Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Borkerdboon

Borkerdboon

Published by ชมรมกัลยาณธรรม, 2021-03-17 21:41:15

Description: Borkerdboon

Search

Read the Text Version

๙ต อ น ท่ี บ่ อ บุ ญ พฤติกรรมมนุษย์ คิด พูด ท�ำ ถ้าดีเป็นบุญส่ังสมอยู่ ในใจ ถา้ คดิ  พดู  ทำ�  ไมด่  ี กเ็ ปน็ บาป ตอ่ ไปนไี้ มเ่ อาบาป  เขา้ ตวั  เอาแตบ่ ญุ  จะทำ� อยา่ งไร วธิ กี ค็ อื  จงคดิ  พดู  ท�ำ แต่ในสิ่งท่ีเป็นบ่อเกิดแห่งบุญ ที่เรียกว่า บุญกิริยา วัตถุ ๑๐ ไดแ้ ก่ ๑ ทาน ๒ ศลี ๓ ภาวนา ๔ การประพฤตอิ อ่ นน้อม ๕ การช่วยเหลอื ผ้อู ่นื 51 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

๖ การอทุ ศิ บญุ ให้แกผ่ ู้อื่น ๗ การอนุโมทนาบุญ ๘ การฟังธรรม ๙ การสอนธรรม ๑ ๐ การท�ำความเหน็ ให้ตรง บุญล�ำดับที่ ๑ ทาน คือ การให้ แม้อยู่ที่น่ีเราก็  มโี อกาสใหท้ าน เพราะการใหท้ ำ� ไดห้ ลายรปู แบบ เหน็ คน  ยกของหนกั  เราเขา้ ไปชว่ ย ใหแ้ รงกายเปน็ ทาน กไ็ ดบ้ ญุ   เราเห็นคนเจ็บไข้ได้ป่วย เราพาเขาไปหาหมอรักษา  กไ็ ดบ้ ญุ  ใครทำ� ใหเ้ ราไมพ่ อใจ ใครดา่ วา่ เรา ใครเอาของ  ของเราไป เราใหอ้ ภยั เขา ใหอ้ ภยั เปน็ ทาน เกดิ เมตตาขนึ้   ในจติ  กเ็ ปน็ บญุ อกี  สว่ นเรอ่ื งทรพั ยข์ องเรานนั้  ถา้ เราม ี ศีลบริสุทธ์จิ ริง ทรัพยจ์ ะไม่สูญหายเลย จะเลา่ เรอื่ งผหู้ ญงิ คนหนง่ึ  ไปทอดกฐนิ กบั คณุ หญงิ   สรุ พี นั ธท์ างอสี านตอนบน ออกจากการไฟฟา้ ฯ ทบ่ี าง-  กรวยกไ็ ปโคราช จากโคราชไปพมิ าย ไปอสี านตอนบน  ทบ่ี งึ โขงหลง ไปหลายแหง่  แลว้ ไปจบทภ่ี ทู อก เปน็ ศาลา  โล่งๆ มีผู้หญิงคนหน่ึงในคณะคราวน้ัน คุณหญิงท่าน 52 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

เลา่ วา่  เวลาจะทอดกฐนิ  เขาไมเ่ กบ็ เงนิ ไวใ้ นกระเปา๋  แต่  ใสไ่ วใ้ นถงุ กระดาษสนี ำ้� ตาล เขาเปดิ ถงุ หยบิ เงนิ ทอดกฐนิ   ออกมา ที่เหลือเอายางรัด แล้ววางถุงไว้ที่โคนเสาใน  ศาลา แลว้ เกดิ ลมื ถงุ นนั้ ไว ้ กลบั มาถงึ กรงุ เทพฯ ผหู้ ญงิ   คนนกี้ โ็ ทรไปหาคณุ หญงิ ฯ บอกวา่ ลมื ถงุ ใสเ่ งนิ ไวท้ ศ่ี าลา  ภูทอก แต่ก็คิดว่าช่างมัน หายไปก็หาใหม่ได้ ปีรุ่งขึ้น  ผู้หญิงคนนี้ก็ร่วมขบวนทอดกฐนิ นอ้ี กี  เมอ่ื ไปถงึ ศาลา  ภทู อก ปรากฏวา่ หลงั จากผา่ นไป ๑ ป ี ถงุ ใบเดมิ วางอย่ ู ทโี่ คนเสาตน้ เดมิ  จำ� นวนเงนิ ขา้ งในยงั อยเู่ ทา่ เดมิ  แสดงวา่   ผู้หญิงคนนี้มีศีลข้อ ๒ (อทินนาทาน) บริสุทธ์ิ ผู้ที่ไม่ ลกั ของคนอนื่  ทรพั ยข์ องตนยอ่ มไมส่ ญู หาย นเี่ ปน็ เรอ่ื ง  จรงิ  เพราะฉะนนั้ ใครทคี่ นยมื เงินไปแล้วไม่ได้คืน หรือ ถูกคนขโมยเงินขโมยของไปจงคิดว่า ช่างมันเถอะ เรา ใช้หนี้คืนเขาไป จะได้หมดหนีก้ นั เรอื่ งจรงิ อกี เรอ่ื งหนงึ่  วนั หนง่ึ มผี ชู้ ายโทรศพั ทม์ า  “อาจารยค์ รบั  ผมขอปรกึ ษาหนอ่ ยครบั  มคี นยมื เงนิ ผม  ไป แล้วไม่ยอมใช้คืน ผมแค้นมาก จะเอาปืนไปยิงมัน  ผมพยายามดบั ความแคน้ ในใจดว้ ยการไปฝกึ ปฏบิ ตั ธิ รรม  ทค่ี ณะ ๕ วดั มหาธาตฯุ  แตด่ บั ไมล่ ง ผมเลยไปขอเบอร ์ 53 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

โทรศัพท์มาโทรถึงอาจารย์” ผู้บรรยายจึงบอกเขาว่า  “คุณโชคดีสุดๆ เลยนะที่เขายืมเงินไปแล้วไม่ใช้คืน หนี้  เวรหนกี้ รรมมนั จะไดห้ มดกนั ” กฎแหง่ กรรมมจี รงิ  เรา  ไปเอาของเขามา ช้าเร็วในที่สุดเราก็ต้องชดใช้ ขอให ้ ทา่ นฟงั ไวว้ า่  ถา้ เราตอ้ งเสยี ทรพั ยส์ มบตั  ิ เชน่  ใครปลกู   แตงโม โดนขโมยแตงโม ปลูกถ่ัว โดนขโมยถ่ัว มีเงิน  เกบ็ ไว ้ คนมาขโมยเงนิ  แสดงวา่ ผลงานเกา่ ของเราไมด่  ี เปน็ ไปตามกฎแหง่ กรรม เปน็ เรอื่ งจรงิ  มจี รงิ  ฉะนน้ั คนที ่ เข้าใจตรงน้ีชัดแจ้งจะยอมใช้หน้ีกันไปเสีย ไม่ถึง ๑๕  นาที ชายคนนั้นโทรศัพท์มาขอบคุณ แล้วพูดว่า “ผม ไมไ่ ปฆ่าเขาแล้วครับ” บญุ เกดิ ไดจ้ ากการบำ� เพญ็ ทาน อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี  ถวายวดั เชตวนั เปน็ ทาน ถวายอาหารเปน็ ทาน เราอยใู่ น  ทนี่  ้ี เราใหอ้ ภยั เปน็ ทาน ใหแ้ รงงานเปน็ ทาน ใหก้ ารชว่ ย  เหลอื เปน็ ทาน ทำ� ไดน้ ะครบั  เหน็ คนเขาเดนิ ไมไ่ หว เราไป  ชว่ ยนวดให ้ ใหแ้ รงกายเปน็ ทาน กไ็ ดบ้ ญุ  ถา้ เรามอี าหาร  นำ� อาหารไปใหเ้ ขา เรากไ็ ดบ้ ญุ  เพราะฉะนน้ั จงใหท้ าน อยู่เสมอ 54 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

บญุ ลำ� ดบั ท ่ี  ๒  คอื  ศลี  เราไมต่ อ้ งไปขอศลี  ๕ จาก  ใครเลย ทกุ ขณะตนื่ ใหม้ ศี ลี  ๕ อยกู่ บั ใจ ไมฆ่ า่ สตั ว ์ ไมล่ กั   ทรพั ย ์ ไมป่ ระพฤตผิ ดิ ลกู เมยี คนอน่ื  ไมพ่ ดู เทจ็  ไมด่ ม่ื สรุ า  เมรยั  ไมต่ อ้ งไปขอจากใคร ใหร้ กั ษาไวด้ ว้ ยตวั เอง คนท ่ี ไมม่ ศี ลี  ตอนเชา้ ไปขอจากพระ “มะยงั  ภนั เต วสิ งุ  วสิ งุ รกั ขณตั ถา ยะ...” พระใหม้ า ๕ ขอ้  “ปาณาตปิ าตา เวระ- มณี สิกขา ปะทังสะมา ทิยามิ” ไล่ไปจนจบถึง “สุรา- เมรย...” พอตกเย็นตั้งวงนั่งก๊งเหล้า อย่างนี้ไปไม่รอด  ศีลไม่ต้องไปขอใคร ไม่ว่าเราอยู่ที่ไหนก็ท�ำให้มีศีล ทุกขณะต่ืนได้ ผู้บรรยายได้ท�ำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว  มศี ลี คมุ ใจทกุ ขณะต่ืน 55 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร



ต อ น ที่ ๑๐ ภาวนาพารอด บญุ ลำ� ดบั ท ่ี  ๓  คอื  ภาวนา การเจรญิ จติ ตภาวนานน้ั ไม่ยาก เพียงสวดมนต์ก่อนนอนก็เป็นการเจริญจิตต-  ภาวนาแลว้  คำ� วา่  “จติ ตภาวนา” หมายถงึ  การพฒั นาจติ   ใหม้ บี ญุ สง่ั สม ในการสวดมนต ์ สตติ อ้ งจดจอ่ อยกู่ บั บท มนต ์ ขณะทเ่ี ราสวดไปเรอ่ื ยๆ เปน็ การฝกึ จติ ใหม้ สี ต ิ ถา้ จติ   ไมม่ สี ต ิ มวั ไปคดิ เรอื่ งอนื่  ปากสวดๆ ไป เดย๋ี วมนั ผดิ แลว้   พอผดิ แลว้ ตอ้ งเรมิ่ ใหมอ่ กี  การสวดมนตเ์ ปน็ การทำ� จติ ต-  ภาวนา เปน็ บญุ ใหญท่ สี่ ดุ เพราะมนั เขา้ ถงึ พรหมได ้ เขา้   ถงึ นพิ พานได ้ กอ่ นนอนใหส้ วดมนต ์ เสรจ็ แลว้ ใหน้ งั่ เจรญิ   อานาปานสต ิ กำ� หนดดลู มหายใจเขา้ ออก พทุ โธ พทุ โธ  57 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

เป็นสมถภาวนา สักครึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วต้องอุทิศบุญ  กุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เพราะเราได้ทำ� บุญใหญ่แล้ว  ก็ควรอุทิศให้เขา ขนาดเขาจองเวรลงนรกแล้ว เขายัง  ยอมเลกิ รา เพราะบญุ จากการภาวนาเปน็ บญุ ใหญ่ เร่ืองน้ีเกิดที่กรุงเทพฯ มีพยาบาลคนหนึ่งฉีดยา นอนหลบั ใหก้ บั คนไขผ้ หู้ ญงิ ทก่ี ำ� ลงั จะผา่ ตดั  วนั นนั้ กไ็ ด ้ รบั ใบสงั่ ใหฉ้ ดี ยา พอดแู ลว้ เหน็ วา่ ยานน้ั แรงเปน็  ๑๐ เทา่   แสดงวา่ หมอสงั่ ผดิ  ดตู วั ยาแลว้ เหน็ วา่ ไมใ่ ชต่ วั ยาเดมิ  แต ่ กไ็ มน่ า่ แรงเปน็  ๑๐ เทา่  จงึ หยบิ ใบสง่ั เดนิ จะไปถามหมอ  ท่ีสั่งยา แต่หมอคนนี้เคยด่าแกแรงๆ ทีหนึ่งว่า “เสือก!  เปน็ พยาบาลมหี นา้ ทฉี่ ดี กฉ็ ดี ไป” เมอ่ื คดิ ถงึ คำ� พดู ทหี่ มอ  เคยดา่ ก็เลยหนั หลงั กลับ ไมไ่ ปถามแล้ว คดิ วา่ เอาเถอะ  เป็นยังไงก็เร่ืองของหมอ ผลปรากฏว่าคนไข้ช็อกตาย  คาเข็มเลย เรอ่ื งไมจ่ บแคน่ น้ั  คนื นนั้ พยาบาลคนนขี้ บั รถกลบั   บา้ นคนเดยี ว มองกระจกหลงั  เหน็ คนไขท้ ตี่ ายไปนง่ั อย่ ู เบาะหลัง ใส่ชุดคนไข้โรงพยาบาล พยาบาลคนน้ีก็บิด  กระจกไมใ่ หเ้ หน็  แลว้ ขบั รถตอ่ จนถงึ บา้ น ผคี นไขก้ ต็ าม  58 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

มาจนถงึ บา้ น กไ็ ปเลา่ ใหส้ ามฟี งั  คนื นนั้ กห็ วาดกลวั มาก  เพราะภาพมนั หลอนใจ จะเขา้ หอ้ งนำ้� กต็ อ้ งใหส้ ามเี ขา้ ไป  เปน็ เพอื่ นดว้ ย จะทำ� อะไรกต็ อ้ งใหอ้ ยใู่ กลๆ้  อยหู่ า่ งไมไ่ ด้ ประมาณ ๓ วนั ตอ่ มา คนไขห้ ญงิ คนนนั้ มาเขา้ ฝนั   แล้วพูดว่า “เธอท�ำให้ฉันต้องพรากจากสามี ท�ำให้ฉัน  ต้องพรากจากลูกในท้องอายุ ๒ เดือน หนี้เวรน้ีต้อง  ชดใช”้  (แตจ่ รงิ ๆ พยาบาลคนนไ้ี มท่ ราบมากอ่ นวา่ คนไข ้ ทอ้ ง ๒ เดอื น) พยาบาลกเ็ ลยตกอยใู่ นสภาพทจี่ ติ ใจยำ�่ แย่  มาก ภาพคอยตามหลอนถงึ กบั ทำ� งานไมไ่ ด ้ สามกี พ็ ลอย  ไปทำ� งานไมไ่ ดด้ ว้ ย ตอ้ งอยเู่ ปน็ เพอ่ื น ในทสี่ ดุ ไมร่ จู้ ะทำ�   ยังไง คิดว่าตายดีกว่า ก็เลยไปเช่าโรงแรมไว้ใกล้วัด  อนิ ทรวหิ าร บางขนุ พรหม จากนน้ั กไ็ ปซอ้ื ยานอนหลบั   มา ๑๐๐ แคปซลู  แลว้ ไปทว่ี ดั เพอ่ื กราบลาพระประธาน  ในโบสถ์ ตั้งใจว่ากราบลาพระ แลว้ จะกลบั โรงแรมไป  กนิ ยาตาย เพราะเสยี ใจมากทถี่ กู คนไขท้ ตี่ ายจองเวร พระที่เล่าเร่ืองน้ีให้ผู้บรรยายฟังเป็นพระสอน  กรรมฐาน วนั นน้ั ทา่ นกไ็ ปทโ่ี บสถเ์ พอ่ื จะสวดมนต ์ เหน็   พยาบาลผู้หญิงคนนี้ร้องไห้อยู่ ก็เข้าไปถาม พอรู้เรื่อง  59 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

กร็ วู้ า่ เปน็ การแกป้ ญั หาทไี่ มถ่ กู จดุ  ถา้ ฆา่ ตวั ตายไปแลว้ ก็  ตอ้ งลงนรก ๕๐๐ ชาต ิ จงึ บอกวา่  “โยม วธิ แี กป้ ญั หาที่  ถกู ตอ้ งคอื  โยมตอ้ งไปฝกึ กรรมฐาน แลว้ อทุ ศิ บญุ ใชห้ น ้ี เขาไป เพราะกรรมฐานหรอื จติ ตภาวนาน ี้ เปน็ บญุ ใหญ่  ท่ีสุดถึงข้ันพาเข้านิพพานได้” ทอดกฐินอย่างมากก็ได ้ เพยี งสวรรคส์ มบตั  ิ แตพ่ ทุ โธ พทุ โธ พาเขา้ ถงึ พรหม ถงึ   นพิ พานได ้ พยาบาลไดฟ้ งั กร็ บี ขอสมคั รเขา้ ปฏบิ ตั กิ รรม-  ฐานทนั ทที ว่ี ดั นน้ั เอง แตบ่ งั เอญิ วา่ รนุ่ สดุ ทา้ ยของปนี นั้   ผ่านไปแล้ว ต้องรอปีต่อไป พระท่านจึงแนะน�ำให้ไป  สมัครปฏบิ ตั ิธรรมทยี่ ุวพทุ ธฯ ตอ่ มาพระรปู นท้ี า่ นไดไ้ ปสอนกรรมฐานทยี่ วุ พทุ ธฯ  ในคอร์สที่พยาบาลคนนี้ไปฝึก วันท่ี ๖ ของการอบรม  พยาบาลคนนแ้ี ตง่ ชดุ ขาวเขา้ มากราบดว้ ยสหี นา้ ยมิ้ แยม้   ตอนแรกพระท่านก็จ�ำไม่ได้ แต่ต่อมาก็นึกข้ึนได้ว่าเคย  พบกนั แลว้ ทวี่ ดั อนิ ทรฯ์  พระทา่ นทกั วา่  “วนั นน้ั ทวี่ ดั อนิ ทร-  วิหาร อาตมาเห็นโยมร้องไห้ แต่ท�ำไมวันน้ีหน้าตา  แจ่มใส หัวเราะได้แล้ว” พยาบาลตอบว่า “มันต่างกัน  เจ้าค่ะ ตอนที่หลวงพ่อพบดิฉันที่วัด ตอนน้ันเสียใจที่  ฉีดยาแล้วคนไข้ตาย แต่ตอนนี้ดีใจ เพราะเมื่อวานนี้  60 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

ตอนเยน็  ผปู้ ฏบิ ตั ธิ รรมทกุ คนรว่ มกนั อทุ ศิ บญุ กศุ ลใหแ้ ก ่ เจ้ากรรมนายเวรของดิฉันค่ะ ตอนน้ีคนไข้คนนั้นได้  ไปเกดิ เปน็ นางฟา้  แลว้ เมอื่ เชา้ มดื นไ้ี ดม้ าหาดฉิ นั  แตง่ ตวั   สวย มาบอกว่าขอบใจมากท่ีเธอช่วยให้ฉันได้ไปเกิด  เปน็ นางฟา้  มวี มิ านสวยงาม กรรมทเี่ คยจองเวรไว ้ ขอ  อโหสใิ ห้ทัง้ หมด” การปฏิบัติกรรมฐานเป็นบุญใหญ่ ยิ่งคนหมู่มาก  รว่ มอทุ ศิ ใหเ้ จา้ กรรมนายเวรของนางพยาบาลคนน ้ี จงึ   มผี ลมาก เปรยี บเหมอื นมหี นท้ี ต่ี อ้ งทวงอย ู่ ๑ ลา้ นบาท  แต่ลูกหนี้เขาคืนให้ ๕๐ ล้านบาท แบบน้ีเป็นใครก็เอา  เลกิ จองเวรเลย เพราะน่คี อื บุญใหญ่ ในระหว่างทาน ศีล และภาวนา อันท่ี ๓ นี้เป็น  บญุ ใหญท่ สี่ ดุ  เหมอื นทน่ี างสริ มิ าทำ�  จนกระทงั่ ไดบ้ รรลุ  โสดาบนั  ไมม่ วี นั ลงอบายภมู อิ กี  และตายเกดิ อกี ไมเ่ กนิ   ๗ ชาติก็จะนิพพาน โชคดีจริงๆ เพราะฉะน้ันความผิด  อะไรที่เราเคยท�ำ ถือเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย เป็นเร่ืองขี้ผง  มากๆ 61 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

จะเลา่ ใหฟ้ งั เรอ่ื งพระอกี รปู หนง่ึ  จรงิ ๆ ทา่ นไมใ่ ช่  คนไทย แตใ่ นสมยั นนั้ มาอยใู่ นเขตประเทศไทย มาจาก  นครจำ� ปาสกั  เมอื งลาว ซงึ่ ในอดตี เคยเปน็ เขตแดนของ  ไทย แตต่ อ่ มาฝรงั่ เศสมายดึ  แลว้ กก็ ลายเปน็ ของลาวไป  ทา่ นมาจากจำ� ปาสกั  เรยี นหนงั สอื จบแลว้  กร็ บั ราชการ  อยู่ในเมืองไทย วันหน่ึงเกิดทะเลาะกับภรรยา พลั้งมือ  ฆ่าภรรยาตาย ถูกศาลตัดสินจ�ำคุก ขณะท่ีอยู่ในคุก  ได้ส�ำนึกผิดที่ฆ่าภรรยา คิดว่าเราไม่ควรฆ่าเขาเลย  เพราะอยา่ งไรเสยี วนั หนง่ึ เขากต็ อ้ งตายอยแู่ ลว้  จงึ ตงั้ ใจ  เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ว่า ถ้าพ้นโทษแล้ว ต่อแต่นี้ไปจะท�ำ  ความดีตลอด ขณะที่อยู่ในคุก ท่านก็ท�ำจิตตภาวนา  จนเกิดปัญญาเห็นถูก เม่ือออกจากคุกจึงไปบวชพระ  ปฏบิ ตั ธิ รรมตอ่ จนบรรลอุ รหนั ต ์ นคี่ อื หลวงพอ่ ประสทิ ธิ ์ ถาวโร แหง่ วดั ถำ้� ยายปรกิ  เกาะสชี งั  นค่ี อื การแกป้ ญั หา ทใ่ี ชว้ กิ ฤตเิ ปน็ โอกาสสดุ ยอด บดั นท้ี า่ นมรณภาพไปแลว้ 62 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

“กฎแห่งกรรม” ท�ำดีไดด้ ี ทำ� ชว่ั ไดช้ ่วั ฉะนัน้  คนไหนแม้หนกี ฎหมายเมอื งมนษุ ยไ์ ปได้ แตห่ นีกฎของพญายมไมพ่ น้ แนน่ อน เพราะฉะนน้ั ต้องนำ� ชวี ิตดว้ ยสตปิ ญั ญา ทำ� พลาดแลว้ ใหร้ ะลกึ ได ้ และหยดุ ตอ่ ไปท�ำแตค่ วามดี 63 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร



ต อ น ท่ี ๑๑ บุ ญ บุ ญ บุ ญ บญุ ลำ� ดบั ท ี่  ๔  คอื  การประพฤตอิ อ่ นนอ้ ม มสี มั มา- คารวะ ประพฤติตนอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ ต่อผู้คุม อย่า  ไปกระด้างกระเดื่อง คนท่ีแข็งกระด้างไม่ได้เป็นใหญ่ หรอกนะ คนที่จะเป็นใหญ่คือคนอ่อนน้อม เพราะการ  ออ่ นน้อมเปน็ บุญ บญุ สง่ ให้ขน้ึ เป็นใหญ่ 65 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

บญุ ลำ� ดบั ท ี่  ๕  คอื  การชว่ ยเหลอื คนอนื่  ในทางท่ี  ถูกต้องชอบธรรม สมมติเรามีความรู้เร่ืองปรุงอาหาร  เราสอนคนท่ีทำ� อาหารไม่เป็น ก็นับว่าเราได้ช่วยเหลือ  คนอน่ื  ถา้ ใครไมส่ บายกายไมส่ บายใจ เราไปชว่ ยอาบน้�ำ  อาบท่า นวดเนอื้ นวดตัวให้เขา น่ีก็เปน็ บุญทีท่ �ำไมย่ าก บญุ ลำ� ดบั ท ี่  ๖  คอื  การอทุ ศิ บญุ  ใหแ้ กผ่ อู้ น่ื เมอ่ื เรา  มบี ญุ  พอเราสวดมนตก์ อ่ นนอน และนง่ั ภาวนาพทุ โธแลว้   เรากอ็ ทุ ศิ บญุ นนั้ ใหเ้ จา้ กรรมนายเวร เปน็ การใชห้ นกี้ นั   ไป อุทิศไปให้เขาเรื่อยๆ ทุกครั้งท่ีปฏิบัติธรรม ตอนท ี่ ผบู้ รรยายไปฝกึ กบั ทา่ นเจา้ คณุ โชดกทว่ี ดั มหาธาตฯุ  ทา่ น  บอกว่าต้องอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรทุกคร้ังท่ีเรา ปฏิบัตธิ รรมแลว้ เสรจ็ บญุ ลำ� ดบั ท ่ี  ๗  คอื  การสาธหุ รอื อนโุ มทนาบญุ   เมอื่ เหน็ คนอน่ื ทำ� ความด ี เชน่  เราเหน็ คนใสบ่ าตร เหน็   พระมารบั บาตร เราสาธ ุ เรากไ็ ดบ้ ญุ  เหน็ เขาก�ำลงั อมุ้   คนไขไ้ ปหาหมอ เราไมไ่ ดอ้ มุ้ เอง แตเ่ ราสาธ ุ เรากไ็ ดบ้ ญุ   เหมอื นกบั คนทีอ่ ุ้มเลย 66 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

บญุ ลำ� ดบั ท ่ี  ๘  คอื  การฟงั ธรรม อยา่ งทท่ี กุ คน  มาฟังในวนั นี้ บญุ ลำ� ดบั ท ี่  ๙  คอื  การสอนธรรม บรรยายธรรม  คนทสี่ อนธรรมกไ็ ดบ้ ุญ บุญล�ำดับสุดท้าย คือ การท�ำความเห็นให้ตรง เช่น เขายืมเงินเราไปแล้วไม่เอามาใช้คืน ให้เราคิดว่า  “เออ...ช่างมัน จะได้หมดหน้ีกัน” นี่คือความเห็นตรง  เช่ือเรื่องท�ำดีได้ดี ท�ำชั่วได้ช่ัว ต่อไปนี้เลิกท�ำความชั่ว  ส่ิงใดผิดกฎหมาย ผิดศีล ผิดธรรม เราจะไม่ท�ำอีก  อย่างนม้ี คี วามเหน็ ตรง เปน็ บญุ ถา้ เรามสี ต ิ อยทู่ ไี่ หนๆ บญุ กเ็ กดิ ตลอดเวลา ทา่ น  อยทู่ น่ี ไ่ี มต่ อ้ งเลยี้ งลกู เลยี้ งสาม ี เพราะฉะนน้ั ควรใชเ้ วลา  ไปในการสงั่ สมบญุ  ดไี มด่ จี ะเหมอื นหลวงพอ่ ประสทิ ธทิ์ ี่  บรรลุอรหันต์ ท่ีเรือนจ�ำชายที่แม่ริมมีนักโทษคนหน่ึง  บอกผบู้ รรยายวา่  “อาจารยค์ รบั  เมอ่ื ผมพน้ โทษ ผมจะ  บวชครบั  ไมก่ ลบั บา้ นแลว้ ครบั ” นเี่ ขากำ� ลงั จะด ี มนษุ ย์  เหมือนบัว ๔ เหลา่  เหล่าท่ ี ๑ ถึง ๓ เปน็ พวกที่สอนได ้ 67 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

ส่วนเหล่าท่ี ๔ สอนไม่ข้ึนเลย ตัดหางปล่อยวัดไปเลย  พวกเรานอี่ ยู่ใน ๓ เหล่าแรกนะ นค่ี อื บอ่ เกดิ แหง่ บญุ  ๑๐ ประการ ทวนอกี ครง้ั   ๑ ให้ทาน  ๒ รกั ษาศลี   ๓ เจริญภาวนา (สวดมนต ์ ภาวนาพุทโธ)  ๔ ประพฤตอิ ่อนนอ้ ม  ๕ ชว่ ยเหลือคนอ่นื   ๖ มีบญุ แล้วอุทศิ บุญใหค้ นอ่นื   ๗ เหน็ คนอื่นท�ำความดแี ลว้ อนโุ มทนา  ๘ ฟงั ธรรม  ๙ พดู ธรรม สอนคนอนื่  และ ๑ ๐ มคี วามเหน็ ตรง ใครผใู้ ดทม่ี สี ตอิ ยทู่ กุ ขณะตน่ื  บญุ เขา้ ตวั ตลอด ใน  เมอ่ื เรามเี วลาวา่ งๆ อยอู่ ยา่ งนแี้ ลว้  เหตใุ ดจงึ ไมร่ บี ทำ� บญุ   หรอื จะปลอ่ ยเวลาใหผ้ า่ นไปโดยไรส้ าระ ไปนกึ ถงึ ความ  หลงั  แกไ้ ขไดไ้ หม ไมไ่ ด ้ ไมม่ ใี ครแกไ้ ดแ้ มแ้ ตพ่ ระพทุ ธเจา้   โคดม พระมหาโมคคัลลานะในอดีตชาติเคยฆ่าพ่อฆ่า  68 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

แมต่ าย ยงั แกไ้ มไ่ ด ้ ตอ้ งลงนรก ชาตสิ ดุ ทา้ ยโดนโจรจบั   ทบุ เสยี นว่ ม ทา่ นกแ็ กไ้ มไ่ ด ้ ขนึ้ ชอ่ื วา่ อดตี แลว้  ไมม่ ใี คร แก้ได้ท้ังน้ัน แต่ท่ีท�ำได้คือ หยุดท�ำช่ัว และต่อแต่น้ ี ทำ� แตก่ รรมด ี เหมอื นผบู้ รรยาย ตง้ั แตเ่ กดิ มาเมอ่ื ป ี พ.ศ.  ๒๔๘๑ จนถงึ  พ.ศ. ๒๕๑๘ ทำ� ทง้ั ดที ง้ั ชวั่  ตงั้ แตอ่ อกจาก  วัดมาเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๑๘ จนทุกวันน้ี ๓๕ ปีแล้ว มีแต่  บญุ เขา้ ตวั บาปไมท่ ำ� อกี ตอ่ ไป เพราะไมใ่ ชอ้ ารมณน์ ำ� ชวี ติ   แตใ่ ชส้ ตสิ มั ปชญั ญะ คอื ระลกึ ได ้ และรวู้ า่ ไมด่ แี ลว้ ไมท่ ำ�   ไมป่ ระพฤติ 69 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร



ต อ น ท่ี ๑๒ ป ร ะ โ ย ช น์ ดี ท่ี ไ ด้ ฟั ง วนั น้ีท่ที า่ นมาฟังบรรยาย ไดป้ ระโยชนอ์ ะไร ๑  ไดฟ้ งั ในสิง่ ทีไ่ มเ่ คยไดย้ ินไดฟ้ ัง ๒  ได้ทำ� ให้แจม่ ชดั ขึน้ ในสิ่งทเ่ี คยไดย้ ินได้ฟงั   มาแล้ว ๓  ได้บรรเทาความสงสัยในสิ่งทเ่ี คยสงสัย ๔  ย่อมทำ� ความเหน็ ใหต้ รงได้ ๕  เกดิ ความเลอ่ื มใส เกิดศรัทธาในความดี 71 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

เมอื่ เราเขา้ ใกลค้ นด ี พดู คยุ กบั เขา ความศรทั ธาใน  ความดีของเขาจะเกิดข้ึน เม่ือเกิดศรัทธาในความดี ตวั เราเองกจ็ ะดใี นวนั ขา้ งหนา้ ได ้ ตรงกนั ขา้ ม ถา้ เราเขา้   ใกล้คนไม่ดี คนที่สอนเร่ืองไม่ดีให้เรา ความศรัทธาใน  ความชวั่ จะเกดิ ขน้ึ  ออกจากคกุ ไปแลว้  ชวี ติ เราจะยง่ิ วบิ ตั ิ  เพราะฉะนั้นเราควรเข้าใกล้คนดีเอาไว้ พูดคุยกับคนด ี เสมอๆ เพอ่ื ปลกู ศรทั ธาในความดใี หเ้ กดิ ขน้ึ ในใจของเรา  ผู้บรรยายตอนเด็กๆ อยู่กับวัด อยู่กับพระ มีหน้าท่ีใส่  บาตรต้ังแต่ตัวเล็กๆ วันพระก็เอาข้าวต้มไปเล้ียงพระ  ตอนเชา้  เกดิ ศรทั ธาตอ่ ความด ี มนั กเ็ ลยไดด้  ี เพราะเมอ่ื   มบี ญุ แลว้  ทกุ อยา่ งสำ� เรจ็ ดว้ ยบญุ ทงั้ นนั้ เลย ดงั นน้ั ทา่ น  อย่าลืมว่าประพฤติผิดพลาดแล้วต้องหยุด และท�ำด ี ตอ่ จากนไี้ ป ดหู ลวงพอ่ ประสทิ ธทิ์ เ่ี คยตดิ คกุ เปน็ ตวั อยา่ ง  ทำ� ไดจ้ รงิ ๆ จะเล่าถึงพราหมณ์คนหน่ึงในสมัยพุทธกาล ชื่อ  ธนญั ชานพี ราหมณ ์ เปน็ ปโุ รหติ อยใู่ นราชสำ� นกั  เปน็ คนด ี ท�ำถูกต้องเสมอ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีล ไม่ผิดธรรม  และรจู้ กั มกั คนุ้ สนทนาธรรมกบั พระสารบี ตุ รอยเู่ สมอๆ  พระสารีบุตรเป็นอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า  72 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

เปน็ ผมู้ ปี ญั ญามาก แตกฉานอยา่ งยงิ่  ธนญั ชานพี ราหมณ์  มาสนทนาธรรมกบั ทา่ นพระสารบี ตุ รอยเู่ รอื่ ยๆ จนเกดิ   ศรทั ธา แตภ่ ายหลงั งานราชการยงุ่ จงึ หา่ งออกไป ไมค่ อ่ ย  ไดม้ าสนทนาธรรมเหมอื นกอ่ น กเ็ รมิ่ ทำ� ชว่ั  ผดิ กฎหมาย  บ้าง ผดิ ศลี บา้ ง ผดิ ธรรมบา้ ง ตอ่ มาระลกึ ไดว้ า่  โอ...เรา  ไมค่ วรทำ� ความช่ัวเลย พระสารีบุตรรู้ความเป็นไปเพราะท่านมีญาณ  หยั่งรู้ใจคน ท่านจึงไปที่บ้านของธนัญชานีพราหมณ ์ ถามวา่  “เดย๋ี วนท้ี งั้ การคดิ  การพดู  และการทำ�  ทา่ นยงั   ประพฤตดิ อี ยหู่ รอื ไม”่  ธนญั ชานพี ราหมณไ์ มก่ ลา้ โกหก  ตอบวา่  “เดยี๋ วนข้ี า้ พเจา้ เสยี คนไปเสยี แลว้  เพราะเดย๋ี วน้ี  มลี กู  มบี รวิ ารเพมิ่ มากขน้ึ  จงึ คดิ ทจุ รติ บา้ ง คดโกงบา้ ง  ขา้ พเจา้ ไดส้ ำ� นกึ ผดิ แลว้ ” แลว้ สารภาพผดิ กบั พระสารบี ตุ ร  พระเถระปลอบว่า ไม่เป็นไร คนที่ท�ำผิดย่อมแก้ไขได้  ธนัญชานีพราหมณ์จึงให้สัจจะ “ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะไม่  ประพฤติช่ัวอีก คิด พูด ท�ำ จะไม่ให้ผิดกฎหมาย ไม่ให้  ผดิ ศลี  ไมใ่ หผ้ ดิ ธรรมอกี ตอ่ ไป ขา้ พเจา้ ขอใหส้ จั จะดงั น”ี้   และรักษาสัจจะอย่างม่ันคง 73 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

ต่อมาวันหน่ึง ธนัญชานีพราหมณ์ซึ่งชราแล้วได้  ล้มป่วยลง พระสารีบุตรไปเย่ียม เทศนาธรรมสอนให้  ธนัญชานีพราหมณ์รักษาความดี มีเมตตาเพ่ือก�ำจัด  โทสะ มคี วามกรณุ า คดิ สงสาร ชว่ ยเหลอื ผอู้ นื่  พอวาระ  สุดท้ายกอ่ นตาย ไดเ้ หน็ พรหมตามทต่ี นปรารถนา จติ   รวมนิ่ง แล้วส้ินใจ ไปเกิดเป็นพรหมช้ันที่ ๓ คือมหา-  พรหมาภมู  ิ นคี่ อื ผลจากการหยดุ ทำ� ชวั่  เปลย่ี นเปน็ ทำ� ดี ธนญั ชานีพราหมณน์  ี้ กอ่ นลม้ ปว่ ยไดเ้ คยพบพระ  พทุ ธเจา้ และทลู ถามพระองคว์ า่  “คนเราฆา่ อะไรจงึ นอน  สบาย” พระพทุ ธเจา้ ตอบวา่  “ฆา่ ความโกรธส ิ พราหมณ์ แล้วจะนอนหลับสบาย” คนมเี มตตาหลบั สบาย ลม้ ตวั ลงนอน หวั ถงึ หมอน  ไม่เกิน ๕ นาทีก็หลับปุ๋ยแล้ว เพราะไม่มีความโกรธ  คง่ั คา้ งอยใู่ นใจ ใครจะดา่ จะวา่  จะทำ� อะไร กใ็ หอ้ ภยั เขา  หมด ถือเสียว่าเดี๋ยวก็ไปเกิดใหม่แล้ว เร่ืองอะไรจะมา  อยูก่ ับขยะทางใจพวกนี้ พอมีเมตตาก็นอนหลับเป็นสุข  ไมฝ่ นั เลอะเทอะ แสนสบาย

ต อ น ที่ ๑๓ ทํ า ร้ า ย ตั ว เ อ ง ทํ า ไ ม “มโน ปุพพัง คมา ธัมมา มโน เสฏา มโน มยา”  จิตเป็นรากฐานของส่ิงทั้งหลาย จิตประเสริฐกว่าส่ิง ทง้ั หลาย สง่ิ ทงั้ หลายสำ� เรจ็ ดว้ ยจติ  ตอ้ งขอโทษทจ่ี ะตอ้ ง  พดู วา่  ทที่ า่ นมาอยทู่ น่ี ก่ี เ็ พราะจติ ไมด่  ี ผลส�ำเรจ็ จงึ ไมด่  ี ตอ่ ไปนเี้ รารแู้ ลว้ วา่ ไมด่  ี เราหยดุ  ตอ่ ไปเราจะส�ำเรจ็ แต่  ในทางดี เหมือนตัวผู้บรรยายตามที่เล่าแล้ว เม่ือก่อน  ก็เคยส�ำเร็จไม่ดี แต่ต้ังแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นต้นมา ก ็ เลกิ ทำ� ชว่ั  ทำ� แตค่ วามดตี ลอด เพราะเรารวู้ า่  “มโน มยา”  ทกุ อยา่ งสำ� เรจ็ ดว้ ยใจ นเี่ กษยี ณมา ๑๒ ปแี ลว้  เดนิ ทาง  ไปท่ัวประเทศ งานไม่มีหมด อยู่บ้านก็มีคนโทรศัพท์  75 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

มาเชิญไปโน่นไปนี่ตลอด ต้องคอยตรวจดูสมุดนัดว่า  วนั นวี้ นั นน้ั วา่ งหรอื เปลา่  จะรบั คำ� เชญิ ของเขาไดห้ รอื เปลา่   ตอนนมี้ งี านทเ่ี ชญิ ไวย้ าวถงึ เดอื นกนั ยายน ป ี พ.ศ. ๒๕๕๔  แลว้  และมกี ำ� หนดจะไปบรรยายตามเรอื นจำ� อกี  ๖ ครง้ั   เพราะอะไร เพราะมนั เปน็ ของด ี ใครๆ กอ็ ยากเจอของด ี 76 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

อยากเขา้ ใกลค้ วามดงี าม มนั สำ� เรจ็ ดว้ ยใจ เพราะฉะนน้ั   ทที่ า่ นพลาดไปแลว้  ชา่ งมนั  อดตี ไมม่ ใี ครแกไ้ ด ้ ผบู้ รรยาย  กแ็ กอ้ ดตี ของตวั กอ่ นป ี พ.ศ. ๒๕๑๘ ไมไ่ ด ้ สง่ิ ทที่ �ำไดค้ อื   หยุดท�ำไม่ดี และท�ำความดีในปัจจุบันให้ตลอด น่ีคือ สิ่งท่ีทำ� ได้ ทำ� ไมคนทวั่ ไปจงึ ทำ� รา้ ยชวี ติ ตวั เอง เพราะเขาไมร่  ู้ จรงิ  ใชอ้ ารมณน์ ำ� ชวี ติ  ไมใ่ ชส้ ตสิ มั ปชญั ญะ ทเี่ ราพลาด  กเ็ พราะจติ ไมม่ สี ตสิ มั ปชญั ญะ ใชแ้ ตอ่ ารมณ ์ อยากไดเ้ งนิ   มาก จะท�ำดีหรือท�ำช่ัวเราไม่สนใจ ในที่สุดเมื่อกรรม  ใหผ้ ล เรากต็ อ้ งรบั ทกุ ข ์ แตถ่ า้ เรามสี ตริ ะลกึ ไดว้ า่  นมี่ นั   ไมด่  ี และมสี มั ปชญั ญะควบคมุ  เรากไ็ มท่ ำ� ลงไป ถา้ มสี ต ิ ระลกึ ไดว้ า่ ส่งิ นเี้ ปน็ สง่ิ ด ี และมสี ัมปชัญญะควบคุม เรา  จงึ ทำ�  นค่ี อื สตสิ มั ปชญั ญะ ฉะนนั้ ตอ่ ไปนที้ า่ นจงพฒั นา  จิตให้มีสติ การสวดมนต์ก่อนนอนช่วยให้มีสติ การ  ภาวนาพุทโธ พุทโธ เป็นการฝึกจิตให้มีสติ เม่อื มีสต ิ ก็  เกดิ ปญั ญาเหน็ ถูก เกดิ ความรู้ดีรู้ชัว่ ท�ำไมคนทั่วไปจึงใช้ใจของตนท�ำร้ายตนเอง ก็  เพราะเขาไม่รู้ เพราะไม่เคยได้ยินผู้รู้มาบอกกล่าว  77 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

เพราะไมศ่ รทั ธาในความดงี าม แตไ่ ปศรทั ธาในความชว่ั   อย่าลืมว่าชีวิตของเราไม่ใช่แค่ ๘๐ ปี หรือ ๑๐๐ ปีใน  ชาติน้ีเท่าน้ันนะ มองจนสุดตาทิพย์ยังไม่เห็นตอนจบ  เลยว่าต่อไปเราจะต้องไปเกิดอีกเท่าไร ชีวิตที่แท้มัน  ยืนยาวกว่าท่ีเราเห็นด้วยตาเนื้อตาหนัง ผู้บรรยายไป  เหน็ มาแลว้  นำ�้ ตาหยดกเ็ พราะเหน็ ชวี ติ ของตวั เอง บอก  ตัวเองว่า ตอ่ ไปนจี้ ะไมใ่ หซ้ ้�ำรอยเดมิ อีก คนจำ� นวนนอ้ ยใชใ้ จทำ� ความด ี คอื ทำ� บญุ  เราควร  หันมาท�ำแต่บุญให้กับตัวเอง เพราะรู้ว่า “มโน มยา”  สำ� เรจ็ ดว้ ยใจ มบี ญุ แลว้ สำ� เรจ็ ดที กุ เรอ่ื ง ทรพั ยก์ ไ็ มส่ ญู   ไป เพราะโจร น�้ำ หรือไฟ สมบัติที่ดีทุกอย่างท่ีเรา ปรารถนา บุญก็น�ำมาให้ ศรัทธาในความดีเป็นบุญ  ศรทั ธาในคนดเี ปน็ บญุ  เพราะฉะนน้ั  คนดอี ยทู่ ไ่ี หน เรา จงไปเขา้ ใกล้ ไปสนทนากบั เขา ให้บญุ เขา้ ตัว คนเราทเี่ กดิ มาลว้ นตอ้ งการความสะดวกสบายและ  ความสขุ  ถา้ ใหเ้ ลอื กเพยี ง ๑ อยา่ ง คนรอ้ ยทง้ั รอ้ ยยอ่ ม  เลือกเอาความสุข ถ้าไม่สะดวกสบายบ้าง ก็ไม่เป็นไร  ขอใหม้ คี วามสขุ กพ็ อ แตผ่ บู้ รรยายเลอื กไดท้ งั้ สองอยา่ ง  78 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

ด้วยหลัก “มโน มยา” คืออยากสะดวกสบายก็ทำ� บุญ  เยอะๆ อยากมีความสุขก็ท�ำบุญเยอะๆ เลิกท�ำบาป  ทำ� แบบนี้จงึ เลือกเอาได้ท้ังสองอย่าง ถามว่า ท่านอยู่ในสถานท่ีแห่งนี้ท�ำบุญได้ไหม  ท่านเห็นช่องทางแล้วใช่ไหม บุญ ๑๐ อย่างท่ีบอกไป  อยู่ท่ีไหนก็ท�ำได้ ไม่จ�ำเป็นต้องเข้าวัดเข้าวา ไม่จำ� เป็น ตอ้ งใชเ้ งนิ ดว้ ยซำ้� ไป เพยี งทำ�  ๑๐ อยา่ งน ี้ บญุ กเ็ กดิ แลว้   สั่งสมแล้วในใจ ตกน้�ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ บุญอยู่  ในใจ ใครขโมยกไ็ มไ่ ด ้ ทา่ นเหน็ ทางทำ� บญุ แลว้ นะ ขณะน ้ี อยู่เฉยๆ ว่างๆ ไม่ต้องทำ� มาหากิน ไม่ต้องหาเงินเลี้ยง  ครอบครัว ฉะน้ันจงหาบุญมาเล้ียงตัวให้รอด ง่ายนิด  เดยี ว สงิ่ ใดท่ที �ำผิดพลาดไปแล้ว ไมเ่ คยมีใครย้อนกลับ  ไปแก้ได้แตห่ ยดุ ได ้ ไมท่ �ำอกี  ตอ่ ไปนท้ี �ำด ี พระพทุ ธเจา้   ก็ท�ำแบบน้ี นางสิริมาเคยเป็นโสเภณีก็เลิก นาง  อัมพปาลีเคยเป็นโสเภณีก็เลิก หันมาท�ำความดี จน  บรรลธุ รรมขนั้ อรหนั ต ์ ตวั ผบู้ รรยายเองกเ็ คยรบั วบิ าก  หนกั เพราะสง่ิ ไมด่ ที เี่ คยทำ� มา ตอ่ ไปนห้ี ยดุ  ทำ� แตค่ วามด ี ตลอด พยายามวิ่งหนีบาปท่ียังตามมาอีกหลายอย่าง  พยายามวิง่ ให้เร็วเทา่ นนั้ เอง จะว่งิ หนเี ข้านิพพาน 79 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร



๑๔ต อ น ท่ี สี่ วิ ธี ห ลี ก ลี้ ห น้ี เ ว ร วธิ ีชดใช้หน้เี วรกรรมมอี ยู่ ๔ วธิ ี ๑  ถ้าหนี้เวรกรรมตามมาทันแล้ว ต้องยอมรับ ความจริงและชดใช้ไป เช่นท่ีผู้บรรยายยอมให้แมว  ตะกายขาอย ู่ ๒ วนั  ใชห้ นจี้ นหมด เคยตเี ขาขาหกั  กต็ อ้ ง  ชดใช้ เคยดึงคอนก ก็ต้องชดใช้ ไม่หนี แม้จะทรมาน  อย่างไรก็ทน เพือ่ จะไดห้ มดหน้กี นั ไป ๒  ชดใชด้ ว้ ยบญุ ใหญ ่ สวดมนตก์ อ่ นนอน ภาวนา  พทุ โธๆ นเ่ี ปน็ บญุ ใหญ ่ แลว้ อทุ ศิ บญุ ใหเ้ จา้ กรรมนายเวร  ไปเรอ่ื ยๆ 81 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

๓  ถา้ หนเี้ วรกรรมความชว่ั ทท่ี ำ� ไวย้ งั ตามมาไมท่ นั   ให้ รีบท�ำบุญ หนีไปไกลๆ หนีให้เร็วๆ จนหนี้เวรกรรม  ตามส่งผลไมท่ ัน ๔  หนเี ขา้ นิพพาน ไปเลย คนฉลาดไมป่ ลอ่ ยเวลาใหส้ ญู เปลา่  วนั ๆ หนงึ่  ถา้   ไม่มีงานอ่ืนต้องท�ำ ท�ำไมไม่ภาวนาพุทโธๆ ให้บุญเข้า  ตลอด เมื่อไม่ยอมภาวนา มัวหายใจทิ้งหายใจขว้าง กไ็ มต่ า่ งจากววั ควาย อยา่ งนค้ี ดิ เอาเองวา่ ฉลาดหรอื โง ่ กใ็ นเมอื่ นอนกห็ ายใจ นง่ั กห็ ายใจ กค็ วรภาวนาพทุ โธๆ  ไปดว้ ย แตถ่ า้ มงี านอน่ื ตอ้ งทำ�  กใ็ หน้ ำ� จติ หรอื สตไิ ปจดจอ่   อยู่กับงาน งานก็จะไม่ผิดพลาด ถ้าเรามีสติ บุญก็เข้า  ตลอด และเมื่อใดท่ีบุญส่งผล ก็จะได้รับความสะดวก  สบายและความสุข เพราะฉะน้ันคนฉลาดเขาไม่ปล่อย  เวลาใหส้ ญู เปลา่  ทา่ นกส็ ำ� รวจตวั เองวา่ เราฉลาดหรอื โง่  ที่แล้วกแ็ ลว้ ไป ตอ่ ไปนี้เริ่มใหม ่ ท�ำดีใหม่ คนฉลาดท�ำตัวเป็นผู้ให้ ไม่ใช่ผู้เอาหรือผู้รับ ให้  อยา่ งเดยี ว ไมห่ วงั อะไรตอบแทนจากใคร ทำ� ให ้ ทำ� ให ้ ให้  82 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

ให ้ ให ้ ผบู้ รรยายนใี่ หอ้ ยา่ งเดยี ว สมยั เปน็ อาจารยอ์ ยทู่ ่ี  มหาวทิ ยาลยั  ไปคดั เลอื กนกั ศกึ ษายากจนมา มอบเงนิ   เปน็ ทนุ การศกึ ษาใหเ้ รยี นหนงั สอื  แมต้ อนนเี้ กษยี ณมา  ๑๒ ปีแล้ว ก็ยังช่วยคนให้ได้เรียนหนังสือ ช่วยเท่าท ี่ ช่วยได้ ไม่มีใครสามารถช่วยคนอื่นเกินความสามารถ  ที่ตนมี ถ้าเรามีแรง เราก็ช่วยด้วยแรง ถ้าเรามีเมตตา  เราก็ชว่ ยดว้ ยการให้อภยั คนฉลาดใหส้ ง่ิ ดงี าม ใหค้ วามรทู้ ถ่ี กู ตอ้ งชอบธรรม  ใหค้ วามสามารถทตี่ นม ี ถา้ เราวาดรปู เกง่  เราสอนคนอนื่   วาดรปู  ถา้ ทำ� กบั ขา้ วเกง่  กส็ อนวธิ ที ำ� กบั ขา้ ว เรารหู้ รอื   เกง่ อะไรทเี่ ปน็ ประโยชน ์ เรากส็ อนใหค้ นอน่ื  ให ้ ให ้ ให้  ใหท้ กุ เรอ่ื งทด่ี งี าม โดยไมห่ วงั อะไรจากใครทงั้ สนิ้  อยา่ งน ้ี ไดบ้ ญุ เตม็ ๆ แตค่ นโงท่ ำ� แบบน ี้ ซอื้ ของไปถวายพระ แลว้   ตามดวู า่ ของนนั้ ไปทางไหน ปรากฏวา่ แมช่ เี ขาเอาไปกนิ   กันในโรงครัว ตอนถวายไปได้บุญ แต่ตอนไปเห็นแม่ชี  เขากนิ  กลบั ไดบ้ าป คนโงเ่ ขาเปน็ อยา่ งนนั้  คนฉลาดเขา  ถวายแลว้ จบ เรอ่ื งนผี้ บู้ รรยายไปไดม้ าจากวดั มหาธาตฯุ   ตอนบวชเป็นพระ นั่งฉันข้าวกับท่านเจ้าคุณโชดก มี  ผหู้ ญงิ คนหนง่ึ แตง่ ชดุ ขาว ซอ้ื ทเุ รยี นหมอนทองพใู หญ่  83 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

ควา้ นเมด็ ออก จดั อยา่ งดใี สจ่ าน ถวายทา่ นเจา้ คณุ โชดก  ถวายแล้วก็นั่งอยู่ใกล้ๆ วงฉันนั่นเอง น่ังดูพระท่าน  ฉันภัตตาหาร เห็นท่านเจ้าคุณไม่หยิบทุเรียนสักเม็ด  กท็ นไมไ่ ด ้ กราบเรยี นทา่ นวา่  “ทา่ นเจา้ คณุ อาจารยค์ ะ  ทุเรียนหมอนทองท่ีซื้อมานี่ ราคาแพงเลยนะคะ เม็ด  กค็ วา้ นออกแลว้  ไมเ่ หน็ เจา้ คณุ ฉนั เลย” ทา่ นเจา้ คณุ โชดก  ไมต่ อบหนั มามองพระบวชใหม ่ คอื ผบู้ รรยาย แลว้ สอน  ด้วยใจว่า ท�ำบุญแล้วไม่ต้องตามดู จะได้บุญเต็มร้อย ช่วยคนอ่ืนแล้วไม่หวังว่าเขาจะมาตอบแทน จะได้บุญ  เตม็ รอ้ ย แตค่ นโงช่ ว่ ยคนอนื่ แลว้  หวงั ใหเ้ ขามาตอบแทน  ตวั  คนฉลาดเขาไมท่ �ำ ช่วยแล้วชว่ ยเลย จบ คนฉลาดให้อภัยในทุกสิ่งที่ขัดใจ เมื่อมีเมตตา  ความโกรธกห็ ายไป คนมเี มตตามีโอกาสสูงท่จี ะไปเกิด  เป็นพรหม มีโอกาสที่จะพัฒนาจิตให้มีบุญได้ง่าย แต ่ ส�ำหรบั คนมโี ทสะแล้วเป็นเรอื่ งยาก คนฉลาดอยกู่ บั ปจั จบุ นั  ทกุ ขณะตนื่ อยกู่ บั ปจั จบุ นั   คิด พูด ท�ำแต่ส่ิงดีและเป็นปัจจุบัน อะไรที่ผ่านไปแล้ว  ไมไ่ ปยงุ่  แตค่ นอายมุ ากชอบร�ำลกึ ถงึ ความหลงั  บาปก ็ 84 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

เข้าตลอด คนดแี กป้ ญั หา คนไมด่ สี รา้ งปญั หา ถา้ เราเคยทำ�   ไม่ดี ก็ให้ต้ังใจว่า ต่อไปนี้เราจะท�ำดี เราจะเป็นคนดี  เราก็ช่วยแก้ปัญหาให้คนอื่น อยู่ในที่นี้ไม่ต้องท�ำงาน  เรากท็ ำ� ดไี ดต้ ลอดเวลา เราเลอื กเกดิ ไดด้ ว้ ย ถา้ ไมอ่ ยาก  ไปเกิดเป็นสัตว์นรก ก็อย่าให้มีความโกรธอยู่ในใจเรา  เพราะความโกรธจะผลกั ดนั จติ วญิ ญาณลงนรก อยา่ ให้  มคี วามโลภ อยา่ ไปเอาของทเ่ี จา้ ของเขาไมอ่ นญุ าต แลว้   จะไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรต เราอย่าหลง จงรู้จริง ก็จะ  ไม่ไปเกิดเป็นเดรัจฉาน ถ้าเรารักษาศีล ๕ ทุกขณะตื่น  ต่อแต่นี้ไปจนตาย ก็จะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ถ้าให้  ทาน รกั ษาศลี  กไ็ ปเกดิ เปน็ เทวดา ถา้ เขา้ ฌานแลว้ ตาย  ในฌาน ก็ไปเกิดเป็นพรหม ท�ำไมจะเลือกไม่ได้ เรา  สามารถเลอื กไดห้ มดทุกอยา่ ง 85 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร



ต อ น ท่ี ๑๕ ปั ญ ญ า เ ห็ น แ จ้ ง กั บ ฝุ่ น ดิ น ท่ี ป ล า ย เ ล็ บ บญุ อยา่ งหนงึ่  คอื  การไหวพ้ ระสวดมนตแ์ ละภาวนา  เปน็ การปฏบิ ตั ธิ รรม ฝกึ ใหเ้ กดิ ปญั ญาเหน็ แจง้  (ภาวนา  มยปัญญา) วันนี้เห็นเหตุเห็นผล จริง อีกหม่ืนปีแสนปี  ข้างหน้า ยังคงเป็นความจริง ส่วนความรู้ท่ีผู้บรรยาย  ไปเรียนมาจนจบปริญญาเอก สมัยท่ีเรียนอยู่นั้น จริง  แต่เด๋ียวนี้ไม่จริงแล้ว ผลงานที่ตีพิมพ์ในวารสารท้ัง  ในประเทศและตา่ งประเทศ ตอนนน้ั เปน็ จรงิ  แตเ่ ดย๋ี วนี้  ใช้ไม่ได้แล้ว เพราะไม่จริงแล้ว น่ันล่ะคือความหลง แต ่ หนังสือธรรมะท่ีผู้บรรยายเขียน ซึ่งมีอยู่ในห้องสมุด  นน่ั คอื ของจรงิ เดย๋ี วนจ้ี รงิ  อกี หมน่ื ปแี สนปขี า้ งหนา้ กย็ งั   จรงิ  เพราะฉะนน้ั ลองไปอา่ นดทู ผี่ บู้ รรยายเขยี นไวง้ า่ ยๆ 87 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

ใช้ปัญญาเห็นแจ้งก�ำจัดกิเลสที่อยู่ในใจ ซ่ึงเป็น  สาเหตุให้เราต้องมาเวียนตายเวียนเกิด กิเลสเหล่าน้ัน  ได้แก่ ๑ สกั กายทฏิ ฐ ิ คอื  ความเหน็ วา่ มตี วั ของตน เปน็   ของตน ๒ วิจิกิจฉา คือ ความสงสัย เช่น พ่อแม่มีคุณ  จริงไหม พระพุทธเจ้ามีจริงไหม พระธรรมดีจริงไหม  พระอริยสงฆ์มจี รงิ ไหม เทวดามีคุณจริงไหม ฯลฯ ๓ สลี พพตปรามาส คอื  การลบู คลำ� ศลี  การบชู า  เครอื่ งรางของขลงั  ไมม่ จี ติ มนั่ คงในพระพทุ ธ พระธรรม  พระสงฆ์ ๔ กามราคะ คือ ความติดใจยนิ ดใี นกามคณุ ๕ ปฏฆิ ะ คือ ความรสู้ ึกไมช่ อบใจ ขัดใจ ๖ รปู ราคะ คือ ความพอใจติดใจในรปู ธรรม ๗ อรปู ราคะ คอื  ความพอใจตดิ ใจในอรปู ธรรม ๘ มานะ คอื  ความถือวา่ ตวั เป็นนั่นเป็นนี่ ๙ อทุ ธจั จะ คือ ความฟงุ้ ซา่ น ๑ ๐ อวิชชา คือ ความรทู้ ไ่ี ม่จรงิ รวมเรียกว่า สังโยชน์ ๑๐ ถ้าก�ำจัดทั้งหมดนี้  ได้เม่ือไร หนีเข้านิพพาน พระนิยตโพธิสัตว์เคยเตือน  88 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

ผู้บรรยายว่า “ต่อไปนี้โลกจะวิกฤต ขอพวกเราอย่าได ้ ประมาท จงพัฒนาจิต แล้วปิดอบายภูมิให้ได้” การ  “ปิดอบายภูมิ” คืออะไร ก็คือการก�ำจัดสักกายทิฏฐิ  วิจิกิจฉา และสลี พพตปรามาส ไม่ให้มีอ�ำนาจเหนือใจ  พระโพธิสัตว์เตือนอย่างน้ีผู้บรรยายก็ท�ำตาม แล้วก็ เขียนเปน็ หนังสือไวใ้ ห้อา่ นกนั อนาถบิณฑิกเศรษฐีมีลูกชาย ใช้เงินจ้างลูกให้ไป  ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า ภายหลังได้บรรลุธรรมชั้น  โสดาบัน ลกู สาวอกี  ๒ คนกเ็ ปน็ โสดาบนั กบั สกทาคาม ี สว่ นนอ้ งชายเปน็ พระอรหนั ต ์ ตระกลู นดี้ ที ง้ั ตระกลู เลย  บุคคลนับแต่ช้ันโสดาบันข้ึนไปถึงอรหันต์สามารถปิด  อบายภมู ไิ ดแ้ ลว้  โสดาบนั บคุ คล คอื  คนทพี่ ฒั นาจติ จน  เปน็ อรยิ บคุ คลขนั้ ตน้ ได ้ ตายเกดิ อกี ไมเ่ กนิ  ๗ ชาตกิ จ็ ะ  เขา้ นพิ พาน และใน ๗ ชาตนิ จี้ ะไมล่ งไปเกดิ เปน็ เดรจั ฉาน  เปรต อสรุ กาย หรอื สตั วน์ รกอกี  เขาเรยี กวา่  “ปดิ อบาย  ภมู ”ิ  ผบู้ รรยายเองมองยอ้ นไปจนสดุ ตาทพิ ย ์ กย็ งั ไมเ่ หน็   ต้นก�ำเนิดของตัว ได้แต่น้�ำตาหยดว่าท�ำไมตัวเองจึงโง ่ อย่างน้ี เดี๋ยวน้ีจึงเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ นับได้ ๓๕ ปีแล้ว  ตงั้ แตอ่ อกจากวดั มา ขณะนสี้ ง่ั สมอยอู่ ยา่ งเดยี ว คอื บญุ   89 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

อย่างอ่ืนไม่สะสมแล้ว มนษุ ยต์ อ้ งการความสขุ  มนษุ ยเ์ กลยี ดความทกุ ข์  ในครง้ั พทุ ธกาล ณ วดั เชตวนั  พระพทุ ธองคใ์ ชน้ วิ้ ชอ้ นไป  บนพื้นดิน ฝุน่ ดินตดิ ปลายเล็บขึน้ มา ท่านยกพระหตั ถ ์ ข้นึ  ถามภิกษุท่อี ยู่แวดล้อมวา่  “ภิกษุท้งั หลาย ฝ่นุ ดนิ ที ่ ปลายเล็บของตถาคตน้ี เมื่อเทียบกับฝุ่นดินท่ีเหลืออยู่  ทงั้ หมดในพนื้ ปฐพ ี อยา่ งไหนมมี ากกวา่ กนั ” ภกิ ษตุ อบ  เปน็ เสยี งเดยี วกนั วา่  “ฝนุ่ ดนิ ทป่ี ลายเลบ็ นน้ั เทยี บไมไ่ ดก้ บั   หนงึ่ ในพนั  หนง่ึ ในแสนของฝนุ่ ดนิ ทเี่ หลอื อยใู่ นพนื้ ปฐพ”ี   พระพทุ ธเจา้ ตอบวา่  “ถกู แลว้  ภกิ ษ ุ ความทกุ ขข์ องพระ โสดาบนั ทจี่ ะตายเกดิ อกี ไมเ่ กนิ  ๗ ชาต ิ เหลอื นอ้ ยเทา่ กบั ฝุ่นดินท่ีติดอยู่ที่ปลายเล็บ เม่ือเทียบกับความทุกข์ท ่ี พระโสดาบนั กำ� จดั ไปไดแ้ ลว้  ซงึ่ เหมอื นกบั ฝนุ่ ดนิ ทเ่ี หลอื   อยู่ในพื้นปฐพี” พระพุทธเจ้าตรัสไว้เม่ือ ๒,๕๐๐ กว่าปี  มาแลว้  แตย่ งั คงเปน็ ความจรงิ อยจู่ นทกุ วนั น ้ี ความทกุ ข ์ ของโสดาบันบุคคลเหลือแค่ขี้ฝุ่นท่ีติดปลายเล็บเท่าน้ี  จรงิ ๆ ความทกุ ขส์ ว่ นใหญไ่ ดห้ มดไปแลว้  นเี่ ปน็ ความจรงิ   ท่ีทุกคนพิสูจน์ได้ แม้อยู่ในท่ีน้ีก็ท�ำได้ ดีกว่าอยู่ท่ีบ้าน  เสียด้วยซ�้ำ ก่อนนอนก็สวดมนต์ แล้วภาวนาพุทโธๆ  90 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

เมอื่ เกดิ ปญั ญาเหน็ แจง้  กจ็ ะก�ำจดั สงั โยชน ์ ๓ ตวั นอ้ี อก  ไปได ้ ปดิ อบายภมู ไิ ดแ้ นน่ อน ไมล่ งไปเกดิ เปน็ สนุ ขั  เปน็   เปรต เปน็ สตั วน์ รกจะไมม่ อี กี แลว้  เกดิ อกี ไมเ่ กนิ  ๗ ครง้ั   กเ็ ขา้ นพิ พาน แล้วเหตุใดเราจึงไมท่ �ำ วันก่อนมีคุณพ่ีผู้ชายมากราบผู้บรรยาย บอกว่า  “ผมฟงั อาจารยพ์ ดู แลว้  ผมปง๊ิ เลย” นนั่ แหละบวั ประเภท  ท่ี ๑ บานทันทีเลย ผู้บรรยายยังบอกเขาวา่  ใหไ้ ปก่อน  ได้เลยไม่ต้องคอย เพราะผู้บรรยายยังมีสัจจะที่เคย  ให้ไว้กับเทวดาว่าจะต้องไปช่วยไม่ให้เขาลงอบายภูมิ  ความโกรธพาไปลงนรก ความโลภพาไปเปน็ เปรต ความ  หลงพาไปเปน็ เดรจั ฉาน เราตอ้ งท�ำใหใ้ จของเราปลอด  จากกิเลส ๓ ตัวนี้ ท่านลองถามตัวเองสิว่า ความโลภ  ความโกรธ ความหลงยังมีอยู่ในใจไหม ถ้ายังมี ให้รีบ  เอาออกเสยี  ถา้ ไมร่ บี กำ� จดั เสยี  ตายเมอื่ ไร เมอื่ นนั้ แยแ่ น่  ลงอบายแนๆ่  ไมไ่ ดก้ ลบั มาเปน็ มนษุ ย ์ ใหร้ บี กำ� จดั กเิ ลส  ๓ ตวั นใ้ี ห้หมดไปจากใจ คนที่ท�ำให้ใจปลอดจากกิเลส  ๓ ตวั นไี้ ดถ้ อื วา่ ดมี าก และถา้ ปดิ อบายภมู ไิ ด ้ กย็ ง่ิ ดมี าก  ขนึ้ ไปอกี  คนทป่ี ดิ อบายภมู ไิ ดม้ คี วามทกุ ข ์ เหลอื เทา่ แค่  ฝุน่ ดินตดิ ปลายเลบ็ เท่าน้ัน 91 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร



บ ท ส่ ง ท้ า ย วันน้ีผู้บรรยายเป็นเพียงคนมาบอกทาง ทางแห่ง ความด ี สว่ นทา่ นจะทำ� หรอื ไมท่ ำ�  กต็ อ้ ง “อตั ตาห ิ อตั โน นาโถ” ตนเปน็ ทพี่ ง่ึ แหง่ ตน คนื นกี้ อ่ นนอนจะสวดมนต ์ หรือไม่สวดก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านสวดมนต์ ท่านก ็ ได้บุญ ถ้าท่านน่ังภาวนาจดจ่ออยู่ที่ลมเข้า ว่า “พุท”  ลมออก ว่า “โธ” นั่นได้บุญใหญ่ มันอยู่ท่ีตัวท่านจะทำ�   หรือไม่ท�ำ ผู้บรรยายเป็นเพียงผู้ช้ีทาง ท่านต้องช่วย  ตัวเอง ไมม่ ใี ครอนื่ ชว่ ยทา่ นได ้ พระพทุ ธเจา้ กช็ ว่ ยไมไ่ ด้  พระพรหมกช็ ว่ ยไมไ่ ด ้ เทวดาบนสวรรคช์ น้ั ไหนกช็ ว่ ยไมไ่ ด้  ถา้ เราทำ� ชวั่  ไมม่ ที างทจี่ ะไดด้ ไี ปไดเ้ ลย อยา่ งผบู้ รรยาย  ต้องเลิกท�ำความช่ัวท้ังปวง ท�ำแต่ความดี ๓๕ ปีแล้ว  บญุ ก็เขา้ สงั่ สมตลอด เราตอ้ งท�ำดว้ ยตวั เราเอง 93 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

เพราะฉะนนั้ วนั นที้ า่ นไดย้ นิ ไดฟ้ งั คนทรี่ จู้ รงิ  คนที่  มปี ระสบการณจ์ รงิ  มาพดู เรอื่ งจรงิ ใหฟ้ งั  ตง้ั แตต่ น้ จนจบ  เปน็ เรอื่ งจรงิ ทงั้ หมด นบั วา่ ทา่ นโชคดที ส่ี ดุ  ผมขอยตุ กิ าร  บรรยายไวเ้ พียงเทา่ น้ ี และขอบคณุ ทุกทา่ นทีม่ ีพระคุณ  ทำ� ใหผ้ บู้ รรยายไดอ้ บรมสง่ั สมบารมใี หเ้ พมิ่ พนู ขน้ึ  ดว้ ย  บญุ ดว้ ยกศุ ลทผี่ บู้ รรยายสง่ั สมมาตงั้ แตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จบุ นั   ขอทุกทา่ นทไี่ ดย้ ินไดฟ้ ังอย่ ู ณ สถานท่แี หง่ น ี้ จงมสี ่วน  ร่วมในบุญในกุศลของผู้บรรยาย จงมีปัญญาเห็นถูก  มีดวงตาเห็นธรรม น�ำพาชีวิตไปสู่ความพ้นทุกข์ใน  อนาคตอนั ใกล้ จงทุกท่านทุกคน เทอญ 94 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

ผภนาวคก ปกิณกธรรม : เร่ืองเลา่ แฝงคติ จากท่านอาจารย์ ดร. สนอง วรอุไร 95 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

อาจารยเ์ คยไปบรรยายธรรมใหผ้ ตู้ อ้ งขงั ตามเรอื นจำ� มาแลว้ หลายแห่ง ตอนหนง่ึ ท่านจงึ ได้เลา่ ขน้ึ ว่า... “เมอ่ื อาทติ ยท์ แี่ ลว้  มนี กั โทษชายจากเรอื นจำ� บาง-  ขวาง มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต เขียนจดหมายมาถึง  ผบู้ รรยาย อยากไดห้ นงั สอื ของผบู้ รรยายอีกหลายเล่ม  เอาไปอ่านเพราะในเรือนจ�ำมีจ�ำนวนไม่พอกับจ�ำนวน  นักโทษท่ีต้องการอ่าน ผู้บรรยายจึงส่งไปให้ และเมื่อ  เรว็ ๆ นไี้ ปทเี่ รอื นจำ� ชายทแี่ มร่ มิ  พบคนหนง่ึ  เขาทำ� พลาด  จึงตอ้ งมารับโทษอยู่ในเรือนจ�ำ เขาบอกผู้บรรยายว่า  เมื่อพ้นโทษแล้วจะไม่กลับบ้าน จะไปบวช ผู้บรรยาย  ยังบอกเขาว่าพูดแล้วต้องไม่ลืม ต้องรักษาสัจจะ และ  ผบู้ รรยายจะเปน็ เจ้าภาพบวชให้ คนดีย่อมมีสัจจะ คน ไม่ดีไมร่ กั ษาสจั จะ” เมอ่ื อาจารยก์ ลา่ วถงึ จติ มนษุ ยท์ ฝ่ี กึ ดแี ลว้  วา่ สามารถ พายอ้ นไปเหน็ อดตี ชาตขิ องตวั เองไดน้ น้ั  ทา่ นไดเ้ ลา่ เสรมิ ว่า... “ในห้องน้ีถ้าใครปรารถนาจะได้เห็นชีวิตหนหลัง  ของตัวเอง ก็ท�ำได้ไม่ยาก เพียงปฏิบัติสมถกรรมฐาน  96 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

จนเขา้ ถงึ ฌาน แลว้ ออกจากฌาน แลว้ จะไดเ้ หน็ แนน่ อน  เปน็ อตั โนมตั  ิ ทกุ คนมรี า่ งกายเปน็ เครอ่ื งมอื เหมอื นกนั   กบั ผบู้ รรยาย งว่ งกน็ อน รอ้ นกอ็ าบนำ�้  หวิ กก็ นิ เหมอื นๆ  กัน ใช้ร่างกายนี้เป็นเครื่องมือพัฒนาจิตให้ตั้งม่ันเป็น  สมาธแิ นว่ แน ่ หรอื สมาธใิ นฌาน เมอื่ ออกจากฌาน จะ  รวู้ า่ ตาทพิ ยม์ จี รงิ  เทวดามจี รงิ  ผขี า้ งถนนมจี รงิ  สมั ภเวสี  ตามเรือนจ�ำก็มีจริง และชอบมาแกล้งคน ผู้บรรยาย  ก่อนบวชกลัวผีสุดจิตสุดใจ ตอนไปบวชเจอตัวจริงเข้า  ในชวี ติ ไมเ่ คยกลวั เทา่ นนั้ มากอ่ นเลย แตก่ ไ็ มว่ งิ่  ประมาณ  ตี ๒-๓ น่ังสมาธิอยู่รูปเดียวในวิหารร้าง วัดมหาธาตุฯ  อาจารย์ของผู้บรรยายคือท่านเจ้าคุณโชดกบอกไว้ว่า  ธรรมะของพระพทุ ธเจา้  ตอ้ งเอาชวี ติ เขา้ แลก ผบู้ รรยาย  จงึ ไมล่ กุ วง่ิ หน ี คดิ แตว่ า่ ถา้ ผจี ะบบี คอใหต้ าย กใ็ หม้ นั บบี   ไปเลย ขอใหไ้ ดธ้ รรมะกพ็ อ ไดเ้ จอของจรงิ เขา้ กบั ตวั  แต่  เพราะเชอ่ื ครบู าอาจารยจ์ งึ ไมว่ ง่ิ แนบ่ เหมอื นพระรปู อนื่ ๆ  ทเี่ คยเจอมากอ่ นแลว้  ตง้ั แตว่ นั นน้ั มาจนทกุ วนั น ี้ แมผ้ ดี ุ  อยา่ งไรกไ็ มก่ ลวั  เพราะรจู้ รงิ เรอื่ งผแี ลว้  และเดย๋ี วนช้ี อบ คบผเี ปน็ เพอ่ื นมากกวา่ คบคน เพราะคนหลอกกนั งา่ ยๆ ส่วนผีไม่มีตัวตนท่ีเห็นได้ด้วยตาเนื้อตาหนัง เขาคอย  ชว่ ยเหลอื อะไรเราได้ง่าย ผู้บรรยายจึงชอบคบผี ชอบ คบเทวดา” 97 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร

และแถมดว้ ยเรอ่ื งของสมั ภเวส ี (หรอื ทเี่ ราทวั่ ไปเรยี ก ว่า “ผี”) ทวี่ ดั แหง่ หนง่ึ ... “วัดม่อนฤาษีท่ีดอยหล่อ ไปทางอ�ำเภอจอมทอง  มผี อี ย ู่ ๒ ตวั  เปน็ ผตี ายโหง หนง่ึ เปน็ พระสงฆ ์ ถกู ยงิ ตาย  หน้าป่าช้า อีกหนึ่งเป็นผู้หญิง ตายด้วยโรคเอดส์ อาย ุ เพียง ๒๐ ต้นๆ ยังไม่ไปเกิด ยังเป็นผีอยู่ที่นั่น คนเขา  กลัวกัน แตผ่ บู้ รรยายไมก่ ลวั เพราะรจู้ รงิ แลว้  ครงั้ หนงึ่   ผู้บรรยายได้ไปประสบเหตุการณ์เกี่ยวกับผีผู้หญิง  ท่ีวัดน้ี วันน้ันเป็นวันสุดท้ายของเดือนมีนาคมท่ีน�ำ  ข้าราชการจากศูนย์สุขภาพเขต ๑๐ ไปฝึกท่ีน่ันเป็น  รนุ่ สดุ ทา้ ย ประมาณบา่ ย ๓-๔ โมง อากาศขา้ งนอกรอ้ น  จึงมาฝึกเดินจงกรมกันในศาลา ขณะท่ีอยู่ในศาลา  น่ันเอง มีข้าราชการคนหนึ่งเขาเห็นผู้หญิงโผล่หน้า  มาท่ีหน้าต่าง แต่งชุดขาว อายุ ๒๐ ต้นๆ เขาก็ชี้ให้  ผบู้ รรยายด ู “อาจารย ์ ดนู นั่  ใครนะ่  ใครนะ่ ” ผบู้ รรยาย  ดูเท่าไรก็ไม่เห็น เพราะเขาไม่ประสงค์ให้เราเห็นเขา  เขาต้องการให้ข้าราชการคนน้ันเห็นคนเดียว ข้าราช-  การเขาก็ยืนยันว่ายืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ ผู้บรรยายกร็ บี   เดนิ ไปนอกศาลา ออ้ มไปตรงทผ่ี หู้ ญงิ เขายนื ทหี่ นา้ ตา่ ง  ก็มองเห็นศาลเจ้าที่เล็กๆ ที่สร้างตามความเชื่อของ  98 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ

คนทางเหนือ และมีลูกหมาตัวเล็กๆ เห่าอยู่ท่ีศาล  ผบู้ รรยายจงึ ไปถามกลมุ่ แมบ่ า้ นทม่ี าท�ำอาหารเลยี้ งวา่   ศาลนี้เป็นของใคร เขาบอกช่ือมา ผู้บรรยายถามว่า  รจู้ กั ตวั เขาไหม เขาบอกวา่ รจู้ กั ด ี ทบี่ า้ นยงั มรี ปู ถา่ ยเลย  วัดม่อนฤาษีนี้อยู่บนยอดดอย หมู่บ้านก็อยู่ตีนดอย  ผบู้ รรยายขอใหเ้ ขาขร่ี ถกลบั ไปเอารปู ถา่ ยมาใหด้  ู เขาก ็ ไปเอามาใหด้  ู เปน็ รปู ผหู้ ญงิ อาย ุ ๒๐ ตน้ ๆ ผบู้ รรยายก ็ นำ� ไปใหข้ า้ ราชการคนนน้ั ด ู เขากบ็ อกวา่ เปน็ คนเดยี วกบั   ท่ีมายืนท่ีหน้าต่างน่ันเอง น่ีแหละผี เขาเรียกว่า สัมภ-  เวสี หลงั จากอบรมครงั้ นน้ั เสรจ็ แลว้  ขา้ ราชการคนน ี้ เขามีก�ำหนดจะไปอินเดีย ผู้บรรยายบอกให้เขาชวน  น้องผู้หญิงท่ีเห็นหน้าต่างไปด้วย น้องเขาคงอยาก  ไปเทยี่ วบา้ ง หลงั จากกลบั จากอนิ เดยี  เขามาเลา่ ใหฟ้ งั วา่   ขาไปบนเครอ่ื งบนิ ทนี่ ง่ั ตดิ กบั เขาวา่ ง ๑ ท ่ี พอถงึ อนิ เดยี   นง่ั รถบสั  ทน่ี ง่ั ตดิ เขากว็ า่ ง ๑ ท ี่ แตค่ นอน่ื มองเหน็ เปน็   คนนง่ั อย ู่ จงึ ไมม่ ใี ครมานั่ง แต่ตัวเขาเองเห็นเป็นเก้าอี้  วา่ ง เดย๋ี วนี้ผตี นนกี้ ็ยงั อยทู่ ว่ี ัดมอ่ นฤๅษี” 99 ด ร . ส น อ ง  ว ร อุ ไ ร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook