Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 01.คอมพิวเตอร์กราฟิก 1

01.คอมพิวเตอร์กราฟิก 1

Published by waranya_dat, 2021-11-22 04:42:57

Description: 01.คอมพิวเตอร์กราฟิก 1

Search

Read the Text Version

COMPUTER GRAPHIC คอมพวิ เตอร์ กราฟิก

แนวคิดคอมพิวเตอรก์ ราฟิก คอมพิวเตอร์กราฟิก คือ การใช้คอมพิวเตอร์สร้างภาพและจัดการ เกี่ยวกับรูปภาพ เพ่ือใช้ส่ือความหมายของข้อมูลต่างๆ ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น การใช้กราฟนาเสนอข้อมูลยอดขายสินค้าในแต่ละปี การใช้ภาพกราฟิก ประกอบการโฆษณาสินค้าต่างๆ ภาพกราฟิกแบบ 2 มิติ มี 2 แบบ คือแบบ Raster และแบบ Vector จะเกิดภาพจากจุดสี่เหล่ียมเล็กๆ หลายๆ จุดมา รวมกัน ส่วนแบบ Vector เกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรอื การคานวณ ซ่ึงภาพกราฟิกแต่ละนามสกุลจะมีแฟ้มรูปภาพและลักษณะท่ี แตกต่างกัน

ความหมายของกราฟิก “กราฟิก” มาจากภาษา กรีก หมายถึง ศิลปะแขนงหนึ่งซึ่งใช้ สื่อความหมายด้วยเส้น สัญลักษณ์ รูปวาด ภาพถ่าย กราฟ แผนภูมิ การ์ตุน ฯลฯ เพ่ือให้สามารถส่ือความหมายข้อมูลได้ ถกู ต้องตรงตามท่ผี ูส้ อื่ สารต้องการ

ความหมายของคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ คอมพิวเตอรก์ ราฟกิ หมายถึง การสร้าง การตกแต่งแก้ไข หรอื การ จัดการเกี่ยวกบั รูปภาพโดยใชเ้ ครอ่ื งคอมพิวเตอรใ์ นการจดั การภาพกราฟกิ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.ภาพกราฟิกแบบ 2 มติ ิ 2.ภาพกราฟกิ แบบ 3 มติ ิ

หลักการทางานและการแสดงผลของภาพคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ ภาพท่ีเกิดบนจอคอมพิวเตอร์ เกิดจากการทางานของโหมดสี RGB ซ่ึงประกอบด้วย สีแดง (Red) สีเขียว (Green) และสีนาเงิน (Blue) โดยใช้หลักยิงประจุไฟฟ้าให้เกิดการเปล่งแสงของสีทัง 3 สีมาผสมกัน ทาให้เกิดเป็นจุดสีสี่เหล่ียมเล็กๆ ท่ีเรียกว่า พิกเซล (Pixel) ซึ่งมาจากคาว่า Picture กับ Element โดยพิกเซลจะมี หลากหลายสี เม่ือนามาวางต่อกันจะเกิดเป็นรูปภาพ ซ่ึงภาพที่ใช้กับ เคร่อื งคอมพิวเตอร์มี2 ประเภท คอื แบบ Raster กับ Vector

ความแตกตา่ งระหวา่ งกราฟกิ แบบ Raster และ Vector

หลักการของกราฟกิ แบบ Raster หลักการของกราฟิกแบบ Raster หรือแบบ Bitmap เปน็ ภาพกราฟิกทเ่ี กิดจากการ เรยี งตวั กนั ของจดุ สีเ่ หล่ียมเลก็ ๆ หลากหลายสี ซ่ึงเรียกจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นีว่า พิกเซล ในการ สร้างภาพกราฟิกจะต้องกาหนดจานวนของพิกเซลให้กับภาพท่ีต้องการสร้าง ถ้ากาหนด จานวนพกิ เซลนอ้ ย เม่อื ขยายภาพใหม้ ขี นาดใหญข่ นึ จะทาให้มองเห็นภาพเป็นจุดส่ีเหลี่ยมเล็ก ๆ หรือถ้ากาหนดจานวนพิกเซลมากกจ็ ะทาให้แฟม้ ภาพมขี นาดใหญ่ ดังนนั การกาหนดพิกเซล ควรกาหนดให้เหมาะสมกับงานทสี่ ร้าง คือ • การใชง้ านท่วั ๆ ไป กาหนดจานวนพกิ เซลประมาณ 100-150 ppi (Pixel/inch) หรือจานวนพกิ เซลต่อ 1 ตารางนวิ • งานท่ีต้องการความละเอียดน้อยและแฟ้มภาพมีขนาดเล็ก เช่น ภาพสาหรับใช้กับเว็บไซต์จะกาหนด จานวนพิกเซลประมาณ 72 ppi • งานพิมพ์ เช่น นิตยสาร โปสเตอร์ขนาดใหญ่ จะกาหนดจานวนพิกเซลประมาณ 300-350 ข้อดีของ ภาพกราฟกิ แบบ Raster คือ สามารถแก้ไขปรับแต่งสีตกแต่งภาพ ได้ง่ายและสวยงาม โปรแกรมท่ีนิยม http://www.itforsme.net/knc_detail.php?id=592 ใช้ คอื Paint, Adobe Photoshop

หลักการของกราฟิกแบบ Vector เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรือการ คานวณ ภาพจะมีความเป็นอิสระต่อกัน แยกชินส่วนของภาพทังหมดออกเป็นเส้นตรง เส้น โค้ง รูปทรง เมื่อมีการขยายภาพความละเอียดของภาพไม่ลดลง แฟ้มมีขนาดเล็กกว่าแบบ Raster ภาพกราฟิกแบบ Vector นิยมใช้เพื่องานสถาปัตย์ตกแต่งภายใน และการออกแบบ ต่าง ๆ เช่น การออกแบบอาคาร การออกแบบรถยนต์ การสร้างโลโก การสร้างการ์ตูน เป็น ตน้ โปรแกรมที่นยิ ม คอื โปรแกรม Illustrator , CorelDraw , AutoCAD , 3Ds max ข้อดีของภาพกราฟิกแบบ Vector คอื เม่ือทาการขยายภาพทวี่ าดแลว้ ภาพจะยังคงความละเอยี ดเสมอ พิกเซล (Pixel) คือ จดุ หน่ึงจุดในหน้าจอ ซึ่งถ้าตังค่าพกิ เซลมาก จะทาให้ภาพท่ีเราสร้างขึนมีความละเอียด ของสีเพ่ิมขึน แต่ก็จะทาให้ไฟล์ภาพใหญ่ตามไปด้วย การตังค่าไฟล์ หากต้องการสร้างไฟล์ท่ีต้องการให้ แสดงผลทางหน้าจอเพียงอย่างเดียว เช่น การออกแบบเว็บไซต์ ให้ตังค่าประมาณ 72 pixel/Inc แต่ถ้า ต้องการพิมพอ์ อกมาทางเครอื่ งพิมพ์ ควรตังค่า ประมาณ 300 pixel/Inc http://www.itforsme.net/knc_detail.php?id=592

ความแตกต่างของกราฟกิ แบบ 2 มติ ิ แบบ Raster และแบบ Vector ภาพกราฟิกแบบ Raster ภาพกราฟิกแบบ Vector 1. ภาพกราฟกิ เกดิ จากจุดสี่เหลีย่ มเล็กๆ หลากหลายสี 1. ภาพเกดิ จากการอา้ งอิงความสมั พนั ธ์ทาง (Pixels) มาเรยี งต่อกันจนกลายเป็นรูปภาพ คณติ ศาสตร์หรอื การคานวณ โดยองคป์ ระกอบของภาพ มีอสิ ระตอ่ กัน 2. การขยายภาพกราฟิกใหม้ ขี นาดใหญ่ขึนจะทาให้ 2. การขยายภาพกราฟิกให้มีขนาดใหญ่ขึนภาพยังคง ความละเอียดของภาพลดลงทาใหม้ องเหน็ ภาพเป็นจุ ความละเอยี ดคมชัดเหมอื นเดิม สี่เหลี่ยมเลก็ 3. การตกแตง่ และแกไ้ ขภาพ สามารถทาไดง้ า่ ยและ 3. เหมาะกบั งานออกแบบตา่ งๆ เชน่ งานสถาปัตย์ สวยงาม เช่น การ Retouching ภาพคนแกใ่ ห้หนุ่มขึน ออกแบบโลโก 4. การประมวลผลภพสามารถทาได้รวดเรว็ 4. การประมวลผลภาพจะใชเ้ วลานานเนื่องจากใชค้ าส่ัง ในการทางาน



หลกั การใช้สแี ละแสงในคอมพวิ เตอร์ สีทใี่ ช้ในงานดา้ นกราฟกิ ทวั่ ไปมี 4 ระบบ คอื RGB CMYK HSB LAB

หลกั การใชส้ แี ละแสงในคอมพิวเตอร์ RGB เป็นระบบสีที่ประกอบด้วยแม่สี 3 สีคือ แดง (Red), เขียว (Green) และสีนาเงิน (Blue) เมื่อนามาผสมกันทาให้เกิดสีต่างๆ บนจอคอมพิวเตอร์มากถึง 16.7 ล้านสี ซึ่ง ใกล้เคียงกับสีที่ตาเรามองเห็นปกติ สีที่ได้ จากการผสมสีขึนอยู่กับความเข้มของสี โดยถ้าสีมีความเข้มข้นมาก เม่ือนามาผสม กันจะทาให้เกิดเป็นสีขาว จึงเรียกระบบสีนี ว่า แบบ Additive หรอื การผสมสแี บบบวก

หลักการใช้สีและแสงในคอมพวิ เตอร์ เป็นระบบสีท่ีใช้กับเคร่ืองพิมพ์ท่ีพิมพ์ออกทาง CMYK กระดาษหรือวัสดุผิวเรียกอ่ืนๆ ซึง่ ประกอบด้วยสีหลัก 4 สีคือ สีฟ้า (Cyan), สีม่วงแดง (Magenta), สีเหลือง (Yellow), และสีดา (Black) เมื่อนามาผสมกันจะเกิด สีเป็นสีดาแต่จะไม่ดาสนิทเน่ืองจากหมึกพิมพ์มีความ ไม่บริสุทธ์ิ จึงเป็นการผสมสีแบบลบ (Subtractive) หลักการเกิดสีของระบบนีคือ หมึกสีหนึ่งจะดูดกลืน แสงจากสีหนึ่งแล้วสะท้อนกลับออกมาเป็นสีต่างๆ เช่น สีฟ้าดูดกลืนแสงของสีม่วงแล้วสะท้อนออกมา เป็นสีนาเงิน ซ่ึงจะสังเกตได้ว่าสีท่ีสะท้อนออกมาจะ เป็นสีหลักของระบบ RGB การเกิดสีนีในระบบนีจึง ตรงขา้ มกบั การเกดิ สใี นระบบ RGB

หลกั การใชส้ ีและแสงในคอมพิวเตอร์ เป็นระบบสีแบบการมองเห็นของสายตามนุษย์ HSB ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ Hue คือสีต่างๆ ที่ สะท้อนออกมาจากวัตถุแล้วเข้าสู่สายตาของเรา ซึ่ง มักเรยี กสีตามชอื่ สี เชน่ สเี ขียว สแี ดง สเี หลือง Saturation คือความสดของสี โดยค่าความสด ของสีจะเร่ิมที่ 0 ถงึ 100 ถ้ากาหนด Saturation ที่ 0 สีจะมคี วามสดนอ้ ย แตถ่ า้ กาหนดที่ 100 สีจะมี ความสดมาก Brightness คอื ระดบั ความสว่างของสี โดยคา่ ความสวา่ งของสจี ะเร่ิมที่ 0 ถึง 100 ถ้ากาหนดท่ี 0 ความสว่างจะน้อยซง่ึ จะเป็นสดี า แตถ่ ้ากาหนดที่ 100 สจี ะมคี วามสวา่ งมากท่สี ุด

หลักการใชส้ แี ละแสงในคอมพวิ เตอร์ เปน็ ระบบสที ไ่ี มข่ ึน้ กบั อุปกรณใ์ ด ๆ LAB (Device Independent) โดยแบง่ ออกเป็น 3 ส่วนคือ “L” หรอื Luminance เปน็ การ กาหนดความสว่างซง่ึ มคี ่าต้ังแต่ 0 ถงึ 100 ถา้ กาหนดท่ี 0 จะกลายเป็นสดี า แต่ถา้ กาหนดที่ 100 จะกลายเป็นสี ขาว “A” เป็นค่าของสีทีไ่ ล่จากสเี ขียวไปสี แดง “B” เป็นคา่ ของสีทไี่ ลจ่ ากสนี ้าเงินไปสี

แฟ้มภาพกราฟกิ Raster และคุณลกั ษณะของแฟ้มภาพกราฟิก นามสกุลทีใ่ ชเ้ ก็บแฟม้ ภาพกราฟิกแบบ Raster มหี ลาย นามสกุล เช่น .BMP .DIB .JPG .JPEG .GIF .TIFF .TIF ,PCX .MSP ,PCD .PCT .FPX .IMG .MAC .MSP และ .TGA เปน็ ตน้ ซึ่งลักษณะของแฟม้ ภาพจะแตกตา่ งกนั ออกไป

.JPG, .JPEG, .GIF - ใช้สาหรับรูปภาพทวั่ ไป งานเวบ็ เพจ และงานทมี่ คี วามจากัดดา้ นพนื ท่ี .TIF, .TIFF .BMP, .DIB - โปรแกรมท่ใี ช้สร้างคอื Photoshop, PaintShopPro, Illustrator เปน็ ตน้ .PCX - เหมาะสาหรบั งานดา้ นนติ ยสาร เพราะมคี วามละเอียดของภาพสูง - โปรแกรมทีใ่ ช้สร้างคอื Photoshop เปน็ ตน้ - เป็นไฟลม์ าตรฐานของระบบปฏบิ ตั กิ ารวนิ โดวส์ - โปรแกรมท่ใี ช้สร้างคือ PaintShopPro, Paint - เปน็ ไฟล์ดงั เดมิ ของโปรแกรมแกไ้ ขภาพแบบบิตแมป ไมม่ ีโมเดลเกรย์สเกล ใช้ กบั ภาพท่วั ไป - โปรแกรมท่ใี ช้สร้างคือ CorelDraw, Paintbrush, Illustrator เป็นตน้

แฟ้มภาพกราฟิกแบบ Vector และคณุ ลกั ษณะของแฟม้ ภาพกราฟกิ นามสกุลท่ีใช้เก็บแฟ้มภาพกราฟิกแบบ Vector มีหลายนามสกุล เช่น .EPS .WMF .CDR .AI .CGM .DRW .PLT ,DXF .PIC และ .PGL เป็นตน้ ซ่งึ ลักษณะของแฟม้ ภาพ จะแตกต่างกนั ออกไป AI,.EPS - ใชส้ ำหรับงำนที่ตอ้ งกำรควำมละเอียดของภำพมำก เช่น .WMF กำรสร้ำงกำร์ตูน กำรสร้ำงโลโก้ เป็นตน้ - โปรแกรมท่ีใชส้ ร้ำง Illustrator - เป็นไฟลม์ ำตรฐำนของโปรแกรม Microsoft Office - โปรแกรมท่ีใชส้ ร้ำงคือ CorelDraw

1 หลักการทางานและการแสดงผลของภาพคอมพวิ เตอร์กราฟกิ 1. หลักการทางานของภาพกราฟิก คือ ภาพท่ีเกิดบนจอคอมพิวเตอร์ เกิดจากการทางานของโหมดสี RGB ประกอบด้วย สีแดง สีเขียว และสีนาเงิน โดยใช้หลักยิงประจุไฟฟ้าให้เกิดการเปล่งแสงของสีทัง 3 สีมาผสมกัน ทาให้ เกิดเป็นจดุ สสี เี่ หลย่ี มเล็กๆ ท่ีเรียกว่า พิกเซล (Pixel) 2. การแสดงผลของภาพกราฟกิ 2.1 การสรา้ งภาพภาพแบบเวกเตอร์ (Vector) หรือสโตรก (Stroked Display) 2.2 การสรา้ งภาพแบบบติ แมป (Bitmap) 11

ประเภทของภาพกราฟิ ก 1. กราฟกิ แบบบติ แมป (Bitmap) คอื มลี กั ษณะเป็นชอ่ งๆ เหมอื นตาราง รูปที่ 1 ระบบภาพแบบ Bitmap 12

2. พกิ เซล (Pixel) หมายถึง ความละเอียดของภาพทพ่ี มิ พโ์ ดยเคร่อื งพมิ พ์ แบบเลเซอร์ รปู ท่ี 2 ระบบภาพแบบ Pixel 13

3. สัดส่วนของภาพ (Image Aspect Ratio) คือ อัตราส่วนระหวา่ ง จานวนพิกเซลทางแนวขวาง และจานวนพิกเซลทางแนวดิ่งท่ีใช้ในการสร้าง ภาพ รปู ที่ 3 ระบบภาพแบบ Pixel 14

4. รีโซลูชัน (Resolution) หมายถึง รายละเอียดท่ีอุปกรณ์แสดงกราฟิก ชนดิ หนงึ่ มีอยู่ คา่ รีโซลูชนั จะระบุเป็นจานวนพกิ เซลในแนวนอน คือ แนวแกน X และจานวนพิกเซลในแนวตงั คอื แนวแกน Y รปู ท่ี 4 ภาพแสดงคา่ Resolution 15

5. กราฟิกแบบเวกเตอร์ (Vector) การรวมเอาคาสั่งทางคอมพิวเตอร์ และสูตรทางคณิตศาสตร์เพ่ืออธิบายเกี่ยวกับอ็อบเจกต์ ซึ่งจะปล่อยให้ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เป็นตัวกาหนดเองว่าจะวางจุดจริงๆ ไว้ที่ตาแหน่งใดใน การสร้างภาพ รูปท่ี 5 ระบบภาพแบบ Vector 16

6. อ็อบเจกต์ (Object) กราฟิกแบบเวกเตอร์สามารถสร้างรูปภาพโดย การรวมเอาอ็อบเจกต์หลายๆ ชนิดมาผสมกัน ซึ่งสามารถผสมอ็อบเจกต์ต่าง ชนิดกัน เพ่อื สรา้ งภาพทีแ่ ตกตา่ งกัน รูปท่ี 6 ระบบภาพแบบ Object 17


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook