จดั ทาแฟ้ มชุมชน (Community Folder) เป็ นแฟ้ มข้อมูลทท่ี าให้เห็นภาพรวมท้งั ชุมชน และสามารถเช่ือมโยง ความสัมพนั ธ์ของปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขึน้ ได้ เพอื่ นาไปใช้ประกอบการ ทางานในระบบบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ ประกอบด้วย 1. แผนทเ่ี ดินดิน ต้องเป็ นแผนทรี่ วมท้งั ชุมชน ทมี่ กี ารแก้ไขเพมิ่ เตมิ อย่าง สม่าเสมอลงไปในชุมชนแต่ละคร้ังหากพบเห็นอะไรเพม่ิ เตมิ กน็ ามาวาด หรือเพม่ิ ลงไปเพราะภายในชุมชนน้ันย่อมจะเกดิ การเปลย่ี นแปลงอยู่เสมอ 2. ผงั เครือญาติ โดยเฉพาะผงั เครือญาตใิ นชนบท ถ้าเขียนลงในแผ่นเดียวกนั ไม่ได้กเ็ ขียนโยงต่อไปยงั หน้าถดั ไป แต่ควรทาสัญลกั ษณ์ให้เข้าใจตรงกนั ว่าผงั เครือญาติในหน้านีเ้ ช่ือมกบั ผงั ต่อไปในหน้าไหน การรวบรวมผงั เครือญาตริ วมกเ็ พอื่ ใช้อ้างองิ หรือเช่ือมโยงข้อมูลของครอบครัว
3. โครงสร้าง / องค์กร / ผ้นู า อาจจะมอี ธิบายเพม่ิ เตมิ ว่าแต่ละคนมี ความสาคญั ต่อชุมชนอย่างไร เช่น คนนีเ้ ป็ นผู้นาทช่ี าวบ้านศรัทธา คน นีเ้ ป็ นมัคนายกและเป็ นผู้นาทไี่ ม่เป็ นทางการทส่ี าคญั ด้วย เป็ นต้น 4. ระบบสุขภาพทง้ั ในและนอกชุมชน ชุมชนมที พี่ ง่ึ อะไรบ้างท้งั ในและ นอกชุมชน เช่น หมอนวด หมอพนื้ บ้าน สถานีอนามัย โรงพยาบาล เป็ นต้น (พร้อมท้งั ระบุลงไปในแผนทดี่ ้วย) ควรรวบรวมแหล่งทพ่ี งึ่ ทางสุขภาพ รวมไปถงึ ชุมชนข้างเคยี งด้วย 5. ปฏิทนิ ชุมชน ท้งั ด้านเศรษฐกจิ และด้านวฒั นธรรม ในด้านเศรษฐกจิ เขียนอาชีพทม่ี ีอยู่ในชุมชนท้งั หมด ในรอบหน่ึงปี เช่น ปลูกอ้อย ปลูก ข้าว เลยี้ งววั หรือรับจ้างช่วงไหนบ้าง มกี ารหมุนเวยี นการทางาน อย่างไรบ้างกใ็ ส่รายละเอยี ดเอาไว้
6. ประวตั ิศาสตร์ชุมชน อาจจะทาให้เป็ นผงั ประวัตศิ าสตร์ขนึ้ มาเพอื่ ให้ เห็นภาพรวมท้งั หมดว่าเกดิ เหตุการณ์สาคญั ๆ ในหมู่บ้านอะไรบ้าง ช่วงเวลาใด แล้วอธิบายเพม่ิ เตมิ ว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่าน้ันมีผลต่อ ชีวติ ของผู้คนในชุมชนอย่างไร 7. รายชื่อสาคญั ของคน 3 กล่มุ คอื กล่มุ คนจน คนทุกข์ยากและคน ป่ วย ทมี่ ใี นหมู่บ้านท้งั หมดว่ามีใครบ้าง อยู่บ้านไหน โดยเกบ็ รายละเอยี ดชีวติ ของคนเหล่าน้ันไว้ในแฟ้ มครอบครัวของเขา
พงึ ระลกึ ไว้เสมอว่า เครื่องมอื การศึกษาชุมชน แบบฟอร์มและ ระบบข้อมูลต่าง ๆ มไี ว้เพอ่ื ช่วยให้เกดิ กระบวนการเรียนรู้วถิ ชี ุมชน เพอ่ื ให้บุคลากรทที่ างานบริการสุขภาพระดบั ปฐมภูมสิ ามารถทางาน ชุมชนได้ดขี นึ้ จงึ ไม่ควรยดึ ติดกบั เคร่ืองมอื หรือรูปแบบตายตวั ต่าง ๆ ควรส่งเสริมให้เกดิ กระบวนการเรียนรู้ร่วมกนั โดยจัดให้มกี ารพูดคุย แลกเปลยี่ นกนั อยู่เสมอ จะช่วยให้เกดิ การทบทวน ปรับแก้ข้อผดิ พลาดท่ี อาจมขี นึ้ เพอื่ ให้การทางานชุมชนเป็ นส่ิงทผ่ี ู้ปฏบิ ตั งิ านสุขภาพระดับ ปฐมภูมิ มคี วามภาคภูมใิ จ ได้เรียนรู้และเติบโตไปกบั การทางานที่ ประณตี พถิ ีพถิ นั และใส่ใจในความเป็ นมนุษย์ของผ้คู นอย่างแท้จริง
สวสั ดีครับ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105