Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 07 แผนการจัดการเรียนรู้ 1-11

07 แผนการจัดการเรียนรู้ 1-11

Published by Guset User, 2022-08-17 09:55:48

Description: 07 แผนการจัดการเรียนรู้ 1-11

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 การอา่ นข่าว กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย รหสั ท 32101 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ การอา่ นจับใจความสำคัญ 1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านจบั ใจความมุง่ เนน้ การเก็บสาระสำคญั จากเรื่องทอ่ี า่ น ผอู้ า่ นจึงตอ้ งใชส้ มาธแิ ละความเข้าใจ อีกทั้งยังต้องฝกึ ฝนเพอื่ ให้การอา่ นจับใจความมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการอา่ นข่าวท่ีจะต้องอา่ นจับใจความ สำคญั ของข่าวนั้น ๆ ใหเ้ ข้าใจเพื่อใหร้ ับข่าวสารได้ถูกตอ้ งชัดเจน 2. ตัวช้ีวดั /จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคิดเพื่อนำไปใช้ตดั สินใจแก้ปัญหา ในการดำเนนิ ชีวิต และมนี สิ ัยรกั การอา่ น ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๒ ตีความ แปลความและขยายความเร่ืองท่อี า่ น จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธบิ ายหลกั การอา่ นจับใจความ (K) ๒. อ่านจับใจความข่าว (P) ๓. เหน็ ความสำคัญและตระหนักถงึ ความสำคญั ของการอา่ นจับใจความ (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - หลกั การอ่านจับใจความ - การอ่านขา่ ว 3.2 สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่ิน - 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน สมรรถนะ - ความสามารถในการสอื่ สาร - ความสามารถในการคดิ - ความสามารถในการแกป้ ญั หา 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ กระตอื รือรน้ ในการเรยี น

6 .ช้นิ งาน/ภาระงาน ๑. ฝกึ ทักษะการอ่านจบั ใจความเบอ้ื งตน้ ๒. ฝึกทกั ษะการอา่ นขา่ ว ๓. ใบงานเรือ่ ง การอา่ นจับใจความข่าว 7. การวัดผลประเมนิ ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์ วิธีการ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วม การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม กจิ กรรม กจิ กรรม สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนใน ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผา่ น การเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่าน ๑ รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนใน แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก การเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ กจิ กรรมกล่มุ คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๐-๔ ระดับ ควรปรบั ปรงุ ตามตารางด้านล่าง การประเมินใบงาน ใหผ้ ู้สอนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การอา่ นจับใจความเบ้อื งต้น เกณฑก์ ารประเมิน ระดับคะแนน การอา่ นจบั ใจความ ๔ ๓๒๑ เบ้อื งตน้ เขยี นเนื้อหาสาระได้ เขยี นเนือ้ หาสาระได้ เขยี นเนือ้ หาสาระได้ เขียนเนือ้ หาสาระ ถกู ต้อง ตรงประเด็น ถูกต้อง ตรงประเด็น ถกู ต้อง ตรงประเดน็ ไดบ้ า้ ง ใชภ้ าษา ทุกขอ้ และได้ ทกุ ขอ้ และได้ แตใ่ จความวกวน ไม่ถูกตอ้ ง สะกดคำ ใจความต่อเน่ือง ใจความต่อเน่ือง ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง และใช้เคร่ืองหมาย ใช้ภาษาถกู ต้อง ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง สื่อความหมายชดั เจน วรรคตอน ผดิ ๕-๖ สือ่ ความหมายชัดเจน สอื่ ความหมายชดั เจน สะกดคำและใช้ แหง่ ตวั อกั ษรอา่ น ลำดบั ความไม่วกวน ลำดับความไม่วกวน เคร่ืองหมายวรรค ยาก ไม่สะอาด ไม่ สะกดคำและใช้ สะกดคำและใช้ ตอน ผิด ๓-๔ แหง่ เป็นระเบยี บ เครอื่ งหมายวรรค เคร่อื งหมายวรรค ตัวอกั ษรอ่านง่าย ตอนถูกตอ้ ง ตวั อักษร ตอน ผดิ ๑-๒ แหง่ สะอาด ขาดความ อ่านงา่ ย สะอาด ตัวอักษรอา่ นงา่ ย เปน็ ระเบียบ เปน็ ระเบยี บ สะอาด เป็นระเบียบ

8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ ครูใชก้ ารสอนตามข้ันตอน Active learning คือ -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีกับ ผสู้ อนและเพ่ือนในช้นั เรยี น -จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวตั ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนรว่ มในทุกกจิ กรรมรวมทั้งกระตุ้น ให้ผูเ้ รียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ -จัดสภาพการเรียนร้แู บบรว่ มมือ สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การร่วมมอื ในกล่มุ ผ้เู รยี น -จัดกิจกรรมการเรยี นการสอนให้ท้าทาย และใหโ้ อกาสผเู้ รียนไดร้ ับวิธีการสอนท่หี ลากหลาย วางแผน เก่ียวกบั เวลาในการจดั การเรยี นการสอนอยา่ งชดั เจน ท้งั ในสว่ นของเน้อื หา และกจิ กรรม -ครผู สู้ อนใจกว้าง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคดิ ของที่ผ้เู รียน ๑. ครผู ู้สอนตง้ั คำถามกบั นกั เรียนวา่ “การจบั ใจความเร่ืองทีอ่ ่านสำคญั อย่างไร” แลว้ ให้นกั เรยี น เสวนาแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ โดยใชเ้ หตุผลสนับสนนุ ทรรศนะของตนเอง ๒. ให้นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ ผลการเสวนา แล้วนำผลการสรปุ มาใชเ้ ป็นความรู้ในการศกึ ษาเรือ่ ง การอา่ นจบั ใจความ ๓. ให้นักเรยี นศึกษาความรู้เร่ือง “การอ่านจับใจความ” พร้อมการอธบิ ายเพิม่ เตมิ จากครผู ู้สอนโดย นำเสนอตวั อย่างหรอื ประสบการณเ์ พอื่ ใหน้ ักเรียนเข้าใจได้อย่างชัดเจน ข้นั กิจกรรม ๔. ครผู สู้ อนใหน้ กั เรียนจบั กลุม่ อ่านข้อความสนั้ ๆ แล้วใหน้ ักเรียนเขยี นใจความสำคญั ลงในกระดาษ พร้อมกบั สังเกตวิธกี ารอ่านจับใจความของตนเอง เช่น สามารถอ่านแล้วจบั ใจความได้เลย อ่านจับใจความ สำคญั โดยการร่างขอ้ มลู ไว้กอ่ น หรือตอ้ งอ่านมากกวา่ ๑ รอบจึงจะสามารถจับใจความสำคญั ได้ ๕. ครูผสู้ อนรวบรวมวิธีการอ่านจบั ใจความของนกั เรยี นทัง้ ห้องเพือ่ แสดงให้เห็นวธิ ีการอ่านตา่ ง ๆ แลว้ สรุปวิธกี ารอ่านจับใจความทถี่ ูกตอ้ ง และใหค้ วามรเู้ พมิ่ เติมเกีย่ วกบั จดุ มงุ่ หมายของการอา่ นจับใจความ ดังน้ี ๑) สามารถบอกรายละเอียดของเร่ืองราวทอ่ี า่ นได้อยา่ งชดั เจน ๒) สามารถปฏิบัติตามคำสง่ั และคำแนะนำได้ ๓) เพอ่ื ฝกึ การอา่ นเร็วและสามารถตอบคำถามได้ถูกตอ้ ง ๔) สามารถสรปุ หรอื ย่อเรอื่ งท่ีอ่านได้ ๕) อา่ นแลว้ สามารถคาดการณ์ และหาความจริง แสดงข้อคดิ เห็นได้ ๖. ให้นกั เรียนศึกษาความรู้เร่ือง “การอ่านข่าว” พรอ้ มการอธิบายเพ่ิมเติมจากครูผู้สอน โดย สอดแทรกตวั อยา่ งข่าวและใจความสำคญั จากข่าวเพอื่ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจได้อยา่ งชดั เจน ๗. ครูผู้สอนใหน้ ักเรียนอา่ นข่าวจากหนงั สือพิมพ์ แล้วแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ ๕ คน ชว่ ยกนั จับใจความสำคัญ จากขา่ ว เขยี นลงกระดาษ เพอื่ นำเสนอและตอบคำถามของครเู ก่ียวกับข่าวน้ัน แล้วใหน้ กั เรียนและครรู ่วมกนั ประเมินว่ากลุ่มใดจับใจความสำคญั จากขา่ วไดด้ ที ่ีสุดโดยใชค้ วามรทู้ ่ีศึกษาเปน็ ตัวประเมิน ๘. ใหน้ กั เรยี นทำใบงาน การอ่านจบั ใจความเบอ้ื งต้น แล้วร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ขั้นสรปุ ๙. ให้นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปความรู้ ดังนี้

๏ การอา่ นจบั ใจความมุง่ เนน้ การเก็บสาระสำคญั จากเร่อื งที่อา่ น ผอู้ า่ นจงึ ต้องใช้สมาธแิ ละความ เข้าใจ อกี ทั้งยังต้องฝึกฝนเพื่อใหก้ ารอ่านจบั ใจความมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการอา่ นขา่ วที่จะตอ้ งจบั ใจความ สำคัญของขา่ วนนั้ ๆ ให้เข้าใจ เพื่อให้รับข่าวสารไดถ้ กู ต้องชัดเจน ๑๐. ให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ำถามทา้ ทาย ดังน้ี ๏ หากเราอา่ นขา่ วโดยจบั ใจความสำคัญไม่เปน็ อาจจะส่งผลเสียอย่างไรบา้ ง ๑๑. ครผู ู้สอนส่ังงานใหน้ กั เรียนเลอื กเรื่องส้นั ๑ เรอ่ื ง จาก ๒ เร่อื งทค่ี รกู ำหนด เพอ่ื อ่านและทำความ เขา้ ใจกอ่ นศึกษาเรื่อง “การอ่านจบั ใจความเรื่องสัน้ ” ในชั่วโมงตอ่ ไป 9. สือ่ /แหล่งเรยี นรู้ 9.1 สอื่ การเรยี นรู้ ๑. ตัวอยา่ งขอ้ ความสน้ั ๆ ๒. ข่าวจากหนงั สือพิมพ์ ๓. ใบงานเรื่อง การอา่ นจับใจความเบ้ืองตน้ 9.2 แหลง่ เรียนรู้ 1. ข้อมูลจากหนงั สอื หรอื อินเทอรเ์ น็ต

บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้ ท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 การอ่านจับใจความสำคญั เวลา 11 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง การอ่านจบั ใจความสำคญั ขา่ ว เวลา ๑ ชวั่ โมง _______________________________________________________________________________ บนั ทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ ๑. การประเมนิ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นรู้ตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จดุ ประสงค์ ผลการจัดการเรียนรู้ ๑. อธิบายหลักการอา่ นจบั ใจความ (K) จำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด ...........คน จำนวนนกั เรียนท่ผี ่านการประเมนิ ........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ........... จำนวนนกั เรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมิน ........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ........ เลขทนี่ กั เรียนท่ไี มผ่ า่ นการประเมนิ ................................................ ๒. อ่านจบั ใจความข่าว (P) จำนวนนกั เรยี นทั้งหมด ...........คน จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นการประเมนิ ........คน คิดเป็นรอ้ ยละ ........... จำนวนนักเรียนท่ีไมผ่ า่ นการประเมนิ ........คน คิดเป็นรอ้ ยละ ........ เลขท่ีนกั เรียนท่ีไมผ่ ่านการประเมนิ ................................................ ๓. เห็นความสำคญั และตระหนักถงึ จำนวนนกั เรยี นท้ังหมด ...........คน ความสำคญั ของการอา่ นจับใจความ (A) จำนวนนักเรียนทผี่ า่ นการประเมนิ ........คน คิดเป็นรอ้ ยละ ........... จำนวนนักเรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมิน ........คน คิดเป็นร้อยละ ........ เลขทน่ี ักเรยี นทีไ่ มผ่ ่านการประเมนิ ................................................ ๒. การประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ผลการจดั การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ กระตือรอื รน้ ในการ จำนวนนกั เรียนทไ่ี ด้ระดับดีเยยี่ ม................. คน ระดบั ดี ................. คน เรยี น ระดับผ่าน .................... คน ระดบั ไม่ผ่าน ...................... คน เลขทีน่ ักเรยี นที่ไม่ผ่านการประเมนิ ....................................................... ...............................................................................................................

บนั ทกึ เพิ่มเตมิ เกยี่ วกับผลการจัดการเรยี นรตู้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้ ปัญหา/อปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางการแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.....................................................ผู้สอน (นางสาวทรรศนีย์ ตรีเมฆ) ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวณัฏฐนิช โชติณชิ กุล) หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ไทย ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ าร .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ..................................................... (นางวรี วัลย์ เวยี งจันทร์) รองผ้อู ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ าร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ..................................................... (นางสาวกันยาภทั ร ภทั รโสตถิ) ผู้อำนวยการโรงเรยี นชุมชนประชาธิปตั ย์วิทยาคาร

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 การอ่านจับใจความเรือ่ งสน้ั กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหสั ท 32101 ปกี ารศกึ ษา 2565 ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ การอ่านจบั ใจความสำคัญ 1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การอ่านจบั ใจความเร่ืองส้นั ตอ้ งเขา้ ใจจดุ มุง่ หมายของผเู้ ขยี นว่าต้องการส่อื อะไร 2. ตวั ชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพื่อนำไปใชต้ ดั สินใจแกป้ ัญหา ในการดำเนนิ ชวี ติ และมีนิสัยรักการอา่ น ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๒ ตีความ แปลความและขยายความเร่ืองทีอ่ า่ น จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธิบายลกั ษณะการอ่านจับใจความเร่อื งสน้ั (K) ๒. อ่านจบั ใจความเร่ืองสน้ั (P) ๓. มมี ารยาทในการอ่าน (A) 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง การอ่านจับใจความเรอื่ งสั้นต้องเข้าใจจดุ มุ่งหมายของผู้เขียนวา่ ต้องการสือ่ อะไร 3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ - 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน สมรรถนะ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคดิ - ความสามารถในการแก้ปัญหา 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ กระตือรือรน้ ในการเรยี น 6 .ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๑. ฝึกทักษะการอ่านจับใจความเร่ืองสัน้ ๒. ใบงาน เรื่อง การอ่านจบั ใจความเรื่องส้ัน

7. การวัดผลประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ วธิ กี าร แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ ม กิจกรรม กิจกรรม สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนใน ผ่านตงั้ แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผ่าน การเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่าน ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นใน แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก การเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม กจิ กรรมกลุ่ม คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ ตรวจใบงาน ใบงานเร่ือง การอ่านจบั ใจความ คะแนน ๐-๔ ระดับ ควรปรับปรงุ เรอ่ื งสั้น ตามตารางดา้ นล่าง การประเมินใบงาน ให้ผสู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การอ่านจับใจความเร่ืองสั้น เกณฑ์การประเมิน ๔ ระดับคะแนน ๑ ๓๒ การอ่านจับใจความ เขียนแนวคิดสำคญั ของ เขยี นแนวคิดสำคญั เขียนแนวคดิ สำคัญ เขยี นแนวคิดสำคญั เรื่องสนั้ เรือ่ งได้ถกู ต้อง ตรง ของเรื่องไดถ้ กู ตอ้ ง ของเรอื่ งไดถ้ กู ตอ้ ง ของเร่ืองไดบ้ ้าง ประเด็น ตรงประเด็น ตรงประเดน็ ใช้ภาษาไม่ถกู ต้อง ทุกข้อและได้ ทกุ ขอ้ และได้ แต่ใจความวกวน สะกดคำและใช้ ใจความตอ่ เนอ่ื ง ใจความตอ่ เน่อื ง ใช้ภาษาถูกต้อง เครอื่ งหมายวรรคตอน ใช้ภาษาถูกต้อง ใช้ภาษาถกู ต้อง สื่อความหมายชดั เจน ผดิ ๕-๖ แหง่ สื่อความหมายชัดเจน สอ่ื ความหมายชัดเจน สะกดคำและใช้ ตัวอกั ษรอ่านยาก ลำดับความไม่วกวน ลำดับความไม่วกวน เครอ่ื งหมายวรรคตอน ไม่สะอาด ไม่เป็น สะกดคำและใช้ สะกดคำและใช้ ผดิ ๓-๔ แห่ง ระเบียบ เครอื่ งหมายวรรคตอน เคร่ืองหมายวรรคตอน ตวั อกั ษรอา่ นงา่ ย ถกู ตอ้ ง ตวั อกั ษร ผิด ๑-๒ แห่ง สะอาด ขาดความ อ่านง่าย สะอาด ตัวอกั ษรอ่านง่าย เปน็ ระเบียบ เปน็ ระเบียบ สะอาด เป็นระเบียบ

8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ครูใชก้ ารสอนตามขั้นตอน Active learning คือ -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับ ผ้สู อนและเพ่อื นในชน้ั เรียน -จดั กจิ กรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวตั ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกจิ กรรมรวมท้ังกระตุ้น ให้ผู้เรียนประสบความสำเรจ็ ในการเรยี นรู้ -จัดสภาพการเรียนรูแ้ บบรว่ มมือ สง่ เสรมิ ให้เกิดการร่วมมอื ในกลุ่มผู้เรียน -จัดกิจกรรมการเรยี นการสอนใหท้ า้ ทาย และใหโ้ อกาสผเู้ รียนได้รับวิธีการสอนทห่ี ลากหลาย วางแผน เกีย่ วกับเวลาในการจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทง้ั ในสว่ นของเนือ้ หา และกิจกรรม -ครูผูส้ อนใจกวา้ ง ยอมรบั ในความสามารถในการแสดงออก และความคดิ ของทผี่ ้เู รยี น ขัน้ นำ ๑. ครอู ่านเร่อื งสั้นท่ีน่าสนใจและจับใจความเล่าให้นักเรียนฟงั เพอื่ เขา้ สบู่ ทเรียน 2. ใหน้ ักเรียนศึกษาความรู้เรอ่ื ง “การอา่ นจับใจความเรื่องส้ัน” พรอ้ มการอธิบายเพม่ิ เตมิ จาก ครูผสู้ อนโดยนำเสนอตัวอยา่ งเร่อื งสน้ั และใจความสำคญั จากเร่อื งสน้ั เพื่อใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจอยา่ งชัดเจน ขั้นกจิ กรรม ๒. ให้นกั เรยี นจับกลุ่มอ่านจบั ใจความสำคญั จากเร่อื งสั้นทคี่ รูมอบหมายให้และทำใบงาน เรือ่ ง การ อ่านจบั ใจความเรอ่ื งส้ัน โดยกำหนดประเดน็ สำคัญว่า “ใคร ทำอะไร ทไี่ หน อยา่ งไร เมอื่ ไร และทำไม” เพื่อให้ นักเรียนเข้าใจหลกั การอ่านจับใจความเรอื่ งสน้ั เบื้องต้น แล้วเรยี บเรียงถ้อยคำและเน้อื ความให้สมบูรณ์ เพ่อื เตรียมตวั นำเสนอหน้าช้ันเรียน ๓. ครผู ู้สอนใหน้ กั เรยี นมานำเสนอใจความสำคัญจากเรอ่ื งส้ันที่ตนเองอา่ น และให้นกั เรยี นไดศ้ ึกษา และร่วมกนั ประเมนิ การจับใจความสำคญั จากเร่ืองสั้นของกลุ่มเพ่อื นท่ีนำเสนอ ๔. ใหน้ ักเรียนจดบนั ทึกขอ้ มูลจากการประเมิน เพ่ีอหาจุดบกพรอ่ งของตนเองและเพือ่ นท่ีออกมา นำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน แลว้ นำมาปรับแก้ผลงานของตนเอง ข้นั สรุป 5.ให้นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ ๏ การอ่านจับใจความเรอ่ื งสั้นต้องเขา้ ใจจดุ ม่งุ หมายของผเู้ ขยี นว่าตอ้ งการสอื่ อะไร 6. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดงั น้ี ๏ เพราะเหตุใดเราจึงควรฝึกทกั ษะในการอ่านจับใจความ 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 9.1 สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. เรอื่ งส้ันที่ครูกำหนดให้อา่ น ๒. ใบงานเรื่อง การอ่านจบั ใจความเรอ่ื งสน้ั 9.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ข้อมลู จากหนงั สอื หรืออินเทอร์เนต็

บันทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 การอ่านจับใจความสำคัญ เวลา 11 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒ เรื่อง การอา่ นจบั ใจความสำคัญเรอ่ื งส้นั เวลา ๑ ชว่ั โมง _______________________________________________________________________________ บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ๑. การประเมนิ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นรูต้ ามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ ผลการจดั การเรียนรู้ ๑. อธบิ ายลกั ษณะการอา่ นจบั ใจความ จำนวนนักเรยี นทงั้ หมด ...........คน เรื่องสั้น (K) จำนวนนกั เรยี นที่ผา่ นการประเมิน ........คน คิดเป็นรอ้ ยละ ........... จำนวนนกั เรียนทีไ่ มผ่ ่านการประเมนิ ........คน คดิ เป็นร้อยละ ........ เลขทีน่ กั เรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมนิ ................................................ ๒. อา่ นจบั ใจความเร่ืองส้ัน (P) จำนวนนักเรยี นทัง้ หมด ...........คน จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นการประเมิน ........คน คิดเปน็ ร้อยละ ........... จำนวนนกั เรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมิน ........คน คิดเปน็ ร้อยละ ........ เลขที่นกั เรียนทไ่ี ม่ผ่านการประเมนิ ................................................ ๓. มีมารยาทในการอ่าน (A) จำนวนนักเรียนทงั้ หมด ...........คน จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านการประเมิน ........คน คดิ เป็นร้อยละ ........... จำนวนนกั เรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมิน ........คน คดิ เปน็ ร้อยละ ........ เลขทน่ี กั เรยี นท่ไี มผ่ า่ นการประเมนิ ................................................ ๒. การประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการจดั การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ กระตอื รือรน้ ในการ จำนวนนกั เรียนท่ีได้ระดับดเี ยีย่ ม................. คน ระดบั ดี ................. คน เรียน ระดบั ผ่าน .................... คน ระดับไมผ่ ่าน ...................... คน เลขท่นี กั เรียนทีไ่ ม่ผ่านการประเมิน ....................................................... ...............................................................................................................

บนั ทกึ เพ่มิ เติมเกี่ยวกบั ผลการจดั การเรียนรู้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ ปญั หา/อุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางการแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .....................................................ผู้สอน (นางสาวทรรศนยี ์ ตรีเมฆ) ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวณัฏฐนชิ โชตณิ ชิ กุล) หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนร้ไู ทย ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ..................................................... (นางวรี วลั ย์ เวียงจันทร์) รองผ้อู ำนวยการกล่มุ บรหิ ารวิชาการ ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ..................................................... (นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถ)ิ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 การอ่านจบั ใจความนวนิยาย กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย รหสั ท 32101 ปีการศกึ ษา 2565 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน 1 ช่วั โมง ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ การอา่ นจบั ใจความสำคญั 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด นวนิยายมีองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ซับซ้อนกว่าเร่อื งสั้น ผู้อา่ นจงึ ตอ้ งใช้ทักษะและความเชีย่ วชาญในการ อา่ นจบั ใจความมากกว่าการอา่ นจบั ใจความเรอื่ งสั้น 2. ตัวชวี้ ดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพอ่ื นำไปใชต้ ดั สินใจแก้ปญั หา ในการดำเนินชวี ิต และมนี ิสัยรกั การอ่าน ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๒ ตีความ แปลความและขยายความเรอื่ งที่อ่าน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธิบายลักษณะการอา่ นจับใจความนวนิยาย (K) ๒. อ่านจบั ใจความนวนยิ าย (P) ๓. มีมารยาทในการอ่าน (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง การอ่านจบั ใจความนวนยิ าย 3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ - 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น สมรรถนะ - ความสามารถในการส่อื สาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการแกป้ ัญหา 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ กระตือรือร้นในการเรยี น แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ ท้ังภายในและ ภายนอกโรงเรียนด้วยการเลอื กใชส้ ่อื อยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ สามารถ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้

6 .ช้ินงาน/ภาระงาน ๑. อธิบายลักษณะการอ่านจบั ใจความนวนิยาย (K) ๒. อา่ นจับใจความนวนยิ าย (P) ๓. เหน็ ความสำคัญและตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านจบั ใจความ (A) 7. การวัดผลประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์ วิธกี าร แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนใน กจิ กรรม กจิ กรรม การเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านตัง้ แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นใน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม คะแนน ๙-๑๐ ระดับ ดีมาก การเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ กจิ กรรมกลุ่ม คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ครูใชก้ ารสอนตามขั้นตอน Active learning คือ -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีกับ ผสู้ อนและเพ่ือนในชัน้ เรียน -จดั กิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวตั ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนรว่ มในทุกกจิ กรรมรวมท้ังกระตุ้น ใหผ้ ูเ้ รียนประสบความสำเรจ็ ในการเรยี นรู้ -จัดสภาพการเรยี นรู้แบบร่วมมือ สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การร่วมมือในกล่มุ ผู้เรยี น -จดั กิจกรรมการเรียนการสอนใหท้ า้ ทาย และใหโ้ อกาสผู้เรียนไดร้ ับวธิ ีการสอนทห่ี ลากหลาย วางแผน เก่ียวกบั เวลาในการจดั การเรยี นการสอนอย่างชัดเจน ทง้ั ในสว่ นของเนอ้ื หา และกจิ กรรม -ครูผู้สอนใจกวา้ ง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดของท่ผี ู้เรียน ข้ันนำ ๑. ให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ำถามทา้ ทาย ดังนี้ ๏ นวนิยายแตกต่างจากเรื่องส้นั อยา่ งไร ๒. ใหน้ กั เรยี นศึกษาความร้เู รื่อง “การอา่ นจับใจความนวนยิ าย” พรอ้ มการอธบิ ายเพ่มิ เตมิ จากครูผสู้ อน โดยนำเสนอตัวอยา่ งนวนิยายและใจความสำคัญจากนวนิยายเพื่อใหน้ กั เรียนเข้าใจอยา่ งชดั เจน

ขั้นกจิ กรรม ๓. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๕ คน ช่วยกันจับใจความสำคัญและสรปุ แนวคดิ ท่ีได้จากนวนยิ าย เรือ่ ง ประเทศใต้ หรอื เรื่องอนื่ ท่คี รูสงั่ ใหไ้ ปอ่านเม่ือช่วั โมงท่ีแลว้ นำเสนอหน้าชั้นเรยี นแลว้ ใหน้ กั เรยี นและครู รว่ มกนั ประเมนิ ว่ากล่มุ ใดจับใจความสำคัญและสรุปแนวคดิ ได้ถูกตอ้ งและครบถ้วนมากที่สดุ โดยใชค้ วามรทู้ ี่ ศึกษาเปน็ ตัวประเมนิ ๔. ครูผู้สอนขออาสาสมัครจากนักเรียน ๓-๕ คน เลา่ ให้เพือ่ นฟังเกี่ยวกับนวนิยายที่เคยอ่าน โดย นำเสนอเรอื่ งยอ่ ใจความสำคัญ และแนวคิดท่ีได้จากนวนิยายเร่อื งนนั้ แล้วให้นกั เรียนช่วยกันตดั สนิ ว่าคนใด นำเสนอ ได้ดที ่ีสดุ โดยวดั จากความรู้สกึ ว่าฟังแลว้ อยากอา่ นนวนิยายเรอ่ื งนั้น ๆ ขนั้ สรปุ ๕.ใหน้ กั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี้ ๏ นวนยิ ายมีองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ซบั ซอ้ นกว่าเรอื่ งส้ัน ผู้อา่ นจงึ ตอ้ งใช้ทกั ษะและความเช่ยี วชาญในการ อ่านจับใจความมากกวา่ การอ่านจับใจความเรื่องส้นั ๖. ให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ ๕ คน ครูผู้สอนส่งั งานให้นกั เรยี นอ่านวรรณกรรมพ้ืนบ้านกลุ่มละ ๑ เรื่อง โดยครูผสู้ อนเป็นผ้กู ำหนดหรอื นักเรยี นเสนอเรื่องท่ีตนเองชอบกไ็ ด้ เพือ่ ทำความเขา้ ใจกอ่ นศกึ ษาเรื่อง การอา่ นจับ ใจความวรรณกรรมพ้นื บา้ น ในชว่ั โมงต่อไป 9. สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ ๑. ใบความรเู้ รื่องนวนิยาย ๒. ตัวอยา่ งนวนยิ าย 9.2 แหล่งเรยี นรู้ 1. ขอ้ มูลจากหนงั สอื หรอื อินเทอร์เน็ต

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 การอ่านจับใจความวรรณกรรมพื้นบา้ น กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย รหสั ท 32101 ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 ช่อื หน่วยการเรียนรู้ การอ่านจับใจความสำคัญ เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง 1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การอา่ นจบั ใจความวรรณกรรมพน้ื บ้านทำใหเ้ ราได้รูแ้ ละเข้าใจถึงสภาพชวี ติ ของคนสมัยก่อน แล้วนำ แงค่ ดิ มาเป็นตัวอยา่ งในการดำเนินชีวิตที่ดีได้ 2. ตัวชวี้ ัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตัวชว้ี ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพือ่ นำไปใชต้ ัดสนิ ใจแก้ปญั หา ในการดำเนนิ ชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๓ วิเคราะห์และวจิ ารณเ์ รื่องท่ีอ่านในทกุ ๆ ด้านอยา่ งมเี หตุผล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธิบายลกั ษณะการอา่ นจับใจความวรรณกรรมพน้ื บ้าน (K) ๒. อา่ นจับใจความวรรณกรรมพืน้ บา้ น (P) ๓. เหน็ ความสำคัญและตระหนักถงึ ความสำคัญของการอ่านจับใจความ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง การอ่านจับใจความวรรณกรรมพ้นื บ้าน 3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ - วรรณกรรมพื้นบ้านท้องถนิ่ 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น สมรรถนะ - ความสามารถในการส่อื สาร - ความสามารถในการคดิ - ความสามารถในการแก้ปญั หา 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ กระตอื รอื รน้ ในการเรยี น แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ ทั้งภายในและ ภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลือกใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ สามารถ นำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้

6 .ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๑. ฝึกทักษะการอ่านจบั ใจความวรรณกรรมพ้ืนบ้าน ๒. ใบงาน เร่อื ง การอ่านจับใจความวรรณกรรมพนื้ บา้ น 7. การวัดผลประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ วธิ ีการ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วม สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนใน กจิ กรรม กิจกรรม การเข้าร่วมกจิ กรรม ผา่ นตั้งแต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถอื วา่ ไม่ผ่าน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นใน แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วม คะแนน ๙-๑๐ ระดับ ดีมาก การเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ กจิ กรรมกล่มุ คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง ตามตารางดา้ นล่าง การประเมินใบงาน ให้ผสู้ อนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การอา่ นจับใจความวรรณกรรมพื้นบ้าน เกณฑ์การประเมนิ ๔ ระดับคะแนน ๑ ๓๒ การอา่ นจับใจความ เขยี นเนือ้ หาสาระได้ เขยี นเนือ้ หาสาระได้ เขยี นเนอ้ื หาสาระได้ เขียนเนื้อหาสาระได้ วรรณกรรมพ้นื บ้าน ถูกตอ้ ง ตรงประเดน็ ถกู ตอ้ ง ตรงประเด็น ถกู ตอ้ ง ตรงประเดน็ บา้ ง ใช้ภาษาไมถ่ กู ตอ้ ง และได้ใจความตอ่ เน่ือง และได้ใจความตอ่ เนือ่ ง แตใ่ จความวกวน สะกดคำและใช้ ใชภ้ าษาถูกต้อง ใช้ภาษาถกู ต้อง ใช้ภาษาถกู ตอ้ ง เครื่องหมายวรรคตอน สื่อความหมายชัดเจน สือ่ ความหมายชัดเจน ส่อื ความหมายชดั เจน ผิด ๕-๖ แหง่ ลำดับความไมว่ กวน ลำดับความไม่วกวน สะกดคำและใช้ ตัวอกั ษรอ่านยาก สะกดคำและใช้ สะกดคำและใช้ เครื่องหมายวรรคตอน ไมส่ ะอาด ไมเ่ ป็น เครอื่ งหมายวรรคตอน เคร่ืองหมายวรรคตอน ผดิ ๓-๔ แห่ง ระเบยี บ ถูกตอ้ ง ตวั อักษร ผิด ๑-๒ แห่ง ตวั อกั ษรอ่านง่าย อา่ นง่าย สะอาด ตวั อักษรอ่านงา่ ย สะอาด ขาดความ เป็นระเบยี บ สะอาด เปน็ ระเบยี บ เป็นระเบียบ

8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ครูใชก้ ารสอนตามขัน้ ตอน Active learning คอื -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับ ผูส้ อนและเพ่ือนในชนั้ เรยี น -จดั กิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสว่ นรว่ มในทุกกจิ กรรมรวมท้ังกระตุ้น ให้ผู้เรยี นประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ -จัดสภาพการเรยี นรูแ้ บบร่วมมอื ส่งเสริมให้เกดิ การรว่ มมือในกลมุ่ ผเู้ รยี น -จดั กิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และใหโ้ อกาสผู้เรียนได้รับวธิ ีการสอนท่หี ลากหลาย วางแผน เกยี่ วกบั เวลาในการจัดการเรยี นการสอนอย่างชดั เจน ทัง้ ในสว่ นของเนือ้ หา และกจิ กรรม -ครผู ู้สอนใจกวา้ ง ยอมรบั ในความสามารถในการแสดงออก และความคดิ ของที่ผูเ้ รียน ขั้นนำ ๑. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดังน้ี ๏ วรรณกรรมพ้นื บา้ นแตกตา่ งจากนวนยิ ายอยา่ งไร ๒. ให้นกั เรยี นศึกษาความรูเ้ รื่อง “การอา่ นจบั ใจความวรรณกรรมพ้ืนบา้ น” พร้อมการอธบิ ายเพิม่ เตมิ จากครผู ู้สอน โดยนำเสนอตัวอย่างวรรณกรรมพื้นบา้ นและใจความสำคัญจากวรรณกรรมพนื้ บา้ นเพอ่ื ใหน้ ักเรยี น เขา้ ใจอย่างชดั เจน ขั้นกจิ กรรม ๓. ใหน้ กั เรยี นจัดกลมุ่ ตามที่ไดแ้ บง่ ไวต้ ั้งแต่ช่วั โมงทแ่ี ลว้ จับใจความสำคญั และสรุปแนวความคิดที่ ไดจ้ ากวรรณกรรมพื้นบา้ นทก่ี ล่มุ ของตนได้รบั จากครผู สู้ อนหรือเร่อื งท่ีนกั เรยี นเลือกเอง นำเสนอหน้าช้ันเรยี น โดยเล่าเรื่องย่อ บอกใจความสำคัญและแนวความคดิ ทไี่ ดร้ ับ แลว้ สรปุ วา่ จะนำแนวความคิดไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวันอย่างไร ๔. ใหน้ ักเรียนทง้ั หอ้ งจดบนั ทึกขณะเพื่อนนกั เรยี นนำเสนอหนา้ ชน้ั ว่า การนำเสนอเป็นอย่างไร ใจความสำคัญและแนวความคิดสัมพนั ธ์กับเร่ืองย่อหรอื ไม่ แลว้ ให้ทั้งหอ้ งตั้งคำถามจากเน้อื หาท่นี ำเสนอ ๑-๒ คำถาม โดยให้ ผู้นำเสนอเปน็ ผตู้ อบคำถาม ๕. ครูผูส้ อนแจกใบความรเู้ รอื่ ง วรรณกรรมพ้ืนบา้ นเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ให้นักเรียนอ่าน ๖. ใหน้ กั เรียนทำใบงาน เร่ือง การอา่ นจับใจความวรรณกรรมพืน้ บ้าน แลว้ รว่ มกันตรวจสอบ ความถูกต้อง ขน้ั สรุป ๗. ใหน้ ักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ๏ การอา่ นจบั ใจความวรรณกรรมพ้นื บา้ นทำใหเ้ ราได้รูแ้ ละเขา้ ใจถึงสภาพชีวิตของคน สมยั ก่อน แลว้ นำแง่คิดมาเป็นตวั อย่างในการดำเนินชวี ิตทดี่ ีได้ ๘. ครูผสู้ อนส่งั ให้นกั เรียนหาบทโฆษณาจากหนงั สือพมิ พ์ นิตยสาร หรอื อนิ เทอร์เน็ต เพื่ออ่านและ ทำความเขา้ ใจก่อนศึกษาเรอ่ื งการอา่ นจบั ใจความโฆษณา ในชั่วโมงตอ่ ไป

9. ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ ๑. วรรณกรรมพน้ื บา้ นเร่อื งต่าง ๆ ทค่ี รูกำหนดให้อ่าน ๒. ตวั อยา่ งวรรณกรรมพ้ืนบ้าน ๓. ใบความรู้ เร่ือง สงั ขท์ อง ๔. ใบงานเรือ่ ง การอา่ นจับใจความวรรณกรรมพ้ืนบา้ น 9.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ข้อมลู จากหนงั สอื หรืออินเทอร์เน็ต

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 การอา่ นจับใจความบทโฆษณา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหสั ท 32101 ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ การอา่ นจับใจความสำคัญ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การอา่ นจับใจความบทโฆษณาทำใหท้ ราบและเข้าใจขอ้ มลู เกีย่ วกับโฆษณาได้ถกู ต้องและครบถ้วน ตรงประเด็น อกี ท้ังยงั สามารถวิเคราะห์ความนา่ เชื่อถือของโฆษณาน้ัน ๆ ไดอ้ กี ด้วย 2. ตวั ช้ีวดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ เพือ่ นำไปใชต้ ดั สินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอา่ น ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๓ วเิ คราะห์และวิจารณ์เรอ่ื งทีอ่ ่านในทกุ ๆ ด้านอย่างมเี หตผุ ล จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายลกั ษณะการอ่านจับใจความบทโฆษณา (K) ๒. อา่ นจับใจความบทโฆษณา (P) ๓. มมี ารยาทในการอ่าน (A) 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง การอ่านจบั ใจความบทโฆษณา 3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ - 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น สมรรถนะ - ความสามารถในการสือ่ สาร - ความสามารถในการคดิ - ความสามารถในการแกป้ ญั หา 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ กระตือรอื รน้ ในการเรยี น แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนด้วยการเลือกใชส้ ือ่ อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ สามารถ นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้

6 .ช้ินงาน/ภาระงาน ฝกึ ทักษะการอ่านจับใจความบทโฆษณา 7. การวัดผลประเมินผล วิธีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนใน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วม การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วม การเขา้ รว่ มกิจกรรม กจิ กรรม กิจกรรม ผา่ นตงั้ แต่ ๒ รายการ ถือว่า ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ ่าน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนใน แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดมี าก การเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ กิจกรรมกลุม่ คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรงุ 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ครูใชก้ ารสอนตามขนั้ ตอน Active learning คือ -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีกับ ผู้สอนและเพือ่ นในช้ันเรียน -จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวตั ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสว่ นร่วมในทุกกจิ กรรมรวมท้ังกระตุ้น ใหผ้ ู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรยี นรู้ -จดั สภาพการเรยี นรแู้ บบร่วมมอื สง่ เสริมใหเ้ กิดการร่วมมือในกลุ่มผ้เู รยี น -จัดกิจกรรมการเรียนการสอนใหท้ ้าทาย และให้โอกาสผเู้ รียนได้รับวิธีการสอนท่หี ลากหลาย วางแผน เกย่ี วกับเวลาในการจัดการเรยี นการสอนอย่างชดั เจน ท้ังในส่วนของเนือ้ หา และกจิ กรรม -ครูผสู้ อนใจกวา้ ง ยอมรบั ในความสามารถในการแสดงออก และความคิดของทีผ่ ู้เรียน ข้นั นำ ๑.ใหน้ กั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดังนี้ ๏ การอ่านจบั ใจความบทโฆษณามคี วามจำเปน็ อย่างไร ๒. ให้นักเรียนศึกษาความรเู้ รือ่ ง “การอ่านจบั ใจความบทโฆษณา” พร้อมการอธิบายเพม่ิ เตมิ จาก ครูผูส้ อน โดยนำเสนอตัวอยา่ งบทโฆษณาและใจความสำคญั จากบทโฆษณา เพ่อื ใหน้ กั เรยี นเข้าใจอย่างชัดเจน ข้นั กิจกรรม ๓. ใหน้ ักเรียนจบั ใจความสำคัญจากบทโฆษณาท่ีครสู ่ังใหไ้ ปหาเมื่อชัว่ โมงท่ีแลว้ แลว้ วิเคราะห์ ความนา่ เชื่อถอื ของบทโฆษณาโดยระบุ ชื่อและประเภทของสนิ คา้ หรือบรกิ าร รายละเลียดของสนิ คา้ หรือ บริการ และความนา่ เชอื่ ถอื ของสินค้าหรอื บริการ เพ่ือเตรยี มนำเสนอหน้าชัน้ เรียน

๔. ครูผสู้ อนสมุ่ เลือกนักเรียน ๕-๑๐ คน มานำเสนอใจความสำคัญและความนา่ เช่ือถอื ของบทโฆษณา ทต่ี นเองอา่ น แลว้ ให้นักเรยี นและครรู ่วมกนั ประเมนิ ว่าคนใดจบั ใจความสำคญั และวิเคราะหบ์ ทโฆษณาได้ดี ที่สดุ โดยใช้ความรทู้ ่ีศึกษาเป็นตัวประเมินครูให้ความร้เู พมิ่ เติมเกี่ยวกบั การวเิ คราะห์ความน่าเช่อื ถือของ บทโฆษณา เพอื่ เปน็ เกณฑใ์ หน้ ักเรียนแลกกนั ตรวจผลงาน ๕. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั เสวนาแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ในหัวข้อ “บทความโฆษณาทด่ี ีควรมี องค์ประกอบใดบ้าง” แล้วใหน้ กั เรียนและครรู ว่ มกันสรุปผลการเสวนา ข้ันสรปุ ๖. ใหน้ ักเรียนและครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ดังน้ี ๏ การอ่านจับใจความบทโฆษณาทำใหท้ ราบและเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาได้ถูกตอ้ งและครบถ้วน ตรงประเด็นอกี ทั้งยงั สามารถวเิ คราะห์ความน่าเชื่อถอื ของโฆษณานน้ั ๆ ได้อีกด้วย ๗. ครผู สู้ อนสงั่ งานให้นกั เรยี นอ่านปาฐกถาพิเศษของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เรือ่ ง ความเปน็ คนไทย ด้วยจติ วญิ ญาณ เพื่อทำความเขา้ ใจกอ่ นศกึ ษาเรื่อง การอ่านจบั ใจความจากปาฐกถา ในชวั่ โมงต่อไป 9. ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรยี นรู้ ตวั อยา่ งบทโฆษณาจากหนงั สือพิมพ์ นติ ยสาร หรืออินเทอร์เน็ต 9.2 แหลง่ เรยี นรู้ ตัวอยา่ งบทโฆษณาจากหนังสือพิมพ์ นติ ยสาร หรอื อนิ เทอรเ์ น็ต

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 การอ่านจบั ใจความจากปาฐกถา กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหัส ท 32101 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ การอา่ นจับใจความสำคัญ เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง 1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การอ่านจบั ใจความจากปาฐกถาตอ้ งพิจารณาจุดมุ่งหมายของผูพ้ ดู วา่ ต้องการใหค้ วามรูห้ รือแสดง ความคดิ เห็นเกี่ยวกับเรื่องใด เพื่อให้สามารถจับใจความสำคญั ไดถ้ กู ต้องและเข้าใจเร่ืองทอ่ี า่ น 2. ตวั ชี้วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพอ่ื นำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปญั หา ในการดำเนนิ ชวี ิต และมีนสิ ยั รักการอา่ น ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๔ คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเร่ืองทอ่ี า่ นและประเมินค่าเพ่ือนำความรู้ความคิด จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อธิบายลักษณะการอ่านจับใจความจากปาฐกถา (K) ๒. อา่ นจบั ใจความจากปาฐกถา (P) ๓. เห็นความสำคญั และตระหนักถงึ ความสำคัญของการอา่ นจบั ใจความ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง การอา่ นจบั ใจความจากปาฐกถา 3.2 สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน - 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น สมรรถนะ - ความสามารถในการสอื่ สาร - ความสามารถในการคดิ - ความสามารถในการแก้ปัญหา 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ กระตอื รือรน้ ในการเรียน แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ ่าง ๆ ทัง้ ภายในและ ภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการเลอื กใช้สอ่ื อย่างเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ สามารถ นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้

6 .ช้ินงาน/ภาระงาน ๑.ฝึกทักษะการอา่ นจับใจความจากปาฐกถา ๒.ใบงานเรอ่ื ง การอ่านจับใจความจากปากฐกถา 7. การวัดผลประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์ วธิ กี าร แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วม การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วม สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนใน กิจกรรม กจิ กรรม การเขา้ ร่วมกิจกรรม ผ่านตง้ั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนใน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วม คะแนน ๙-๑๐ ระดับ ดีมาก การเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ กิจกรรมกล่มุ คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง ตามตารางดา้ นล่าง การประเมนิ ใบงาน ให้ผู้สอนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การอ่านจบั ใจความจากปาฐกถา เกณฑก์ ารประเมนิ ๔ ระดับคะแนน ๑ ๓๒ การอา่ นจับใจความ เขยี นเนือ้ หาสาระ เขยี นเน้อื หาสาระ เขยี นเนอ้ื หาสาระ เขียนเนอ้ื หาสาระ จากปาฐกถา และบรรยายความรู้ และบรรยายความรู้ และบรรยายความรู้ และบรรยายความรู้ ไดถ้ กู ต้อง ตรงประเด็น ไดถ้ กู ตอ้ ง ตรงประเดน็ ไดถ้ ูกต้อง ตรงประเด็น ไดบ้ า้ ง ใชภ้ าษา ทกุ ขอ้ และได้ ทุกขอ้ และได้ แต่ใจความวกวน ไมถ่ กู ตอ้ งสะกดคำและ ใจความต่อเนอื่ ง ใจความต่อเนอื่ ง ใช้ภาษาถกู ตอ้ ง ใช้เครอื่ งหมายวรรค ใชภ้ าษาถกู ต้อง ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง สื่อความหมายชดั เจน ตอน ผดิ ๕-๖ แห่ง สือ่ ความหมายชัดเจน ส่ือความหมายชัดเจน สะกดคำและใช้ ตัวอกั ษรอา่ นยาก ไม่ ลำดบั ความไมว่ กวน ลำดบั ความไม่วกวน เคร่อื งหมายวรรคตอน สะอาด ไม่เป็นระเบยี บ สะกดคำและใช้ สะกดคำและใช้ ผิด ๓-๔ แห่ง เคร่ืองหมายวรรคตอน เครอ่ื งหมายวรรคตอน ตวั อกั ษรอ่านงา่ ย ถูกต้อง ตวั อกั ษร ผดิ ๑-๒ แหง่ สะอาด ขาดความ อ่านง่าย สะอาด ตวั อักษรอา่ นงา่ ย เป็นระเบยี บ เปน็ ระเบยี บ สะอาด เป็นระเบยี บ

8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ครูใชก้ ารสอนตามขั้นตอน Active learning คือ -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีกับ ผ้สู อนและเพ่อื นในชัน้ เรยี น -จดั กิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสว่ นรว่ มในทุกกิจกรรมรวมท้ังกระตุ้น ใหผ้ เู้ รยี นประสบความสำเร็จในการเรยี นรู้ -จัดสภาพการเรยี นรูแ้ บบร่วมมือ ส่งเสรมิ ให้เกิดการร่วมมือในกล่มุ ผเู้ รียน -จดั กิจกรรมการเรียนการสอนให้ทา้ ทาย และให้โอกาสผู้เรียนไดร้ ับวิธีการสอนทห่ี ลากหลาย วางแผน เกี่ยวกับเวลาในการจัดการเรียนการสอนอย่างชดั เจน ทง้ั ในสว่ นของเนอ้ื หา และกจิ กรรม -ครผู สู้ อนใจกวา้ ง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดของทีผ่ ู้เรียน ข้นั นำ ๑. ครผู สู้ อนตง้ั คำถามกบั นักเรียนวา่ “ปาฐกถาคอื อะไร” เพื่อวดั ความรูเ้ บ้ืองต้นของนักเรยี น แลว้ ครูจึง สรปุ คำตอบทีถ่ กู ต้องเพ่ือให้นักเรยี นเขา้ ใจตรงกัน ๒. ให้นกั เรยี นศึกษาความรเู้ รอื่ ง “การอ่านจบั ใจความจากปาฐกถา” พร้อมการอธบิ ายเพมิ่ เตมิ จาก ครูผสู้ อน โดยนำเสนอตัวอยา่ งปาฐกถาและใจความสำคญั จากปาฐกถา เพือ่ ให้นกั เรยี นเขา้ ใจอยา่ งชัดเจน ขน้ั กิจกรรม ๓. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กล่มุ กลุม่ ละ ๕ คน จับใจความสำคญั จากปาฐกถาพเิ ศษของพลเอกเปรม ติณสูลา นนท์ เรือ่ ง “ความเปน็ คนไทยดว้ ยจิตวิญญาณ” ท่คี รสู ่ังให้อา่ นเมื่อช่ัวโมงที่แลว้ โดยบอกใจความสำคัญและ การนำข้อคดิ ท่ีได้รับไปใช้ในชวี ติ ประจำวันนำเสนอหนา้ ช้ันเรียน ๔. ให้นกั เรยี นทั้งหอ้ งจดบันทึกขณะเพอ่ื นนักเรยี นนำเสนอหนา้ ช้นั เรยี นวา่ การนำเสนอเปน็ อยา่ งไร ใจความสำคญั และการนำไปใช้สัมพนั ธ์กับปาฐกถาหรือไม่ และมีเน้ือหาทแี่ ตกต่างจากกลมุ่ ตนเองอยา่ งไรบา้ ง หากมีเน้อื หาการนำเสนอแตกต่างกนั ให้ตั้งคำถามผู้นำเสนอเพอ่ื คน้ หาเหตุผล ๕. ให้นกั เรียนและครูร่วมกันสรุปใจความสำคัญจากปาฐกถา และครูผู้สอนยกตวั อยา่ งการนำไปใช้ เพ่มิ เตมิ ๖. ครูผสู้ อนแจกใบความรเู้ รอ่ื ง ปาฐกถาพเิ ศษของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เร่ือง “ภาษาไทย ภาษา แม”่ ให้นกั เรยี นอา่ น ๗. ให้นกั เรยี นทำใบงาน เรอื่ ง การอ่านจบั ใจความจากปาฐกถา แล้วรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ขัน้ สรปุ ๘. ให้นักเรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั นี้ ๏ การอ่านจับใจความจากปาฐกถาตอ้ งพจิ ารณาจุดมุ่งหมายของผู้พดู วา่ ตอ้ งการให้ความร้หู รอื แสดง ความคดิ เห็นเกยี่ วกับเร่อื งใด เพอ่ื ให้สามารถจับใจความสำคัญไดถ้ กู ต้อง และเข้าใจเร่อื งทอี่ ่าน ๙. ใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดังน้ี ๏ การอา่ นจับใจความจากปาฐกถามคี ุณค่าในด้านใดบา้ ง ๑๐. ให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ ๕ คน ครูผู้สอนสั่งงานใหน้ กั เรียนหาบทเทศนาทีม่ ีความยาวประมาณ ๑๕-๒๐ บรรทัด กล่มละ ๑ บท เพื่ออ่านและทำความเข้าใจก่อนศึกษาเร่อื ง การอา่ นจบั ใจความข้อความประเภท เทศนา ในช่วั โมงต่อไป

9. ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรียนรู้ ๑. ปาฐกถาพเิ ศษเร่อื ง ความเปน็ คนไทยดว้ ยจติ วิญญาณ ของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ๒. ตัวอย่างปาฐกถา ๓. ใบงานท่ี ๒๔ เรื่อง การอา่ นจับใจความจากปาฐกถา ๔. ปาฐกถาพเิ ศษเรอื่ ง ภาษาไทย ภาษาแม่ ของ พลเอกเปรม ตณิ สูลานนท์ 9.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ขอ้ มลู จากหนังสือหรืออินเทอรเ์ นต็

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 การอ่านจบั ใจความขอ้ ความประเภทเทศนา กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย รหัส ท 32101 ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ การอ่านจบั ใจความสำคญั เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง 1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด ขอ้ ความประเภทเทศนาเป็นขอ้ ความทเ่ี กย่ี วกับคำสอนทางศาสนา ผู้อ่านตอ้ งเข้าใจใจความสำคัญ จึง จะสามารถคิดไตรต่ รองพิจารณาเพ่อื จะนำคำส่ังสอนนน้ั ไปปฏิบตั เิ พ่ือให้เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเอง 2. ตัวช้วี ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้ ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพอื่ นำไปใชต้ ดั สนิ ใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสยั รักการอ่าน ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๕ วิเคราะห์ วิจารณแ์ สดงความคดิ เห็นโตแ้ ย้งเก่ียวกับเรอื่ งทีอ่ ่าน และเสนอ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายลกั ษณะการอา่ นจบั ใจความข้อความประเภทเทศนา (K) ๒. อ่านจบั ใจความข้อความประเภทเทศนา (P) ๓. มมี ารยาทในการอา่ น (A) 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง การอ่านจบั ใจความประเภทเทศนา 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น - 4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน สมรรถนะ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการแกป้ ญั หา 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ กระตือรอื รน้ ในการเรยี น แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรยี นร้ตู า่ ง ๆ ท้ังภายในและ ภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลอื กใช้ส่อื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ สามารถ นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้

6 .ชิน้ งาน/ภาระงาน ๑. ฝึกทักษะการอ่านจับใจความประเภทเทศนา ๒. ใบงาน เรื่อง การอา่ นจบั ใจความข้อความประเภทเทศนา 7. การวัดผลประเมินผล วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นใน แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วม การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วม การเข้ารว่ มกิจกรรม กิจกรรม กิจกรรม ผ่านต้ังแต่ ๒ รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนใน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดมี าก การเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ กิจกรรมกลุม่ คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๐-๔ ระดับ ควรปรบั ปรุง ตามตารางด้านล่าง การประเมินใบงาน ให้ผสู้ อนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรอื่ ง การอ่านจับใจความข้อความประเภทเทศนา เกณฑ์การประเมิน ๔ ระดบั คะแนน ๑ ๓๒ การอา่ นจับใจความ บอกใจความสำคัญของ บอกใจความสำคญั บอกใจความสำคัญ บอกใจความสำคญั ข้อความประเภทเทศนา ขอ้ ความได้ถกู ต้อง ตรง ของข้อความได้ถกู ต้อง ของข้อความได้ถูกต้อง ของข้อความได้บา้ ง ประเด็น ตรงประเดน็ ตรงประเดน็ ใชภ้ าษาไม่ถกู ต้อง ได้ใจความตอ่ เน่อื ง ได้ใจความต่อเนือ่ ง แต่ใจความวกวน สะกดคำและใช้ ใชภ้ าษาถูกต้อง ใชภ้ าษาถกู ต้อง ใช้ภาษาถูกตอ้ ง เคร่อื งหมายวรรคตอน สอื่ ความหมายชัดเจน สือ่ ความหมายชดั เจน สอ่ื ความหมายชดั เจน ผดิ ๕-๖ แห่ง ลำดับความไม่วกวน ลำดับความไมว่ กวน สะกดคำและใช้ ตัวอักษรอ่านยาก สะกดคำและใช้ สะกดคำและใช้ เครอ่ื งหมายวรรคตอน ไมส่ ะอาด ไม่เป็น เครอื่ งหมายวรรคตอน เครอ่ื งหมายวรรคตอน ผดิ ๓-๔ แหง่ ระเบยี บ ถกู ต้อง ตัวอักษร ผดิ ๑-๒ แหง่ ตัวอักษรอา่ นง่าย อ่านงา่ ย สะอาด ตัวอักษรอา่ นงา่ ย สะอาด ขาดความ เป็นระเบียบ สะอาด เปน็ ระเบียบ เปน็ ระเบยี บ

8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ครูใชก้ ารสอนตามข้ันตอน Active learning คอื -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับ ผ้สู อนและเพือ่ นในชน้ั เรียน -จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสว่ นร่วมในทุกกจิ กรรมรวมทั้งกระตุ้น ให้ผูเ้ รียนประสบความสำเรจ็ ในการเรียนรู้ -จดั สภาพการเรียนร้แู บบรว่ มมือ สง่ เสรมิ ใหเ้ กิดการร่วมมือในกล่มุ ผเู้ รียน -จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และใหโ้ อกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนทหี่ ลากหลาย วางแผน เกี่ยวกบั เวลาในการจดั การเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทง้ั ในส่วนของเนอ้ื หา และกิจกรรม -ครูผสู้ อนใจกว้าง ยอมรบั ในความสามารถในการแสดงออก และความคิดของท่ผี เู้ รียน ขั้นนำ ๑. ครูผู้สอนตงั้ คำถามกับนกั เรยี นว่า “ขอ้ ความประเภทเทศนาคอื อะไร” เพ่ือวัดความรเู้ บ้ืองตน้ ของ นักเรยี น แลว้ ครจู ึงสรุปคำตอบที่ถกู ต้อง เพือ่ ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจตรงกนั ๒. ให้นกั เรยี นศกึ ษาความร้เู รื่อง “การอา่ นจบั ใจความขอ้ ความประเภทเทศนา” พรอ้ มการอธิบาย เพิ่มเตมิ จากครูผู้สอนโดยนำเสนอตัวอยา่ งข้อความประเภทเทศนาและใจความสำคัญจากข้อความประเภท เทศนา เพือ่ ให้นกั เรยี นเข้าใจอย่างชัดเจน ข้นั กจิ กรรม ๓. ใหน้ ักเรยี นจดั กลุม่ ตามทไี่ ดแ้ บ่งไวต้ งั้ แตช่ ว่ั โมงที่แล้ว จบั ใจความสำคัญและสรุปแนวความคิดท่ีได้ จากข้อความประเภทเทศนาทก่ี ล่มุ ของตนเองหามา นำเสนอหน้าชั้นเรียนโดยอ่านขอ้ ความ บอกใจความสำคญั และข้อคดิ ที่ไดร้ บั แล้วสรปุ วา่ จะนำขอ้ คิดทีไ่ ดร้ ับไปใช้ในชวี ิตประจำวันอยา่ งไร ๔. ใหน้ ักเรียนทง้ั หอ้ งจดบนั ทึกขณะเพือ่ นนักเรยี นนำเสนอหน้าช้นั เรียนวา่ การนำเสนอเปน็ อยา่ งไร ใจความสำคัญและแนวความคดิ สัมพันธ์กับขอ้ ความทอ่ี า่ นหรอื ไม่ แล้วให้ตงั้ คำถามจากเน้ือหาท่นี ำเสนอ ๑-๒ คำถาม โดยให้ผู้นำเสนอเปน็ ผู้ตอบคำถาม ครผู สู้ อนชว่ ยแก้ไขหากกลุม่ ใดเสนอใจความสำคัญและข้อคดิ ไมส่ อดคล้องกับขอ้ ความ ๕. ใหน้ กั เรยี นและครู่รวมกนั สรุปขอ้ คดิ ทง้ั หมดท่ีไดร้ ับจากการนำเสนอ ประเมนิ วา่ ข้อความใดให้ ขอ้ คดิ ท่มี ีประโยชน์กับการเรียนใหส้ ัมฤทธิ์ผลมากที่สุด (ครผู ู้สอนสามารถเปลย่ี นหัวข้อการประเมนิ ให้ สอดคลอ้ งกับขอ้ ความประเภทเทศนาท่นี กั เรยี นหามาได)้ แล้วให้กลุ่มเจ้าของข้อความนนั้ แจกขอ้ ความใหเ้ พื่อน ทง้ั ห้องไดอ้ า่ นเพือ่ นำไปปรับใช้กับตนเองได้ ๖. ใหน้ กั เรยี นทำใบงาน เร่ือง การอา่ นจบั ใจความขอ้ ความประเภทเทศนา แล้วรว่ มกันตรวจสอบ ความถูกต้อง ขน้ั สรปุ ๗. ให้นกั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี ๏ ขอ้ ความประเภทเทศนา เปน็ ขอ้ ความที่เกย่ี วกบั คำสอนทางศาสนา ผอู้ ่านตอ้ งเข้าใจความสำคัญ จึงจะสามารถคิดไตรต่ รองพจิ ารณาเพอื่ จะนำคำส่ังสอนนัน้ ไปปฏบิ ตั เิ พอ่ื ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ๘. ให้นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำถามทา้ ทาย ดังนี้ ๏ ข้อความประเภทเทศนากบั ขอ้ ความที่ใช้เทศนาโวหารเป็นข้อความชนิดเดียวกนั หรือไม่ อย่างไร

๙. ให้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ ๕ คน ครูผู้สอนสัง่ งานใหน้ กั เรียนหาบทร้อยกรองร่วมสมัยทม่ี ีความยาว ประมาณ ๕-๑๐ บท กลมุ่ ละ ๑ เรื่อง เพอ่ื อา่ นและทำความเข้าใจกอ่ นศกึ ษาเรอื่ ง การอ่านจับใจความบทร้อยกรอง รว่ มสมัย ในช่วั โมงต่อไป 9. สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ 9.1 สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. ตวั อย่างขอ้ ความประเภทเทศนา ๒. ใบงาน เรื่อง การอา่ นจบั ใจความข้อความประเภทเทศนา 9.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ข้อมูลจากหนังสอื หรอื อินเทอร์เนต็

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 การอา่ นจับใจความบทรอ้ ยกรองร่วมสมยั กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหัส ท 32101 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ การอ่านจบั ใจความสำคญั เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านจับใจความบทรอ้ ยกรองรว่ มสมยั จำเป็นต้องรูแ้ ละเขา้ ใจความหมายของคำท้งั ความหมาย โดยตรงและความหมายแฝง จงึ จะเขา้ ใจเร่อื งราวนนั้ ๆ ไดช้ ัดเจน ถกู ต้อง และลึกซ้ึง 2. ตวั ชีว้ ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นำไปใชต้ ัดสินใจแกป้ ัญหา ในการดำเนินชวี ติ และมีนิสัยรักการอ่าน ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๖ ตอบคำถามจากการอ่านงานเขียนประเภทต่าง ๆ ภายในเวลาที่กำหนด จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายหลกั การอา่ นจับใจความ (K) ๒. อ่านจับใจความข่าว (P) ๓. เห็นความสำคญั และตระหนกั ถึงความสำคญั ของการอ่านจับใจความ (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง การอ่านจับใจความบทรอ้ ยกรองรว่ มสมัย 3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่ - บทรอ้ ยกรองประจำถิ่น 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น สมรรถนะ - ความสามารถในการส่ือสาร - ความสามารถในการคดิ - ความสามารถในการแก้ปัญหา 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ กระตือรอื ร้นในการเรยี น แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทง้ั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลอื กใช้ส่อื อยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเปน็ องค์ความรู้ สามารถ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้

6 .ช้ินงาน/ภาระงาน ๑.ฝกึ ทักษ ะการอา่ นจับใจความบทรอ้ ยกรองร่วมสมยั ๒. ใบงาน เรอื่ ง การอา่ นจับใจความบทรอ้ ยกรองร่วมสมัย 7. การวัดผลประเมินผล วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนใน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม การเข้าร่วมกิจกรรม กจิ กรรม กจิ กรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผา่ น ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นใน แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดมี าก การเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ กจิ กรรมกลมุ่ คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง ตามตารางด้านล่าง การประเมินใบงาน ให้ผสู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การอ่านจบั ใจความบทร้อยกรองร่วมสมัย ระดับคะแนน เกณฑ์การประเมนิ ๔ ๓ ๒ ๑ การอ่านจับใจความ บอกขอ้ คดิ จากบท- บอกขอ้ คิดจากบท- บอกข้อคดิ จากบท- บอกข้อคิดจากบท- บทร้อยกรองร่วมสมัย ร้อยกรองร่วมสมัยได้ รอ้ ยกรองรว่ มสมยั ได้ รอ้ ยกรองรว่ มสมัยได้ ร้อยกรองรว่ มสมยั ถกู ตอ้ ง ตรงประเดน็ ถกู ต้อง ตรงประเดน็ ถูกตอ้ ง ตรงประเด็น ได้บา้ ง ใชภ้ าษา ทุกขอ้ และได้ ทกุ ข้อและได้ แตใ่ จความวกวน ไมถ่ ูกตอ้ งสะกดคำ ใจความตอ่ เนือ่ ง ใจความต่อเนื่อง ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง และใช้เครื่องหมาย ใชภ้ าษาถูกต้อง ใช้ภาษาถกู ตอ้ ง สื่อความหมาย วรรคตอน ผดิ ๕-๖ ส่ือความหมาย ส่ือความหมาย ชดั เจน แหง่ ตวั อักษรอ่าน ชดั เจน ลำดบั ความ ชดั เจน ลำดับความ สะกดคำและใช้ ยาก ไม่วกวน ไมว่ กวน เคร่อื งหมายวรรค ไมส่ ะอาด ไม่เปน็ สะกดคำและใช้ สะกดคำและใช้ ตอน ผิด ๓-๔ แหง่ ระเบยี บ เคร่ืองหมายวรรค เครื่องหมายวรรค ตวั อักษรอ่านงา่ ย ตอนถูกตอ้ ง ตอน ผดิ ๑-๒ แหง่ สะอาด ขาดความ ตัวอักษร ตวั อักษรอ่านง่าย เปน็ ระเบียบ อ่านงา่ ย สะอาด สะอาด เป็นระเบียบ เปน็ ระเบียบ

8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ครูใชก้ ารสอนตามขนั้ ตอน Active learning คอื -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับ ผสู้ อนและเพอ่ื นในชั้นเรียน -จดั กิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสว่ นรว่ มในทุกกิจกรรมรวมท้ังกระตุ้น ใหผ้ ู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรยี นรู้ -จดั สภาพการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลมุ่ ผู้เรียน -จดั กิจกรรมการเรยี นการสอนให้ทา้ ทาย และใหโ้ อกาสผเู้ รียนไดร้ ับวธิ ีการสอนทีห่ ลากหลาย วางแผน เก่ยี วกับเวลาในการจัดการเรยี นการสอนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของเนอ้ื หา และกิจกรรม -ครูผสู้ อนใจกวา้ ง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดของทผี่ ู้เรียน ขน้ั นำ ๑. ครูผ้สู อนตั้งคำถามกับนักเรยี นว่า “บทรอ้ ยกรองรว่ มสมยั คืออะไร” เพือ่ วดั ความรู้เบื้องต้นของ นักเรียน แลว้ ครูจงึ สรปุ คำตอบท่ีถกู ตอ้ งเพือ่ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจตรงกัน ๒. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาความรู้เร่อื ง “การอา่ นจับใจความบทร้อยกรองร่วมสมัย” พรอ้ มการอธบิ ายเพ่มิ เติม จากครูผู้สอน โดยนำเสนอตัวอย่างบทรอ้ ยกรองรว่ มสมัยและใจความสำคญั จากบทรอ้ ยกรอง เพื่อใหน้ ักเรียน เข้าใจอย่างชดั เจน ขั้นกจิ กรรม ๓. ใหน้ ักเรียนจัดกล่มุ ตามทีไ่ ด้แบง่ ไว้ตั้งแต่ช่ัวโมงท่ีแลว้ จบั ใจความสำคัญและสรปุ แนวความคิดที่ได้ จากบทรอ้ ยกรองรว่ มสมัยทกี่ ลมุ่ ของตนเองหามา นำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี นโดยอ่านบทร้อยกรอง จับใจความสำคัญ และสรปุ แนวความคดิ ทไี่ ดร้ บั และหากบทร้อยกรองร่วมสมยั ที่หามามีลกั ษณะเฉพาะท่ีแตกต่างจากบทร้อย กรองท่ัวไปหรอื มีเนอื้ หาแปลกใหมห่ รือมคี วามหมายแฝงในเน้ือหากใ็ ห้ตีความหรือสรุปในการนำเสนอด้วย ๔. ใหน้ ักเรยี นทัง้ หอ้ งจดบนั ทึกขณะเพือ่ นนกั เรยี นนำเสนอหน้าช้ันว่า การนำเสนอเปน็ อย่างไร บท ร้อยกรองที่นำเสนอเป็นบทร้อยกรองร่วมสมัยหรอื ไม่ ใจความสำคญั และแนวความคิดสัมพันธ์กับบทร้อยกรอง ทอ่ี า่ นหรือไม่ แล้วใหต้ ง้ั คำถามจากเนอื้ หาทีน่ ำเสนอ ๑-๒ คำถาม โดยใหผ้ นู้ ำเสนอเปน็ ผูต้ อบ ครูผู้สอนช่วย แกไ้ ขหากกล่มุ ใดนำเสนอใจความสำคัญและแนวความคิดไม่สอดคลอ้ งกับบทร้อยกรอง ๕. ให้นกั เรยี นและครรู ว่ มกันประเมนิ ว่าบทร้อยกรองของกลุ่มใดมีคุณคา่ ทางด้านวรรณศลิ ปแ์ ละดา้ น เนื้อหามากท่สี ุด แล้วใหน้ ักเรยี นนำบทรอ้ ยกรอง ๓ อันดบั แรก จดั ป้ายนเิ ทศแสดงเนื้อหาและคณุ ค่าของบท รอ้ ยกรองนน้ั นอกชวั่ โมงเรยี น เพือ่ เผยแพรค่ วามรู้แก่เพอ่ื นนักเรียนและบคุ คลท่ัวไป ๖. ใหน้ กั เรยี นทำใบงาน เรือ่ ง การอ่านจับใจความบทรอ้ ยกรองรว่ มสมยั แล้วร่วมกนั ตรวจสอบ ความถูกต้อง ข้ันสรปุ ๗. ให้นกั เรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั นี้ ๏ การอา่ นจบั ใจความบทรอ้ ยกรองรว่ มสมยั จำเป็นตอ้ งรแู้ ละเข้าใจความหมายของคำทั้งความหมาย โดยตรงและความหมายแฝง จึงจะเขา้ ใจเรือ่ งราวน้ัน ๆ ได้ชดั เจน ถกู ตอ้ ง และลึกซ้ึง ๘. ให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดงั น้ี ๏ บทร้อยกรองร่วมสมัยมคี วามแตกตา่ งจากบทร้อยกรองสมยั โบราณอยา่ งไร ๙. ครูผู้สอนสงั่ งานใหน้ ักเรยี นหาบทเพลงท่ีชอบมาคนละ ๑ บทเพลง เพ่ืออา่ นและทำความเขา้ ใจก่อน ศกึ ษาเร่ือง การอ่านจบั ใจความบทเพลง ในช่วั โมงต่อไป

9. สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ 9.1 สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. ตวั อยา่ งบทร้อยกรองร่วมสมยั ๒. ใบงาน เร่อื ง การอา่ นจับใจความบทรอ้ ยกรองร่วมสมยั 9.2 แหลง่ เรียนรู้ 1. ขอ้ มลู จากหนังสอื หรอื อินเทอรเ์ นต็

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 9 การอ่านจบั ใจความบทเพลง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย รหัส ท 32101 ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ การอา่ นจบั ใจความสำคัญ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง 1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การอา่ นจับใจความบทเพลงทำให้ทราบความหมายลกึ ซ้ึงและคตสิ อนใจทีแ่ ฝงอยใู่ นเน้ือเพลง 2. ตัวชวี้ ัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคิดเพ่อื นำไปใชต้ ัดสินใจแกป้ ัญหา ในการดำเนนิ ชวี ติ และมีนิสยั รักการอา่ น ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๗ อ่านเรือ่ งต่าง ๆ แล้วเขยี นกรอบแนวคิด ผังความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธิบายลกั ษณะการอา่ นจบั ใจความบทเพลง (K) ๒. อ่านจบั ใจความบทเพลง (P) ๓. เหน็ ความสำคญั และตระหนกั ถึงความสำคญั ของการอ่านจบั ใจความ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - การอา่ นจบั ใจความบทเพลง 3.2 สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่ิน - 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น สมรรถนะ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการแก้ปญั หา 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ กระตอื รอื ร้นในการเรยี น แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและ ภายนอกโรงเรยี นด้วยการเลอื กใช้ส่ืออย่างเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เป็นองค์ความรู้ สามารถ นำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้

6 .ชนิ้ งาน/ภาระงาน ๑.ฝึกทักษะการอ่านจบั ใจความบทเพลง ๒.ใบงาน เรื่อง การอา่ นจับใจความบทเพลง 7. การวัดผลประเมินผล วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนใน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วม กิจกรรม การเขา้ รว่ มกจิ กรรม กจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไม่ผา่ น สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นใน แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วม คะแนน ๙-๑๐ ระดับ ดีมาก การเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ กจิ กรรมกลมุ่ คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรงุ ตามตารางด้านล่าง การประเมนิ ใบงาน ใหผ้ ู้สอนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรือ่ ง การอ่านจบั ใจความบทเพลง ระดับคะแนน ๓ ๒ ๑ เกณฑก์ ารประเมิน ๔ วเิ คราะห์บทเพลง การอา่ นจับใจความ วิเคราะห์บทเพลง วิเคราะหบ์ ทเพลง วเิ คราะห์บทเพลง และจับใจความ บทเพลง และจบั ใจความ และจับใจความ และจับใจความ สำคญั ไดบ้ ้าง ใช้ ภาษา สำคัญไดถ้ กู ตอ้ ง ตรง สำคญั ได้ถูกต้อง สำคญั ได้ถูกต้อง ไมถ่ กู ตอ้ ง สะกดคำ ประเดน็ ตรงประเด็น ตรงประเด็น และใชเ้ ครื่องหมาย วรรคตอน ผิด ๕-๖ ทุกขอ้ และได้ใจความ ทุกขอ้ และได้ แต่ใจความวกวน แหง่ ตัวอกั ษร ตอ่ เน่อื ง ใชภ้ าษา ใจความตอ่ เน่ือง ใช้ ใช้ภาษาถกู ตอ้ ง อ่านยาก ไม่สะอาด ถูกต้อง ภาษาถกู ต้อง สื่อความหมาย ไม่เป็นระเบยี บ สอ่ื ความหมาย ส่ือความหมาย ชดั เจน ชดั เจน ลำดบั ความ ชดั เจน ลำดบั ความ สะกดคำและใช้ ไมว่ กวน ไม่วกวน เครอ่ื งหมายวรรค สะกดคำและใช้ สะกดคำและใช้ ตอน ผดิ ๓-๔ แหง่ เครื่องหมายวรรค เครอื่ งหมายวรรค ตัวอักษรอ่านงา่ ย ตอนถกู ตอ้ ง ตอน ผดิ ๑-๒ แหง่ สะอาด ขาดความ ตวั อักษร ตวั อกั ษรอา่ นง่าย เปน็ ระเบียบ อา่ นง่าย สะอาด สะอาด เป็นระเบยี บ เป็นระเบยี บ

8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ครูใชก้ ารสอนตามข้ันตอน Active learning คือ -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีกับ ผ้สู อนและเพือ่ นในชัน้ เรยี น -จดั กิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวตั ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสว่ นร่วมในทุกกจิ กรรมรวมทั้งกระตุ้น ใหผ้ ้เู รยี นประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ -จัดสภาพการเรียนรู้แบบรว่ มมือ สง่ เสรมิ ให้เกิดการรว่ มมอื ในกลุม่ ผู้เรียน -จดั กิจกรรมการเรยี นการสอนให้ท้าทาย และให้โอกาสผเู้ รียนไดร้ ับวิธีการสอนทหี่ ลากหลาย วางแผน เกี่ยวกบั เวลาในการจัดการเรยี นการสอนอยา่ งชดั เจน ทัง้ ในส่วนของเน้อื หา และกิจกรรม -ครูผสู้ อนใจกวา้ ง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคดิ ของทีผ่ เู้ รียน ขั้นนำ ๑. ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดังนี้ ๏ บทเพลงและบทรอ้ ยกรองมคี วามแตกตา่ งกันอย่างไร ๒. ให้นักเรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่ือง “การอา่ นจับใจความบทเพลง” พรอ้ มการอธิบายเพมิ่ เติมจากครูผ้สู อน โดยนำเสนอตวั อยา่ งบทเพลงและใจความสำคัญจากบทเพลง เพ่ือให้นกั เรียนเข้าใจอยา่ งชัดเจน ข้นั กจิ กรรม ๓. ใหน้ ักเรียนจบั ใจความสำคัญจากบทเพลงทีค่ รสู งั่ ใหไ้ ปหามาเมอ่ื ชว่ั โมงทแี่ ลว้ โดยวเิ คราะหว์ ่า บทเพลงกลา่ วถึงอะไร บอกจุดเดน่ และจุดด้อยของบทเพลง เชน่ ใช้ถ้อยคำกะทัดรัดเข้าใจง่าย ใช้ภาษาวิบตั ิ ภาษาสแลง หรือศัพท์เฉพาะกลุม่ และสรปุ ข้อคิดหรอื คตสิ อนใจทไ่ี ด้จากบทเพลง เพื่อเตรียมตัวนำเสนอ หนา้ ชัน้ เรยี น ๔. ครผู ู้สอนสุ่มเลือกนักเรยี น ๕-๖ คน มานำเสนอบทเพลงและเนอื้ หาท่ีได้จากการวเิ คราะห์บทเพลง แลว้ ใหน้ กั เรียนและครูรว่ มกันประเมินวา่ การนำเสนอเป็นอยา่ งไร เน้อื หาท่ีวเิ คราะห์สอดคลอ้ งกับบทเพลง หรอื ไม่ ครชู ่วยแกไ้ ขในจุดที่ยงั ไมถ่ กู ตอ้ ง และให้ความรเู้ พ่ิมเตมิ เกย่ี วกับการวเิ คราะหค์ ณุ ค่าของบทเพลง เพ่อื เป็นเกณฑ์ ให้นักเรียนแลกกนั ตรวจผลงาน ๕. ใหน้ ักเรียนรว่ มกันเสวนาแลกเปล่ยี นความคิดเห็นในหวั ข้อ “บทเพลงสำหรับวยั ร่นุ ในปจั จุบันมี เนอ้ื หาที่เหมาะสมหรอื ไม่ อย่างไร” แลว้ ใหน้ ักเรียนและครรู ว่ มกนั สรุปผลการเสวนา ๖. ใหน้ ักเรียนทำใบงาน เรอ่ื ง การอ่านจับใจความบทเพลง แลว้ ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ขนั้ สรุป ๗. ใหน้ กั เรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี ๏ การอ่านจบั ใจความบทเพลงทำใหท้ ราบความหมายลกึ ซึง้ และคติสอนใจท่แี ฝงอยใู่ นเนอื้ เพลง 9. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรียนรู้ ๑. ตัวอยา่ งบทเพลง ๒. ใบงาน เรื่อง การอา่ นจบั ใจความบทเพลง

9.2 แหลง่ เรียนรู้ 1. ข้อมลู จากหนังสอื หรืออินเทอรเ์ นต็

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหัส ท 32101 ปีการศกึ ษา 2565 ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ การอา่ นจับใจความสำคัญ 1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด ผู้อา่ นจะต้องเข้าใจลักษณะคำประพนั ธ์ รายละเอยี ดในการเขยี น คำยาก และศพั ท์สำนวนต่าง ๆ จึง จะสามารถอา่ นจบั ใจความบทอาเศียรวาทได้ 2. ตวั ช้ีวัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพอ่ื นำไปใชต้ ดั สนิ ใจแกป้ ัญหา ในการดำเนนิ ชวี ิต และมนี สิ ยั รกั การอ่าน ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๘ สังเคราะหค์ วามรู้จากการอ่านสอื่ สิ่งพิมพ์ ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และแหลง่ การเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธบิ ายลกั ษณะการอ่านจับใจความบทอาเศยี รวาท (K) ๒. อ่านจับใจความบทอาเศยี รวาท (P) ๓. เห็นความสำคญั และตระหนักถงึ ความสำคัญของการอา่ นจับใจความ (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง การอ่านจับใจความบทอาเศยี รวาท 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถ่นิ - 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน สมรรถนะ - ความสามารถในการสอื่ สาร - ความสามารถในการคดิ - ความสามารถในการแก้ปญั หา 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ กระตือรือร้นในการเรียน แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ ทั้งภายในและ ภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการเลอื กใชส้ อื่ อย่างเหมาะสม บันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ สามารถ นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้

6 .ชนิ้ งาน/ภาระงาน ๑. ฝกึ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความบทอาเศยี รวาท ๒. ใบงาน เรื่อง การอ่านจับใจความบทอาเศยี รวาท 7. การวัดผลประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์ วธิ ีการ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วม การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ ม กิจกรรม กิจกรรม สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นใน ผ่านตงั้ แต่ ๒ รายการ ถือว่า ผ่าน การเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นใน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม คะแนน ๙-๑๐ ระดับ ดมี าก การเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ กิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง ตามตารางด้านล่าง การประเมินใบงาน ใหผ้ ูส้ อนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การอ่านจบั ใจความบทอาเศยี รวาท ระดับคะแนน ๓ ๒ ๑ เกณฑก์ ารประเมนิ ๔ บอกชนิดคำ การอ่านจบั ใจความ บอกชนิดคำประพันธ์ บอกชนิดคำ บอกชนิดคำ ประพนั ธ์ ใจความ บทอาเศยี รวาท ประพันธ์ ใจความ สำคัญ และ ใจความสำคญั และ ประพันธ์ ใจความ สำคญั และ ตง้ั ชื่อบทอาเศยี ร ตงั้ ชื่อบทอาเศยี ร วาท ตัง้ ชอ่ื บทอาเศียรวาท สำคัญ และ ได้ถกู ต้องและตรง วาท ความหมายชัดเจน ได้ถกู ต้องและตรง ต้ังชอื่ บทอาเศยี ร ได้ถกู ต้องและตรง ๔๐% ความหมายชัดเจน ความหมายชัดเจน วาท ๖๐% ๑๐๐% ไดถ้ ูกตอ้ งและตรง ความหมายชัดเจน ๘๐%

8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ครูใชก้ ารสอนตามข้ันตอน Active learning คือ -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีกับ ผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรยี น -จดั กจิ กรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวตั ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสว่ นรว่ มในทุกกิจกรรมรวมทั้งกระตุ้น ให้ผู้เรียนประสบความสำเรจ็ ในการเรียนรู้ -จัดสภาพการเรียนรแู้ บบร่วมมอื สง่ เสริมให้เกดิ การร่วมมือในกลุ่มผ้เู รยี น -จดั กิจกรรมการเรียนการสอนใหท้ ้าทาย และใหโ้ อกาสผูเ้ รียนไดร้ ับวธิ ีการสอนทีห่ ลากหลาย วางแผน เกีย่ วกบั เวลาในการจดั การเรียนการสอนอย่างชดั เจน ทง้ั ในสว่ นของเนือ้ หา และกิจกรรม -ครูผ้สู อนใจกวา้ ง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคดิ ของที่ผ้เู รียน ข้นั นำ ๑. ครผู สู้ อนต้ังคำถามกบั นกั เรียนวา่ “บทอาเศยี รวาทคืออะไร” เพ่อื วัดความรเู้ บื้องตน้ ของนักเรียน แล้วครูจึงสรุปคำตอบท่ีถูกตอ้ งเพื่อให้นกั เรียนเขา้ ใจตรงกนั ๒. ให้นกั เรียนศึกษาความรู้เรื่อง “การอ่านจบั ใจความบทอาเศียรวาท” พร้อมการอธิบายเพิ่มเตมิ จาก ครูผู้สอนโดยนำเสนอตวั อยา่ งบทอาเศยี รวาทและใจความสำคญั จากบทอาเศยี รวาท เพ่อื ใหน้ ักเรียนเข้าใจอย่าง ชัดเจน ขั้นกจิ กรรม ๓. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ ๕ คน อ่านบทอาเศียรวาททีค่ รเู ตรียมให้กลมุ่ ละ ๑ บท จับใจความ สำคัญ และวเิ คราะห์วา่ เปน็ คำประพนั ธ์ชนิดใด ค้นหาความหมายของคำศพั ท์และสำนวนท่ีปรากฎในบท อาเศยี รวาทโดยใชพ้ จนานกุ รม เพ่ือเตรยี มตวั นำเสนอหนา้ ชั้นเรียน ๔. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอบทอาเศยี รวาทและเนื้อหาที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์ แล้วใหน้ กั เรียน และครูรว่ มกนั ประเมินวา่ การนำเสนอเปน็ อยา่ งไร เนื้อหาท่ีวิเคราะห์สอดคล้องกับบทอาเศียรวาทหรอื ไม่ แล้ว ตงั้ คำถาม ๑-๒ คำถาม โดยให้กลุ่มท่นี ำเสนอเป็นผตู้ อบ ครูผสู้ อนชว่ ยแก้ไขในจุดทยี่ งั ไมถ่ ูกต้อง ๕. ใหน้ ักเรยี นร่วมกันเสวนาแลกเปล่ียนความคิดเห็นในหัวขอ้ “คุณค่าของบทอาเศียรวาท” แล้วให้ นกั เรยี น และครรู ่วมกันสรปุ ผลการเสวนา ๖. ให้นักเรียนทำใบงาน เร่อื ง การอ่านจบั ใจความบทอาเศียรวาท แล้วรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ขน้ั สรปุ ๗. ใหน้ ักเรียนและครรู ่วมกนั สรุปความรู้ ดังนี้ ๏ ผอู้ ่านจะตอ้ งเข้าใจลักษณะคำประพนั ธ์ รายละเอียดในการเขยี น คำยาก ศพั ท์สำนวนตา่ ง ๆ จึงจะสามารถอา่ นจับใจความบทอาเศยี รวาทได้ ๘. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังนี้ ๏ เหตใุ ดจงึ ต้องศึกษาการอา่ นจบั ใจความบทอาเศียรวาท ๙. ครูผู้สอนสง่ั งานใหน้ ักเรยี นแต่งคำขวญั ท่มี เี นื้อหาเก่ียวกับการรณรงคเ์ รื่องใดกไ็ ด้ คนละ ๑ คำขวัญ เพือ่ ใชใ้ นการศกึ ษาเรือ่ ง การอ่านจบั ใจความคำขวญั ในชั่วโมงต่อไป

9. สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ 9.1 สอื่ การเรยี นรู้ ๑. ตวั อยา่ งบทอาเศยี รวาท ๒. พจนานกุ รม ๓. ใบงาน เรื่อง การอ่านจบั ใจความบทอาเศยี รวาท 9.2 แหลง่ เรยี นรู้ 1. ข้อมลู จากหนังสอื พิมพห์ รืออินเทอรเ์ น็ต

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 11 การอ่านจบั ใจความคำขวัญ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย รหสั ท 32101 ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ช่อื หน่วยการเรียนรู้ การอ่านจบั ใจความสำคัญ เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง 1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การอ่านจบั ใจความคำขวญั ควรรูแ้ ละเขา้ ใจความหมายของคำขวัญนนั้ ๆ ว่าให้แงค่ ิดให้ประโยชน์ตอ่ ตน สังคม และประเทศชาติอยา่ งไร เพอ่ื จะไดน้ ำไปปรบั ใชก้ ับการดำเนนิ ชีวิตได้ต่อไป 2. ตัวชว้ี ัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพอื่ นำไปใชต้ ดั สนิ ใจแก้ปญั หา ในการดำเนินชีวติ และมีนสิ ัยรักการอา่ น ท ๑.๑ ม. ๔-๖/๙ มีมารยาทในการอ่าน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธบิ ายลกั ษณะการอ่านจับใจความคำขวัญ (K) ๒. อา่ นจบั ใจความคำขวญั (P) ๓. มีมารยาทในการอา่ น (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง การอ่านจบั ใจความคำขวัญ 3.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถน่ิ - 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น สมรรถนะ - ความสามารถในการสอื่ สาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการแก้ปญั หา 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ กระตือรอื รน้ ในการเรียน แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ ทั้งภายในและ ภายนอกโรงเรียนด้วยการเลือกใชส้ ื่ออย่างเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ สามารถ นำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้

6 .ช้ินงาน/ภาระงาน ๑. ฝึกทักษะการอ่านจบั ใจความคำขวัญ ๒. ใบงาน เรื่อง การอ่านจบั ใจความคำขวัญ 7. การวัดผลประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วม วิธีการ กิจกรรม การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นใน กิจกรรม การเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านต้งั แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถอื วา่ ไม่ผา่ น สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นใน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม คะแนน ๙-๑๐ ระดับ ดีมาก การเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม กจิ กรรมกลุ่ม คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้ ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง ตามตารางดา้ นล่าง การประเมนิ ใบงาน ให้ผสู้ อนพิจารณาจากเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ครูใชก้ ารสอนตามขัน้ ตอน Active learning คอื -สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับ ผสู้ อนและเพอื่ นในชน้ั เรียน -จดั กจิ กรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนมีสว่ นร่วมในทุกกิจกรรมรวมทั้งกระตุ้น ใหผ้ ้เู รยี นประสบความสำเรจ็ ในการเรียนรู้ -จัดสภาพการเรียนรู้แบบรว่ มมอื สง่ เสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผเู้ รียน -จัดกิจกรรมการเรียนการสอนใหท้ ้าทาย และให้โอกาสผูเ้ รียนไดร้ ับวิธีการสอนท่ีหลากหลาย วางแผน เก่ยี วกบั เวลาในการจัดการเรียนการสอนอยา่ งชัดเจน ท้ังในสว่ นของเนอ้ื หา และกิจกรรม -ครูผ้สู อนใจกว้าง ยอมรบั ในความสามารถในการแสดงออก และความคิดของทีผ่ ูเ้ รียน ขัน้ นำ ๑. ใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดงั น้ี ๏ คำขวญั เป็นวรรณกรรมประเภทรอ้ ยแกว้ หรือรอ้ ยกรอง เพราะเหตใุ ด ๒. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาความร้เู ร่อื ง “การอ่านจับใจความคำขวัญ” พร้อมการอธบิ ายเพิ่มเตมิ จากครูผู้สอน โดยนำเสนอตัวอยา่ งคำขวัญ ใจความสำคัญและข้อคิดจากคำขวัญ เพ่ือใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจอยา่ งชัดเจน

ขน้ั กจิ กรรม ๓. ให้นกั เรียนอ่านคำขวัญท่คี รสู ง่ั ให้แตง่ เมอ่ื ชวั่ โมงท่ีแลว้ ทีละคนจนครบทกุ คน แลว้ แลกกบั เพอ่ื น เพอ่ื อา่ นจับใจความโดยบอกใจความและแนวคิดสำคญั ของคำขวัญนนั้ ๆ แล้วให้นักเรียนอา่ นทีละคนจนครบ ทุกคน ให้นกั เรียนและครูร่วมกนั ประเมนิ ว่าใจความและแนวคดิ สำคัญสอดคล้องกบั คำขวัญนั้น ๆ หรือไม่ หากไม่ถูกต้องใหช้ ว่ ยกันแกไ้ ขใหถ้ กู ต้อง ๔. ให้นกั เรียนร่วมกันแบ่งประเภทคำขวญั เชน่ คำขวัญรณรงคก์ ารอนุรกั ษพ์ ลังงาน คำขวญั รณรงค์ การใชร้ ถใช้ถนนอย่างถูกต้อง เป็นต้น เพ่ือจดั ทำป้ายนเิ ทศนอกช่วั โมงเรียน เผยแพร่ความรู้แกเ่ พื่อนนกั เรยี น และบคุ คลทว่ั ไป ๕. ให้นักเรยี นทำใบงาน เรอื่ ง การอ่านจบั ใจความคำขวัญ แลว้ ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ขัน้ สรปุ ๖. ใหน้ ักเรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดังน้ี ๏ การอา่ นจับใจความคำขวัญควรรแู้ ละเขา้ ใจความหมายของคำขวัญน้ัน ๆ วา่ ให้แงค่ ิด ใหป้ ระโยชน์ ตอ่ ตน สังคม และประเทศชาติอยา่ งไร เพอ่ื จะได้นำไปปรับใช้กับการดำเนินชีวติ ได้ต่อไป 9. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรียนรู้ ๑. ตัวอย่างคำขวัญ ๒. ใบงาน เรือ่ ง การอา่ นจับใจความคำขวัญ 9.2 แหลง่ เรียนรู้ 1. ขอ้ มลู จากหนังสือหรอื อินเทอร์เนต็


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook