บทที่ 2 เทคนคิ การทางานร่วมกบั ชุมชน • บทบาทของชุมชนและการมสี ่วนร่วม • เครอื่ งมอื สง่ เสรมิ การมสี ่วนร่วม
รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย 2550 มาตรา 66 บุคคลซ่ึงรวมกันเป็ นชุมชน ชุมชนท้องถ่ิน หรือชุมชนท้องถิ่นด้ังเดิม ย่อมมีสิทธิอนุรักษ์ หรือฟ้ื นฟูจารีต ประเพณี ภมู ิปั ญญาท้องถ่ิน ศิลปวัฒนธรรมอันดีของท้องถ่ิน และ ของชาติ และมีส่วนร่วมในการจัดการ การบารงุ รักษา และการใช้ ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม รวมท้ังความ หลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและย่ังยืน
• มาตรา 67 สิทธิบคุ คลที่จะมสี ่วนร่วมกับรัฐและ ชมุ ชน ในการอนรุ กั ษ์ บารงุ รกั ษา และการได้ ประโยชน์จากทรัพยากรและความหลากหลาย ทางชีวภาพ ย่อมได้รบั ความค้มุ ครองตาม ความเหมาะสม ฯลฯ
• การได้รับชดเชยค่าเสียหายหรือค่าทดแทน จากรฐั ในกรณที เ่ีกดิ จากภยั อนั ตรายจากการ แพร่กระจายของมลพษิ จากกจิ การหรอื โครงการที่ ราชการหรอื รฐั วสิ าหกจิ รเิรม่ิ สนบั สนุนหรอื ดาเนนิ การ
• การร้องเรียน กล่าวโทษผูก้ ระทาผดิ ท่ีละเมดิ หรอื ฝ่ าฝื นกฎหมายเกย่ี วกบั การควบคุมมลพษิ หรอื การอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตติ ่อพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี
ความจาเป็ นของการมสี ่วนร่วม 1. ประชาชนอย่ใู กล้ชิดเหตกุ ารณ์ 2. เมื่อเขารว่ มวิเคราะหป์ ัญหาแล้วต่อไปจะคิดแก้ไขโดยการ พึ่งตนเอง 3. ทรพั ยากรธรรมชาติมีอย่อู ย่างจากดั 4. เป็นหลกั การบริหารบนพืน้ ฐานของความสจุ ริตและยตุ ิธรรม ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย
5. ทาให้เกิดฉันทามติ 6. จาเป็นต้องมีตวั แทนของประชาชนหลากหลายฝ่ายร่วมดแู ล ผลประโยชน์ของตนเพราะท่ีผา่ นมาผลประโยชน์มกั อย่ทู ่ีบาง กล่มุ 7. เพื่อให้ชมุ ชนและกล่มุ สนับสนุนต่อผลการตดั สินใจร่วมกนั 8. เม่ือต้องตดั สินใจกระทาส่ิงใด จะเกิดผลกระทบท่ีสาคญั ต่อ บคุ คลหรือกล่มุ บคุ คลจึงต้องได้รบั ทราบปัญหาและแนว ทางแก้ไขปัญหาในรอบด้าน
เคร่ืองมอื ส่งเสรมิ การมสี ่วนรว่ มเพอ่ื พฒั นาชมุ ชน จากเอกสารระกอบการอบรมของ ปทั มา สนธทิ รพั ย์ กรมการพฒั นาชุมชน
เรม่ิ จากการทาแผนทคี่ วามคดิ : Mind Map ความมีเหตุผล คุณสมบตั ิ เศรษฐกิจพอเพียง เง่ือนไข ความรู้ ความพอประมาณ คุณธรรม ภมู ิคุม้ กนั ข้นั ที่ ๑ ทฤษฎีใหม่ ครัวเรือน ข้นั ท่ี ๒ ระดบั ชุมชน ข้นั ท่ี ๓ รัฐ ระบบทฤษฎีใหม่ท่ีสมบรู ณ์
1.โดยใชเ้ ครอ่ื งมอื 7 ชน้ิ 1. แผนท่ีเดินดิน 2. ผงั เครือญาติ 3. โครงสร้างองค์กรชมุ ชน 4. ระบบสขุ ภาพชมุ ชน 5. ปฏิทินชมุ ชน 6. ประวัติศาสตร์ชมุ ชน 7. ประวัติชีวิตบคุ คลที่น่าสนใจ
2.การทาแผนท่ีหมบู่ า้ น : Village Map
3.การใชเ้ ทคนคิ การใชบ้ ตั รคา : Meta Plan
4.การทาแผนผงั ใยแมงมมุ :Spider Diagram ความร่วมมือ แผนงาน ประสานงาน ความสามคั คี โครงการ ในชุมชน ประชาสมั พนั ธ์ กิจกรรมตอ่ เน่ือง การขยายผล
5.การทาแผนผงั เวนน์ : Venn Diagram กปร. โรงป๋ ุย อาเภอ ตลาด สาธารณสุข วดั โรงเรียน บ้านพอเพยี ง พฒั นากร เกษตร ศึกษา อบต.
6.การจดั ทาแผนผงั การถ่ายเททรพั ยากรชวี ภาพ : Bio – resource flow
ข้าว โรงสี ปลายข้าว/รา เหล้า ขนม แกลบ อ้อย/มนั อาหารสตั ว์ ปลาร้า ปัน้ อิฐ/หม้อ แกส๊ ชีวภาพ ไก่ หมู น้าปลา ปลา ป๋ ยุ ชีวภาพ เขียงหมู ผงนัว ยาสมนุ ไพร ของใช้ ผกั ไมผ้ ล สมนุ ไพร ผกั ผลไม้แปร รปู น้าผลไม้/ไวน์ พนั ธไ์ุ ม้
7.การจดั ทาแผนผงั การถ่ายเททรพั ยากรระหว่างหมู่บา้ น Village resource flow โรงสี หมู่ ๓ วดั หมู่ ๖ สถานีอนามยั หมู่ ๑ ตลาด หมู่ ๒ บ้านพอเพยี ง หมู่ ๔ โรงเรียน หมู่ ๒ ห้องสมุดชุมชน หมู่ ๕
7.การทาปฏิทินตามฤดกู าล : Seasonal Calendar รายได้ ใชจ้ า่ ย ทางาน เกษตร ฝนตก มค. กพ. มีค. เม.ย พค. มิย. กค. สค. กย. ตค. พย. ธค.
8.การทาผงั โอ่งอุดรอยรว่ั ขนม อาหาร ป๋ ุย ยาฆ่าแมลง เทย่ี ว ยา เสื้อผ้า สบู่ เหล้า บุหรี่ สินค้าเงนิ ผ่อน
9.การจดั ทาระบบขอ้ มูลข่าวสารชุมชน Community Knowledge and Information System : CKIS ตารางวเิ คราะห์ คาถามหลกั ขอ้ สรุปที่ไดร้ ับ 1. วเิ คราะห์ 1. ใครเป็นผเู้ ก่ียวขอ้ งในเหตุการณ์ ผเู้ กี่ยวขอ้ งที่สาคญั อาจเป็นตน้ เหตุของปัญหา /มี ผเู้ กี่ยวขอ้ งที่สาคญั 2.ใครเป็นผเู้ ก่ียวขอ้ งที่สาคญั ความสาคญั ต่อการแกป้ ัญหา /สามารถช่วยช้ีประเดน็ 3.ทาไมถึงคิดวา่ สาคญั ปัญหา วเิ คราะห์ หาขอ้ สรุป 2. วเิ คราะห์ ความสมั พนั ธ์ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผเู้ กี่ยวขอ้ งและคู่ ความสมั พนั ธ์คู่ใดควรปรับปรุง /การปรับปรุงจะทา เป็นอยา่ งไร อยา่ งไร/ใครจะเป็นคนทา 3. วเิ คราะห์ ผเู้ ก่ียวขอ้ งหวงั /ไดร้ ับประโยชน์อะไร มี อะไรเป็น ผลประโยชน์ท่ีสอดคลอ้ งกนั /ขดั แยง้ กนั / ผลประโยชน์ อะไรจะใหค้ นอื่นไดบ้ า้ ง เป็นผลประโยชนร์ ่วมของผเู้ กี่ยวขอ้ งทุกคน 4. วเิ คราะห์ขอ้ มลู ประเภทข่าวสารขอ้ มูลที่ผเู้ ก่ียวขอ้ ง มีช่องวา่ งระหวา่ งขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการและขอ้ มูลท่ีไดร้ ับ ข่าวสาร ตอ้ งการ /ขา่ วสารน้นั ผเู้ กี่ยวขอ้ งสามารถ หรือไม่ /ใครสามารถใหบ้ ริการขอ้ มลู ท่ีผเู้ ก่ียวขอ้ ง เขา้ ถึงไดง้ ่ายหรือไม่ ตอ้ งการแต่ยงั ไม่ไดร้ ับ
CKIS 1: เครอ่ื งมอื วเิคราะห์ผูเ้กย่ี วขอ้ งสาคญั ผเู้ กี่ยวขอ้ ง สาคญั หรือไม่ เหตุผล อบต. ศนู ยศ์ ึกษาและพฒั นา ชลประทาน ฯลฯ
CKIS 2: เครอ่ื งมอื วเิคราะห์ความสมั พนั ธ์ระหว่างผูเ้กย่ี วขอ้ งทส่ี าคญั ผเู้ ก่ียวขอ้ ง อบต. ศนู ยศ์ ึกษา ชลประทาน ฯลฯ และพฒั นาฯ อบต. ศนู ยศ์ ึกษา และพฒั นาฯ ชลประทาน ฯลฯ
CKIS 3 : เครอ่ื งมอื วเิคราะห์ผลประโยชน์ของผูเ้กยี่ วขอ้ งสาคญั ผลประโยชน์ ผเู้ กี่ยวขอ้ ง อบต. ศนู ยศ์ ึกษา และพฒั นาฯ ชลประทาน ฯลฯ
CKIS 4: เครอ่ื งมอื วเิคราะห์ความต้องการขา่ วสารขอ้ มูลผูเ้กย่ี วขอ้ งทส่ี าคญั ผเู้ กี่ยวขอ้ ง ขอ้ มลู ขา่ วสาร ที่ไดร้ ับ ที่ตอ้ งการ ท่ีมีให้
จงค้นหาขอ้ มูลต่อไปนแ้ี ลว้ นาเสนอรายงานหนา้ หอ้ งกลุม่ ละ15 นาที โดยจดั ทาเป็นสไลด์ประกอบกลุม่ ละ8-10 สไลด์ • 1.เทคนคิ aic • 2.เทคนคิ การประชุมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร • 3.เทคนคิ การประชุมแบบsix hat • 4.เทคนคิ การวเิคราะห์ชุมชนโดยใช้swot • 5.เทคนคิ การเรยี นรู้แบบร่วมแรงร่วม
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: