วิวัฒน าการตัวอักษรจีน 你 好
วิวัฒนาการจากธรรมชาติ เช่น ดวงตา ปลา ต้นไม้ พระอาทิตย์ จนมาเป็นตัวอักษรปัจจุบัน
1. 甲骨文 อักษรกระดองเต่า / อักษร บนกระดูกสัตว์ เป็นอักษรโบราณที่ มีอายุเก่าแก่ที่สุดส่วนมากอยู่ในรูปของ บันทึกการทํานายที่ใช้มีดแกะสลักหรือ จารลงบนกระดองเต่าหรือกระดูกสัตว์
มีลักษณะเป็นอักษรภาพ บางครั้งตัว อักษรเดียวกันแต่มีวิธีเขียนต่างกัน ยัง ไม่มีความเป็นเอกภาพ
2. 金文 อักษรโลหะ/สําริด มีความเป็นระเบียบ มากกว่าอักษรในแบบแรก ใช้ในสมัยราชวงศ์ซางถึง ราชวงศ์โจว มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งคือ 钟鼎文 หมายถึงอักษรที่หลอมลงบนภาชนะทองเหลืองหรือ สําริด ตัวแทนภาชนะสําริดในยุคนั้นมี 鼎 ซึ่งคล้าย กระถางสามขา
และตัวแทนจากเครื่องดนตรีที่ทําจากโลหะ คือ 钟 ระฆัง อักษรนี้มีลายเส้นที่หนาหนัก ร่องลายเส้นราบเรียบที่ได้ จากการหลอม ไม่ใช่การสลักลงบนเนื้อโลหะ ส่วนมากเป็น คําสั่งการของชนชั้นผู้นํา พิธีการบูชาบรรพบุรุษบันทึก การทําสงคราม เป็นต้น
3. 篆书 อักษรจ้วน หลังจาก 秦始皇 ได้รวมแผ่นดินจีนเข้าด้วยกัน ในปี ค.ศ. 221 แล้ว จากนั้นก็ได้ทําการปฏิรูประบบตัวอักษรครั้งใหญ่ โดยสร้างมาตรฐานรูปแบบตัวอักษรให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ อักษรจ้วนมีรูปทรงอักษรเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงสูง
เป็นการสร้างพื้นฐานลักษณะ “อักษรสี่เหลี่ยม” ขนาดตัวอักษรสมํ่าเสมอเท่ากัน อักษรที่ดู เหมือนภาพวาดได้หายไป เป็นการปฏิรูปตัว อักษรจีนอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก และถือเป็น อักษรที่ใช้ทั่วประเทศจีนเป็นครั้งแรก
隶书4. ตัวอักษรลี่ซู มีการเปลี่ยนลายเส้นอักษรจากเส้นโค้ง 小篆แบบ มา เป็นเส้นตรง เปลี่ยนลายเส้นส่วนที่กลมมนเป็น 篆书หักมุม เน้นที่ความเรียบง่าย ซึ่งสมัยราชวงศ์ฉินใช้ทั้ง 隶书และ
隶书โดย ไม่ถือว่าเป็นอักษรทางการ ในโอกาสที่เป็นพิธีรีตองจะใช้ 小篆 隶书เฉพาะ เท่านั้น มีพัฒนาการมาเรื่อย ๆ จวบถึงสมัย 汉隶ราชวงศ์ฮั่นเรียกว่า ซึ่งเน้นลีลาความสวยงาม และประณีต พอ 汉隶ถึงปลายราชวงศ์ฮั่นอักษร มีเหลี่ยมมุมคมชัดมากยิ่งขึ้น
5. 草书 อักษรเฉ่าซูหรืออักษรหวัด (草 หมายถึง อย่าง ลวก ๆหรืออย่างหยาบ) อักษร 草书 เกิดจากการนําเอา ลายเส้นที่มีแต่เดิมมาย่นย่อเหลือเพียงขีดเส้นเดียว ฉีก ออกจากรูปแบบเดิมของกรอบสี่เหลี่ยมในอักษรจีน
หลุดพ้นจากข้อจํากัดของขั้นตอนวิธีการขีด เขียนอักษรในแบบมาตรฐานตัวบรรจง ซึ่งตัว อักษรบรรจงอาจประกอบขึ้นจากลายเส้นสิบ กว่าสาย แต่อักษร 草书 ใช้ เพียง 2 – 3 ขีดก็ สามารถประกอบเป็นสัญลักษณ์เช่นเดียวกันได้
6. 楷书 อักษรข่ายซูหรืออักษรบรรจง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 真书(อักษรจริง)หรือ 正书 (อักษรบรรจง)เป็นอักษร จีนมาตรฐานที่ใช้ในปัจจุบัน มีต้นกําเนิดในยุคปลายราชวงศ์ ฮั่น
ตะวันออกแพร่หลายในสมยัราชวงศ์เว่ย จิ้นและ ราชวงศ์ เหนือใต้ พัฒนามาจากพื้นฐานตัวอักษรแบบ 隶书 และ 草 书 ลักษณะเด่นของ 楷书 คือมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขีดของอักษรเป็นระเบียบ เส้นพู่กันชัดเจน เมื่อเทียบกับ อักษรรุ่นก่อนหน้าจะเขียนและอ่านง่ายกว่า ถือเป็นอักษร มาตรฐานของจีน
อักษรโบราณ & อักษรปัจจุบัน 隶书 เป็นเส้นแบ่งระหว่างอักษรรุ่นเก่าและ อักษรรุ่นใหม่ ยุคสมัยที่ถือเป็นอักษร โบราณได้แก่ 甲骨文、金文、小篆
隶ยุคสมัยที่ถือเป็นอักษรยุคปัจจุบันได้แก่ 书 楷书 草书 行และ ส่วนอักษร และ 书 เป็นเพียงพัฒนาการของรูปแบบตัว อักษรไม่ใช่วิวัฒนาการของตัวอักษรจีนโดย รวม
7. 行书 อักษรสิงซูหรืออักษรหวัดแกมบรรจง เป็นตัวอักษรที่อยู่กึ่งกลางระหว่างอักษร 楷书 และ 草书 ปรากฏในสมัยราชวงศ์ เว่ย-จิ้น เป็นต้นมา 行书
เป็นตัวอักษรกึ่งหวัดกึ่งบรรจง กําเนิดขึ้นในราวปลาย ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก รวบรวมเอาจุดเด่นของอักษร 楷书 และ 草书 เข้าไว้ด้วยกัน แต่ไม่ประณีตบรรจงเท่า 楷书 และไม่หวัดเท่า 草书
อักษรสิงซู อักษรสิงซู(行书)เป็นรูปแบบตัวอักษรที่อยู่ กึ่งกลางระหว่างอักษรข่ายซูและ อักษรเฉ่าซู เกิด จากการเขียนอักษรตัวบรรจงที่เขียนอย่างหวัด
หรืออักษรตัวหวัดที่เขียน อย่างบรรจง อาจกล่าว ได้ว่า เป็นตัวอักษรกึ่งตัวหวัดและกึ่งบรรจง อักษรสิงซูกำเนิดขึ้นในราวปลายราชวงศ์ฮั่นตะวัน ออก รวบรวมเอาปมเด่นของอักษรข่ายซูและเฉ่า ซูเข้าด้วยกัน
อักษรเฉ่าซู ตั้งแต่กำเนิดมีตัวอักษรจีนเป็นต้นมา อักษรแต่ละรูปแบบ ล้วนมีวิธีการเขียนแบบตัวหวัดทั้งสิ้น จวบจนถึงราชวงศ์ฮั่น อักษรหวัดจึงได้รับการเรียกขานว่า ‘อักษรเฉ่าซู’ (草书) อย่างเป็นทางการ (คำว่า ‘เฉ่า’ ในภาษาจีนหมายถึง อย่าง ลวก ๆหรืออย่างหยาบ)
อักษรเฉ่าซู เกิดจากการนำเอาลายเส้นที่มีแต่เดิมมา ย่นย่อเหลือเพียงขีดเส้นเดียว โดยฉีกออกจากรูป แบบอันจำเจของกรอบสี่เหลี่ยมในอักษรจีน หลุดพ้น จากข้อจำกัดของขั้นตอนวิธีการขีดเขียนอักษรใน แบบมาตรฐานตัวคัดหรือ ข่ายซู ในขณะที่อักษรข่าย ซูอาจประกอบขึ้นจากลายเส้นสิบกว่าสาย แต่อักษร เฉ่าซูเพียงใช้ 2 – 3 ขีดก็สามารถประกอบเป็นสัญลัก
ข่ายซู ในขณะที่อักษรข่ายซูอาจประกอบขึ้นจาก ลายเส้นสิบกว่าสาย แต่อักษรเฉ่าซูเพียงใช้ 2 – 3 ขีดก็สามารถประกอบเป็นสัญลัก
อักขระโบราณและอักษรปัจจุบัน ตัวอักษรจีนสามารถแบ่งออกเป็นอักขระที่ใช้ใน สมัยโบราณกับอักษรที่ใช้ใน ปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น อักษรลี่ซูซึ่งเป็นรูปแบบของอักขระโบราณ
อันเป็นต้นแบบของการปฏิรูปลักษณะตัวอักษร จีนครั้งใหญ่ กลายเป็นเส้นแบ่งระหว่างอักษรรุ่น เก่าและใหม่ ยุคสมัยที่ใช้อักษรลี่ซูและก่อนหน้า นั้น ถือเป็นอักขระโบราณ ได้แก่ อักษรจารบน กระดูกสัตว์หรือเจี๋ยกู่เหวินจากสมัยซาง อักษร โลหะจากราชวงศ์โจวตะวันตก
อักษรเสี่ยวจ้วนจากยุคสมัยจั้นกว๋อและสมัยฉิน หลัง จากกำเนิดอักษรลี่ซูให้ถือเป็นอักษรในยุคปัจจุบัน อันได้แก่ อักษรลี่ซู อักษรข่ายซู สำหรับอักษรเฉ่าซู และสิงซู อาจกล่าวได้ว่าเป็นเพียงพัฒนาการของรูป แบบตัวอักษร ไม่ใช่วิวัฒนาการของตัวอักษรจีนโดย รวม
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: