การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ 3.ด้านการป้ องกันโรคติดต่อ (Provision Against Communication Diseases) 3.1. น้าดมื่ น้าใช้ (Water Supply) สาหรบั อาคารทอ่ี ยอู่ าศยั จาเป็นจะต้องจดั ในปรมิ าณ คอื ชนบทควรมนี ้าสะอาดไว้ใช้ 30-50 ลติ ร/คน/วนั ปรมิ าณน้าดมื่ 2 ลติ ร/คน/วนั ในเมอื งหรอื เทศบาลมี น้าประปาใชป้ ระมาณ 120 ลติ ร/คน/วนั และเมอื งใหญ่ควรมนี ้าประปาใช้ อยา่ งนอ้ ย 200 ลติ ร/คน/วนั และในคุณภาพ คอื มคี วามสะอาดได้ ตามมาตรฐานน้าดมื่ และน้าใช้
การสุขาภบิ าลอาคารทอี่ ยู่อาศัยและสถานทาการ 3.2. การกาจดั สง่ิ ขบั ถ่ายจากร่างกาย (Excreta Disposal) สงิ่ ปฏกิ ูลนอกจากจะทาใหเ้ กดิ ความสกปรก ความนา่ รงั เกยี จ มกี ลน่ิ เหมน็ เป็นเหตุราคาญแลว้ ยงั เป็นแหลง่ กาเนดิ ของเชอ้ื โรคและแมลงท่ี เป็นพาหะนาโรคอกี ด้วย อาคารทอ่ี ยอู่ าศยั จาเป็นทจี่ ะต้องมกี าร กาจดั สง่ิ ปฏกิ ูลเหลา่ นอ้ี ยา่ งถูกต้องและปลอดภยั โดยจะต้องมสี ว้ มที่ ถูกสุขลกั ษณะไว้สาหรบั ใชข้ บั ถ่ายแก่สมาชกิ ในครวั เรอื นอย่างเพยี งพอ โดยจะต้องมสี ว้ มอย่างนอ้ ย 1 ทต่ี ่อผูอ้ ยู่อาศยั จานวน 5-6 คน.
การสุขาภบิ าลอาคารท่ีอยู่อาศัยและสถานทาการ 3.3. การกาจดั ขยะ (Refuse Disposal) ขยะในครวั เรอื น จะต้องได้รบั การเกบ็ รวบรวมลงในถงั ขยะทมี่ ี ฝาปิดมดิ ชดิ เพอื่ ใหพ้ น้ จากการรบกวนของแมลง สตั ว์เลย้ี ง และขยะทเ่ีกบ็ รวบรวมมานนั้ จะต้องนาไปกาจดั อยา่ งถูกวธิ แี ละปลอดภยั ซง่ึ จะ เป็นหนา้ ทขี่ องหนว่ ยงานเทศบาล สาหรบั ในเขตชนบท จะต้อง ได้รบั การแนะนาจากเจา้ หนา้ ทอี่ นามยั และเจา้ หนา้ ทป่ี กครอง ถงึ วธิ กี ารกาจดั ขยะทถ่ี ูกต้องเหมาะสม
การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ 3.4. การกาจดั น้าโสโครก (Sewage Disposal) บา้ นพกั อาศยั จะต้องมกี ารรวบรวมและกาจดั น้าโสโครกอย่างถูกต้องและปลอดภยั เพอ่ื ป้องกนั ไม่ใหเ้ กดิ เป็นแหลง่ เพาะพนั ธ์ุเชอ้ื โรค พาหะนาโรคต่าง ๆ และไม่ใหเ้ ป็นเหตุราคาญ ในเขตเทศบาลจะมรี ะบบท่อน้าโสโครกเพอื่ ลาเลยี งน้าโสโครกออกไปยงั ท่อน้าโสโครกสาธารณะเพอื่ ทาการกาจดั อย่างถูกวธิ ี ส่วนครวั เรอื นในชนบทจะต้องจดั ให้มรี ะบบระบายน้าและ กาจดั น้าโสโครกไว้ใชเ้ องโดยไม่ก่อใหเ้ กดิ อนั ตรายต่อสงิ่ แวดลอ้ ม
การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ 3.5. การเกบ็ รกั ษาอาหาร (Food Storage) อาหารสดจาพวก ผกั ผลไม้ จะสามารถเกบ็ รกั ษาไว้ได้นานไว้ในทท่ี มี่ อี ุณหภูมไิม่เกนิ กว่า 10๐ C ส่วนเนอ้ื สตั ว์ ไข่ อาจเกบ็ รกั ษาไว้ได้นานกว่า 7 วนั ถา้ เกบ็ ไว้ในทท่ี มี่ อี ุณหภมู ไิมเ่ กนิ กว่า 4๐ C แต่ถา้ จะต้องเกบ็ รกั ษาอาหารไว้ นานกว่านนั้ จาเป็นต้องใชว้ ธิ กี ารแช่แขง็ นอกจากน้ี ยงั จาเป็นต้อง ระวงั ไม่ให้เกดิ การปนเป้ือนต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละออง แมลงและสตั ว์เลย้ี ง ฯลฯ เพอื่ ใหไ้ ด้อาหารทดี่ มี คี ุณค่าและปลอดภยั
การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ 3.6. หอ้ งนอนมพี น้ื ทเ่ีพยี งพอ (Sufficient Space in Sleeping Rooms) ห้องนอนจะต้องมพี น้ื ทเี่พยี งพอ มคี วามเป็นระเบยี บเรยี บร้อย สะอาด อุณหภูมพิ อเหมาะ มกี ารระบายอากาศทเ่ีหมาะสม โดยพน้ื ทห่ี ้องนอนไม่ นอ้ ยกว่า 9 ตารางเมตร สูงประมาณ 2.5 เมตร ไมค่ วรนอนเกนิ กว่า 2 คน/ห้องนอน ถา้ จดั เตยี งนอนคู่กค็ วรจะมพี น้ื ทอ่ี ย่างนอ้ ย 50 ตารางฟุต/เตยี ง เตยี งนอนแต่ละเตยี งควรมรี ะยะกงึ่ กลางเตยี งห่างกนั ไมน่ อ้ ยกว่า 6 ฟุต ซง่ึ จะช่วยป้องกนั การตดิ ต่อของโรคทางเดนิ หายใจ
4.ด้านการป้ องกันอุบัตเิ หตุ (Provision Against Accidents) 4.1. ทาเลทต่ี ง้ั (Location) ได้แก่ ไม่ควรสร้าง อาคารทอ่ี ยอู่ าศยั ใหต้ ดิ กบั ถนนใหญ่ แต่ถา้ จาเป็น ทจ่ี ะต้องสร้างกจ็ ะต้องมรี วั้ กน้ั ประตูทางเขา้ บรเิวณควรมลี กั ษณะทส่ี ามารถมองได้เป็นมุมกว้าง จะช่วยลดอุบตั เิหตุจากการเขา้ ออกได้ ฯลฯ
การสุขาภบิ าลอาคารท่ีอยู่อาศัยและสถานทาการ 4.2. วสั ดุและการก่อสร้าง (Materials and Construction) วสั ดุทจ่ี ะนามาก่อสร้างอาคารทอ่ี ยอู่ าศยั ควรเป็นวสั ดุทม่ี คี วาม แขง็ แรงทนทาน มคี ุณภาพดี สวยงาม หาง่ายในทอ้ งถน่ิ ทป่ี ลูก สร้างไมต่ ดิ ไฟง่าย เช่น หลงั คากระเบอ้ื ง กระเบอ้ื งซเีมนต์ แผน่ เหลก็ ชุบสงั กะสี เป็นต้น การก่อสร้างอาคารทอ่ี ยอู่ าศยั นอกจากจะถูกต้องตามกฏเกณฑ์ทมี่ ใีชอ้ ยู่ในท้องถนิ่ แลว้ จะต้อง เป็นไปตามหลกั เกณฑ์ทางด้านวศิ วกรรมด้วย
การสุขาภบิ าลอาคารที่อยู่อาศัยและสถานทาการ 4.3. การป้องกนั อคั คภี ยั (Fire Protection) ได้แก่ พน้ื หอ้ งครวั หรอื ผวิ พน้ื ทอี่ ยู่ใกลเ้ ตาไฟควรไดร้ บั การบุด้วยวสั ดุทน ไฟ สายไฟฟ้ าและอุปกรณ์ไฟฟ้ าทเี่ก่าหรอื ชารดุ สมควรได้รบั การซ่อมแซมหรอื เปลย่ี นใหม่อยูเ่ สมอ การจดั หาเครอ่ื งดบั เพลงิ ไวใ้ ชป้ ระจาบา้ นและมกี ารทดสอบประสทิ ธภิ าพใหพ้ ร้อมใชง้ านได้ เสมอ ประตูและหนา้ ต่างของตวั อาคารไมค่ วรตดิ ลูกกรง เหลก็ ดดั หรอื ถา้ ตดิ ควรเป็นชนดิ ทม่ี กี ุญแจเปิดปิดได้อย่าง สะดวก ฯลฯ
การสุขาภบิ าลอาคารท่อี ยู่อาศัยและสถานทาการ 4.4. ความเป็นระเบยี บเรยี บร้อย (Orderliness) การจดั สง่ิ ของเครอื่ งใชต้ ่าง ๆ ใหเ้ ป็นหมวดหมู่ มี ระเบยี บ ค้นหาได้งา่ ย ไมเ่ กะกะจะชว่ ยลดการเกดิ อุบตั เิหตุ ต่าง ๆ ได้ เช่นการเกบ็ เศษใบไม้ เศษกระดาษ ใหพ้ น้ จาก การเป็นต้นเหตุของอคั คภี ยั การเกบ็ สารเคมที ม่ี พี ษิ ต่าง ๆ ใหพ้ น้ จากมอื เดก็ เป็นต้น
การสุขาภบิ าลอาคารทีอ่ ยู่อาศัยและสถานทาการ 4.5. การบารุงรกั ษา (Maintenance) อาคารท่ี อยอู่ าศยั จาเป็นทจ่ี ะต้องได้รบั การบารุงดูแลรกั ษาใหอ้ ยู่ใน สภาพทสี่ ามารถใชอ้ ยูอ่ าศยั ได้อย่างเป็นปกตสิ ุขเสมอ ไม่ ทรุดโทรมจนกลายเป็นอนั ตรายต่อผูอ้ ยู่อาศยั ทง้ั น้ี รวมถงึ การดูแลรกั ษาความสะอาดภายในอาคารและ บรเิวณของอาคารใหด้ อี ยู่เสมอด้วย
5.ด้านการป้ องกันเหตุราคาญ ( Provision Against Nuisances) เหตุราคาญ (Nuisances) เชน่ เสยี ง รบกวน แสงจา้ ความสนั่ สะเทอื น กลนิ่ เหมน็ ฝุ่น ละออง เขมา่ ควนั แกส็ พษิ ต่าง ๆ ฯลฯ ทกี่ ่อให้เกดิ การรบกวนต่อความเป็นปกตสิ ุขของผูอ้ ยูอ่ าศยั จาเป็นทจี่ ะต้องถูกกาจดั และป้องกนั ให้หมดส้นิ ไป
การสุขาภบิ าลอาคารทีอ่ ยู่อาศัยและสถานทาการ -5.1 เหตุราคาญจากเสียง (Noise Nuisance) ส่วนมากมกั เกิดจากเครื่องจกั รกล เคร่ืองยนต์ ยานพาหนะ วิทยุ โทรทศั น์ เคร่ืองขยายเสียง เสียงพดู คุยของคน และเสียงสตั วร์ ้อง เป็นตน้ เสียง ในบา้ นพกั อาศยั ควรมีไดไ้ ม่เกิน 50 เดซิเบล สาหรับ ในหอ้ งนอนไม่ควรมีเสียงดงั เกินกวา่ 30 เดซิเบล
การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ - 5.2เหตุราคาญจากความสนั่ สะเทือน(Motion Nuisance) ส่วนมากมกั เกิดจากเครื่องจกั รกล เครื่องยนต์ เครื่องจกั ร การขนส่งและการจราจร ซ่ึง นอกจากจะรบกวนต่อการอยอู่ าศยั แลว้ ยงั สามารถ ทาใหเ้ กิดความเสียหายต่อทรัพยส์ ินท้งั ทางตงและ ทางออ้ มไดด้ ว้ ย ที่พกั อาศยั จึงควรอยหู่ ่างไกลจาก สิ่งรบกวนแบบน้ี
การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ - 5.3เหตุราคาญจากกลิ่น (Odor Nuisance) กล่ิน เหมน็ ในลกั ษณะต่าง ๆ สามารถก่อใหเ้ กิดความ ราคาญแก่ผพู้ กั อาศยั ได้ กลิ่นเหมน็ ส่วนใหญ่เกิดจาก การเน่าเปื่ อยของอินทรียสาร หรือปฏิกิริยาทางเคมี ของอินทรียสาร ดงั น้นั ท่ีพกั อาศยั ควรอยหู่ ่างจาก แหล่งทิ้งของเสียหรือแหล่งกาจดั ของเสีย เช่น ขยะ มูลฝอย อุจจาระ หรือน้าโสโครก และอยหู่ ่างจาก โรงงานหรือหอ้ งปฏิบตั ิการทางเคมีดว้ ย
การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ -5.4 เหตุราคาญจากควนั (Smoke Nuisance) ควนั เป็นอนุภาคของคาร์บอนที่เกิดจากการเผา ไหมเ้ ช้ือเพลิงที่ไม่สมบรูณ์ ในควนั จะมีก๊าซ CO แขลนะาดCเOล2ก็ แจลึงะทอานใุภหาเ้ กคิดขเอปง็นคเาหรต์บุรอานคอาญื่นแๆลทะม่ีมีี ผลเสียต่อสุขภาพของผหู้ ายใจเอาควนั เขา้ สู่ ร่างกายดว้ ย
การทาความสะอาดหอ้ งน้า และการดูแลหอ้ งน้า ให้ สะอาด ถูกสุขอนามยั การดูแลรักษาความสะอาดห้องนา้ , ห้องนา้ เป็ นห้องท่ตี ้องเปี ยกน้า และมคี วามชื้นเกอื บ ตลอดเวลา (ท้งั ขับถ่าย ซักล้าง อาบน้า ฯลฯ)และ เป็ นห้องทมี่ ีความเกยี่ วข้องกบั สุขภาพนามยั ของ คนในบ้านโดยตรง ดงั น้ัน เราจึงไม่ควรละเลยใน เรื่องของความสะอาด ความเรียบร้อย และความ ปลอดภัยต่างๆ ภายในห้องน้า
การดูแลโถสวมหรือชกั โครก ฝารองน่ังสาหรับชักโครกน้ัน เป็ นส่วนทีต่ ้อง สัมผสั กบั ร่างกายของเราโดยตรงควรทาความสะอาด ทุกวนั หรือหลงั จากการใช้งานเสร็จ โดยให้ใช้นา้ ยาทา ความสะอาดสุขภณั ฑ์ หรือใช้แอลกอฮอล์เช็ดทาความ สะอาดกไ็ ด้ ส่วนตัวชักโครกด้านใน ให้ใช้นา้ ยาทา ความสะอาด บีบไปให้ทั่ว โดยเฉพาะตามขอบด้านใน แล้วใช้แปรงขดั ส้วมขดั ถูให้ทว่ั ไปจนถงึ คอห่านให้ลกึ ทส่ี ุดเท่าทจี่ ะทาได้
การทาความสะอาดหอ้ งน้า และการดูแลหอ้ งน้า ใหส้ ะอาด ถูกสุขอนามยั การดูแลรักษาความสะอาดห้องนา้ , ห้องนา้ เป็ น ห้องท่ีต้องเปี ยกนา้ และมีความชื้นเกอื บตลอดเวลา (ท้งั ขับถ่าย ซักล้าง อาบนา้ ฯลฯ)และเป็ นห้องทีม่ คี วาม เกยี่ วข้องกบั สุขภาพนามัยของคนในบ้านโดยตรง ดังน้ัน เราจงึ ไม่ควรละเลยในเรื่องของความสะอาด ความเรียบร้อย และความปลอดภัยต่างๆ ภายใน ห้องน้า
การดูแลฝักบวั อาบน้า ฝักบวั อาบนา้ เป็ นอกี ส่วนหน่ึง ทมี่ ัก สะสมความสกปรกหรือเชื้อโรคเอาไว้ เรา สามารถทาความสะอาดได้ โดยการนา ฝักบัวไปแช่นา้ ส้มสายชูผสมกบั นา้ อ่นุ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือแช่ข้ามคนื ไว้ก็ ได้ เสร็จแล้วจดั การล้างด้วยนา้ เปล่า แล้ว เช็ดให้แห้ง แค่นีก้ เ็ สร็จแลว้
กาแพงหรือผนงั หอ้ งน้า มกั จะมีคราบสบ่หู รือคราบแชมพู กระเดน็ ไปติดอยู่ และหากไม่ทาความ สะอาด กจ็ ะกลายเป็นคราบสกปรกดาๆ ไม่น่ามอง วธิ ีทาความสะอาด กเ็ พยี งผสม น้ายาลา้ งหอ้ งน้ากบั น้าเปล่า แลว้ นาไปเชด็ ถูใหท้ วั่ ทิ้งไวส้ กั พกั แลว้ ลา้ งออกอีกคร้ัง หน่ึง
กระจกในหอ้ งน้า มกั จะโดนท้งั นา้ สบู่ เจล ครีมโกนหนวด หรือยาสี ฟันกระเดน็ ไปเปื้ อนเป็ นประจา ซ่ึงถ้าเปื้ อนแล้ว ควรรีบ จัดการทาความสะอาดทนั ที ด้วยผ้าหมาดๆ ไม่ควรปล่อย ทงิ้ ไว้นาน จนแห้งติดกระจก จะทาให้เช็ดออกยากขนึ้ นั่นเอง และหากกระจกเป็ นคราบสกปรกมากๆ กใ็ ช้นา้ ยา เช็ดกระจก กบั หนังสือพมิ พ์เช็ด หรือใช้แอลกอฮอล์ผสม นา้ ในการทาความสะอาดกไ็ ด้ จะทาให้กระจกกลบั มาใส สะอาดเหมอื นเดมิ
การดูแลพ้นื หอ้ งน้า ควรทาความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละคร้ัง ด้วย นา้ ยาล้างห้องนา้ โดยเทลงไปบนพนื้ ห้องนา้ ทงิ้ ไว้ 10 นาที แล้วค่อยจัดการขดั พนื้ ด้วยแปรงขดั พนื้ เพอ่ื ขดั ตะไคร่นา้ (ท่ี เป็ นสาเหตุทาให้พนื้ ลน่ื จนอาจเกดิ อนั ตรายได้) ให้หมดจด แล้วราดนา้ สะอาดเพอ่ื ล้างนา้ ยาออกให้หมดอกี คร้ังหน่ึงและ หากเป็ นไปได้ ควรให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนา้ หรือ เปิ ดประตูหน้าต่างห้องนา้ ไว้บ้างเพอ่ื ช่วยระบายอากาศ ความชื้น กลนิ่ เหมน็ และสิ่งหมกั หมมต่างๆ
การดูแลอ่างลา้ งหนา้ อ่างลา้ งหนา้ เมื่อใชไ้ ปนานๆ จะมีคราบ ด่างดูสกปรกติดอยู่ ซ่ึงเราสามารถทาความ สะอาดดว้ ยการใชผ้ า้ ชุบน้าสม้ สายชูขดั ถูบน รอยคราบเหล่าน้นั ลา้ งออกอีกคร้ังดว้ ยน้าผสม สบู่ ตามดว้ ยน้าสะอาด อ่างลา้ งหนา้ กจ็ ะดู สะอาดเหมือนใหม่ทนั ตาเห็นเลย
การดูแลส่วนประกอบอื่นๆ หอ้ งน้า สาหรับที่รองสบู่ มกั จะมีน้าขงั หรือมีคราบสกปรก สะสมอยู่ ทาใหเ้ กิดเป็นเช้ือราไดด้ งั น้นั ควรหมนั่ ขดั ทาความ สะอาด และเชด็ ใหแ้ หง้ อยเู่ สมอถา้ มีตูเ้ กบ็ ของ หรือช้นั วาง ของในหอ้ งน้า กค็ วรหมนั่ ทาความสะอาดบ่อยๆและเช็ดให้ แหง้ ทุกซอกทุกมุม เน่ืองจากมกั จะเปี ยกน้า หรืออบั ช้ืนอยู่ เกือบตลอดเวลาที่แขวนผา้ หรือราวแขวนผา้ ควรหมน่ั เชด็ ทาความสะอาดเช่นกนั และไม่ควรใชส้ าหรับการตากเส้ือผา้ เพราะในหอ้ งน้ามีความช้ืน ทาใหแ้ หง้ ยากหากจะตากผา้ ควร ตากไวข้ า้ งนอก ใหโ้ ดนแสงแดด หรือที่ที่มีลมพดั ผา่ น
ท่อประปา ท่อประปาทาหน้าท่ีในการลาเลยี งนา้ ดี หรือ นา้ ประปา จ่ายผ่านอปุ กรณ์ต่างๆ เช่น ก๊อกนา้ ฝักบวั อาบนา้ ฟลชั วาล์ว และหม้อนา้ ชักโครกเป็ น ต้น ท่อเมนประปาท่ใี ช้ตามบ้าน ใช้กนั ท่ีขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 3/4 นิว้ – 1 นิว้ วสั ดุทใ่ี ช้ทาท่อ ประปาในบ้านเมื่อก่อนใช้ ท่อเหลก็ อาบสังกะสี จากน้ันกพ็ ฒั นามาเป็ นท่อ พวี ซี ี ท่อพอี ี
ชนิดของท่อประปา ท่อประปา แบ่งได้ 5 ประเภท 1. ท่อประปาเหลก็ อาบสงั กะสี ทาจากเหลก็ กลา้ ซ่ึงเป็นสนิม ไดย้ าก ผา่ นการอาบ สงั กะสี สามารถทาเกลียวไดง้ ่าย ท่อเหลก็ อาบ สงั กะสี ส่วนใหญ่จะผลิต มายาว 6 เมตร ปลายท่อทาเกลียวมาให้ พร้อม มีแบบหนาปานกลาง ท่ีท่อจะคาดสีน้าเงิน และอยา่ งหนาท่ีท่อ คาดสีเหลือง ขอ้ ดี มีความแขง็ แรง รับน้าหนกั ไดด้ ี ทนทานต่อแรง กระแทกได้ ไม่ หกั งอ ทนต่อความดนั และอุณหภูมิท่ีสูงๆ เช่น เคร่ืองทาน้าร้อน ขอ้ เสีย ราคาค่อนขา้ งแพง ถา้ ใชไ้ ปนานๆ อาจเกิดสนิม ได้ โดย เฉพาะที่ฝังอยใู่ นดิน อาจเป็นอนั ตราย ถา้ นาน้าในท่อ มารับประทาน
2. ท่อ PVC (PVC ยอ่ มาจาก Poly Vinyl Chloride ) ส่วนใหญ่ มีความยาว 4 เมตร ยกเวน้ ท่อ PVC บางประเภท ซ่ึงอาจยาว 3 หรือ 6 เมตรบา้ ง แบ่งแยกการใช้ งาน ตามสีต่างๆ เช่น สีฟ้ า สีเหลือง สีเทา หรือ สีขาว ข้อดี นา้ หนักเบา (1/5 ของเหลก็ ) ราคาถูกกว่า สามารถดดั งอได้ และ ไม่เกดิ สนิมนา้ ในท่อจะสะอาดกว่า ขอ้ เสียไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกแรงๆไดไ้ ม่ทนต่อความดนั และอุณหภูมิท่ีสูง ชนิดของท่อพวี ีซี (PVC.) ท่อพีวีซี (PVC.) แบ่งตามชนิดการใชง้ าน โดยใชส้ ี ดงั น้ี 1. ท่อสีเหลือง เป็นท่อสาหรับร้อยสายไฟฟ้ า และสาย โทรศพั ท์ เพราะ สามารถทนต่อความร้อนไดอ้ ยา่ งดี 2. ท่อสีฟ้ า เป็นท่อที่ใชก้ บั ระบบน้า เช่น น้าดี น้าเสีย และการระบาย สามารถทนแรงดนั น้าไดม้ ากนอ้ ยตามประเภท การใชง้ าน (มีหลายเกรด)
ท่อ PVC สีฟ้ า เป็นท่อใชง้ านสาหรับ ระบบน้าด่ืม หรือ งานท่อระบายน้า มี ความหนาตามระดบั การรับแรงดนั ต้งั แต่ ช้นั PVC 5 ,8.5 และ 13.5 ตาม มาตรฐาน มอก.17-2532 ช้นั หนาสุดกค็ งเป็น PVC 13.5 ตวั เลข13.5 เป็นค่าแรงดนั ใชง้ าน มีหน่วยเป็น kgf/cm2
3. ท่อสีเทา เปน็ ท่อท่ีใช้สาหรับการเกษตร หรือ น้าทิง้ ก็ได้ ราคาค่อนขา้ งถูก ไมค่ อ่ ยแขง็ แรง ควรจะเด 4. ท่อไซเลอร์ ภายนอกเปน็ ท่อเหล็ก GSP. ภายในเปน็ ทอ่ PE. ขอ้ ดี มีความแขง็ แรง รบั นา้ หนกั ไดด้ ี ทนทานต่อแรง กระแทกได้ ไม่หักงอ ทนต่อความดันได้มากกว่า 20 บาร์ และอณุ หภูมิสูง ถงึ 95 องศา ไม่เปน็ สนิม เหมาะ สาหรบั ใชต้ ดิ ต้ังใน โรงแรม อาคารขนาดใหญ่ สถานที่ ๆ ต้องการความทนทานสูง หรือสถานที่ ที่ ยากตอ่ การซ่อมแซม ขอ้ เสยี ราคาสูง
4. ท่อพีพีอาร์ เกิดจากการ Random Copolymer Polypropylene ซ่ึงเป็ นเมด็ พลาสติกคุณภาพสูง(Thermo Plastic) ท่ีนกั วิทยาศาสตร์ ไดค้ ิดคน้ พฒั นาทางดา้ นเทคโนโลยรี ะบบท่อประปาพลาสติกภายใต้ คุณสมบตั ิดา้ นฟิ สิกส์ และเคมีทาใหท้ ่อพลาสติกท่ีทาดว้ ยวสั ดุพิเศษ ขอ้ ดี การเชื่อมต่อระหวา่ งท่อ กบั ขอ้ ต่อ ใชว้ ิธีการใหค้ วามร้อน โดย คุณสมบตั ิพเิ ศษของจึงทาใหท้ ่อและขอ้ ต่อสามารถเชื่อมผสานกนั เป็นเน้ือ เดียว จึงมนั่ ใจวา่ จะไม่เกิดปัญหาการรั่วซึม ท่ีบริเวณจุดต่อเช่ือมระหวา่ งท่อ และขอ้ ต่อ ทนอุณหภูมิไดส้ ูง ถึง 95 องศา แขง็ แรง ทนแรงดนั ไดส้ ูงถึง 20 บาร์ อายกุ ารใชง้ าน ยาวนานกวา่ 50 ปี ไม่เป็นสนิม สะอาด สามารถใชเ้ ป็น ท่อน้าดื่มได้ เหมาะสาหรับใชต้ ิดต้งั ใน บา้ นพกั อาศยั คอนโด ตึกแถว อาคาร ขนาดเลก็ ขนาดใหญ่ ขอ้ เสีย ไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกแรง ๆ ไม่เหมาะกบั การติดต้งั ใตพ้ ้นื ดิน หรือพ้ืนคอนกรีตที่มีการทรุดตวั มาก
5. ท่อ PE – Poly Ethylene ท่อโพลีเอทิลีน (HDPE) เป็นวสั ดุทางเคมีที่มีค่าความ หนาแน่นสูง “ไม่นอ้ ยกวา่ 950 Kg/m3″ ที่มีคุณสมบตั ิทางเคมี,ไฟฟ้ า และทางกลที่ดีเยย่ี ม สามารถท่ีจะนามาประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นวสั ดุท่ีเหมาะสม กบั สภาวะการใชง้ านในวงการต่างๆ ในปัจจุบนั ซ่ึงท่อโพลีเอทิลีน หรือ เอชดี พีอี หรือบางหน่วยงานกเ็ รียกวา่ ท่อพีอี PE น้นั กค็ ือท่อโพลีเอทิลีน (HDPE) ท่ีผลิตจากวสั ดุโพลีเอทิลีนท่ีมาจากข้นั ตอนทางเคมีท้งั สิ้น - น้าหนกั เบา 1/5 ของท่อเหลก็ สะดวกในการเคล่ือนยา้ ย - ยดื หยนุ่ ไดด้ ี ทนแรงกระแทก - ไม่มีสารพิษ - ขดเป็นมว้ นได้ (ยาวสูงสุดไดถ้ ึง 400 เมตร) - ทนสารเคมี อายกุ ารใชง้ านยาวนาน - ทนแสงอาทิตย์ - ผวิ ในท่อเรียบ ของเหลวไหลสะดวก
ปัญหาคุณภาพน้าและการแกไ้ ข 1.1 ท่อประปา (1) ท่อประปาเก่าเป็ นสนิม ท่อเหลก็ อาบสังกะสีท่ใี ช้งานเป็ นเวลานานเกนิ กว่า 5 ปี อาจเป็ นสนิม ทาให้ นา้ ประปามคี ราบแดง เนื่องจากตะกอน สนิมปะปนอยู่ ดังน้ัน หากพบว่าท่อเก่า เป็ นสนิมควรรีบเปลยี่ นใหม่ ทนั ที (2) ท่อ / อปุ กรณ์ประปาแตกรั่ว หากพบว่ามกี ารร่ัวไหลเกดิ ขึน้ ท้งั ทเ่ี กดิ ขึน้ เลก็ ๆ น้อย ๆ จากถงั ชักโครกหรือ ถงั เกบ็ นา้ ทลี่ ูกลอยชารุด ทาให้นา้ ไหลทงิ้ อยู่ตลอดเวลา ไปจนถึงการรั่วไหล มากอนั เกดิ จากท่อแตกรั่ว ใต้ดนิ ทม่ี องไม่เห็น ควรรีบซ่อมแซมอุปกรณ์ เหล่าน้ันให้อยู่ ในสภาพทดี่ ีอยู่เสมอ (วธิ ีการตรวจสอบการรั่วไหลได้แนะนาไว้ ในข้อ 2.2) เพราะท่อและ อุปกรณ์ทร่ี ั่วทาให้นา้ สูญเสียไปมาก และอาจเป็ นเหตุ ให้ส่ิงสกปรกเข้าไป ในเส้นท่อได้หากท่านใช้ เคร่ืองสูบนา้
1.2 เคร่ืองสูบนา้ การตดิ ต้งั เคร่ืองสูบนา้ ทส่ี ูบโดยตรงจากเส้นท่ออาจดูดส่ิง สกปรกจาก บริเวณใกล้เคยี ง เช่น นา้ ขุ่นจากท่อแตกรั่ว หรือนา้ แดงจาก ท่อสนิม เข้ามาในระบบ ท่อประปาในอาคารได้ ดงั น้ันควรตดิ ต้งั ถังพกั นา้ เพอื่ สารอง นา้ ไว้ก่อน แล้วจงึ สูบ จากถงั พกั นา้ น้ันจ่ายไปยงั ท่อประปา ภายในอาคาร จะได้นา้ ทส่ี ะอาดปลอดภยั 1.3 เคร่ืองกรองนา้ เครื่องกรองนา้ ที่ใช้งานมานานโดยไม่ล้างหรือเปลย่ี นไส้กรอง อาจเป็ น แหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทเี รียได้ ควรทาความสะอาด เคร่ืองกรองนา้ อยู่เสมอ โดย ข้อเทจ็ จริงเคร่ืองกรองนา้ ไม่ใช่สิ่งจาเป็ น สาหรับการใช้ นา้ ประปา 1.4 ถงั พกั นา้ / ถงั เกบ็ นา้ ควรล้างทาความสะอาดอย่างน้อยทุก 6 เดอื น หากไม่มี การล้างถังพกั นา้ /ถัง เกบ็ นา้ เลย ส่ิงมชี ีวติ เลก็ ๆ ทเี่ ลด็ รอดเข้าไป จะเจริญเตบิ โตเพม่ิ พนู ขนึ้ เร่ือย ๆ ทาให้ นา้ ประปาปนเปื้ อนสิ่ง สกปรกโดยไม่รู้ตวั ถงั พกั นา้ มกั เป็ นสาเหตุสาคญั ทที่ าให้นา้ ไม่ได้มาตรฐาน
การติดต้งั ถงั พกั น้า ควรติดต้งั ถงั พกั น้าใหส้ มั พนั ธ์กบั ปริมาณน้าใชใ้ นอาคาร บา้ นเรือน ถงั พกั น้าที่ใหญ่เกินไป จะทาความสะอาดไดย้ าก มีท้งั แบบ ติดต้งั บนดินและใตด้ ิน ควรมีขนาดพอเกบ็ น้าไวใ้ ชป้ ระมาณ 1-2 วนั เท่าน้นั เพราะหากเกบ็ น้าไวน้ านกวา่ 1-2 วนั ปริมาณ คลอรีนตกคา้ ง ในน้าประปาจะระเหยไปหมด เช้ือโรคหรือ แบคทีเรียอาจเขา้ มา ปะปนในน้าได้ ควรเลือกถงั พกั น้าชนิดที่ ทนทานและปราศจากสารพษิ เพราะคลอรีนในน้าประปาอาจทา ปฏิกิริยากบั โลหะบางชนิดใหเ้ กิด การผกุ ร่อนและเป็นสนิมได้
การเลือกขนาดถงั พกั น้า จานวนผใู้ ชน้ ้า (คน) ใชถ้ งั ขนาดความจุ (ลิตร ) บา้ นพกั อาศยั สานกั งาน 1,000 5 20 1,200 6 25 1,600 7-8 32 2,000 9-10 40 3,000 11-15 60
วธิ ีทาความสะอาดถงั พกั น้า ใส่น้าใหเ้ ตม็ ถงั พกั น้า แลว้ ใส่คลอรีนน้าหรือคลอรีนผง โดยใหใ้ ช้ ปริมาณ คลอรีน / ปริมาณน้า ตามสัดส่วนดงั น้ี – คลอรีนชนิดน้า 5 %ควรใชน้ ้ายาคลอรีน 100 ซี.ซี./น้า 1 ลกู บาศกเ์ มตร (คิว) – คลอรีนชนิดน้า 10 %ควรใชน้ ้ายาคลอรีน 50 ซี.ซี./น้า 1 ลกู บาศกเ์ มตร (คิว) – คลอรีนชนิดผง ควรใชป้ ระมาณ 8 กรัม/น้า 1 ลกู บาศกเ์ มตร (คิว) กวนนา้ และคลอรีนให้เข้ากนั เพอ่ื ให้คลอรีนทาปฏกิ ริ ิยากบั นา้ อย่างทว่ั ถงึ แช่ไว้ประมาณ 3 ช่ัวโมง แล้วจงึ ปล่อยนา้ คลอรีนออกจาก ถังพกั นา้ ให้หมด คลอรีนจะฆ่าเชื้อโรคภายในถัง จากน้ันจงึ ใส่ นา้ ประปา ท่สี ะอาดลงไป จะทาให้นา้ ประปาท่นี าไปใช้ในอาคารเป็ น นา้ ทมี่ คี ุณภาพดี สะอาด ปราศจากเชื้อโรค
แบบที่ 1 การตดิ ต้งั เคร่ืองสูบนา้ โดยมถี ังพกั นา้ บนดนิ
แบบท่ี 2 การติดต้งั เคร่ืองสูบน้าโดยมีถงั พกั น้าใตด้ ิน
วิธีการเดินท่อประปา การเดนิ ท่อนา้ เบอื้ งต้น โดยทั่วไปแล้วการเดินท่อประปาภายในบา้ น จะมอี ยู่ 2 ชนิด คือ 1. การเดินท่อแบบลอย คือ การเดินท่อติดกับผนัง หรอื วางบนพ้นื การเดินท่อแบบน้ีจะเห็นได้ชัดเจนสามารถซ่อมแซม ได้ง่าย เมอื่ เกิดปั ญหาแต่จะดไู มส่ วยงาม 2. การเดินท่อแบบฝั ง คือ การเจาะสกัดผนัง แล้ว เดิน ท่อ เมอื่ เรียบร้อยแล้วก็ฉาบปูนทับ หรือเดินซ่อนไว้ใต้เพดานก็ ได้ ซ่ึงจะดเู รียบร้อยและสวยงาม แต่เมอื่ มปีั ญหาแล้ว
วิธีการเดินทอ่ ประปาในสว่ นท่ีอยใู่ ต้ดิน การเดนิ ท่อประปาในส่วนทอ่ี ยู่ใต้ดนิ การเดนิ ท่อประปาจะมที ง้ั ท่อสว่ นทอี่ ยู่บนดนิ และบางส่วนจะต้องอยูใ่ ต้ดนิ ในส่วนทอี่ ยูบ่ นดนิ อาจใชท้ ่อ PVC หรอื ท่อเหลก็ ชุบ สงั กะสี (GAVANIZE) กไ็ด้ แต่สาหรบั ท่อ ทอี่ ยูน่ อกอาคาร โดยเฉพาะท่อทอี่ ยู่ ใต้ดนิ บรเิวณใต้อาคาร ควรใชท้ ่อ PE ท่อชนดิ นม้ี คี ุณสมบตั พิ เิศษ ในการบดิ โค้งได้ ในกรณเีดนิ ผา่ นเสาตอมอ่ หรอื คานคอดนิ สาหรบั ท่อธรรมดา จะมขี อ้ ต่อมากซงึ่ เสยี่ ง ต่อการรวั่ ซมึ และทสี่ าคญั เมอ่ื มกี ารทรุด ตวั ของอาคาร หากเป็นท่อ PVC หรอื ท่อ เหลก็ ชุบสงั กะสี จะทาให้ท่อแตกร้าวได้ แต่ถา้ เป็นท่อ PE จะมคี วามยดื หยุ่นกว่า ถงึ แมจ้ ะ มรี าคาทสี่ ูง แต่กค็ ุ้มค่า เพราะถา้ เกดิ การรว่ั ซมึ แลว้ จะไม่สามารถทราบได้เลยเพราะอยู่ใต้ ดนิ จะซ่อมแซมยาก
วิธีการใช้สต๊อปวาล์วเมอ่ื ติดต้ังสขุ ภัณฑ์ โดยทั่วไปการติดระบบประปากับสขุ ภัณฑ์เพยี งต่อ ท่อน้าดีกับตัวเครื่องสขุ ภัณฑ์สามารถใช้งานได้แล้ว แต่ ถ้าเกิดปั ญหาที่จะต้องการซ่อมแซม ก็จะต้องปิ ดมเิ ตอร์ น้าด้านนอก เพอ่ื หยุดการใช้น้า ซึ่งจะทาให้ภายในบา้ น ท้ังหมดไม่สามารถใช้น้าได้ทางออกที่ดีก็คือ ให้ เพมิ่ สต๊อปวาล์วในบริเวณส่วนที่จ่ายน้าเข้ากับสขุ ภัณฑ์ เพอ่ื ท่ีเวลาทาการซ่อมแซมสามารถที่จะปิ ดวาล์วน้าได้ โดยที่น้าในห้องอ่ืนๆก็ยังสามารถใช้งานได้
วธิ ีการตรวจสอบระบบประปา ตรวจสอบอุปกรณ์ภายในบา้ น โดยปิ ดก๊อกที่มีอยทู่ ้งั หมดแลว้ สงั เกตท่ีมาตรวดั น้า ถา้ ตวั เลข เคลื่อน แสดงวา่ มีการร่ัวไหลเกิดข้ึน ซ่ึงอาจเกิดจากการรั่วซึม หรือมีอุปกรณ์บางอยา่ งแตกหกั หรือ ชารุด กจ็ ดั การหาช่างมาแกไ้ ขใหเ้ รียบร้อย นอกจากภายในบา้ นแลว้ ยงั สามารถตรวจสอบการร่ัวไหล ของน้าในเส้นท่อท่ีอยนู่ อกบา้ น โดยสงั เกตพ้ืนดินบริเวณท่อแตกร่ัวน้นั จะมีน้าซึมอยตู่ ลอดเวลา และ บริเวณน้นั จะทรุดตวั ต่ากวา่ อื่น นนั่ คือ สาเหตุท่ีทาใหน้ ้าประปาไหลอ่อนลง กค็ วรแจง้ ไปยงั สานกั งาน ประปาในเขตน้นั การวางระบบท่อน้าในที่น้ีจะกล่าวถึงการวางท่อน้าประปา หรือท่อน้าดีเพอื่ นาไปใช้ ตามส่วนต่างๆของบา้ น และวางท่อน้าทิ้งจากจุดต่างๆของบา้ นลงสู่ท่อระบายน้า โดยจะเนน้ การวางท่อ แบบฝัง เพราะเป็นระบบท่ีนิยมใชก้ นั ทวั่ ไปสาหรับอาคารบา้ นเรือนใน ปัจจุบนั และเป็นระบบท่ีอาจ ก่อใหเ้ กิดปัญหาไดโ้ ดยง่ายหากทาไวไ้ ม่ดีต้งั แต่แรก
ในช่วงก่อนท่อนา้ ทใ่ี ช้กนั โดยทัว่ ไปตามบ้านจะเป็ นท่อเหลก็ อาบสังกะสี ซึ่งมคี วามแข็งแรงไม่แตกหักง่าย แต่เมอ่ื ใช้ไปนานๆจะมีปัญหาเรื่องสนิม จงึ เกดิ ความไม่ปลอดภัยในการใช้นา้ เพอ่ื การบริโภคจากท่อชนิดนี้ ต่อมา มกี ารนาท่อนา้ ทท่ี าจากพลาสติกโพลไี วนิลคลอไรด์ (PVC) หรือท่ี เรียกว่าท่อพวี ซี ี มาใช้แทนท่อเหลก็ ซ่ึงกม็ ีผู้นามาใช้เพมิ่ ขึน้ เร่ือยๆ เน่ืองจากมีราคาถูกกว่าและไม่เป็ นววิ ฒั นาการทางด้านพลาสติกมี ความก้าวหน้าขนึ้ มาก ท่อพวี ซี ีท่ผี ลติ ขึน้ มคี วามแขง็ แรงทนทาน นา้ หนักเบา ไม่เป็ นสนิม ราคาและยงั ทนต่อการกดั กร่อนของสารเคมี ต่างๆได้หลายชนิด จึงเป็ นทนี่ ิยมใช้กนั แพร่หลายทัว่ ไป แต่อย่างไรกต็ าม ท่อนา้ ทที่ าจากเหลก็ กย็ งั คงใช้กนั อยู่ในบางจุดทต่ี ้องการความแขง็ แรง เป็ นพเิ ศษ เช่น จุดทต่ี ้องรับนา้ หนักหรือแรงกระแทก จุดทตี่ ้องรับความ ดันสูงหรือจุดทต่ี ้องทนต่ออณุ หภูมสิ ูงๆ เป็ นต้น
หลกั การต่อท่อ 1. สารวจเส้นทางเดนิ ท่อและบันทกึ ไว้อย่างละเอยี ด 2. พยายามใช้ท่อให้ส้ันทสี่ ุด และสะดวกในการใช้งานมากทสี่ ุด 3. หลกั เลยี่ งการใช้ข้องอ และสามทาง เนื่องจากทาให้แรงดนั นา้ ลดลง 4. การขนั เกลยี วข้อต่อต่างๆ ไม่ควรขนั แน่นเกนิ ควร 5. การต่อท่อ PVC ควรเช็ดทาความสะอาด ก่อนทานา้ ยาประสาน 6. ควรเลอื กใช้ท่อให้เหมาะสมกบั สภาพบริเวณ เช่น บริเวณทเ่ี ปี ยกชื้น ควรเดนิ ท่อฝังดนิ และควรใช้ท่อ PVC 7. หากท่อเมนประปาอยู่ไกล ควรใช้ท่อลดขนาด เช่น ท่อเมนย่อยขนาด 1 นิว้ ท่อใช้งานภายในบ้านควรมีขนาด 1 นิว้ เป็ นต้น
การกาหนดขนาดความยาวของท่อ ท่ีนิยมมี 3 วธิ ี 1. กาหนดขนาดจากปลายท่อถึงปลายท่อ ไม่รวมขอ้ ต่อ 2. กาหนดขนาดจากปลายท่อถึงเส้นผา่ ศูนยก์ ลางขอ้ ต่อ 3. กาหนดขนาดจากเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางขอ้ ต่อถึงเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง ขอ้ ต่ออีกดา้ นหน่ึง 4.การตดั ท่อเพอ่ื การประกอบน้นั จะตดั ท่อใหม้ ีความยาวตาม ขนาดท่ีกาหนดไม่ได้ จะตอ้ งตดั ใหส้ ้นั กวา่ โดยลบความยาว ออกประมาณ 1/4 นิ้ว เม่ือสวมขอ้ ต่อแลว้ จะไดร้ ะยะตามท่ี ตอ้ งการ
การตดั ท่อพลาสติก 1. จบั ท่อใหไ้ ดข้ นาดความตอ้ งการ ขจดั รอยเยนิ บริเวณปลายท่อ ใหเ้ รียบร้อย 2. ทาความสะอาดปลายท่อท่ีจะต่อ แลว้ ทดลองสวมดูเพอื่ ทดสอบ ความแน่น 3. ทาน้ายาบริเวณผวิ ท่อดา้ นนอก และขอ้ ต่อดา้ นใน ทิ้งไว้ ประมาณ 15 วนิ าที 4. ประกอบท่อเขา้ กบั ขอ้ ต่อโดยดนั ใหส้ ุด กดไวป้ ระมาณ 10 วนิ าที 5. ตรวจสอบบริเวณรอยต่อวา่ แน่นหรือไม่ แลว้ เชค็ น้ายาส่วนเกิน ออก
การต่อท่อโลหะ 1. จบั ท่อดว้ ยปากกาหรือประแจจบั ท่อใหแ้ น่น ใหป้ ลาย ท่อยน่ื ออกมาเลก็ นอ้ ย 2. ตรวจสอบความเรียบร้อยของเกลียว 3. ใชเ้ ทปพนั เกลียวพนั ประมาณ 4 – 5 รอบ 4. หมุนขอ้ ต่อเขา้ กบั ท่อดว้ ยมือจนตึงก่อน ระวงั อยา่ ใหป้ ี น เกลียว 5. ใชป้ ระแจจบั ท่อจบั บริเวณขอ้ ต่อ แลว้ หมุนประมาณ 1 – 2 รอบใหต้ ึงพอดีๆ
การต่อขอ้ แบบเสียบ 1. ตดั ท่อใหไ้ ดข้ นาดตามท่ีตอ้ งการ ขจดั รอย เยนิ บริเวณปลายท่อใหเ้ รียบร้อย 2. สวมเหลก็ รัดเขา้ กบั ปลายท่อที่จะต่อ เสียบ ขอ้ ต่อเขา้ กบั ปลายท่อดนั จนสุด 3. เลื่อนเหลก็ รัดมาท่ีขอ้ ต่อ ใชไ้ ขควงขนั สกรู ที่เหลก็ รัดใหแ้ น่น
Search