Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 3 การจัดหาน้ำสะอาด

บทที่ 3 การจัดหาน้ำสะอาด

Published by dumrongsak3006, 2020-03-23 00:46:05

Description: บทที่ 3 การจัดหาน้ำสะอาด

Search

Read the Text Version

แผนการสอน รายวชิ าอนามยั สิ่งแวดลอ้ ม บทท่ี 3 การจดั การนา้ สะอาด หวั ข้อ 3.1 แนวคิดการจัดการน้าสะอาด 3.2 วฏั จักรของน้า 3.3. แหล่งของนา้ เพ่ือการอปุ โภคบรโิ ภค 3.4 ปรมิ าณความต้องการนา้ 3.5 คุณลักษณะของน้า 3.6 การผลิตน้าสะอาด 3.7 ขันตอนการผลิตน้าประปา 3.8 กิจกรรมการจัดการนา้ สะอาด 3.9 แบบฝกึ หัดประจ้าบทที่ 3 3.1 แนวคิดและหลกั การ น้ามีความจา้ เปน็ ต่อสิ่งมีชวี ิตทุกชนิดโดยเฉพาะมนุษย์ ซงึ่ จ้าเปน็ ตอ้ งใช้นา้ ในการอุปโภคบรโิ ภค มนษุ ย์ บริโภคนา้ เขา้ ไปในรา่ งกายและปลอ่ ยน้าออกจากร่างกายมากกวา่ สารอน่ื ๆ น้าเปน็ สว่ นส้าคญั ของ เนอื เยื่อเกือบทุกชนดิ และยังท้าหนา้ ท่ีเป็นตวั กลางส้าหรบั ลา้ เลียงถา่ ยเทสารอาหารและของเสีย นอกจากนยี งั ชว่ ยรกั ษาอุณหภูมิของร่างกายใหค้ งท่ี รา่ งกายมนุษยป์ ระกอบด้วยน้าประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ของน้าหนกั ตัว นอกจากนกี ารใชป้ ระโยชน์ของน้าส้าหรบั มนษุ ย์นันยังมีอีกมากมายหลายอยา่ ง ได้แก่ การใช้เพ่อื ชา้ ระลา้ ง รา่ งกายและเคร่ืองนุ่งห่ม ใช้ในการประกอบอาหาร การเกษตร การล้างทา้ ความสะอาดถนนและสาธารณสถาน อืน่ ๆ การพักผ่อนหย่อนใจ การอุตสาหกรรม การขับเคลื่อนส่ิงสกปรก การผลติ กระแสไฟฟา้ พลงั น้า การ คมนาคม และการป้องกันอัคคีภยั 3.2 จา้ นวนช่ัวโมงเรยี น ภาคบรรยาย 4 ชัว่ โมง ภาคปฏบิ ัตกิ าร 4 ชว่ั โมง 3.3 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เพือ่ ใหน้ ักศึกษามคี วามรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกับการสขุ าภบิ าลน้า ในหัวข้อต่าง ๆ ดงั นี การจัดการน้า สะอาด บอกถึงลกั ษณะของน้าสะอาด แหล่งของน้าเพ่ือการอุปโภคบริโภค ปริมาณความตอ้ งการนา้ คณุ ลักษณะของนา้ การผลิตนา้ สะอาด ขันตอนการผลติ น้าประปากจิ กรรมการจัดการน้าสะอาดบอกหลกั การ และกระบวนการในการปรับปรงุ คุณภาพน้าดิบใหเ้ ป็นน้าสะอาดสามารถใชใ้ นการอุปโภคบริโภคไดอ้ ยา่ ง ปลอดภัย 3.4 เนือหาสาระ ภาคบรรยาย จ้านวน 4 ช่วั โมง [Date] 1 บทที่ 3 การจดั การคุณภาพน้า

ปจั จุบันนา้ ท่นี ้ามาใช้ในการอุปโภคบรโิ ภคได้อยา่ งปลอดภยั นนั ตอ้ งผ่านกระบวนการปรับปรงุ คณุ ภาพ ในเบืองต้นเสียกอ่ น ซ่ึงมีทงั วิธีการทางกายภาพ เชน่ การต้ม การกรอง และทางเคมี เชน่ การเตมิ คลอรีนเพ่ือ ฆา่ เชือโรค เม่ือนา้ ถูกใช้ในการอปุ โภคบรโิ ภคจะทา้ ใหน้ า้ มกี ารปนเปือ้ นจากสารต่าง ๆ ทงั สารอินทรีย์ สารอนิ นทรยี ์ รวมถงึ จุลนิ ทรยี ์ ท้าให้น้ามคี ณุ ภาพเส่อื มลง เกิดมลพิษ และอาจเกิดปัญหาหลายดา้ นตามมา เชน่ ดา้ น สขุ ภาพอนามัยของประชาชน เศรษฐกิจ และสงิ่ แวดลอ้ ม ซงึ่ การแก้ปญั หาต่าง ๆ นใี ห้ได้ผลตอ้ งได้รบั ความ รว่ มมอื จากทังประชาชนและหนว่ ยงานที่เก่ยี วข้อง นอกจากนยี ังต้องอาศยั วธิ ีการทเี่ หมาะสมในการบ้าบัดน้า เสยี จากแหลง่ มลพิษเพ่ือให้มีการนา้ ทรพั ยากรน้ากลับมาใชไ้ ดอ้ ย่างคุ้มคา่ ภาคปฏบิ ัติการ จ้านวน 4 ช่วั โมง ทบทวนปฏิบตั ิการ : ศกึ ษาการวเิ คราะหค์ ุณภาพนา้ ตามมาตรฐาน การวเิ คราะหค์ ุณภาพน้าเพือ่ ให้ ไดผ้ ลการวเิ คราะห์ทแ่ี ม่นย้าและนา่ เชอ่ื ถือต้องมวี ิธกี ารเกบ็ ตวั อย่างทีเ่ หมาะสมกบั แหลง่ นา้ นัน ๆ และเหมาะสม กบั พารามิเตอร์ท่ีต้องการตรวจวัด เชน่ ในการตรวจหาชนิดและปรมิ าณจุลินทรีย์นนั ต้องระมดั ระวงั การ ปนเปอ้ื นของจุลินทรีย์อนื่ ๆ ทไ่ี มเ่ กีย่ วขอ้ ง ต้องเลือกชนดิ อาหารสา้ หรับเลียงเชอื ในถูกต้องเพื่อใหส้ ามารถ ตรวจหาเชือทตี่ อ้ งการได้ นอกจากนียังมีการศึกษาดูงานการผลิตน้าประปาเพื่อใหน้ ิสติ ได้เขา้ ใจถึงระบบในการ ผลิต การฆา่ เชอื โรคและการส่งน้าประปาซ่ึงจะท้าให้มีความเข้าใจในเนือหาท่ีเรยี นมากขนึ 3.5 สื่อการเรยี นการสอน แผ่นสไลด์บรรยาย (power point) คมุ่ ือการภาคปฏบิ ัตกิ าร แผ่นทบึ , Projector แผนปฏบิ ตั ิ การศกึ ษาดูงาน เอกสารประกอบการสอน เอกสารประกอบการสอนประกอบด้วยรูปภาพและตารางประกอบ ค้าบรรยาย และคมู่ อื ปฏิบัตกิ ารศกึ ษาดงู าน วดี ีทัศนเ์ กี่ยวกบั การจดั การน้าสะอาด แผนภมู ิระบบการผลิตนา้ สะอาด แบบเรยี นรู้อเี ลิรน์ นง่ิ ดว้ ยตนเองบทท่ี 3 เรอื่ งการจัดหานา้ สะอาด 3.6 เอกสารประกอบการสอน ประกอบดว้ ยอนามยั สงิ่ แวดล้อม เรอ่ื งการจดั การคุณภาพน้า โดยนายดา้ รงคศ์ ักดิ์ สอนแจ้ง และ ต้าราอนามยั สิ่งแวดลอ้ มโดย อ.พัฒนา มลู พฤกษ์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล 3.7 การวัดผลและประเมินผล - สอบเตรยี มความพรอ้ มก่อน-หลงั เรยี นประจ้าสปั ดาห์ สรุปเนือหาที่เรยี น/ใบงาน/ความรูท้ ไ่ี ดร้ บั ลงสมดุ บันทึกท้ายช่ัวโมงบรรยาย การเขา้ ชันเรยี น/การส่งใบงานตามเวลากา้ หนด - สอบข้อเขยี นกลางภาค - สอบขอ้ เขียนปลายภาค กจิ กรรมการเรยี นการสอน ภาคบรรยาย การสอนภาคบรรยายในห้องเรยี น รว่ มกบั การฉายสไลด์ แผน่ ใส หรือวีดีทัศน์ การท้ากิจกรรมกลุ่มยอ่ ยในห้องเรยี นในรปู แบบของ /Case Study / Cooperative Learning / Self study [Date] 2 บทที่ 3 การจดั การคุณภาพน้า

เพื่อวิเคราะหแ์ ละหาค้าตอบของกจิ กรรมต่าง ๆ การซักถามในห้องเรยี น การศึกษาคน้ คว้าดว้ ยตัวเองจาก หนงั สอื หรือเอกสารทีเ่ กี่ยวข้องตามท่ีอาจารยผ์ ูส้ อนแนะนา้ หรอื ที่นักศกึ ษาสนใจ ภาคปฏิบตั ิ มกี ารการบรรยายก่อนปฏิบตั ิการและฝึกปฏบิ ตั ิการ โดยแบ่งนกั ศึกษาเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ5- 6 คน ใหท้ ้าปฏบิ ตั ิการ นา้ นกั ศกึ ษาไปศึกษาดูงานการผลิตนา้ ประปาของเทศบาลในเขตจงั หวัด(เชน่ เทศบาล แหลมฉบัง) เพือ่ เพมิ่ ความเข้าใจและเสริมสร้างประสบการณจ์ ริง นา้ นกั ศึกษาไปศึกษาดูงานการบา้ บดั นา้ เสีย ขององค์การบริหารส่วนจงั หวดั ชลบรุ ี เพื่อเพิ่มความเข้าใจและเสรมิ สร้างประสบการณ์จริง 1.7 การวดั ผลและประเมินผล - สอบเตรียมความพร้อมก่อน-หลงั เรยี นประจา้ สปั ดาห์ สรปุ เนอื หาที่เรยี น/ใบงาน/ความรูท้ ไี่ ด้รบั ลงสมุดบนั ทึกท้ายชัว่ โมงบรรยาย - สอบวดั ผลภาคบรรยาย / รายงาน - การเขา้ ชันเรียน/การสง่ ใบงานตามเวลาก้าหนด - การสอบทวนความรู้ปากเปล่า - สอบข้อเขยี นกลางภาค สอบข้อเขียนปลายภาค ข้อสอบ meq [Date] 3 บทท่ี 3 การจดั การคุณภาพน้า

บทท่ี 3 การจัดการน้าสะอาด หวั ข้อ หน้า 3.1 แนวคิดการจดั การน้าสะอาด 4 3.2 วฏั จกั รของน้า 4 3.3. แหลง่ ของน้าเพือ่ การอปุ โภคบรโิ ภค 5 3.4 ปริมาณความต้องการนา้ 5 3.5 คุณลกั ษณะของน้า 6 3.6 การผลติ น้าสะอาด 8 3.7 ขนั ตอนการผลติ นา้ ประปา 9 3.8 กจิ กรรมการจัดการนา้ สะอาด 10 3.9 แบบฝกึ หดั ประจ้าบทที่ 3 12 3.1 แนวคิดการจัดการนา้ สะอาด นา้ เป็นสว่ นประกอบท่สี า้ คัญของผิวโลก และมีอย่ใู นสง่ิ มชี วี ิตทุกชนดิ ทังมนษุ ย์ สตั ว์ พชื และ จลุ ินทรยี ์ ถือเป็นทรัพยากรท่ีสา้ คญั ของมนุษย์ นา้ มีความจ้าเปน็ ตอ่ สง่ิ มชี วี ิตทุกชนดิ โดยเฉพาะมนุษย์ ซง่ึ จ้าเป็นตอ้ งใช้นา้ ในการอุปโภคบริโภค มนุษยบ์ ริโภคนา้ เขา้ ไปในร่างกายและปล่อยน้าออกจากรา่ งกายมากกวา่ สารอืน่ ๆ นา้ เป็นสว่ นสา้ คัญของเนอื เยอื่ เกอื บทุกชนดิ และยงั ท้าหนา้ ท่ีเปน็ ตวั กลางส้าหรบั ลา้ เลียง ถา่ ยเทสารอาหารและของเสยี นอกจากนยี ังช่วยรกั ษาอณุ หภมู ิของร่างกายให้คงท่ี รา่ งกายมนุษย์ประกอบด้วย นา้ ประมาณ 70 เปอร์เซน็ ต์ ของน้าหนกั ตัว นอกจากนกี ารใช้ประโยชนข์ องนา้ สา้ หรบั มนุษย์นันยงั มีอกี มากมาย หลายอยา่ ง ไดแ้ ก่ การใช้เพื่อช้าระลา้ งรา่ งกายและเครอ่ื งนุ่งห่ม ใชใ้ นการประกอบอาหาร การเกษตร การลา้ ง ท้าความสะอาดถนนและสาธารณสถานอื่น ๆ การพักผอ่ นหย่อนใจ การอุตสาหกรรม การขับเคล่ือนส่ิง สกปรก การผลติ กระแสไฟฟา้ พลังนา้ การคมนาคม และการปอ้ งกนั อัคคีภยั จึงนับวา่ น้าเป็นทรพั ยากรที่มี ประโยชนม์ ากมายต่อมนุษยอ์ ย่างแท้จรงิ 3.2 วัฏจักรของนา้ วฏั จกั รของนา้ หมายถงึ การหมนุ เวียนเปลย่ี นแปลงระหว่างโมเลกลุ ของน้าจากผิวโลก สบู่ รรยากาศโดย การระเหย ( evaporation ) และคายนา้ ของพืช ( transpiration ) และจากบรรยากาศสู่ ผวิ โลกโดยตกลง มาเปน็ ฝน หิมะ ลกู เหบ็ และน้าคา้ ง ณ จดุ เร่มิ ตน้ วฏั จกั รจุดใดจดุ หนง่ึ นา้ บนผิวโลกได้แก่นา้ ทะเล มหาสมทุ ร แม่นา้ ล้าธาร เม่อื ไดร้ ับความรอ้ นจากดวงอาทิตย์จะเกิดการระเหย เปลี่ยนสภาวะจากของเหลวกลายเปน็ ไอ ลอยขึนสอู่ ากาศเบืองบนเรียกว่า “ ไอนา้ ” ซง่ึ บางสว่ นอาจจะเกิดจากการคายนา้ ของพืช “ ไอนา้ รวมตวั กัน กลายเปน็ กลุม่ กอ้ นขนากใหญ่ขึนกลายเปน็ “ ก้อนเมฆ ” เมอ่ื มีขนาดใหญ่ขนึ มีน้าหนักมากขนึ ก็จะลอยลงมา ใกลพ้ ืนผิวโลกมากขนึ และจะถกู ความร้อนทผ่ี วิ โลกละลาย “ กอ้ นเมฆ ” เหล่านนั ทา้ ให้เกิดการกลัน่ ตวั กลายเป็นหยดน้าตกลงมาสพู่ ืนผวิ โลก กลายเปน็ นา้ ฝน หิมะ ลกู เหบ็ นา้ ค้าง ซ่ึงเรียกว่า “ น้าจากบรรยากาศ ” [Date] 4 บทที่ 3 การจดั การคุณภาพน้า

3.3. แหล่งของน้าเพื่อการอุปโภคบรโิ ภค 1) น้าฝน หรอื นา้ จากบรรยากาศ ( Rain Water หรือ Precipitation Water ) หมายถงึ น้า ทังหมดท่ีไดจ้ ากการกล่ันตวั เป็นหยดน้าของก้อนเมฆโดยตรง เช่น นา้ ฝน หมิ ะ ลูกเห็บ คุณสมบตั ิของนา้ ฝนจงึ เปน็ น้าบริสทุ ธอ์ิ ยา่ งแท้จริง แตเ่ นอ่ื งจากนา้ มีคุณสมบัติในการละลายส่ิงต่าง ๆ ไดด้ ี มันจึงอาจดูดซบั แกส๊ ตา่ ง ๆ จากบรรยากาศ ถ้าเป็นบรรยากาศบริเวณทะเลหรอื มหาสมุทรก็อาจดดู ซับเกลือต่าง ๆ ซึง่ เกดิ จากฟุง้ กระจาย ของน้าทะเล หรอื มหาสมทุ ร นอกจากนถี ้าน้าฝนตกผา่ นบรรยากาศท่สี กปรกกอ็ าจทา้ ให้นา้ ฝนนนั มีความ สกปรกได้ แตค่ วามสกปรกตา่ ง ๆ ทล่ี ะลายในน้าฝนอาจจะมปี รมิ าณ ความสกปรก ไมม่ ากเกินมาตรฐาน น้าดื่มน้าใช้ และถา้ มีการเกบ็ กักนา้ ฝนดังกล่าวไว้ในภาชนะทสี่ ะอาด ก็อาจจะนา้ นา้ ฝนนันมาใชใ้ นการอุปโภค บรโิ ภคได้โดยไม่ต้องมีการปรับปรุงคุณภาพ 2) นา้ ผวิ ดนิ ( Surface Water ) หมายถึง สว่ นของนา้ ฝนท่ีตกลงมาสู่พนื ดินแลว้ ไหลลงสทู่ ีต่ ่้าโดยจะ ถูกเกบ็ กักในสว่ นของพนื ดนิ ที่เป็นหลมุ เป็นแอง่ ในทะเล มหาสมุทร แมน่ ้า ลา้ คลอง ห้วย หนองสระ น้าผวิ ดินมี ความสา้ คญั ต่อชุมชนเปน็ อยา่ งมาก เพราะเป็นแหลง่ น้าขนาดใหญ่ท่ี โดยเฉพาะในทะเล และมหาสมุทร แต่น้า ทะเลก็ไมน่ ิยมทจี่ ะน้ามาใชใ้ นการอปุ โภคบรโิ ภค นอกจากจะใชเ้ พื่อการประมง และการคมนาคม นา้ ผิวดินจืด ในแตล่ ะแห่งจะมีคุณภาพทแ่ี ตกตา่ งกัน ขึนอยู่กับว่าเม่ือนา้ ฝนตกลงมายงั พืนดินแล้วไหลผา่ นบริเวณใด หรอื ชะ ล้างเอาสงิ่ สกปรกอะไรลงไป อาจจะมพี วกธาตุ สารอนิ ทรยี ์ จลุ ินทรีย์ น้าผิวดนิ จงึ มักสกปรกกว่าน้าฝน หรือใตด้ นิ ดงั นนั การทจ่ี ะนา้ เอาน้าผิวดินมาใช้ในการอปุ โภคบรโิ ภค จึงจ้าเปน็ ทจ่ี ะต้องน้ามาปรบั ปรงุ คุณภาพ ให้สะอาดปลอดภัยเสียก่อน 3) น้าใต้ดิน ( Ground Water หรือ Underground Water ) หมายถงึ น้าท่ีอยตู่ ามรูพรุน( porous ) ของดนิ หนิ กรวด หรือทราย ซ่ึงอยใู่ ตผ้ วิ โลก น้าใต้ดินเกิดจากการทนี่ ้าฝนหรอื นา้ จากบรรยากาศ ใน รูปอ่นื ๆ ตกลงสพู่ ืนผวิ โลก และบางส่วนไดจ้ ากแหล่งน้าผิวดิน ไหลซมึ ลงสู่เบอื งตา้่ และน้าก็จะถกู กักไวต้ าม ชอ่ งวา่ งหรือรพู รุนของดิน หนิ กรวด หรือทราย จนถงึ ชนั ของดินหรอื หนิ ทน่ี ้าซึมผา่ นไม่ได้ แหลง่ น้าดงั กลา่ วนี ไดแ้ ก่ นา้ พุ น้าบอ่ บ่อน้าซับ เป็นตน้ 3.4 ปรมิ าณความต้องการน้า 1) ปริมาณความต้องการน้า มคี วามแตกต่างของปรมิ าณ และอัตราการใช้นา้ โดยขึนอยู่กับ องค์ประกอบท่สี ้าคัญหลายอย่างด้วยกัน เชน่ ลกั ษณะของชุมชนใหญ่ กลาง เลก็ ชุมชนเมืองท่ีแออดั หรือชุมชน ชนบท ที่หา่ งไกล หรอื ชมุ ชนในเขตการค้าอุตสาหกรรม หรือชุมชนชนบททีก่ ้าลังพัฒนาและมีความเจรญิ ใกลเ้ คียงเมือง อัตราการใช้น้า มีลักษณะดงั นีคือ - การใชน้ ้าในท่ีพักอาศยั ( domestic uses ) การใช้นา้ ในท่พี กั อาศยั หรือบา้ นเรือนของประชาชนนัน ถอื วา่ เป็นประเภททม่ี ีจา้ นวนผู้ใชน้ ้าทงั หมดและในวตั ถุประสงคห์ ลายอย่าง เป็นตน้ วา่ การใช้ดมื่ การใช้ซกั ล้าง การลา้ งรถ การรดนา้ ต้นไม้ สวนครวั การหุงต้ม และตลอดจนใชท้ ้าความสะอาดห้องน้า และ ห้องส้วม [Date] 5 บทที่ 3 การจดั การคุณภาพน้า

- การใชน้ ้าส้าหรบั อตุ สาหกรรม ( industrial uses ) การใชน้ า้ ในอุตสาหกรรมนัน โดยปกตแิ ล้ว จะมปี รมิ าณการใชน้ า้ สงู กว่าในการใช้ครัวเรอื น แตย่ อ่ มขึนอยกู่ ับขนาดของอตุ สาหกรรมนัน ๆ ดว้ ยวา่ มขี นาด และชนดิ ของอุตสาหกรรมอย่างไร - การใชน้ ้าในกจิ การสาธารณะ ( public uses ) การใช้น้าในกจิ การสาธารณะนันเป็นสิ่งจา้ เป็นส้าหรับ ประชาชนท่ัวไป และปริมาณการใช้ นา้ กจ็ ะแตกต่างกันไปดว้ ยในกรณีชุมชนทห่ี นาแนน่ และเจริญแล้ว กิจการ สาธารณะเหล่านไี ด้แก่ การลา้ งและท้าความสะอาดตลาดส้วมสาธารณะ ถนน ทอ่ นา้ โสโครก การดับเพลงิ การ รดสนามหญ้า ตน้ ไม้ตามถนนและหารบริการน้าตามก๊อกสาธารณะ นา้ พุประดบั - การใช้นา้ เพื่อกจิ การเลยี งสัตว์ ( farm animals uses ) การใช้น้าในคอกปศสุ ัตว์ วัว ควาย ม้า สุกร ไก่ ปกติแล้วการใชน้ า้ ส้าหรับเลยี งสัตวแ์ ละสวนครวั ตามบ้านมักจะมปี ริมาณไม่มากนักนอกจากกรณีทา้ ฟาร์ม หรือปศสุ ตั วจ์ ้านวนมาก ๆ - การใชน้ ้าส้าหรับการค้า ( commercial uses ) การใช้นา้ ในธุรกจิ การคา้ นัน โดยปกติแล้วปรมิ าณ การใช้น้าจะสงู กวา่ ในการใชใ้ นครัวเรอื น และย่อมจะขนึ อยู่กับขนาดของธุรกิจการค้าวา่ มีขนาดและกจิ การ อย่างไร 3.5 คุณลักษณะของนา้ เพื่อสะดวกต่อการเลือกใช้วธิ ีการปรบั ปรงุ คุณภาพจึงจัดแบ่งประเภทของคุณลกั ษณะของน้าไว้เป็น 3 ประเภท คือ 3.5.1) คุณลกั ษณะทางด้านกายภาพหรอื ฟสิ ิกส์ (Physical Characteristics ) คอื ลักษณะ ของนา้ ทสี่ ามารถวิเคราะห์ได้โดยทางกายสัมผสั ไดแ้ ก่ ความขุ่น สี กลน่ิ รสชาติ อุณหภูมิ เป็นตน้ - ความขุ่น ( Turbidity ) ความข่นุ ของนา้ หมายถงึ การท่ีน้ามีพวก สารแขวนลอยอยู่ในน้าให้บดบังแสง ท้าให้ไม่สามารถมองลงไปในระดบั นา้ ท่ีลึกได้สะดวก สารแขวนลอยท่ีท้าให้น้ามีความข่นุ ไดแ้ ก่ ดนิ ละเอียด อินทรยี สาร อนนิ ทรียสาร แพลงตอน และ จุลนิ ทรยี ์ สารพวกนอี าจมีบางพวกกระจายแสงบางพวก ดูดซึมแสง ความข่นุ ของนา้ มคี วามสา้ คญั ต่อปญั หาทางดา้ นอนามยั ส่งิ แวดล้อมในด้านความน่าใช้ - สี ( Color ) สใี นนา้ ตามธรรมชาตเิ กดิ จากการหมักหมมทบั ถมกับของพชื ใบไม้ เศษวัสดุอินทรีย์ต่าง ๆ ความสา้ คัญทางดา้ นอนามัยส่ิงแวดลอ้ มของสใี นน้า ถ้าเปน็ สที ีเ่ กิดโดยธรรมชาติจาการสลายของพชื ใบไม้ ใบ หญา้ นนั ถึงแมจ้ ะไม่มีอันตรายต่อผูบ้ ริโภค แต่เน่อื งจากสีของมนั เป็นสีเหลืองน้าตาล จึงอาจทา้ ใหเ้ กิดความร้สู กึ ทไ่ี ม่ต้องการใช้น้าดงั กลา่ วบริโภค จา้ เปน็ ตอ้ งก้าจดั ออกถา้ มีปริมาณมาก - กลนิ่ ( Odor ) กล่ินในนา้ มักเกิดจากการท่ีนา้ มจี ลุ นิ ทรยี ์ เชน่ สาหรา่ ย ความส้าคัญทางดา้ นทางด้าน อนามยั สง่ิ แวดล้อมของกล่ินในน้า ท้าให้นา้ นนั ไม่นา่ ใชส้ อย - รสชาติ (Taste) รสชาตใิ นนา้ เกิดจากการละลายนา้ ของพวกเกลอื อนนิ ทรยี ์ เชน่ ทองแดงความส้าคญั ทางดา้ นอนามยั ส่งิ แวดล้อมของรสชาติในน้าท้าให้น้าไมน่ ่าดมื่ และไมน่ า่ ใช้สอย - อุณหภูมิ (Temperature) การทีอ่ ุณหภูมิของนา้ เปลย่ี นแปลงอาจเกิดจากธรรมชาติ ในบางครงั การ [Date] 6 บทที่ 3 การจดั การคุณภาพน้า

เปลีย่ นแปลงอุณหภูมิของน้าอาจเกิดจากการท่นี ้าไดร้ ับการปนเปื้อนจากนา้ ทิงท่เี กิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ของ มนษุ ย์หรือจากโรงงานอุตสาหกรรม โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าเหล่านีเป็นต้น ท้าให้นา้ มีอณุ หภมู สิ ูงหรือตา้่ กวา่ ปกติ ความสา้ คญั ทางด้านอนามยั ส่ิงแวดลอ้ ม ของอุณหภมู ิในน้านนั อาจเป็นผลกระทบในทางอ้อม มผี ลตอ่ สงิ่ มีชีวติ ต่าง ๆ ในแหลง่ นา้ เชน่ พวกปลาบางชนิดอาจจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ในน้าท่ีมอี ุณหภมู ิสูงกว่าปรกติ มีผลต่อ การท้าปฏกิ ิริยาต่อการใชเ้ คมีกับนา้ เชน่ การปรับปรุงคุณภาพโดยใช้สารเคมี 3.5.2) คุณลกั ษณะทางด้านเคมี (Chemical Characteristics) คอื คุณสมบตั ิของน้าท่มี ี องคป์ ระกอบของสารเคมี และอาศยั หลกั การหาโดยปฏิกิรยิ าเคมี ซง่ึ พบวา่ ส่วนใหญใ่ นน้าจะถูกก้าหนดปริมาณ โดยขอ้ บังคับทเี่ กย่ี วกบั นา้ สา้ หรบั บริโภค ไดแ้ ก่ คา่ ความเป็นกรด – ดา่ ง ความกระด้าง ความเป็นดา่ ง ความ เป็นกรด เปน็ ต้น - ค่าความเป็นกรด – ดา่ งของน้า หรือค่าพีเอช นา้ ท่บี รสิ ุทธิ์จะมีคา่ พีเอชเปน็ 7 ความส้าคญั ทางด้าน อนามยั ส่งิ แวดล้อมของพเี อชในนา้ ถา้ มีพีเอชตา่้ มากจะมฤี ทธใ์ิ นการกดั กร่อนอาจทา้ ใหเ้ กิดการกัดกร่อนท่อ อปุ กรณ์ หรอื ภาชนะต่าง ๆ ได้ - ความกระดา้ งของนา้ น้ากระดา้ งหมายถึง นา้ ที่เม่ือทา้ ปฏิกริ ยิ ากบั สบแู่ ลว้ ท้าใหเ้ กดิ ฟอง ไดย้ าก ความ กระดา้ งของน้าแบ่งออกเปน็ 2 ชนดิ ไดแ้ ก่ ความกระดา้ งชั่วคราว และความกระด้างถาวร - ความเป็นด่างของน้า (Alkalinity) หมายถงึ ปรมิ าณความจุของ กรดเข็มขน้ ในอันทจี่ ะทา้ ใหน้ ้า เป็นกลางโดยอาศยั พเี อช หรือ เป็นการหาวา่ นา้ จะต้องใชก้ รดท้าให้เป็นกลางเท่าไร - ความเป็นกรดของน้า (Acidity) หมายถึง ปรมิ าณความจุทต่ี อ้ งการใช้ด่างเขม้ ขน้ ในการท้าให้นา้ เปน็ กลางทบี่ ่งชีไดโ้ ดยค่าพีเอช - เหล็กแมงกานสี (Iron and Manganese) ธาตเุ หล็กโดยท่วั ๆ ไปจะอยใู่ นรูปแบบสารไมล่ ะลายนา้ ถา้ อยูใ่ นน้าและแร่ธาตกุ ็จะอยู่ในรปู ของสารไม่ละลายน้า เหลก็ และแมงกานสี ท่ีอย่ใู นน้าตามธรรมชาติแลว้ ไมเ่ ปน็ อันตรายต่อการบรโิ ภค - คลอไรด์ (Chloride) คลอไรด์ทล่ี ะลายอยู่ในนา้ ตามธรรมชาตจิ ะละลายอยู่ในปรมิ าณความเขม้ ข้น แตกตา่ งกันไป - ฟลอู อไรด์ (fluoride) โดยท่ัวไปแล้วในนา้ ตามธรรมชาติมักไม่มีฟลูออไรด์ละลายอยู่ แต่เนือ่ งจากมี ความสา้ คัญต่อสุขภาพฟนั ถา้ มีนอ้ ยเกนิ ไปอาจทา้ ใหเ้ กิดโรคฟนั เปราะหักง่าย - ทองแดง (Copper) การท่ีในนา้ มที องแดงเปน็ เช่นเดยี วกันกับตะกัว่ คอื มักไม่เกิดจากธรรมชาตมิ ีสาเหตุ จากกจิ กรรมมนุษย์ - สังกะสี (Zinc) โดยทั่วไปในนา้ ผิวดินธรรมชาติมักจะมีปริมาณสงั กะสอี ยู่ปริมาณน้อย การเกดิ สังกะสี อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เชน่ เกดิ จากการกัดกร่อนทอ่ นา้ หรือภาชนะท่ที ้าด้วยทองแดง - ไนไตรต์ (Nitrite) ในไตรเกิดจากปฏิกริยาชวี เคมีของจุลินทรยี ์ในการออกซิเดช่นั แอมโมเนีย [Date] 7 บทที่ 3 การจดั การคุณภาพน้า

- ไนเตรด (Nitrate) ในเตรดมอี ย่ใู นน้าธรรมชาติในปรมิ าณน้อยมากอาจเกิดจากพืช หรือสัตว์น้าทีม่ ี อินทรยี ์ - แก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ (Hydrogen Sulfide) เปน็ แกส๊ ท่ีมกั พบในนา้ ใต้ดนิ โดยธรรมชาติซง่ึ เกดิ จาก ปฏกิ ิริยาการยอ่ ยสลายสารอินทรยี ์และจุลินทรีย์ - สารหนู (Arsenic) สารหนเู กดิ จากน้าตามธรรมชาติเนือ่ งจากการไหลของน้าผ่านชนั ใต้ดินหรือหินที่มี สารหนู - พวกไตรฮาโลมีเธน (Trihalomethanes= THMs) เช่อื กันว่าเกิดจากการท้าปฏิกิรยิ าระหว่างคลอรีน หรอื พวกฮาโลเจนอ่นื ๆ กับสารมิวมิคและฟุลวคิ หรือสารที่เกดิ จากการย่อยสลายสารอนิ ทรีย์สาร อนื่ ๆ 3.5.3) คุณลักษณะของน้าทางดา้ นชวี ภาพ (Biological Characteristics) คุณลกั ษณะของน้า ทางดา้ นชวี ภาพหมายถึง การท่นี ้ามสี ่งิ มีชวี ติ ตา่ ง ๆ อยูใ่ นน้า สิ่งมีชีวติ ท่ีอย่ใู นน้ามีมากมายหลายอยา่ งตงั แต่ พชื นา้ สัตว์น้า แพลงตอน และจุลนิ ทรยี ์ - จุลินทรยี ์ทีไ่ มท่ า้ ให้เกดิ โรค (Nonpathogenic Microorganism) ไดแ้ ก่ พวก บัคเตรี โปรโตซวั สาหร่าย หรือราบางชนิด - จุลินทรียท์ ่ีทา้ ใหเ้ กิดโรค (Pathogenic Microorganism) มมี ากมายหลายชนิดที่กอ่ ให้เกดิ อาการของ โรคอย่างรนุ แรงถึงขันตายได้ และมีอาการถงึ เจบ็ ปว่ ยเพยี งเลก็ น้อย ไดแ้ ก่ ไวรสั บัคเตรี โปรโตซวั และ หนอนพยาธิ เพราะน้าเปน็ ตวั แพร่กระจายโรคบางชนดิ ไดด้ ี โดยกลา่ วไดด้ ังนี ก . ไวรัส (Virus) ไวรัสเป็นจุลินทรยี ท์ ีม่ ีขนาดเลก็ มากท่ีสดุ ไมส่ ามารถมองเห็นไดด้ ว้ ยตาเปลา่ ไวรสั ที่ อาจพบแพร่กระจายในนา้ แล้วท้าให้เกดิ โรคในมนุษย์ ข . บัคเตรี (Bacteria) เปน็ จุลนิ ทรีย์ที่มขี นาดโตกว่าไวรัสสามารมองใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์ธรรมดาสอ่ งได้ มี เซลล์เดียว ใชอ้ าหารในรูปสารละลาย ส่วนใหญก่ ็เปน็ โรคท่ีสามารถป้องกันรักษาได้ ไดแ้ ก่ อหิวาตกโรค โรคไข้ ไทฟอยด์ โรคบดิ ค . โปรโตซัว (Protozoa) เปน็ จลุ ินทรีย์ท่ีมีขนาดโตกว่าบัคเตรีไม่สามารถมองเห็นดว้ ยตาเปลา่ โปรโตซวั ทท่ี ้าใหเ้ กิดโรคได้แก่ โรคบดิ ชนิด อะมีบา โรคจอิ าร์เดยี ท้าให้เกิดท้องเสยี ท้องร่วงระยะนาน ปวดท้อง น้าหนกั ลดลงอยา่ งรวดเรว็ ปวดเม่อื ยตัว ฯลฯ ง . หนอนพยาธิ (Helminth) จัดเปน็ พวกปรสติ ต้องอาศยั อยู่กบั สิ่งมีชีวิต อน่ื ๆ แบ่งได้ 3ประเภท คอื พยาธิตัวกลม พยาธิตวั แบน และพยาธิใบไม้ 3.6 การผลติ น้าสะอาด ในการผลติ นา้ ให้สะอาดเพ่ือความปลอดภัยในการใช้อุปโภคบรโิ ภคนนั วตั ถุประสงค์หลกั ก็เพ่ือ สขุ ภาพอนามยั ของมนษุ ย์ในการทจี่ ะน้านา้ มาใช้ในด้านตา่ ง ๆ เช่น ปรงุ อาหาร ชา้ ระลา้ งร่างกายหรือ ประโยชนใ์ นดา้ นอื่น ๆ การผลติ นา้ สะอาดเพ่ือการอปุ โภคบรโิ ภค จงึ หมายถึง นา้ ทผี่ ลิตหรอื จดั ทา้ ขนึ มาเพือ่ ใช้ จะต้องปราศจากตวั การที่ท้าให้เกดิ โรคอนั ได้แก้แกเ่ ชือโรค และสารเคมี ทเ่ี ป็นพิษ และเป็นอันตรายตา่ ง ๆ [Date] 8 บทที่ 3 การจดั การคุณภาพน้า

บางครงั เรามักจะเรียกการเกิดโรคทีเ่ กิดจากนา้ เป็นตัวน้าว่า “ โรคทเี่ กดิ จากนา้ เป็นสอื่ ” หมายถึงโรคที่เกดิ โดย การนา้ ของน้าซึง่ มีซง่ึ อ่ืน ๆ เจอื ปนอยสู่ ิ่งเหลา่ นนั อาจจะเป็นจลุ ินทรียแ์ ละสารเคมีท่เี ปน็ อันตรายทีท่ ้าให้เกิดโรค เขา้ ไปในร่างกายเกนิ กว่ามาตรฐานท่กี า้ หนดไวท้ ้าใหเ้ กดิ โรคขนึ ในหมู่มวลมนษุ ยเ์ พราะฉะนันกลา่ วแล้วน้ามี คณุ สมบตั ทิ ี่ดีในการละลายส่งิ ตา่ ง ๆ จงึ ไม่อาจท้าให้น้าคงรักษาความบรสิ ทุ ธิไ์ ด้ 100 % โดยทวั่ ไปแล้วการปรับปรงุ คุณภาพนา้ เพ่อื การอุปโภคบรโิ ภคมวี ธิ กี ารปรับปรงุ คณุ ภาพของนา้ ดิบให้มี คณุ ภาพดตี ามความตอ้ งการไดห้ ลายวธิ ี 1) การตกตะกอนจมตัว การตกตะกอนจนตัวเป็นการเก็บกักนา้ ไวใ้ นคลองหรือ อ่างเก็บน้าโดย อาศยั ธรรมชาติ เพือ่ ให้น้าได้เกิดการฟอกตวั เองโดยธรรมชาติ 2) การกรองด้วยตะแกรง การกรองดว้ ยตะแกรงเพื่อสกัดของแข็งท่ีมีขนาดใหญ่จนถึงขนาดเล็กขึนอยู่ กบั ขนาดรูของตะแกรงจึงอาจแบง่ ชนิดของตะแกรงอย่างกวา้ ง ๆ เป็น 2 แบบ คอื ตะแกรงหยาบและตะแกรง ละเอียด 3) การสร้างตะกอน การรวมตะกอน และการตกตะกอน - การสรา้ งตะกอน เปน็ กระบวนการที่ใชโ้ ดยการเตมิ สารเคมซี ่งึ เรียกสารสร้างตะกอนลงไปในน้าซ่ึงมี ของแขง็ ขนาดเลก็ ฟุ้งกระจายอยู่ - การรวมตะกอน เป็นกระบวนการรวมตัวของของแขง็ ท่มี ีขนาดเลก็ โดยมสี ารเคมีเป็นศูนย์กลางทา้ ให้ อนุภาคมีขนาดโตพอทีจ่ ะตกตะกอนได้งา่ ย เรยี กตะกอนท่ีรวมตวั กนั มี ขนาดโตพอที่จะตกตะกอนได้งา่ ย วา่ ฟลอ็ ก ( Flocc. )การใชส้ ารส้มในการสรา้ งตะกอน การใช้สารส้มใน การทา้ ใหส้ รา้ งตะกอนและรวมตะกอนควร ใหม้ ีพีเอชของนา้ อยู่ในชว่ ง 5.8 - 7.4 และควรมคี า่ เปน็ ด่างพอท่ีจะท้าใหเ้ กิดการปรบั พีเอชของน้าเมื่อ พเี อช ตา้่ ลงการใชส้ ารส้มจึงมสี ตู รเคมที ่วั ไปคือ AI2 ( SO4 )3 18H2O 4) การท้าลายเชือโรคด้วยคลอรนี การเตมิ คลอรนี เปน็ การใสค่ ลอรนี หรือสารประกอบคลอรนี ลงใน นา้ และนา้ เสียเพื่อการท้าลาย เชอื โรค และยังชว่ ยลดเหตรุ ้าคาญอันเน่ืองจากจุลินทรีย์และอาจช่วยออกซิไดส์ เหลก็ แมงกานีสในน้า รวมถึงสารท่ที ้าให้เกิดกล่นิ และรสชาติในน้าได้อกี ด้วย 3.7 ขันตอนการผลติ นา้ ประปา การประปาเปน็ วิธีทา้ นา้ ใหส้ ะอาด หลักการท้าน้าประปานันก็เพื่อให้ไดน้ า้ สะอาดปลอดภยั ปรมิ าณ เพยี งพอและจ่ายให้ไดท้ ั่วถงึ โดยน้านา้ จากแหล่งน้าผวิ ดนิ หรือน้าบาดาลเป็น แหล่งน้าดิบก็ได้ 1) การสบู น้าดบิ ติดตงั เครือ่ งสูบน้าเพ่ือสูบนา้ ดิบสง่ เข้าไปสู่โรงกรองน้า 2) การกรองน้า เม่อื น้าดิบถูกสง่ มายังโรงกรองน้า จะผา่ นท่ผี สมสารส้มและปนู ขาว เพือ่ ใหส้ ิง่ สกปรกท่ี ปะปนหรือผสมอยใู่ นน้านันเกิดรวมตวั เป็นตะกอนเกาะ ขนาดโตขนึ มีน้าหนักเพิม่ ขึนและตกตะกอน และสูบน้า ทก่ี รองแล้วในถงั นา้ ใสขึนหอถังสูงจา่ ยนา้ ใหก้ บั ประชาชน 3) การจา่ ยน้า นา้ จากถงั น้าใสจะถูกสบู ขึนหอถังสูง หอถังสูงจะท้าหนา้ ท่เี สมอื นท่ีเก็บน้าและจ่ายน้าไป ตามเส้นท่อภายใต้แรงดัน [Date] 9 บทท่ี 3 การจดั การคุณภาพน้า

รปู ที่ 1 แสดงกระบวนการท้าน้าประปา ท่มี า : กรมอนามัย, 2547 บรรณานกุ รม กรมควบคุมมลพิษ. 2543. มาตรฐานคุณภาพน้าและเกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพน้าในประเทศไทย. กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสง่ิ แวดลอ้ ม. 210 หน้า. กรมสง่ เสรมิ คุณภาพสิ่งแวดล้อม. 2543. แหลง่ ธรรมชาติอันควรอนรุ ักษข์ องภาคตะวนั ออกเฉียง เหนือ.พิมพค์ รงั ท่ี 1.กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละสิ่งแวดล้อม.บรษิ ทั วทิ ยรักษ์ จ้ากัด. 68 หน้า. ส้านักงานนโยบายและแผนส่งิ แวดลอ้ ม. 2541. แผนจดั การคณุ ภาพสิง่ แวดล้อม พ.ศ. 2545-2549. กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละสิ่งแวดลอ้ ม. 91 หน้า. ส้านักงานนโยบายและแผนส่งิ แวดล้อม. 2542. พืนทช่ี ุ่มนา้ . เอกสารชุดพนื ท่ชี ่มุ น้าของประเทศไทย เล่มที่ 3. กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละส่ิงแวดล้อม. บรษิ ัท อินทิเกรเต็ด โปรโมชนั่ เทคโนโลยี จา้ กดั . 142 หน้า อรนชุ ใจด.ี (2552). ปจั จยั ทม่ี ีผลกับความต้องการใช้น้าประปาของครัวเรือนในเขตเทศบาลเมอื งหัว หิน จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์. : มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม.่ 3.8กจิ กรรมการจัดการนา้ สะอาด กจิ กรรมที่ 1เรอ่ื งการจัดหาน้าสะอาด ใหผ้ ู้เรยี นปฏิบัตกิ ารจัดหา นา้ ดื่มสะอาดในชมุ ชนโดยประกอบดว้ ยขนั ตอนตอ่ ไปนี 1.1ให้นักศึกษาจดั การแบ่งนักศกึ ษาออกเป็น5กล่มุ อยา่ งสมุ่ โดยก้าหนดใหแ้ ต่ละกลุม่ ประชุมเพ่ือกา้ หนด รา่ งแนวทางจดั การในการติดตอ่ สอื่ สาร/การประสานงาน/การจัดซือน้าถัง/การเปล่ียนถังน้า ส้าหรบั อาคาร/ สถานท่ีท้างาน/ท่พี ักอาศัย/ หอพัก/โรงอาหาร 1.2 ใหน้ ักศึกษา5กลุ่มเสนอรายชือ่ บริษัทผู้ผลิต/ สถานท่ีผลิต /เครือ่ งหมายอนุญาต/ ชนิดของภาชนะ / การปิดผนกึ /จ้านวน พรอ้ มทังรายละเอยี ดที่อยู่ เบอรโ์ ทรศัพท์ เวบ็ ไซค์ แผนที่ และเลขทีอ่ .ย. ในการติดต่อ [Date] 10 บทท่ี 3 การจดั การคุณภาพน้า

รบั รองคุณภาพโดยใคร ที่กลุม่ เห็นวา่ มคี ณุ ภาพและมาตรฐาน มีพอเพยี งส้าหรับดื่มในที่พักอาศัยสา้ หรบั คน 300 คน เปน็ เวลาเวลา 12 เดือน และงบประมาณทตี่ ้องใช้ 1.3 ให้นกั ศึกษา5กลมุ่ น้าผลิตภณั ฑน์ ้าดม่ื บรรจขุ วดมากลมุ่ ละ 2 ยี่หอ้ โดยน้ามาเปรยี บเทียบเกณฑ์ คณุ ลักษณะทางฟสิ กิ ส์ เคมี ชีววิทยาในดา้ น ปรมิ าณ คุณภาพ ความสะดวก ความปลอดภัย และการบริการ และเง่ือนไขการรบั รองคุณภาพ ราคา มาตรฐานโรงงาน ระยะทาง การขนสง่ น้าเสนอเรียงลา้ ดับ ความสา้ คญั ทา้ เป็นตารางเปรียบเทียบ กิจกรรมท่ี 2.เรือ่ งการตรวจสอบคุณภาพน้า ใหน้ ักศึกษานา้ น้าตัวอย่างจากผลติ ภณั ฑ์น้าดม่ื บรรจขุ วดที่มีจา้ หนา่ ยในเขตอา้ เภอเมืองชลบุรีมา3ตวั อยา่ งเพิ่อน้ามาทดสอบทางกายภาพ (ตามหลกั ทฤษฎี) โดย 2.1 บันทึกข้อมูลจากฉลาก มาตรฐานบรรจภุ ัณฑ์ วันเดือนปีท่ีผลติ และข้อมลู ในฉลาก 2.2 สงั เกตดคู วามสะอาดจากตะกอนแขวนลอย และกล่นิ รสชาติ สรปุ ผลตามตัวอยา่ ง 2.3 สรุปผลแลว้ เสนอแนวทางปรบั ปรงุ คุณภาพน้าด่ืมตามตัวอย่างแต่ละย่หี ้อ กิจกรรมที่ 3 การฝึกปฏบิ ตั ิการจดั หา นา้ ใช้ 1.ใหแ้ บ่งกลุม่ นักศึกษา ออกเป็นกลุ่มละ7-10 คน ส้ารวจข้อมูลเก่ยี วกับแหลง่ นา้ ที่มแี ละกจิ กรรมการใช้ น้าชมุ ชนภายในวทิ ยาลยั การสาธารณสุขสริ นิ ธร จังหวดั ชลบุรี แล้วสรุปผลข้อมลู น้ามาอภิปรายในประเดน็ ต่อไปนี 1.1 ระบุแหลง่ นา้ ทม่ี ีในชมุ ชนและการใช้ประโยชน์ 1.2 กิจกรรมการใชน้ ้าของชุมชนท่ีสา้ คญั ประกอบดว้ ยกจิ กรรมอะไรบ้าง 1.3 ประมาณการใช้นา้ ของชุมชนใน 1 วนั และใน 1 เดือน โดยค้านวณปรมิ าณความต้องการน้าจาก จ้านวนประชากรในชมุ ชนทงั หมด 1.4 เปรยี บเทยี บกบั เกณฑ์มาตรฐานน้าใชใ้ นชุมชนขนั ตา่้ ของกระทรวงสาธารณสุขด้านความเพยี งพอ แลว้ สรปุ ผล 1.5 ทา้ บันทกึ สรุปผลการวิเคราะห์ปญั หาเร่ืองปริมาณและคณุ ภาพของการนา้ ด่ืม น้าใช้ของชมุ ชน กจิ กรรมท่ี 4.การสา้ รวจสถานท่ีเกบ็ กักนา้ ของวทิ ยาลัย โดยสา้ รวจสถานที่กักเก็บน้าสา้ รองประจ้าอาคารและปรมิ าณความจุท่ีใช้กกั เกบ็ น้าแล้วค้านวณปริมาณ การใช้นา้ ในแตล่ ะวันโดยระบุ จ้านวน บริเวณสถานท่ี ขนาดความจุ กจิ กรรมที่ 6.การตรวจสอบคุณภาพน้าใช้ โดยแบง่ กลุม่ นักศึกษาเพื่อเก็บตวั อยา่ งนา้ จาก1.อาคารเรียน 2.หอ้ งนา้ 3.หอพัก 4.โรงอาหารทาง กายภาพและเคมี/ชีววทิ ยาโดยการสงั เกตทุ างกายภาพ ความสะอาด หรือเก็บนา้ ตวั อย่างน้าไปทดสอบ โดยมีอตั ราการตรวจพบแบคทเี รียอีโคไล = 0 % [Date] 11 บทที่ 3 การจดั การคุณภาพน้า

3.9 แบบฝึกหัดประจ้าบทที่ 3 1.จงอธบิ ายความหมายของการจดั การคุณภาพน้า 2.จงอธบิ ายขอบเขตการจัดการคณุ ภาพนา้ 3.ถา้ ท่านเป็นผูก้ า้ หนดนโยบายด้านการจดั การคุณภาพนา้ ดื่มน้าใช้ในต้าบลต่อองคก์ ารบริหารส่วนตา้ บล ทา่ นจะเสนอนโยบายในด้านใดบา้ ง ระบุเป็นข้อ ๆ อย่างน้อย 5 ขอ้ 4.หลักการตวั ชีวัดทางคณุ ภาพน้าทางกายภาพทางเคมีและทางชีววทิ ยามาด้านละ 3 อยา่ ง ตวั ชวี ัดทางคณุ ภาพนา้ ทางกายภาพ ตัวชวี ดั ทางคณุ ภาพนา้ ทางเคมี ตวั ชวี ดั ทางคณุ ภาพน้าทางชีววทิ ยา 5.จงบอกความแตกต่างระหวา่ งนา้ ผิวดินกับนา้ ใตด้ นิ ด้านคุณภาพระหวา่ งเขตเมืองกบั ชนบท ลักษณะน้า เมอื ง ชนบท กายภาพ เคมี กายภาพ เคมี ผิวดิน ใต้ดิน [Date] 12 บทท่ี 3 การจดั การคุณภาพน้า


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook