Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เตือนจิต สะกิดใจ

เตือนจิต สะกิดใจ

Published by ชมรมกัลยาณธรรม, 2021-05-24 00:03:38

Description: เตือนจิต สะกิดใจ

Search

Read the Text Version

เตอื นจติ สะกดิ ใจ เขมรังสี ภิกขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 1 9/26/13 8:29 PM

เตือนจติ สะกดิ ใจ เขมรงั สี ภกิ ขุ พมิ พ์คร้ังท่ ี ๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖   จ�ำนวนพมิ พ์  ๓๕,๐๐๐ เล่ม จดั พิมพ์โดย วดั มเหยงคณ ์ ต�ำบลหนั ตรา  อำ� เภอพระนครศรอี ยุธยา จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๑๓๐๐๐ โทรศัพท์ : ๐๓๕-๘๘๑-๖๐๑-๒   ๐๘๒-๒๓๓-๓๘๔๘ โทรสาร : ๐๓๕-๘๘๑-๖๐๓ www.mahaeyong.org  www.watmaheyong.org ออกแบบ / จัดท�ำรปู เล่ม / พิสูจน์อกั ษร  คณะศิษยช์ มรมกลั ยาณธรรม พมิ พ์ที ่ บริษทั บุญศริ ิการพมิ พ ์ จำ� กัด  โทรศพั ท์ ๐-๒๙๔๑-๖๖๕๐-๑ WText-Sakid jai Finalnew.indd 2 9/26/13 8:29 PM

WText-Sakid jai Finalnew.indd 3 9/26/13 8:29 PM

นะมัตถุ รัตตะนะตะยัสสะ ขอ ถวายความนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ขอความผาสกุ  ความเจรญิ ในธรรม จงมี แก่ญาตสิ ัมมาปฏบิ ัติธรรมท้ังหลาย ตอ่ ไปกพ็ งึ ตงั้ ใจสดบั ตรบั ฟงั ธรรมะ อนั เปน็ หลกั ธรรมคำ� สอนขององคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้  เพอื่ สง่ เสรมิ ศรทั ธา ปสาทะ ความเพยี ร และสตปิ ญั ญายงิ่ ๆ ขึน้ ไป  4 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 4 9/26/13 8:29 PM

ในจติ ใจของเรา บางครง้ั เกดิ ความ ท้อถอย เกิดความเกียจคร้านในการ ประพฤติปฏิบัติ เนื่องจากขาดปีติหล่อ เล้ียงจิตใจ จิตไม่อ่ิมเอิบผ่องใส ใจไม่ เบิกบาน ไม่มีสมาธิ จึงหมดก�ำลังใจ เกิดความท้อถอย เกดิ ความเกียจคร้าน ถกู อำ� นาจของโกสชั ชะ (ความเกยี จครา้ น) ครอบง�ำ ท�ำให้ส้ินหวัง ท้อถอย ท้อแท้ เพราะฉะนน้ั  เราต้องปลกุ ใจของตนเอง ขน้ึ มา ใหเ้ กดิ มศี รทั ธา เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความ เพยี รขึ้น 5เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 5 9/26/13 8:29 PM

การปลกู สรา้ งศรทั ธาใหเ้ กดิ ความ ขวนขวายพากเพยี ร กใ็ ชว้ ธิ กี ารตา่ งๆ เชน่ การนกึ ถงึ ชวี ติ ของเราซง่ึ มอี ยอู่ กี ไมม่ าก ในชาตินี้ เราเกิดมาแล้ว วันหนึ่งก็ต้อง ละจากโลกน้ีไป เวลาท่ีเราเหลืออยู่น้ี ไม่มากเลย ถ้าน�ำไปเปรียบกับอายุของ พรหม ของเทวดา อายขุ องมนษุ ยน์ จ้ี รงิ ๆ สั้นมาก ช่ัวแป๊บเดียวเท่านั้น ถ้าเทียบ กับเทวดาและพรหม ยกตวั อยา่ ง ในชน้ั ดาวดงึ ส ์ เพยี ง วันหน่ึงคืนหนึ่ง ก็เท่ากับอายุมนุษย์ตั้ง 6 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 6 9/26/13 8:29 PM

๑๐๐ ป ี เทวดามาเกบ็ ดอกไมก้ นั  กำ� ลงั ขน้ึ ตน้ ไม ้ อยใู่ ตต้ น้ ไมบ้ า้ ง บนตน้ ไมบ้ า้ ง นำ� ดอกไมม้ าประดบั เทพบตุ ร ปรากฏวา่ มีนางเทพธิดาตนหนึ่งหมดอายุลงใน ขณะนนั้  ตายลงมาเกดิ เปน็ มนษุ ยผ์ หู้ ญงิ ระลกึ ชาตไิ ดว้ า่ ตนเองเคยอยใู่ นชน้ั เทวดา นั้น นึกถึงสามีตนเองท่ีเป็นเทพบุตร อยากจะกลบั ไปอยใู่ นสวรรค ์ จงึ พยายาม ทำ� บญุ ทำ� กศุ ลอยตู่ ลอดชวี ติ  มคี รอบครวั มีลูกมีเต้า ท�ำบุญทีไรก็ตั้งจิตปรารถนา จะกลบั ไปสสู่ ำ� นกั ของสามตี นเองในสวรรค์ พอหมดอายุขัยก็ตาย แล้วกลับไปเกิด 7เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 7 9/26/13 8:29 PM

ทเ่ี ดมิ  พวกเทวดา นางฟา้  บรวิ าร กย็ งั เกบ็ ดอกไมก้ นั อย ู่ พวกกถ็ ามวา่  “เธอหาย ไปไหน” เธอเล่าว่าไปเกิดเป็นมนุษย์ พวกถามวา่  “เปน็ อยา่ งไร มนษุ ยอ์ ายแุ ค่ ไหน” เธอกเ็ ลา่ ใหฟ้ งั วา่  ไปเกดิ แลว้  ตอ่ มา มคี รอบครวั  มลี กู มเี ตา้  พอหมดอายขุ ยั กต็ าย เทวดากว็ า่  “โอ!้  มนษุ ยน์ อ่ี ายชุ า่ ง สน้ั จรงิ ๆ แลว้ เขาอยกู่ นั อยา่ งไร” เธอตอบ ว่า ส่วนมากก็ประมาทกันอยู่ เทวดาก็ พากนั สลดใจ “โอ!้  ชวี ติ ชว่ั แปบ๊ เดยี ว แต่ เขาก็ยังประมาทกัน” 8 เ ต ื อ น จ ิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 8 9/26/13 8:29 PM

ฉะนั้น บางทีถ้าเราไม่คิด ก็รู้สึก เหมือนกับว่าชีวิตนี้จะอยู่ได้ตลอดไป แต่ความจริงแล้ว ไม่นานเลย วันเวลา ผ่านไปๆ โอกาสที่เราจะได้มาพบพระ พุทธศาสนา โอกาสที่จะได้ประพฤติ ปฏิบัติใช่จะเกิดขึ้นง่ายๆ เราจึงต้อง ขวนขวายเสียตอนนี้ เตือนใจ ปลุกใจ ตนเอง นึกถึงความทุกข์ท่ีรอคอยอยู่ ขา้ งหนา้  ในปจั จบุ นั ชาตนิ  ้ี เรากม็ คี วาม ทุกข์มากอยู่แล้ว ชีวิตที่เกิดมาต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องพลัดพราก ต้องไม่ สมปรารถนา ตอ้ งทกุ ขก์ ายทกุ ขใ์ จ ความ 9เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 9 9/26/13 8:29 PM

เปน็ มนษุ ยน์ มี้ าดว้ ยบญุ  มาสสู่ คุ ตภิ มู  ิ แต่ ก็ยังทุกข์ขนาดน้ี ถ้าไปเกิดในอบายภูมิ คือความเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย สตั วเ์ ดรจั ฉาน ไปดว้ ยบาป ไปดว้ ยอกศุ ล ก็จะยงิ่ ทกุ ขท์ รมานมาก ฉะนน้ั  เวลาทเี่ ราทอ้ ตอ่ ความทกุ ข์ เช่น อากาศร้อน รู้สึกไม่อยากปฏิบัติ เราตอ้ งนกึ วา่  ความรอ้ นในโลกมนษุ ยท์ ่ี เราไดร้ บั น ี้ ยงั เปน็ สว่ นนอ้ ยถา้ ไปเปรยี บ เทยี บกบั ความรอ้ นในนรกทยี่ งั รอคอยอยู่ ถ้าเรายังปฏิบัติไม่ถึงไหน ยังไม่พอท่ีจะ 10 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 10 9/26/13 8:29 PM

ก้าวไปสู่ขั้นของมรรคผลนิพพาน เราก็ ยงั มสี ทิ ธทิ์ จ่ี ะไปเกดิ ในอบายภมู ิ จะตอ้ ง เผชญิ ความรอ้ นกวา่ นมี้ ากมายนกั  หรอื เมอ่ื เราปว่ ยเราเจบ็  เดยี๋ วปวดหลงั  ปวด ขา ปวดหัว ปวดท้อง อ่อนเพลีย เราก็ ตอ้ งระลกึ วา่  ทกุ ขข์ นาดนย้ี งั นอ้ ย ความ ปวดความเจ็บขนาดนีย้ งั นอ้ ย แต่ถ้าเรา ไปเกิดในอบายภูมิ จะต้องปวด เจ็บ ทุกข์มากกว่านี้อีกเยอะ และเป็นความ ทกุ ข์ระยะยาวเสียดว้ ย WText-Sakid jai Finalnew.indd 11 11เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ 9/26/13 8:29 PM

ฉะนั้น เราต้องอดทน ต้องต่อสู้ พากเพยี ร นกึ ถงึ พระพทุ ธเจา้  พระองค์ ก็ใช้ความเพียรปฏิบัติทุกรกิริยาอยู่ ๖ ป ี มหิ นำ� ซำ้� ...พระองคย์ งั เปน็ ลกู กษตั รยิ ์ เคยมีชีวิตอยู่กับความสุขสบายสมบูรณ์ ในพระราชวัง มีปราสาท ๓ ฤดู ลอง คดิ ดวู า่  ผทู้ เี่ คยอยกู่ บั ความเพยี บพรอ้ ม ไปทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วต้องมาอยู่เป็น นักบวช อาหารก็ได้จากชาวบ้านตาม ชนบท ไมป่ ระณตี  ทน่ี อนกไ็ มม่ หี อ้ งหบั อะไร สมยั นนั้ กอ็ าศยั อยเู่ ขา อยถู่ ำ�้  อยู่ โคนไม้ เต็มไปด้วยเหลือบ ยุง ร้ิน ไร 12 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 12 9/26/13 8:29 PM

สัตว์ร้ายนานาชนิด แต่พระองค์ก็ออก มาอยูไ่ ด้ ฉะนนั้  การทเี่ ราเสยี สละบา้ นเรอื น  มาใช้ชีวิตอยู่อย่างน้ี นั่งอยู่โคนไม้บ้าง  อยู่กับดินบ้าง ก็ให้เราภูมิใจว่า เราได้  เดินตามรอยพระพุทธเจ้า เดินตาม  ค�ำสอนของพระพุทธองค์ เกิดความ  ภาคภูมิใจ ปลื้มใจในตนเอง ถ้าน�ำ ไปเปรียบเทียบกับการเสียสละของ พระพุทธองค์แล้ว การท่ีเราสละบ้าน เรือนมาน้ี ช่างเล็กน้อยเสียน่ีกระไร 13เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 13 9/26/13 8:29 PM

พระองคบ์ ำ� เพญ็ ทกุ รกริ ยิ าอยู่ ๖ ปดี ว้ ย การอดอาหาร กลั้นลมหายใจ ท�ำวิธี ทรมานตนทุกอย่างท่ีเขาท�ำกันในสมัย นนั้  ผา่ ยผอมอยา่ งทเี่ ราเหน็ พระพทุ ธรปู ปางบ�ำเพ็ญทุกรกิริยา เวลาที่พระองค์ เอาพระหตั ถล์ บู พระอทุ ร (ทอ้ ง) พระอทุ ร ก็กระทบกับกระดูกสันหลัง เมื่อคล�ำ ท่ีกระดูกสันหลังก็กระทบถึงหน้าท้อง ความทผี่ อมไมม่ เี นอื้  มแี ตห่ นงั หมุ้ กระดกู ก้นก็แหลมเหมือนกับเท้าอูฐ พระองค์ ตรัสเล่าไว้ว่า หนังศีรษะท่ีขาดอาหาร เหี่ยวย่นเหมือนผลน้�ำเต้าที่ถูกแดดเผา 14 เ ต ื อ น จ ิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 14 9/26/13 8:29 PM

จนเหี่ยว พอน�ำพระหัตถ์มาลูบพระวร- กาย พระโลมา (ขน) กห็ ลดุ รว่ งไปเพราะ ขาดอาหาร บำ� เพญ็ อยา่ งน ้ี ๖ ป ี ลกุ ขน้ึ เดนิ จงกรมกล็ ม้ สลบ เผอญิ เดก็ ชาวบา้ น แถวนนั้  เลยี้ งแพะ เลยี้ งแกะ ผา่ นมาเหน็ พระองค์ล้มสลบ ก็ช่วยกันเอาน�้ำ เอา นำ�้ นมมาหยอด พระองคก์ ฟ็ น้ื ขนึ้  ตรอง ดูเห็นว่าท�ำอย่างที่สุดขนาดนี้แล้ว ก็ยัง ไมบ่ รรลสุ มั มาสมั โพธญิ าณ จงึ เรมิ่ เสวย พระกระยาหารอีกครั้ง ปัญจวัคคีย์ ๕ ทา่ นทม่ี าอยปู่ รนนบิ ตั ริ บั ใช ้ เหน็ พระองค์ เรมิ่ หนั มาฉนั อาหาร เขา้ ใจไปวา่ พระองค์ 15เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 15 9/26/13 8:29 PM

คลายความเพียร จึงหนีไป แต่ที่จริง... พระองคพ์ จิ ารณาเหน็ วา่  แมท้ รมานตน อย่างท่ีสุดแล้ว ก็ยังไม่สิ้นกิเลส จึงควร หันไปบ�ำเพ็ญเพียรทางจิต และเม่ือจะ บำ� เพญ็ เพยี รทางจติ  กต็ อ้ งอาศยั กายทมี่ ี กำ� ลงั ตามสมควร ถา้ ไมม่ กี ำ� ลงั เลย กอ็ ยู่ ไมไ่ ด ้ พระองคจ์ งึ ฉนั อาหาร ใหร้ า่ งกาย มีกำ� ลังขน้ึ และในวันท่ีพระองค์จะตรัสรู้น้ัน ทรงต้องผจญกับมาร เมื่อทรงขึ้นน่ังบน บัลลังก์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธ์ิ พระองค์ 16 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 16 9/26/13 8:29 PM

WText-Sakid jai Finalnew.indd 17 17เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ 9/26/13 8:29 PM

ไดอ้ ธษิ ฐานวา่  การนงั่ ครงั้ น ี้ ตราบใดท่ ี ยงั ไมบ่ รรลสุ มั มาสมั โพธญิ าณแลว้  จะ  ยอมตาย แมเ้ ลอื ดและเนอ้ื จะเหอื ดแหง้   ไป เหลอื แตห่ นงั  เอน็  กระดกู  กจ็ ะไม ่ ลุกจากท่ีนี้โดยเด็ดขาด พระองค์ก็นั่ง ตั้งแต่บ่าย พญามารพร้อมเสนามารมา ผจญ ใชศ้ าสตราอาวธุ  ใชท้ กุ วธิ  ี พระองค์ ต้องต่อสู้กับมาร อาศัยบารมีที่ได้ทรง สั่งสมบ�ำเพ็ญมา ในที่สุดทรงสามารถ เอาชนะมารเหลา่ นน้ั  และทำ� ความเพยี ร ทางจิตต่อเน่ืองเร่ือยไป จนปฐมยาม (ช่วงหวั คำ่� ) พระองคก์ ไ็ ดบ้ รรล ุ ปุพเพ- 18 เ ต ื อ น จ ิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 18 9/26/13 8:29 PM

นวิ าสานสุ ตญิ าณ คอื  ระลกึ ชาตไิ ด ้ มอง เหน็ อดตี ชาตขิ องพระองคเ์ องวา่ เคยเกดิ เป็นใคร ท่ีไหน อย่างไร ถอยหลังไป มากมาย พอถึงมัชฌิมยาม (ยามดึก) กท็ รงบรรล ุ จตุ ปู ปาตญาณ หรอื  ทพิ ยจกั ษุ คือ รู้เห็นการเกิด-การตายของสัตว์ท้ัง หลาย ซึ่งเปรียบเหมือนกับคนออกจาก บ้านน้ี...ไปเข้าประตูบ้านนั้น ออกจาก บ้านน้ัน...มาเข้าบ้านนี้ สัตว์ที่ตายจาก โลก...บางทตี ายจากมนษุ ย ์ แลว้ เกดิ เปน็ มนุษย์อีกก็มี บางทีตายจากมนุษย์ ไป เกดิ เปน็ สตั วน์ รก หรอื ไปเปน็ เปรต เปน็ 19เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 19 9/26/13 8:29 PM

อสรุ กาย หรอื บา้ งกไ็ ปเปน็ สตั วเ์ ดรจั ฉาน บางทีตายจากมนุษย์ ก็ไปเป็นเทวดา หรือไปเกิดเป็นพรหม แล้วแต่กรรม บุญ-บาปท่ีตนเองท�ำไว้ บางพวกก็ตาย จากสตั วเ์ ดรจั ฉานมาเปน็ มนษุ ย ์ หรอื ไป เป็นเทวดาก็มี บางพวกตายจากเทวดา มาเป็นมนุษย์ก็มี หรือไปลงนรกก็มี ตายจากพรหมมาเป็นมนุษย์ ตายจาก พรหมไปเปน็ เทวดากม็  ี เหลา่ นพ้ี ระองค์ ทรงมองเหน็  เหน็ วา่ สตั ว์ทัง้ หลายมกี าร เกิด การตาย เวียนว่ายตาย-เกิดตาม กรรมทต่ี นเองท�ำไว้ 20 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 20 9/26/13 8:29 PM

พระองคน์ งั่ โดยไมเ่ ปลย่ี นอริ ยิ าบถ ตลอดต้ังแต่บ่ายมา จนผ่านชนะมาร เจริญอานาปานสติ ก�ำหนดลมหายใจ เขา้ -ออก ไดส้ มาธ ิ ไดฌ้ าน เกดิ อภญิ ญา ได้ ปพุ เพนวิ าสานสุ ตญิ าณ ซง่ึ เปน็ อภญิ - ญาทร่ี ะลกึ ชาตไิ ด ้ แตเ่ มอ่ื ยงั ไมต่ ดั กเิ ลส ก็ยังเป็นปุถุชนอยู่ แม้เม่ือมัชฌิมยาม ทรงบรรลุอภิญญาอีกข้อหนึ่งซ่ึงเป็นผล ของสมถะ คือ จุตูปปาตญาณ คือ รู้ การเกดิ -การตายของสตั วท์ ง้ั หลาย กย็ งั ทรงเป็นปุถุชนอยู่ในช่วงนั้น จนกระทั่ง ปจั ฉมิ ยาม (ยามใกลร้ งุ่ ) พระองคจ์ งึ ทรง 21เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 21 9/26/13 8:29 PM

บรรลุอภิญญาข้อที่เป็นผลของวิปัสสนา คอื  อาสวกั ขยญาณ คอื  ญาณทต่ี ดั อาสวะ กิเลสขาด บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้ รู้แจ้งโลกท้ังหลาย รู้จากความ เปน็ จรงิ  รจู้ ากทกุ ข ์ รจู้ ากเหตใุ หเ้ กดิ ทกุ ข์ ความดับทุกข์ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับ ทกุ ข ์ ชำ� แรกกเิ ลสขาดไปจากจติ ใจ น.ี่ .. พระองค์เด็ดเด่ียวมีความเพียรอย่างน้ัน จึงบรรลธุ รรม พระสงฆท์ อี่ าศยั ค�ำสอนจากพระ- พทุ ธเจ้าก็ปฏิบัติตามพระองค ์ พอได้มา 22 เ ต ื อ น จ ิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 22 9/26/13 8:29 PM

บวช ฟังค�ำส่ังสอนของพระองค ์ เรียนรู้ กรรมฐานแล้ว ก็ออกไปสู่ป่า สู่โคนไม้ สเู่ รอื นวา่ ง ปรารภความเพยี ร กไ็ ดบ้ รรลุ เป็นอริยบุคคล เป็นโสดาบันบ้าง เป็น สกทาคามีบ้าง เป็นอนาคามีบ้าง เป็น พระอรหันต์บ้าง บางรูปใช้ความเพียร อย่างมาก เดินจนเท้าแตกเลือดไหล เดนิ เลอื ดสาด เทา้ เจบ็ เดนิ ไมไ่ ดก้ ค็ ลาน ท�ำความเพียรอย่างหนักขนาดน้ันก็มี แต่พระองค์ทรงฉายนิมิตไปให้ปรากฏ แล้วสอนว่า จงปฏิบัติให้พอดี ความ  เพยี รกบั สมาธติ อ้ งใหเ้ สมอกนั  ศรทั ธา  23เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 23 9/26/13 8:30 PM

กับปัญญาต้องให้เสมอกัน สติน้ันควร  มีใหม้ าก ถ้าเพียรมาก แต่สมาธิไม่ทันกัน จะฟุ้ง ถ้าสมาธิมากกว่า แต่ความเพียร ยอ่ หย่อน จะง่วง ถ้าศรัทธามาก แต่ขาดปัญญา ก็ อาจนอ้ มใจเชอ่ื อะไรง่าย แล้วกห็ ลงทาง ปฏบิ ัต ิ เขา้ ใจทางผดิ ถ้าใช้ปัญญามาก แต่ศรัทธาน้อย วจิ ยั วจิ ารณม์ ากไป อาจกลายเปน็ จบั จด 24 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 24 9/26/13 8:30 PM

ตดั สนิ อะไรไมล่ ง ไมป่ ลงใจอะไรสกั อยา่ ง ผลคอื ไมเ่ ชอ่ื อะไรสกั อยา่ ง หรอื ใชป้ ญั ญา พจิ ารณามากไปจนเลยเถดิ อะไรๆ ก็สูค้ วามพอดไี มไ่ ด้ ในสมัยพุทธกาล มีตัวอย่างพระ สาวกท่ีปรารภความเพียรอย่างย่ิงยวด หลายรปู  บางรปู ใชค้ วามเพยี รในอริ ยิ าบถ ๓ จนกระทั่งส�ำเร็จเป็นพระอรหันต์ อยา่ งพระจกั ขบุ าล ทา่ นอธษิ ฐานปฏบิ ตั ิ ในพรรษา ๓ เดือน ตั้งจิตตั้งเจตนาว่า 25เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 25 9/26/13 8:30 PM

จะไม่นอน จะใช้เพียงอิริยาบถ ๓ คือ ยืนบ้าง เดินบ้าง น่ังบ้าง เดินจงกรม น่ังสมาธิ แต่จะไม่นอนทั้งกลางวันและ กลางคนื ตลอด ๓ เดอื น ตอ่ มานยั นต์ า ของท่านเกิดเจ็บ โยมพาหมอมารักษา หมอให้ยาหยอดท่ีต้องนอนหยอด พอ หมอกลบั ไป ทา่ นกน็ ง่ั หยอดยา วนั ตอ่ มา หมอมาด ู เหน็ วา่ ตายงั ไมห่ ายเจบ็  สอบ- ถามทา่ น ทา่ นไมย่ อมตอบ หมอจงึ ไปดู ทที่ พี่ กั  ไมเ่ หน็ มที น่ี อน กร็ วู้ า่ ทา่ นไมน่ อน หยอดยา หมอก็เลยเลิกรักษา ท่านไม่ ยอมนอนเพราะว่าได้อธิษฐานแล้ว จะ 26 เ ต ื อ น จ ิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 26 9/26/13 8:30 PM

ไมย่ อมเสยี ธรรม แมจ้ ะเสยี ดวงตากย็ อม ท่านท�ำความเพียรจนในท่ีสุด...ตาแตก พรอ้ มๆ กบั ไดบ้ รรลอุ รหนั ต์ สนิ้ อาสวะ กเิ ลส นถ่ี า้ ทา่ นยอมเสยี สจั จะเพราะกลวั ตาจะบอด ชาตนิ นั้ ทา่ นกอ็ าจไมไ่ ดบ้ รรลุ ธรรม ทา่ นกจ็ ะตอ้ งไปทกุ ขอ์ กี หลายภพ หลายชาติ ที่จริง...ท่ีท่านตาบอดก็เกิด จากบาปท่ีท่านท�ำไว้เอง ท่านต้องใช้หน้ี กรรมมาแลว้ หลายภพหลายชาต ิ เพราะ ในอดตี นนั้ เคยปรงุ ยาทำ� ใหเ้ ขาตาบอด... WText-Sakid jai Finalnew.indd 27 27เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ 9/26/13 8:30 PM

ในอดีตชาติหนึ่ง ท่านเป็นหมอ รกั ษาตาเกง่ มาก มแี มล่ กู คหู่ นงึ่  ลกู สาว ตาบอดแม่พามาให้หมอรักษา ถ้าหาย จะยกลูกสาวให้ หมอให้ยาไปรักษา จนหาย ตามองเห็นข้ึนมา แต่สองคน บดิ พลว้ิ แกลง้ ทำ� เปน็ วา่ ยงั ไมห่ าย ไมอ่ ยาก จะเปน็ เมยี หมอ หมอรทู้ นั  บอกวา่  ถา้ ยงั ไมห่ าย กเ็ อายาไปใสเ่ พมิ่ อกี  คราวหลงั น้ีเอายาพิษใส่ให้ไป ตาเลยกลับบอด อย่างเดิม ด้วยกรรมอันน้ันท่านไปตก นรก ใชห้ นกี้ รรมในนรก พอมาเกดิ เปน็ มนษุ ยก์ ต็ าบอดอยอู่ ยา่ งน ี้ เกดิ มาชาตใิ ด 28 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 28 9/26/13 8:30 PM

กต็ าบอดอกี  กรรมทที่ ำ� แลว้ ไมไ่ ดใ้ หผ้ ล  คร้ังเดียว แต่ให้ผลไปหลายภพหลาย  ชาติ เป็นไปตามกฎแห่งกรรม แต่ใน ชาติสุดท้าย อาศัยที่ท่านมีสัจจะกับ ตวั เอง ไมย่ อมเสยี ธรรมะ แมต้ าจะแตก ก็ยอมให้แตก ท่านจึงบรรลุธรรมเป็น พระอรหันต์ได้ ท่านจึงไม่ต้องไปเวียน วา่ ยตาย-เกดิ ใหท้ กุ ขท์ รมานซำ้�  เกดิ ซำ้� ๆ แก่ซ�้ำๆ เจ็บซ�้ำๆ ตาบอดซ�้ำๆ อยู่อย่าง นนั้  กจ็ บแค่น้ัน WText-Sakid jai Finalnew.indd 29 29เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ 9/26/13 8:30 PM

ภกิ ษอุ กี รปู หนง่ึ ทใ่ี ชค้ วามเพยี ร คอื พระตสิ สะ กอ่ นบวชทา่ นเปน็ ลกู เศรษฐี มที รพั ยม์ ากถงึ  ๔๐ โกฏ ิ แตท่ า่ นกอ็ อก บวช บวชแลว้ ออกไปอยปู่ า่ บำ� เพญ็ สมณ ธรรม ปฏบิ ตั ธิ รรม ปรากฏวา่ นอ้ งสะใภ้ ละโมบโลภมาก หวังจะฮุบเอาสมบัติ มรดกไวท้ ง้ั หมด เกรงวา่ ถา้ พส่ี ามเี กดิ สกึ กลบั มา กจ็ ะตอ้ งแบง่ มรดกกนั  จงึ จา้ งวาน โจรใหไ้ ปฆา่ พระตสิ สะ โจรกม็ ารายลอ้ ม ทา่ นในปา่  หมายจะฆา่  พระตสิ สะบอก โจรว่า จะฆ่าก็ไม่ว่าอะไร แตข่ อชวี ติ ไว้ อกี  ๑ คนื ไดไ้ หม โจรไมย่ อม กลวั วา่ ทา่ น 30 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 30 9/26/13 8:30 PM

จะหาอุบายหลบหนีไป ท�ำอย่างไรโจรก็ ไม่ยอม ทา่ นกค็ ดิ ว่า ท�ำอยา่ งไร โจรจะ เชอื่ วา่ ทา่ นจะไมห่ น ี ทา่ นอยากจะปฏบิ ตั  ิ ธรรมเพื่อให้บรรลุธรรม ไม่อยากตาย  อยา่ งมกี เิ ลส เพราะตายอยา่ งคนมกี เิ ลส  มานบั ครง้ั ไมถ่ ว้ นแลว้  แตเ่ มอ่ื โจรไมย่ อม ไวช้ วี ติ  ในทส่ี ดุ  ทา่ นกเ็ ลยเอากอ้ นหนิ ท่ี อยขู่ า้ งหนา้  ทบุ ขาทงั้ สองขา้ งของตวั เอง ใหแ้ ตกหกั ตอ่ หนา้ โจร เพอ่ื ขอเพยี งมชี วี ติ อยู่อีกคืนหนึ่ง โจรก็เลยยอม แต่ก็จุด คบเพลงิ รายลอ้ มไว ้ พระตสิ สะทา่ นนงั่ ทำ� ความเพียรข่มทุกขเวทนา พวกเราลอง 31เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 31 9/26/13 8:30 PM

32 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ 9/26/13 8:30 PM WText-Sakid jai Finalnew.indd 32

คดิ ดวู า่  ขาทแ่ี ตกหกั จะเจบ็ ปวดขนาดไหน  ทา่ นกข็ ม่  ควบคมุ อารมณ ์ กายจะปวดก็ ปวดไป รกั ษาใจไวไ้ มใ่ หป้ วดดว้ ย ไมท่ กุ ข์ ดว้ ย ด.ู ..กำ� หนดไปกม็ สี ตสิ ลบั กนั  รปู้ วด ดว้ ย รใู้ จดว้ ย ดไู ปๆ กเ็ หน็ ปวดสว่ นปวด กายสว่ นกาย ใจสว่ นใจ ใจกเ็ ลยไมท่ กุ ข์ กายทุกข์แต่ใจไม่ทุกข์ด้วย ก�ำหนดไป กำ� หนดมา กเ็ หน็ สภาวะ รปู  นาม เวทนา สญั ญา สงั ขาร วญิ ญาณ มคี วามเปลยี่ น แปลง เกิด-ดับ ย่อยยับ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนตั ตา เหน็ ความไมใ่ ชต่ วั  ไมใ่ ช่ ตน จติ ใจเบอ่ื หนา่ ย คลายกำ� หนดั  ทสี่ ดุ ... 33เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 33 9/26/13 8:30 PM

จติ กพ็ น้ จากอาสวะกเิ ลส บรรลเุ ปน็ พระ อรยิ บคุ คลอยา่ งน.้ี ..แมจ้ ะถกู ฆา่  กไ็ มต่ อ้ ง ไปตายซ้�ำๆ อีก น่ีเขาเรียกว่าปรารภ ความเพียร ภิกษุอีกรูปหนึ่งไปบ�ำเพ็ญความ เพียรปฏิบัติอยู่ในป่า เดินจงกรม นั่ง สมาธิต่อเนื่องกัน เมื่อเดินมากๆ เท้าก็ แตกเจบ็ จนเดนิ ไมไ่ หว เมอ่ื เดนิ ไมไ่ ด ้ ทา่ น ก็คลานจงกรม ท่านคลานบ้าง นั่งบ้าง ตะคุ่มๆ อยู่แถวพุ่มไม้ วันน้ันเวลาโพล้ เพล ้ มนี ายพรานไปลา่ สตั ว ์ เหน็ ตะคมุ่ ๆ 34 เ ต ื อ น จ ิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 34 9/26/13 8:30 PM

นายพรานนึกว่าเป็นพวกเน้ือ พวกสัตว์ ก็พุ่งหอกออกไป หอกไปเสียบอกพระ ภิกษุน้ัน นายพรานเข้าไปดูก็ตกใจ แต่ พระทา่ นไมว่ า่  ไมโ่ กรธ ขอใหน้ ายพราน ชว่ ยดงึ หอกออก พอดงึ หอกออก เลอื ด กพ็ งุ่ ทะลกั ออกมามาก ทา่ นกข็ อใหช้ ว่ ย ไปเอาหญ้ามาม้วนๆ อุดรูแผลไว้ก่อน และให้ช่วยประคองไปน่ัง ท่านก็นั่งท�ำ ความเพียรอยู่ ยอมตาย ท่านก�ำหนด ไปเร่ือยอย่างท่ีว่าน ่ี จะปวด จะเจ็บ จะ ทุกข์ทรมานขนาดไหนก็พยายามต้ังสติ ไว ้ รกั ษาจติ ไว ้ ดจู ติ ไว ้ รกั ษา พจิ ารณา 35เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 35 9/26/13 8:30 PM

จิตไม่ทุกข์ด้วย ในที่สุด...ท่านก็บรรลุ เปน็ พระอรยิ บุคคล ฉะนั้น ถ้าเรามีความพากเพียร ความสำ� เรจ็ กจ็ ะเกดิ ขน้ึ  การเขา้ ถงึ ธรรมะ  เปน็ อรยิ ทรพั ย ์ เปน็ ทรพั ยอ์ นั ประเสรฐิ   มีค่าสูงล�้ำกว่าสมบัติภายนอก สมบัติ ภายนอกจะเป็นที่ดินกี่ไร่ เงินทองใน ธนาคารเท่าไร บ้านก่ีหลัง ยศอ�ำนาจ สูงส่ง หรือข้าทาสบริวารแค่ไหนก็ตาม กส็ อู้ รยิ ทรพั ยอ์ นั เปน็ ทรพั ยภ์ ายในนไี้ มไ่ ด้ ย่ิงถ้าถึงขั้นบรรลุมรรคผลนิพพาน ค่า 36 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 36 9/26/13 8:30 PM

ของธรรมะยงิ่ สงู กวา่ กนั มาก ลองพจิ ารณา ดวู า่  ทรพั ยส์ มบตั ภิ ายนอก ยศถาบรรดา  ศักด์ิต่างๆ ดับทุกข์ให้เราได้ไหม เอา  ชนะความแก ่ ความเจบ็  ความตายได ้ ไหม ดบั ความพลดั พราก ความเศรา้ โศก  ในใจเราไดไ้ หม ดบั ไมไ่ ด ้ แกไ้ มไ่ ด ้ แม้ จะมีเงินทองทรัพย์สมบัติ บางทีก็นอน ทุกข์อยู่ในกองทรัพย์นั้น มีเงินหลาย หมื่นล้านก็ยังด้ินรนกระวนกระวาย จะ มยี ศถาบรรดาศกั ดติ์ ำ� แหนง่ สงู สดุ ขนาด ไหน ก็ยังเร่าร้อนถ้าหากว่าจิตไม่ได้เข้า ถึงธรรม แล้วก็ไม่ได้ทุกข์แค่ชาติน้ีชาติ 37เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 37 9/26/13 8:30 PM

เดยี ว ตอ้ งไปทกุ ขซ์ ำ้� ๆ อยอู่ ยา่ งนน้ั ไมจ่ บ ไมส่ นิ้ แต่หากเข้าถึงธรรม บรรลุธรรม ระดับใดระดับหนึ่ง ก็สามารถปิดประตู อบาย เพยี งแคโ่ สดาปตั ตมิ รรคกป็ ดิ ประตู อบายไดส้ นทิ  ไมต่ อ้ งไปเกดิ เปน็ สตั วน์ รก เปรต อสรุ กาย สตั วเ์ ดรจั ฉาน และเกดิ อย่างมากที่สุดอีกเพียง ๗ ชาติ ก็จะ ส�ำเร็จเป็นพระอรหันต์ หรือถ้าหากเรา ไม่ถึงขั้นโสดาบัน แต่ถ้าเราได้เห็นรูป เหน็ นาม ไดเ้ หน็ สภาวะเกดิ -ดบั  กถ็ อื วา่ 38 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 38 9/26/13 8:30 PM

เปน็  จลุ โสดาบนั  คอื ไดแ้ นวทาง ไดร้ จู้ กั ทางเดนิ  เดนิ ตามทางน ้ี เหมอื นเราอยใู่ น ถ�้ำมืดมานาน เร่ิมมีแสงสว่างประกาย ขึ้นนิดหนึ่งให้เห็น เราก็จะมีแนวทาง ท่ีจะออกจากถ�้ำได้ด้วยการเดินไปตาม แสงนั้น หรือเราหลงอยู่ในป่ามานาน เราจะออกอย่างไร เม่ือเรามีผู้น�ำทาง เริ่มมองเห็นทางเดิน เราก็มีโอกาสจะ ออกจากปา่ ได้ ฉะน้ันแล้ว ก็ในเมื่อสิ่งท่ีเรียกว่า “ธรรมะ” นน้ั สงู คา่ อยา่ งน ้ี เราจะไมย่ อม 39เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 39 9/26/13 8:30 PM

ลงทุนลงแรงพากเพียรท่ีจะให้ได้ให้ถึง หรือ เราลงทุนลงแรงกับการหาทรัพย์ ภายนอก เหนด็ เหน่ือยยากล�ำบาก เรา ยังท�ำได้ ท้ังๆ ที่ท�ำแล้วก็ไม่ได้ดีอะไร แค่ไหน แต่การลงทุนลงแรงเพ่ือให้ได ้ อริยทรัพย์ เม่ือได้แล้วถึงแล้ว จะเป็น  ประโยชน ์ เปน็ ความดบั ทกุ ขใ์ หต้ นเอง  เราจะไม่ลงทุนลงแรงหรือ ดังนั้น เม่ือ ยงั มสี งั ขาร ยงั มรี า่ งกาย ยงั มชี วี ติ จติ ใจ เราจะตอ้ งสละ ลงทนุ ลงแรง พากเพยี ร อดทน ต่อสู้กับความทุกข์ยากล�ำบาก แตก่ ไ็ มใ่ ชว่ า่ เราจะทนแบบดอื้ ๆ ไปอยา่ ง 40 เ ต ื อ น จ ิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 40 9/26/13 8:30 PM

นั้น เราต้องมีศิลปะ มีวิธีการ มีความ ฉลาดในการปฏิบัติ จริงอยู่...เรามีเป้า หมายต่อความดับทุกข์ มีเป้าหมาย ต่อการละกิเลส แต่ไม่ใช่ต้องท�ำด้วย ความทะยานอยาก เพียรปฏิบัติก็จริง แตไ่ มใ่ ชเ่ พยี รดว้ ยใจเรา่ รอ้ น ไมใ่ ชเ่ พยี ร ด้วยความทะยานอยากจะเอาให้ได้ ปรารภความเพยี รใหต้ อ่ เนอื่ ง แตร่ กั ษา  ใจใหป้ กตไิ ว ้ มสี ตหิ ยงั่ รสู้ ภาพธรรมใน  ตนเอง WText-Sakid jai Finalnew.indd 41 41เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ 9/26/13 8:30 PM

สภาพธรรมในตนเองก็มีทั้งใน กายและในใจ ความรู้สึกในกายก็มีเช่น รู้สึกเย็น รู้สึกร้อน รู้สึกอ่อน รู้สึกแข็ง รสู้ กึ หยอ่ น รสู้ กึ ตงึ  รสู้ กึ สบาย ไมส่ บาย นี่แหละ ระลึกให้ตรงความรู้สึก ส่วน สภาวะทางใจก็มีอยู่เหมือนกัน ระลึก ให้ตรงลักษณะความนึกคิด คิดก็ให้รู้ รู้คิด รู้ลักษณะของอาการความรู้สึก ปฏิกิรยิ าทีป่ รงุ แต่งอยใู่ นจติ ใจ ให้ระลึก สังเกตว่า สภาพของจิตขณะน้ี...ถ้า สบายใจ ก็รู้ลักษณะสบายใจ, จิตไม่ สบายใจ ก็รู้ลักษณะความไม่สบายใจ, 42 เ ต ื อ น จ ิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 42 9/26/13 8:30 PM

จติ สงบ กร็ วู้ า่ ลกั ษณะจติ สงบเปน็ อยา่ งน,ี้ จิตไม่สงบ ก็รู้ว่าลักษณะของจิตไม่สงบ เป็นอย่างนี้, จิตมีความพอใจก็รู้, จิต ไม่พอใจก็รู้ ระลึกรู้ให้ตรงลักษณะของ สภาวธรรมทีป่ รากฏอยู่ สงั เกตความสขุ  ความทกุ ขใ์ นกาย มันปวดหรือเจ็บก็ตาม มันเหน่ือย มัน แน่น จิตใจยังว้าวุ่น จิตใจยังวุ่นวาย ใจ ไมส่ งบ ดเู ขาไป อาศยั ความอดทนอดกลน้ั นง่ิ ด ู นง่ิ รเู้ ขา วางใจเฉยๆ ตอ่ เขา อยา่ งน้ี เรียกว่ามีความเพียรอยู่ ความเพียรใน 43เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 43 9/26/13 8:30 PM

ท่ีน้ีคือ เพียรระลึกรู้ เพียรต้ังใจ เพียร ปฏิบัติ แต่ให้มันพอดี เพียรอย่างมี ความเหมาะสมพอด ี เจรญิ สตใิ หต้ อ่ เนอ่ื ง กัน คือเพียรมีสติอย่างถูกต้อง เพียร ระลึกรู้ให้ถูกต้อง ตรงทาง ตรงธรรม ระลึกให้ตรงต่อสภาวะท่ีก�ำลังปรากฏ แลว้ กป็ ลอ่ ยวางในท ี เรยี กวา่  รตู้ รง รเู้ ปน็ ตรงด้วย เป็นด้วย “ตรง” คอื  ระลกึ ใหต้ รงตอ่ สภาวะ รูป-นามที่ก�ำลังปรากฏ สภาวะนั้นมัน เป็นจริง มีอยู่จริง ถ้าไม่ตรงก็จะเลยไป 44 เ ต ื อ น จ ิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 44 9/26/13 8:30 PM

สู่บัญญัติ “เปน็ ” กค็ อื  วางทา่ ทขี องการระลกึ น้ีให้เหมาะสม ให้เป็นกลาง ไม่ใช่ไป เพ่งเอาๆ จะเอาให้ได้ มันก็ล้�ำหน้าเกิน เลย ไมพ่ อด ี ตอ้ งวางใจใหพ้ อด ี จะพอดี ไดก้ ต็ อ้ งมกี ารฝกึ หดั ใหป้ ลอ่ ยใหว้ างอย่ ู ในท ี เวลาระลกึ รทู้ ไี รกป็ ลอ่ ยวาง หรอื สักแต่ว่า หรือไม่ว่าอะไร สักแต่ว่า... สกั แตว่ า่ ร ู้ ร.ู้ ..สกั แตว่ า่ ร ู้ เหน็ ...สกั แตว่ า่ เห็น ไม่เข้าไปยินดียินร้าย ไม่เข้าไป บงั คบั จดั แจง ไดย้ นิ ...สกั แตว่ า่ ไดย้ นิ  ไม่ 45เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 45 9/26/13 8:30 PM

ยินดียินร้าย ไม่เข้าไปบังคับ ไม่เข้าไป จัดแจง รู้อย่างสักแต่ว่ารู้ รู้อย่างไม่ว่า อะไร ส่ิงทั้งหลายจะเป็นไปอย่างไร ก็ รู้ไปอย่างน้ัน เขาจะเกิดก็เกิด เขาจะ เส่ือมก็เสื่อม จะดับก็ดับ มีก็มี ไม่มีก็ ไม่มี ก็แล้วไป ดูเขาเฉยๆ ให้เป็นผู้ดู อย่างวางอย่างปล่อย ดูตรงด้วย ดูเป็น ด้วย พร้อมกับสังเกตพิจารณาไปด้วย สังเกตความเปลี่ยนแปลง สังเกตความ เกดิ -ดบั  สงั เกตความไมใ่ ชต่ วั ตน ดซู วิ า่ มันใช่ตัวเราของเราไหม แต่อย่าไปคิด ยาวหรือคิดมาก เอาแค่สังเกตชั่วขณะ 46 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 46 9/26/13 8:30 PM

WText-Sakid jai Finalnew.indd 47 47เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ 9/26/13 8:30 PM

หนง่ึ ที่เป็นปัจจุบันอยู่ นี่แหละคือทางเดิน เดินตามทาง อย่างนี้ ทางเดินของวิปัสสนา ก็คือ รปู  นาม ปรมตั ถ ์ สตเิ มอื่ ระลึกรู้อยู่กับ ปรมัตถธรรมอย่างนี้ ก็เท่ากับก�ำลัง เดินทางอยู่ จุดหมายปลายทางก็คือ มรรคผลนิพพาน ไม่มีเส้นทางอ่ืนท่ีจะ เข้าสู่มรรคผลนิพพานได้ แม้เบ้ืองต้น เราจะปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร แตกตา่ งกนั อยา่ งไร กต็ าม ทสี่ ดุ แลว้ ตอ้ งรวมเขา้ มารรู้ ปู -นาม หรอื ปรมตั ถ ์ หรอื สภาวะทก่ี ำ� ลงั ปรากฏ 48 เ ต ื อ น จิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 48 9/26/13 8:30 PM

จงึ จะเหน็ ความเกดิ -ดบั  จงึ จะเหน็ อนจิ จงั ทกุ ขงั  อนตั ตา การถา่ ยถอนกเิ ลสตอ้ ง  อาศยั การมปี ญั ญารแู้ จง้  ปญั ญาจะรแู้ จง้   ตามความเปน็ จรงิ  กต็ อ้ งอาศยั การมสี ต ิ ระลึกรู้ตรงต่อสภาวะอย่างถูกต้องอยู ่ เสมอๆ ระลกึ ไป ระลกึ ไป บอ่ ยๆ เนอื งๆ แต่ไม่ใช่ระลึกทีเดียวให้เห็นแจ้งเลย มันไม่ได้ เพราะก�ำลังของสติยังสะสม มาไม่พอ ต้องค่อยๆ สะสมๆ สะสมๆ ไป ระลกึ ไปกอ่ น ระลกึ ไปเรอ่ื ยๆ ถา้ เรา ใจร้อนจะระลึกให้มันแจ่มแจ้ง ไปเพ่ง เบง่  เครง่ ตงึ  อยา่ งนนั้ ไมไ่ ด ้ ตอ้ งดเู บาๆ 49เ ข ม ร ั ง สี ภ ิ ก ขุ WText-Sakid jai Finalnew.indd 49 9/26/13 8:30 PM

ตอ้ งระลกึ รอู้ ยา่ งเบาๆ นมุ่ นวล สละสลวย เวลาก�ำหนดสภาวะทางกายได้แล้ว จะ น้อมรู้ทางใจก็ต้องให้ปกติไว้ รักษา ความสงบ นิ่งๆ ค่อยๆ สังเกตสภาพ ของจิต ถ้าไปเพ่งมาก ค้นหามาก ก็จะ เครียด เคร่งตึง การปฏบิ ตั ทิ ำ� ไดท้ กุ อริ ยิ าบถ การ เจริญสติเขา้ สสู่ ภาวะปรมตั ถ์น ้ี ไมว่ ่าจะ ยืน เดิน นั่ง นอน ภายในมันเหมือน กนั  มีเยน็  มรี อ้ น มตี งึ  มีไหว มหี ยอ่ น มีรู้สึกสบาย ไม่สบาย มีคิด มีนึก มี 50 เ ต ื อ น จ ิ ต ส ะ ก ิ ด ใ จ WText-Sakid jai Finalnew.indd 50 9/26/13 8:30 PM