พระธรรมเทศนา จากวัดปา่ ธรรมอทุ ยาน : 1
เ ร่ื อ ง ข อ ง เ ร า พระอาจารย์สำ�ราญ ธมมฺ ธุโร (หลวงพ่อกลว้ ย) เรยี บเรียงจากโอวาทธรรมยามเชา้ วนั ท่ี ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ณ ศาลาการเปรยี ญ วัดปา่ ธรรมอุทยาน จังหวัดขอนแก่น
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึก รับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าว่ิงออกกระทบ ปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ต้ังแต่ตื่นขึ้นเราได้ สร้างความรตู้ วั แล้วหรือยงั ตงั้ แต่ยงั ไม่ได้ลุกจากท่ี 4 : เรอื่ งของเรา
เรอ่ื งของเรา เปน็ เรอ่ื งของเราทกุ คน เปน็ เรอื่ งของตวั เราเองทจ่ี ะ ต้องแกไ้ ขตัวเรา แกไ้ ขใจของเรา ปรบั ปรุงชีวิตของ เรา ถ้าเราไม่ได้แก้ไขเรา ไม่มีใครจะแก้ไขให้เราได้ เลย มแี ต่เร่ืองของเรา ตน่ื ขึ้นมาก็มแี ตเ่ ร่อื งของเรา ‘เรา’ ในทีน่ ห้ี มายถึงตวั ใจกบั ตัวปญั ญา-สติปัญญา สตปิ ญั ญา เราตอ้ งสรา้ งข้นึ มาเขา้ ไปอบรมใจ ไป ช้ีเหตุช้ีผลจนใจคลายออกจากขันธ์ห้า ซ่ึงเรียก ว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ ภาษาธรรมะท่านเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ - ความเห็นถูก’ คือใจไม่ไปหลงไป ยดึ ในกายกอ้ นนี้ ไมไ่ ปหลงไปยดึ ... คลายความหลง เพียงแค่คลาย ซ่ึงเรียกว่าสัมมาทิฏฐิ-ความเห็นถูก เห็นถูกตัง้ แตเ่ รม่ิ แรก แล้วก็ตามท�ำความเขา้ ใจ ทุก อย่างก็จะถูกไปหมด... คดิ ถกู พดู ถกู ท�ำถกู ... ท�ำดี ละอกศุ ล เจรญิ กุศลใหม้ ีให้เกดิ ข้ึน พระธรรมเทศนา จากวัดปา่ ธรรมอทุ ยาน : 5
เร่อื งของเขา แต่เกดิ ทเี่ รา ตั้งแต่ต่ืนข้ึน ตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ พอรู้ตัวปุ๊บ รกู้ ายปบุ๊ รใู้ จปบ๊ั จะลกุ จะกา้ วจะเดนิ จะเขา้ หอ้ งสว้ ม ห้องน�้ำ ท�ำกิจกรรมต่างๆ สติปัญญาก็รู้ใจ จะคิด จะท�ำอะไร ให้สติปัญญาเป็นตัวน�ำพากายไป ใจรับรู้อยู่ภายใน ผิดถูกช่ัวดีอย่างไรปัญญาไป แกไ้ ข แต่ส่วนมากจะไม่เป็นอย่างน้ัน ส่วนมากก็มีตั้งแต่ เร่อื งของเขา เร่อื งของเขา แต่เกิดทีเ่ รา คนโนน้ เปน็ อยา่ งนนั้ คนนน้ั เปน็ อยา่ งน้ี มแี ตเ่ รอื่ งของเขา ความ เกิดอยู่ท่ีเรา เราต้องมาแก้ไขเรา ปรับปรุงตัวเรา โทษตวั เรา แลว้ ก็ปรบั ปรงุ ตัวเรา 6 : เรื่องของเรา
คลายความหลง ใจของคนเรานหี้ ลงมาตงั้ แตย่ งั ไมไ่ ด้เกิด ท�ำไมถงึ พูดอย่างนน้ั เพราะจติ ใจหลงวนเวยี นวา่ ยตายเกดิ อยใู่ นภพนอ้ ย ภพใหญ่ หมนุ เวยี นวา่ ยตายเกดิ จติ ใจนต่ี ายไมเ่ ปน็ มีแต่หลงกับเกิด ถ้าคลายความหลงไม่ได้ ดับ ความเกิดไม่ได้ เขาก็หลงเกิดอยู่อย่างง้ันแหละ ไมเ่ กดิ เปน็ มนษุ ยก์ เ็ กดิ เปน็ เทวดา ไมเ่ กดิ เปน็ เทวดา กเ็ กดิ เปน็ พรหม ไมเ่ กดิ เปน็ พรหม กเ็ กดิ ลงไปสสู่ ตั ว์ เดรจั ฉานสัตวน์ รก พระธรรมเทศนา จากวดั ป่าธรรมอุทยาน : 7
เร่ืองภายนอก เราตอ้ งมาแก้ไขเรา ไมใ่ ชว่ ่าแต่ละวันๆ ก็มีแต่เรอื่ ง ภายนอก เรื่องภายนอกนี้เราก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่ แตเ่ ป็นการย่งุ เก่ียวด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติดว้ ย ปญั ญา เพราะว่ากายของเราเปน็ ก้อนรูป กายของ เราก็ยังต้องการอาศัยปัจจัยส่ี ความเป็นอยู่ เราก็ ต้องเข้าไปยุ่งเกย่ี วกบั รปู รสกล่ินเสยี งสมั ผัส เข้าไป ยงุ่ เกยี่ วกับคนหมู่มาก ทีน้ีเรามาเอาตั้งแต่ภายใน ตั้งแต่การเกิดของใจ ตงั้ แตค่ วามคดิ ทง้ั ทางกายทางใจทางวาจา ไลล่ งไป ท�ำความเข้าใจใหถ้ ูก กจ็ ะคอ่ ยลน้ ออกไปสู่คนรอบ ข้าง แลว้ ก็ล้นออกไปสู่หมูค่ ณะ สสู่ ังคม สู่หมู่บา้ น ส่ตู �ำบล สจู่ งั หวดั ถ้าคนเราไม่เข้าใจ มันก็จะเอาตั้งแต่เร่ืองภายนอก มาทบั ถมดวงใจของตวั เองหนกั ขึน้ ๆ 8 : เร่ืองของเรา
ดบั ความเกิด ขนั ธห์ า้ กค็ ลายไมไ่ ด้ กเิ ลสกล็ ะไมไ่ ด้ ความเกดิ กด็ บั ไมไ่ ด้ ท้งั เกดิ ท้ังหลงทงั้ ยึด กเิ ลส...ทงั้ อยากทงั้ ไมอ่ ยาก เปน็ กเิ ลสหมดทกุ อยา่ ง นั่นแหละ ตั้งแต่ความเกิด ความเกิดของวิญญาณ หรอื วา่ ใจเกิด... ความเกดิ ก็ปิดก้นั ตัวใจเอาไว้ การเกิดนี่เป็นกิเลสที่ละเอียดที่สุด ถ้าไม่หลงก็ ไมเ่ กิด พระธรรมเทศนา จากวัดป่าธรรมอทุ ยาน : 9
ท�ำความเขา้ ใจ พระพทุ ธองคท์ า่ นไดม้ าคน้ พบ เจรญิ สตสิ รา้ งความ รตู้ วั เจรญิ สตลิ งที่กายใหต้ อ่ เนอื่ ง ค�ำวา่ ‘ปจั จุบนั ธรรม’ ปจั จุบันธรรมไมใ่ ชว่ า่ ช่วั โมง น้ี วนั นี้ อนั น้ันเป็นปจั จบุ นั ในทางโลก ปจั จบุ นั ใน ทางธรรมคือทุกขณะ สัมผัสของลมหายใจท่ีเข้า กระทบปลายจมกู นนั่ แหละเขาเรยี กวา่ ‘ปจั จบุ นั ’ เวลาหายใจเข้า หายใจออกมีความรูส้ กึ รับรอู้ ยู่ เพียงแค่เรื่องหายใจเข้าหายใจออกก็ยังขาดการ วิเคราะห์ ขาดการท�ำความเข้าใจให้ต่อเนื่อง มี แต่ปล่อยเลยตามเลย คิดก็รู้เพราะว่าใจเป็นธาตุรู้ ความเกดิ ความดบั ความหลงความยดึ เขารหู้ มดนนั่ แหละ แตเ่ ขายงั มคี วามหลงอยู่ ยดึ มนั่ ในขนั ธห์ า้ อยู่ แลว้ ก็ยึดมน่ั ในการเกดิ อยู่ 10 : เรื่องของเรา
ขัดเกลากิเลส ถา้ เจรญิ สตลิ งไปเรอ่ื ยๆ กจ็ ะเหน็ เหน็ ความละเอยี ด มากขน้ึ ๆ แลว้ ก็ขดั เกลากิเลสใหม้ ันเบาบาง ใจของเราเกดิ ความโลภ เรากพ็ ยายามละความโลภ ใจเกดิ ความโกรธ ละความโกรธดว้ ยการใหด้ ว้ ยการ เอาออก ด้วยการมองในทางที่ดี ด้วยการให้อภัย อโหสกิ รรม มองโลกในทางทดี่ ี คิดดี ไล่เรียงลงไป... ถ้าใจเกิดใจคดิ ให้ดับใหล้ ะ แม้แต่ สติปญั ญาเกดิ เปน็ อกศุ ลก็ให้ละ ไม่ให้เกิด ใหเ้ กดิ เฉพาะที่เปน็ กุศลแต่ไมใ่ ห้ยึดอีก ไมใ่ หใ้ จเข้าไปยึด อกี เราต้องจ�ำแนกแจกแจงให้ได้ชัดเจน... อันนี้คือ สติปัญญาท่ีเราสร้างขึ้นมา ท�ำอย่างไรถึงจะเป็น อตั โนมัตทิ ุกขณะลมหายใจเข้าออกได้ พระธรรมเทศนา จากวดั ปา่ ธรรมอุทยาน : 11
พลงั้ เผลอเรม่ิ ใหม่ ช่วงใหม่ๆ ก็มีการพลั้งเผลอ พลั้งเผลอก็เร่ิมใหม่ๆ เร่ิมอยู่บ่อยๆ จนก�ำลังสติของเราเอาไปใช้การใช้ งานได้ จนใจของเราอยู่ในโอวาทของปัญญาของ เราได้ ไมใ่ ช่ว่าจะปล่อยปละละเลย 12 : เรื่องของเรา
จุดหมายปลายทาง พระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบเรื่องหลักของอัตตา- อนัตตา หลักของอริยสัจ ความเกิดความดับ ค้น พบความจรงิ ของชวี ิต พระพุทธองค์ถึงจะเกิดหรือไม่เกิด ธรรมะก็มีอยู่ ประจ�ำโลก ทีน้ีท่านเป็นองค์ค้นพบ เป็นศาสดา เอกของโลก เป็นครูบาอาจารย์ของเหล่ามนุษย์ ของเหล่าเทวดา ท่านก็เอามาจ�ำแนกแจกแจงให้ สัตว์โลกได้เดนิ ตาม พวกเราก็พากันประพฤติปฏิบัติ ขัดเกลาตัวเรา อย่างน้อยๆ ก็ให้อยู่ในกองบุญกองกุศล ไม่ให้ใจ ของเราตกไปสู่อกุศล จนกว่าใจของเราจะถึงจุด หมายปลายทาง คือความสะอาด ความบริสุทธิ์ ความหลดุ พน้ พระธรรมเทศนา จากวดั ปา่ ธรรมอุทยาน : 13
หมั่นท�ำความเขา้ ใจ ต้องเป็นบุคคลที่มีความขยันเป็นเลิศ มีความเพียร เปน็ เลศิ หมั่นท�ำความเข้าใจใหถ้ กู ตอ้ ง... อันนก้ี าย เป็นก้อนรูป ส่วนนาม วิญญาณในกาย หรือว่าตัว ใจของเรา ใจท่ีปกติเป็นอย่างไร ใจท่ีไม่เกิดเป็นอย่างไร กาย วเิ วกเปน็ อยา่ งไร ใจวเิ วกเปน็ อยา่ งไร การแยกรปู รส กลิ่นเสียงออกจากใจของเราเป็นอย่างไร ทวารท้ัง หกเขาก็ท�ำหน้าที่ของเขา ตากม็ ีหนา้ ท่ีดู หกู ็มีหนา้ ทฟี่ งั ภาษาธรรม...สกั แตว่ า่ ดู สกั แตว่ า่ รู้ สกั แตว่ า่ ฟงั เป็นลกั ษณะอยา่ งไร อนิจจัง-ความไม่เที่ยงในอาการของขันธ์ห้า ความ เกดิ ความดบั อนจิ จงั -ทกุ ขงั -อนตั ตาทปี่ รากฏขน้ึ ท่ี ใจของเราเขา้ ไปหลงเขา้ ไปรวม ถา้ สติของเรารทู้ ัน ใจของเรากจ็ ะคลายออก หงายออก เรากจ็ ะเขา้ ใจ ในค�ำสอนของพระพุทธองค์ 14 : เรื่องของเรา
รูแ้ จ้งเห็นจรงิ ถ้าก�ำลังสติของเราตามค้นคว้าตามดูตามรู้ ไม่ให้ ความรู้ตัวรู้กายของเราพล้ังเผลอ ก�ำลังสติของเรา ก็จะเร่ิมเป็นมหาสติ จากมหาสติตามค้นคว้าให้ใจ รับรู้ทุกเร่ือง ด้วยความเพียรที่ย่ิงยวด สติของเรา ก็จะเริ่มกลายเป็นมหาปัญญา จนท�ำความเข้าใจรู้ แจ้งเห็นจริง ว่าอะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไร ควรด�ำเนนิ จนแม้กระท่ังกเิ ลสหยาบกิเลสละเอียด แม้กระท่ังการเกิดของใจ อันนี้ที่ภาษาธรรมท่านก็ จะเข้าสคู่ �ำว่า ‘วปิ ัสสนาญาณ วิปัสสนาภูมิ’ คำ� ว่า ‘วิปสั สนา’ กค็ ือความรแู้ จ้งเห็นจรงิ รูด้ ้วย เห็นด้วยเข้าถึงด้วย ท�ำความเข้าใจได้ด้วย แล้ว ก็ละไดด้ ว้ ย แต่เวลานี้ก�ำลังสติของเรามีน้อย หรือบางครั้งบาง คราวแทบไม่มี ความคิดมีอยู่ ปัญญาของโลกีย์น้ี มีเต็มเปี่ยม เราก็ต้องพยายามพลิกปัญญาโลกให้ เปน็ ปญั ญาธรรม พระธรรมเทศนา จากวดั ป่าธรรมอุทยาน : 15
สติปญั ญา ถ้าใจของเราคลายออกจากขันธ์ห้า ใจรับรู้อยู่ ภายใน จะคดิ เรอ่ื งโลก คดิ เร่ืองอะไร กเ็ ปน็ ปญั ญา ธรรม เพราะใจของเราคลายความหลงออกได้แล้ว คลายความหลงแล้วกม็ าละกเิ ลสอีก ตามความเปน็ จรงิ น้นั ใจน้นั บรสิ ุทธิส์ ะอาด เพราะ ว่าความไม่เข้าใจ ใจถึงมีตัง้ แต่ความทะเยอทะยาน อยาก อยากม่ังอยากมี อยากร�่ำอยากรวย อยาก สวย อยากสารพดั อยา่ ง เรามาดับความเกิด หนุนก�ำลังสติปัญญาไปเกิด แทน ขยนั ดว้ ยสตดิ ว้ ยปญั ญา ใหส้ ตปิ ญั ญาเขา้ ไป ท�ำหน้าท่ีแทน ไม่ใช่ว่าไม่คิด ให้ปัญญาส่วนสมอง เปน็ ตวั คดิ ใจรบั รู้ แมแ้ ตส่ มอง ถา้ เปน็ อกศุ ล ปญั ญา ถ้าเปน็ อกุศล เรากพ็ ยายามดบั 16 : เรื่องของเรา
มแี ตเ่ รอื่ งของเรา ไมใ่ ชเ่ รอื่ งของคนอื่น อยา่ ไปไขวเ้ ขว ถ้าไปไขวเ้ ขวออกนอกเรื่อง กห็ ่างไกลใจของตัวเรา พยายามเนน้ สตลิ งท่ีกาย แลว้ กร็ ูจ้ ักควบคุมใจ ควบคุมใจแลว้ กห็ มน่ั พรำ�่ สอนใจ หม่ันอบรมใจอยตู่ ลอดเวลา... พระธรรมเทศนา จากวัดปา่ ธรรมอทุ ยาน : 17
ควบคุมใจ มีแต่เร่ืองของเรา ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น อย่าไปไขว้ เขว ถ้าไปไขว้เขวออกนอกเรอ่ื งกห็ ่างไกลใจของตวั เรา พยายามเน้นสติลงท่ีกาย แล้วก็รู้จักควบคุม ใจ ควบคุมใจแล้วก็หม่ันพร�่ำสอนใจ หม่ันอบรม ใจอยู่ตลอดเวลา... อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่ คนเดยี ว อยคู่ นเดยี วกใ็ หร้ กู้ ายรใู้ จของเรา มคี วามสขุ อยทู่ ไี่ หนกม็ คี วามสขุ ยนื เดนิ นง่ั นอน กนิ อยขู่ บั ถา่ ย กเ็ ป็นแค่เพยี งอิรยิ าบถ เราพยายามท�ำความเขา้ ใจ ให้ถกู ต้องเสยี ใจท่ีเป็นสมาธิ สมาธิด้วยการข่มเอาไว้ด้วยการ บงั คับ หรอื สมาธิท่รี ้แู จง้ ดว้ ยปญั ญา ชเี้ หตุช้ีผล ละ กเิ ลส... ใจทปี่ ราศจากกเิ ลสเขากบ็ รสิ ทุ ธิ์ ใจทไ่ี มป่ รงุ แต่ง ใจทีไ่ มเ่ กดิ เขากน็ ่ิง แต่เวลานีใ้ จของเราทงั้ เกิด ทงั้ ว่งิ ท้งั หลง 18 : เรือ่ งของเรา
ขยันหมนั่ เพียร กเิ ลสมารตา่ งๆ เขากไ็ มย่ อมแพง้ า่ ยๆ...การเกดิ ของ ใจน่ันแหละกิเลสอันละเอียดท่ีสุด... เขาก็หาเหตุ หาผลมาโต้แย้ง เพราะว่าเขาเกิดเขาหลงมานาน ไมใ่ ช่ว่าปบุ๊ ป๊ับเขาจะปลอ่ ย เขาจะวาง เขาจะละ ได้ทนั ที มนั เป็นไปไมไ่ ด้ เราก็ตอ้ งพยายามหาเหตุ หาผลให้ได้ ชี้เหตุชี้ผล แล้วก็เจริญพรหมวิหาร เขา้ ไปทดแทน แต่ละวันเรามีความขยันหมั่นเพียรเพียงพอหรือ ไม่ เรามีความรับผิดชอบต่อตัวเองหรือเปล่า เรามี สัจจะ มีความละอาย มีความกล้าหาญ รู้จักฝักใฝ่ รู้จักสนใจในส่ิงที่เราแสวงหา ในสิ่งท่ีเราท�ำ รู้จัก บริหารกายรู้จักบริหารใจของเราให้อยู่ในกองบุญ กุศลเอาไว้ ไม่ว่าจะอยู่ท่ีไหน น้อมใจน้อมกายของ เราใหอ้ ยใู่ นกองบุญ พระธรรมเทศนา จากวัดปา่ ธรรมอุทยาน : 19
แกไ้ ขตวั เรา ความขยันหม่ันเพียรของเรามี การกระท�ำของเรา มี ในส่ิงท่ีพวกเราท�ำอานิสงส์ก็จะออกมา เราก็จะ พลอยได้รับอานิสงส์น้ันด้วย คนอื่นก็พลอยได้รับ อานิสงส์นั้นด้วย ไม่ใช่ว่าจะเอาตั้งแต่ความเห็นแก่ ตัว ความเกียจคร้าน ปล่อยปละละเลย ไม่ใช่เร่ือง ของเราว่างนั้ มนั เป็นเรอ่ื งของเราทุกคน ในเมื่อโอกาสได้มาอยู่ร่วมกันทั้งพระท้ังชีท้ัง ฆราวาสญาตโิ ยม อยกู่ นั หลายคน ถา้ รจู้ กั แกไ้ ขตวั เรา ก็ไม่มีปัญหา ถ้าไม่รู้จักแก้ไขตัวเรา เราก็สร้าง ปญั หา กดู มี งึ ดี คนโนน้ ไมด่ คี นนไ้ี มด่ ี ทงั้ ทใ่ี จของเรา นั่นแหละเกิด... เรื่องของเรา มีแต่เรื่องของเรา แก้ไขท่เี รา ปรับปรงุ ตวั เรา คนอื่นนั้นจะดีหรือไม่ดีก็เป็นส่วนของคนอ่ืน ถ้าใจของเราดี คนอ่ืนไม่ดี ใจของเราก็ดีอยู่ เหมอื นเดิม ถา้ คนอื่นไมด่ หี รือคนอน่ื ดี ใจของเรา ไมด่ ี เรากม็ าแกไ้ ขทเี่ รา 20 : เร่อื งของเรา
อาจารยท์ ดสอบใจ ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งลว้ นเปน็ อาจารย์ เปน็ สง่ิ ทดสอบใจ ของเรา สติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมาเป็นอาจารย์ คอยตรวจสอบ ว่าใจของเราจะเกดิ กเิ ลสหรือไม่ พลงั้ เผลอเรากเ็ รม่ิ ใหม่ แพใ้ หก้ เิ ลสเรากเ็ รม่ิ ใหม่ ท�ำ อยู่อยา่ งนแ้ี หละจนเป็นอตั โนมัติ จนไม่มอี ะไรทจ่ี ะ ให้แก้ไข จนกิเลสไม่มีจะให้ละ เหลือตั้งแต่สมมติ เหลือต้ังแต่กาย เหลือแต่รูปกับนาม รอถึงวาระ เวลาทจ่ี ะใหธ้ าตขุ นั ธเ์ ขาแตกดบั ใจกไ็ มต่ อ้ งกลบั มา เกดิ เพราะวา่ เราดบั ความเกดิ ขณะทยี่ งั มกี �ำลงั กาย อยู่ เปน็ เรอ่ื งของเราทกุ คนนะไมใ่ ชเ่ รอ่ื งของคนอนื่ พระธรรมเทศนา จากวดั ป่าธรรมอทุ ยาน : 21
บอกตวั เองใหไ้ ด้ ใช้ตวั เองให้เปน็ ถ้าฉันมีต้ังแต่ความเกียจคร้าน การงานก็ไม่เอา ความรบั ผดิ ชอบกไ็ มม่ ี ความเสยี สละกไ็ มม่ ี มตี งั้ แต่ นิวรณ์เข้าครอบง�ำ ตื่นขึ้นมามีแต่เรื่องของคนอ่ืน เรอ่ื งคนโนน้ คนน้ี มตี งั้ แตก่ เิ ลส ชว่ ยเหลอื ตวั เองไมไ่ ด้ บอกตวั เองไมไ่ ด้ ใชต้ วั เองไมเ่ ปน็ เปน็ ทพี่ งึ่ ของตวั เรา ไม่ได้ แม้ตั้งแต่ระดับของสมมติ ความเป็นอยู่ก็ ล�ำบาก ขาดความขยันหม่ันเพียร ขาดความ รับผิดชอบ ไปอยู่ที่ไหนก็ล�ำบากเพราะว่าการ กระท�ำของเราไม่มี ความเสียสละของเราไม่มี พรหมวหิ ารของเราไม่มี เพียงแค่ระดับสมมติปัจจัยส่ีก็ไม่รู้จักบริหารให้เกิด ประโยชน์ มนั กเ็ ลยล�ำบาก กเ็ ลยมตี งั้ แตพ่ นั ธะภาระ ปกปดิ ดวงใจของตัวเอง สมมตกิ บ็ บี รดั อยู่อย่างนั้น ธรรมะกเ็ ลยเปน็ เรอ่ื งยาก กเ็ ลยเขา้ ไมถ่ งึ กนั สกั ที ทงั้ ท่กี ายของเรากเ็ ป็นกอ้ นบญุ ใจของเรากเ็ ป็นตวั บญุ 22 : เรอ่ื งของเรา
ทวนกระแส เรามาเปลย่ี น มาท�ำความเขา้ ใจตรงนใี้ หถ้ กู ตอ้ งเสยี มาแกไ้ ข กเิ ลสเขากไ็ มย่ อมแพ้ ใหมๆ่ เขากห็ าเหตหุ าผลมา ต่อสู้ ท่านถึงบอกว่าเป็นการทวน เป็นการสวน กระแสกเิ ลส ถา้ เราเขา้ ใจแลว้ ใจของเราตกกระแส ธรรมแล้ว เราก็สนุกดรู ้ใู จ เป็นเพอ่ื นใจ มีเครื่องอยู่ ใจท่ีปกติ ใจทีส่ ะอาดใจที่บรสิ ทุ ธิ์ ใจเปน็ สมาธดิ ้วย การข่ม หรือด้วยการรู้แจ้งเห็นจริง ด้วยการละ กิเลส... พล้ังเผลอให้กิเลสตัวไหน ก็เร่ิมใหม่... มี ความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มี ความสขุ พระธรรมเทศนา จากวัดป่าธรรมอทุ ยาน : 23
หน้าที่ของเรา อยา่ ไปโทษคนโนน้ คนนเี้ ดด็ ขาด จงโทษตวั เราแกไ้ ข ตวั เรา ปรบั ปรงุ ตวั เราตงั้ แตก่ าย วาจา ลกึ ลงไปถงึ ใจ พระพุทธองค์ให้ดับความเกิดต้ังแต่ตัวใจโน่น ใน เม่ือใจได้เกิดมาในภพมนุษย์ มาสร้างขันธ์ห้า แล้ว ก็มาหลงตรงน้ี ท่านก็ให้มาคลายขันธ์ห้า แล้วก็มา เจริญพรหมวิหาร ขัดเกลากิเลสให้เบาบาง มาละ กิเลส แล้วมาดับความเกิดอกี ... กต็ อ้ งพยายามกนั ไมว่ ่าจะอยทู่ ่ีไหน ให้ระวงั ทงั้ ค�ำพูดค�ำจา ให้ระวงั จติ ใจ จิตจะคิดไมด่ ี อกุศล เรากร็ บี ดับ ใจของเราเป็นอกุศลไม่ใช่วา่ ของ คนอื่น... ของเรา ของเราท้ังน้ัน ไม่ใช่ของคนอ่ืน... มาดัดนิสัยเรา แก้ไขเรา จนใจมองเห็นความ เปน็ จริง ไมต่ กเปน็ ทาสของกเิ ลส ใหก้ เิ ลสใช้งาน เราใช้งานกิเลสให้เกิดประโยชน์ 24 : เรื่องของเรา
มาท�ำความเขา้ ใจกับโลกธรรม รอบร้ใู นกองสงั ขาร รอบรู้ในโลก รอบรู้ในปัจจัย รอบรู้ในโลกธรรม... อยกู่ บั สมมติ เคารพสมมติ ไม่ยดึ ตดิ สมมต.ิ .. ก็ตอ้ ง พยายามกนั เอาละ่ วนั นขี้ อเจรญิ ธรรมเพยี งเทา่ น้ี พากนั ไหวพ้ ระ พรอ้ มๆ กัน พากนั ไปสรา้ งสรรค์ต่อท�ำความเขา้ ใจ ให้ถึงจุดหมายปลายทางกนั พระธรรมเทศนา จากวัดปา่ ธรรมอทุ ยาน : 25
เรอื่ งของเรา พระธรรมเทศนา จากวัดปา่ ธรรมอทุ ยาน จัดพิมพ์ขนึ้ เพือ่ เปน็ ธรรมทาน หากประสงค์รับหนังสือโปรดตดิ ตอ่ วดั ป่าธรรมอทุ ยาน ต.ส�ำ ราญ อ.เมอื ง จ.ขอนแก่น 40000 หรอื กล่องข้อความเพจวดั ปา่ ธรรมอุทยาน https://th-th.facebook.com/WatPaDhammaUtthayan/ 26 : เรื่องของเรา
พระธรรมเทศนา จากวัดปา่ ธรรมอุทยาน : 27
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: