Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PiksuArPard

PiksuArPard

Published by ชมรมกัลยาณธรรม, 2021-03-15 07:33:02

Description: PiksuArPard

Search

Read the Text Version

50 ก็ล้าง  เขาคิดว่านี่คือสิ่งท่ีดีที่สุดที่จะมอบให้กับผู้ป่วย  แต่เขาลืม ไปว่าส่ิงเหล่าน้ันอาจจะไม่ดีกับผู้ป่วย  มันอาจท�ำร้ายผู้ป่วยหนัก กว่าเดิม  เขาไม่รู้ว่ามีวิธีการอื่นท่ีควรท�ำ  นั่นคือการดูแลจิตใจ  ของแม่ ความกตัญญูของคนสมัยนี้  เป็นความกตัญญูบนพื้นฐาน ของการไมเ่ ขา้ ใจความจรงิ ของผปู้ ว่ ย เปน็ ความกตญั ญบู นพนื้ ฐาน ของความไม่รู้  ไม่รู้ว่ามีวิธีอ่ืนท่ีดีกว่าการย้ือ  ไม่รู้ว่า  นอกจาก การดแู ลกายแลว้  การดแู ลใจกส็ ำ� คญั  ไมร่ วู้ า่ การยอ้ื หลายๆ ครง้ั ท�ำใหเ้ กิดความทกุ ข์ทรมานกับผ้ปู ว่ ยมากขนึ้  อนั นเ้ี ปน็ หนา้ ทีข่ อง หมอและพยาบาลในการแนะนำ� ผปู้ ว่ ยและญาต ิ แตห่ มอสว่ นใหญ่ มกั ไมม่ ีเวลา พยาบาลก็จะช่วยตรงนีไ้ ด้ หลายโรงพยาบาล  อาทิ  ศิริราช  จุฬาฯ  รามาฯ  เดี๋ยวนี้ มีแผนก  Palliative  Care  หรือบางแห่งต้ังเป็นศูนย์  เช่น ศูนย์ชีวันตารักษ์  ศูนย์ชีวาภิบาล  ศูนย์การุณรักษ์  มีหมอและ พยาบาลใหค้ ำ� แนะนำ�  แตเ่ ขาจะทำ� อะไรได ้ กต็ อ่ เมอื่ หมอเจา้ ของไข้ ตดิ ต่อไป ถ้าเจา้ ของไข้ต้องการยอ้ื  เขาจะเข้าไปช่วยผู้ป่วยไมไ่ ด้ เขาจะท�ำได้ก็ต่อเม่ือหมอเจ้าของไข้มาขอความช่วยเหลือ  อันนี้ จึงเป็นหน้าที่ของญาติ  ที่จะต้องไปบอกหมอเจ้าของไข้ว่า ฉนั ไมอ่ ยากใหย้ อื้ ผปู้ ว่ ยแลว้  ขอใหด้ แู ลผปู้ ว่ ยแบบประคบั ประคอง หมอและพยาบาลที่ดูแลแบบประคับประคองจึงจะยื่นมือเข้ามา ช่วยได้ การดแู ลภิกษอุ าพาธระยะทา้ ย ท�ำไมและอย่างไร

51   นอกเหนอื จากการดแู ลทางรา่ งกายตามหลกั การ แล้ว  ก็ต้องการการดูแลด้านจิตใจด้วย  ผู้ท่ีจะให้ค�ำตอบเร่ืองนี้ ได้ดีก็คือพระ  แต่ประสบการณ์ของผม  ตอนดูแลพระอุปัชฌาย์ คือเราคุยกันแล้วว่า  ช่วงท้ายท่านตามใจญาติ  ทุกคนเห็นด้วย ปรากฏว่าบังเอิญพระผู้ใหญ่มาเย่ียม  แล้วส่ังให้เอาตัวไปโรง พยาบาลเดี๋ยวนั้นเลย  เราก็ท�ำอะไรไม่ได้  จริงๆ  พระควรจะให้ ค�ำแนะน�ำเรื่องการดูแลใจ  แต่น่ีเราเตรียมของเราส่วนหนึ่ง  แต่ พอพระสง่ั ใหไ้ ปโรงพยาบาล แบบนเี้ รากท็ ำ� อะไรไมไ่ ด ้ กลายเปน็ หลวงพ่อไปโรงพยาบาล  มรณภาพท่ีโรงพยาบาล  ผมว่าเป็น จุดอ่อนอย่างหน่ึง  ถ้าเราสามารถจะดูแลใจได้  แล้วพระมีข้อมูล มีเทคนิคมีรูปแบบ  เข้าไปช่วยเหลือได้อย่างน้ี  น่าจะท�ำให้เกิด คุณปู การตอ่ ทงั้ คนไข ้ และโรงพยาบาลระบบการแพทย์   กรณนี  ี้ ถา้ พระอปุ ชั ฌายท์ า่ นเขยี นพนิ ยั กรรมชวี ติ ไว้ว่าไม่ต้องการให้ย้ือ  ไม่ว่าเจ้าคณะอ�ำเภอจะสั่งอย่างไร  เราก็ สามารถขัดขืนค�ำสั่งได้  เพราะว่าต้องท�ำตามเจตนาของผู้ป่วย ที่ระบุเอาไว้  แต่พอไม่มีพินัยกรรมชีวิต  ก็มักจะลงเอยแบบน้ี ฆราวาสก็เจอแบบนี้เหมือนกัน  พอพ่อแม่ป่วยหนัก  บอกลูกว่า ไมไ่ ปโรงพยาบาล แตพ่ อญาตผิ ใู้ หญม่ า สงั่ ลกู หลานใหพ้ าผปู้ ว่ ย ไปโรงพยาบาล  ก็ต้องท�ำตาม  ลูกหลานบางทีก็ทนกระแสสังคม ไมไ่ ด ้ สงั คมรอบขา้ งไมเ่ ขา้ ใจวา่  ทำ� ไมไมพ่ าผปู้ ว่ ยไปโรงพยาบาล พระไพศาล วสิ าโล

52 ทำ� ไมไมย่ อื้  ทำ� ไมไมผ่ า่  ไมเ่ จาะคอ ใสท่ อ่  บางคนไปโรงพยาบาล แต่เลือกท่ีจะไม่ยื้อ  ก็จะมีญาติผู้ใหญ่มากดดันลูก  ถ้าลูกไม่ เขม้ แขง็ พอ แลว้ พอ่ แมเ่ กดิ โคมา่  ไมส่ ามารถสอ่ื สารอะไรได ้ กจ็ ะ ลงเอยที่การยื้อ  เดินไปตามระบบมาตรฐานที่เป็นสูตรส�ำเร็จ กลายเป็นโศกนาฏกรรมซ�้ำซาก  คือแม้จะบอกว่า  “ฉันไม่ไป ฉนั ไมไ่ ป” สุดท้ายก็ต้องไป เพราะว่าถูกกดดัน ส่ิงนี้เกิดข้ึนกับ ฆราวาส กับพระกเ็ ชน่ กนั นค่ี อื เหตผุ ลวา่  ทำ� ไมพระผใู้ หญจ่ ำ� นวนมาก ตอ้ งไปลงเอย ด้วยการย้ือ  ที่โรงพยาบาลใหญ่ๆ  อยู่ในห้องไอซียู  มีสายระโยง ระยาง หรอื เฟอรน์ เิ จอรม์ ากมายเตม็ ตวั  ทง้ั เปลอื งเงนิ  ทง้ั สรา้ ง ความเจ็บปวด  อีกท้ังยังท�ำให้เกิดค่านิยมผิดๆ  ในหมู่คนท่ัวไปว่า ถ้าจะตาย  ต้องไปตายที่โรงพยาบาล  แล้วก็ต้องยื้อจนสุดล่ิม ทิ่มประตู  พระเราควรจะทวนกระแสค่านิยมผิดๆ  ที่ว่านี้  คือว่า ความตายไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว  ความตายไม่ใช่เรื่องท่ีต้องต่อสู้ ขัดขืน ความตายคอื สิ่งที่เราควรพร้อมจะยอมรับ ท่านอาจารย์พุทธทาสก็พยายามท�ำเรื่องนี้  ท่านส่ังไว้ ชัดเจนว่า  เม่ือท่านป่วยหนักและใกล้มรณภาพ  ขออย่าได้มี เครื่องช่วยชีวิตใดๆ  ติดตัวท่าน  ขอให้ท่านมรณภาพอย่าง ธรรมชาติ  ท่านไม่ต้องการให้มีการย้ือชีวิตท่านด้วยวิธีการใดๆ เพราะท่านไม่ต้องการหอบสังขารหนีความตาย  พระเราควร การดูแลภกิ ษุอาพาธระยะท้าย ทำ� ไมและอยา่ งไร

53 เปน็ แบบอยา่ งใหแ้ กญ่ าตโิ ยม ทง้ั ในยามอยแู่ ละยามตาย เมอ่ื อยู่ ก็อยู่อย่างสงบเย็น  โปร่งเบา  เมื่อจะตาย  ก็ไม่หนีความตาย พรอ้ มเผชญิ ความตาย เพราะเรารวู้ า่  การตายอยา่ งสงบ มนั เปน็ ไปได้  ไม่จ�ำเป็นต้องมีเคร่ืองเคราหรือเทคโนโลยีเต็มตัว  ผมว่า น่ีคือการแสดงธรรมส�ำคัญที่พระเราควรท�ำ  ทั้งในยามอยู่  และ ในยามตาย  แต่เด๋ียวนี้  พระเราไม่คิดจะแสดงธรรมในยามตาย เพราะว่าเราท�ำตามกระแสสังคม  ปล่อยให้โลกน�ำธรรมไป  จึง เกดิ ความเขา้ ใจและคา่ นยิ มทีผ่ ิดเพ้ียน ตอนนี้เมืองนอกหลายประเทศพยายามเปลี่ยนทิศทาง เขาไมเ่ อาแลว้ เรอื่ งการยอ้ื แบบน ้ี ฆราวาสในเมอื งไทยกม็ แี นวโนม้ ว่าจะไม่ท�ำอย่างนี้แล้ว  เขาเลือกท่ีจะตายอย่างสงบกันเยอะแล้ว แต่พระเรากลับพากันตายแบบทรมาน  ทั้งๆ  ท่ีเราควรเป็นแบบ อย่าง หรือเปน็ ผนู้ �ำฆราวาสดว้ ยซ้ำ�   กราบเรียนถามพระอาจารย์ครับ  ประสบการณ์ ของผม มีโยมท่ีบางทีเขาเสียชีวิตในบ้านครับ  มันจะมีข้อทาง กฎหมาย  ในเรื่องของการชันสูตรการเสียชีวิต  กับพระเราก็ เหมอื นกนั  มกี ารชนั สตู รพลกิ ศพ ซงึ่ กจ็ ะมตี ำ� รวจเขา้ มาเกยี่ วขอ้ ง แล้วพระหลายรูปเกิดอาการส่ันไหวทางจิตใจในการพูดคุยกับ ตำ� รวจ พระไพศาล วิสาโล

54   ถ้าตายที่บ้าน  มีเร่ืองท่ีต้องท�ำเยอะ  เช่น  ต้อง ไปแจ้งอ�ำเภอ  รวมทั้งมีการชันสูตรศพ  แต่ถ้าตายที่โรงพยาบาล สะดวกมาก  เพราะเป็น  One  Stop  Service  โรงพยาบาล ออกหนังสือรับรองการตายให้  ญาติก็น�ำไปแจ้งอ�ำเภอ  เพื่อขอ ใบมรณบัตร  เท่าน้ีก็จบ  แถมติดต่อซื้อโลงท่ีโรงพยาบาลได้เลย การตายท่ีโรงพยาบาลจึงสะดวกกับญาติ  แต่ไม่รับประกันว่า สะดวกกับผู้ปว่ ยไหม ถา้ เปน็ ผปู้ ว่ ยเรอื้ รงั และอยใู่ นระยะทา้ ย ถา้ เลอื กตายทบี่ า้ น ก็ไม่ยาก ให้หมอซึ่งเป็นเจา้ ของไข้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรวา่ ผปู้ ว่ ยคนนอ้ี ยใู่ นระยะทา้ ยแลว้  และขอกลบั ไปตายทบี่ า้ น บนั ทกึ ของหมอจะช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้เยอะ  คือไม่ต้องมีการชันสูตร ศพ ขอใบมรณบตั รไดง้ ่าย   อันน้ีเป็นอีกลู่ทางหน่ึงใช่ไหมครับพระอาจารย์ ขอปรึกษาหมอ   ไม่ต้องปรึกษาหมอก็ได้  แค่ขอให้หมอเขียนว่า ผู้ป่วยคนน้ีอยู่ในระยะท้าย  และมีความประสงค์จะไปเสียชีวิต ที่บ้าน เมื่อผู้ป่วยเสียชีวิต  ก็น�ำหนังสือน้ีไปย่ืนให้อ�ำเภอ  เพื่อ ออกมรณบัตร ก็จบ  เขาก็ไม่มาติดตามอะไรมาก  แต่ถ้าตาย แบบฉบั พลันเป็นอกี เร่อื งหนงึ่   การดแู ลภกิ ษุอาพาธระยะท้าย ท�ำไมและอย่างไร

55   เขามีระบบอำ� นวยความสะดวกไหมครับ   ที่ต่างจังหวัดท�ำได้งา่ ยมาก แต่ท่ีกรุงเทพฯ อาจ จะยากกว่า  อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะว่า  เก่ียวกับเงื่อนไขการ ประกันชีวิตด้วย  ถ้าไปโรงพยาบาล  บริษัทประกันชีวิตเขาจ่าย หมด หรอื จา่ ยงา่ ยกวา่  แตถ่ า้ ปว่ ยทบ่ี า้ น มคี า่ ใชจ้ า่ ยอะไร บรษิ ทั ประกันชีวิตอาจไม่รับรองหรือไม่รับรู้ด้วย  กลายเป็นภาระของ ผู้ดูแล  ถ้าผู้ดูแลพอมีฐานะ  และคิดว่า  อยากสนองเจตนาของ พ่อแม่ทอ่ี ยากเสียชวี ติ ทบี่ ้าน ก็พรอ้ มแบกรบั ภาระนไี้ ด้ ตอนนเ้ี มอื งนอกเรม่ิ ยอมรบั แลว้  บรษิ ทั ประกนั ชวี ติ ยอมรบั วา่  ถา้ คณุ จะรกั ษาแบบประคบั ประคอง เชน่ ท ี่ Hospice (สถาน ดูแลผู้ป่วยระยะท้าย)  หรือที่บ้าน  จะฝังเข็มก็ดี  จะท�ำกายภาพ บ�ำบัดหรือแบบการแพทย์ทางเลือกก็ดี  บริษัทประกันชีวิตพร้อม จ่าย  ซ่ึงท่ีจริงเขาชอบมากเลย  เพราะว่าค่าใช้จ่ายน้อยกว่าท่ี โรงพยาบาลเยอะ แตถ่ า้ คณุ ไปรกั ษาทโี่ รงพยาบาล คา่ เตยี ง คา่ รักษาพยาบาล  วันหน่ึงเป็นแสน  บริษัทประกันชีวิตจ่ายหนัก ตอนนใี้ นเมอื งนอกมกี ารแกไ้ ขกฎหมาย ขณะเดยี วกนั กเ็ ปน็ นโยบาย ของบรษิ ทั ประกันชวี ิตทีย่ อมรับการตายท่ีบา้ น หรอื ตายนอกโรง พยาบาลมากข้ึน พระไพศาล วิสาโล

56   กรณีคนไทย  ผู้ป่วยส่วนมาก  มีความรู้ในเร่ือง ของการแพทย์ไม่มากพอ  ส่วนใหญ่ตอนใกล้เสียชีวิตก็จะมี เฟอร์นิเจอร์อย่างที่พระอาจารย์พูดไว้  ถ้าหากว่าเราไม่พาไปโรง พยาบาล  เลือกประคับประคองที่บ้าน  แล้วกรณีลูกหลานผู้ป่วย ไม่ทราบ  เราจะมีหลักการตัดสินใจอย่างไร  ท่ีท�ำให้ไม่ต้องไปที่ โรงพยาบาล   ถา้ เปน็ ชนบท จะงา่ ยมาก เพราะสว่ นใหญเ่ ลอื ก กลับไปตายที่บ้าน พอกลับไปบา้ น ครอบครัวก็ดี เครือญาติก็ดี ในหมู่บ้าน  ก็จะช่วยกันดูแล  เดี๋ยวน้ีโรงพยาบาลในภาคอีสาน อสม. หรอื อาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจำ� หมบู่ ้านจะชว่ ยประสาน กับ  รพ.สต.  และโรงพยาบาลอ�ำเภอ  ให้มาช่วยผู้ป่วย  ตอนน้ีมี ระบบรองรับในภาคอสี านแล้ว สำ� หรับคนที่ไม่ค่อยมฐี านะ   กรณีไปฉีดยา  วัดความดัน  อะไรพวกนี้  ให้ วิตามินบ�ำรุง  ประคับประคองไม่ให้มีความทุกข์ทรมาน  มีความ เจบ็ ปวดมาก ถ้าไมไ่ ปโรงพยาบาล จะท�ำอย่างไรครับ   ตอนน้ี  รพ.สต.  ในภาคอีสานเขามาให้มอร์ฟีน ผู้ป่วยที่บ้านได้  โดยใช้เคร่ือง  Syringe  Driver  ซึ่งแพง  และ โรงพยาบาลรัฐส่วนใหญ่ไม่มี  เครื่องหน่ึงราคาประมาณ การดแู ลภกิ ษอุ าพาธระยะทา้ ย ทำ� ไมและอย่างไร

57 ๒๐,๐๐๐ - ๓๐,๐๐๐ บาท มันเปน็ เครอื่ งทีค่ อ่ ยๆ ปล่อยมอรฟ์ นี ทลี ะนดิ ๆ ชนดิ ทไ่ี มเ่ ปน็ อนั ตรายตอ่ รา่ งกาย แตช่ ว่ ยบรรเทาปวด ใชไ้ ดห้ ลายวนั  รพ.สต. ไมต่ อ้ งมาบอ่ ย ใหท้ เี ดยี วสกั อาทติ ยห์ นงึ่ แล้วค่อยมาตามหรือมาเตมิ  สะดวกมาก   เป็นการสอนแนะน�ำญาติผู้ป่วยให้สามารถ ฉีดยาได้หรือครบั   ไม่ต้องฉีดยา  Syringe  Driver  จะท�ำงานของ มันเอง  โดยให้ยาใต้ผิวหนัง  ซึมเข้าไปทีละนิด  ผมก็ไม่ทราบว่า ท�ำไมมันแพงมาก  เคร่ืองละ  ๒๐,๐๐๐ - ๓๐,๐๐๐  บาท  แต่ไม่ น่าเชื่อว่าโรงพยาบาลจังหวัดส่วนใหญ่ไม่มี  คงเป็นเพราะเรา ไม่สนใจที่จะช่วยบรรเทาความป่วย  เราสนใจแต่จะย้ือ  เทคโน- โลยีราคาแพงๆ มเี ยอะ แต่เทคโนโลยีแค่นกี้ ลบั ไม่มี อย่าว่าแต่อะไรเลย  โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ  ท่ีมี ชื่อเสียงก็เหมือนกัน  มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งไปเย่ียมคนป่วยอายุ ๙๐ กวา่ แลว้  มเี ฟอรน์ เิ จอรเ์ ตม็ เลย คนปว่ ยมอี าการทกุ ขท์ รมาน กระสับกระส่าย  ผู้ไปเยี่ยมก็สังเกตว่าผู้ป่วยอ้าปาก  ปากแห้ง จนเป็นผงเลยทั้งข้างนอกข้างใน  ผู้ใหญ่ท่านนี้ทราบว่าอาการ แบบนี้สร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยมาก  ท�ำให้ไม่สุขสบาย พระไพศาล วสิ าโล

58 อย่างยิ่ง  ท่านจึงขอวาสลีน  แต่โรงพยาบาลไม่มีให้  ครั้นได้มาก็ เป็นวาสลีนท่ีแข็งแล้ว  ต้องมาเติมน้�ำให้นุ่ม  แล้วทาคว้านเข้าไป ในกระพุ้งแก้มของผู้ป่วยให้ชุ่มชื้น  แล้วก็เอาผ้าปิดตาแบบที่เรา ใช้ในเคร่ืองบิน  เอามาปิดปาก  ผ่านไปแค่วันเดียว  ผู้ป่วยเลิก กระสับกระส่ายเลย  สุขสบายกว่าเดิมมาก  ความทุกข์ทรมาน ของเขาบรรเทาได้ง่ายมาก  เพียงแค่ท�ำให้ผิวชุ่มช้ืน  แต่โรง พยาบาลกลบั ไม่รูว้ ธิ ีช่วยท�ำใหค้ นไข้สุขสบาย โรงพยาบาลจำ� นวนมากไมส่ นใจเรอ่ื งน ี้ สว่ นใหญจ่ ะสนใจ แต่เร่อื งใหญๆ่  เชน่  รักษาหัวใจ ปอด ตบั  มีเทคโนโลยีซับซ้อน เพ่ือช่วยเยียวยาอวัยวะเหล่าน้ี  แต่เรื่องง่ายๆ  ที่ช่วยให้คนไข้ สขุ สบาย กลบั ทำ� ไมเ่ ปน็  แถมไมม่ อี ปุ กรณด์ ว้ ย การทำ� ใหผ้ ปู้ ว่ ย ลดความทุกข์ทรมาน  รู้สึกสุขสบายมากขึ้น  บางคร้ังก็ไม่ได้ใช้ เทคโนโลยีราคาแพงเลย  ไม่ได้ใช้ความรู้ท่ีซับซ้อน  ผู้ท่ีมาเยี่ยม ทา่ นรเู้ รอื่ ง Palliative Care เพราะทา่ นไปเยย่ี มคนปว่ ยมาเยอะ จงึ รวู้ ธิ ชี ว่ ยใหผ้ ปู้ ว่ ยสขุ สบาย อนั นเ้ี ปน็ ตวั อยา่ งวา่  จรงิ ๆ แลว้ มนั ไม่ใชเ่ รือ่ งยาก  เพียงแต่ทิศทางการดูแลในโรงพยาบาลส่วนใหญ่เป็นไป เพื่อการยอ้ื ชวี ิต เปน็ ทิศทางที่ปฏิเสธความตาย ไมย่ อมรบั ความ ตาย  เพราะไปเข้าใจว่า  ความตายหมายถึงความพ่ายแพ้ของ หมอและพยาบาล หมอทกุ คนจงึ พยายามทำ� ใหค้ นปว่ ยของตวั เอง การดแู ลภิกษุอาพาธระยะทา้ ย ทำ� ไมและอย่างไร

59 ไมต่ ายในมอื ของตวั เอง แตถ่ า้ ไปตายในมอื ของคนอน่ื กไ็ มเ่ ปน็ ไร เพราะว่าถ้าตายในมือตัวเอง  ต้องท�ำรายงาน  ต้องกรอกโน่น กรอกน่ี    ต้องไปประชุม ที่เขาเรียกว่า  M&M  Conference เสียเวลาหมอมาก  เพราะฉะน้ัน  หมอหลายๆ  คน  จะพยายาม ท�ำให้ผู้ป่วยของตัวเองไม่ตายในเวรของตัว  แต่จะไปตายใน เวรของคนอื่นไม่เป็นไร อันนห้ี มอเขาพูดเอง   กราบเรียนถามพระอาจารย์  กรณีผู้ป่วยไม่ค่อย ทานขา้ ว เอาแต่ทานยาอยา่ งเดียว   ไมท่ านข้าวเพราะอะไร   ทานไมค่ อ่ ยได ้ และปจั จบุ นั มโี รคเบาหวาน ตอ่ ม ลูกหมากโป่ง  ล่าสุดหมอบอกว่าไตวาย  ผมคิดว่า  น่าจะเป็นจาก การทานยาเยอะ ยาโรงพยาบาลบา้ ง ซ้อื มาทานเองบ้าง   ยาท่กี ินน ี่ เปน็ ยาเบาหวานหรอื ยาอะไร   ยาเบาหวาน ยาตอ่ มลกู หมากครับ   แล้วอาการไตวายน ี่ หนกั หรอื ยัง พระไพศาล วิสาโล

60   เพง่ิ จะเปน็ เรม่ิ ตน้  หมอบอกถา้ เปน็ หนกั มาก ให้ มาคุยกันครบั   เรื่องนี้ผมว่าต้องปรึกษาหมอ  ว่าอาการท่ีกิน อาหารไมไ่ ดเ้ ปน็ เพราะอะไร ในเมอื่ คนไขย้ งั ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นระยะท้าย จรงิ ๆ นา่ จะกนิ ได ้ นา่ จะมคี วามอยากจะกนิ  (ภาษาองั กฤษเรยี ก ว่า  appetite)  ถามว่าความอยากกินมันหายไปไหน  ท�ำอย่างไร ใหม้ คี วามอยากกนิ  แลว้ กใ็ ชอ้ าหารเปน็ ยาแทน ผมวา่ ตอ้ งปรกึ ษา หมอ  ให้เขาแนะน�ำ  แล้วก็ต้องเช็คด้วยว่า  จริงๆ  ไตวายมันเกิด จากยาทก่ี นิ หรอื เปลา่  เพราะปกตไิ ตวายเปน็ อาการสะสม เกดิ ขนึ้ จากการบริโภคที่ไม่ถูกสุขลักษณะ  ต่อเน่ืองมาเป็น  ๑๐ - ๒๐  ปี ผมก็ไม่แน่ใจว่า  การกินยาหลายๆ  เม็ด  มันจะมีผลท�ำให้ไตวาย ในตอนนนั้ เลยหรอื เปลา่  แนน่ อนผลกระทบอาจจะเกดิ ในระยะยาว แตว่ า่ ไมน่ า่ จะเกดิ ในระยะสน้ั  แลว้ ไมร่ วู้ า่ มปี ญั หาทางจติ หรอื เปลา่ เขากลวั  เขาตื่นตระหนกอะไรหรือเปลา่  เขาอายเุ ทา่ ไหร่   ๘๓  ปีครับ  มีอาการหลงลืม  บางทีหลงปิดแก๊ส หลงปดิ น�้ำ หลงปิดไฟ   อาจจะเข้าสู่ระยะท้ายแล้วก็ได้  เพราะมันท�ำให้ สมองแปรปรวนไปหมด ถา้ ปว่ ยจนถงึ ระยะทา้ ยแลว้ ไมก่ นิ อาหาร มันเป็นเร่ืองธรรมดา แต่ฟังดูแล้ว เขาน่าจะยังไม่ถึงระยะทา้ ยๆ การดแู ลภิกษอุ าพาธระยะทา้ ย ท�ำไมและอยา่ งไร

61 จริงๆ  น่าจะกินอาหารได้  แต่ว่าผมก็ไม่ทราบสาเหตุ  ควรถาม หมอหรอื ผรู้ ู้ดา้ นน้ี   ผมก�ำลังดูอาหารเสริมประเภทนมผง  ส�ำหรับ ผ้ปู ว่ ยโรคเบาหวาน   อาหารเหลวกช็ ว่ ยไดน้ ะ มพี วกอาหารเหลวสำ� หรบั คนไข้จ�ำนวนมาก  ถ้าเขายินดีกิน  ก็ท�ำให้สุขภาพดีข้ึนได้  แต่ว่า อาหารพวกนรี้ าคาแพง   เมื่อวานเจอโยม  อายุ  ๙๑  ปีแล้ว  มีลูก  ๘  คน เขาพยายามจะไปย้ือชีวิตที่โรงพยาบาล  พอกลับมาบ้านก็อาการ หนักกว่าเก่า  พูดถึงในแง่ความกตัญญู  อีกฝ่ายหนึ่งอยากให้แม่ อยทู่ บี่ า้ น อกี ฝา่ ยหนง่ึ กบ็ อก ถา้ ไมท่ ำ� อะไรกอ็ กตญั ญ ู เลยพากนั ไปโรงพยาบาล พอกลบั มากเ็ หนอื่ ย ในฐานะทเ่ี ราเปน็ พระ เราจะ ไปชว่ ยเรอื่ งของความกตญั ญ ู กบั ความตายอยา่ งไร เราจะปลอ่ ย ให้เขาตายอย่างไร พดู อยา่ งไรใหเ้ ขาเข้าใจชดั เจนข้นึ   ผปู้ ่วยเขายงั พูดได้ใชไ่ หม   ผู้ป่วยพดู ได้ครับ ผูป้ ว่ ยยังมสี ติอยู่พรอ้ ม พระไพศาล วิสาโล

62   ควรเอาผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง  เราควรถามให้ แน่นอนว่า  ผู้ป่วยเขาเลือกอะไร  เขาต้องการอะไร  ถ้าเขาบอก ขอตายที่บ้าน ขอใช้ชีวิตระยะทา้ ยที่บ้าน เราก็ควรสนองเจตนา ของเขา  แต่ก็ต้องคิดด้วยว่า  ท�ำอย่างไรเขาจะอยู่แบบไม่ทุกข์ ทรมานมาก เชน่  มหี มอ มพี ยาบาลมาชว่ ยดแู ล หรอื มกี ารใชย้ า อะไรตา่ งๆ มาชว่ ย คอื ควรเอาความตอ้ งการผปู้ ว่ ยเปน็ หลกั กอ่ น โดยเฉพาะในตอนน้ีที่ผู้ป่วยยังพูดได้  ถ้าผู้ป่วยพูดไม่ได้  อีกทั้ง ลูกหลานไม่ชัดเจนว่าผู้ป่วยต้องการอะไร  ก็จะเกิดการทะเลาะ ขัดแย้งกัน  ต้องให้ลูกหลานทุกคนชัดเจนว่าผู้ป่วยต้องการอะไร แล้วเราก็พยายามท�ำให้ความต้องการน้ันส�ำเร็จผล  โดยท่ีไม่มี ความทกุ ข์ทรมานมาก มคี วามกตญั ญปู ระเภทหนงึ่ ทเี่ รยี กวา่  “กตญั ญเู ฉยี บพลนั ”  โรคกตัญญูเฉียบพลันมักจะเกิดข้ึนกับครอบครัวหลายครอบครัว เกิดขึ้นกับลูกที่ไม่มีเวลาดูแลพ่อแม่  เช่น  ไปท�ำงานกรุงเทพฯ ไปท�ำงานต่างจังหวัด  ไปท�ำงานต่างประเทศ  ตอนที่พ่อแม่ สุขสบายดี  เขาก็ไม่ค่อยมาเยี่ยม  แต่พอพ่อแม่จะตาย  ก็รู้สึกผิด ว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีเวลาดูแลท่าน  ตอนนี้จะขอดูแลเต็มที่เลย ดังนั้นจึงพยายามย้ือชีวิตผู้ป่วยให้นานที่สุด  เพื่อจะได้อยู่กับท่าน นานๆ และเพ่อื ลดความรู้สึกผิดที่ไม่ใส่ใจท่าน การดูแลภิกษอุ าพาธระยะท้าย ท�ำไมและอย่างไร

63 ส่วนลูกหลานที่ดูแลพ่อแม่ยามป่วยอย่างดี  เม่ือถึงเวลา ท่ีจะต้องเลือกว่า  จะยื้อหรือไม่ย้ือ  หากรู้ว่าย้ือแล้วจะท�ำให้ท่าน ทรมาน  เขาก็จะไม่ยื้อ  เขาพร้อมจะปล่อย  พวกที่ไม่ปล่อยคือ พวกท่ีกตัญญูเฉียบพลัน  ไม่ค่อยมีเวลาดูแล  ไม่ค่อยท�ำอะไรให้ กับท่านตอนท่านปกติ  แต่ตอนน้ีจะขอท�ำเต็มที่  บางคนก็ไป เจ้าก้ีเจ้าการพยาบาล  สั่งพยาบาลให้ท�ำโน่นท�ำน่ี  แบบน้ีเรียกว่า เปน็ โรคกตญั ญเู ฉยี บพลนั  ตอนทพ่ี อ่ แมส่ บายดกี ไ็ มส่ นใจทำ� อะไร ให้ท่าน  แต่พอพ่อแม่จะตาย  กลับเอาใจใส่เต็มท่ี  จนล้นเกิน สร้างปญั หาใหก้ ับหมอและพยาบาลมาก พวกน้ีเป็นอาการท่ีเกิดจากความพร่องในการดูแล  เขา ต้องการแสดงออกเพื่อชดเชย  อันน้ีเราต้องพยายามช้ีแจงให้ เขาเห็นว่า  ยังไม่สายท่ีจะแสดงความกตัญญูกับท่าน  แต่ว่าควร เอาผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง  อย่าไปยัดเยียดให้ผู้ป่วยว่าต้องกินนั่น กินนี่  ตอนพ่อแม่สุขสบายดี  ไม่เคยสนใจ  แต่พอท่านป่วย  ก็ไป เข้มงวดกวดขัน  ดูแลเต็มท่ีจนล้นเกิน  พวกน้ีจะมีเยอะ  อันน้ีเรา ก็ต้องเข้าใจความรู้สึกของเขา  และพยายามช่วยให้เขาคล่ีคลาย ความรู้สกึ  จะได้ไม่สรา้ งปญั หาให้คนรอบขา้ ง พระไพศาล วิสาโล

64  ในส่วนท่ีเก่ียวกับพระ  พออาพาธมากๆ  ก็จะมี เง่ือนไขด้านพระวินัย  พระอาจารย์พอมีหลักไหมว่าแค่ไหนจึงจะ พอด ี เชน่  ฉนั มอื้ เยน็  บางคนถงึ ขน้ั วา่ ลกู หลานผหู้ ญงิ ไปบบี นวด ให้  ความพอดีของพระในการท่ีจะรักษาพระวินัย  โดยเฉพาะ ตอนช่วงทา้ ยของชีวิต แคไ่ หนถึงจะพอดีครบั   ข้ึนอยู่กับตัวผู้ป่วยเป็นหลักวา่  ผู้ป่วยเขามีความ เครง่ ครดั หรอื วา่ จรงิ จงั แคไ่ หนกบั พระวนิ ยั  ถา้ ผปู้ ว่ ยจรงิ จงั  เครง่ ครดั เขาก็ไม่ยอมฉันม้ือเย็น  เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องทนได้  อันที่หนึ่ง เป็นเรื่องตัวผู้ป่วยเอง  ว่าเขาพร้อมจะจริงจังกับพระวินัยแค่ไหน บางท่านพร้อมจะอาบัติ  ฉันมื้อเย็นเป็นอาบัติ  แต่ท่านก็คิดว่า เด๋ียวก็ปลงอาบัติได้  ดีกว่าปล่อยให้ทรมานแล้วสุขภาพย�่ำแย่ ทา่ นอาจจะคดิ แบบนก้ี ไ็ ด ้ สำ� หรบั เรอ่ื งการนวดกเ็ หมอื นกนั  แตถ่ า้ ให้ดีควรจะเล่ียง  เพราะว่าการนวด  ผู้ชายนวดก็ยังท�ำให้ได้ ต่างจากกรณีฉันอาหาร  เพราะฉะน้ันผมว่าเร่ืองนี้  อยู่ที่เจ้าตัว ส่วนผู้ดูแลก็ต้องดูว่า  ถ้าจะหย่อนเรื่องพระวินัย  แค่ไหนถึงจะ ไม่นา่ เกลยี ด ทง้ั ต่อผ้ปู ว่ ยเองและผทู้ ่ีเกยี่ วข้อง การดูแลภกิ ษอุ าพาธระยะท้าย ทำ� ไมและอยา่ งไร

ค�ำสอนของพระพทุ ธองค ์ นั่นคือ  พร้อมเผชญิ ความตายดว้ ยใจสงบ  ไมป่ ระสงค์จะย้อื ชีวิต หรือหนีความตาย  สถานท่นี ้ันควรจะมีส่งิ แวดลอ้ มทชี่ ว่ ยนอ้ มใจใหส้ งบ  พรอ้ มปล่อยวางทกุ ส่ิง พร้อมเอาความตายเปน็ คร ู ถือว่าความตายเปน็ นาทีทอง ท่ีจะชว่ ยใหจ้ ติ ยกระดับสภู่ ูมิธรรมขัน้ สงู   อนั นีค้ อื ความตายท่ถี กู ต้องตามหลกั พระพุทธศาสนา สง่ิ นีเ้ ป็นไปไดส้ ำ� หรับผู้ปว่ ยทกุ คน  ไมว่ า่ พระหรอื ฆราวาส


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook