ่ การ การขายให้ความสาคญั กบั เศรษฐกิจและสังคม ส่งิ แวดล้อม โดยใชห้ ลัก เศรษฐกิจแตล่ ะยคุ ทแ่ี ตกตา่ ง ความรู้เกย่ี วกบั กิจการท่ี การตลาดสีเขียว Green Marketing กัน แตกต่างกนั 51
หนว่ ยที่ แผนการจัดการเรยี นรู้ ชัว่ โมง สปั ดาหท์ ี่ 11 ช่ือวชิ า ชื่อหน่วย 7 จานวน 3 ชื่อเรอื่ ง การขายเบอ้ื งตน้ ความรเู้ กย่ี วกบั กจิ การ ความรู้เกยี่ วกบั กจิ การ 1. สาระสาคญั ในการปฏิบัติงานขาย พนักงานขายและผู้ประกอบการอาชีพการขายจาเป็นต้องศึกษารายละเอียด เก่ียวกับองค์กรหรือหน่วยงานให้ดีก่อน เพราะพนักงานขายทาหน้าที่เป็นตัวแทนในการนาเสนอสินค้า การที่ พนักงานขายมีความรู้เก่ียวกับกิจการจะทาให้พนักงานขายเข้าใจเก่ียวกับนโยบายต่างๆ ของกิจการ สามารถ นามาปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและทาให้พนักงานขายเกิดความม่ันใจ ภาคภูมิใจในกิจการของตน ทาให้เกิดความ มัน่ ใจในการทางาน 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับความรเู้ กี่ยวกับกิจการ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความร้เู กี่ยวกบั กจิ การ 3.1.1. อธบิ ายความรู้เก่ียวกับกจิ การท่ีพนกั งานขายต้องศกึ ษาได้อย่างถูกต้อง 3.1.2. บอกแหล่งความรเู้ กี่ยวกับกิจการได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.3. อธิบาย.ประโยชน์ของการมคี วามรเู้ ก่ียวกับกิจการได้อยา่ งถูกตอ้ งอยา่ งถูกต้อง 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ความรเู้ กี่ยวกับกิจการท่พี นักงานขายต้องศึกษา 2. แหลง่ ความร้เู ก่ยี วกับกิจการ 3. ประโยชน์ของการมีความรู้เกี่ยวกบั กิจการ 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท.ี่ ......12.....) ขัน้ สนใจปัญหา (Motivation) 1. ครูให้นกั เรียนช่วยกันยกตัวอย่างกิจการทป่ี ระสบความสาเร็จในประเทศไทย และรว่ มกนั อภปิ รายว่าเพราะ เหตุใดกิจการเหลา่ นีจ้ งึ ประสบผลสาเร็จและครองใจผบู้ ริโภคมาได้จนทกุ วนั น้ี ขั้นให้เนอ้ื หา (Information) 1. ครอู ธบิ าย เรือ่ งความรเู้ ก่ยี วกบั กิจการทพี่ นักงานขายตอ้ งศึกษา แหล่งความรเู้ กย่ี วกับกิจการ และประโยชน์ ของการมคี วามรเู้ ก่ียวกับกจิ การ 2. เปดิ โอกาสให้นักเรยี นซกั ถามข้อสงสยั และบันทึกสรุปลงในสมุด 3. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ตามความเหมาะสมทากจิ กรรมการจัดประสบการณก์ ารเรยี นร้(ู ใช้เวลา 30 นาที) 52 4. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ใหมต่ ามความเหมาะสม 4 กลมุ่ โดยจดั ผูท้ เ่ี รยี นเกง่ ปานกลาง ออ่ น คละกัน เลือกประธาน
และเลขานุการกลุม่ แต่ละกล่มุ เขา้ ประจาตามสถานีทคี่ รูตง้ั ข้ึน 4 สถานี ครูนาบอรด์ เป็นกระดาษหลากสี เขยี นช่อื สถานี 4 ช่อื และในบอรด์ มีคาถามเขียนไวใ้ หน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มเขยี นคาตอบจากคาถามที่กาหนด โดยหมุนเวยี นกนั เขยี นคาตอบตาม สถานีตา่ งๆ 5. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มเมอ่ื เขียนคาตอบเสรจ็ ทกุ สถานีแลว้ เขา้ น่ังประจาท่ีตามกลมุ่ 6. ตัวแทนกลุ่มสรุปคาตอบที่สมาชิกในกล่มุ ตอบหน้าช้นั เรียน 7. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ จากคาตอบทกุ ข้อที่ตอบถกู ขน้ั พยายาม (Application) 1. ทาแบบฝึกหัด และใบงาน ขน้ั สาเร็จผล (Progress) 1. ครสู งั เกตพฤติกรรมการทากจิ กรรมกลมุ่ เพอื่ ประเมินผล 6. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สอ่ื 1. หนงั สือ/ตาราเรยี น 2. ใบงาน 3. รูปภาพ 4. ใบงาน 6.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือตาราเรยี น (หอ้ งสมดุ ) 2. ขอ้ มูลทางอินเทอรเ์ น็ต 7. หลักฐานการเรยี นรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝกึ หดั และแบบทดสอบเกบ็ คะแนน 7.2 หลักฐานการปฏบิ ตั ิงาน 1. แบบฝึกหดั 2. แบบทดสอบเก็บคะแนน 3. ใบงาน 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8.1 เคร่อื งมอื ประเมิน 1. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 1. เกณฑผ์ ่านการประเมินแบบประเมินผลการเรยี นรู้ คือ (50 % ขนึ้ ไป) - คะแนน 9-10 คือ ดีมาก - คะแนน 7-8 คือ ดี - คะแนน 5-6 คือ พอใช้ - คะแนน ตา่ กวา่ 5 คอื ปรับปรงุ 2. แบบประเมินคุณธรรม จริยะรรม ค่านยิ ม และลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยูก่ ับตาม สภาพความเปน็ จร 53
9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทีม่ อบหมาย (ถา้ ม)ี ให้ผเู้ รียนหาความรู้เพ่ิมเติมจากแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ 10. เอกสารอา้ งอิง จริญญา จนั ทร์ปาน. มปพ. การเขยี นแผนธรุ กิจ. กรงุ เทพมหานคร : ไอดซี ี อนิ โฟ ดิสทริบิวเตอร์ เซ็นเตอร์ จากดั จาเนียร ช่วงโชติ และคณะ. (2516). จติ วิทยาการรบั รแู้ ละเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง นวลศริ ิ เปาโรหิตย.์ (2532). พฒั นาการทางอาชีพ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลยั รามคาแหง. คณะ ศึกษาศาสตร์, ภาควิชาจติ วิทยา. พร้ิมเพรา ดษิ ยวณิช. (2544). การจงู ใจ. เชียงใหม่: บรษิ ัทกลางเวียงการพิมพ์ จากัด
54 11. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 11.1 ข้อสรุปหลังการจัดการเรียนรู้ 11.2 ปญั หาอุปสรรคที่พบ 11.3 แนวทางแก้ปัญหาและหรือพัฒนา
55 รายการตรวจสอบและอนญุ าตให้ใช้ เหน็ ควรอนญุ าตใหใ้ ช้การสอนได้ เหน็ ควรปรับปรุงเกี่ยวกบั ควรอนุญาตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงช่ือ (นายชมุ พล บณุ ยรงั ค์) ควรปรับปรงุ เกี่ยวกับ. หัวหน้าหมวด / แผนกวชิ า อน่ื ๆ // อนุญาตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงชอ่ื (............................................) อื่น ๆ รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ // ลงชื่อ (............................................) ผู้อานวยการ // 56
กรอบการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเปน็ เรอ่ื ง/ช้นิ งาน/โครงการ และบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง สมรรถนะด้านความมเี หตผุ ล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ้มุ กนั สามารถระบุกลยทุ ธท์ างการตลาด อธิบายความรู้เกี่ยวกับคู่ อธิบายผลกระทบที่เกิดข้ึนกบั คู่ แขง่ ขันทางการตลาดไดอ้ ยา่ ง ใหเ้ หมาะสมกบั คู่แขง่ ขนั แต่ละ แขง่ ขนั ในแต่ละยคุ สมยั ถกู ตอ้ ง ยคุ สมยั เง่ือนไขด้านคณุ ธรรมจริยธรรม ค่านยิ มคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ เงื่อนไขด้านความรู้และทกั ษะ ความรู้ มีความรู้และทกั ษะดา้ นการ เก่ยี วกับคู่ ตระหนกั ถึงผลกระทบที่มตี ่อคู่ ขายและแนวความคิดทางการ แขง่ ขนั แขง่ ขนั ตลาด ผลกระทบเพ่ือความสมดลุ พรอ้ มรับการเปลี่ยนแปลง ดา้ นสังคม ดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นวฒั นธรรม ดา้ นส่ิงแวดล้อม คแู่ ข่งขนั มผี ลตอ่ ระบบ บทบาทของคแู่ ขง่ ขันท่ีมีต่อ วฒั นธรรมมผี ลกระทบตอ่ การมี การขายให้ความสาคญั กบั เศรษฐกิจและสงั คม ส่งิ แวดล้อม โดยใชห้ ลัก ระบบเศรษฐกิจแตล่ ะยคุ ที่ คู่แข่งขันท่แี ตกตา่ งกัน การตลาดสเี ขียว Green แตกตา่ งกัน Marketing
57 หน่วยที่ แผนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมง สปั ดาหท์ ี่ 12 ช่ือวิชา ช่ือหน่วย 8 จานวน 3 ชื่อเร่ือง การขายเบอื้ งตน้ ความรู้เก่ียวกบั คูแ่ ข่งขัน ความรูเ้ กยี่ วกบั คู่แข่งชนั 1. สาระสาคญั การมีคู่แขง่ ขนั ทางธรุ กิจ เปรียบเสมอื นมียาชูกาลังทจี่ ะทาใหก้ จิ การและพนักงานขายต่างๆ มีความ เขม้ แข็งและอดทนทจ่ี ะดาเนินการต่อไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ มคี วามกระตือรือร้น สร้างสรรค์ และพฒั นา ตนเองให้มคี ณุ ภาพอยเู่ สมอ ทั้งยงั ชว่ ยใหป้ ระชาชนท่วั ไปมีสินค้าและบริการท่หี ลากหลาย คุณภาพดี และราคา ท่ียตุ ธิ รรม ใช้ในชวี ิตประจาวันด้วย 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. แสดงความรู้เกยี่ วกบั ความรู้เกี่ยวกับคู่แข่งขัน 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 แสดงความรูเ้ กี่ยวกับความรู้เกี่ยวกบั คูแ่ ข่งขัน 3.1.1. บอกความหมายและความสาคัญของคู่แข่งขนั ได้อย่างถกู ต้อง 3.1.2. บอกความจาเปน็ ที่ต้องมีความรู้เกย่ี วกับคู่แข่งขนั ได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.3. บอกสง่ิ ทคี่ วรรู้พร้อมแหล่งข้อมูลเก่ียวกับคแู่ ขง่ ขนั ได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.4. สรปุ วิธีการทพ่ี นักงานขายจะชนะคู่แข่งขนั ได้อย่างถกู ต้อง 3.1.5. บอกประโยชน์ของการมคี วามรูเ้ กย่ี วกบั ค่แู ข่งขันได้อย่างถูกต้อง 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ความร้เู กี่ยวกับกิจการที่พนักงานขายต้องศึกษา 2. แหลง่ ความรู้เกยี่ วกบั กจิ การ 3. ประโยชน์ของการมีความรู้เก่ียวกบั กิจการ 5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ .ี่ ......13.....) ขั้นสนใจปัญหา (Motivation) 1. ครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั ยกตัวอย่างกิจการท่ีประสบความสาเร็จในประเทศไทย และร่วมกันอภิปรายวา่ เพราะ เหตุใดกจิ การเหล่านจ้ี ึงประสบผลสาเรจ็ และครองใจผบู้ รโิ ภคมาไดจ้ นทุกวันน้ี ขน้ั ให้เนอื้ หา (Information) 1. ครอู ธบิ าย เร่ืองความรู้เกี่ยวกับกจิ การท่ีพนกั งานขายตอ้ งศึกษา แหลง่ ความรเู้ กี่ยวกบั กิจการ และประโยชน์ ของการมีความรเู้ กย่ี วกับกิจการ 2. เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั และบนั ทกึ สรปุ ลงในสมุด 3. นักเรียนแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสมทากจิ กรรมการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้(ใช้เวลา 30 นาที) 58 4. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ใหม่ตามความเหมาะสม 4 กลุ่ม โดยจัดผ้ทู เี่ รยี นเกง่ ปานกลาง ออ่ น คละกนั เลอื กประธาน
และเลขานุการกล่มุ แตล่ ะกลุม่ เข้าประจาตามสถานที ี่ครตู ั้งขนึ้ 4 สถานี ครนู าบอรด์ เป็นกระดาษหลากสี เขียนช่อื สถานี 4 ช่อื และในบอรด์ มคี าถามเขียนไว้ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เขยี นคาตอบจากคาถามท่กี าหนด โดยหมนุ เวยี นกนั เขียนคาตอบตาม สถานีต่างๆ 5. นักเรียนแต่ละกลมุ่ เมอ่ื เขยี นคาตอบเสร็จทกุ สถานแี ลว้ เขา้ นงั่ ประจาที่ตามกลุ่ม 6. ตวั แทนกลมุ่ สรปุ คาตอบท่ีสมาชกิ ในกลุ่มตอบหน้าชัน้ เรียน 7. ครูและนักเรียนร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ จากคาตอบทุกขอ้ ทต่ี อบถกู ขั้นพยายาม (Application) 1. ทาแบบฝึกหดั และใบงาน ขั้นสาเร็จผล (Progress) 1. ครสู งั เกตพฤตกิ รรมการทากิจกรรมกลมุ่ เพ่อื ประเมินผล 6. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ 6.1 สอ่ื 1. หนังสือ/ตาราเรยี น 2. ใบงาน 3. รูปภาพ 4. ใบงาน 6.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื ตาราเรียน (หอ้ งสมดุ ) 2. ข้อมูลทางอินเทอร์เนต็ 7. หลักฐานการเรยี นรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝกึ หัด และแบบทดสอบเกบ็ คะแนน 7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั ิงาน 1. แบบฝึกหัด 2. แบบทดสอบเก็บคะแนน 3. ใบงาน 8. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8.1 เครอ่ื งมือประเมนิ 1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8.3 เกณฑ์การประเมิน 1. เกณฑผ์ ่านการประเมินแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ คอื (50 % ข้นึ ไป) - คะแนน 9-10 คือ ดมี าก - คะแนน 7-8 คอื ดี - คะแนน 5-6 คอื พอใช้ - คะแนน ต่ากวา่ 5 คอื ปรบั ปรุง 2. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ะรรม คา่ นิยม และลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั ตาม สภาพความเป็นจร 59
9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทีม่ อบหมาย (ถา้ ม)ี ให้ผเู้ รียนหาความรู้เพ่ิมเติมจากแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ 10. เอกสารอา้ งอิง จริญญา จนั ทร์ปาน. มปพ. การเขยี นแผนธรุ กิจ. กรงุ เทพมหานคร : ไอดซี ี อนิ โฟ ดิสทริบิวเตอร์ เซ็นเตอร์ จากดั จาเนียร ช่วงโชติ และคณะ. (2516). จติ วิทยาการรบั รแู้ ละเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง นวลศริ ิ เปาโรหิตย.์ (2532). พฒั นาการทางอาชีพ. กรงุ เทพมหานคร: มหาวิทยาลยั รามคาแหง. คณะ ศึกษาศาสตร์, ภาควิชาจติ วิทยา. พร้ิมเพรา ดษิ ยวณิช. (2544). การจงู ใจ. เชียงใหม่: บรษิ ัทกลางเวียงการพิมพ์ จากัด
60 รายการตรวจสอบและอนญุ าตใหใ้ ช้ เหน็ ควรอนญุ าตใหใ้ ช้การสอนได้ เหน็ ควรปรบั ปรงุ เกีย่ วกับ ควรอนุญาตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงช่อื (นายชมุ พล บณุ ยรงั ค์) ควรปรบั ปรงุ เก่ยี วกับ. หัวหน้าหมวด / แผนกวชิ า อ่นื ๆ // อนญุ าตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงช่อื (............................................) อนื่ ๆ รองผอู้ านวยการฝ่ายวิชาการ // ลงชื่อ (............................................) ผู้อานวยการ //
61 กรอบการจัดการเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการเปน็ เร่ือง/ชนิ้ งาน/โครงการ และบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สมรรถนะด้านความมเี หตุผล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ุ้มกนั สามารถระบุกลยทุ ธท์ างการตลาด อธิบายผลกระทบที่เกิดข้ึนกบั อธิบายความสาคญั ของเทคนิค การขายไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ใหเ้ หมาะสมกบั เทคนคิ การขาย เทคนคิ การขายในแตล่ ะยคุ สมยั แตล่ ะยคุ สมยั เง่ือนไขด้านความรู้และทกั ษะ ความสาคัญของ เงื่อนไขด้านคุณธรรมจริยธรรม มีความรู้และทกั ษะดา้ น การขายและ ค่านยิ มคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ แนวความคิด ตระหนกั ถึงผลกระทบท่ีมีต่อ เทคนิคการขาย ทางการตลาด เทคนิคการขาย ผลกระทบเพ่ือความสมดุล พร้อมรับการเปลย่ี นแปลง ดา้ นสงั คม ด้านเศรษฐกิจ ด้านวฒั นธรรม ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม เทคนิคการขายมีผลต่อ บทบาทของเทคนิคการขายท่ี วัฒนธรรมมผี ลกระทบต่อ การขายใหค้ วามสาคญั กบั ระบบเศรษฐกิจและสังคม สงิ่ แวดลอ้ ม โดยใช้หลกั มีต่อระบบเศรษฐกจิ แตล่ ะยุคที่ เทคนิคการขายท่แี ตกต่างกนั การตลาดสเี ขียว Green แตกตา่ งกนั Marketing
62 หน่วยท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ ชั่วโมง สปั ดาห์ที่ 13-15 ช่ือวิชา ชอ่ื หน่วย 9 จานวน 9 ช่อื เรอื่ ง การขายเบ้อื งต้น เทคนิคการขาย เทคนิคการขาย 1. สาระสาคญั การขายสนิ คา้ ไมใ่ ช่แต่เพียงว่าหยบิ สินค้าขนึ้ มาแล้วร้องเรยี กให้ผพู้ บเหน็ ซ้ือสินค้าเทา่ นั้น งานขาย เป็นงานที่ละเอียดอ่อน ต้องมีการวางแผน เตรียมตวั ให้พร้อมก่อนจะออกไปสู่สนามได้ งานขายต้องปฏิบัติ ตามกระบวนการซึ่งจะกระทาเป็นข้ันตอน แต่ละข้ึนตอนมีความสาคัญไมแ่ พ้กนั หากตอ้ งการให้การเสนอขาย ประสบผลสาเร็จตวั แทนขายจะต้องใช้เทคนคิ การขาย ในกระบวนการแต่ละขนั้ ตอนดว้ ย 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความร้เู ก่ียวกับความรู้เกยี่ วกบั เทคนคิ การขาย 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 แสดงความรเู้ กยี่ วกบั ความรู้เกีย่ วเทคนิคการขาย 3.1.1. อธบิ ายความหมายของเทคนคิ การขายได้ 3.2.2. ลาดับขัน้ ตอนของเทคนคิ วิธีการขายได้ 3.2.3. อธิบายรายละเอยี ดและวิธกี ารในแตล่ ะข้ันตอนได้ 3.2.4. อธิบายประโยชน์แตล่ ะขนั้ ตอนได้ 3.2.5. สรุปสาระสาคญั แตล่ ะขั้นตอนได้ 3.2. ปฎิบตั ิการขายตามขน้ั ตอนกระบวนการขาย 3.2.1. ปฏบิ ตั กิ ารขายตามขั้นตอนกระบวนการขายได้อยา่ งถูกต้อง 4. สาระการเรียนรู้ กระบวนการในการขาย (Selling Process) มีขนั้ ตอนในการทางานดังนี้ 1. การแสวงหาผ้มู ุง่ หวงั เป็นขั้นตอนแรกของการขาย โดยแหล่งทจ่ี ะได้รายช่อื ผ้มู ุ่งหวงั เชน่ คนใน ครอบครวั กลุ่มเพื่อน หรือบคุ คลท่เี คยร้จู ัก เปน็ ต้น 2. การเตรียมตัวก่อนการเขา้ พบ เปน็ การเตรยี มพร้อมทง้ั สภาพรา่ งกายและจติ ใจเพอื่ ใหป้ ระสบ ผลสาเรจ็ ในการเสนอขาย 3. การเข้าพบ มีความสาคญั มากเพราะความประทบั ใจครงั้ แรกช่วยใหเ้ กดิ ความประทับใจที่ถาวร 4. การเสนอขาย วตั ถปุ ระสงค์ของการเสนอขาย คือ เพ่อื เรา้ ความสนใจของผู้มงุ่ หวงั ให้เขาตระหนักวา่ สินค้าสามารถแกป้ ัญหาของเขาได้ 5. การตอบข้อโต้แย้ง ข้อโตแ้ ย้งของผมู้ ุ่งหวังมีท้ังข้องโตแ้ ย้งที่เป็นจริงและข้อโตแ้ ย้งทหี่ ลีกเลี่ยงการซอื้ สนิ คา้ หน้าทขี่ องพนักงานขาย คอื จะต้องขจัดข้อโต้แยง้ ให้หมดไป 63
6. การปดิ การขาย การปิดการขายเปน็ ขัน้ ตอนทีส่ าคญั ท่ีสดุ นักขายจะต้องเปล่ยี นคาว่า “ฉนั จะซ้อื ” เป็น “ฉันซื้อเด๋ียวนี้” ใหไ้ ด้ 7. กิจกรรมหลงั การขายจะเกิดข้ึนก็ต่อเมือ่ ผมู้ ุ่งหวังได้กลายเป็ฯลกู คา้ เรียบร้อยแล้ว เมอื่ ขายสินคา้ ได้ แลว้ กระบวนการในการขายยงั ไมจ่ บแคน่ ้นั หากแตย่ ังตอ้ งมีกิจกรรมหลงั การขาย อีกเพ่ือจะไดเ้ กดิ การซื้อคร้ังต่อไป กจิ กรรมหลังการขายอีก ไดแ้ ก่ การบรกิ ารหลังการขายและการตดิ ตามผลการขาย 5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท.ี่ ......14.....) ขนั้ สนใจปัญหา (Motivation) ครูใหน้ ักศึกษาร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั พนักงานขายท่พี บเหน็ ตอนนักศึกษาไปซื้อ สนิ คา้ ว่าแต่ละคนมีเทคนิคการขาย อาทเิ ชน่ มีเทคนคิ การขาย มีความซื่อสตั ยส์ จุ ริต มีความสภุ าพหรือมี บคุ ลิกภาพ แตกต่างกนั อยา่ งไร และผู้เรียนเองชองพนกั งานลกั ษณะใด ขน้ั ให้เนื้อหา (Information) 1. ครูอธบิ าย เร่อื งความรเู้ กย่ี วกบั กิจการทพ่ี นกั งานขายต้องศกึ ษา แหล่งความรเู้ กี่ยวกบั กิจการ และประโยชน์ ของการมคี วามรเู้ กี่ยวกบั กิจการ 2. เปิดโอกาสให้นกั เรยี นซกั ถามข้อสงสยั และบันทึกสรุปลงในสมุด 3. นักเรียนแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสมทากิจกรรมการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้(ใชเ้ วลา 30 นาท)ี 4. นักเรียนแบง่ กลมุ่ ใหมต่ ามความเหมาะสม 4 กลุม่ โดยจดั ผทู้ ่ีเรยี นเกง่ ปานกลาง อ่อน คละกัน เลือกประธาน และเลขานุการกลุม่ แตล่ ะกลมุ่ เข้าประจาตามสถานีทคี่ รตู งั้ ข้นึ 4 สถานี ครูนาบอร์ดเป็นกระดาษหลากสี เขียนชือ่ สถานี 4 ชื่อ และในบอรด์ มคี าถามเขียนไว้ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มเขยี นคาตอบจากคาถามท่ีกาหนด โดยหมนุ เวียนกนั เขียนคาตอบตาม สถานตี า่ งๆ 5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มเมือ่ เขียนคาตอบเสร็จทกุ สถานแี ล้วเข้าน่งั ประจาทีต่ ามกลุ่ม 6. ตัวแทนกลุ่มสรุปคาตอบท่สี มาชิกในกลมุ่ ตอบหน้าชนั้ เรียน 7. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายแสดงความคิดเห็นจากคาตอบทุกขอ้ ทีต่ อบถูก ขนั้ พยายาม (Application) ครูใหใ้ บมอบหมายงานที่ 1 ใหผ้ ู้เรียนทางานรายบุคคล โดยการให้สมมตุ ิตวั เองเป็นตวั แทนขายของ บริษัทใดบริษัทหน่ึง แลว้ นาเสนอขายหน้าชั้นเรียนในรปู แบบพธิ กี าร โดยการใช้กระบวนการขาย โดยการ นาเสนอโดยเรียงตามเลขที่ ครูและผเู้ รยี นรว่ มรบั ฟัง ซักถามพร้อมเสนอแนะ ขน้ั สาเร็จผล (Progress) 1. ครสู งั เกตพฤติกรรมการทากิจกรรมกล่มุ เพือ่ ประเมนิ ผล กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ่ี.......15-16.....) ขน้ั สนใจปัญหา (Motivation) 1. ครูใหน้ ักศึกษาทบทวนความรู้เกีย่ วกบั กระบวนการขายสนิ ค้า แต่ละข้ันตอนพร้อมแลกเปล่ยี น ซักถามกบั ผู้เรียน ข้นั ให้เนอ้ื หา (Information) 1. ครอู ธบิ าย วิธีการเสนอขายสินค้าหน้าชนั้ เรียนเป็นรายบุคคล 64
ขน้ั พยายาม (Application) 1. ใหผ้ เู้ รียนทางานรายบุคคล โดยการใหส้ มมตุ ิตวั เองเป็นตัวแทนขายของบริษัทใดบริษัทหนงึ่ แล้วนาเสนอขายหน้าชน้ั เรยี นในรปู แบบพิธกี าร โดยการใชก้ ระบวนการขาย โดยการนาเสนอโดยเรียงตาม เลขท่ี ครูและผูเ้ รยี นรว่ มรบั ฟงั ซักถามพรอ้ มเสนอแนะ 2. ทาแบบทดสอบเก็บคะแนนหน่วยท่ี 9 ขน้ั สาเร็จผล (Progress) 1. ครูสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล เพือ่ ประเมินผล 2. ครตู รวจแบบทดสอบเก็บคะแนน 6. สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สื่อ 1. หนังสอื /ตาราเรยี น 2. ใบงาน 3. รูปภาพ 4. ใบงาน 6.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื ตาราเรียน (หอ้ งสมดุ ) 2. ขอ้ มลู ทางอนิ เทอรเ์ น็ต 7. หลักฐานการเรียนรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝกึ หัด และแบบทดสอบเกบ็ คะแนน 7.2 หลกั ฐานการปฏิบัติงาน 1. แบบฝึกหดั 2. แบบทดสอบเก็บคะแนน 3. ใบงาน 8. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 8.1 เครอ่ื งมือประเมิน 1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8.2 เกณฑก์ ารประเมิน 1. เกณฑ์ผ่านการประเมินแบบประเมินผลการเรียนรู้ คอื (50 % ข้นึ ไป) - คะแนน 9-10 คอื ดีมาก - คะแนน 7-8 คอื ดี - คะแนน 5-6 คือ พอใช้ - คะแนน ตา่ กว่า 5 คอื ปรับปรุง 2. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ะรรม คา่ นิยม และลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยูก่ บั ตาม สภาพความเปน็ จร 9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถ้าม)ี ใหผ้ ู้เรียนหาความรเู้ พ่ิมเติมจากแหล่งเรียนรูต้ ่างๆ 10. เอกสารอ้างองิ จริญญา จันทรป์ าน. มปพ. การเขียนแผนธรุ กิจ. กรงุ เทพมหานคร : ไอดีซี อินโฟ ดิสทริบวิ เตอร์
เซ็นเตอร์ จากดั จาเนยี ร ชว่ งโชติ และคณะ. (2516). จิตวิทยาการรบั ร้แู ละเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลัย รามคาแหง นวลศริ ิ เปาโรหิตย์. (2532). พัฒนาการทางอาชพี . กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. คณะ ศึกษาศาสตร์, ภาควชิ าจิตวทิ ยา. พริ้มเพรา ดษิ ยวณิช. (2544). การจงู ใจ. เชียงใหม่: บริษทั กลางเวียงการพมิ พ์ จากดั 73 74 หน่วยที่ แผนการจัดการเรยี นรู้ ช่ัวโมง สปั ดาหท์ ี่ 16 ชอื่ วิชา ชือ่ หน่วย 10 จานวน 3 ชื่อเรื่อง การขายเบื้องต้น คณุ สมบัติของพนักงานขาย คณุ สมบัตขิ องพนักงานขาย 1. สาระสาคัญ พนักงานขายเปน็ ผปู้ ระกอบอาชีพทางธรุ กิจ จาเปน็ ตอ้ งศึกษาและหาแนวทางในการปฏิบตั งิ านให้มี ความเหมาะสมกับลักษณะในอาชีพของตน มีความสอดคล้องกับศีลธรรม วฒั นธรรมและประเพณีของสังคมท่ี จะสง่ ผลใหส้ ังคมมรี ะเบยี บวินัย ความเจรญิ ก้าวหน้า และความสาเร็จของงานอาชีพการขาย 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. แสดงความรู้เก่ยี วกบั คณุ สมบตั ขิ องพนักงานขาย 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 แสดงความรู้เกี่ยวกับคณุ สมบตั ิของพนักงานขาย 3.1.1. อธบิ ายคุณสมบัติทั่วไปของพนักงานขายได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.2. อธบิ ายคุณสมบตั ิทดี่ ีของพนักงานขายทีน่ ายจา้ งพงึ ปรารถนาได้อยา่ งถกู ต้อง 3.1.3. อธิบายคุณสมบัติที่ดีของพนักงานขายท่ีลูกคา้ พึงปรารถนาได้อย่างถูกต้อง 3.1.4. บอกลกั ษณะของพนกั งานขายท่จี ะชนะใจลูกค้าไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 3.1.5. อธิบายความรพู้ ้ืนฐานของพนักงานขายได้อย่างถูกต้อง 3.1.6. บอกเทคนิคของการชนะใจลูกค้าได้อยา่ งถกู ต้อง 4. สาระการเรยี นรู้
1. คณุ สมบตั ทิ วั่ ไปของพนกั งานขาย 2. คณุ สมบัติท่ีดขี องพนักงานขายท่ีนายจ้างพึงปรารถนา 3. คณุ สมบตั ทิ ่ีดขี องพนักงานขายท่ีลกู คา้ พงึ ปรารถนา กรอบการจดั การเรยี นรู้แบบบรู ณาการเปน็ เรอ่ื ง/ชนิ้ งาน/โครงการ และบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สมรรถนะด้านความมเี หตผุ ล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ้มุ กนั อธิบายความสาคญั ของ สามารถระบุกลยทุ ธท์ างการตลาด อธิบายผลกระทบท่ีเกิดข้ึนกบั คณุ สมบตั ิของพนกั งานขาย ใหเ้ หมาะสมกบั คณุ สมบัติของ คุณสมบตั ิของพนักงานขาย พนักงานขาย ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง คุณสมบตั ิของ เง่ือนไขด้านความรู้และทกั ษะ พนักงานขาย มีความรู้และทกั ษะดา้ น เงื่อนไขด้านคณุ ธรรมจริยธรรม คุณสมบตั ิของพนักงานขาย ค่านิยมคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ตระหนกั ถึงผลกระทบที่มีต่อ คณุ สมบัติของพนักงานขาย ผลกระทบเพื่อความสมดลุ พรอ้ มรบั การเปล่ียนแปลง ด้านสังคม ด้านเศรษฐกจิ ดา้ นวัฒนธรรม ด้านสง่ิ แวดลอ้ ม คณุ สมบัติของพนกั งานขาย บทบาทของคณุ สมบัตขิ อง วฒั นธรรมมผี ลกระทบต่อ การขายใหค้ วามสาคญั กบั มีผลตอ่ ระบบเศรษฐกจิ และ พนักงานขาย ท่ีมีตอ่ ระบบ สงิ่ แวดลอ้ ม โดยใชห้ ลกั สงั คม เศรษฐกจิ แตล่ ะยคุ ที่แตกตา่ ง คุณสมบตั ิของพนกั งานขาย การตลาดสเี ขียว Green Marketing กัน ท่แี ตกต่างกัน 4. ลกั ษณะของพนักงานขายท่ีจะชนะใจลกู ค้า 5. ความรพู้ ้นื ฐานของพนกั งานขาย 6. เทคนคิ ของการชนะใจลูกค้า 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ .่ี ......17.....)
ขน้ั สนใจปญั หา (Motivation) 1. ครูกล่าวถึงพนักงานขายมีประสิทธิภาพและสามารถประสบผลสาเร็จในการขายจะต้องมีการ เตรียมตวั เป็นอยา่ งดเี พ่ือให้มคี วามพร้อมเสมอสาหรับการปฏบิ ัตหิ น้าที่ ส่ิงสาคัญกอ่ นกระทาการ ใดกต็ ามพนกั งานขายจะต้องมีการวางแผนล่วงหนา้ ใหพ้ ร้อมดว้ ย ซ่ึงการวางแผนที่ดีจะก่อให้เกิด ประโยชน์ตอ่ ตวั พนกั งานขายเอง และผูซ้ อื้ 2. นักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั พนักงานขายจะต้องมีการเตรยี มพรอ้ มในหลาย ๆ ดา้ น เพ่อื จะทาให้สามารถตอบข้อสงสัยของผมู้ งุ่ หวงั ไดใ้ นทุกเรื่อง ซ่งึ พนักงานขายไมส่ ามารถที่ 75 จะทราบไดล้ ่วงหน้าเลยว่าผูม้ งุ่ หวงั จะมีคาถามเกี่ยวกับเร่ืองใด การตอบคาถามของผ้มู ุ่งหวงั ได้ใน ทุก ๆ เรื่องโดยไม่ติดขดั จะทาให้พนกั งานขายมีความนา่ เชื่อถือมากขน้ึ ผู้มงุ่ หวังมีความมั่นใจใน ตวั พนักงานขายมากขึ้น จนกระทง่ั ตดั สนิ ใจซอื้ ในทส่ี ดุ ขน้ั ใหเ้ นื้อหา (Information) 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม เลือกประธานและเลขานุการกลุ่ม เพื่อศึกษาเอกสาร ประกอบการเรยี นในหัวข้อต่อไปนี้ 1) คณุ สมบตั ทิ ี่ดขี องพนักงานขายทีน่ ายจ้างพึงปรารถนา 2) คณุ สมบัติท่ีดขี องพนักงานขายทล่ี ูกคา้ พงึ ปรารถนา 3) ลกั ษณะของพนักงานขายทจ่ี ะชนะใจลกู คา้ 4) ความรู้พ้ืนฐานของพนกั งานขาย 5) เทคนคิ ของการชนะใจลูกคา้ คณุ สมบัติทจ่ี าเปน็ ของพนักงานขาย (Qualification of sale man) พนักงานขายหากต้องการความสาเรจ็ ในการประกอบอาชพี ตอ้ งมีคุณสมบัติตา่ ง ๆ ดังน้ี 1. มีความกระตือรือร้น ตลอดเวลาทจ่ี ะหาโอกาสในการเสนอขายสินคา้ ตลอดจนการบริการ ตา่ งๆ ท้ังยังมคี วามคลอ่ งแคล่วว่องไวกระฉับกระเฉงทุกสถานการณ์ 2. มีมนุษยส์ มั พันธท์ ีด่ ี สามารถเข้ากับบุคคลอื่นไดด้ ี โดยใชห้ ลกั จิตวทิ ยาในการเรียนรู้ลูกคา้ จน สามารถกระตนุ้ ให้ลูกค้าเกิดความสนใจและตดั สินใจซ้ือสนิ คา้ 3. มวี าทศิลปท์ ี่ดี สามารถใช้ปากเปน็ เครื่องมอื สาคญั อีกทงั้ รจู้ ักกาลเทศะในการพูด โดยพูดสนั้ ๆ แตไ่ ด้ใจความสามารถโนม้ น้าวใจใหล้ กู ค้าเกดิ การตัดสินใจในการซ้ือสนิ ค้า ขณะเดียวกนั ควรเป็นนักพูดที่ดี นักฟังที่ดี และนักแสดงทด่ี ี 4. มคี วามจรงิ ใจ ซื่อสตั ย์ ตอ่ ลูกค้า ดว้ ยความาต้องการเพยี งใหล้ กู คา้ ได้รับสินคา้ และการ บริการทด่ี ี คมุ้ ค่ากับเงินทลี่ ูกค้าเสียไป 5. มีสุขภาพรา่ งกายทีด่ ี เป็นมติ รกับทกุ คน อารมณ์ดี มีการเสนอขายสนิ คา้ ที่ไมด่ เู คร่งเครยี ด 6. มบี ุคลกิ ภาพท่ดี ี คือ มกี ริ ิยาท่าทาง การแต่งกายเรียบร้อย น้าเสียงนา่ ฟงั 7. เปน็ บคุ คลทใ่ี ฝห่ าความรู้ คือ พรอ้ มที่จะแสวงหาความรเู้ พม่ิ เตมิ อยตู่ ลอดเวลา เพื่อประโยชน์ ต่อการปฏิบตั งิ านขายโดยเฉพาะความรูเ้ กี่ยวกบั สนิ ค้าตนเอง ตลอดจนสนิ ค้าของค่แู ขง่ ขัน ทาใหเ้ กดิ การไดเปรียบในการขายสนิ ค้าชนิดนั้น ๆ 8. มีความศรัทธาในอาชีพการขาย วา่ สามารถจะนาพาชวี ิตของพนักงานขายไปสคู่ วาม เจริญก้าวหนา้ ในการดาเนินชวี ิต ตลอดจนความม่ันคงในการประกอบอาชีพ เพื่อนาพาชีวิต ไปสคู่ วามสาเรจ็ 9. มีความอดทน อุตสาหะ ขยนั ขนั แข็งในการขาย สร้างความพงึ พอใจให้เกิดกบั ลกู ค้า ความ อดทน มสี ว่ นช่วยสามารถขายสนิ คา้ ไดง้ า่ ยขนึ้ ปริมาณการขายสูงข้นึ ตามไปด้วย ข้นั พยายาม (Application)
1. ครูและนักศึกษารว่ มกนั สรปุ บทเรยี นอกี คร้ัง โดยวธิ ีถาม – ตอบ 2. นักเรียนทากิจกรรมโดยสรุปคุณสมบัติทั่วไปของพนักงานขายที่ดี และตัดประกาศรับสมัคร พนักงานขายของบริษทั ทวั่ ไปจากหนงั สือพิมพ์ 3. นักเรียนทากิจกรรม เพื่อนาความรู้เก่ียวกับงานขายไปประยุกต์ในการประกอบอาชีพการ ขายได้ โดยอา่ นจากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ (ครผู ้สู อนพิจารณาตามความเหมาะสม) 4. นักเรยี นทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ 76 ขัน้ สาเร็จผล (Progress) 1. ครสู ังเกตพฤตกิ รรมการทากิจกรรมกลมุ่ เพื่อประเมนิ ผล ตรวจใบงาน และแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 6. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 6.1 สื่อ 1. หนงั สอื /ตาราเรียน 2. ใบงาน 3. รูปภาพ 4. ใบงาน 6.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื ตาราเรยี น (หอ้ งสมุด) 2. ข้อมูลทางอนิ เทอรเ์ นต็ 7. หลกั ฐานการเรยี นรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝกึ หัด และแบบทดสอบเก็บคะแนน 7.2 หลกั ฐานการปฏิบัติงาน 1. แบบฝึกหัด 2. แบบทดสอบเก็บคะแนน 3. ใบงาน 8. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 8.1 เครอื่ งมือประเมิน 1. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ 2. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8.4 เกณฑก์ ารประเมิน 1. เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ คอื (50 % ข้นึ ไป) - คะแนน 9-10 คอื ดมี าก - คะแนน 7-8 คือ ดี - คะแนน 5-6 คอื พอใช้ - คะแนน ตา่ กวา่ 5 คือ ปรับปรงุ 2. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ะรรม คา่ นิยม และลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยกู่ บั ตาม สภาพความเป็นจร 9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย (ถา้ มี) ใหผ้ เู้ รยี นหาความรู้เพิ่มเตมิ จากแหล่งเรยี นรูต้ า่ งๆ
10. เอกสารอา้ งอิง จรญิ ญา จันทร์ปาน. มปพ. การเขยี นแผนธุรกจิ . กรงุ เทพมหานคร : ไอดซี ี อินโฟ ดสิ ทรบิ วิ เตอร์ เซน็ เตอร์ จากดั จาเนียร ชว่ งโชติ และคณะ. (2516). จติ วิทยาการรบั รแู้ ละเรียนรู้. กรงุ เทพมหานคร : มหาวิทยาลัย รามคาแหง นวลศิริ เปาโรหติ ย.์ (2532). พฒั นาการทางอาชีพ. กรงุ เทพมหานคร: มหาวิทยาลยั รามคาแหง. คณะ ศกึ ษาศาสตร์, ภาควิชาจติ วิทยา. พรม้ิ เพรา ดษิ ยวณชิ . (2544). การจูงใจ. เชียงใหม:่ บรษิ ทั กลางเวยี งการพมิ พ์ จากดั 77 รายการตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ช้ เห็นควรอนุญาตให้ใช้การสอนได้ เห็นควรปรับปรงุ เกย่ี วกบั ควรอนุญาตให้นาไปใช้สอนได้ ลงช่ือ (นายชมุ พล บณุ ยรังค์) ควรปรบั ปรุงเก่ยี วกบั . หวั หนา้ หมวด / แผนกวชิ า อ่นื ๆ // อนญุ าตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงช่อื (............................................) อน่ื ๆ รองผูอ้ านวยการฝ่ายวิชาการ // ลงช่อื (............................................) ผอู้ านวยการ //
กรอบการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการเปน็ เรอ่ื ง/ช้นิ งาน/โครงการ และบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สมรรถนะด้านความมเี หตผุ ล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ้มุ กนั อธิบายจรรยาบรรณแลโอกาส สามารถระบุกลยทุ ธ์ทางการตลาด อธิบายผลกระทบท่ีเกิดข้ึนกบั ความก้าวหนา้ ของพนักงาน ใหเ้ หมาะสมกบั จรรยาบรรณแล จรรยาบรรณแลโอกาส ขาย ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง โอกาสความกา้ วหน้าของ ความก้าวหน้าของพนกั งานขาย พนกั งานขาย เงื่อนไขด้านความรู้และทกั ษะ มีความรู้และทกั ษะดา้ น จรรยาบรรณแล เง่ือนไขด้านคุณธรรมจริยธรรม โอกาส จรรยาบรรณแลโอกาส ค่านิยมคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ความก้าวหน้าของพนกั งานขาย ความก้าวหนา้ ของ ตระหนกั ถึงผลกระทบท่ีมีต่อ พนักงานขาย จรรยาบรรณแลโอกาส ความก้าวหนา้ ของพนักงานขาย ผลกระทบเพื่อความสมดลุ พร้อมรบั การเปล่ียนแปลง ด้านสังคม ด้านเศรษฐกจิ ด้านวฒั นธรรม ด้านสง่ิ แวดลอ้ ม จรรยาบรรณแลโอกาส บทบาทของจรรยาบรรณแล วัฒนธรรมมผี ลกระทบตอ่ การขายให้ความสาคญั กบั ความก้าวหนา้ ของพนกั งาน โอกาสความก้าวหนา้ ของ สิง่ แวดลอ้ ม โดยใชห้ ลัก ขายมีผลตอ่ ระบบเศรษฐกจิ พนกั งานขาย พนักงานขาย จรรยาบรรณแลโอกาส การตลาดสีเขียว Green และสงั คม ความก้าวหน้าของพนักงาน Marketing ท่ีมีต่อระบบเศรษฐกิจแตล่ ะยุค ขาย ที่แตกตา่ งกนั ทีแ่ ตกตา่ งกนั 78
79 หน่วยท่ี แผนการจัดการเรยี นรู้ ชั่วโมง สปั ดาห์ท่ี 16 ชอื่ วิชา ชอ่ื หน่วย 11 จานวน 3 ชอื่ เร่ือง การขายเบ้ืองต้น จรรยาบรรณแลโอกาสความก้าวหนา้ ของพนกั งานขาย จรรยาบรรณแลโอกาสความกา้ วหนา้ ของพนกั งานขาย 1. สาระสาคญั ไมว่ า่ จะประกอบอาชีพใดกต็ าม ทกุ คนจะตอ้ งเคารพและศรัทธาในอาชพี ของตนเอง มีความซื่อสัตย์ และรับผดิ ชอบท่จี ะทาใหส้ ังคมยอมรับและศรัทธา อันเป็นการสรา้ งเกยี รตยิ ศและศักด์ศิ รีของตนเองและอาชีพ น้ันๆ ด้วยการกระทาให้ได้มาในส่งิ ดงั กล่าวน้ี เรยี กว่า “จรรยาบรรณ” อาชพี ขายก็เชน่ กนั จะต้องมี จรรยาบรรณคือ เป็นนักขายที่มีความซ่ือสตั ยต์ ่อลูกค้า ศรทั ธาต่อกจิ การ ปฏิบัตหิ นา้ ทด่ี ้วยความรับผดิ ชอบ เปน็ ต้น 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. แสดงความรู้เก่ียวกบั คณุ สมบัตขิ องพนักงานขาย 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 แสดงความรเู้ กี่ยวกับคุณสมบัติของพนักงานขาย 3.1.1. อธบิ ายคุณสมบตั ิท่วั ไปของพนักงานขายได้อยา่ งถูกตอ้ ง 3.1.2. อธบิ ายคณุ สมบัตทิ ี่ดีของพนักงานขายทน่ี ายจา้ งพึงปรารถนาได้อย่างถกู ต้อง 3.1.3. อธิบายคณุ สมบัติท่ดี ีของพนักงานขายที่ลกู ค้าพึงปรารถนาได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.4. บอกลกั ษณะของพนกั งานขายที่จะชนะใจลูกค้าได้อย่างถกู ต้อง 3.1.5. อธบิ ายความรู้พน้ื ฐานของพนักงานขายไดอ้ ย่างถูกต้อง 3.1.6. บอกเทคนิคของการชนะใจลกู ค้าได้อยา่ งถกู ต้อง 4. สาระการเรยี นรู้ 1. คณุ สมบัติทัว่ ไปของพนักงานขาย 2. คณุ สมบัตทิ ่ีดขี องพนักงานขายทนี่ ายจา้ งพึงปรารถนา 3. คุณสมบัตทิ ี่ดีของพนักงานขายทีล่ กู ค้าพึงปรารถนา
4. ลกั ษณะของพนักงานขายที่จะชนะใจลูกคา้ 5. ความรู้พน้ื ฐานของพนักงานขาย 6. เทคนิคของการชนะใจลกู ค้า 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท.่ี ......18.....) ขน้ั สนใจปัญหา (Motivation) 1. ครูกล่าวถึงพนักงานขายมีประสิทธิภาพและสามารถประสบผลสาเร็จในการขายจะต้องมีการ เตรียมตัวเป็นอยา่ งดีเพื่อให้มีความพร้อมเสมอสาหรบั การปฏิบัตหิ น้าท่ี ส่ิงสาคัญก่อนกระทาการ ใดกต็ ามพนกั งานขายจะตอ้ งมีการวางแผนล่วงหนา้ ใหพ้ รอ้ มด้วย ซึ่งการวางแผนท่ดี ีจะก่อใหเ้ กิด ประโยชนต์ ่อตัวพนกั งานขายเอง และผู้ซื้อ 80 2. นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับพนักงานขายจะต้องมีการเตรยี มพร้อมในหลาย ๆ ดา้ น เพือ่ จะทาใหส้ ามารถตอบขอ้ สงสัยของผู้มงุ่ หวงั ไดใ้ นทุกเรือ่ ง ซงึ่ พนักงานขายไม่สามารถที่ จะทราบไดล้ ่วงหน้าเลยวา่ ผู้มุ่งหวงั จะมีคาถามเกยี่ วกบั เรื่องใด การตอบคาถามของผมู้ ุ่งหวังไดใ้ น ทุก ๆ เร่อื งโดยไม่ตดิ ขัด จะทาให้พนกั งานขายมีความน่าเช่ือถือมากข้ึน ผมู้ ่งุ หวงั มีความมั่นใจใน ตัวพนกั งานขายมากขนึ้ จนกระท่ังตดั สนิ ใจซ้อื ในทส่ี ดุ ขน้ั ให้เน้ือหา (Information) 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม เลือกประธานและเลขานุการกลุ่ม เพื่อศึกษาเอกสาร ประกอบการเรียนในหวั ข้อตอ่ ไปนี้ 1) คุณสมบัตทิ ี่ดขี องพนักงานขายที่นายจ้างพึงปรารถนา 2) คณุ สมบตั ทิ ่ีดีของพนักงานขายทลี่ กู ค้าพึงปรารถนา 3) ลกั ษณะของพนักงานขายทจ่ี ะชนะใจลกู คา้ 4) ความรพู้ ื้นฐานของพนกั งานขาย 5) เทคนิคของการชนะใจลูกคา้ คณุ สมบตั ทิ ี่จาเปน็ ของพนกั งานขาย (Qualification of sale man) พนักงานขายหากตอ้ งการความสาเร็จในการประกอบอาชพี ต้องมีคณุ สมบตั ิตา่ ง ๆ ดังนี้ 1. มีความกระตือรือร้น ตลอดเวลาทจ่ี ะหาโอกาสในการเสนอขายสินค้า ตลอดจนการบริการ ต่างๆ ท้งั ยังมคี วามคล่องแคล่วว่องไวกระฉับกระเฉงทุกสถานการณ์ 2. มีมนุษย์สัมพนั ธท์ ดี่ ี สามารถเข้ากับบุคคลอ่นื ไดด้ ี โดยใช้หลักจติ วทิ ยาในการเรยี นรูล้ กู คา้ จน สามารถกระตนุ้ ให้ลูกค้าเกิดความสนใจและตดั สินใจซื้อสนิ ค้า 3. มีวาทศลิ ปท์ ี่ดี สามารถใช้ปากเปน็ เครื่องมอื สาคญั อีกท้ังรู้จักกาลเทศะในการพูด โดยพูดสนั้ ๆ แต่ได้ใจความสามารถโนม้ น้าวใจใหล้ กู ค้าเกิดการตัดสนิ ใจในการซ้ือสินคา้ ขณะเดยี วกนั ควรเปน็ นักพดู ทีด่ ี นักฟังที่ดี และนักแสดงทด่ี ี 4. มีความจรงิ ใจ ซื่อสัตย์ ตอ่ ลูกค้า ด้วยความาต้องการเพยี งใหล้ กู ค้าได้รบั สนิ คา้ และการ บริการท่ีดี คมุ้ ค่ากบั เงนิ ทลี่ ูกค้าเสียไป 5. มีสุขภาพรา่ งกายท่ีดี เปน็ มิตรกับทกุ คน อารมณ์ดี มีการเสนอขายสนิ ค้าทไ่ี มด่ เู คร่งเครยี ด 6. มบี ุคลกิ ภาพที่ดี คือ มกี ริ ยิ าท่าทาง การแตง่ กายเรียบร้อย นา้ เสยี งนา่ ฟงั 7. เป็นบคุ คลท่ีใฝ่หาความรู้ คือ พร้อมทจ่ี ะแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอยตู่ ลอดเวลา เพ่ือประโยชน์ ตอ่ การปฏบิ ัติงานขายโดยเฉพาะความรูเ้ ก่ยี วกับสินคา้ ตนเอง ตลอดจนสินคา้ ของคแู่ ขง่ ขนั ทาใหเ้ กิดการไดเปรยี บในการขายสนิ คา้ ชนดิ นน้ั ๆ
8. มีความศรัทธาในอาชีพการขาย ว่าสามารถจะนาพาชวี ติ ของพนักงานขายไปสูค่ วาม เจริญก้าวหนา้ ในการดาเนนิ ชีวิต ตลอดจนความมน่ั คงในการประกอบอาชีพ เพื่อนาพาชวี ิต ไปสูค่ วามสาเรจ็ 9. มีความอดทน อุตสาหะ ขยันขนั แขง็ ในการขาย สร้างความพึงพอใจใหเ้ กดิ กบั ลูกคา้ ความ อดทน มสี ่วนชว่ ยสามารถขายสินค้าไดง้ า่ ยขึน้ ปรมิ าณการขายสงู ข้นึ ตามไปดว้ ย ขนั้ พยายาม (Application) 1. ครแู ละนกั ศกึ ษารว่ มกันสรุปบทเรียนอีกครง้ั โดยวธิ ีถาม – ตอบ 2. นักเรียนทากิจกรรมโดยสรุปคุณสมบัติท่ัวไปของพนักงานขายที่ดี และตัดประกาศรับสมัคร พนักงานขายของบริษัททั่วไปจากหนังสือพมิ พ์ 3. นักเรียนทากิจกรรม เพื่อนาความรู้เกี่ยวกับงานขายไปประยุกต์ในการประกอบอาชีพการ ขายได้ โดยอา่ นจากการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ (ครูผสู้ อนพจิ ารณาตามความเหมาะสม) 81 4. นักเรยี นทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ ข้ันสาเร็จผล (Progress) 1. ครสู งั เกตพฤตกิ รรมการทากิจกรรมกลมุ่ เพ่อื ประเมินผล ตรวจใบงาน และแบบประเมินผลการเรียนรู้ 6. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 6.1 สือ่ 1. หนังสือ/ตาราเรียน 2. ใบงาน 3. รูปภาพ 4. ใบงาน 6.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื ตาราเรยี น (ห้องสมดุ ) 2. ขอ้ มูลทางอนิ เทอร์เน็ต 7. หลักฐานการเรยี นรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝึกหัด และแบบทดสอบเกบ็ คะแนน 7.2 หลกั ฐานการปฏิบัติงาน 1. แบบฝึกหัด 2. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 3. ใบงาน 8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 8.1 เครอ่ื งมือประเมิน 1. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และลักษณะอันพึงประสงค์ 8.5 เกณฑก์ ารประเมนิ 1. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ คือ (50 % ขนึ้ ไป) - คะแนน 9-10 คอื ดมี าก - คะแนน 7-8 คือ ดี
- คะแนน 5-6 คอื พอใช้ - คะแนน ต่ากว่า 5 คอื ปรับปรุง 2. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ะรรม คา่ นิยม และลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยกู่ บั ตาม สภาพความเปน็ จร 9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถา้ ม)ี ให้ผูเ้ รียนหาความรู้เพิ่มเติมจากแหลง่ เรียนร้ตู ่างๆ 10. เอกสารอ้างอิง จรญิ ญา จันทรป์ าน. มปพ. การเขียนแผนธรุ กิจ. กรงุ เทพมหานคร : ไอดีซี อนิ โฟ ดสิ ทรบิ ิวเตอร์ เซ็นเตอร์ จากดั จาเนียร ชว่ งโชติ และคณะ. (2516). จติ วิทยาการรบั รแู้ ละเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลยั รามคาแหง นวลศิริ เปาโรหิตย.์ (2532). พฒั นาการทางอาชีพ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลยั รามคาแหง. คณะ ศกึ ษาศาสตร์, ภาควชิ าจิตวทิ ยา. พร้ิมเพรา ดษิ ยวณชิ . (2544). การจูงใจ. เชยี งใหม:่ บริษทั กลางเวียงการพิมพ์ จากัด
82 รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้ เห็นควรอนญุ าตให้ใช้การสอนได้ เห็นควรปรบั ปรุงเกย่ี วกบั ควรอนญุ าตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงช่อื (นายชมุ พล บุณยรงั ค์) ควรปรับปรุงเกีย่ วกับ. หัวหนา้ หมวด / แผนกวชิ า อื่น ๆ // อนุญาตให้นาไปใช้สอนได้ ลงช่ือ(............................................) อน่ื ๆ รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ //
ลงช่ือ (............................................) ผู้อานวยการ // 83 84 หนว่ ยที่ แผนการจดั การเรยี นรู้ ช่ัวโมง สัปดาหท์ ่ี 18 ชื่อวิชา ชอ่ื หน่วย 12 จานวน 3 ชอ่ื เรอื่ ง การขายเบื้องตน้ เทคโนโลยีทันสมยั ที่เกย่ี วข้องกับการขาย เทคโนโลยีทนั สมยั ที่เกีย่ วขอ้ งกับการขาย 1. สาระสาคญั ในปัจจุบนั ความกา้ วหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยี ไดเ้ ขา้ มามีบทบาทสาคญั ต่อหน่วยงานและองคก์ ร ตา่ งๆ ดงั จะเห็นไดจ้ ากการนาคอมพิวเตอร์เขา้ มาช่วยในการดาเนินงานตา่ งๆ เน่ืองจากเลง็ เห็นถึงประโยชน์ ที่จะไดร้ ับไมว่ า่ จะเป็ นดา้ นความสะดวก ความรวดเร็ว ความถูกตอ้ งแมน่ ยา และยงั เป็นการเพิ่มความ ปลอดภยั ในการจดั เกบ็ ขอ้ มูล ซ่ึงท้งั หมดเป็นการเพ่มิ ประสิทธิภาพการดาเนินงานใหก้ บั หน่วยงานและ องคก์ รใหด้ ีข้ึน 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับเทคโนโลยที นั สมยั ทเ่ี ก่ียวข้องกบั การขาย 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 แสดงความรเู้ กย่ี วกับเทคโนโลยที นั สมยั ทเ่ี กย่ี วข้องกบั การขาย 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1.1. อธิบายความสัมพนั ธข์ องเทคโนโลยกี บั ธรุ กจิ ไดอ้ ย่างถูกต้อง 3.1.2. อธิบายพาณชิ ย์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3.1.3. บอกเครอ่ื งมือทางเทคโนโลยีที่เกย่ี วขอ้ งกบั งานขายไดอ้ ยา่ งถูกต้อง กรอบการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการเป็นเร่อื ง/ชิ้นงาน/โครงการ และบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สมรรถนะด้านความมเี หตุผล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ้มุ กนั สามารถระบุกลยทุ ธท์ างการตลาด อธิบายเทคโนโลยที นั สมยั ที่ อธิบายผลกระทบท่ีเกิดข้ึนกบั เก่ียวขอ้ งกบั การขาย ไดอ้ ยา่ ง ใหเ้ หมาะสมกบั เทคโนโลยี ทนั สมยั ท่ีเกีย่ วข้องกบั การขาย เทคโนโลยที ันสมยั ท่ีเกยี่ วข้องกับ ถกู ตอ้ ง การขาย เงื่อนไขด้านความรู้และทกั ษะ เทคโนโลยี เงื่อนไขด้านคุณธรรมจริยธรรม มีความรู้และทกั ษะดา้ น ทันสมัยท่ี เกย่ี วขอ้ งกับการ ค่านยิ มคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ จรรยาบรรณแลโอกาส ตระหนกั ถึงผลกระทบที่มตี ่อ ความกา้ วหนา้ ของพนักงานขาย ขาย เทคโนโลยีทนั สมัยทเี่ กี่ยวข้อง กบั การขาย ผลกระทบเพื่อความสมดุล พร้อมรับการเปลีย่ นแปลง ดา้ นสังคม ดา้ นเศรษฐกจิ ด้านวัฒนธรรม ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม เทคโนโลยีทันสมัยที่ บทบาทของเทคโนโลยี วัฒนธรรมมผี ลกระทบตอ่ การขายใหค้ วามสาคญั กับ เก่ียวขอ้ งกับการขายมผี ล ทนั สมยั ที่เกย่ี วข้องกบั การ สงิ่ แวดลอ้ ม โดยใช้หลัก ต่อระบบเศรษฐกิจและ ขาย พนักงานขาย ทีม่ ตี ่อ เทคโนโลยีทนั สมัยท่ี การตลาดสีเขยี ว Green สงั คม เกยี่ วข้องกบั การขาย ท่ี Marketing ระบบเศรษฐกิจแตล่ ะยคุ ที่ แตกต่างกัน แตกต่างกัน
3.1.4. อธิบายกลยุทธก์ ารสรา้ งความสมั พันธล์ ูกค้าออนไลนไ์ ด้อย่างถกู ต้อง 3.1.5. บอกอปุ สรรคที่มีผลกระทบต่องานขายในตลาดออนไลนไ์ ด้อย่างถูกต้อง 3.1.6. อธิบายบทบาทของเทคโนโลยใี นธุรกิจของงานขายได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.7. บอกรูปแบบธรุ กิจในตลาดอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ไดอ้ ย่างถูกต้อง 3.1.8. อธิบายระบบสารสนเทศดา้ นงานขายได้อยา่ งถกู ต้อง 4. สาระการเรยี นรู้ 1. เทคโนโลยกี ับธรุ กจิ 2. พาณิชยอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ (E-Commerce) 3. เครือ่ งมอื ทางเทคโนโลยที ่เี กยี่ วข้องกบั งานขาย 4. กลยทุ ธก์ ารสร้างความสัมพันธ์ลูกคา้ ออนไลน์ (e-CRM) 5. อปุ สรรคทีม่ ีผลกระทบต่องานขายในตลาดออนไลน์ 6. บทบาทของเทคโนโลยีในธุรกิจของงานขาย 7. รปู แบบธรุ กิจในตลาดอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Marketing Business Model) 85 8. ระบบสารสนเทศดา้ นงานขาย (Selling Information System) 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท.ี่ ......18.....) ขนั้ สนใจปัญหา (Motivation) 1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายแลกเปลี่ยนเกีย่ วกับการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยเี ปน็ ไปอย่าง รวดเรว็ ทาใหว้ งจรชวี ติ ผลติ ภัณฑส์ ้ันลง และงบประมาณการวจิ ัยและพัฒนาอยใู่ นระดับทส่ี งู การปรบั ปรุง ผลติ ภณั ฑแ์ ละการลอกเลยี นแบบจงึ มมี ากขน้ึ การเพิม่ กฎระเบียบควบคุมการผลิตจงึ เป็นสง่ิ ทีค่ วรนามาใช้ ผล จากการเปลี่ยนแปลงนัน้ จะทาให้เทคโนโลยเี ขา้ มามีบทบาทสาคญั ในการทาใหธ้ ุรกิจสามารถตอบรบั กับสิง่ ที่ อาจจะเกิดขนึ้ ได้ ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งระบบคอมพวิ เตอร์โปรแกรมใหมๆ่ ทีจ่ ะผลติ ขน้ึ มาเพื่อสนองความต้องการ ในการเปลยี่ นแปลง ขัน้ ใหเ้ นอ้ื หา (Information) 1. ครอู ธบิ ายและยกตัวอย่างรปู แบบธรุ กจิ ท่เี กยี่ วข้องกบั พาณิชย์อิเล็กทรอนกิ ส์ (E-Commerce) ซ่งึ แบ่งออกเปน็ 4 รูปแบบ และใหน้ ักเรียนนารปู ภาพมาประกอบ ดงั น้ี # ธุรกจิ กับธุรกจิ (Business to Business : B2B) # ธุรกจิ กบั ผูบ้ รโิ ภค (Business to Consumer : B2C) # ธุรกจิ กับรัฐบาล (Business to Government : B2G) # ผู้บรโิ ภคกับผู้บรโิ ภค (Consumer to Consumer : C2C) 2. ใหน้ กั เรียนนารูปภาพต่อไปนี้ มาอภิปรายร่วมกนั ภายในห้องเรยี น # เวลิ ด์ไวด์เวบ็ (World Wide Web หรอื WWW หรอื W3) # อีเมล์ (E-mail) # เมลล์ ง่ิ ลสิ ต์ (Mailing list) # เว็บบอร์ด (Web board) # โทรศพั ท์มอื ถอื (Mobile Phone) 3. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มหมุนเวียนกันอภิปรายสรุปเนื้อหาท่ีได้ศึกษาให้เพ่ือนในกลุ่มของตนฟัง และอภิปรายซกั ถามกันใหเ้ ขา้ ใจทกุ คน (ครสู ังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ) ข้นั พยายาม (Application) 1. นกั ศกึ ษาทาใบงาน 2. นกั เรียนทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
ขัน้ สาเร็จผล (Progress) 1. ตรวจใบงาน และแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 6. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สือ่ 1. หนงั สอื /ตาราเรียน 2. ใบงาน 3. รปู ภาพ 4. ใบงาน 6.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื ตาราเรยี น (ห้องสมุด) 2. ขอ้ มลู ทางอนิ เทอรเ์ นต็ 86 7. หลักฐานการเรียนรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝึกหัด และแบบทดสอบเกบ็ คะแนน 7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั ิงาน 1. แบบฝกึ หัด 2. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 3. ใบงาน 8. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 8.1 เครื่องมือประเมิน 1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8.6 เกณฑก์ ารประเมิน 1. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ คือ (50 % ข้ึนไป) - คะแนน 9-10 คอื ดมี าก - คะแนน 7-8 คอื ดี - คะแนน 5-6 คือ พอใช้ - คะแนน ตา่ กว่า 5 คอื ปรบั ปรุง 2. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ะรรม ค่านยิ ม และลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนข้ึนอยกู่ ับตาม สภาพความเปน็ จร 9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย (ถ้ามี) ใหผ้ เู้ รยี นหาความรเู้ พ่ิมเตมิ จากแหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ 10. เอกสารอา้ งองิ จริญญา จนั ทร์ปาน. มปพ. การเขยี นแผนธรุ กิจ. กรุงเทพมหานคร : ไอดีซี อินโฟ ดสิ ทรบิ ิวเตอร์ เซ็นเตอร์ จากดั จาเนียร ชว่ งโชติ และคณะ. (2516). จติ วิทยาการรับรู้และเรยี นรู้. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัย
รามคาแหง นวลศิริ เปาโรหิตย.์ (2532). พัฒนาการทางอาชีพ. กรงุ เทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามคาแหง. คณะ ศึกษาศาสตร์, ภาควชิ าจิตวิทยา. พร้ิมเพรา ดษิ ยวณชิ . (2544). การจูงใจ. เชียงใหม่: บริษัทกลางเวยี งการพมิ พ์ จากดั 87 รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้ เห็นควรอนุญาตให้ใชก้ ารสอนได้ เหน็ ควรปรับปรงุ เกย่ี วกับ ควรอนุญาตให้นาไปใชส้ อนได้ ลงชือ่ (นายชมุ พล บณุ ยรงั ค์) ควรปรับปรุงเกย่ี วกับ. หัวหนา้ หมวด / แผนกวชิ า อนื่ ๆ // อนญุ าตใหน้ าไปใช้สอนได้ ลงชื่อ(............................................) รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ //
อื่น ๆ ลงชื่อ (............................................) ผ้อู านวยการ //
Search