ฟุตบอล(football) ฟุตบอล (Football) หรือซอคเก้อร์ (Soccer) เป็นกีฬาท่ีมีผสู้ นใจท่ีจะชมการแข่งขนั และเขา้ ร่วมเล่น มากท่ีสุดในโลก ชนชาติใดเป็นผกู้ าเนิดกีฬาชนิดน้ีอยา่ งแทจ้ ริงน้นั ไม่อาจจะยนื ยนั ไดแ้ น่นอน เพราะแต่ละชนชาติต่างยนื ยนั วา่ เกิดจากประเทศของตน แต่ในประเทศฝร่ังเศสและประเทศอิตาลี ไดม้ ีการละเล่นชนิดหน่ึงท่ีเรียกวา่ \"ซูเลอ\" (Soule) หรือจิโอโค เดล คาซิโอ (Gioco Del Calcio) มีลกั ษณะการเล่นที่คลา้ ยคลึงกบั กีฬาฟุตบอลในปัจจุบนั ท้งั สองประเทศอาจจะถกเถียงกนั วา่ กีฬาฟุตบอลถือกาเนิดจากประเทศของตน อนั เป็นการหาขอ้ ยตุ ิไม่ได้ เพราะขาดหลกั ฐานยนื ยนั อยา่ ง แทจ้ ริง
• ดงั น้ัน ประวตั ิของกฬี าฟุตบอลทม่ี หี ลกั ฐานทแี่ ท้จริงสามารถจะอ้างองิ ได้ เพราะการเล่นทมี่ ี กตกิ ารการแข่งขนั ทแี่ น่นอน คอื ประเทศองั กฤษเพราะประเทศองั กฤษต้ังสมาคมฟุตบอล ในปี พ.ศ. 2406 และฟุตบอลอาชีพขององั กฤษเกดิ ขนึ้ ในปี พ.ศ. 2431 • ววิ ฒั นาการดา้ นฟตุ บอลจะเป็นไปพร้อมกบั ความเจริญกา้ วหนา้ ของมนุษยต์ ลอดมา ตน้ กาเนิด กีฬาตะวนั ออกไกลจะไดร้ ับอิทธิพลมาจากสงครามคร้ังสาคญั ๆ เช่น สงครามพระเจา้ อเลก็ ซานเดอร์มหาราช ไดน้ าเอา \"แกลโล-โรมนั \" (Gello-Roman) พร้อมกีฬาต่างๆ เขา้ มาสู่เมืองกอล (Gaul) อนั เป็นรากฐานส่วนหน่ึงของกีฬาฟตุ บอลใน อนาคต และการเล่นฮาร์ปาสตมั (Harpastum) ไดถ้ กู ดดั แปลงมาเป็นกีฬาซูเลอ
วิวฒั นาการของฟตุ บอล • ววิ ฒั นาการของฟุตบอล ภาคตะวนั ออกไกล • ขงจ้ือไดก้ ล่าวไวใ้ นหนงั สือ \"กงั ฟ\"ู เก่ียวกบั กีฬา โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ กีฬาที่ใชเ้ ทา้ และศีรษะในสมยั จกั รพรรด์ิ เซิงติ (Emperor Cneng Ti) (ปี 32 ก่อนคริสตกาล) มีการเล่นกีฬาท่ีคลา้ ยกบั ฟตุ บอลซ่ึงเรียกวา่ \"ซือ-ซู\" (Tsu-Chu) ซ่ึงหมายถึงการเตะลกู หนงั ดว้ ยเทา้ กีฬาชนิดน้ีไดร้ ับความนิยมอยา่ งกวา้ งขวาง ซ่ึงนกั ประพนั ธ์และนกั ประวตั ิศาสตร์ในสมยั น้นั ได้ ยกยอ่ ง ผเู้ ล่นที่มีช่ือเสียงใหเ้ ป็นวรี บุรุษของชาติ และในสมยั เดียวกนั ไดม้ ีการเล่นคลา้ ยฟตุ บอลใน ประเทศญี่ป่ ุนอีกดว้ ย
• ภาคตะวนั ออกกลาง • ในกรุงโรม ความเจริญของตะวนั ออกไกลไดแ้ ผข่ ยายถึงตะวนั ออกกลางโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ จากอิทธิพลของสงคราม โดยพระเจา้ อเลก็ ซานเดอร์มหาราช การเล่นกีฬาชนิดหน่ึงเรียกวา่ ฮาร์ปาสตมั เป็นกีฬาที่นิยมของชาวโรมนั และชาวกรีกโบราณวธิ ีการเล่นคือ มีประตูคนละขา้ ง แลว้ เตะลกู บอลไปยงั จุดหมายที่ตอ้ งการ เช่น จากหม่บู า้ นหน่ึงไปอีกหมู่บา้ นหน่ึง การเล่นจะเป็นการเตะ หรือการขวา้ งไปขา้ งหนา้ ฮาร์ปาสตมั หมายถึงการเหว่ียงไปขา้ งหนา้ การเล่นกีฬาฮาร์ปาสตมั ในกรุงโรมดูเหมือนจะเป็นตน้ กาเนิด ของกีฬาซ่ึงมีการเล่นในสมยั กลาง • ในการเล่นฮาร์ปาสตมั ขนาดของสนามจะเลก็ กวา่ สนามกีฬาซูเลอ แต่จุดประสงคข์ องกีฬาท้งั สอง คือ การนาลูกบอล ไปยงั แดนของตน แต่เนื่องจากมีเสียงอึกทึกโครมครามจากการว่ิงแยง่ ลกู บอล ซ่ึงอาจจะทาใหเ้ กิดอุบตั ิเหตุไดม้ ากมาย อนั เป็นขอ้ หา้ มของพระเจา้ จึงมีพระบรมราชโองการในนาม ของพระเจา้ แผน่ ดินหา้ มเล่นกีฬาดงั กล่าวในเมือง ผฝู้ ่ าฝืนมีโทษถึงจาคุก นอกจากน้ียงั มีขอ้ หา้ ม ซ่ึงออกในวนั ท่ี 12 มิถุนายน พ.ศ.1892 ขอใหเ้ ล่นยงิ ธนูในวนั ฉลองต่าง ๆ แทนการเล่นเกมฟุตบอล
• ในโอกาสต่อมากีฬาฟตุ บอลไดจ้ ดั ใหม้ ีการแข่งขนั กนั อีกคร้ัง ซ่ึงเป็นการเผชิญหนา้ กนั ระหวา่ ง ทีมต่างๆ ที่อยหู่ ่างกนั ประมาณ 3-4 ไมล์ ( 5-6.5 กิโลเมตร- ) • ในปี พ.ศ. 2344 กีฬาชนิดน้ีไดข้ ดั เกลาใหด้ ีข้ึน มีการกาหนดจานวนผเู้ ล่นใหเ้ ท่ากนั ในแต่ละ ขา้ ง ขนาดของสนามอยใู่ นระหวา่ ง 80 - 100 หลา (73-91 เมตร) และมีประตูท้งั สองขา้ งที่ ริมสุดของสนาม ซ่ึงทาดว้ ยไม้ 2 อนั ห่างกนั 2-3 ฟุต • ในปี พ.ศ. 2366 ไดจ้ ดั ใหม้ ีการเล่นฟตุ บอลในรูปแบบของการเล่นใน ปัจจุบนั William Alice คือผเู้ ริ่มวางกฎบงั คบั ต่างๆ สาหรับกีฬาฟตุ บอลและรักบ้ี ในปี พ.ศ. 2393 ไดม้ ีการออก ระเบียบ และกฎของการเล่นไปสู่ ดินแดนต่างๆ ใหป้ ฏิบตั ิตาม โดยจากดั จานวนผเู้ ล่นใหม้ ีขา้ งละ 15- 20 คน
• ในปี พ.ศ. 2413 มีการกาหนดผเู้ ล่นใหเ้ หลือขา้ งละ 11 คน โดยมีผู้ เล่นกองหนา้ 9 คน และผเู้ ล่น รักษาประตู 2 คน โดยผรู้ ักษาประตใู ชเ้ ทา้ เล่นเหมือน 9 คนแรก จนกระทงั่ ใหเ้ หลือผรู้ ักษาประตู 1 คน แต่อนุญาตใหใ้ ชม้ ือจบั ลกู บอลไดใ้ นปี พ.ศ. 2423
• ในปี พ.ศ. 2400 สโมสรฟุตบอลได้ก่อต้ังเป็ นคร้ังแรกทเี่ มอื งเซนพสั ด์ประเทศ องั กฤษ และต่อมาในวนั ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2406 สโมสรฟุตบอล 11 แห่งไดม้ า รวมกนั ท่ีกรุงลอนดอน เพ่อื ก่อต้งั สมาคมฟุตบอลข้ึน ซ่ึงถือเป็นรากฐานในการกาเนิดสมาคมแห่งชาติ จนถึง 140 สมาคม และทาใหผ้ เู้ ลน่ ฟุตบอลตอ้ งเลน่ ตามกฎและกติกาของ สมาคมฟุตบอล จนเวลาผา่ นไปจากคาวา่ Association กย็ อ่ เป็น Assoc และกลายเป็น Soccer ข้ึนในที่สุด ซ่ึงนิยมเรียกกนั ในประเทศองั กฤษ แต่ชาวอเมริกนั เรียกวา่ Football หมายถึง American football
• ภายนอกเกาะองั กฤษ พวกกะลาสีเรือ ทหาร พ่อคา้ วศิ วกร หรือแมแ้ ต่นกั บวชไดน้ ากีฬาชนิดน้ี ไปเผยแพร่ ประเทศเดนมาร์กเป็นประเทศท่ี 2 ในยโุ รป • ในอเมริกาใต้ สโมสรแรกไดถ้ ูกต้งั ข้ึนในประเทศอาร์เจนตินา เม่ือพี่นอ้ งชาวองั กฤษ 2 คน ไดล้ งขอ้ ความโฆษณาใน หนงั สือพิมพข์ องเมืองบเู อโนสไอเรส (Buenos Aires) เพื่อ หาผอู้ าสาสมคั ร ในปี พ.ศ. 2427 กีฬาฟุตบอลกก็ ลายมาเป็นวิชาหน่ึงในโรงเรียนของเมืองบเู อโนสไอเรส การแขง่ ขนั ระดบั ชาติคร้ังแรกในทวปี อเมริกาใต้ คือ การแขง่ ขนั ระหวา่ งอาร์เจนตินากบั อุรุกวยั ในปี พ.ศ.2448 แต่อเมริกาเหนือเริ่มแข่งขนั เม่ือปี พ.ศ. 2435 • ในอติ าลี ฮาร์ปาสตมั เป็นตน้ กาเนิดจิโอโค เดล คาลซิโอ ผเู้ ล่นกีฬาจะเป็นผนู้ าทางสงั คม หรือแมแ้ ต่ผนู้ าช้นั สูงของศาสนา เช่นสนั ตปาปา เกลาเมนตท์ ี่ 7 ลีออนท่ี 10 และเออร์เบนท่ี 7 เป็นถึงแชมเป้ี ยนในกีฬาฟลอเรนไทนฟ์ ุตบอล ต่อมาชาวโรมนั ไดด้ ดั แปลงเกมการเล่นฮาร์ปาสตมั เสียใหม่ โดยกาหนดใหใ้ ชเ้ ทา้ แตะลกู บอลเท่าน้นั ส่วนมือใหใ้ ชเ้ ฉพาะการทุ่มลกู บอล ซ่ึงนกั รบชาวโรมนั นิยมเล่นกนั มาก
• กฬี าฮาร์ปาสตมั ซ่ึงมีต้นกาเนิดจากสมัยโรมนั ได้ถูกแปลงมาเป็ นกฬี าซูล อหรือซูเลอ กีฬาชนิดน้ีเหมือนกบั ฮาร์ปาสตมั คือ นาลูกบอลกลบั ไปยงั แดนของตน แต่สนามมีขนาดกวา้ งกวา่ มาก • การเล่นซูเลอมกั จะมีข้ึนในบ่ายวนั อาทิตยห์ ลงั การสวดมนตเ์ ยน็ จะมีการ แข่งขนั สาคญั ในช่วงเวลาดีคาร์นิวาล กีฬาชนิดน้ีเป็นท่ีนิยมมากในเขต ปริตานีและมอร์ลงั ดี กีฬาน้ีไดถ้ กู เผยแพร่ไปยงั องั กฤษโดยผตู้ ิดตาม ของวลิ เล่ียมผพู้ ชิ ิตภายหลงั การรบท่ีเฮสติ้ง (Hasting)
• 900 ปี กว่ามาแล้ว ประเทศองั กฤษได้ตกอยู่ในความปกครองของพวกเคนส์ เชื้อสายโรมนั ซ่ึงยกกองทพั มาตีหมู่เกาะองั กฤษตอนใต้ และไดป้ กครองเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 1589 องั กฤษ เร่ิมเขม้ แขง็ ข้ึน และสามารถขบั ไล่พวกเคนส์ออกจากประเทศได้ หลงั จากน้นั 2-3 ปี องั กฤษจึง เริ่ มปรับปรุ งประเทศเป็ นการใหญ่ มีการขดุ อุโมงคต์ ามพ้ืนท่ีหลายแห่ง ซ่ึงในการขดุ อุโมงคค์ นงานคนหน่ึงไดข้ ดุ ไปพบกะโหลก ศีรษะใน บริเวณที่เคยเป็นสนามรบ และเป็นท่ีฝังศพของพวกเคนส์มาก่อนทุกคนในท่ีน้นั แน่ใจวา่ เป็น กะโหลกศีรษะ ของพวกเคนส์ อารมณ์แคน้ จึงเกิดข้ึนทนั ทีเม่ือต่างคนต่างคิดถึงเหตุการณ์ที่ถกู พวกเคนส์กดข่ี ทารุณจิตใจ คนองั กฤษในสมยั น้นั ดว้ ยเหตุผลน้ี คนงานคนหนึ่งจึงเตะกะโหลกศีรษะน้ันทนั ที ส่วนคนอนื่ ๆ ที่ อยู่ในบริเวณน้ันกพ็ ากนั หยุดงานชั่วคราว แล้วหันมาเตะกะโหลกศีรษะเป็ นการใหญ่ เพอ่ื ระบาย อารมณ์แค้นทเี่ กบ็ ไว้อย่างสนุกสนาน ผลที่สุดเมื่อพวกน้ีหากะโหลกศีรษะเตะกนั ไม่ไดก้ เ็ อาถุงลม ของววั มาทาเป็นลูกกลมข้ึนเตะแทน
• ต่อมาชาวโรมนั ไดน้ าเกมน้ีไปเล่นในองั กฤษ จากน้นั ชาวองั กฤษกไ็ ดป้ รับปรุงวธิ ีการเล่น เทคนิคการเล่น ตลอดจนกติกาใหเ้ หมือนในสมยั ปัจจุบนั คือเกมฟุตบอลท่ีใชเ้ ทา้ เล่น แต่ในระยะแรกของการเล่นฟตุ บอลจะเล่นกนั เป็นกลุ่มๆ เฉพาะพวกคนธรรมดาเท่าน้นั ไม่มีการจากดั จานวนผเู้ ล่น ประตูจะห่างกนั เป็นไมล์ และใชเ้ วลาในการเล่นหลายชวั่ โมง จะเป็นการเล่นระหวา่ งทหารใหม่ท่ีถกู เกณฑ์ นกั บวช คนท่ีแต่งงานแลว้ คนโสด และพวกพอ่ คา้ เกมชนิดไดก้ ลายเป็นสิ่งฉลองในงานพธิ ีต่างๆ เช่น ในวนั โชรพ ทิวส์เดย์ (Shrove Tuesday) จะมีฟุตบอลนดั สาคญั ใหค้ นไดช้ ม เกมในสมยั น้นั จะเล่นกนั อยา่ งรุนแรงและมีการบาดเจบ็ กนั มาก
• ในวนั ท่ี 13 เมษายน พ.ศ. 1857 พระเจา้ เอด๊ เวริ ์ดท่ี 2 ไดท้ รงออกพระราช กฤษฎีกา เนื่องจากมีเสียงอึกทึกครึกโครมจาการวิ่งแยง่ ลูกบอล ซ่ึงอาจจะทาใหเ้ กิดอุบตั ิเหตุ มากมาย อนั เป็นขอ้ หา้ มของพระเจา้ โดยหา้ มเลน่ กีฬาดงั กล่าว ผใู้ ดฝ่ าฝืนมีโทษจาคุก • ฟุตบอลได้เริ่มแข่งขนั ภายใต้กฎของสมาคมแห่งชาติ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2412 ระหว่างทมี รัตเกอร์กบั ทมี บรินท์ตนั จากน้นั กิจการฟุตบอลไดเ้ จริญข้ึนชา้ ๆ ในต่างจงั หวดั จนกระทงั่ สงครามโลกคร้ังท่ี 1 ไดม้ ีการต้งั สมาคมฟตุ บอลตา่ งจงั หวดั ข้ึนในปี พ.ศ. 2450 และมีการฝึกสอนในปี พ.ศ. 2484
• ในทวปี เอเชีย อนิ เดียเป็ นประเทศแรกทเ่ี ร่ิมเล่นฟุตบอล ศาสตราจารย์ จากวิทยาลยั กลั กตั ตา เป็นผนู้ าสาเนากฎหมายการเล่นมาเผยแพร่ในปี พ.ศ. 2426 และในปี พ.ศ. 2435 ไดม้ ีการแขง่ ขนั ชิงถว้ ยรางวลั เป็นคร้ังแรกในทวปี ซ่ึงยงั ไม่มีชื่อเสียงใน ดา้ นการเล่นฟุตบอล กีฬาชนิดน้ีกไ็ ดเ้ ริ่มมีการเล่นมาก่อนร่วมร้อยปี แลว้ เช่น สมาคมฟุตบอล แห่งนิวเซาทเ์ วลส์ ไดถ้ ูกต้งั ข้ึนในออสเตรเลีย ปี พ.ศ. 2425 และสมาคมฟตุ บอลของ นิวซีแลนดไ์ ดถ้ กู ต้งั ข้ึนหลงั จากน้นั 9 ปี
• ในแอฟริกา สมาคมระดบั ชาติแห่งแรกไดถ้ ูกต้งั ข้ึนในประเทศแอฟริกาใต้ แต่อียปิ ตเ์ ป็นประเทศแรกที่มีการแข่งขนั ระดบั ชาติในปี พ.ศ. 2467 คือ 3 ปี หลงั จากที่ได้ ก่อต้งั สมาคมข้ึน และอียปิ ตส์ ามารถเอาชนะฮงั การีได้ 3-0 ในกีฬาโอลิมปิ กที่ปารีส
• การแข่งขนั ระดบั ชาติเป็ นการแข่งขนั ระหว่างองั กฤษกบั สกอตแลนด์ ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2415 และในปี แรกของศตวรรษที่ 20 โดยประเทศยโุ รปอ่ืนๆ อยา่ งไรกต็ ามในปี พ.ศ. 2447 กลุ่มประเทศตา่ งๆ ในแถบน้ีไดป้ ระชุมกนั ท่ีปารีสเพ่อื ต้งั สมาคมฟุตบอล นานาชาติข้ึน ในคร้ังแรกก่อนการจดั ต้งั สหพนั ธ์ 20 วนั สเปนและเดนมาร์กไม่ เคยร่วมการแข่งขนั ระดบั ชาติมาก่อน และ 3 ประเทศใน 7 ประเทศ ท่ีเขา้ ร่วมประชุมยงั ไม่มีสมาคมฟุตบอลในชาติของตน แตฟ่ ี ฟ่ ากแ็ ขง็ แกร่งข้ึน เร่ือยมา
• โดยมีสมาชิก 5 ชาติ ในปี พ.ศ. 2481 และ 73 ชาติ ในปี พ.ศ. 2493 และในปัจจุบนั มีสมาชิกถึง 146 ประเทศ ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมของฟี ฟ่ า ทาใหฟ้ ี ฟ่ าเป็นองคก์ ารกีฬาท่ีใหญ่ท่ีสุดในโลก • สมาพนั ธ์ประจาทวปี ของสมาคมฟุตบอลแห่งแรกทีต่ ้งั ขนึ้ คอื Conmebol ซ่ึงเป็ นสมาพนั ธ์ของอเมริกาใต้ สมาพนั ธ์น้ีไดถ้ ูกจดั ข้ึนเพ่ือจดั ต้งั เพอ่ื จดั การแข่งขนั ชิงชนะเลิศภายในทวปี อเมริกาใต้ ในปี พ.ศ. 2460 เกือบคร่ึงศตวรรษ ต่อมาเมื่การแข่งขนั ภายในทวปี ไดแ้ พร่หลายมากข้ึน จึงไดม้ ีการจดั ต้งั สมาพนั ธใ์ นทวปี อื่นๆ ข้ึน อีกคือสหภาพสมาคมฟุตบอลยโุ รป ในปี พ.ศ. 2497 ซ่ึงเป็นปี เดียวกบั การจดั ต้งั ในทวีปเอเชีย และ 2 ปี ก่อนการจดั ต้งั สมาคมฟุตบอลยโุ รป ในปี พ.ศ. 2497 ซ่ึงเป็นปี เดียวกบั การจดั ต้งั สหพนั ธฟ์ ตุ บอลแห่งแอฟริกา (Concacaf)หรือสหพนั ธ์ฟตุ บอลแห่ง อเมริกากลาง อเมริกาเหนือ และแคริบเบ้ียน ไดถ้ กู จดั ต้งั ข้ึนในปี พ.ศ. 2504 และนอ้ งใหม่ในวงการฟุตบอลโลกคือ สมาพนั ธ์ฟุตบอล แห่งโอเชียนเนีย (Oceannir)
• สหพนั ธ์ฟุตบอลนานาชาติ • สหพนั ธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Federation International Football Association FIFA) ก่อต้งั ข้ึนท่ีกรุงปารีส ประเทศฝร่ังเศส เมื่อ พ.ศ. 2447 โดยสมาคมฟตุ บอลแห่ง ประเทศฝร่ังเศส และประเทศท่ีเขา้ ร่วมก่อต้งั 7 ประเทศคือ ฝรั่งเศส เบลเยยี ม เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ สเปน สวเี ดน และสวติ เซอร์แลนด์ มีสานกั งานใหญ่ต้งั อยทู่ ่ี เมืองซูริก ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ • สมาพนั ธ์ฟุตบอลทไี่ ด้รับการรับรองจากสหพนั ธ์ฟุตบอลนานาชาติ
• 1. Africa (C.A.F.) เป็นเขตท่ีมีสมาชิกมากท่ีสุด ไดแ้ ก่ ประเทศแอลจีเรีย ตนู ิเซีย แซร์ ไนจีเรีย และซูดาน เป็นตน้ • 2. America-North and Central Caribbean (Concacaf) ไดแ้ ก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา เมก็ ซิโก คิวบา เอติ เอลซลั วาดอร์ กวั เตมาลา และฮอนดูรัส เป็นตน้ • 3. South America (Conmebol) ไดแ้ ก่ ประเทศเปรู บราซิล อุรุกวยั โบลิเวยี อาร์เจนตินา ชิลี เวเนซุเอลา อีคิวเตอร์ และโคลมั เบีย เป็นตน้ • 4. Asia (A.F.C.)เป็นเขตท่ีมีสมาชิกรองจากแอฟริกา ไดแ้ ก่ ประเทศไทย มาเลเซีย เกาหลี ญี่ป่ ุน ฮ่องกง เลบานอน อิสราเอล อิหร่าน จอร์แดน และเนปาล เป็นตน้ • 5. Europe (U.E.F.A.) เป็นเขตท่ีมีการพฒั นามากท่ีสุด ไดแ้ ก่ ประเทศองั กฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนั ฮงั การี อิตาลี สกอตแลนด์ รัสเซีย สวเี ดน สเปน และเนเธอร์แลนด์ เป็นตน้ • 6. Oceannir เป็นเขตที่มีสมาชิกนอ้ ยที่สุดและเพิง่ จะไดร้ ับการแบ่งแยก ไดแ้ ก่ ประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิ จิ และปาปัวนิวกินี เป็นตน้ ซ่ึงประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิกตอ้ งเสียค่าบารุงเป็นรายปี ปี ละ 300 ฟรังสวสิ ส์ หรือประมาณ 2,400 บาท
• สหพนั ธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ในทวปี เอเชียมีการจดั ต้งั สหพนั ธฟ์ ุตบอลแห่งเอเอเชีย (A.F.C.) เพอ่ื ดาเนินการดา้ นฟุตบอล ดงั น้ี • พ.ศ. 2495 มีการแข่งขนั กีฬาโอลิมปิ กที่เฮลซิงกิ ประเทศฟิ นแลนด์ โดยมีนกั กีฬาและเจา้ หนา้ ที่ จากประเทศในเอเชียเขา้ มาร่วมการแข่งขนั ดว้ ย จึงไดป้ รึกษาหารือกนั ในการจดั ต้งั สหพนั ธ์ฟุตบอลเอเชียข้ึน • พ.ศ. 2497 มีการแข่งขนั เอเชียนเกมส์ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ กไ็ ดเ้ ริ่มต้งั คณะกรรมการจากชาติต่างๆ ที่เขา้ ร่วมเป็นสมาชิก 12 ประเทศ • พ.ศ. 2501 มีการแข่งขนั กีฬาเอเชียนเกมส์ที่ประเทศญี่ป่ ุน ไดม้ ีการประชุมเกี่ยวกบั เรื่องน้ีอีก และมีประเทศเขา้ ร่วม เป็นสมาชิกรวมเป็น 35 ประเทศ • พ.ศ. 2509 ฟี ฟ่ าไดม้ องเห็นความสาคญั ของ A.F.C. จึงไดก้ าหนดใหม้ ีเลขานุการประจาในเอเชีย โดยออกค่าใชจ้ ่ายใหท้ ้งั หมด รวมท้งั เงินเดือน และคนแรกท่ีไดร้ ับตาแหน่งคือ Khow Eve Turk • พ.ศ. 2517 ในการแข่งขนั กีฬาเอเชียนเกมส์ท่ีเตหะราน ประเทศอิหร่านไดม้ ีการประชุมประเทศสมาชิก A.F.C. และท่ีประชุมไดล้ งมติขบั ไล่อิสราเอล ออกจากสมาชิก และใหจ้ ีนแดงเขา้ เป็นสมาชิกแทน ท้งั ๆ ท่ีจีนแดงไม่ไดเ้ ป็นสมาชิกของฟี ฟ่ า นบั วา่ เป็นการสร้างเหตุการณ์ท่ีประหลาดใจใหก้ บั บุคคลทว่ั ไป เป็นอยา่ งมากท้งั น้ีเนื่องจากเหตุผลทางการเมือง
• พ.ศ. 2519 มีการประชุมกนั ที่ประเทศมาเลเซีย ปรากฏวา่ ประเทศสมาชิกไดล้ งมติใหข้ บั ไล่ ประเทศไตห้ วนั ออกจากสมาชิก และใหร้ ับจีนแดงเขา้ มาเป็นสมาชิกแทน ท้งั ๆ ท่ีไตห้ วนั เป็นประเทศที่ร่วมกนั ก่อต้งั สหพนั ธข์ ้ึนมา งานของสหพนั ธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย • 1. ดาเนินการจดั การแข่งขนั และควบคุม Asian Cup • 2. ดาเนินการจดั การแข่งขนั และควบคุม Asian Youth • 3. ดาเนินการจดั การแข่งขนั และควบคุมฟุตบอลโลกรอบคดั เลือก • 4. ดาเนินการจดั การแข่งขนั และควบคุม Pre-Olympic • 5. ดาเนินการจดั การแข่งขนั และควบคุม World Youth • 6. ควบคุมการแข่งขนั Kings Cup, President Cup, Merdeka, Djakarta Cup นอกจากน้ียงั ไดร้ ับความร่วมมือจากฟี ฟ่ าจดั ส่งวทิ ยากรมาช่วยดาเนินการ
• สรุปววิ ฒั นาการของฟุตบอล • ก่อนคริสตกาล - อา้ งถึงการเล่นเกมซ่ึงเปรียบเสมือนตน้ ฉบบั ของกีฬาฟุตบอลท่ีเก่าแก่ท่ี ไดม้ ีการคน้ พบจากการเขียนภาษาญี่ป่ ุน-จีน และในสมยั วรรณคดีของกรีกและโรมนั • ยคุ กลาง - ประวตั ิบนั ทึกการเล่นในเกาะองั กฤษ อิตาลี และฝร่ังเศส • ปี พ.ศ. 1857 - พระเจา้ เอด๊ เวริ ์ดที่ 3 ทรงออกพระราชกฤษฎีกาหา้ มเล่นฟุตบอล เพราะจะรบกวนการยงิ ธนู • ปี พ.ศ. 2104 - Richardo Custor อาจารยส์ อนหนงั สือชาวองั กฤษกล่าวถึงการเล่นวา่ ควรกาหนดไวใ้ นบทเรียนของเยาวชน โดยไดร้ ับอิทธิพลจาการเล่นกาลซิโอในเมืองฟลอเร้นท์ • ปี พ.ศ. 2123 -Riovanni Party ไดจ้ ดั พมิ พก์ ติการการเล่นคาลซิโอ • ปี พ.ศ. 2223 -ฟุตบอลในประเทศองั กฤษไดร้ ับพระบรมราชานุเคราะหจ์ ากพระเจา้ ชาร์ลที่ 2 • ปี พ.ศ. 2391 -ไดม้ ีการเขียนกฎขอ้ บงั คบั เคมบริดจข์ ้ึนเป็นคร้ังแรก • ปี พ.ศ. 2406 -ไดม้ ีการก่อต้งั สมาคมฟุตบอลข้ึน • ปี พ.ศ. 2426 -สมาคมฟุตบอลจกั รภพ 4 แห่ง ยอมรับองคก์ รควบคุม และจดั ต้งั กรรมการระหวา่ งชาติ • ปี พ.ศ. 2429 -สมาคมฟุตบอลเริ่มทาการฝึกเจา้ หนา้ ท่ีท่ีจดั การแข่งขนั • ปี พ.ศ. 2431 -เร่ิมเปิ ดการแข่งขนั ฟุตบอลลีก โดยยนิ ยอมใหม้ ีนกั ฟุตบอลอาชีพ และเพมิ่ อานาจการควบคุมใหผ้ ตู้ ดั สิน • ปี พ.ศ. 2432 -สมาคมฟุตบอลส่งทีมไปแข่งขนั ในต่างประเทศ เช่น เยอรมนั ไปเยอื นองั กฤษ • ปี พ.ศ. 2447 - ก่อต้งั ฟี ฟ่ า ซ่ึงมีสานกั งานอยทู่ ี่กรุงปารีส เม่ือ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 โดยสมาคมแห่งชาติคือ ฝรั่งเศส เบลเยยี ม เดนมาร์ก สเปน สวเี ดน และสวติ เซอร์แลนด์ • ปี พ.ศ. 2480 - 2481 -ขอ้ บงั คบั ปัจจุบนั เขียนข้ึนตามระบบใหม่ขององคก์ รควบคุม โดยใชข้ อ้ บงั คบั เก่ามาเป็นแนวทาง
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: