3. งกู ินหาง โดยวธิ กี ารเลน่ เริ่มจากเส่ียงทาย 4. ว่าวไทย เร่ิมมาต้งั แตส่ มัยกรงุ สุโขทยั เรอื่ ยมา การละเลน่ พ้นื บ้านไทยใครแพ้ต้องไปเป็น \"พ่อง\"ู ส่วนผชู้ นะท่ีมรี ่างกายแข็งแรง ตามท่ปี รากฏหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ และถอื เปน็ ส่ิงท่ี แผ่นพบั ประชาสัมพันธ์ตวั ใหญจ่ ะเป็น \"แมง่ ู\" ไว้คอยปกป้องเพื่อน ๆ คนอ่ืนท่ีเปน็ บ่งบอกถึงภูมิปัญญาพ้นื บ้านและวัฒนธรรมของไทยได้อยา่ งดี ฉบับที่ 3/2560 ประจาเดือน ธันวาคม 2559\"ลกู ง\"ู จากน้นั \"ลกู งู\" จะเกาะเอวแม่งแู ละ ต่อแถวกันไว้ เพราะแต่ละท้องถิน่ จะคดิ ประดษิ ฐ์วา่ วแตกต่างกันไปจากนัน้ จะเข้าสู่บทร้อง ทวี่ ่า \"ว่าวไทย\" จึงกลายเปน็ มรดกตกทอดของแตล่ ะชมุ ชน จดั ทาโดย กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และมลี ักษณะเฉพาะตัวทโ่ี ดดเดน่ พ่องู : \"แม่งูเอ๋ยกนิ น้าบ่อไหน\" องค์การบริหารสว่ นตาบลปลวกแดง แม่งู : \"กนิ น้าบอ่ โสกโยกไปโยกมา\" การเลน่ ว่าวนน้ั เล่นได้ทงั้ หน้าหนาวและหนา้ ร้อน โทรศัพท:์ 038-659189 ตอ่ 34(พร้อมแสดงอาการส่ายตัวไปมา) โดยอาศัยกระแสลมเป็นตัวฉุดให้ว่าวลอยขน้ึ และวา่ วมีหลาย ประเภท เช่น วา่ วจฬุ า จะมลี ักษณะ 5 แฉก นิยมเล่นกันใน พ่องู : \"แม่งูเอ๋ยกินน้าบ่อไหน\" ภาคกลาง / วา่ ววงเดอื น หรอื วา่ วบุหลนั จะตกแต่งเป็นลาย แม่งู : \"กินน้าบ่อหนิ บินไปบินมา\" เรือกอ นยิ มเล่นในภาคใต้ตอนล่าง เปน็ ต้น(พร้อมแสดงอาการบนิ ไปบินมา) ทม่ี า: http://www.kapook.com/ พ่องู : \"แมง่ ูเอย๋ กินน้าบอ่ ไหน\" view/50651 แมง่ ู : \"กินนา้ บ่อทรายยา้ ยไปย้ายมา\"(พร้อมแสดงอาการส่ายตัวไปมา) ตดิ ตอ่ สอบถาม และพอ่ งูพูดวา่ “กนิ หวั กินหางกินกลาง ตลอดตัว\" www.pluakdaeng.go.thแลว้ ว่ิงไล่จับลูกงูทีก่ อดเอวอยู่ แม่งูจะต้องป้องกันไม่ใหพ้ ่องู e-mail : [email protected]จบั ลูกงูไปได้ เม่ือลกู งูคนไหนถกู จบั จะต้องออกจากแถวมา www.facebook.com/อบต.ปลวกแดงด้านนอก หากพ่องแู ย่งลกู ได้หมด จะถือว่าจบเกมแลว้เริ่มเล่นใหม่ โดยให้พ่องเู ป็นแมง่ ใู นรอบตอ่ ไปประโยชนข์ องการเลน่ งกู นิ หาง กค็ ือ ทาใหผ้ เู้ ลน่ เกดิ ความสามัคคี ทางานเปน็ กล่มุ รู้จักช่วยเหลือกนั รา่ งกายใหแ้ ข็งแรง
ปจั จุบันเทคโนโลยไี ด้ เข้ามามีบทบาทในชีวติ 2. รีรขี ้าวสาร เปน็ การละเลน่ ที่มีบทร้องวา่ 3. เดนิ กะลา เป็นการละเล่นพนื้ บา้ นประจาวนั ของมนุษยเ์ ปน็ อย่างมาก เด็กไทยยุคน้ีจงึใชเ้ วลาอยู่กับเครือ่ งมอื อุปกรณ์สอ่ื สารมากกวา่ ทจ่ี ะออกไป \"รรี ีขา้ วสาร สองทะนานข้าวเปลอื ก เด็กนอ้ ยตาเหลอื ก ท่หี าดไู ด้ไมง่ า่ ยนัก แต่หากเป็นสมัยกอ่ นจะเห็นเด็ก ๆวิง่ เล่นเช่นเดก็ ไทยในอดีต ซึ่งมผี ลกระทบต่อเด็กและสังคม เลือกท้องใบลาน คดข้าวใส่จาน คอยพานคนข้างหลังไว\" เดนิ กะลากันทั่วไป โดยผู้เล่นต้องนากะลามะพรา้ ว 2 อนัอยา่ งมาก มาทาความสะอาดแลว้ เจาะรูตรงกลาง ร้อยเชือกให้แนน่ โดยมีกตกิ า ก็คือ ต้องมผี เู้ ล่น 2 คนหันหน้าเข้าหากัน เพอ่ื ป้องกันไมใ่ ห้เชอื กหลุดเวลาเดิน และเวลาเดินให้ใชน้ วิ้ จึงอยากเชิญมายอ้ นอดีตดูการละเล่นพ้ืนบา้ นของ และเอามอื ประสานกนั ไวเ้ ปน็ รูปซ้มุ สว่ นผู้เลน่ คนอ่ืน ๆ หัวแม่เท้ากับน้ิวช้คี ีบเชือกเอาไว้แล้วเดนิ หากมีเด็ก ๆเด็กไทยวา่ มีอะไรบ้าง จะก่ีคนก็ไดจ้ ะยนื เกาะเอวกันไวต้ ามลาดบั หัวแถวจะเดนิ หลายคนอาจจัดแข่ง เดินกะลา โดยกาหนดเสน้ ชัยไว้ พาขบวนลอดซุ้มพร้อมร้องเพลง \"รีรีขา้ วสาร\" จนเม่ือถึง หากใครเดินถงึ ก่อนกเ็ ป็นผ้ชู นะไป 1. \"เล่นซอ่ นหา\" หรือ \"โป้งแปะ\" เปน็ หน่งึ ประโยคท่วี า่ \"คอยพานคนขา้ งหลงั ไว\"้ ผทู้ ป่ี ระสานมือเปน็ ซุ้ม ประโยชน์ของการเดนิ กะลา ก็คอื ช่วยฝึกการทรงตัวในการละเล่นพ้นื บ้านทม่ี มี าช้านาน และยงั ไดร้ ับ จะลดมือลงกันไม่ใหค้ นสุดท้ายผา่ นเขา้ ไป เรียกว่า \"คัดคน\" ความสมดุลของรา่ งกาย เพราะต้องระวังไมใ่ หต้ กกะลาความนิยมอยู่ทุกยคุ ทุกสมัย โดยกติกาก็คอื คนท่ีเป็น และเล่นอยา่ งน้ีไปเร่ือยๆ จนคนหมด ช่วงแรก ๆ อาจจะรู้สกึ เจบ็ เท้า แตถ่ ้าฝกึ บ่อย ๆ จะชนิ\"ผู้หา\" ตอ้ งปิดตา และใหเ้ พื่อนๆ ไปหลบหาที่ซอ่ น และหายเจ็บไปเอง อกี ทั้งทาให้รา่ งกายแขง็ แรงจากน้นั \"ผู้หา\" จะหาไปเรื่อย ๆ จนครบ ผู้ท่ถี กู หาพบ ประโยชนข์ องการเล่นรีรขี ้าวสาร กค็ อื ช่วยให้จิตใจร่าเรงิ เพลิดเพลนิ อีกดว้ ยคนแรกจะต้องมาเปลย่ี นมาเป็น \"ผู้หา\" แทน และคนที่ แจ่มใส รจู้ ักมีไหวพรบิ ใช้กลยุทธ์ใหต้ วั เองเอาตัวรอดยงั ไม่ถูกพบสามารถเข้ามาแตะตัว \"ผู้หา\" พรอ้ มกับร้อง จากการถูกคล้องไวไ้ ด้ รวมทั้งฝึกให้เดก็ ทางานเป็นกลุ่มว่า \"แปะ\" เพือ่ ให้ \"ผู้หา\" เป็นต่ออกี รอบหน่งึ ได้ประโยชนจ์ ากการเล่นซอ่ นหา คอื ฝกึ ให้เป็นคนชา่ งสงั เกตสามารถจับทศิ ทางของเสียงได้ รวมทัง้ ฝกึ ความรอบคอบนอกจากน้ียงั ทาให้ผ้เู ล่นสนกุ สนาน อารมณแ์ จม่ ใส
Search
Read the Text Version
- 1 - 2
Pages: