แผนการเรียนจัดการเรียนการสอน วิชา วัสดุช่าง

เปน็ ข้ันการสร้างความสนใจ โดยเร้าความสนใจใหผ้ เู้ รียนอยากรู้ อยากเหน็ อยากคดิ อยากทา โดยการ เชอ่ื มโยงความรเู้ ดิมกับความรู้ใหม่เขา้ ดว้ ยกนั ซึง่ ในขั้นตอนน้คี รูจะใชค้ าถามประกอบกับสือ่ power point หรืออุปกรณข์ องจริงในการนาเข้าสู่บทเรยี น พร้อมท้ังบอกจุดประสงค์ในการเรยี นการสอนของแผนการเรยี น ขน้ั ใหเ้ นื้อหา (Information) 1.ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 2.แบ่งกลุม่ ในการปฏบิ ัตงิ าน 2.1 ครูผ้สู อนนาเข้าสู่บทเรียน นาเสนอเนอ้ื หาแบบถามตอบ ประกอบการใช้สอ่ื แบบบรู ณา การ ให้คาแนะนาและมอบหมายกิจกรรม 2.2 ร่วมเตรยี มพนื้ ที่ เครือ่ งมือ อุปกรณ์และวัสดุ 2.3 ใหผ้ ู้เรียนซกั ถามอภิปรายสว่ นท่ยี งั ไมเ่ ข้าใจ 2.4 มอบใบปฏบิ ัติงานให้ผู้เรยี นลงมือปฏิบัตงิ านตามขนั้ ตอน ข้นั พยายาม (Application) 1.ตรวจผลการปฏิบัตงิ านของแตล่ ะกลมุ่ 2.ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ขัน้ สาเร็จผล (Progress) 1.ใหค้ ะแนนแตล่ ะกลุ่มตามผลงาน แจง้ ผ้เู รยี น 2.มอบใบมอบหมายงานใหผ้ ู้เรียนแต่ละกลุม่ เพ่ือทารายงานส่งพรอ้ มท้ังนาเสนอข้อมูลคร้ัง ตอ่ ไป 6. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สอ่ื 1. ใชข้ องจรงิ ประกอบการบรรยายและสาธิต 2. ใบความรู้ 3. หนงั สอื /ตาราเรยี น 4. สื่อการสอน 5. ใบงาน 6. ใบมอบหมายงาน 6.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1. ขอ้ มูลจากสถานประกอบการ 2. ข้อมูลทางอินเทอรเ์ น็ต 7. หลักฐานการเรยี นรู้

7.1 หลักฐานความรู้ 1. รายงานการปฎบิ ตั ิงานของแต่ละกลมุ่ 2. ผลคะแนนจากการประเมินแบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี นประจาหน่วย 7.2 หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน 1. ผลการปฏิบตั งิ านตามใบงาน 2. รายงานท่ไี ด้จากใบมอบหมายงาน 3. ผลคะแนนจากการประเมินการปฏบิ ัติงาน 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8.1 เครื่องมอื ประเมิน 1. แบบทดสอบก่อน/หลงั เรียนประจาหน่วย 2. แบบทดสอบความรรู้ ายวชิ า 3. แบบประเมินการปฏบิ ัติงาน 4. แบบสงั เกตพฤติกรรม 8.2 เกณฑ์การประเมนิ 8.2.1 กาหนดค่าคะแนนตามลาดบั ความสาคัญของสาระการเรยี นรู้ 8.2.2 เกณฑ์คะแนนทผี่ า่ น 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม เกณฑ์ผ่าน 80% 2.แบบประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑผ์ า่ น 60% 3.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่ กับผ้ปู ระเมินตามสภาพจรงิ 9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย (ถา้ มี) 9.1 ให้ผเู้ รยี นไปศึกษาคน้ ควา้ เพม่ิ เติมการความร้พู นื้ ฐานทว่ั ไปเก่ียวกับวสั ดชุ า่ ง 9.2 ใหผ้ ู้เรยี นจัดทารายงานพรอ้ มทงั้ นาเสนอหน้าห้องเรยี นให้เพื่อนๆในห้องเรียนรรู้ ่วมกนั 10. เอกสารอ้างอิง 1. ธีระชัย ไตรเกษม วสั ดุช่าง 3100-0004 ศนู ยห์ นงั สอื เมืองไทย 2556

11. บันทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 11.1 ขอ้ สรุปหลังการจัดการเรยี นรู้ 11.2 ปญั หาอปุ สรรคท่ีพบ 11.3 แนวทางแก้ปัญหาและหรอื พัฒนา

หน่วยที่ 7 จานวน แผนการจัดการเรยี นรู้ 4 ช่ัวโมง สัปดาห์ท่ี 14-15 ชือ่ วชิ า วสั ดชุ า่ ง ชื่อหน่วย วัสดเุ ชื้อเพลิง ช่อื เรอื่ ง: วัสดเุ ช้อื เพลิง 1. สาระสาคญั ตน้ กาเนิดพลงั งานท่ีใช้สาหรับงานอุตสาหกรรมในปัจจบุ นั ประมาณ 90% ไดม้ า จากการเผาไหมข้ องเชือ้ เพลงิ เช่น การใหค้ วามร้อน การผลติ กระแสไฟฟาู การทางานของ เคร่ืองจักรกลและเคร่ืองยนต์ ฯลฯ เชือ้ เพลงิ ทใ่ี ห้พลงั งานมีทง้ั 3 สถานภาพ คือ ของแข็ง ของเหลว และแกส๊ แหลง่ กาเนดิ ของเชอื้ เพลงิ ส่วนใหญไ่ ดม้ าจากธรรมชาติ การ เผาไหมข้ องเชอ้ื เพลงิ กอ่ ให้เกิดความร้อนและมลพษิ ในอากาศ เพราะฉะนั้นการใช้เชอ้ื เพลิง จึงควรคานึงถึงความประหยดั การใชอ้ ยา่ งคุ้มค่า เกดิ ประโยชนส์ งู สุด และต้องให้มี ผลกระทบต่อสงิ่ แวดลอ้ มน้อยท่สี ดุ 2. สมรรถนะประจาหน่วย เพื่อให้ทราบถึงประเภทและกรรมวิธีการผลิตเช้ือเพลิง การใชป้ ระโยชน์และ ผลกระทบจากการใชเ้ ชือ้ เพลิงต่อส่งิ แวดล้อม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายประเภทและกรรมวธิ ีผลติ เช้ือเพลงิ ได้ 2. บอกประเภทและกรรมวิธีผลิตเช้ือเพลงิ ได้ 3. บอกประโยชน์ของเช้อื เพลิงได้ 4. บอกแนวทางในการเลือกใช้เช้ือเพลิงได้อยา่ งเหมาะสม 5. อธบิ ายถึงผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ มจากการใช้เช้อื เพลงิ 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายของเชือ้ เพลิง 2. ประเภทของเชอื้ เพลิง 3. ประโยชน์ของเชือ้ เพลิง 4. แนวทางในการเลือกใช้เชือ้ เพลิง 5. ผลกระทบต่อส่งิ แวดล้อมจากการใช้เชือ้ เพลิง 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ .ี่ .14-15.........) ข้นั สนใจปัญหา (Motivation)

เปน็ ข้ันการสร้างความสนใจ โดยเร้าความสนใจให้ผู้เรียนอยากรู้ อยากเห็นอยากคิด อยากทา โดยการ เชอ่ื มโยงความรเู้ ดิมกับความรู้ใหม่เข้าดว้ ยกัน ซ่ึงในขนั้ ตอนน้คี รจู ะใชค้ าถามประกอบกับส่ือpower point หรืออุปกรณข์ องจริงในการนาเข้าส่บู ทเรียน พร้อมทั้งบอกจุดประสงค์ในการเรยี นการสอนของแผนการเรียน ขน้ั ใหเ้ นื้อหา (Information) 1.ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2.แบ่งกลุม่ ในการปฏบิ ัตงิ าน 2.1 ครูผ้สู อนนาเข้าสูบ่ ทเรยี น นาเสนอเนอ้ื หาแบบถามตอบ ประกอบการใชส้ ื่อแบบบรู ณา การ ให้คาแนะนาและมอบหมายกจิ กรรม 2.2 ร่วมเตรยี มพ้ืนที่ เครือ่ งมอื อุปกรณแ์ ละวสั ดุ 2.3 ใหผ้ ู้เรียนซักถามอภปิ รายส่วนที่ยังไมเ่ ข้าใจ 2.4 มอบใบปฏบิ ตั ิงานให้ผเู้ รยี นลงมอื ปฏิบตั งิ านตามขัน้ ตอน ข้นั พยายาม (Application) 1.ตรวจผลการปฏิบัตงิ านของแตล่ ะกลุ่ม 2.ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ขัน้ สาเร็จผล (Progress) 1.ใหค้ ะแนนแต่ละกลุม่ ตามผลงาน แจง้ ผ้เู รียน 2.มอบใบมอบหมายงานให้ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ เพื่อทารายงานส่งพรอ้ มท้งั นาเสนอข้อมลู คร้ัง ตอ่ ไป 6. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สอ่ื 1. ใชข้ องจรงิ ประกอบการบรรยายและสาธติ 2. ใบความรู้ 3. หนงั สอื /ตาราเรยี น 4. สื่อการสอน 5. ใบงาน 6. ใบมอบหมายงาน 6.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1. ขอ้ มูลจากสถานประกอบการ 2. ข้อมูลทางอนิ เทอรเ์ นต็ 7. หลักฐานการเรยี นรู้

7.1 หลักฐานความรู้ 1. รายงานการปฎบิ ตั ิงานของแต่ละกลมุ่ 2. ผลคะแนนจากการประเมินแบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี นประจาหน่วย 7.2 หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน 1. ผลการปฏิบตั งิ านตามใบงาน 2. รายงานท่ไี ด้จากใบมอบหมายงาน 3. ผลคะแนนจากการประเมินการปฏบิ ัติงาน 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8.1 เครื่องมอื ประเมิน 1. แบบทดสอบก่อน/หลงั เรียนประจาหน่วย 2. แบบทดสอบความรรู้ ายวชิ า 3. แบบประเมินการปฏบิ ัติงาน 4. แบบสงั เกตพฤติกรรม 8.2 เกณฑ์การประเมนิ 8.2.1 กาหนดค่าคะแนนตามลาดบั ความสาคัญของสาระการเรยี นรู้ 8.2.2 เกณฑ์คะแนนทผี่ า่ น 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม เกณฑ์ผ่าน 80% 2.แบบประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑผ์ า่ น 60% 3.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่ กับผ้ปู ระเมินตามสภาพจรงิ 9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย (ถา้ มี) 9.1 ให้ผเู้ รยี นไปศึกษาคน้ ควา้ เพม่ิ เติมการความร้พู นื้ ฐานทว่ั ไปเก่ียวกับวสั ดชุ า่ ง 9.2 ใหผ้ ู้เรยี นจัดทารายงานพรอ้ มทงั้ นาเสนอหน้าห้องเรยี นให้เพื่อนๆในห้องเรียนรรู้ ่วมกนั 10. เอกสารอ้างอิง 1. ธีระชัย ไตรเกษม วสั ดุช่าง 3100-0004 ศนู ยห์ นงั สอื เมืองไทย 2556

11. บันทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 11.1 ขอ้ สรุปหลังการจัดการเรยี นรู้ 11.2 ปญั หาอปุ สรรคท่ีพบ 11.3 แนวทางแก้ปัญหาและหรอื พัฒนา

หน่วยที่ 8 จานวน 6 แผนการจัดการเรยี นรู้ ชว่ั โมง สัปดาห์ที่ 16-18 ช่ือวิชา วัสดุช่าง ช่อื หนว่ ย วสั ดหุ ล่อลน่ื และวัสดุหลอ่ เย็น ชอ่ื เรือ่ ง: วสั ดหุ ล่อลนื่ และวสั ดหุ ลอ่ เย็น 1. สาระสาคญั การทางานของเครื่องจักร เคร่ืองยนต์ ชนิ้ สว่ นต่าง ๆ มกี ารเคลือ่ นไหว เกดิ การ เสียดสี เกดิ ความรอ้ นและการสกึ หรอ จงึ จาเป็นต้องใช้วัสดุหลอ่ ล่ืนเพ่ือลดอาการดังกล่าว วสั ดุหล่อลนื่ ที่นยิ มใชใ้ นปจั จบุ ัน ไดแ้ ก่ จาระบี น้ามนั เคร่ือง นา้ มันเกยี ร์ น้ามนั เฟืองท้าย นา้ มันหล่อลืน่ เคร่ืองจักร นา้ มันเบรก-คลตั ช์ และน้ามนั ไฮดรอลิก- พาเวอร์ เป็นต้น ส่วน วสั ดหุ ล่อเย็นใช้สาหรบั ลดอณุ หภูมิการทางาน นิยมใช้น้ายาหล่อเย็น ซ่งึ ในปจั จุบันผผู้ ลติ นิยมทาให้สามารถปูองกนั สนิมได้ด้วย 2. สมรรถนะประจาหน่วย รู้จกั วิธีบารุงรกั ษาการทางานของเครอ่ื งจกั ร โดยใช้วสั ดุหล่อลน่ื ตลอดจน ทราบถึงชนิดและการทางานของวสั ดหุ ล่อลืน่ และนามาใช้งานได้อย่างเหมาะสม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของวัสดุหล่อลน่ื ได้ 2. บอกประเภทวัสดหุ ล่อลืน่ ได้ 3. อธบิ ายความหมายของวัสดุหลอ่ เยน็ ได้ 4. บอกประโยชน์ของวสั ดหุ ลอ่ ลื่นและหลอ่ เย็นได้ 5. บอกแนวทางในการเลือกใชว้ สั ดหุ ล่อลื่นและหลอ่ เยน็ ได้อย่างเหมาะสม 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายของวัสดุหล่อลืน่ 2. ชนิดของวัสดหุ ล่อลืน่ 3.. ความหมายของวัสดหุ ล่อเย็น 4. ประโยชน์ของวัสดุหล่อล่ืนและหล่อเย็น 5. การเลือกใช้วัสดหุ ล่อล่ืนและหล่อเยน็ 5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ี.่ .16-18.........) ขน้ั สนใจปัญหา (Motivation)

เปน็ ข้ันการสร้างความสนใจ โดยเร้าความสนใจให้ผู้เรียนอยากรู้ อยากเห็นอยากคิด อยากทา โดยการ เชอ่ื มโยงความรเู้ ดิมกับความรู้ใหม่เข้าดว้ ยกัน ซ่ึงในขนั้ ตอนน้คี รจู ะใชค้ าถามประกอบกับส่ือpower point หรืออุปกรณข์ องจริงในการนาเข้าส่บู ทเรียน พร้อมทั้งบอกจุดประสงค์ในการเรยี นการสอนของแผนการเรียน ขน้ั ใหเ้ นื้อหา (Information) 1.ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2.แบ่งกลุม่ ในการปฏบิ ัตงิ าน 2.1 ครูผ้สู อนนาเข้าสูบ่ ทเรยี น นาเสนอเนอ้ื หาแบบถามตอบ ประกอบการใชส้ ื่อแบบบรู ณา การ ให้คาแนะนาและมอบหมายกจิ กรรม 2.2 ร่วมเตรยี มพ้ืนที่ เครือ่ งมอื อุปกรณแ์ ละวสั ดุ 2.3 ใหผ้ ู้เรียนซักถามอภปิ รายส่วนที่ยังไมเ่ ข้าใจ 2.4 มอบใบปฏบิ ตั ิงานให้ผเู้ รยี นลงมอื ปฏิบตั งิ านตามขัน้ ตอน ข้นั พยายาม (Application) 1.ตรวจผลการปฏิบัตงิ านของแตล่ ะกลุ่ม 2.ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ขัน้ สาเร็จผล (Progress) 1.ใหค้ ะแนนแต่ละกลุม่ ตามผลงาน แจง้ ผ้เู รียน 2.มอบใบมอบหมายงานให้ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ เพื่อทารายงานส่งพรอ้ มท้งั นาเสนอข้อมลู คร้ัง ตอ่ ไป 6. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สอ่ื 1. ใชข้ องจรงิ ประกอบการบรรยายและสาธติ 2. ใบความรู้ 3. หนงั สอื /ตาราเรยี น 4. สื่อการสอน 5. ใบงาน 6. ใบมอบหมายงาน 6.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1. ขอ้ มูลจากสถานประกอบการ 2. ข้อมูลทางอนิ เทอรเ์ นต็ 7. หลักฐานการเรยี นรู้

7.1 หลักฐานความรู้ 1. รายงานการปฎบิ ตั ิงานของแต่ละกลมุ่ 2. ผลคะแนนจากการประเมินแบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี นประจาหน่วย 7.2 หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน 1. ผลการปฏิบตั งิ านตามใบงาน 2. รายงานท่ไี ด้จากใบมอบหมายงาน 3. ผลคะแนนจากการประเมินการปฏบิ ัติงาน 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8.1 เครื่องมอื ประเมิน 1. แบบทดสอบก่อน/หลงั เรียนประจาหน่วย 2. แบบทดสอบความรรู้ ายวชิ า 3. แบบประเมินการปฏบิ ัติงาน 4. แบบสงั เกตพฤติกรรม 8.2 เกณฑ์การประเมนิ 8.2.1 กาหนดค่าคะแนนตามลาดบั ความสาคัญของสาระการเรยี นรู้ 8.2.2 เกณฑ์คะแนนทผี่ า่ น 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม เกณฑ์ผ่าน 80% 2.แบบประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑผ์ า่ น 60% 3.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่ กับผ้ปู ระเมินตามสภาพจรงิ 9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย (ถา้ มี) 9.1 ให้ผเู้ รยี นไปศึกษาคน้ ควา้ เพม่ิ เติมการความร้พู นื้ ฐานทว่ั ไปเก่ียวกับวสั ดชุ า่ ง 9.2 ใหผ้ ู้เรยี นจัดทารายงานพรอ้ มทงั้ นาเสนอหน้าห้องเรยี นให้เพื่อนๆในห้องเรียนรรู้ ่วมกนั 10. เอกสารอ้างอิง 1. ธีระชัย ไตรเกษม วสั ดุช่าง 3100-0004 ศนู ยห์ นงั สอื เมืองไทย 2556

11. บันทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 11.1 ขอ้ สรุปหลังการจัดการเรยี นรู้ 11.2 ปญั หาอปุ สรรคท่ีพบ 11.3 แนวทางแก้ปัญหาและหรอื พัฒนา